แม่ของเจี๋ยมเจี้ยมอยู่ในตู้เศร้า
ออกมาไม่ได้ เพราะไม่มีลูกกุญแจ ใบหน้าของแม่เคร่งเครียด จิตใจหดหู่
เวลาเจี๋ยมเจี้ยมพูดอะไรบางทีแม่ฟังไม่ทัน ต้องพูดทีละคำ เพราะการรับรู้ของแม่ไม่ได้ทำงานเต็มที่
บอกแล้วเดี๋ยวแม่ก็ลืม แต่เรื่องที่แม่ไม่เคยลืมคือเรื่องที่พ่อทำเมื่อ
50 ปีก่อน 40 ปีก่อน 30 ปีก่อน 20 ปีก่อน เจี๋ยมเจี้ยมบอกให้แม่คิดถึงเรื่องดี
ๆ บ้าง แม่กลอกตาควานมองไปในอดีต 2 หายใจแล้วตอบว่า ไม่เห็นจะมีเรื่องอะไรดี
เจี๋ยมเจี้ยมตกใจ
รีบโทรฯ หาจิตแพทย์ แต่ยังไม่ได้รับคำตอบที่ถูกใจ
วันหนึ่ง
เจี๋ยมเจี้ยมลงไปลุงกองอัลบั้มเก่า ๆ เลือกเอารูปที่แม่ยิ้มสวยตอนพาไปเที่ยว
รูปที่แม่ไปทำบุญงานกฐิน รูปที่แม่ไปเลี้ยงพระที่วัด รูปอะไรที่สวย
ๆ รวม ๆ มาทำอัลบั้มใหม่ให้แม่
แม่ดูรูปพวกนี้
แล้วคิดถึงวันพวกนี้ ทุกเช้าสัก 2 อาทิตย์คิดให้สบายใจ จะได้ปลอดโปร่งขึ้น
พระท่านว่า การระลึกถึงบุญที่ทำและสิ่งดี ๆ ในชีวิต ทำให้เรามีชีวิตชีวา
แล้วเจี๋ยมเจี้ยมก็ทำหนังสือสวดมนต์เฉพาะกิจให้แม่
เป็นบทสรรเสริญคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พระรัตนตรัย และพาหุงที่แม่สวดอยู่เป็นประจำ
ต่อด้วยบทสวดที่ลอกมาเฉพาะภาษาไทย คือมรรคมีองค์ 8 บทกรรม สัตว์โลกมีกรรมเป็นของของตน
ฯลฯ บทพิจารณาสังขาร ตามด้วยบทแผ่เมตตาและบทอุทิศส่วนกุศล แม่สวดนานเกิน
20-30 นาทีไม่ไหว มันเหนื่อย จึงลอกเฉพาะภาษาไทย เพื่อให้แม่เข้าใจได้ว่าแม่สวดอะไร
จะได้ประโยชน์จากการสวดมากขึ้น ๆ ไว้ตอนไปวัดค่อยสวดบาลี
จากนั้นก็เริ่มอ่านหนังสือหลวงพ่อให้แม่ฟังถึงเรื่องการให้อภัย
และการแผ่เมตตา แม่โวยวายเล็ก ๆ
โอ๊ย
จะให้อภัยกันง่าย ๆ ได้ยังไง
ความจริงแม่ไม่ได้เศร้าแต่โกรธ
แต่ก็เศร้าที่ถูกทำให้โกรธคิดว่าการให้อภัยเป็นการขาดดุลของแม่
ยังงี้เกิดชาติหน้าต้องมาอยู่กันอีก
เจี๋ยมเจี้ยมจี้จุด
โอ๊ย
ไม่เอา เกิดชาติไหนไม่ขอเจอ แม่ปฏิเสธเป็นพัลวัน
ก็แม่คิดเรื่องโกรธเขาทุกวัน
เหมือนเอากุญแจมือมาผูกกันไว้คนละข้าง ต้องเจอกันแหง๋ ถ้าไม่อยากเจอ
ต้องปลดกุญแจมือ
แม่เงียบ
สีหน้าไม่ค่อยดี
แม่สวดมนต์ทุกวัน
แต่ก็ยังไม่เห็นสบายใจเลย
ก็แม่สวดมนต์
20 นาที แต่แม่คิดเรื่อง 50 ปีก่อน 20 นาที 40 ปีก่อน 20 นาที วัน
ๆ คิดเป็นชั่วโมง บางวันคิดทั้งคืนเหมือนตักเกลือใส่แก้ววันละช้อน
แต่ใส่น้ำวันละ 1 หยด มันก็เค็มแหง๋ แต่เกลือเต็มแก้ว
แม่ลองอย่างนี้มั้ยจ๊ะ ให้แม่เลือกเอาสักเรื่องหนึ่งมาคิดคิดคราวละเรื่องเดียว
คิดแล้วมองว่า ก็เพราะเขานิสัยอย่างนี้ เขาจึงทำกับเราอย่างนี้ ชาติก่อนเราคงเคยทำเขามาก
ชดใช้คืนเขาไปซะ อภัยให้เขาไปซะ อย่างเขาชอบเอ็ดตะโรแม่เสียงดัง เอ็ดทียาว
ๆ แม่ลองนึกภาพดูสิ ชาติก่อนแม่คงเอ็ดเขาท่าทางแบบนี้เหมือนกัน
เจี๋ยมเจี้ยมแกล้งแสดงท่าทางยกไม้ยกมือ
ทำเสียงดังรัว ๆ เจี๊ยวจ๊าวเหมือนคนกำลังทะเลาะกัน แม่ของเจี๋ยมเจี้ยมดูด้วยนึกภาพตามด้วย
แล้วก็หัวเราะออกมา
เจี๋ยมเจี้ยมพูดต่อ
แม่ลองค่อย ๆ ล้างออกไปทีละเรื่องเหมือนตักเกลือออกไปช้อนหนึ่ง แล้วสวดมนต์
แผ่เมตตา อุทิศส่วนกุศลให้เขา 3 อย่างนี้เหมือนน้ำช้อนหนึ่ง เอาใส่แก้วของแม่
ตักเกลือออกช้อนหนึ่ง ใส่น้ำลงแก้วช้อนหนึ่งทุกวัน อีกหน่อยแม่จะมีแต่น้ำจืดใสเต็มแก้ว
แม่ลองดูนะดีมั้ย
แม่ของเจี๋ยมเจี้ยมหน้าตาลังเล
เอ จะทำได้ไหมนะ แหมให้อภัยแล้วรู้สึกเสียท่า ยังไม่ได้แก้แค้นเลย
ทำไมน้า
เขาจึงดูสุขสบาย ไม่ได้ต้องทุกข์ใจอย่างแม่เลย
ดีแล้วจ้ะ
แม่ควรจะดีใจ ถามจริง ๆ เลย ถ้าวันนี้พ่อไม่สบาย แม่จะไม่ป้อนน้ำป้อนข้างพ่อหรือจ๊ะ
แม่พยักหน้า
ทอดถอนใจ จริง ก็คงต้องทำ
ท่านสอนว่า
ทุกข์วันนี้มีมากพอแล้ว เราไม่ควรเอาทุกข์ในอดีตมาทับถมลงไปอีก ท่านอาจารย์วศิน
อินทสระ สอนว่า น้ำในมหาสมุทรไม่ทำให้เรือจม แต่น้ำในเรือต่างหากที่ทำให้เรือจมได้
ดังนั้น เราต้องคอยวิดน้ำในเรือ คือวิดความทุกข์ออกไปจากใจเราเสมอ
ๆ แม่อย่าปล่อยให้ความทุกข์ขังอยู่ในใจ เดี๋ยวเรือล่ม
แม่ทำตามเจี๋ยมเจี้ยมอยู่
2 เดือน ค่อย ๆ สะเดาะกุญแจออกมาจากตู้เศร้าอย่างได้ผล เจี๋ยมเจี้ยมดีใจ
ที่แม่ยังคงทำต่อไปเรื่อย ๆ รอยยิ้มและความผ่องใส เริ่มเปล่งประกายบนใจหน้าของแม่. |