เช้าวันนี้ยิ้มสวยตื่นเร็วขึ้นอีกนิด
เพื่อที่จะตักบาตร อาบน้ำแต่งตัวแล้ว ก็รีบลงมาทำกับข้าวอย่างมีสมาธิ
สงบใจไม่ฟุ้งซ่าน แม้เวลาจะน้อยดูเหมือนรีบ แต่ทุกอย่างคล่องแคล่วลื่นไหล
เพราะสมาธิทำให้ดูเหมือนมีเวลามาก คล้ายกับพายเรือไปในคลองคนเดียว
ไม่มีเรืออื่นมาเกะกะ
ทำกับข้าวเสร็จก็จบอธิษฐานตั้งนะโม
๓ จบแล้วว่า “ข้าพเจ้ายิ้มสวย ขอถวายอาหารแด่พระภิกษุสงฆ์ ขอบุญกุศลจงมีแก่ข้าพเจ้า
และเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้าพ้นทุกข์ถึงพระนิพพานเทอญ”
จบเสร็จแล้วก็ออกไปยืนรอพระหน้าบ้าน
พระองค์หนึ่งผ่านมา ท่านดูสำรวมมาก และบาตรรยังว่างเปล่า ยิ้มสวยตักบาตรด้วยความปลื้มปีติ
โชคดีที่หน้าบ้านมีพระผ่านมาเยอะ ไม่นานยิ้มสวยก็ตักบาตรเสร็จ ๓
องค์
กลับเข้ามาในบ้านก็กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้ผู้มีพระคุณและสรรพสัตว์ทั้งหลาย
ยิ้มสวยขับรถไปทำงานด้วยความเบิกบานใจ
ดีใจที่การตักบาตรเช้านี้เป็นไปด้วยกุศล เพราะเธอสามารถประคองบุญไว้ในใจได้ตลอด
๓ กาล คือ ก่อนทำ กำลังทำ และหลังทำ ตอนทำกับข้าวก็ไม่มีเรื่องกวนให้ใจหงุดหงิด
ตอนตักบาตรก็ปลื้ม ตอนกรวดน้ำก็เต็มไปด้วยเมตตาจิต
มาถึงที่ทำงาน
เจอจ๊ะจ๋าก็รีบบอกอย่างยิ้มแย้มว่า ตักบาตรมา เอาบุญมาฝาก จ๊ะจ๋ายิ้มชื่นรีบรับบุญทันทีว่า
“อนุโมทนาบุญด้วยจ้ะ”
แล้วจ๊ะจ๋าก็เล่าให้ฟังว่า
วันวานไปถวายเพลกับญาติที่วัด ตอนไปเดินหากุฏิหลวงพ่อ ก็ไปดูกุฏิหนึ่ง
เห็นปิดประตูอยู่ ลานหน้าประตูมีพระหนุ่ม ๔ รูป เอกเขนกอยู่ นุ่งห่มหลุดลุ่ย
และพ่นบุหรี่ควันฉุย ไม่สนใจกับอาการเมียงมองของจ๊ะจ๋าเลยแม้แต่สักน้อย
จ๊ะจ๋ารีบเดินไปหาต่อจนเจอกุฏิหลวงพ่อที่จะถวายเพล
ยิ้มสวยปลอบใจจ๊ะจ๋าว่า
“พระมีหน้าที่สำรวม
เพื่อรักษาศรัทธาชาวบ้าน เป็นหน้าที่ต่อศาสนาที่พระอาศัยอยู่ และรีบเร่งศึกษาปฏิบัติเพื่อประโยชน์ของพระเอง
และเพื่อเป็นเนื้อนาบุญของชาวบ้านที่เขาตักบาตรให้ การที่กินข้าวชาวบ้านแล้วมานอน
ก็คือพระเก็บบาปใส่ตัวอยู่ในวัดนั่นแหละ น่าสงสารที่เขาไม่รู้ตัว”
จ๊ะจ๋าถอนใจ “แต่เราเห็นแล้วมันวูบลงเลย ไม่อยากเลี้ยงเพลเลยเมื่อวาน
แต่คงเป็นพระคนละกลุ่มกัน ยังดีหน่อย”
“เรามีหน้าที่รักษาใจของเราหมือนกันนะ
เวลามีอะไรมากระทบต้องระวัง อย่าให้ใจกระเทือน ปล่อยไปเถอะ ให้เห็นสักว่าเห็น
ไม่ปรุงแต่งต่อไป ว่าสิ่งที่เห็นนั้นมันอย่างนั้นอย่างนี้ ฮึ่ม ฮึ่ม
แหม แหม อะไร ไม่เอาทั้งนั้น เห็นก็สักแต่ว่าเห็น แค่นั้นพอ เอ้านี่
กรรไกร ตัดสายป่านให้เรื่องนี้มันขาดลอยไปเลย จำไว้แต่เรื่องเลี้ยงเพล”
จ๊ะจ๋าหัวเราะเบาๆ
รู้ว่ายิ้มสวยชอบจินตนาการ
“พระพุทธเจ้าสอนว่า
ช่างดอกไม้ที่ฉลาดเขาเลือกเฉพาะดอกสวยมาจัด ส่วนดอกไม่สวยทิ้งลงถังขยะไป
เราควรเลือกเก็บแต่บุญไว้ในใจเหมือนกัน เรื่องเศร้าหมองให้ทิ้งไป
รักษาใจเราให้ดีอยู่เสมอ”.