มังฉงายวางกล่องเปล่าลงตรงหน้าตู้เสื้อผ้า
วันนี้จะหาเสื้อไปบริจาค เพราะอาจารย์สอนมาว่า ความโลภอย่างละเอียดนั้น
ก็คือการที่เราติดพันผูกใจอยู่กับทรัพย์ของตนมากจนเกินไป เช่น เสื้อผ้านี่แหละเป็นต้น
ให้รู้สึกอยากจะหัดเลิกความติดพันนี้เสียบ้างไม่น่ายาก เรียนแล้วก็ต้องลองทำ
หยิบเสื้อที่ไม่เคยใส่มานานออกมาชูดู
เอ๊ะ ตัวนี้ก็สวย ยังดูดีด้วย เอาไว้ใส่ได้ เก็บก่อน
การณ์เป็นเช่นนี้ไปเรื่อย
ๆ ๆ ในที่สุด มังฉงายก็ยกกล่องเปล่าไปเก็บ
ต่อ
ๆ มา ตอนเช้าจะรีบไปทำงาน เปิดตู้ออกมาเจอแต่ตัวที่วันนี้จะไม่ใส่
อยากใส่ตัวที่หาไม่เจอ หัวมุดไปมุดมาอยู่ในตู้จนเหงื่อซก อ้าว ตัวนี้ก็มีด้วยเหรอ
ลืมไปแล้ว แต่ไว้ก่อน ยังไม่ใช่ตัวที่อยากใส่ พอดีเจอตัวที่อยากใส่ก่อนหน้ามืดชั่วอึดใจเดียว
การณ์เป็นเช่นนี้ไปเรื่อย
ๆ ในที่สุดมังฉงายก็เบื่อความเต็มตู้อยากบริจาคอีก
แต่ก็ต้องยกกล่องเปล่าไปเก็บเหมือนเดิมอีก
2 ครั้ง ให้นึกตะขิดขวงใจขึ้นมากับคำว่า โลภแบบละเอียดของอาจารย์ เอมันชักทำง่าย
อย่ากระนั้นเลย
เสียชื่อมังฉงาย คราวนี้เอาใหม่ โทรศัพท์ไปหาเกลออ้อน บอกให้ช่วยสงเคราะห์มารับกล่องเสื้อผ้าไปไว้บ้านนะ
เวลาไปต่างจังหวัดช่วยติดรถไปแจกคนยากจนให้ด้วย เกลออ้อนใจดีรับคำ
บอกว่าไปเดี๋ยวนี้เลย นายรีบยกลังลงมา
นัดกันเสร็จ
มังฉงายยกทัพไปที่ตู้เสื้อผ้า ตั้งกติกามารยาทว่า เอาเสื้อที่ทั้งปีมายังไม่เคยใส่เลยนะแหละไป
ต้องเชื่อใจการตัดสินใจตอนเช้ากันหน่อยซี่ นี่ปีหนึ่งแล้วยังไม่เคยอยากใส่แล้วมันจะไปอยากกกกกก
ตอนไหนวะ
รีบ
ๆ หน่อย มังฉงายบอกตัวเอง ก่อนที่ผู้คุมวิญญาณจะมาชักใยความห่วงหาอาวรณ์อีก
ดูแล้วห้ามคิดว่ายังสวยอยู่ เดี๋ยวไม่ได้ไป เอากฏข้อเดียวคือปีนี้ไม่เคยใส่
หยิบแล้วลงกล่อง
หยิบแล้วลงกล่อง ไม่นานก็เต็มกล่องรีบปิดกล่องแล้วยกลงข้างล่าง ยีนแป๊บเดียวรถของเกลออ้อนก็เฉี่ยวมา
รับของเสร็จก็รีบไป จะกลับไปดูภราดรตีเทนนิสที่อินเดีย
มังฉงายกลับขึ้นไปอาบน้ำสระหัวอยู่นาน
รู้สึกโล่ง ๆ ดีใจพิชิตตู้เสื้อผ้าสำเร็จ
เปิดตู้เสื้อผ้า
ลิ้นชักมีเสื้อผ้าวางพอเหมาะ ไม่ล้นและไม่ยุ่ง ดูดีจัง ราวแขวนเสื้อก็สบาย
ๆ ไม่แน่น ดูความรู้สึกตัวเองก็เฉย ๆ ไม่อาลัยอาวรณ์อะไร เพราะจำไม่ได้ว่าตัวไหนไปมั่ง
ช่างมันเถอะจำไม่ได้ก็ดีแล้ว
มังฉงายยิ้มเท่ให้ตัวเองเป็นรางวัลแก่ผู้พิชิตในศึกครั้งที่
4 นี้. |