เว็บบอร์ด สนทนาธรรม สอบถามห้องแชดสนทนาธรรมสมุดเยี่ยม ฝากข้อความ ติชมรวมเว็บพระพุทธศาสนารวมรูปภาพ พุทธศิลป์ พระพุทธเจ้า พระพุทธรูป พระเจดีย์ พระสงฆ์
  ตั้งเป็นหน้าแรก   เก็บเข้า Favorites   สั่งพิมพ์   แจ้งปัญหา
   
 
 
 
สารบัญหลัก
  หน้าหลัก
  หนังสือธรรมะ
  บทสวดมนต์
  เสียงธรรม mp3
  เสียงสวดมนต์ mp3
  ห้องสวดมนต์ออนไลน์
  สมาธิ
  กฎแห่งกรรม
  วัดป่า-พระป่า
  วันสำคัญทางศาสนา
  ดาวน์โหลด e-book
  คำสอนจากครูบาอาจารย์
  บทความ..ธรรมจักร
  รูปภาพ
  กระดานสนทนา
  ห้องสนทนา
  สมุดเยี่ยม
  รวมเว็บ
  ติดต่อทีมงาน
ขึ้นบน
 
เว็บบอร์ด
  สนทนาธรรม
  ข่าวกิจกรรม
  สติปัฏฐาน
  สมาธิ
  กฎแห่งกรรม
  นิทานธรรมะ
  หนังสือธรรมะ
  บทความธรรมะ
  กวีธรรม
  นานาสาระ
  วิทยุธรรมะ
  สถานที่ปฏิบัติธรรม
  เสียงธรรมออนไลน์
  เสียงสวดมนต์ออนไลน์
  พระพุทธเจ้า
  ประวัติอสีติมหาสาวก
  ประวัติเอตทัคคะ
  ประวัติครูบาอาจารย์
 
 
^-^ มาฝึกสมาธิกันดีกว่า ^-^
 
@ อยากรู้  ประวัติศาสตร์ วงล้อมธรรมจักร ลัญลักษณ์ของพุทธศาสนา  คลิกอ่าน @
 
รวมเว็บพระพุทธศาสนา แบ่งออกเป็นหมวดหมู่ ง่ายต่อการค้นคว้าหาข้อมูล
 
คำสอนของครูบาอาจารย์ เช่นหลวงปู่ดูลย์,หลวงปู่เทสก์,หลวงพ่อชา,หลวงพ่อพุธ,หลวงพ่อจรัญ,พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) เป็นต้น
 
อัลบั้มภาพพระพุทธศาสนา
 
เรือนธรรม - บ้านพักผ่อนทางจิตใจด้วยธรรมะ
 
ขอเชิญเข้ามาร่วมสนทนาธรรมด้วยกันครับ
 
ดูซิ ! ว่ามีใครอยู่ในห้องบ้าง
 
ฝากข้อความติชมของท่านได้ที่นี่ครับ
 
 
 
 
   ธรรมจักร   หนังสือธรรมะ สู่ความสุข ปรับขนาดตัวอักษร เพิ่มขนาด ลดขนาด ขนาดปกติ  
   


๒๓.มองแต่แง่ดี

          มองแต่แง่ดี หมายความว่า ทุกสิ่งในโลกนี้ ไม่ว่ารูปธรรมหรือนามธรรม ทั้งสิ่งที่มีชีวิตและไม่มีชีวิต ย่อมจะมีแง่ให้เรามองได้สองแง่เสอม คือทั้งในแง่ดีและแง่ร้าย หรือในแง่คุณและแง่โทษ

          แม้ในแง่ที่ว่าดี หรือในแง่คุณนั้น ก็ยังอาจจะมองได้อีกว่า ดีมากดีน้อย หรือมีคุณมากมีคุณน้อยแค่ไหน ? ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับระดับของสติและปัญญาของผู้ที่มองนั้นด้วย

          แม้ในส่วนที่คนทั่วไป มองว่าร้ายหรือเป็นโทษนั้น ผู้มีความคิดประกอบด้วยปัญญา ก็อาจจะถือเอามาใช้ให้เกิดเป็นคุณได้

          เป็นอันว่า โลกหรือชีวิตนี้ เกิดขึ้นจากการมอง และการมองที่ถือว่าถูกจุด หรือตรงเป้าอย่างแท้จริงนั้น จะต้องประกอบพร้อมด้วยปัญญา มิใช่ว่าจะมีแต่ความคิดเพียงประการเดียว

          เพื่อให้เห็นเป็นรูปธรรมชัดเจน จึงขอนำเอา "โลกธรรม 8" ในแง่ที่ดีมาเสนอเพื่อเป็นตัวอย่างการมอง ดังนี้

          - มีลาภ ปุถุชนคนทั่วไป ย่อมต้องการและแสวงหาแต่ในตัวลาภทั้งหลายนั่นแหละ ถ้าเราหา, ใช้ และเก็บไม่เป็นแล้ว มันก็จะนำมาซึ่งทุกข์ ภัย และโทษมากมาย จนกลายเป็นศัตรูของความสุขไป

          - มียศ คนทั่วไปย่อมปรารถนา ใฝ่แสวงหา แต่ถ้ามุ่งความสงบสุขทางจิตแล้ว ยศนั้นมันก็จะกลายเป็นศัตรูเพราะมันจะนำความวุ่นวาย แอบแฝงมากับยศนั้นด้วย

          - มีสรรเสริญ คนเราทำอะไร เป็นที่พอใจเขา หรือทำประโยชน์ให้เขา เขาก็ย่อมจะสรรเสริฐเยินยอ มีคนอยากรู้จัก จะอยู่ที่ไหน ? จะไปที่ไหนแต่ละที่ก็ไม่สะดวก ไม่สบายและไม่สงบ

          - มีสุข ถ้าเป็นความสุขฝ่ายวัตถุ ก็ยิ่งจะเป็นสื่อของความทุกข์ทำให้ร่างกายอ่อนแอ และมีโรคมาก เพราะไม่ได้ออกกำลังกาย อีกทั้งเป็นเหตุให้หลงติดสุข ต้องเวียนว่ายตายเกิด ไม่รู้จักจบสิ้น

          ขอแทรกทัศนะความสุขตรงนี้นิดเถอะว่า โดยชีวิตจริง ๆ ของคนเรานั้น ไม่มีใครจะได้เสวยสุขโดยส่วนเดียวหรอก จะต้องมีทั้งสุข ๆ ทุกข์ ๆ คละเคล้ากันไป และที่ว่าสุข ๆ แบบชาวโลกนั้น ก็ล้วนแต่เป็นสุขแบบจอมปลอมและหลอกลวงทั้งนั้นแหละ

          เพราะถ้าการอยู่ในโลกนี้ มีความสุขอย่างแท้จริงแล้วเจ้าชายสิทธัตถะ ก่อนที่จะเสด็จออกผนวช กษัตริย์ และเศรษฐีอีกมากมาย ก็คงไม่สละวังและปราสาท ออกไปนอนกลางดิน กินกลางป่ากันหรอก นี่เป็นการหลงติดสุข ที่ควรแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง

          ตรงข้ามกับความเสื่อมลาภ เสื่อมยศ นินทาและทุกข์เสียอีก กลับจะเป็นผลดี เพราะทำให้คนเรากลัวจึงไม่ประมาท ไม่หลงติด มีความเพียรและอดทนต่อสู้ เพื่อให้พ้นไปจากทุกข์ทั้งปวง เป็นเหตุให้ภพชาติสั้นเข้า

          รวมความว่า ในแง่ของความสุขทางจิตใจ หรือยอดของความสุขอันแท้จริงแล้ว ต้องอย่ามองอะไรในแง่ร้ายและว่ากันที่จริงแล้วมันก็ไม่มีอะไรร้าย เพราะทุกสิ่งในโลกก็ล้วนแต่นำมาเป็น "บทเรียนชีวิต" ได้ทั้งสิ้น

          ดังนั้น ถ้าเราไม่ยอมปรับใจ มองสิ่งร้ายให้กลายเป็นดี ชีวิตนี้ทั้งชีวิต ก็จะหาความสุขได้ยาก เพราะโลกธรรมมันมีอยู่ทั่วไป และไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหน ? และมีฐานะอะไร ? เราก็ต้องพบกับมัน การยอมรับความจริง และมองอะไรในแง่ดี ย่อมจะทำให้เราเป็นคนโชคดี และเป็นความสุข.

 

 

สารบัญ
บทนำ ๑๕.เชื่อกฎแห่งกรรม
๑.ความสุขคืออะไร ? ๑๖.เลี้ยงลูกถูกต้อง
๒.ทำอย่างไรจึงจะพบความสุข ๑๗.สันโดษ
๓.อย่าคบคนพาล ๑๘.ขจัดความหวาดกลัว
๔.จงคบบัณฑิต ๑๙.อย่าสีแกลบ
๕.เว้นอบายมุข ๒๐.อย่าแบบโลก
๖.งดเว้นเวรภัย ๒๑.อย่าอยู่ว่าง
๗.สูตรเศรษฐี ๒๒.สร้างปีติ
๘.สุขแบบชาวบ้าน ๒๓.มองแต่แง่ดี
๙.เจริญพรหมวิหาร ๒๔.ควรฝึกจิต
๑๐.ยอดมหาเสน่ห์ ๒๕.ฉีดวัคซีนธรรม
๑๑.สูตรสำเร็จ ๒๖.ถอนอุปทาน
๑๒.ฆราวาสธรรม ๒๗.เผด็จการโดยธรรม
๑๓.สุขภาพดี ๔ อ. ๒๘.ศิลปะสู่ความสุข
๑๔.ธรรมชาติบำบัด ดาวน์โหลด หนังสือเล่มนี้
   

 

 
 
 
 
 
 
 
  หน้าหลัก l หนังสือธรรมะ l เสียงสวดมนต์ mp3 l เสียงธรรม mp3 l บทสวดมนต์ l สมาธิ l รูปภาพ
ดาวน์โหลด e-book l ห้องสวดมนต์ออนไลน์  l กระดานสนทนา l ห้องสนทนา chat  l สมุดเยี่ยม lรวมเว็บ
 
จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
ขึ้นบน