เว็บบอร์ด สนทนาธรรม สอบถามห้องแชดสนทนาธรรมสมุดเยี่ยม ฝากข้อความ ติชมรวมเว็บพระพุทธศาสนารวมรูปภาพ พุทธศิลป์ พระพุทธเจ้า พระพุทธรูป พระเจดีย์ พระสงฆ์
  ตั้งเป็นหน้าแรก   เก็บเข้า Favorites   สั่งพิมพ์   แจ้งปัญหา
   
 
 
 
สารบัญหลัก
  หน้าหลัก
  หนังสือธรรมะ
  บทสวดมนต์
  เสียงธรรม mp3
  เสียงสวดมนต์ mp3
  ห้องสวดมนต์ออนไลน์
  สมาธิ
  กฎแห่งกรรม
  วัดป่า-พระป่า
  วันสำคัญทางศาสนา
  ดาวน์โหลด e-book
  คำสอนจากครูบาอาจารย์
  บทความ..ธรรมจักร
  รูปภาพ
  กระดานสนทนา
  ห้องสนทนา
  สมุดเยี่ยม
  รวมเว็บ
  ติดต่อทีมงาน
ขึ้นบน
 
เว็บบอร์ด
  สนทนาธรรม
  ข่าวกิจกรรม
  สติปัฏฐาน
  สมาธิ
  กฎแห่งกรรม
  นิทานธรรมะ
  หนังสือธรรมะ
  บทความธรรมะ
  กวีธรรม
  นานาสาระ
  วิทยุธรรมะ
  สถานที่ปฏิบัติธรรม
  เสียงธรรมออนไลน์
  เสียงสวดมนต์ออนไลน์
  พระพุทธเจ้า
  ประวัติอสีติมหาสาวก
  ประวัติเอตทัคคะ
  ประวัติครูบาอาจารย์
 
 
^-^ มาฝึกสมาธิกันดีกว่า ^-^
 
@ อยากรู้  ประวัติศาสตร์ วงล้อมธรรมจักร ลัญลักษณ์ของพุทธศาสนา  คลิกอ่าน @
 
รวมเว็บพระพุทธศาสนา แบ่งออกเป็นหมวดหมู่ ง่ายต่อการค้นคว้าหาข้อมูล
 
คำสอนของครูบาอาจารย์ เช่นหลวงปู่ดูลย์,หลวงปู่เทสก์,หลวงพ่อชา,หลวงพ่อพุธ,หลวงพ่อจรัญ,พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) เป็นต้น
 
อัลบั้มภาพพระพุทธศาสนา
 
เรือนธรรม - บ้านพักผ่อนทางจิตใจด้วยธรรมะ
 
ขอเชิญเข้ามาร่วมสนทนาธรรมด้วยกันครับ
 
ดูซิ ! ว่ามีใครอยู่ในห้องบ้าง
 
ฝากข้อความติชมของท่านได้ที่นี่ครับ
 
 
 
 
   ธรรมจักร   หนังสือธรรมะ สู่ความสุข ปรับขนาดตัวอักษร เพิ่มขนาด ลดขนาด ขนาดปกติ  
   


๔.จงคบบัณฑิต

           บันไดขั้นที่สอง ที่ต่อจากขั้นแรก ที่จะเว้นเสียมิได้คือ "การคบหากับบัณฑิต" ซึ่งจะต้องทำให้ต่อเนื่องกันไปจึงจะบรรลุถึงความสุขตามที่เราต้องการได้ สองขั้นนี้จึงถือว่า เป็นขั้นที่ต้องบังคับตายตัว

           บัณฑิต คือ คนดี คนมีปัญญา หรือคนที่ดำเนินชีวิตด้วยปัญญา คนที่คิดดี พูดดี และทำดี ดูได้จากการกระทำที่ออกมาทางกาย และวาจา ที่เป็นไปด้วยความสุจริต ไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น โดยนัยนี้ก็ย่อมจะไม่เกี่ยวกับการศึกษาเล่าเรียน หรือว่าจะมีปริญญาหรือไม่ ?

           การคบหากับบัณฑิต คบกับคนดีหรือเพื่อนที่ดีนั้น จัดว่าเป็นมงคลข้อที่สอง ที่พระพุทธองค์ทรงแสดงไว้ เพราะมนุษย์เป็นสัตว์สังคม ไม่อาจที่จะอยู่โดดเดี่ยวเดียวดายได้ ทุกคนต่างต้องพึ่งพาอาศัยกัน มากบ้างน้อยบ้างตามฐานะหรือหน้าที่ ที่จำเป็นต้องเกี่ยวข้องกัน

           อานิสงส์ที่ได้รับ จากการคบกับคนดีทันตาเห็นก็คือ เราย่อมจะได้ยินและได้เห็นแต่ในสิ่งที่ดี สิ่งที่เป็นมงคลเป็นความก้าวหน้าในชีวิต จะช่วยให้ชีวิตพัฒนาไปสู่ความสุขตามลำดับ จนถึงขั้นสูงสุดคือพระนิพพาน ตามนัยอุปัฑฒสูตร (๑๙/๒) ที่พระพุทธองค์ได้ตรัสกะพระอานนท์ว่า

           "อานนท์ ! ความเป็นผู้มีเพื่อนดี (หรือบัณฑิต) นั้นนับว่าเป็นพรหมจรรย์หมดทั้งสิ้นเลยทีเดียว"

           พูดกันตามภาษาชาวบ้านก็ว่า การมีเพื่อนที่ดีนั้น เท่ากับเป็นหมดทั้งเนื้อทั้งตัวเราเลยทีเดียว หมายความว่า มีแต่ส่วนดีโดยตลอด อย่าได้สงสัยเลย จงเชื่อพระพุทธเจ้าเถิดรับรองว่าจะไม่ไปเกิดในอบายแน่

           แต่ว่าคนเรานั้นมันดูยากกว่าสัตว์ คือมันไม่มีลายให้ดูเหมือนอย่างเสือ เป็นต้น จะดูผิวก็ไม่ได้ว่า ผิวขาวจะดีกว่าผิวดำ ? มันแยกไม่ได้ ยิ่งความคิดของคนก็ยิ่งจะดูกันไม่ได้เลย แต่เราก็จะดูได้ที่คำพูด และการกระทำของเขา ถ้าใครพูดดีและทำดีด้วย เราก็ให้เชื่อไว้ครึ่งหนึ่งก่อนว่าจะเป็นคนดี

           ที่ไม่แนะนำให้เชื่อหมดหัวใจ ก็เพราะว่าคนเรามันนมีมายามาก คนที่พูดดีอาจคิดและทำไม่ดีก็ได้ ทำดีอาจคิดไม่ดีก็ได้ เช่น ปากบอกว่ารัก เคารพ และนับถือ แต่ภายในใจจริง ๆ อาจจะเกลียดจนเข้ากระดูกดำ ไม่มีความเคารพและไม่นับถือเลยก็ได้ เป็นต้น

           แต่ชาวพุทธเรา ก็ยังนับว่ามีโชคดี ที่พระพุทธเจ้าได้ทรงแสดงเพื่อนแท้และเพื่อนเทียม (สิงคาลกสูตร ๑๑/๑๖๘) ไว้ให้ดู ดังนี้

เพื่อนเทียม ๔  (หรือศัตรูผู้มาในร่างของมิตร)

๑. เพื่อนปอกลอก ๔
- คิดเอาแต่ได้ฝ่ายเดียว
- ยอมเสียน้อย โดยหวังจะเอาให้มาก
- ตัวมีภัย จึงมาช่วยทำกิจของเพื่อน
- คบเพื่อน เพราะเห็นแก่ประโยชน์ตน

๒. เพื่อนดีแต่พูด ๔
- ยกเอาของที่หมดแล้วมาพูด
- อ้างเอาของที่ยังไม่มีมาพูด
- สงเคราะห์ในสิ่งที่ไร้ประโยชน์
- เมื่อเพื่อนมีกิจ ก็อ้างแต่เหตุขัดข้อง

๓. เพื่อนหัวประจบ ๔
- จะทำชั่วก็คล้อยตาม
- จะทำดีก็คล้อยตาม
- ต่อหน้าสรรเสริฐ
- อยู่ลับหลังนินทา

๔. เพื่อนชวนให้ฉิบหาย ๔
- คอยเป็นเพื่อนดื่มน้ำเมา
- คอยเป็นเพื่อนเที่ยวกลางคืน
- คอยเป็นเพื่อนเที่ยวดูการเล่น
- คอยเป็นเพื่อไปเล่นการพนัน

           พระพุทธองค์ทรงแนะให้ดูลายของคน ที่แสดงออกมาในรูป และแบบต่าง ๆ กัน แม้ว่าจะแสดงออกมาในข้อใดข้อหนึ่ง ก็จัดว่าเป็นเพื่อนเทียมได้ คำพังเพยจึงมีอยู่ว่า

ยามทุกข์จะเห็นใจมิตร
ยามข้าศึกประชิด จะเห็นใจทหาร

           นั่นก็หมายความว่า ในยามปกติไม่มีกิจธุระ เพื่อนก็ไม่มีความจำเป็น แต่เมื่อมีความทุกข์เกิดขึ้น จึงจะตัดสินได้ว่า ใครจะเป็นมิตรเทียมหรือมิตรแท้ของเรา ? ทหารก็เช่นเดียวกัน เมื่อปลอดจากข้าศึกศัตรู ทหารก็เกือบจะไร้ค่า แต่พอมีข้าศึกมา ทหารก็เป็นขวัญใจของประชาชน ต่อไปก็เป็นการดูลายของเพื่อนแท้

เพื่อนแท้ ๔  (เพื่อนที่จริงใจต่อกัน)

๑. เพื่อนอุปการะ ๔
- เพื่อนประมาท ช่วยรักษาเพื่อน
- เพื่อนประมาท ช่วยรักษาทรัพย์สินของเพื่อน
- เมื่อมีภัย เป็นที่พึ่งพำนักได้
- เมื่อมีกิจจำเป็น ออกทรัพย์ให้มากกว่าที่ออกปาก

๒. เพื่อนร่วมสุขร่วมทุกข์ ๔
- บอกความลับแก่เพื่อน
- รักษาความลับของเพื่อน
- มีภัยอันตรายก็ไม่ละทิ้ง
- แม้ชีวิตก็สละให้ได้

๓. เพื่อนแนะนำประโยชน์ ๔
- จะทำชั่วเสียหาย คอยห้ามปรามไว้
- แนะนำสนับสนุนให้ตั้งอยู่ในความดี
- ให้ได้ฟังได้รู้ ในสิ่งที่ไม่เคยได้รู้ได้ฟัง
- บอกทางสุข ทางสวรรค์ให้

๔. เพื่อนมีใจรัก ๔
- เพื่อนมีทุกข์ ก็พลายไม่สบายใจด้วย
- เพื่อนมีสุข ก็พลอยแช่มชื่นยินดีด้วย
- เขาติเตียนเพื่อน ช่วยยับยั้งแก้ให้
- เขาสรรเสริญเพื่อน ช่วยพูดเสริมสนับสนุน

           เมื่อเรามีเพื่อนแท้ และมีเพื่อนที่ดีอย่างนี้แล้ว เราก็จำเป็นที่จะต้องผูกน้ำใจของเพื่อนไว้ให้ดี ด้วยการแสดงตนเป็นเพื่อนที่ดีของเพื่อนด้วยการสนองกลับต่อเพื่อน ดังที่เพื่อนแสดงมาแล้ว ก็ควรที่จะผูกน้ำใจของเพื่อน ด้วยธรรม อีก ๒ หมวด ดังนี้

หมวดที่ ๑ มี ๕ ข้อ
- เผื่อแผ่แบ่งปัน
- พูดจามีน้ำใจ
- ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน
- มีตนเสมอ ร่วมสุขร่วมทุกข์ด้วย
- ซื่อสัตย์และจริงใจ

หมวดที่ ๒ มี ๕ ข้อ
- เมื่อเพื่อนประมาท ช่วยรักษาป้องกัน
- เมื่อเพื่อนประมาท ช่วยรักษาทรัพย์สินของเพื่อน
- ในคราวมีภัย เป็นที่พึ่งพิงได้
- ไม่ละทิ้งในยามทุกข์ยาก
- นับถือตลอดถึงวงศ์ญาติของเพื่อน.

 

 

สารบัญ
บทนำ ๑๕.เชื่อกฎแห่งกรรม
๑.ความสุขคืออะไร ? ๑๖.เลี้ยงลูกถูกต้อง
๒.ทำอย่างไรจึงจะพบความสุข ๑๗.สันโดษ
๓.อย่าคบคนพาล ๑๘.ขจัดความหวาดกลัว
๔.จงคบบัณฑิต ๑๙.อย่าสีแกลบ
๕.เว้นอบายมุข ๒๐.อย่าแบบโลก
๖.งดเว้นเวรภัย ๒๑.อย่าอยู่ว่าง
๗.สูตรเศรษฐี ๒๒.สร้างปีติ
๘.สุขแบบชาวบ้าน ๒๓.มองแต่แง่ดี
๙.เจริญพรหมวิหาร ๒๔.ควรฝึกจิต
๑๐.ยอดมหาเสน่ห์ ๒๕.ฉีดวัคซีนธรรม
๑๑.สูตรสำเร็จ ๒๖.ถอนอุปทาน
๑๒.ฆราวาสธรรม ๒๗.เผด็จการโดยธรรม
๑๓.สุขภาพดี ๔ อ. ๒๘.ศิลปะสู่ความสุข
๑๔.ธรรมชาติบำบัด ดาวน์โหลด หนังสือเล่มนี้
   

 

 
 
 
 
 
 
 
  หน้าหลัก l หนังสือธรรมะ l เสียงสวดมนต์ mp3 l เสียงธรรม mp3 l บทสวดมนต์ l สมาธิ l รูปภาพ
ดาวน์โหลด e-book l ห้องสวดมนต์ออนไลน์  l กระดานสนทนา l ห้องสนทนา chat  l สมุดเยี่ยม lรวมเว็บ
 
จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
ขึ้นบน