ธรรมชาติ คือ สิ่งที่เป็นเอง เกิดขึ้นเอง เช่น ภูเขา
ทะเล แม่น้ำ ลำคลอง ต้นไม้ ตลอดจนสัตว์ต่าง ๆ ซึ่งเกิดมีขึ้นเองประจำโลก
จัดว่าเป็นธรรมชาติแท้
ส่วนอีกประเภทหนึ่ง ที่คนจัดทำขึ้น ปรับแต่งขึ้น เช่น
ขุดแม้น้ำ ขุดคลอง ปลูกต้นไม้ ทำสวนหย่อม เลี้ยงสัตว์
เป็นต้น จัดว่าเป็นธรรมชาติเทียม
ธรรมชาติแท้ หรือธรรมชาติเทียมก็ตาม มีส่วนสำคัญแก่ชีวิตประจำวันของทุกคน
เพราะต่างก็ต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน โดยไม่อาจจะแยกออกจากกันโดยเด็ดขาดได้
ความแตกต่างอาจเกิดได้ เฉพาะบางคนที่ไม่ชอบธรรมชาติ
ซึ่งมีเป็นส่วนน้อย และเท่าที่ประสบมา ผู้ที่มีนิสัยไม่รักธรรมชาติ
เช่น ภูเขา ทะเล แม่น้ำ ป่าไม้ ต้นไม้ ดอกไม้ ดนตรี
ตลอดจนสัตว์ต่าง ๆ เป็นต้น มักจะเป็นคนมีจิตผิดปกติ
มักจะเป็นโรคประสาท และอายุสั้นด้วย
ที่ว่านี้มิได้หมายถึงว่า ต้องรักหรือชอบไปหมดทุกสิ่ง
แต่มันแสดงแนวโน้มของจิตว่า ถ้าใครรักธรรมชาติมาก ก็มักจะรักอะไรหลาย
ๆ อย่าง เช่น รักต้นไม้ รักดอกไม้ รักสัตว์ ชอบดนตรี
เป็นต้น ถ้าใครรักน้อยอย่าง ก็แสดงว่ารักธรรมชาติน้อย
ถ้าใครยิ่งรักธรรมชาติน้อยเข้าเท่าไหร่ ? ก็ย่อมแสดงว่าจิตเริ่มผิดปกติมากขึ้นแล้วเท่านั้น
นั่นก็หมายความว่า จิตเริ่มมองสิ่งต่าง ๆ ในแง่ร้ายแล้ว
แสดงพฤติให้เห็นว่า ความเครียดได้เริ่มก่อตัวขึ้นแล้ว
ถ้าไม่รู้ตัวหรือไม่หาทางผ่อนคลาย ก็จะกลายเป็นโรคประสาท
และโรคจิตไปตามลำดับ
ดังนั้น ผู้ที่รักธรรมชาติ มีรักต้นไม้ รักสัตว์ รักดนตรี
เป็นต้น ย่อมจะไม่เป็นโรคประสาท เพราะไม่มีความเครียด
จะมีก็แต่อุปทานขั้นต้นๆ ซึ่งก็จะไม่อาจก่อตัวเป็นโรคประสาทได้
เหตุที่เป็นดังนี้ เพราะผู้ที่รักธรรมชาติ ย่อมมีการระบายความเครียดอยู่เป็นประจำวัน
เช่น เล่นหรือฟังดนตรี พูดหรือหยอกล้อกับสัตว์ต่าง ๆ
เช่น หมา แมว วัว ควาย นกต่าง ๆ ปลาตู้ต่าง ๆ เป็นต้น
สำหรับผู้เขียนเอง ก็มีการระบายความเครียด หรือความเหงากับหมาและนกต่าง
ๆ ที่มีอยู่ตามหน้าถ้ำ นกบางอย่างมันก็อยากเล่นกับเรา
เช่น นกกางเขนดง นกกระปูด และนกอีกหลายชนิด ที่ไม่รู้จักชื่อมัน
เป็นต้น
การที่เราได้พูดคุยกับมัน หรือร้องตามเสียงมัน และมันก็ร้องตอบด้วย
นับว่าเป็นความสุขระดับหนึ่ง ๆ หรือเพียงแต่นั่งดูมันหยอกล้อกัน
แสดงกิริยาท่าทางต่าง ๆ มันก็เกิดความเพลิดเพลิน และคลายความเหงาลงไปในบางครั้งได้เป็นอย่างดี
นี่ก็จัดว่าเป็นความสุขของคนเราระดับหนึ่ง ที่ไม่ต้องเบียดเบียนผู้อื่น
เพราะไม่ได้เอามันมากักขังให้เสื่อมเสียอิสรภาพ โดยเฉพาะผู้ครองเรีอน
ก็ไม่ควรที่จะทำตัวให้ตึงนัก นั่นคืออาจจะหาปลามาเลี้ยงในตู้
หรือหาสัตว์ต่าง ๆ มาเลี้ยง เพื่อลดความเหงา หรือคลายความเครียดในชีวิตประจำวัน
ขอแต่ว่าอย่าไปทรมานมัน หรือเลี้ยงมากจนเกิดความเดือดร้อนก็แล้วกัน
การรู้จักประมาณในความพอดี จึงเป็นสิ่งที่ควรคำนึง
การรู้จักปรับแต่งธรรมชาติเทียม เช่น ต้นไม้ ดอกไม้
สวนผักหรือสวนครัว รวมทั้งเลี้ยงสัตว์เล็ก ๆ น้อย ๆ
(อย่าเลี้ยงมาก) ก็จัดว่าเป็นอุบายวิธีอย่างหนึ่ง ที่จะช่วยแก้ความเบื่อ
ความเหงา ความเซ็ง ความจำเจ ซ้ำซาก และแถมช่วยลดความเครียดได้อย่างวิเศษอีกด้วย
นอกจากธรรมชาติ จะช่วยบำบัดโรคทางจิตได้อย่างดีแล้ว
ยังช่วยบำบัดโรคทางกายได้ด้วย แต่ไม่ใช่ความประสงค์ของหนังสือนี้
จึงขอผ่านไป
การหาความสุขจากธรรมชาตินี้ นอกจากประหยัดเวลาประหยัดเงินแล้ว
ยังช่วยให้จิตใจอ่อนโยน มีเมตตาต่อสัตว์และรักสงบด้วย
จึงควรที่จะปรับแต่งบ้าน บริเวณบ้าน ให้น่าดู น่าอยู่
และสอดคล้องกับธรรมชาติ เพราะนอกจากตัวเราจะเพลิดเพลิน
มีความสุขแล้ว คนในครอบครัว ก็จะพลอยได้รับอานิสงส์ตามไปด้วย.