(ซ้าย)
ภาพสิงโตรองรับธรรมจักร เหนือบัวหัวเสา บนเสาศิลาอโศก ขุดพบที่ตำบลสารนาถ
เมืองพาราณสี
(ขวา)
ภาพจำหลักเป็นดอกบัว และเสาธรรมจักร ที่กำแพงศิลาพระมหาสถูปสาญจี จะเห็นดอกบัวตูมสองดอกชูก้านออกมาจากฐานเหนือบัวคว่ำคล้ายรูประฆังคว่ำ
แสดงให้เห็นว่า ยอดเสาศิลาอโศก ภาพซ้าย เมื่อยังสมบูรณ์ดีอยู่ ก็จะมีธรรมจักรประดิษฐานอยู่เหนือหัวสิงโตทั้งสี่
เช่นใน รูปขวา
บรรดาพระราชาผู้เคยเป็นปฏิปักษ์อยู่ในทิศนั้น
ๆ ก็เข้ามาเฝ้าถวายการต้อนรับถวายความภักดี ยอมอยู่ใต้พระบรมเดชานุภาพ
พระเจ้าจักรพรรดิก็พระราชทานโอวาทด้วยศีลห้า (ซึ่งเรารู้จักกันดีแล้ว)
เมื่อจักกรัตนะนำชัยชนะไปทั่วปฐพี มีมหาสมุทรเป็นแดนโดยรอบแล้ว ก็นำเสด็จกลับมายังราชธานี*
จักกรัตตะหรือล้อแก้วนี้ในคัมภีร์อรรถกถา**
พรรณานาขยายความออกไปอีกยืดยาว แต่พอสรุปกล่าวไว้ว่าจักกรัตนะนั้นมีรูปเหมือนล้อรถ
ดุมเป็นแก้วอินทนิล ตรงกลางดุมส่องแสงซ่านออกเป็นวงกลมเหมือนพระจันทร์ทรงกลดรอบดุมเป็นแผ่นเงิน
มีซี่กำล้วนแล้วด้วยแก้ว 7 ประการ ทั้งพันซี่ กำแต่ละซี่มีลวดลายประดับต่าง
ๆ กัน ส่วนกงล้อเป็นแก้วประพาสสีสุกใส วงนอกของกงทุกระยะของกำ 10 ซี่ที่สอดเข้าไปนั้น
มีท่อแก้วประพาฬติดอยู่ขอบนอกของกงทุกระยะ รวม 100 ท่อ เมื่อจักกรัตนะหมุนไปในอากาศท่อแก้วประพาฬเหล่านี้
จะกินลมเกิดเป็นเสียงไพเราะดุจเสียงปัญจดุริยางคดนตรี บนท่อแก้วประพาฬแต่ละอันมีเศวตฉัตรห้อยเฟื่องดอกไม้แก้วมุกดา
เมื่อจักกรัตนะหมุนเวียนไปจะปรากฎคล้ายวงล้อ 3 อัน หมุนอยู่ภายในของกันและกัน
แต่เท่าที่เห็นทำรูปกันไว้
ก็ทำเป็นอย่างล้อรถหรือล้อเกวียนนั่นเอง (ดูรูปขวามือ เพื่อเปรียบเทียบ)
เมื่อได้พูดถึงจักกรัตนะ
หรือล้อแก้ว ซึ่งเป็นสมบัติส่งเสริมพระบรมเดชานุภาพสำคัญยิ่งของพระเจ้าจักรพรรดิ
มาโดยสังเขปเช่นนี้ ก็พอจะนึกเห็นกันได้ว่า พระเจ้าจักรพรรดิก็คือผู้ทำให้จักรหรือล้อหมุนไป
ซึ่งในบางพระสูตรยังกล่าวเป็นตำนานไว้อีกว่า พระราชาจักรพรรดิ ผู้ประกอบด้วยธรรมทรงเป็นธรรมราชา
เป็นผู้ทำให้จักรหมุนไปโดยธรรม จักรนั้นอันสัตว์มนุษย์ไร ๆ ผู้เป็นปรปักษ์
(ต่อพระเจ้าจักรพรรด) จะหมุนไม่ได้
เมื่อพระสิทธัตถะราชกุมารไม่ต้องพระประสงค์สมบัติจักรพรรดิ
และทรงประปรารถนาจะเป็นพระพุทธเจ้า จึงเสด็จออกบรรพชาและทรงบำเพ็ญเพียร
จนได้ตรัสรู้ "พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ" พระองค์ก็เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
หรือที่เราเรียกกันเป็นคำสามัญว่า "พระพุทธเจ้า" พระพุทธเจ้าได้โปรดประทานเทศนาเป็นครั้งแรกแก่พระภิกษุปัญจวัคคีย์
คือพวกพระภิกษุ 5 องค์ ณ อิสิปตนะมิคทายวัน ในเมืองพาราณสี เมื่อวันอาสาฬหปุณณมี
คือวันเพ็ญเดือน 8 เทศนาครั้งแรกนี้เรียกกันว่า "ปฐมเทศนา"
และเรื่องที่พระพุทธเจ้าทรงใช้เป็นปฐมเทศนานั้น เรียกว่า "ธรรมจักรกัปปวัตนสูตร"
แปลง่าย ๆ ก็ว่าพระสูตรว่าด้วยเรื่องพระพุทธเจ้าทรงหมุนล้อแห่งธรรมหรือธรรมจักร
..............................................................
* ดู - มหาสุทสฺสนสุตฺต ทีฆนิกาย มหาวคฺค
** สุมงฺคลวิลาสินี ทุติยภาค น. 289 - 290
|