บันไดขั้นที่สาม ที่จะกรุยทางไปสู่ความสุข ที่นับว่า
"สำคัญสุดยอด" ที่ต้องปฏิบัติให้ได้เด็ดขาด
คือการละเว้นจาก "อบายมุข"
หรือ "ทางแห่งความฉิบหาย"
ให้ได้อย่างเด็ดขาด ถ้ายังละไม่ได้ หรือทำให้เบาบางไม่ได้ก็อย่าหมายเลย
ว่าจะได้พบความสุขกะเขาในชาตินี้
อบายมุข คือ ช่องทางแห่งความเสื่อม หรือเหตุแห่งความพินาศหรือฉิบหาย
ใครก็ตามถ้าลุ่มหลงกับสิ่งเหล่านี้แล้ว นอกจากจะหาความสุขไม่พบแล้ว
ยังจะต้องพบกับความพินาศล่มจม แม้ที่จะซุกหัวนอนก็ไม่มี
และบางทีก็จะต้องตายด้วยคมอาวุธ
อบายมุข มี ๖ ประการ คือ
๑. เป็นคนขี้เหล้าเมายา
๒. เจ้าชู้ไม่เลือกลูกเขาเมียใคร
๓. ชอบเที่ยวเตร่ดูการเล่นเป็นนิจ
๔. ชอบเล่นการพนันขันต่อ
๕. ชอบคบคนชั่วเป็นมิตร
๖. เกียจคร้านการงาน
ผู้หวังความสุขอันไพบูลย์ จะต้องพยายามละเว้นทางฉิบหาย
๖ ทางนี้ให้ได้ แม้เลิกเด็ดขาดไม่ได้ ก็อย่าได้ส่องเสพเป็นประจำ
แต่การไม่แตะต้องส้องเสพได้เลย จะเป็นการดีและปลอดภัย
เพราะขึ้นชื่อว่าอบายมุข ไม่ว่าประเภทใด มันย่อมจะมีเสน่ห์
ใครมั่วสุมกับมันแล้ว มักจะเลิกละยาก ตกนรกทั้งเป็นกันมามากแล้ว
ดังนั้น ผู้ที่ยังไม่เคยเสพ ก็อย่าได้ไปหัดทดลองเลย
วิธีที่จะปลอดภุยจากอบายมุขทั้งปวง ก็คือการงดเว้นอย่าคบหากับคนที่มั่วสุมอบายมุข
ไม่ควรร่วมกินร่วมนอนหรือร่วมทางกับคนพวกนี้ เพราะการได้เห็นสถานอบายมุขบ่อย
ๆ ก็ย่อมจะเกิดความเคยชิน หนักเข้าก็จะไม่รังเกียจ จนถึงอาจจะหัดทดลองดู
แล้วก็เลยตกเป็นทาสของมันไปในที่สุด จนเสียคนเสียอนาคตไปชั่วชีวิต
ทุกชีวิตเป็นสิ่งที่มีค่าสูงสุด ไม่ควรที่จะให้เสื่อมเสียไปกับสิ่งที่หาสาระไม่ได้
การได้เกิดมาเป็นคนทั้งที ถือว่าเป็นลาภอันประเสริฐสุด
ควรที่จะแสวงหาสิ่งที่ดีงาม เข้ามาพอกพูนให้ชีวิตมีความสุขมีสาระ
และมีแก่นสารถึงที่สุด
ถ้าเราพ่ายแพ้แก่อบายมุข เราก็จะได้ชื่อว่า เลวกว่าสัตว์เสียอีก
เพราะสัตว์ต่างๆ มันเสพอบายมุขไม่เป็น ผู้ที่ได้หลงลืมตัวไปแล้ว
ก็ควรที่จะคิดกลับตัวกลับใจเสียเดี๋ยวนี้ไม่มีสาระสายเกินไป
สำหรับผู้ที่คิดจะกลับตัว
เกิดมาเป็นคนทั้งที ควรจะมีความดีติดตัว เพื่อเพิ่มศักดิ์ศรีของความเป็นคน
ด้วยการทำประโยชน์ตน และประโยชน์ของผู้อื่น ให้คุ้มค่าของการที่ได้เกิดมาเป็นคนกะเขาชาติหนึ่ง.