ความหวาดกลัว เป็นมารคอยบั่นทอนความสงบสุขทางจิตใจ
ที่นับว่าร้ายแรงมาก ถ้าไม่รีบหาทางกำจัดมันให้ได้ ในชีวิตนี้ก็อย่าหวังเลยว่าจะประสบความสุข
ความหวาดกลัวนี้
อาจมีได้ทั้งเรื่องจริงและไม่จริง แต่มันจะจริงหรือไม่จริงก็ตาม
(ส่วนมากจะไร้สาระ) ถ้าจัดการกับมันได้ถูกต้อง มันก็จะริดรอนความสุขหรือความสงบของจิต
ลงทีละเล็กละน้อย จนกลายเป็นโรคประสาทไปในที่สุด เช่น
-
กลัวว่า คนรักจะแปรเป็นอื่น
-
กลัวว่า จะยากจนลงไปวันหนึ่ง
-
กลัวว่า จะตกงาน จะเจ็บป่วย
-
กลัวว่า สิ่งที่หวังจะไม่ได้สมหวัง
-
กลัวว่า ของจะขายไม่ได้ราคา
-
กลัวว่า เมื่อตายไปคนอยู่ภายหลังจะลำบาก
-
กลัวว่า กลัวไปสารพัด
การกลัวอะไรไว้ล่วงหน้า
ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี เป็นแห่งความไม่ประมาท แต่จะต้องมีการกระทำ
ให้ปรากฏเป็น รูปธรรม ขึ้นมาด้วย การคิดฝันอะไรแล้ว
เกิดความหวาดกลัว แสดงว่าเป็นคนจิตใจอ่อนแอ ท้อถอยไม่กล้าเผชิญหน้ากับความจริง
แล้วจะประสบความสุขได้อย่างไร ? นอกจากจะต้องขอพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์
อันเป็นเรื่องงมงายมาเป็นเครื่องปลอบใจไปวันๆ เท่านั้น
จงพยายาม
ทำความคิด ให้เกิดเป็น รูปธรรม ขึ้นให้ได้ จะช่วยกำจัดความหวาดกลัวได้หมดสิ้น
เช่น
กลัวคนรักจะแปรเป็นอื่น
ก็จงสำรวจตนเอง มีอะไรบกพร่องก็รีบแก้ไข และสิ่งใดเป็นที่ต้องการของเขา
ก็จงรีบสนองเขา คนเราถ้ามีเสน่ห์ คือทำอะไรถูกใจเขา
เขาก็จะรักไปจนวันตาย แม้ตายแล้วเขาก็ยังอาลัยรักอยู่นานหรืออาจจะตลอดไป
กลัวว่าจะยากจจน
ก็ต้องขยันเพิ่มขึ้น และหาทางให้มีส่วนเหลือเก็บไว้
เป็นต้น
การที่เราคิดอะไรเพ้อฝัน
แล้วก็เกิดความหวาดกลัวนั้นแสดงว่าโรคประสาทกำลังจะเข้ามาเยือนแล้ว
อย่าได้ปล่อยทิ้งไว้ มันจะแก้ยากในวันหน้า
วิธีแก้ความหวาดกลัว
ที่ได้ผลฉับพลัน คือการกล้าเผชิญหน้า กับสิ่งที่เราหวาดกลัวอยู่นั้น
มีอะไรที่เราสงสัยข้องใจ ก็จงหันหน้าสู้ กล้าสู้หน้ากับความจริง
อะไรมันถูกต้อง อย่าแก้ด้วยอารมณ์หรือด้วยวิธี ขายหน้าเอาหน้ารอด
มันก็จะกำจัดความหวาดกลัวลงได้
ขอให้มีความมั่นใจเถิดว่า
ไม่มีอะไรในโลกนี้ ที่เราจะทำไม่ได้ ถ้าเรามีความตั้งใจที่จะทำ
ทำอย่างจริงจัง และทำอย่างต่อเนื่อง
แม้ว่าระดับสติปัญญาของเรา
จะมีอยู่ในขอบเขตจำกัดเราก็ยังมีท่านผู้รู้ ที่จะให้คำแนะนำอีกมาก
จงอย่าดูหมิ่นตนเอง อย่าเขียนเสือ หรือสร้างปีศาจ ไว้คอยหลอกหลอนตนเองต่อไปอีกเลย
จงใช้วิริยะ ขันติ สัจจะ และปัญญาฟาดฟันความหวาดกลัวให้มันบรรลัย
เสียแต่บัดนี้เถิด แล้วท่านจะประสบความสุข.