ปีติ
คือ ความอิ่มใจ, ความดื่มด่ำในใจ จัดเป็นอาหารใจชนิดหนึ่ง
ที่นับว่าสำคัญมาก ที่จะช่วยหล่อเลี้ยงให้เกิดกำลังใจ
อันมีผลให้ร่างกายก็พลายแข็งแรงและเป็นสุขตามไปด้วย
ถ้าคนเราขาดปีติหล่อเลี้ยงใจแล้ว
ชีวิตก็จะแห้งแล้งขาดความสดชื่นหรือกระปรี้กระเปร่า
ทำให้เกิดความหงอยเหงาเศร้าซึม ทั้งที่กินดีอยู่ดีก็ตาม
วิธีสร้างปีติ
คือ ต้องพยายามทำอย่างไรก็ได้ ที่จะให้ตัวเราและคนอื่น
เห็นว่าเรามีคุณค่า มีสาระควรแก่การภาคภูมิใจ เช่น
-
ทำความดีอะไรเป็นพิเศษเป็นประจำ หรือประจำวัน มีการบำรุงเลี้ยงพ่อแม่
ช่วยเหลือการงานของท่าน เชื่อฟังท่าน เคารพอ่อนน้อมต่อท่าน
เป็นต้น
-
ทำประโยชน์ต่อส่วนรวม มีการสละทรัพย์ และสละแรงงานเป็นสาธารณะ
เป็นต้น
-
มีการโอบอ้อมอารีต่อญาติมิตร เพื่อนบ้าน หรือมีเมตตาต่อสัตว์ๆ
เป็นต้น
-
มีการใส่บาตร ให้ทานทำบุญต่างๆ อยู่เป็นประจำ เป็นต้น
จะทำอะไรก็ได้
ในชีวิตประจำวันของเรา ที่ทำแล้วเราเกิดความปลาบปลื้มใจ
หรือให้เรารู้สึกว่า มันเป็นพิเศษในชีวิต จนเป็นเหตุให้เกิดความปีติใจ
อย่างน้อยที่สุด
ในฐานะชาวพุทธที่ดี ก่อนนอนก็ควรที่จะมีอะไรเป็นหลักประจำวัน
หรือเป็นกิจวัตรประจำวันที่ไม่เคยขาดทุน เช่น กราบที่หมอน
๕ ครั้งก่อนล้มตัวลงนอน เป็นต้น
ในบทนี้
จึงขอนำเอา "วิธีสร้างมงคลประจำวัน ด้วยการกราบ
๕ ครั้ง" มาเสนอไว้ ดังนี้
สร้างมงคลให้ชีวิตประจำวัน
(กราบที่หมอน ๕ ครั้ง)
ระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้า แล้วว่า
พุทธัง วันทามิ (กราบหนที่ ๑)
ระลึกถึงคุณของพระธรรม แล้วว่า
ธัมมัง วันทามิ (กราบหนที่ ๒)
ระลึกถึงคุณของพระสงฆ์ แล้วว่า
สังฆัง วันทามิ (กราบหนที่ ๓)
ระลึกถึงคุณของพ่อและแม่ แล้วว่า
มาตาปิตะโร วันทามิ (กราบหนที่ ๔)
ระลึกถึงคุณของครูอาจารย์และผู้มีพระคุณ แล้วว่า
คุณูปะการี วันทามิ (กราบหนที่ ๕)
เมื่อล้มตัวลงนอนแล้ว
ก็ไม่ควรที่จะปล่อยจิต ให้มันคิดฟุ้งซ่านไร้สาระ ควรจะเจริญสติ
สมาธิหรือวิปัสสนา ไปจนกว่าจะหลับ เพราะนอกจากจะเป็นการประกอบยอดบุญแล้ว
ยังจะได้ความสุขเป็นของแถม เพราะจิตใจสงบอีกด้วย.