บทนำ
ความสุข
เป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา และพากันแสวงหา ด้วยวิธีการต่าง
ๆ ตามแต่ระดับของสติและปัญญา ที่จะอำนวยให้ได้ แต่ถ้าระดับของสติและปัญญา
อ่อนลงมากเท่าไร ? การแสวงหาความสุขนั้น ๆ ก็ย่อมจะพาเอาความทุกข์
พ่วงเข้ามาด้วยมากเข้าเท่านั้น จะเห็นได้ว่า
บางคนไปหลงเสพความทุกข์
แต่เข้าใจว่าเป็นความสุข เช่น การกินเหล้า กินเบียร์
สูบบุหรี่ กินหมาก ดมทินเนอร์ สูดไอระเหย สูบกัญชา ตลอดจนเครื่องดื่มบางชนิด
เป็นต้น
โดยหลงไปว่า
สิ่งเหล่านั้นเป็นสุข หรือยอดของความสุขไป กว่าจะรู้ตัวก็เกิดโรคร้ายแรงเสียแล้ว
ชีวิตทั้งชีวิตก็มาดับสลายลง กับสิ่งที่ไร้สาระ อย่างน่าเวทนายิ่งนัก
ความสุขโดยพื้นฐาน
ได้แก่ความพอใจ แต่ความพอใจนั้น มันจะซ่อนพิษภัยและโรคร้ายต่าง
ๆ ไว้ด้วยหรือไม่ ? ก็จะต้องขึ้นอยู่กับระดับของสติและปัญญาในแต่ละคนด้วย
การได้เรียนรู้เรื่องของความสุข
ตามแนวคำสอนของพระพุทธเจ้า และจากประสบการณ์ จึงจัดว่าเป็น
"กำไรของชีวิต" ที่ทุกท่านไม่ควรจะพลายเลย
หนังสือเล่มนี้
แม้ว่าจะเล็กก็คงจะเล็กแบบ "เล็กพริกขี้หนู"
เพราะได้ "เจาะเอาแต่แก่น"
ของความสุขมาเสนอไว้ทั้งสิ้น แม้ว่าทางที่จะบรรลุความสุข
จะยังมีอีกมาก แต่ก็ได้แตกแขนงไปจากนี้ทั้งสิ้น
จากประสบการณ์พบว่า
การที่คนเราจะมีชีวิตอยู่โลกนี้ อย่างมีความสุขตามอัตภาพ
ไม่ว่าในเพศของคนคู่หรือคนเดี่ยวก็ตาม ถ้าได้ยึดถือแนวคำสอนของพระพุทธเจ้าเป้นเครื่องนำทางอย่างถูกต้องแล้ว
ก็ย่อมจะไม่ก่อปัญหาที่เป็นทุกข์ร้ายแรงใด ๆ ขึ้นได้เลย
นั่นก็หมายความว่า
จะไม่ต้องกินยาแก้ปวดหัว ไม่ต้องกินยานอนหลับ ไม่ต้องกินยาระงับประสาท
และไม่ต้องกินยาฆ่าตัวตาย เพราะถูกความทุกข์มันเล่นงานเอาเสียจนงอมพระรามนั่นเอง
หนังสือเล่มน้อยนี้
จะเป็นมัคคุเทศก์ช่วยนำทาง ให้ท่านผู้อ่านได้พบกับ "ลายแทงความสุข"
ในรูปและแบบต่าง ๆ ตามแต่จริตนิสัยของผู้อ่าน ด้วยการประหยัดทั้งเวลา
และทรัพย์ในกระเป๋าอีกด้วย
แต่หนังสือเล่มนี้
จะบรรลุสู่ความสุขตามชื่อขอหนังสือ หรือตามความต้องการของผู้อ่าน
ได้มากน้อยเพียงใด ? หรือจะเป็นเพียงชื่อของหนังสือ
ก็อยู่ที่ว่า
ท่านผู้อ่านนี่แหละ
จะน้อมนำเอาข้อเสนอแนะ ไปปฏิบัติได้จริง และปฏิบัติได้ต่อเนื่องมากน้อยแค่ไหน
? ถ้าเพียงแต่เห็นด้วยวิธีการและพอใจ แต่ไม่มีผลของ
"การกระทำ" ให้ครบวงจรติดตามมา
หนังสือเล่มนี้ก็คงไม่พ้นคำว่า "เป็นเสือกระดาษ"
ที่จะต้องถูกวางทิ้งไว้ในที่ใดที่หนึ่งอย่างไม่แยแส
หลังจากที่มันได้ผ่านสายตาท่านไปแล้ว !
อยากขอถามแบบ
"จิตสู่จิต" ว่าท่านเป้นอีกคนหนึ่งใช่ไหม
? ที่รู้ว่าอะไรชั่วแล้วไม่ละ ? และรู้ว่าอะไรดีแล้วไม่ยอมทำ
? (ขอให้ตอบตัวเองในใจว่าจริงหรือไม่จริง ?)
ถ้าท่านเป็นคนดังว่ามานี้
เห็นทีว่า "ทางสู่ความสุข"
จะถูกปิดตันสำหรับท่านเสียแล้ว !
แต่จะอย่างไรก็ตาม
ผู้เขียนยังมีความเชื่อมั่นว่า ท่านต้องเป็นคนหนึ่งละ
ที่ปรารถนาความสุข ด้วยเหตุผลที่ว่า ถ้าท่านไม่ปรารถนาความสุขแล้ว
ท่านก็คงจะไม่ซื้อหนังสือเล่มนี้ หรือหยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาอ่านอย่างแน่นอน
!
เมื่อผู้เขียนเป็นหมดเดาที่ถูกใจท่านเช่นนี้แล้ว
ก็ขออย่าให้ท่านซึ่งมีความทุกข์อยู่ หรือปรารถนาความสุขอยู่
แล้วมันก็จะขาดวงจรอยู่เพียงแค่นั้นเลย !
ขอให้ท่านเป็นคนหนึ่ง
ที่ได้ใช้ลายแทงในหนังสือเล่มนี้ เป็นมัคคุเทศก์นำทางไปสู่ความสุขให้ครบวงจร
โดยเร็วพลันเถิด
ผู้เขียนจะช่วยท่านได้อย่างมาก
หรือสูงสุดก็เพียงแต่ "ชี้บอกทางสู่ความสุข"
ให้เท่านั้น แต่การกระทำต้องเป็นหน้าที่ของท่านผู้อ่านเอง
สมตามพุทธวจนะ (๒๕/๔๓) ที่ว่า
ความเพียรพยายาม พวกเธอต้องทำเอาเอง
ตถาคตเป็นแต่เพียงผู้ชี้บอกทางให้เท่านั้น !