พระนางมัลลิกาได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้า
ม. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
อะไรหนอเป็นเหตุให้มาตุคาม (ผู้หญิง) บางคนในโลกนี้
มีรูปงาม น่าดู น่าชม มีผิวพรรณอันงามยิ่ง
พ. ดูก่อนพระนางมัลลิกา
มาตุคามบางคนในโลกนี้ ไม่เป็นผู้มักโกรธ ไม่มากไปด้วยความคับแค้นใจ
ถูกว่ากล่าวแม้มากก็ไม่ขัดเคือง ไม่ฉุนเฉียว ไม่แสดงความโกรธ
ความขัดเคืองและความไม่พอใจให้ปรากฏ ถ้ามาตุคามนั้นจุติ
(ตาย) จากอัตภาพนั้น แล้วกลับมาเกิดในชาติใด ๆ ย่อมเป็นผู้มีรูปงาม
น่าดู น่าชม มีผิวพรรณอันงามยิ่ง
ม. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
ในชาติอื่นชะรอยหม่อมฉันจะเป็นผู้มักโกรธ มากไปด้วยความคับแค้นใจ
ถูกว่ากล่าวแม้เล็กน้อยก็ขัดเคือง ฉุนเฉียว แสดงความโกรธ
ความขัดเคืองและความไม่พอใจให้ปรากฏ ในบัดนี้ หม่อมฉันจึงมีผิวพรรณทราม
รูปชั่ว ไม่น่าดู
ตั้งแต่วันนี้ไป
หม่อมฉันจักไม่โกรธ ไม่มากไปด้วยความคับแค้นใจ ถึงถูกว่ากล่าวแม้มากก็ไม่ขัดเคือง
ไม่ฉุนเฉียว ไม่แสดงความโกรธ ความขัดเคืองและความไม่พอใจให้ปรากฏ
(มัลลิกสูตร
๒๑/๑๙๗)
ข้อความในพระสูตรชัดเจนดีแล้ว
ดังนั้น ใครก็ตาม ไม่ว่าจะยากจนหรือร่ำรวย ถ้าอยากสวยก็อย่ามัวแต่หลงหาเสื้อผ้าอาภรณ์
หรือเครื่องประดับ มาตกแต่งเสริมความงามอยู่เพียงอย่างเดียวเลย
ให้เลิกโกรธด้วย เมื่อเลิกโกรธแล้ว คนที่รูปชั่วตัวดำก็จะสวยงามขึ้นทันที
ด้วยกิริยามารยาทที่งดงามและคำพูดที่อ่อนหวาน ส่วนคนที่รูปสวยอยู่แล้วก็จะสวยงามยิ่งขึ้น
ถ้ายังไม่เลิกเป็นคนขี้โกรธ แม้รูปจะงามแต่หน้าตาบึ้งตึงด้วยความโกรธ
ความสวยก็ลดฮวบลงทันที สำหรับคนที่รูปชั่วตัวดำแล้วยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงเลย
ไพร่หรือ
ผู้ดี มีหรือ
ยากไร้
เลิกโกรธ
เมื่อไร สวยได้
ทันที
(ธมฺมวฑฺโฒ
ภิกฺขุ)