ใน
พระไตรปิฎกเล่ม ๒๙ ข้อ ๓๘๔ (ย่อว่า ๒๙/๓๘๔)
พระสารีบุตรอธิบายว่า ความโกรธหมายถึง ความปองร้าย ความมุ่งร้าย
ความขัดเคือง ความขุ่นเคือง ความพยาบาทแห่งจิต ความประทุษร้ายในใจ
ความชัง กิริยาที่ชัง ความเป็นผู้ชัง ความพยาบาท กิริยาที่พยาบาท
ความเป็นผู้พยาบาท ความพิโรธ ความพิโรธตอบ ความเป็นผู้ดุร้าย
ความเพาะวาจาชั่ว ความไม่แช่มชื่นแห่งจิต
ใน
ธนัญชานีสูตร (๑๕/๖๒๖) พระพุทธองค์ได้ตรัสถึงลักษณะของความโกรธว่า
มีรากเป็นพิษมียอดหวาน ที่ว่ามีรากเป็นพิษหมายความว่า
ในเบื้องต้น
ความโกรธจะแสดงพิษสงต่อจิตใจ ทำให้หงุดหงิด เร่าร้อน
เดือดดาล จึงต้องรีบระบายความหงุดหงิด เร่าร้อน เดือดดาลออกไปโดยเร็ว
ด้วยการด่าว่าทุบตีหรือทำลายบุคคลหรือสิ่งของ ที่เป็นต้นเหตุให้โกรธ
เมื่อได้ทำจนสาแก่ใจแล้ว
ในบั้นปลายจะรู้สึกโล่งใจ สบายใจ จึงเรียกว่ามียอดหวาน
ความโกรธร้ายแรงกว่าอัคคีภัย ความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินอันเนื่องมาจากไฟภายในคือโทสะนั้น
มีมากกว่าไฟภายนอกอย่างเทียบกันไม่ได้ ลองนึกดูว่าในโลกที่มีประชากรหลายพันล้านคนนี้
วันหนึ่ง ๆ มีเพลิงโทสะเกิดขึ้นกี่ครั้ง
เมื่อเพลิงโทสะเกิดขึ้น
แทนที่จะทำให้สว่าง กลับทำจิตใจให้มืดมิดยิ่งขึ้น คนโกรธย่อมไม่รู้จักประโยชน์ของตนและของผู้อื่นชัดตามความเป็นจริง
คนโกรธย่อมก่อกรรมที่ทำได้ยากเหมือนทำได้ง่าย คนโกรธฆ่าบิดามารดาก็ได้
ฆ่าพระอรหันต์ก็ได้ ฆ่าตนเองก็ได้ ฆ่าใครต่อใครก็ได้
เรื่องที่ร้ายแรงหรือทารุณโหดร้ายขนาดไหน คนโกรธทำได้ทั้งนั้น
ดังเรื่องต่อไปนี้
เมื่อวันที่
๑๕ กรกฎาคม ๒๕๔๒ นาง พ.อายุ ๒๔ ปี นำกล่องข้าวกลางวันไปส่งให้บุตรสาวซึ่งเรียนอยู่ที่โรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งใน
จ.นครศรีธรรมราช เมื่อมาถึงหน้าอาคารเรียน นาย น. สามีของนาง
พ. เดินตามมาจากไหนไม่ทราบจนทัน และใช้มีดขนาดใหญ่ฟันนาง
พ.ตายคาที่ คอเกือบขาด เด็ก ๆ ที่เห็นเหตุการณ์ต่างร้องไห้กระจองอแง
นาย
น.เป็นพาลเกเร ไม่มีงานทำ เที่ยวเล่นการพนันไปวัน ๆ
ไม่สนใจครอบครัว ทำให้นาง พ.และญาติไม่พอใจมาก ก่อนเกิดเหตุไม่นานทั้งสองทะเลาะกันอย่างหนัก
นาง พ.จึงขอหย่า นี้คงเป็นสาเหตุที่ทำให้นาย น.โกรธจัดจนฟันคอเมียอย่างโหดเหี้ยม
(น.ส.พ.สยามรัฐ ๑๖ ก.ค. ๒๕๔๒)
เมื่อความโกรธ
รุมเร้า แผดเผาจิต ใจมืดมิด
หลงคิด ผิดวิสัย
เรื่องฉิบหาย ร้ายกาจ ขนาดใด ล้วนทำได้
ขอเพียงแค่ สาแก่ใจ