เว็บบอร์ด สนทนาธรรม สอบถามห้องแชดสนทนาธรรมสมุดเยี่ยม ฝากข้อความ ติชมรวมเว็บพระพุทธศาสนารวมรูปภาพ พุทธศิลป์ พระพุทธเจ้า พระพุทธรูป พระเจดีย์ พระสงฆ์
  ตั้งเป็นหน้าแรก   เก็บเข้า Favorites   สั่งพิมพ์   แจ้งปัญหา
   
 
 
 
สารบัญหลัก
  หน้าหลัก
  หนังสือธรรมะ
  บทสวดมนต์
  เสียงธรรม mp3
  เสียงสวดมนต์ mp3
  ห้องสวดมนต์ออนไลน์
  สมาธิ
  กฎแห่งกรรม
  วัดป่า-พระป่า
  วันสำคัญทางศาสนา
  ดาวน์โหลด e-book
  คำสอนจากครูบาอาจารย์
  บทความ..ธรรมจักร
  รูปภาพ
  กระดานสนทนา
  ห้องสนทนา
  สมุดเยี่ยม
  รวมเว็บ
  ติดต่อทีมงาน
ขึ้นบน
 
เว็บบอร์ด
  สนทนาธรรม
  ข่าวกิจกรรม
  สติปัฏฐาน
  สมาธิ
  กฎแห่งกรรม
  นิทานธรรมะ
  หนังสือธรรมะ
  บทความธรรมะ
  กวีธรรม
  นานาสาระ
  วิทยุธรรมะ
  สถานที่ปฏิบัติธรรม
  เสียงธรรมออนไลน์
  เสียงสวดมนต์ออนไลน์
  พระพุทธเจ้า
  ประวัติอสีติมหาสาวก
  ประวัติเอตทัคคะ
  ประวัติครูบาอาจารย์
 
 
^-^ มาฝึกสมาธิกันดีกว่า ^-^
 
@ อยากรู้  ประวัติศาสตร์ วงล้อมธรรมจักร ลัญลักษณ์ของพุทธศาสนา  คลิกอ่าน @
 
รวมเว็บพระพุทธศาสนา แบ่งออกเป็นหมวดหมู่ ง่ายต่อการค้นคว้าหาข้อมูล
 
คำสอนของครูบาอาจารย์ เช่นหลวงปู่ดูลย์,หลวงปู่เทสก์,หลวงพ่อชา,หลวงพ่อพุธ,หลวงพ่อจรัญ,พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) เป็นต้น
 
อัลบั้มภาพพระพุทธศาสนา
 
เรือนธรรม - บ้านพักผ่อนทางจิตใจด้วยธรรมะ
 
ขอเชิญเข้ามาร่วมสนทนาธรรมด้วยกันครับ
 
ดูซิ ! ว่ามีใครอยู่ในห้องบ้าง
 
ฝากข้อความติชมของท่านได้ที่นี่ครับ
 
 
 
 
   ธรรมจักร   หนังสือธรรมะ พุทธวิธีชนะความโกรธ ปรับขนาดตัวอักษร เพิ่มขนาด ลดขนาด ขนาดปกติ
 
โกรธเขาเราร้อน

              พระพุทธเจ้าตรัสถึงโทษของความโกรธ ๗ ประการ คือ คนผู้โกรธ ถูกความโกรธครอบงำย่ำยีแล้ว
      
              ๑. แม้จะอาบน้ำ ไล้ทา ตัดผม โกนหนวด นุ่งผ้าขาวสะอาดแล้วก็ตาม ย่อมเป็นผู้มีผิวพรรณทราม
             ๒. แม้จะนอนบนที่นอนอย่างดี ลาดด้วยเครื่องปูลาดอันวิจิตรงดงาม มีหมอนหนุนศีรษะ หนุนเท้าทั้งสองข้างก็ตาม ย่อมนอนเป็นทุกข์
             ๓. แม้จะถือเอาสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ ก็สำคัญว่าเราถือเอาสิ่งที่เป็นประโยชน์ แม้จะถือเอาสิ่งที่เป็นประโยชน์ ก็สำคัญว่าเราถือเอาสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ นี้ย่อมเป็นไปเพื่อความฉิบหายตลอดกาลนาน
             ๔. แม้จะมีโภคทรัพย์ที่หามาโดยชอบธรรม ด้วยความขยันหมั่นเพียร อาบเหงื่อต่างน้ำ (ก็มักมีเหตุให้) พระราชาทั้งหลายย่อมริบโภคทรัพย์ของคนขี้โกรธเข้าพระคลังหลวง
             ๕. แม้จะได้ยศมาเพราะความไม่ประมาท ก็เสื่อมจากยศนั้นได้
             ๖. แม้เขาจะมีมิตรสหาย มิตรสหายเหล่านั้นก็เว้นเขาเสียห่างไกล
             ๗. ย่อมประพฤติทุจริต ด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงทุคติ
                                                                                    (โกธนาสูตร ๒๓/๖๑)

              นักจิตวิทยาชื่อ มาร์เด็น (Orison Swett Marden) เขียนไว้ว่า ในส่วนที่เกี่ยวกับร่างกายนั้น ความโกรธมีผลร้ายหลายประการคือ

              ๑. ทำลายรสอาหาร ทำให้หมดความอยากรับประทาน
             ๒. เป็นเหตุให้ระบบย่อยอาหารทำงานไม่ปกติ      
             ๓. ทำให้เส้นประสาทเกิดความพิการ
             ๔. ทำให้เกิดความระส่ำระสายทั่วสรรพางค์กาย
             ๕. ทำให้เกิดพิษในตัวเหมือนพิษงู และพิษนี้จะก่อความร้ายให้ตัวเอง
             ๖. เด็กที่ถูกแกล้งหรือทำให้โกรธอยู่เสมอจะเติบโตช้าผิดปกติ

              ศาสตราจารย์ เกตส์ ได้ทำการทดลองจนพิสูจน์ได้ว่า เหงื่อที่ออกจากร่างกายเพราะความโกรธนั้น มีวัตถุธาตุผิดกับเหงื่อที่ออกตามปกติ แสดงว่าความโกรธได้สร้างพิษร้ายขึ้นในร่างกาย ศาสตราจารย์ผู้นี้แนะนำว่า
วิธีป้องกันและระงับผลร้ายอันจะเกิดแก่ร่างกายเพราะความโกรธนั้นคือหาอะไรทำเพื่อให้เหงื่อออกมาก ๆ จะบรรเทาความโกรธแค้น และแก้พิษที่เกิดขึ้นในร่างกายของเราด้วย (กำลังใจ โดย หลวงวิจิตรวาทการ)

              ครั้งหนึ่ง พระอนุรุทธเถระได้ไปเมืองกบิลพัสดุ์ พวกพระญาติก็มาเฝ้า เว้นแต่พระนางโรหิณี ผู้เป็นน้องสาวของพระเถระ ไม่เสด็จมาเพราะละอายด้วยเป็นโรคผิวหนัง พระเถระจึงแนะนำให้พระนางขายเครื่องประดับ แล้วให้สร้างโรงฉัน ดูแลปัดกวาด ปูอาสนะ ตั้งหม้อน้ำดื่มไว้เสมอ ๆ
เมื่อสร้างเสร็จ พระนางได้ถวายภัตตาหารแด่พระภิกษุสงฆ์ มีพระศาสดาเป็นประมุขในโรงฉันนั้น

             เมื่อฉันเสร็จ พระศาสดาได้ตรัสเล่ากรรมในอดีตของพระนางโรหิณี ความว่า

             ในอดีตกาล พระอัครมเหสีของพระเจ้าพาราณสีผูกอาฆาตในหญิงนักฟ้อนคนหนึ่ง รับสั่งให้หญิงนักฟ้อนเข้าเฝ้า เมื่อได้โอกาสก็เอาผงเต่าร้างใหญ่ (หมากคันก็เรียก) โปรยลงที่ตัวหญิงนักฟ้อน ทันใดนั้นเอง สรีระของหญิงนั้นได้พุพองขึ้นเป็นตุ่มน้อยใหญ่ เมื่อนางกลับไปนอน ก็ถูกผงเต่าร้างใหญ่ที่พระอัครมเหสีแอบให้คนไปโรยไว้บนที่นอนกัดอีก ได้รับทุกขเวทนาเป็นอันมาก

              พระอัครมเหสีในกาลนั้นได้มาเป็นพระนางโรหิณี

             หลังจากนั้น พระศาสดาได้ตรัสว่า โรหิณี ก็กรรมที่เธอทำแล้วในกาลนั้น ก็ความโกรธก็ดี ความริษยาก็ดี แม้มีประมาณเล็กน้อย ย่อมไม่ควรทำเลย

              ในที่สุดพระนางก็หายจากโรคผิวหนังและได้บรรลุโสดาบัน
                                                                    (อรรถกถาธรรมบท ภาค ๖ หน้า ๑๕๙)

              สามีภรรยาคู่หนึ่งเป็นเจ้าของกิจการส่งเสื้อผ้าสำเร็จรูป ทั้งสองอยู่กินกันมา ๔-๕ ปีแล้ว สามีอายุ ๔๓ ปี ภรรยาอายุ ๒๙ ปี เป็นคนดุร้าย ชอบข่มขู่แสดงอำนาจเหนือสามีตลอดมา แต่ด้วยความรักภรรยา สามีจึงอดทนได้เสมอ

             ต่อมาวันที่ ๑๐ ก.ย. ๒๕๓๖ สามีเสร็จธุระจึงกลับบ้านพักผ่อน ภรรยาสั่งให้สามีนำเสื้อผ้าไปส่งลูกค้าที่ ประตูน้ำ สามีขอพักเหนื่อยก่อน ภรรยาไม่ยอม ด่าว่าสามีต่าง ๆ นานา ในที่สุดถึงกับเอาเท้าถีบ ๒ ครั้ง และด่าว่าไปถึงบรรพบุรุษ เมื่อถูกเข้าอย่างนี้ สามีก็โกรธจนทนไม่ไหว คว้าค้อนปอนด์ที่อยู่ใกล้มือเหวี่ยงใส่ภรรยาเต็มแรง ปรากฏว่าโดนท้ายทอยของภรรยาอย่างจัง นางฟุบลงแน่นิ่งและขาดใจตาย สามีรีบหลบหนีไปด้วยความตกใจ หลังจากครุ่นคิดอยู่นานและปรึกษากับญาติแล้วจึงได้กลับมามอบตัวกับตำรวจเพื่อสู้คดี
                                                                          (น.ส.พ.ไทยรัฐ ๑๘ ก.ย. ๒๕๓๖)

             เมื่อครั้งที่ข้าพเจ้า (ท. เลียงพิบูลย์) นอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลจุฬาฯ ข้างห้องเป็นห้องพิเศษ มีท่านเจ้าคุณผู้หนึ่งนอนพักรักษาตัว ท่านกำลังจะหายป่วย ท่านได้เข้ามาในห้องข้าพเจ้าสอบถามอาการป่วยของข้าพเจ้า สำหรับตัวท่าน หมอบอกว่าอีก ๒ วันกลับบ้านได้ ท่าทางท่านมีอารมณ์ดี วันต่อมาท่านเดินยิ้มเข้ามาบอกว่า พรุ่งนี้เย็นหมอให้กลับบ้านได้แล้ว ข้าพเจ้าก็แสดงความยินดีกับท่าน

             เช้าวันรุ่งขึ้น มีเสียงชุลมุนวุ่นวายในห้องของท่านเจ้าคุณ เมื่อคนเฝ้าไข้ของข้าพเจ้ามา ข้าพเจ้าก็ขอร้องให้ไปสืบดูว่า มีอะไรเกิดขึ้นกับท่านเจ้าคุณ

              คนเฝ้าไข้กลับมาเล่าให้ฟังว่า ประตูห้องแง้มอยู่ แต่ไม่ให้คนอื่นเข้าไป สงสัยว่าท่านเจ้าคุณกำลังอยู่ในอันตราย ต่อมาก็มีข่าวว่า ท่านเจ้าคุณได้ถึงแก่กรรมเสียแล้วเมื่อครู่นี้ หมอและพยาบาลพยายามช่วยแก้ไขก็ไม่ทัน

              ต้นเหตุที่ทำให้ท่านเจ้าคุณเสียชีวิตก็คือบุตรสาวของท่านเอง บุตรสาวคนนี้มีความผิดร้ายแรงอะไรไม่ทราบ ท่านเจ้าคุณโกรธมาก ไม่ยอมให้อภัย ไม่ยอมให้เข้าบ้าน ไม่ยอมให้พบหน้า เมื่อบุตรสาวรู้ว่าเจ้าคุณพ่อมาป่วยอยู่โรงพยาบาล ได้หายเกือบเป็นปกติกำลังจะกลับบ้าน จึงหาทางเข้ามาเยี่ยมเจ้าคุณพ่อถึงในห้อง เมื่อท่านเจ้าคุณเห็นหน้าลูกสาวที่จงเกลียดจงชังอย่างไม่ทันรู้ตัว ก็โกรธสุดขีดจนระงับไว้ไม่อยู่ อ้าปากค้างแล้วก็ล้มลงหมดลมหายใจ
                                                                         (กฎแห่งกรรม โดย ท.เลียงพิบูลย์)

              ความโกรธไม่เคยให้ผลดีแก่ใครเลย ไม่ว่าในสถานที่ใดเวลาไหน ความโกรธมีแต่โทษถ่ายเดียว จะหวังความสุขหรือประโยชน์สักนิดเป็นไม่มี มีแต่นำความทุกข์ความเดือดร้อนมาสู่ตนเองและครอบครัว

              ความโกรธเป็นเพลิงกิเลส เกิดกับผู้ใดก็เผาใจผู้นั้นให้ร้อนเร่า ถึงเราจะโกรธแค้นปานใดก็ไม่อาจสาปแช่งหรือแผ่ความโกรธไปเผาผู้อื่นให้พลอยร้อนใจไปกับเราด้วย ดังนั้น แม้จะชื่อว่าโกรธเขา แต่ผู้ที่ร้อนใจ เจ็บใจ ทุกข์ใจ กินไม่ได้ นอนไม่หลับ ก็คือเรา ไม่ใช่เขา

              ในที่บางแห่งท่านเปรียบเทียบว่า อาการที่โกรธคนอื่นก็เหมือนกับการหยิบเหล็กร้อนแดงหรืออุจจาระ (แล้วขว้างคนอื่น) ดังนั้น การโกรธลับหลังเขาก็เหมือนกับการหยิบเหล็กร้อนแดงหรืออุจจาระ แล้วถือไว้เฉย ๆ เพราะไม่รู้จะไปขว้างใคร ต้องร้อนหรือเหม็นอยู่คนเดียว คนอื่นเขาไม่รู้เรื่องราวอะไรด้วยเลย ยิ่งโกรธ บ่อย ๆ ก็ต้องร้อนต้องเหม็นบ่อย ๆ ยิ่งโกรธโดยไม่ยอมเลิก ก็เหมือนเอามือกำเหล็กร้อนแดงไว้แน่นไม่ยอมปล่อย หรือเอามือขยำอุจจาระโดยไม่ยอมเลิก ลองนึกดูว่าสภาพเช่นนั้นน่าสมเพช น่าสะอิดสะเอียนขนาดไหน เราจะยอมปล่อยตัวปล่อยใจให้ตกอยู่ในสภาพนั้นหรือ ?

            แม้ชื่อว่า โกรธเขา แต่เราร้อน      เดินนั่งนอน ร้อนในอก แทบหมกไหม้
            แล้วยังดื้อ ถือโทษ โกรธทำไม      ได้อะไร เป็นประโยชน์ โปรดตรองดู

                                                                                          (ธมฺมวฑฺโฒ ภิกฺขุ)

   

สารบัญ
ความนำ 15. ถึงตายก็ไม่โกรธ
1. ลักษณะของความโกรธ 16. อย่าทำใจให้เป็นแผล
2. ลำดับขั้นของความโกรธ 17. โกรธเขาเราร้อน
3. สาเหตุของความโกรธ 18. น้ำน้อยในรอยเท้าโคกับคนไข้หนัก
4. พุทธวิธีชนะความโกรธ 19. หาใช่ใครอื่น
5. ลูกยอดีกว่ากอไผ่ 20.วัวใครเข้าคอกคนนั้น
6. ช้างกลางสงคราม 21. ผู้ให้ย่อมผูกไมตรีไว้ได้
7. แพ้เป็นพระ 22. ช่างหัวมัน
8. ต้นร้ายปลายดี 23. ทำอย่างไรถึงสวย
9. พระปิดทวาร 24. คนจนก็มีสิทธิ์
10. ให้เข็นครกขึ้นภูเขายังดีกว่า 25. ใดใดในโลกล้วนอนิจจัง
11. พระปฏิมายังราคิน 26. พุทธทาสวาทะ
12. ปราบพยศ 27. สรุปความ
13. สารถีกับคนถือเชือก   ดาวน์โหลดหนังสือเล่มนี้
14. ทำใจเหมือนธาตุทั้ง ๕  
   
 
 
 
 
 
 
 
  หน้าหลัก l หนังสือธรรมะ l เสียงสวดมนต์ mp3 l เสียงธรรม mp3 l บทสวดมนต์ l สมาธิ l รูปภาพ
ดาวน์โหลด e-book l ห้องสวดมนต์ออนไลน์  l กระดานสนทนา l ห้องสนทนา chat  l สมุดเยี่ยม lรวมเว็บ
 
จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
ขึ้นบน