คัมภีร์อรรถกถาได้จำแนกกรรมเป็น ๓ หมวดๆ ละ
๔ รวมเป็น กรรม ๑๒ คือ
หมวดที่ ๑ กรรมจำแนกตามกาลที่ให้ผลมี ๔ คือ
๑. ทิฏฐธรรมเวทนียกรรม กรรมให้ผลในชาตินี้
๒. อุปปัชชเวทนียกรรม กรรมให้ผลในชาติหน้า
๓. อปราปริยเวทนียกรรม กรรมให้ผลในชาติต่อๆ
ไป
๔. อโหสิกรรม กรรมเลิกให้ผล
หมวดที่ ๒ กรรมจำแนกตามหน้าที่มี ๔
คือ
๕. ชนกกรรม กรรมแต่งให้เกิด (เป็นมนุษย์
เปรต ฯลฯ)
๖. อุปัตถัมภกกรรม กรรมที่สนับสนุนชนกกรรม
ถ้าเกิดดี ก็ส่งให้ดียิ่งขึ้น ถ้าเกิดชั่ว ก็ส่งให้ชั่วยิ่งขึ้น
๗. อุปปีฬกกรรม กรรมบีบคั้นชนกกรรมและอุปัตถัมภกกรรมให้เบาบางลง
อุปปีฬกกรรมเป็นกรรมตรงข้ามกับกรรมเดิม
๘. อุปฆาตกกรรม กรรมตัดรอนชนกกรรมและอุปัตถัมภกกรรมให้ตกไป
แล้วให้ผลตรงกันข้าม จากดีเป็นชั่ว จากชั่วเป็นดี
หมวดที่ ๓ กรรมจำแนกตามความหนักเบามี ๔
คือ
๙. ครุกกรรม กรรมหนัก ได้แก่ อนันตริยกรรม
๕ สมาบัติ ๘
๑๐. พหุลกรรม กรรมที่มีกำลัง แต่ไม่เท่าครุกกรรม
หรือกรรม ที่ทำบ่อยจนชิน ให้ผลรองจากครุกกรรม
๑๑. อาสันนกรรม กรรมที่ทำเมื่อจวนจะตาย
ถ้าไม่มี ๒ ข้อก่อน ก็จะให้ผลก่อน แต่อาจารย์บางท่านกล่าวว่า
อาสันนกรรมให้ผลก่อนพหุลกรรม อุปมาเหมือนโคที่ไม่มีกำลัง
แต่ยืนอยู่ใกล้ประตูคอก เมื่อประตูเปิด ก็ออกไปได้ก่อนโคที่มีกำลัง
แต่ยืนอยู่ไกลจากประตู
๑๒. กตัตตากรรม กรรมที่ทำด้วยเจตนาอ่อน
คือ ประมาท รู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือไม่ได้ตั้งใจไว้
ต่อเมื่อไม่มีกรรมอื่นให้ผล กรรมนี้จึงให้ผล