โดยปกติทั่วไปในการปลูกสร้างบ้านเรือนหรือเจดีย์ก็ตาม
สิ่งสำคัญสุดยอดก็คือการวางรากฐาน ถ้าวางรากฐานไว้ดีคือมั่นคงแข็งแรง
ก็ย่อมจะรับน้ำหนักของส่วนบนภาคพื้นดินได้ดี และสามารถจะอยู่ได้นานหลานชั่วคน
แต่ถ้าการปลูกสร้างที่วางรากฐานไม่ดี บางทีการสร้างยังไม่ทันเสร็จก็พังแล้ว
อย่าว่าแต่จะอยู่ได้นานเลยการวางรากฐานการก่อสร้างมีความสำคัญเพียงใด
การวางรากฐานของวิถีชีวิตคนก็มีอุปมาฉันนั้น
รากฐานของชีวิตคน พระพุทธเจ้าได้ทรงแสดงไว้ในเอกนิบาตพระไตรปิฎก
เล่ม 20 หน้า 70 ว่า
การรู้คุณและตอบแทนคุณ
เป็นคุณธรรมพื้นฐานของคนดี
การที่เราจะดูว่าลูกคนใดมีความกตัญญูและกตเวทีหรือไม่
ให้ดูที่แววของเขาที่แสดงออกตอนเป็นเด็ก ถ้าเด็กคนนั้นมีแววหรือเชื้อของบัณฑิตอยู่เป็นพื้นฐาน
การที่พ่อแม่หรือผู้ปกครองแนะนำสั่งสอนในทางที่ดี เขาจะยอมรับได้ง่าย
แต่ถ้าลูกคนใดไม่มีเชื้อกตัญญูและกตเวทีเลย การแนะนำพร่ำสอนในสิ่งดีมันก็เหมือนการเข็นครกขึ้นภูเขา
ถ้าพลาดท่ามันอาจทับหรือเนรคุณเอาเสียด้วย !
ความกตัญญูและกตเวที
คืออะไร ?
กตัญญู
คือ รู้คุณท่าน ได้แก่ การรู้สำนึกถึงพระคุณของผู้ที่มีพระคุณแก่ตน
ในทางมนุษย์ท่านว่าพ่อและแม่เป็นบุคคลแรกและบุคคลสูงสุดของลูกทุกคนในด้านพระคุณ
บุคคลนอกจากพ่อและแม่แล้ว ถึงแม้ว่าท่านมีพระคุณต่อเรามากหลายเพียงใด
ก็ไม่อาจจะเทียบเท่าพระคุณของพ่อและแม่ได้ เพราะพ่อและแม่เป็นผู้ให้ชีวิตเรา
ถ้าไม่มีพ่อให้เชื้อ ไม่มีแม่อุ้มท้อง ลูกทุกคนก็ไม่อาจจะเกิดมาดูโลกนี้ได้
แม้พ่อแม่บางคนจะโหดร้ายต่อลูกเพียงใดก็ตาม นั่นก็ย่อมจะเป็นพฤติกรรมภายหลัง
ที่เราได้เกิดมาแล้วแต่ในด้านผู้ให้กำเนิดแล้ว พระคุณของท่านย่อมจะมีอยู่ตลอดชีวิตของเรา
อันธรรมชาติของสัตว์โลก ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์ดิรัจฉาน
ในกมลสันดานของความเป็นแม่หรือพ่อนั้น ย่อมจะรักลูกของตนยิ่งชีวิต
บางครั้งถึงกับยอมตายแทนลูกได้ แต่ที่พ่อแม่บางรายมีความโหดร้ายทารุณ
จนผิดวิสัยของผู้บังเกิดเกล้านั้น ก็เกิดจากอกุศลกรรมในอดีตชาติของลูกมาบันดาลให้เป็นไป
ลูกสัมมาทิฐิจึงมิบังควรจะก่อเวรกับพ่อแม่อีกต่อไป ควรแก้ด้วยการทำความดีในทุกรูปแบบ
มิฉะนั้นเวรก็จะไม่ระงับเพราะเวรย่อมจะระงับได้ด้วยการไม่จองเวร
การที่เราได้เกิดมาในตระกูลที่พ่อแม่ไม่ดี
นั่นแสดงว่าในอดีตชาติเราได้ทำเวรกรรมที่ร้ายแรงไว้ก่อน
วิบากแห่งกรรมนั้นได้ทำเวรกรรมที่ร้ายแรงไว้ก่อน วิบากแห่งกรรมนั้นได้ส่งผลให้เราต้องมาเกิดเป็นลูกของท่าน
และได้รับวิบากกรรมชั่วร้ายต่างๆ เราจึงไม่ควรไปต่อกรรมชั่วให้ยืดยาวออกไปอีก
ควรจะตัดกรรมชั่วในอดีตด้วยการทำความดีตอบสนองท่าน เมื่อเราทำกรรมดีสนองท่านอยู่ตลอดเวลา
วิบากแห่งกรรมเก่าก็ย่อมจะเจือจางลงจนหมดไป
การล้างถ้วยล้างชาม ยิ่งล้างก็ยิ่งจะสะอาด
แต่การล้างแค้นนั้น ยิ่งล้างก็ยิ่งจะสกปรก
ลูกที่มีเชื้อกตัญญูและกตเวทีทั้งหลายโปรดสำนึก
! การที่พ่อแม่หรือใครก็ตาม แสดงสิ่งที่ไม่ดีกับเราจะมากหรือน้อยก็ตาม
นั่นย่อมจะเป็นมาตรวัดว่าวิบากแห่งกรรมในอดีตที่เราได้ทำไว้กำลังตามมาให้ผลอยู่
ขออย่าได้ โกงกรรม ขอให้ยอมรับโดยดุษณี และเร่งทำกรรมดีทั้งกายวาจาและใจให้มากเข้าไว้
อย่าได้ท้อถอยหรือโทษนั่นโทษนี่ ไม่นานวิบากแห่งกรรมเก่าก็จะจางลงและหมดไปเอง
ถ้าเราโกงกรรม
คือ ไม่ยอมรับว่าเราได้ทำกับท่านเอาไว้ในชาติก่อน ผลแห่งความวุ่นวายเดือดร้อนก็จะตามมาอีกมากมาย
เช่น เป็นโรคประสาท เกิดความเครียด เสียสุขภาพจิต จะหาความสุขในชีวิตไม่ได้เลย
ตามคำสอนของพระพุทธเจ้านั้นท่านแสดงว่า ในโลกนี้ไม่มีอะไรที่จะเกิดลอยๆ
โดยไม่มีเหตุ ก่อนที่จะเกิดผลใดๆ เราก็จะต้องทำเหตุไว้นั้นๆ
ก่อน เหตุที่เรารู้บ้างหรือไม่รู้บ้าง ก็เพราะบางเหตุมันข้ามภพชาติ
และเราก็ระลึกชาติไม่ได้ ว่าในชาติใดเราได้ไปทำกรรมใดๆ
ไว้ แต่ชาวพุทธก็ต้องเชื่อพระปัญญาของพระพุทธเจ้าไว้ก่อน
เพราะพระองค์ทรงมีญาณระลึกชาติได้
กตเวที
คือ ตอบแทนหรือสนองคุณท่าน ได้แก่ เมื่อเราระลึกถึงคุณของท่านแล้ว
ก็ควรหาทางตอบแทนพระคุณของท่านด้วย คุณธรรมข้อกตัญญูและกตเวทีจึงจะมีอานิสงส์ครบวงจร
ในพระวินัยปิฎกเล่มที่ 4 หน้า 92 พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ว่า
คนดีย่อมจะเป็นผู้มีกตัญญูและกตเวที
ในการดูคนทั่วไปไม่ว่าหญิงหรือชาย
ว่าเขาจะเป็นคนดีหรือชั่วนั้น วิธีที่จะดูให้แน่ที่สุดและแม่นที่สุดก็จะต้องดูที่การแสดงออกของเขาในเรื่อง
ความกตัญญูคือการรู้คุณคนที่มีคุณ และความมีกตเวทีคือคิดตอบแทนพระคุณของผู้มีพระคุณ
คุณธรรมทั้งสองนี้จะต้องทำไปพร้อมกันคือต้องระลึกถึงคุณและตอบแทนคุณในทันที
ถ้าพ่อแม่เป็นคนไม่ดีต่อลูก เราจะต้องระลึกถึงคุณและตอบแทนคุณด้วยหรือ
?
ลูกที่ดีจะต้องระลึกถึงคุณ
และคิดตอบแทนพระคุณของท่านเสมอ ไม่ว่าพ่อแม่ของเราจะเป็นคนชั่วร้ายเลวทรามปานใด
ก็ไม่มีข้อยกเว้นทั้งสิ้น จะต่างก็แต่ว่าเราจะตอบแทนพระคุณของท่านในช่วงไหนที่เหมาะสมเท่านั้น
ก่อนอื่นเราในฐานะลูกที่ดี เราจะต้องแยกให้ออกก่อนว่า
พ่อและแม่มีพระคุณต่อลูก 2 ระยะ คือ การให้เกิด และการเลี้ยงดู
การให้เกิด
มีพ่อและแม่เท่านั้นที่ทำหน้าที่นี้ได้ คนทั้งโลกยกเว้นพ่อและแม่ย่อมจะหมดสิทธิ์ที่จะทำหน้าที่นี้ต่อเรา
การเลี้ยงดู
พ่อแม่หรือใครๆ ก็ทำได้ ถ้าพ่อแม่ทำหน้าที่นี้ด้วย
ท่านก็จะมีพระคุณต่อลูกครบวงจร คือ ทำให้เกิดด้วยและเลี้ยงดูด้วย
การเลี้ยงลูกที่ดีที่สุด
ก็คือ ต้องเลี้ยงทั้งร่างกายและจิตใจ ให้มีความสมบูรณ์ไปพร้อมๆ
กัน
เลี้ยงร่างกาย
คือ ให้ร่างกายเติบโตสมบูรณ์มีสุขภาพอนามัยดี
มีความรู้ มีความสามารถในการเลี้ยงตัวเอง และพึ่งตัวเองได้ในสัมมาชีพ
เลี้ยงจิตใจ
คือ ต้องให้จิตใจมีคุณธรรม มีความสำนึกในบาป-บุญ-คุณ-โทษ
มีหลักธรรมในพระศาสนาเป็นเครื่องดำเนินชีวิต ไม่ทำให้ชีวิตเป็นหมันเปล่า
ไม่หลงโลก ไม่ติดโลก มีปัญญาเป็นเครื่องดำเนินชีวิต
มีความรู้ก็ต้องมีคุณธรรมเป็นเครื่องกำกับตลอดชีวิตด้วย
คุณธรรมความดีงามทั้งหลายจะเกิดกับลูกได้ถาวรตลอดไป
ลูกคนนั้นก็จะต้องมีความกตัญญูและกตเวทีเป็นพื้นฐานจิตก่อน
พ่อแม่ที่ดีมีสัมมาทิฐิ ก็ควรจะต้องปลูกฝังความกตัญญูลงในจิตใจของลูกพร้อมกับการให้วิชาความรู้คู่กันไป
มิบังควรไปให้แต่ความรู้อย่างเดียวโดยไม่ใส่คุณธรรมลงไปด้วย
มันจะเหมือนกับการให้มีดคมที่ปราศจากฝัก สักวันหนึ่งความคมของมีดมันก็ย่อมจะบาดหรือทิ่มแทงผู้พกพาให้เกิดอันตรายได้
ในทำนองเดียวกัน ในการดูลูกที่เกิดจากเรานั้น ว่าในอดีตชาติก่อนที่เขาจะมาเกิดในท้องเรานั้น
ว่าเขามาจากที่ไหนนั้นก็พอจะดูได้ว่า
คนที่ไม่รู้คุณและไม่ตอบแทนคุณพ่อแม่นั้น
เขาหาใช่คนไม่ แต่เขาคือสัตว์นรกหรือ สัตว์ดิรัจฉานมาเกิด
ลูกประเภทนี้แม้ว่าพ่อแม่จะแนะนำสั่งสอนอย่างไร
ก็ยากที่จะดีได้เพราะพื้นฐานหรือสันดานเขาสืบมาแต่อดีตชาติ
พ่อแม่ก็จะต้องปลงใจ ขอให้เราทำหน้าที่พ่อแม่อย่างดีที่สุดก็แล้วกัน
กรรมของเขาจะส่งผลให้เขาเป็นไปเอง แม้แต่พระพุทธเจ้าก็ช่วยไม่ได้
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมคือการกระทำของเขาเองเช่นนั้นและ
!
อนึ่ง
การแสดงความกตัญญูและกตเวทีต่อผู้มีพระคุณต่อเรานั้น
สิ่งที่ควรสำนึกไว้ตลอดไปก็คือ จะต้องมีธรรมและปัญญาประกอบร่วมด้วยตลอดไป
มิฉะนั้นการแสดงความกตัญญูและกตเวที อาจก่อผลข้างเคียงที่ไม่พึงปรารถนาเกิดขึ้นได้
ธรรม
คือ ความถูกต้องชอบธรรม ที่ผู้มีความกตัญญูและกตเวทีต้องมีอยู่เป็นคู่ใจตลอดไป
เช่น เมื่อเราได้รับการอุปการะหรือช่วยเหลือจากผู้มีพระคุณที่เป็นคนชั่วหรือคนทุจริต
แล้วให้เราไปสนับสนุนให้เขาไปทำผิดหรือทำชั่ว เราก็ไม่จำเป็นจะต้องไปสนับสนุนให้เสียธรรม
แต่เราก็ควรหาทางสนองพระคุณท่านในสิ่งที่ผิดศีลธรรม
การไปส่งเสริมคนไม่ดีให้เป็นผู้นำหรือผู้แทนด้วยอามิสสินจ้าง
นั่นเป็นการแสดงความกตัญญูและกตเวทีที่ผิดธรรม ย่อมจะก่อปัญหามาสู่ตัวเราและผู้มีพระคุณได้
ปัญญา
คือ ความรอบรู้และรู้อย่างถูกต้อง จำเป็นที่ผู้มีเชื้อกตัญญูและกตเวที
จะต้องมีคู่กับธรรมตลอด ก็คือ เมื่อมีปัญหาว่าผู้มีพระคุณต้องการให้เราสนับสนุนท่านในสิ่งที่ไม่ชอบธรรม
เราจะทำอย่างไร เราจะต้องแยกให้ออกก่อนว่า เราควรจะตอบแทนพระคุณท่านด้วยวิธีการอย่างไร
จึงจะไม่ผิดธรรม ตัวปัญญานี่แหละจะเป็นเครื่องวินิจฉัยให้ผู้ที่มีความกตัญญูและกตเวทีได้แสดงออก
โดยไม่ก่อปัญหาทั้งสองฝ่าย
แต่ถึงอย่างไรพระคุณที่ท่านได้มีต่อเราก็ย่อมจะไม่สูญเปล่าอย่างแน่นอน
แต่มันควรจะรอเวลาที่สนองท่านในโอกาสอันเหมาะสมต่อไป
มิฉะนั้น เราอาจจะกลายเป็นคนอกตัญญูไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ได้
ทุกสิ่งในโลกนี้ย่อมมีทั้งคุณและโทษ
ย่อมขึ้นอยู่กับปัญญาของผู้ใช้ การแสดงออกของความกตัญญูและกตเวทีก็เช่นกัน
ถ้าลูกหรือผู้ที่ได้รับความอุปการะช่วยเหลือแล้ว แสดงความกตัญญูและกตเวทีโดยขาดธรรมและปัญญาร่วมด้วยแล้ว
ก็ย่อมจะก่อปัญหาให้แก่เราและผู้มีพระคุณได้
พระพุทธพจน์
พึงเลี้ยงบิดาและมารดา
ด้วยโภคทรัพย์ที่ได้มาโดยชอบธรรม
ธมฺเมน มาตาปิตโร ภเรยฺย
ธรรมิกสูตร 25/365
พระพุทธพจน์
เมื่อทำตามหน้าที่ของลูกผู้ชายแล้ว
ก็ไม่ต้องเดือดร้อนใจภายหลัง
กรํ ปุริสกิจฺจานิ น จ ปจฺฉานุตปฺปติ
มหาชนกชาดก 28/151
- จบ -