เว็บบอร์ด สนทนาธรรม สอบถามห้องแชดสนทนาธรรมสมุดเยี่ยม ฝากข้อความ ติชมรวมเว็บพระพุทธศาสนารวมรูปภาพ พุทธศิลป์ พระพุทธเจ้า พระพุทธรูป พระเจดีย์ พระสงฆ์
  ตั้งเป็นหน้าแรก   เก็บเข้า Favorites   สั่งพิมพ์   แจ้งปัญหา
   
 
 
 
สารบัญหลัก
  หน้าหลัก
  หนังสือธรรมะ
  บทสวดมนต์
  เสียงธรรม mp3
  เสียงสวดมนต์ mp3
  ห้องสวดมนต์ออนไลน์
  สมาธิ
  กฎแห่งกรรม
  วัดป่า-พระป่า
  วันสำคัญทางศาสนา
  ดาวน์โหลด e-book
  คำสอนจากครูบาอาจารย์
  บทความ..ธรรมจักร
  รูปภาพ
  กระดานสนทนา
  ห้องสนทนา
  สมุดเยี่ยม
  รวมเว็บ
  ติดต่อทีมงาน
ขึ้นบน
 
เว็บบอร์ด
  สนทนาธรรม
  ข่าวกิจกรรม
  สติปัฏฐาน
  สมาธิ
  กฎแห่งกรรม
  นิทานธรรมะ
  หนังสือธรรมะ
  บทความธรรมะ
  กวีธรรม
  นานาสาระ
  วิทยุธรรมะ
  สถานที่ปฏิบัติธรรม
  เสียงธรรมออนไลน์
  เสียงสวดมนต์ออนไลน์
  พระพุทธเจ้า
  ประวัติอสีติมหาสาวก
  ประวัติเอตทัคคะ
  ประวัติครูบาอาจารย์
 
 
^-^ มาฝึกสมาธิกันดีกว่า ^-^
 
@ อยากรู้  ประวัติศาสตร์ วงล้อมธรรมจักร ลัญลักษณ์ของพุทธศาสนา  คลิกอ่าน @
 
รวมเว็บพระพุทธศาสนา แบ่งออกเป็นหมวดหมู่ ง่ายต่อการค้นคว้าหาข้อมูล
 
คำสอนของครูบาอาจารย์ เช่นหลวงปู่ดูลย์,หลวงปู่เทสก์,หลวงพ่อชา,หลวงพ่อพุธ,หลวงพ่อจรัญ,พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) เป็นต้น
 
อัลบั้มภาพพระพุทธศาสนา
 
เรือนธรรม - บ้านพักผ่อนทางจิตใจด้วยธรรมะ
 
ขอเชิญเข้ามาร่วมสนทนาธรรมด้วยกันครับ
 
ดูซิ ! ว่ามีใครอยู่ในห้องบ้าง
 
ฝากข้อความติชมของท่านได้ที่นี่ครับ
 
 
 
 

   ธรรมจักร   หนังสือธรรมะ เลี้ยงลูกถูกธรรม

ปรับขนาดตัวอักษร เพิ่มขนาด ลดขนาด ขนาดปกติ  
 

ลูก 3 ประเภท

             ในปุตตสูตร พระไตรปิฎก เล่มที่ 25 หน้า 257 พระพุทธเจ้าได้ทรงแสดงเรื่องของลูกไว้ 3 ประเภท คือ อติชาตบุตร อนุชาติบุตร และอวชาตบุตร ไว้ดังนี้

            1. อติชาติบุตร ลูกที่ดีเลิศกว่าพ่อแม่ โดยทรงยกเอาพ่อแม่มาเป็นมาตรวัด โดยพ่อแม่ไม่มีพระรัตนตรัยเป็นสรณะ และไม่มีศีล 5 ข้อเป็นบทตั้ง แต่ลูกมีพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์เป็นสรณะและตั้งอยู่ในศีล 5

            2. อนุชาตบุตร ลูกที่ดีเสมอกับพ่อแม่ โดยพ่อแม่มีพระรัตนตรัยเป็นสรณะ และมีศีล5 ส่วนลูกก็มีพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์เป็นสรณะและมีศีล 5 ประจำอยู่ด้วยเช่นกัน

            3. อวชาตบุตร ลูกที่ต่ำกว่าตระกูลหรือพ่อแม่ โดยพ่อแม่ถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะ และมีศีล ส่วนลูกไม่ถึงพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์เป็นสรณะ และไม่มีศีล 5 ด้วย

            ในบรรดาลูกทั้ง 3 ประเภทนี้ ทรงแสดงว่าประเภทอวชาตบุตร จัดว่าเป็นลูกที่เลว หรือต่ำกว่าตระกูล ในบรรดาความชั่วที่ร้ายแรงทั้งหมดของคนในโลกนี้ คงจะไม่มีความชั่วอะไรที่ร้ายแรงเกินไปกว่าการละเมิดศีล 5 ข้อไปได้อีกแล้ว

            โปรดพิจารณาด้วยใจเป็นธรรมดูเถิดว่า ในโลกนี้ยังจะมีความผิดอะไรที่ร้ายแรงเกินไปกว่า การละเมิดศีล 5 ข้อบ้าง ? ลองเข้าไปดูในคุกสิว่า บรรดานักโทษทั้งหมดนั้นจะมีสักกี่คน ที่ทำผิดโดยไม่เกี่ยวกับการละเมิดศีล 5 ข้อบ้าง ?

            - ฆ่าเขา ทำร้ายร่างกายเขา ก็เกิดจากการละเมิดศีลข้อที่ 1
            - ลัก ปล้น จี้ ก็เกิดจากการละเมิดศีลข้อที่ 2
            - เป็นชู้เมียหรือผัวเขา ข่มขืน ก็เกิดจากการละเมิดศีลข้อที่ 3
            - โกหก ผิดสัญญา หลอกลวง ก็เกิดจากการละเมิดศีลข้อที่ 4
            - ทำชั่วหรือทำผิดต่างๆ ก็เพราะขาดสติ ก็เกิดจากการละเมิดศีลข้อที่ 5

            การละเมิดศีล 5 จึงเป็นเหตุแห่งความชั่วต่างๆ ได้สารพัด ตั้งแต่เบาจนถึงหนักสุด การมีศีลเพียง 5 ข้อ จึงเป็นเกราะแก้วกำบังตนให้พ้นจากภัยและเวรได้ชะงัดนักวิเศษกว่าของขลังใดๆ ในโลก จริงอยู่แม้ว่าการละเมิดศีล 5 ที่เรียกว่า “เบญจธรรม” ก็ตาม แต่ว่าความผิดที่รุนแรงต่างๆ นั้น จะไม่มีอะไรเกินไปกว่าการล่วงละเมิด 5 ไปได้เลย เพื่อป้องกันมิให้ลูกต้องล่วงศีล 5 จึงควรที่พ่อแม่จะต้องรีบปลูกฝังคุณธรรม 5 ที่คู่กับศีล 5 ให้ในใจลูกก่อนดังนี้

            1. เมตตา มีความรักต่อคนและสัตว์ทั่วไป
            2. สัมมาชีพ ทำมาหากินในทางสุจริต
            3. สทารสันโดษ หรือกามสังวร ยินดีเฉพาะในคู่ครองของตน
            4. สัจจะ มีความสัตย์จริงหรือซื่อสัตย์ต่อกัน
            5. มัชวิรัติ หรือเจริญสติ เว้นจากสิ่งมึนเมา

            เมื่อเรามีเบญจธรรม 5 ข้อนี้แล้ว มันจะคุ้มครองศีล 5 ไว้ได้เอง นั่นก็คือ เราจะไม่รักษาศีล 5 ก็ได้ เพราะเบญจธรรมเหนือกว่าศีลมากมายนัก เช่น เมตตาซึ่งคู่กับศีล
ข้อ 1 เรายังไม่คิดจะฆ่าแม้แต่มดหรือยุงตัวเล็กๆ แล้ว เราจะไปฆ่าคนได้อย่างไร

            แต่สำหรับชาวบ้านทั่วไป เอาแค่ไม่ฆ่าคนก็น่าจะพอแล้ว เพราะบางอาชีพก็ยังต้องฆ่าสัตว์เล็กๆ เพื่อเป็นอาหารอยู่ เอาแค่ไม่ฆ่าคนเสียได้คุกก็จะว่างนักโทษขึ้นอีกแยะเลย แต่ถึงแม้ว่าเราจะมีศีล 5 แล้ว เราก็ยังไม่อาจจะปลอดภัยนัก สักวันหนึ่งเราอาจจะเผลอไปล่วงศีลเข้าก็ได้ ทางที่ดีนอกจากเราจะมีธรรม 5 แล้ว ก็ควรที่จะละเว้นจากอบายมุข 5 เสียด้วย คือ

            1. การดื่มน้ำเมา (รวมทั้งสิ่งเสพติดต่างๆ)
            2. การเป็นคนเจ้าชู้
            3. การเล่นการพนัน
            4. การคบมิตรชั่ว
            5. การเกียจคร้าน

            โดยเฉพาะใน 3 ข้อหลังนี่สำคัญมาก ใน 2 ข้อแรกมีอยู่ในศีล 5 แล้ว และที่อยากจะเน้นเป็นพิเศษกว่าข้ออื่นๆ ก็คือ การคบคนชั่ว คนทุจริตหรือคนพาลเป็นมิตร นี่จะเป็นสะพานไต่ไปสู่ความผิดและความชั่วต่างๆ ได้สารพัด การเลือกคบแต่เพื่อนที่ดีจึงเป็นบันไดขั้นแรก ที่พ่อแม่ควรจะสอนให้ลูกสำนึกไว้ก่อนที่ลูกจะออกไปสู่โลกกว้าง หรือพ้นจาก อกของพ่อแม่

            เหตุเพราะว่า ลูกไม่อาจที่จะอยู่คนเดียวในโลกได้ เพื่อนฝูงจึงมีความจำเป็นที่ลูกจะต้องคบหา แม้ระดับโรงเรียนชั้นประถมหรือเพื่อนบ้านก็ตามที แม่จึงควรที่จะให้ความรู้แก่ลูกว่าเพื่อนที่ดีและชั่วนั้นต่างกันอย่างไร ? ชี้ให้ลูกเห็นความแตกต่าง ที่ลูกได้คบเพื่อนดีหรือชั่ว และจะดูหรือแยกได้อย่างไรว่าใครจะเป็นเพื่อนดีหรือเพื่อนชั่ว ?

            พ่อแม่ที่ดีของลูก จึงไม่ควรที่จะละเลยในข้อนี้ ควรให้ความสนใจเป็นพิเศษกว่าศีล 5 หรือธรรมข้ออื่นๆ เสียด้วยซ้ำไป เพราะว่าถ้าลูกไปคบกับคนพาลหรือมิตรชั่วเข้าแล้ว ทั้งศีลและธรรมก็อาจละเมิดเสียได้ทุกข้อเชียวแหละ เพราะความใกล้ชิด ความเกรงใจ ความเห็นใจ ลูกเราก็เลยต้องยอมทำตามเพื่อนไปหมดทุกอย่าง แม้ว่าในครั้งแรกๆ ลูกอาจจะไม่เต็มใจ หรือนึกรังเกียจอยู่บ้าง แต่พอทำตามหลายๆ ครั้งเข้ามันก็จะเกิดความเคยชินไปเองจนเห็นเป็นเรื่องธรรมดา การป้องกันไว้ก่อนจึงย่อมจะดีกว่าไปคิดแก้ในภายหลัง

            ถ้าพ่อแม่อยากให้ลูกดีๆ มาเกิด พ่อแม่ก็ควรจะมีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งและมีศีล 5 รองรับไว้ก่อน ลูกที่ดีจึงจะมาเกิดกับเราได้ ถ้าเราไม่มีพระรัตนตรัยเป็นสรณะและไม่มีศีล 5 ลูกที่ไม่ดีก็ย่อมจะมาเกิด เรียกว่า ดีดูดดี และชั่วดูดชั่ว ว่างั้นเถอะ

ลูกที่เชื่อฟังพ่อแม่เป็นลูกที่ประเสริฐ
โย จ ปุตฺตนมสฺสโว

ขัตติยสูตร 15/10


            การเลี้ยงลูกที่ถูกธรรม ย่อมจะไม่ก่อปัญหาทั้งแก่ลูกและพ่อแม่ แต่ถ้าเกิดมีปัญหาขึ้นมา ไม่ว่าในส่วนรูปธรรมหรือนามธรรมในระยะสั้นหรือระยะยาวก็ตาม นั่นย่อมจะเป็นภาพลักษณ์ ที่ฟ้องอยู่ในตัวเองแล้วว่าได้เกิดมีการปฏิบัติที่ผิดธรรมขึ้นแล้ว

 

     
 

สารบัญ
บทนำ อย่าเป็นพ่อแม่ที่กระต่ายตื่นตูม
  เลี้ยงลูกถูกธรรม จงเป็นตัวอย่างที่ดีแก่ลูก
วางแผนชีวิตก่อนมีลูก จงให้มรดกวิชาแก่ลูก
ลูก... ใครคิดว่าไม่สำคัญ ? ทำอย่างไรลูกที่ดีจึงจะมาเกิด ?
ลูก 3 ประเภท จงรีบปลูกฝังคุณธรรมให้ลูกก่อน
อย่าสอนลูกให้ขี้เกียจ ปุตตปริทรรศน์
สิ่งแวดล้อมมีอิทธิพลต่อลูกมาก ความกตัญญูและกตเวที คือพื้นฐานที่ดีของลูกทุกคน
อย่าเลี้ยงลูกให้เป็นไข่ในหิน ดาวน์โหลด หนังสือเล่มนี้
   
 
 
 
 
 
 
 
  หน้าหลัก l หนังสือธรรมะ l เสียงสวดมนต์ mp3 l เสียงธรรม mp3 l บทสวดมนต์ l สมาธิ l รูปภาพ
ดาวน์โหลด e-book l ห้องสวดมนต์ออนไลน์  l กระดานสนทนา l ห้องสนทนา chat  l สมุดเยี่ยม lรวมเว็บ
 
จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
ขึ้นบน