คำว่า
คุณธรรม ในที่นี้หมายรวมทั้งศีลธรรมและจริยธรรมด้วย
เพราะคุณธรรมต่างๆ เป็นพื้นความดีของจิต ถ้าจิตของลูกขาดคุณธรรมเสียแล้วในอนาคตลูกจะมีปัญหามากมาย
การที่พ่อแม่เอาแต่ป้อนวิชาการต่างๆ โดยไม่คำนึงถึงคุณธรรมในจิตของลูก
นับว่าพ่อแม่รักลูกไม่ถูกธรรมในจิตของลูก นับว่าพ่อแม่รักลูกไม่ถูกธรรมแล้ว
เพราะวิชาความรู้ต่างๆ นั้น ถ้าขาดศีลธรรมกำกับเสียแล้วก็เหมือนการพกมีดโดยไม่มีฝักคือยิ่งฉลาดก็ยิ่งจะโกงเก่ง
มีพ่อแม่เป็นอันมากต้องผิดหวังต่อลูกที่อุตส่าห์ส่งเสียให้เล่าเรียนถึงขั้นสูงสุด
และมีงานตำแหน่งสูงทำ แต่ผลที่สุดก็ไปพ่ายแพ้แก่ตัว
โลภะ ต้องประพฤติผิดศีลธรรมเสียทั้งอนาคตและวงศ์ตระกูล
การปลูกฝังคุณธรรมลงในจิตใจของลูก นอกจากจะต้องทำแต่เด็กเล็กแล้ว
ยังต้องใช้เวลานานและจะต้องทำอย่างต่อเนื่องอีกด้วย
จึงจะได้ผลหรือไว้ใจได้ ว่าลูกของเราจะไม่ประพฤติชั่ว
หรือมีภูมิคุ้มกันความชั่ว มิให้เสื่อมเสียต่อวงศ์ตระกูล
โดยปกติทั่วไป
การทำความชั่วย่อมจะทำง่ายกว่าทำดี การทำชั่วจึงไม่ต้องมีการสอนหรือปลูกฝัง
เพราะพื้นจิตของปุถุชนมันย่อมโน้มเอียงอยู่แล้วที่จะรองรับความชั่ว
ข้อพิสูจน์ง่ายๆ ก็ลองชวนเด็กสัก 10 คน ให้ไปดูหนังหรือตกปลากับไปฟังเทศน์
ในจำนวนเด็ก 10 คนนี้จะมีเด็กไปฟังเทศน์สักคนหรือสองคนก็ยากเพราะเด็กรู้อยู่แล้วว่า
ไปวัดมันไม่สนุกเท่ากับไปดูหนังหรือตกปลา
เด็กทั่วไปจึงมักจะนึกแต่ความสนุกสนานมากกว่าที่จะมุ่งถึงสาระ
หรือความดีงามต่างๆ แต่พออายุมากขึ้นคนเราก็มักจะนึกถึงสาระมากกว่าที่จะนึกถึงความสนุกสนาน
แต่ถ้าเราจะรอเอาไว้ปลูกฝังคุณธรรมตอนลูกโตมันก็ย่อมจะสายเกินไป
แม้ว่าบางคนจะมองเห็นคุณค่าของศีลธรรมแต่โอกาสมันก็น้อยลง
หรือไม่มีโอกาสที่จะไปใฝ่หาได้ง่ายนัก
การปลูกฝังคุณธรรม
หรือศีลธรรมสำหรับเด็กไม่เป็นสิ่งยากเย็นอะไรเลย พ่อแม่ที่สนใจธรรมะนิดหน่อยก็พอจะแนะนำได้
เช่น
-
สอนให้เด็กมีความกตัญญูต่อพ่อแม่ ญาติผู้ใหญ่ พระสงฆ์
ครู และผู้มีพระคุณ ตลอดจนประเทศชาติ
-
สอนให้ลูกไหว้พระประจำวัน และกราบที่หมอน 5 ครั้งก่อนนอน
และควรอธิบายความหมายให้ชัดเจนและให้ลูกเห็นความจำเป็นด้วย
- หัดให้ลูกฝึกเจริญสมาธิและสติแบบง่ายๆ ด้วยการนับลมหายใจ
หรือใช้แบบ พุท-โธ ก็ได้
- สอนให้ลูกมีเมตตาต่อสัตว์เล็กๆ ตลอดจนเพื่อนๆ และบุคคลทั่วไป
- สอนให้ลูกมีความขยัน อดทน เสียสละไม่เห็นแก่ตัว ไม่เอาเปรียบคนอื่นและช่วยพ่อแม่ทำงานบ้านเท่าที่พอจะทำได้
- ชวนลูกไปตักบาตรด้วยกัน และพาไปทำบุญที่วัดตามโอกาสอันควร
พาไปหาพระ พาไปฟังเทศน์ เป็นต้น
การปลูกฝังคุณธรรมลงในตัวลูกนั้น
ไม่ใช่ของยาก เพราะโดยนิสัยเด็กก็ย่อมจะอยากรู้อยากเห็นในสิ่งแปลกๆ
ใหม่ๆ อยู่แล้ว ข้อสำคัญควรจะต้องทำบ่อยๆ จึงจะติดเป็นนิสัย
ที่สำคัญสุดยอดเหนือสิ่งอื่นใดก็คือ ตัวพ่อแม่เองนั่นแหละ
อย่าได้ไปทำอะไรที่มันสวนทางกับการสอนลูกเข้า นั่นคือ
พ่อแม่ควรทำให้ได้ก่อนแล้วจึงค่อยสอนลูก มันจึงขลังดี
มีพ่อแม่หรือพี่เลี้ยงเป็นอันมาก
เมื่อพบพระก็มักจะบอกให้ลูกหรือเด็กไหว้ แต่ตัวเองไม่ไหว้
เด็กก็เลยเขนหรืออาย เพราะขาดผู้นำที่ดี การเป็นตัวอย่างที่ดีจึงย่อมจะดีกว่าการสอนมาก
การสอนให้ลูกมีคุณธรรมต่างๆ นั้น นอกจากตัวลูกจะประสบความสุข
ความเจริญก้าวหน้าในการเรียน ในการประกอบอาชีพโดยสุจริตแล้ว
ผลพวงอันนี้ก็ยังจะย้อนมา
สนองแก่พ่อแม่อีกด้วยนั่นก็คือ
เมื่อลูกมีคุณธรรมแล้ว
เขาก็ย่อมจะเคารพเชื่อฟังกตัญญู และเลี้ยงดูพ่อแม่ยามแก่ชราด้วยโดยนัยตรงกันข้าม
ถ้าลูกขาดคุณธรรมเสียแล้ว แม้เขาจะร่ำรวยเหลือเฟือเขาก็จะไม่เลี้ยงดูพ่อแม่
โดยเฉพาะโลกในทุกวันนี้ ยิ่งเจริญด้วยวัตถุมากขึ้นเท่าไร
คนก็ยิ่งจะขาดคุณธรรมมากขึ้นเท่านั้น คนที่มีทั้งความรู้และมีคุณธรรมจึงเป็นที่ต้องการของสังคมยิ่งขึ้นทุกวัน
ดังนั้น การปลูกฝังศีลธรรม หรือคุณธรรมต่างๆ ลงในตัวลูกเสียแต่ยังเล็กๆ
จึงเท่ากับยิงนกด้วยกระสุนนัดเดียวแต่ได้นกตั้งหลายตัว
มีความรู้คู่คุณธรรมนำสันติสุข