วันเวลาปัจจุบัน 16 พ.ย. 2025, 03:15  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 25 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ต.ค. 2025, 12:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2226

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


เรื่องผีๆ โอปาติกะหลายๆ 
ก็นับว่าเป็นเครื่องฝึกจิตฝึกใจ ที่เหมาะกับกาลเวลา 
ในแต่ละบุคคล 
ดีนะที่เม มาอยู่มาเกิดในยุคสมัยนี้

ถ้าไปเกิดยุคพระพุทธองค์ คงได้หัวโกร๋น
เพราะจิตใจไม่แกร่งกล้าพอ 

ถ้าศึกษากันตามพระธรรม 
พระภิษุนั่งสมาธิอยู่ดีๆ มียักษ์มาตีศีรษะ แบบนี้ 
ไปปราสาทไปที่ไหน เจอยักษ์ บริวารยักษ์ เดินเฝ้าประตู เป็นฝูง 
ไปนั่งฟังเทศน์ฟังธรรม หันข้างๆ เจอยักษ์ นั่งยิ้มแยกเขี้ยว นั่งพนมมืออยู่ข้างๆ จะทนนั่งไหวมั๊ยเนี่ย 
เจอผี เจอเปรต มาอยู่ในชั้นเรียน มาฟังธรรม มาขอโน่นขอนี่ 
คงหัวใจวายกันไปก่อนแระ 
 ผู้คนสมัยนั้น ทำไมไม่เห็นใครกลัว 

แสดงว่า สภาวะจิตใจ ผู้ไปเกิดยุคสมัยนั้น แกร่งกล้ามากกว่าคนในยุคนี้ เป็นล้านๆเท่า 

มาชาตินี้จึงเหมาะกะเมมากกว่า เพราะเจอแล้วก็ยังหัวใจไม่วาย
ถ้าจะเล่าเรื่องเจอผี  เล่าได้เป็นปี ๆเลยค่ะ เพราะเจอบ่อยมากๆ

เมื่อเจอบ่อย ก็มักไปหาพวกเจอผี คุยกะเค้า
อาจารย์หลายๆคน เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ก็มักไปชุมนุมกัน ตามเวปๆเฉพาะทาง
พวกมีญาณทั้งหลาย มีทิพย์ทั้งหลาย สมถะ กสินต่างๆ

ช่วงนั้น เมก็เพิ่งวัยรุ่น  เม ก็ได้เข้าไปคุยกับหลายๆคน 
ผีนี่ยังไง ผีน่ันยังไง เทวดา เจ้าแม่ต่างๆ เป็นไง
ก็รู้ได้ด้วยตัวเอง ว่า ท่านเหล่านั้น เห็นขนาดไหน ชัด คม เคลีย รายละเอียด ลึกแค่ไหน
เจออาจารย์จริงมั่ง ปลอมมั่ง หลากหลาย 

แต่ก็สิ่งที่อยากรู้ ก็คือ ผีนั่นเกิดเพราะอะไร ทำไมเป็นอย่างนั้น มีกรรมกันถึงไหน จึงได้ลิขิตให้พบกัน 
เป็นบุพเพสันนิวาสป่าว ก็สอดรู้หลายๆเรื่อง

อันดับต่างๆของผีแต่ละชนิด  ธรรมที่มีในนั้น แต่ละผี มีธรรมเรื่องใด พลาดไปในอกุศลเรื่องใด
พลังอำนาจที่มี ต่างๆ  มาจากอะไร มีโลภ โกรธ หลง อาฆาต พยาบาท ยังไง
ทำไมจึงเป็นผี เป็นปีศาจ เป็นมาร เป็นอสูรกาย  เป็นยักษ เป็นเปรต เป็นซาตาน เป็นการ์กอย 
เป็นยมบาล เป็นผู้คุมวิญญาน และอีกมากมาย สาระพัดผี 

เม ได้พบบ่อยๆ ก็เรยรู้สึก คุ้นหน้าคุ้นตากันค่ะ ตอนหลังๆผีก็ไม่ค่อยมาหลอกเมหรอก 
คงเป็นแบบเห็นเมบ่อยๆ เรยเบื่อที่จะหลอก ซ้ำๆมั๊งคะ 

แต่ละอย่างก็มีอานุภาพของท่านเหล่านั้น เฉพาะตัว มีมากว่านั้นก็ไม่ได้ 
แบบแลบลิ้นปลิ้นตาได้ แต่แปลงร่างไม่ได้ ก็เป็นความเฉพาะตัว 
เม ก็เรย แยกแยะออกได้ ง่ายๆ เช่นแลบลิ้น บางท่านก็ลิ้นยาวได้ บางท่านก็ลิ้นยาวไม่ได้ 
เป็นคุณสมบัติเฉพาะตัวกัน เนาะ คะ 

ก็ไม่ได้แตกต่างจากเม หรอก ที่มาได้ร่างแบบนี้  มีขันธ์เหมือนๆกัน
นั่นแหละความรู้ทางธรรมที่พอมี เจริญขึ้น โดย จำแนกแจกแจงภพภูมิต่างๆบุพกรรมต่างๆ 
โดยเครื่องฝึก โดยตำรา โดยประสบการณ์  พอได้สะสมแต้มสะสมคะแนนไป 

ไม่มีสิ่งใดบังเอิญหรอกค่ะ  สภาวะจิตใจที่เกิดเวลานั้น ตามตรงตามจริง ในปัจจุบันที่เกิด 

ก็ต้องสร้างเพิ่มพูนความเข้าใจไว้  เจอสิ่งใดๆก็ยังกรี๊ดได้  ตามธรรมชาติของเรา 
ไม่เสแสร้งสร้างธรรมชาติแบบคนอื่นๆ 

เหมือนไปเข้าบ้านผีตามสวนสนุก เข้าไปก็กรี๊ดๆๆ ออกมาก็หัวเราะ แต่เหนื่อย

หลายๆท่านก็มักสอนบอกว่า  ธรรมะคือธรรมชาติ 
แต่เมื่อไปทำให้ธรรมชาติเสียรูปไป 
ก็จะไม่เห็น ธรรมชาติที่แท้จริง 

และธรรมชาติแท้จริงดั้งเดิม จึงยากจะเห็นกัน ค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ต.ค. 2025, 01:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2226

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


เรื่องผี บางครั้งก็ไม่ได้มาหลอก
แต่มาบอกมาเตือน 

ช่วงเรียนมหาลัย เรียนหนัก แต่เวลาว่างเยอะ 
ก็หาทางเที่ยวตลอด เมื่อมีช่วงเวลาว่าง
มีครั้งนึง กำลังเดินทางไปเที่ยวทะเล 

เมก็ไปกะเพื่อน ก็ผู้หญิงสามคน มีคนขับรถเป็นบอดี้การ์ดไปคนนึง

ระหว่างทาง ก็ผ่านไปทางหุบเขา  ข้างทางก็มีป้ายบอก มีถ้ำสำนักสงฆ์เล็กๆแห่งนึง 

ก็เรยคิดกันว่า ไปลองแวะที่นั่นดู เพราะยังไม่เคยเข้าไปเลย
ได้แต่ผ่านมาผ่านไป
ก็เรยให้คนรถ ขับเลี้ยวเข้าไปตามป้ายไปสำนักสงฆ์นั้น

เข้าไปถึงที่นั่น ก็ มีกุฎีสองสามหลัง ด้านหน้า สร้างติดกับเทือกเขาที่เป็นหินปูน
สภาพแวดล้อมสวยร่มรื่น มีเขามีถ้ำ

ก็เลยแวะไปจอดรถที่หน้ากุฎิ บอกคนขับรถให้รอที่รถนะ ล๊อคด้วย เพราะค่อนข้างเปลี่ยว 
ไม่เห็นใครเลย 

แล้วก็เดินเข้าไปกับเพือน  พอดี เมกะเพื่อนก็แต่งตัวไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไร เพราะกำลังจะไปทะเล
ก็ไส่ขาสั้นเสื้อเชิ๊ด แล้วก็ขุดเล่นน้ำข้างใน

เข้าไปหน่อยเดียว ก็เจอชายคนนึง  เดินเข้ามาหาหา
แล้วก็มาถามว่า มาหาใคร  เค้าก็บอก หลวงพ่อไม่อยุ่ คนนิมนต์ไปข้างนอก 

เมก็คิดไปก่อนแล้ว ก็คงเป็นคนที่วัด ก็เรยเรียนบอกไปว่า เมผ่านทางมา จะไปทะเล
 แต่ เห็นป้ายสำนักท่านอยู่เลยแวะมากราบพระค่ะ

ชายคนนั้นก็บอกที่นี่ มีที่เที่ยวหลายที่ มีถ้ำต่างๆ มีที่พักด้วย
ในถ้ำด้านหน้านี้จะมีพระพุทธรูป น้องเข้าไปไหว้พระก่อนมั๊ย

ก็เรยขออนุญาตเข้าไปไหว้พระหน้าถ้ำ จุดธูปเทียน
ก็ไม่ได้เอาอะไรมาเพราะไม่ได้ตั้งใจแต่แรก เลยเปิดกระเป๋าตัง เอาเงินไส่หีบทำบุญ 

ก็ระหว่างเปิดกระเป๋า ชายคนนั้น ก็ยืนมองอยุ่ไม่ไกล
หีบที่จะไส่เงินทำบุญ ก็ดูแล้วผุพัง แต่ก็ยังไม่ได้คิดอะไร 
ไส่เงินลงไปทำบุญ ลงไป 
แล้วก็ชวนเพื่อน เดินชมในถ้ำ

ชายคนนั้นก็บอก ด้านหน้ามีถ้ำอีกหลายถ้ำ เดินตามหน้าผานี่ไปได้ 
แล้วเค้าก็ชี้ทางให้เดินไป ก็ทางเดินก็ไม่น่ากลัว เค้าก็คอยชี้ให้ ว่าลองปีนขึ้นบนนี้  เมก็ปีนขึ้นไปดูถ้ำต่างๆ 
แต่เพื่อนเมไม่ได้ปีน เมก็ปีนไปดู ไม่ดีเลย สกปรกมาก มีห่อเศษอาหาร ห่อฟอยด์ มีซองบุหรี่
มีกระป๋องเครื่องดื่มชูกำลัง มีขวดเหล้าด้วย ทิ้งเกะกะ 

ก็เลยปีนลงมา รู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไร เริ่มเสียบรรยากาศแระว่าสกปรกมาก 

เดินมาอีกหน่อย เค้าก้อบอกตรงนี้ก็มีถ้ำ มองไปเห็นอ่าวทะเลได้ 
ก็เลยลองปีนไปดูอีก  ก็พบความสกปรกอีก เป็นเศษขยะ เหมือนเดิม ขวดเหล้าขวดเบียร์เยอะเลย

พอเมปีนลงมา เพื่อนเมบอก ลงข้างล่างกันเถอะ 
ก็บอกพี่เค้าว่า เดี่ยวลงไปดูข้างล่างกัน เค้าก็บอกข้างล่างก็มีถ้ำ แล้วเค้าก็ลงนำไป

เพื่อนเมก็มากระซิบบอก ระวังนะ สายตาเค้ามองพวกเราแปลกๆ ไม่น่าวางใจ
แล้วก็ได้กลิ่นเหล้าด้วย
 
เมก็บอกเพื่อนได้กลิ่นเหมือนกัน แล้วก็ข้างบนถ้ำ มีเต็มเลย เล่นเหล้ายาด้วย
ก้อลงมาข้างล่าง ชายคนนั้นก็บอก มาแล้วต้องเข้าถ้านี้ ข้างในสวยมาก 
มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่  แต่ต้องเดินลุยน้ำไปหน่อยนิดเดียว

ชายคนนั้นก็ชวนเข้าไปเถอะ นิดเดียว มาแล้วต้องชมให้ได้ 

แต่เพื่อนเมไม่ยอมเข้าไป  เมก็บอก เดียวเมเข้าไปดูแป๊ปเดียว
ให้เพื่อนกลับไปที่รถ  บอกคนรถเมให้เตรียมพร้อมเผชิญเหตุด้วย

ก็เลยแยกกัน เพื่อนก็กลับไปที่รถ  เมก็เดินตามชายคนนั้นเข้าไปในถ่ำ
ก็เป็นธารน้ำ ประมาณเอว ก็ไม่เป็นไร เพระเมไส่ชุดว่ายน้ำข้างใน เรยลุยตามไป 
น้ำใสมาก เย็นสบาย  ชายคนนั้นก็คอยหันมามอง เรื่อยๆ จนเมต้องกลัดกระดุมคอเสื้อแหละ

พอเข้าไปแป๊ปเดียว ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงดังออกมาจากผนังถ้ำ 

ออก  ออก  เมก็ยังไม่ได้สนใจมาก  ก็เดินลุยน้ำตามไป ว่าจะไปดูข้างในตามที่ชายคนนั้นบอก
แล้วก็ได้ยินเสียง ผู้หญิงดังขึ้นมาอีก ว่า ออก  ออก  

จนเป็นเสียงตะหวาดดังออกมา  ออก เดี๋ยวนี้  ออกเดี๋ยวนี้ 
ก็เรยรุ้สึกท่าไม่ดีแล้ว  คงจะมีเรื่องไม่ดีแน่ 

 เม ก็เรยตะโกนบอกชายคนนั้น ว่ากลับก่อนนะคะ ค่อยมาใหม่ 

แล้วเมก็หันหลัง เดินจ้ำออกมา มาถึงหน้าถ้ำ รถก็มาเทียบ เมก็กระโดดขึ้นรถ 
บอกคนขับ ออกเดี๋ยวนี้ ๆ 
ก็เรยออกไปจากสำนักสงฆ์นั้น ไปนอนเล่นทะเลก่อน

ก็เล่าให้เพื่อนๆฟัง เดินเข้าไป ก็มีเสียงผู้หญิง บอกให้ออก ออก  แล้วตะหวาด ออกเดี่ยวนี้ 
เรยรีบเผ่นออกเลย

เมก็เพื่อนก็พักอยุ่ทะเลหลายวัน แล้วก็ได้ข่าวไม่ดีนัก ตำรวจจับชายคนนั้นไป 
เพราะมีพระในสำนักสงฆ์นั้นมีสององค์ แล้วก็มีผุ้หญิงนักท่องเที่ยว โดนชายคนนั้นเมายาเชือด ในถ้ำนั้น


พอขากลับเม ก็ไปเช่าพระพุทธรูป เอาไปที่สำนักสงฆนั้น เป็นสำนักร้างไปแล้ว
ก็เอาพระพุทธรูปไปตั้งที่นั่น กราบบูชาพระคุณ กราบขอบคุณ 
และก็ขอให้พุทธคุณธรรมคุณ สังฆคุณ จากพระพุทธรุปที่เมนำมา มีแก่ทุกคนที่นั่น 
ที่มาเตือนเม ให้ออกไป 
ให้ได้รับศิริมงคล พ้นทุกข์ไปจากที่นั่นด้วยค่ะ  แล้วก็ลุยเข้าธารน้ำ ไปทะลุอีกด้านนึง 
สวยมาก เป็นเขาล้อมรอบ ข้างในเป็นลานกว้าง สักครึ่งสนามฟุตบอลได้ค่ะ 
เหมือนเยุ่ในปล่องภูเขาไฟ  มีธรรมจักรอันนึง วางเด่นกลางลาน 
แต่มีรอยขุดดินใหม่ๆ หลายหลุมเรย 

นั่นก็มาแบบส่งเสียงเตือนเม ให้ออกไปจากที่นั่น ก่อนที่จะเกิดอันตรายค่ะ
ขอบพระคุณมากๆ 


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ต.ค. 2025, 22:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2226

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


เรื่องผีเรื่องนี้

ก็คงเล่าเป็นเรื่องสุดท้าย นะคะ 
เป็นเรื่องที่ยากมากที่จะเจอ

ช่วงที่เม ได้รับบาดสาหัส เจ็บทั้งกายและใจ 
จิตใจเตลิดเปิดเปิง จนหมอลงความเห็นว่าเป็นจิตเภท

ที่เม เจอนับว่า เป็นผี เป็นปิศาจ ที่ทรงพลัง อำนาจมากที่สุด สุดๆ กว่าที่พบเจอมา
ทั้งที่เจอก่อนหน้า และภายหลัง

มีบันทึกโบราณ  เคยเล่ากล่าวขานกัน

ว่า มีลักษณะเช่นค้างคาว เป็นพญาแห่งปีศาจประเภทปีก เหนือชั้นกว่าการ์กอย 
และบรรดาผู้มีฤทธิ์ ที่มีปีก มากกว่าพวกที่โฉบบินตามโบสถ์วิหาร บินข้ามไกรลาส ข้ามจักรวาล 

บ้างก็กล่าวว่ามี ร่างเช่นโครงกระดูก แบบหนังโบราณ อภินิหารขนแกะทองคำ หรือแบบขี่มอเตอร์ไซค์
เหมือนโกสต์ไรเดอร์ 

ผิวเหมือนงู แบบเดียวกับ ปีศาจงู  นางพญางู นางงูเขียว นางงูต่างๆ นาคสีทันดร และเงือกต่างๆ

บ้างก็เล่ากันว่า มีผมยาว ดังโยคี แบบนางผมขาว
มีฟันแหลมเขี้ยวคม เช่นแดรกคูล่า แบบเดียวปีศาจทั้งหลาย ที่เจาะดูดเลือด  
และบรรดาพวกมีเขี้ยว และกรงเล็บ แบบวูลฟเวอรรีน 

ก็นับว่าเป็นดีเอนเอ เป็นต้นฉบับ ต้นแบบ เป็นต้นแบบเผ่าพันธ์ของปีศาจ อมนุษย อสุรกาย และโอปาติกะทั้งปวง

บางคนก็เล่าว่า มีฤทธิ์เทียบได้เทวดา ราหู อสูรเทพ 
เป็นความยากมากที่จะเผชิญ และต่อกรด้วย  ค่ะ

ด้วยพลังอำนาจ ไม่ว่าจะเป็น ฤทธิ์ต่างๆ เล่ห์กล อุบาย วิชาต่างๆ 
หรือแม้นด้วยการจะสู้ด้วยปัญญา ความรู้นานาประการ  ก็ยากที่จะต่อสู้ด้วย
บารมี การบำเพ็ญ ต่างๆ ก็ไม่อาจทำให้ปีศาจนี้  หวั่นไหว ยำเกรงได้เลย

ความเพียรแสนสาหัส แม้ผึกวิทยายุทธหลายๆล้านชาติ   พบเจอผีมามากต่อมากขนาดไหน 
ถึงจะเป็นเซียนผี เซียนพระ เซียนต่างๆก็
ไม่สามารถเอาชนะ  ไม่สามารถปราบลงได้โดยง่ายเลย

และอำนาจอันยิ่งที่ปิศาจนั้นมี ก็จะทำให้คนที่ไปต่อสู้ หัวสมองแตกเป็นเสี่ยงๆ 
อาเจียรไม่หยุด เหมือนลงนรกทั้งเป็นไปได้เลย ค่ะ

แต่แม้มาด้วยรูปลักษณ์ แสนอัปลักษณ์ ที่เหมือนเอาปิศาจนานาชนิดมาหลอมรวมกัน 

แต่ก็ค่อนข้าง เร้นลับ ไม่ค่อยมีใครได้พบ ไม่ค่อยมีใครกล่าวถึงกันด้วย

เพราะอาจไม่ใช่ การปรากฎตัว แบบพื้นๆ เหมือนพวกหลอน ที่เม เคยเจอ

ไม่ใช่แบบที่เม เจอ ตามบ้าน ตามป่าช้า ตามวัด ตามถ้ำ หรือตามที่ต่างๆ แบบทั่วๆไป ที่หาง่าย เจอง่าย 
ตามคอนเทนต์ ตามรายการผี 

ต่อให้ทรงฤทธิ์กันขนาดไหน ต่อให้มีอาคม จับผีลงหม้อ  อาคมเล่นวิชาปลุกผี ก็ไม่ได้เจอง่ายๆ 

เม เคยได้ยิน คนเล่าเล่ากัน ว่า ซ่อนตัวตามป่าช้ามั่ง ตามที่ต่างๆมั่ง แต่คนเล่าเหล่านั้น ก็ไม่มีใคยเคยเจอ 
คงเป็นเหมือนเรื่องเล่า เป็นนิทาน เป็นตำนาน 

ก็นับว่าโชคดีมีวาสนา นะ ที่เมได้เจอ  

น่ากลัวมาก  แต่ทำให้ใจแช่มชื่น ปิดิยิ่ง สุขยิ่ง
ในความคิด ความรู้สึก ของเมนั้น 
 เมว่า น่ากลัวกว่า ผู้คุมวิญญาณ น่ากลัวกว่ามาร พญามารเสียอีก 

แต่การเจอ กลับร้องว๊าวๆๆเลย   ไม่ได้ร้องกรี๊ดๆเหมือนที่เคยเจอผีอื่นๆ มีความใจดีที่สุด

นั่นแหละทำให้เม ได้เห็น ต้นกำเนิดแห่งชีวิตการเดินทาง ตั้งแต่อดีตเริ่มต้น 
จนถึงปัจจุบันชาติ   ที่ตั้งแต่ชาติแรก เม ก็คอยนั่งขบคิดตลอดเส้นทางเดินทาง 

แต่การพบนั้น ก็ทำให้ เม ต้องหุบปากเงียบสนิท ไปเลย 

ก็ต้องกราบขอบพระคุณอีก  ขอบูชาพระคุณ ในความโชคดีทีพบเจอ 

นั่นก็คือท่าน เวตาล น่ะเอง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ต.ค. 2025, 02:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2226

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


วันฮาโลวีน ก็มาเล่าเรืองผีซะอีกเรื่องนึงค่ะ

เรื่องนี้ก็เกิดวันฮาโลวีน แต่เป็นเมื่อแปดปีที่แล้ว 

ก็เกิดที่บ้านเมแหละค่ะ  
เรื่องก็มีอยู่ว่า บ้านเมอยู่ติดกะศูนย์การค้านึง ต้องผ่านเข้าศูนย์การค้า เข้าไป 
รับบัตรจากรปภก่อน แล้วก็ออกด้านหลัง ไปคืนบัตร 
แล้วก็เลี้ยวไปด้านหลัง ศูนย์การค้า 
ส่วนคนอื่นๆ แลกบัตรเสร็จ ก็เลี้ยวออกไปถนนใหญ๋ 

แต่เม ก็เลี้ยวอีกทาง เพื่อเข้าบ้าน 

ก็จะมีสโมสร มีสระว่ายน้ำ ก่อนจะถึงบ้าน 
สระนั้นก็จะห่างจากบ้านไม่ไกลนัก 

เมเคยไปว่ายน้ำเล่นบ่อยๆค่ะ  แล้วช่วงเรียนเกรด12 ก็เจอพี่คนนึง ที่สระน้ำ 
เค้าเป้นนักกีฬา ว่ายน้ำมหาลัย 
เคยได้อาสา สอนเมว่ายน้ำด้วย สอนว่ายท่าต่างๆ  
ก็นะ พี่เค้าก็น้าตาดี หล่อ หุ่นเพรียว ก็เรยให้เค้าสอนให้ 

แต่ก็ตอนหลังก็ทราบว่าเค้า จมน้ำในสระนั้นเอง

เมไปเรียนต่อ ไม่ได้กลับมาบ้าน นานเลย ก็ได้กลับมาหลังจากนั้น 
วันนั้น ก็รู้สึกเซ็งๆ เรยไปว่ายน้ำเล่นตั้งแต่เช้าเลย ว่ายเล่น นอนเล่นริมสระ
กว่าจะเสร็จ สายมากแล้ว 
ล้างตัวเสร็จ ก็เก็บชุดว่ายน้ำไส่เป้ คว้าไส่เสื้อคลุมไส่ แล้วเดินกลับบ้านไป

ก็รู้สึกขนลุก ซุ่ซ่า ช่วงขนะเดินกลับมา 
พาลก็คิดถึงพี่คนนั้น ว่า ไม่รู้ตอนนี้เป้นไงบ้าง คงมาส่งมั๊ง
เพราะเค้าเคยเดินมาส่ง แล้วเมเคยอนุญาตให้เข้าบ้านด้วย 
พ่อแม่ไม่อยู่หรอกตอนนั้น คริคริ

เมก็กลับบ้าน เข้าไปก็รู้สึกเหมือนจะเป็นไข้ ปวดหัวตุ๊บๆ
เลยไปนอนเดย์เบด ริมหน้าต่างข้างสวนในบ้าน 

แล้วพอนอนลงสักพัพ ตัวก็แข็งไปเรย ขยับตัวไม่ได่้
เหมือนมีอะไรมาตรึงแขนขาไว้
เหมือนมีคนมากดแขน ไว้เมก็พยายามขัดขืน พยายามจะลุกขึ้น
เหมือนรู้สึกมีอะไรมาแตะ ตรงนั้นตรงนี้ ตามลำตัว ก็พยายามเอามือปัด 

รู้สึกว่า เป็นเหมือนน่าจะโดนผีอำแหละค่ะ เคยได้ยินคนเล่ากันมาให้ฟัง 

จะร้องก็ร้องไม่ออก เหมือนมีคนมาสัมผัสร่างกาย ก็พยายามดิ้น พยายามปัดไป 
ลืมตาก็ไม่ขึ้นเลย เหมือนนอนดิ้นทุรนทุรายอยู่ 

จนผ้าคลุมว่ายน้ำหลุดรุ่ยหมด 
นานมาก ที่ต่อสู้อยู่กับอะไรไม่รู้ 

จนมีเสียงสัญญาณกันขโมยดังขึ้นที่บ้าน 
อาการนั้นก็ค่อยๆหายไป แต่เม ก็หอบแฮ๊กๆไปเรย

แล้วเมก็ค่อยลุกขึ้นมาได้ 
เสียงสัญญาณก็ยังดังไม่หยุด เรยเรียกรปภ หน้าบ้านมาถาม ว่ามีอะไร 
รปภ.เค้าก็บอกว่า มีคนปีนเข้ามาสวนหลังบ้าน จับตัวได้แล้ว

ก็เลยออกไปดู ปรากฎว่า เป้็นคนสวนของสโมสร เค้าตัดต้นไม้ที่รั้วฝั่งโน้น  แล้วทำกิ่งหล่นเข้ามาในบ้านเม
เรยปีนเข้ามา  แล้วก็เห็นเม นอนอยู่เลยเคาะหน้าต่างจะบอก ขอนุญาตเก็บกิ่งไม้ที่หล่น เข้ามา 
สัญญาณก็เรยดัง เลยโดนจับได้ 

ก็มีทั้งข่าวดี ข่าวร้าย 
ข่าวร้ายก็คือ โดนผีอำ  ข่าวดีก็คือ สัญญาณกันขโมยดัง ผีหายไป 
แล้วก็ข่าวดี คือ รปภ.จับคนปีนเข้ามาได้ 
แต่ข่าวร้ายอีกก็คือ  เมนอนริมหน้าต่างนั้น แล้วเสื้อคลุุมเม หลุดรุ่ย ไม่ได้ไส่ไร ข้างใน 
ต่อมาก็ไปหาหมอ หมอบอกว่าเครียด จัดยานอนหลับให้กิน

แต่เมคิดว่า เป็นพี่คนที่จมในสระนั้นแน่ๆเลยค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 พ.ย. 2025, 12:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2226

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


ไปเที่ยวถ้ำมั่งดีกว่า 

เมื่อช่วงนั้น เม ก็ยังเด็ก 
ได้กลับไปที่ๆนึง เป็นสำนักสงฆ์เล็กๆ เชิงเขา ไกล้ชายแดน
ไปกะพ่อกะแม่ เม

ที่นั่นมีพระอาจารย์รูปนึง อยู่องค์เดียว
ทราบมาว่า ท่านเป็นศิษย์ของพระอาจารย์ใหญ่ 
หลวงปู่คณาจารย์สายพระอาจารย์ใหญ่ หลายๆองค์ท่านเคยเล่าไห้ฟัง
ท่านรักสันโดษ เลยไปอยู่องค์เดียว

ตอนแรกไปแวะที่พักท่าน อยู่เชิงเขา  ก็ปรากฎว่าท่านไม่อยู่ 
ออกมาปากทาง ชาวบ้านบอกว่า ท่านไปบิณฑบาต บนเขา 
ท่านจะเดินขึ้นไปทุกวัน 

ก็เรยนั่งรถต่อ ไปบนเขา  อีกหลายสิบกิโล
เขาสูงชัน ต้นขับรถหักซ้ายหักขวาเลื้อยเป็นงูไปตลอดทาง 

 ก็ไม่พบ ทหารที่อยู่บนนั้น ก็บอกว่าท่านเพิ่งลงไป
ก็เรยได้เดินเที่ยวดูวิว บนยอดเขานั้น มองไปประเทศเพื่อนบ้านได้ 
ถ่ายรูปเล่นพักนึง ก็นั่งรถลงกลับ

ระหว่างทาง ก็เจอหลวงปู่ ท่านเดินอยุ่ข้างถนน 
พ่อกะแม่ ก็จอดรถ ชวนหลวงปู่ให้นั่งรถลงเขาด้วย
ท่านก็ปฎิเสธ บอกให้โยมไปก่อน เดี่ยวตามไป เจอกันทีที่พักท่าน
ก็เลยปล่อยท่านเดินตามที่ท่านบอก เดินตามหลังรถมา

พอลงมาที่เชิงเขา ก็จอดรถ แล้วก็ปีนเขาขี้นไปหน่อยนึง เข้าไปที่พักท่าน 
ก็เจอท่าน นั่งฉันข้าว อยู่ 
อ่ะ มาเร็วกว่ารถอีกเนาะ
ท่านก็สวดมนต์ให้  แล้วท่านก็พาให้ไปเที่ยวในที่พักท่าน ไปดู ก็เรยเดินตามท่านไป 
ที่นั่นเมเคยไปหนนึงแล้วรู้ว่ามีถ้ำ เรยเอาไฟฉายสปอตไลท์แรงสูงไปด้วย

ที่พักท่าน เป็นถ้ำเล็กๆ มีค้างคาวเกาะอยู่เยอะ 
ขี้ค้างคาวหล่นเต็มหลังคามุ้งเลย ท่านเอาผ้าพลาสติคคลุมไว้บนหลังคามุ้ง
มีที่นอน อาสนะ แล้วมุ้ง กับตู้หนึ่งใบ พวกบาตร จานช้อน เท่านั้นเอง

ท่านก็บอกให้เดินไปด้านหลังซอกหิน ก็เดินเบี่ยงตัวเข้าไป 
ก็ช่วงแรก ยังพอมีแสงบ้าง เพราะ หลังคาถ้ำเป็นช่อง ให้แสงผ่านได้ 
ก็เป็นโถงกว้าง หน่อย ประมาณสัก สิบกว่าเมตร 

ท่านก็บอกไปในอีกซอกนึง เข้าไปอีกถ้ำ

ก็เดินสบายนะ ไม่ต้องปีนป่าย เป็นทางเดินเชื่อมๆกันไป เป็นอุโมง

พอเข้าไปถ้ำนั้น ก็ร้องอุทาน โอมายกอด 

เมเอาไฟฉายสปอตไลท์แรงสูง ส่องเข้าไ ป
มองเห็นผนังถ้ำแต่ที่อยู่ไกล้ๆ  ส่องลึกเข้าไป แสงไม่กระทบผนังถ้ำเลย
กว้างใหญ่มโหฬารมาก  เมว่ากว้างกว่าสนามฟุตบอลอีก ทั้งเพดานถ้้า
ก็สูงลิบ แสงไฟไม่กระทบผนังหรือเพดานถ้ำเลย

กว้างใหญ่ลึกมาก มโหฬาร ฉายไฟเข้าไป มีแต่ความมืด ไม่มีแสงไฟกระทบผนังถ้ำเลย

ท่านก็บอกเข้าไปได้นะ ลึกๆโน้นไปเลย ไปมั๊ย

คงไม่ไหวหละค่ะ เพราะกว้างมาก ไม่เคยพบที่ไหนกว้างลึกอย่างนี้เลย
คงเดินกันหลายวันเกิน

ก็ได้สนทนากะท่านสักพัก ก็ลาท่านกลับ 

ท่านก็สอนให้อยู่ที่จิต เท่านั้นเอง หาให้เจอ 
คำสอนทั้งหมดไม่ได้สอนถึงจิตเลย
มีแต่เจตสิก และรูป หาให้เจอ 

ต่อมาไม่นาน ก็ได้ข่าวว่า ท่านละสังขารไป 

เรื่องราวของถ้ำนั้น มีเล่าขานมากมาย
สามารถทะลุดออกไปหลายจังหวัดได้ แล้วทะลุไปประเทศข้างเคียงได้
บางท่านก็เล่าว่า เป็นทางเข้าไปเมืองบังบด 
ที่ใช้มนต์ปิดทางเข้าไว้ป้องกัน เพราะศัตรู 
บางท่านก็เล่าเรื่องสมบัติในถ้า
บางท่านก็เล่าว่าเคยเข้าไป เจออะไรต่ออะไร 
คุณแม่ชีที่เคยพาเมเที่ยว อีกวัดนึง เล่าให้ฟัง
ว่าต้องเอาเทียนเข้าไป เดินเป็นเดือนๆ จากวัดที่คุณแม่ชีอยู่ 
กว่าจะไปโผล่ที่สำนักสงฆ์นั่นได้
 
ให้เม ไปทางถนนดีกว่า ชั่วโมงเดียวเอง 

แต่ที่เม เอ๊ะๆ มาก เมื่อเข้าไปในถ้ำก็คือ เมื่อส่องไฟไป เหมือนส่องไปในทะเล กะท้องฟ้า 
เพราะไฟที่เอาไปสว่างหลายแสนวัตตเลย
สว่างกว่าไฟหน้ารถอีก 

แต่ยังส่องไปไม่เห็นผนังถ้ำ เพดานถ้ำเลย 
ยังกะส่องไฟไปในทะเล ส่องบนฟ้า ไม่กระทบผนังถ้ำเลย

นั่นก็เป็นเรื่องราวแรกๆ เดี่ยวกะภพภูมิมิติต่างๆ ที่ได้รับรู้ ได้เห็นเจอ
ก็ได้สงสัยว่า จะไปเกิดภพภูมิ หรือมิติ ไหนอีก 

ถ้ำนั้น ก็เป็นหนึ่งในเครือข่ายถ้ำ ที่มีเรื่องเล่ากัน
ว่าเป็นทางเข้าเมืองบังบด  มีทางเช้าหลายทาง ทั้งเชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน 
ทะลุเข้าไปในพม่าและอินเดีย อาณาจักรกว้างไพศาล
ก็มีหลายสำนักปรมาจารย์ด้านต่างๆ  มีนักหาสมบัติ หมอนักขุดทอง 
และผู้ชื่นชอบเรื่องเร้นลับ เข้าไปทดสอบพลังกัน

ก็น่าสนุกค่ะ เร้าความสนใจได้ 
 เม ก็ติดตามเมืองต่างๆเหล่านี้ไป เพราะสอดรู้สอดเห็น 
มากกว่าคนอื่น 

ก็ตอนนั้น อยากรู้ ถ้าไม่รู้ จะรู้จริง รู้แจ้งได้ยังไงเนาะ คะ
s006


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 พ.ย. 2025, 21:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2226

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


เที่ยวต่างประเทศ กันมั๊ยคะ
ที่เมไปบ่อยที่สุด ก็คือ  มาเก๊าาาาาา

ใช้เวลาเดินทางไม่นาน บรรยากาศไม่ร้อน 
อาหารการกิน อร่อย แต่แพง
ข้าวต้มไส่เครือง ถ้วยนึง ตกห้าร้อยกว่าบาท 
กินเมืองไทยได้ ได้สิบถ้วย 

แต่ก็ไป เพราะชอบแบรด์เนม ชอบช๊อปปิ้ง

ที่นั่นก็ผีเยอะมาก  เจอกลางวันแสกๆ ก็เยอะ 
 เมไปที่นั้น จนตม ที่นั่น คิดว่าไปขายตัวแหละ 
ต้องโดนเข้าห้องเย็นซักโน่นซักนี่ มากมาย
ตอบคำถามมากมาย จนตอนหลังเจ้าหน้าที่เค้ารู้แระ
 อีกอย่างก็ค้นคุ้นหน้า เพราะไปเที่ยวบ่อย
ก็โรงแรมที่ไปพัก เค้าก็รับรองให้ ว่า เป็นลูกค้าพิเศษ เพราะไปอยู่ห้องแพง

น่าจะระดับดารา วีวีไอพี มั๊ง คริคริ
ก็ต้องโชว์สเตทเมนท์ ว่าไม่ได้ไปขายตัวนะคะ  แต่มาเที่ยว

ตามโรงแรม ก็จะมีบ่อนคาสิโน 
ก็จะมีคนไทยหลายคน ไปทำงานที่นั่น ไปเป็นรปภ ก็มี ทำเป็นดีเจ เป็นเชฟ เป็นพนักงาน 
ก็เจอหลายคน 
แล้วหลายคน ก็เจอ เป็นผี เป็นผีน้อย เป็นผีพนัน 
ทำให้รู้ว่า เม ก็เกิดมาก็มีโชคดีนะ 
ที่โรงแรม ที่บ่อน ก็จะมีการใช้มนต์ดำ ใช้ฮวงจุ้ย
ทำคานทางเข้าใหญ่ ให้คนเดินโค้ง
สร้างสัตว์มงคลต่างๆ ไว้ขย้ำเหยื่อ ที่เข้ามา 
ก็เป็นของลงอาคมทั้งนั้น 

เพื่อหลอกดูดเงินขย้ำเหยื่อ
ตามโรงแรมก็จะไม่มีระเบียงให้ออกไปได้ เพราะคนเสียพนัน เคยกระโดดออกไป
แต่ ที่ส่วนมาก ทีเมนอน มีระเบียง ออกมานั่งเล่นได้ กระโดดลงไปก็ได้เนาะ

ถ้าใจไม่แข็ง ไม่มีสติ พาหมดตัวได้ง่ายๆ 
ทุกอย่างลวงตา หลอกลวงให้เปย์ เอาเงินไปทิ้งอย่างเดียว 
อีกอย่าง ก็ทุกย่างก้าวจะมีอันตราย ต้องมีสติ มีความรู้สึกตัวด้วย
เพราะสายตาหนุ่มๆที่มองมา มันอันตรายถึงชีวิตได้เลย 

แต่ส่วนดีก็มีอยู่ ข้าวของไม่แพง ปลอดภาษี กินอร่อย อยู่สบาย รถเมล์ก็ฟรี พาไปโรงแรมต่างๆฟรี 

มีครั้งนึง เม ไป ระหว่างลงอ่างแข่น้ำ ก็เกิดหน้ามืด บ้านหมุนติ้วๆ
เกือบจมน้ำในอ่างตายแระ 
ก็รู้ทันที มีอะไรแปลกๆซะแล้ว
อาการไม่หาย ก็ดูอาการมันไป ทำไรไม่ได้ เพราะไม่ใช่เรา 
ก็ดูซากเมไปแหละ จนอาการดีขึ้น ก็เดินลงลิฟไป จะไปหาไรทานพอลงลิฟต์ ก็เป็นอีก บ้านหมุนติ้วๆ จนต้องคลานออกจากลิฟต์
ก็เรยเดินเซๆไป นั่งห้องอาหารแห่งนึง
ทางนั้นก็บริการดีมาก จัดให้เมนั่ง แล้วก็แนะนำไวน์ 
เค้าก็เอาไวน์มาเสริฟ ก็เลยได้ซดไป อาการบ้านหมุน ก็หมุนเหมือนเดิม 
แต่ก็ ได้พิษไวน์ไปด้วย 
ก็ดีนะ พิษล้างพิษไป 
อาการบ้านหมุนเพราะสุขภาพหายไป 
กลายเป็นหมุนเพราะไวน์แทน   555

ก็เรยเดินเซไปเซมา ลงไปเจอบ่อน 
ก็เจอผีพนัน มากมาย กำลังง่วนอยู่
ไม่มีใครสนใจเม  แล้วก็เดินลงไป เข้าร้านไปช็อป เสื้อผ้ารองเท้ากะเป๋า
เครื่องสำอางค์จนพอแระ อาการต่างๆก็หายไป เป็นปลิดทิ้ง
แต่ เดินผ่านคาสิโนไป คนอื่นๆก็ยังถูกผีพนันเข้าสิงกันอยู่ 
ผีพนัน เข้าง่ายออกยาก บางคนโดนสิงไปตลอดชีวิตเลย 

smiley


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 พ.ย. 2025, 11:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8617


 ข้อมูลส่วนตัว


แค่อ่านในที่ตั้งหัวข้อก็ผิดแล้ว เลยไม่อ่านเรื่องราวที่แสดง
เพราะในพุทธศาสนานั้นไม่เคยพูดเรื่องผี ถ้าผีมีจริงจะต้องเข้าใจผีอยู่ไหนใน ๓๑ ภูมิ
เลอะเทอะ หาหลักฐานไม่ได้หรอก แค่หลอกตัวเองก็แย่แล้วยังจะนำมาหลอกผู้อื่นอีก

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 พ.ย. 2025, 17:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2226

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


ลุงหมาน เขียน:
แค่อ่านในที่ตั้งหัวข้อก็ผิดแล้ว เลยไม่อ่านเรื่องราวที่แสดง
เพราะในพุทธศาสนานั้นไม่เคยพูดเรื่องผี ถ้าผีมีจริงจะต้องเข้าใจผีอยู่ไหนใน ๓๑ ภูมิ
เลอะเทอะ หาหลักฐานไม่ได้หรอก แค่หลอกตัวเองก็แย่แล้วยังจะนำมาหลอกผู้อื่นอีก

นั่นแน่ คุณลุงหมาน

ว๊าวๆๆๆๆ  นี่แหละคนไม่อ่านหนังสือ   ไปเอาคำพูดใครมาค๊ะ 

ว่าพุทธศาสนาไม่มีผี   

พี่น้องสมาชิกก็จะได้เห็นกัน ว่า คนไม่อ่านหนังสือ ไม่เรียน ปริยัติ  ก็จะเป็นแบบนี้แหละค
ปรามาสพระธรรม สึลพตปรามาส สร้างกรรมหนักซะแล้ว

หลักฐาน เรื่องผี  เยอะแยะๆๆๆๆๆ  ในพระไตรปิฎก   

ในพระไตรปิฎก  หลักฐานเรื่องผี  มีเยอะ มากๆๆๆๆๆๆๆๆ

เมจะบอกให้สั้นๆ 
กามภูมิ เป็นที่อยู่ของ  มนุษย์ ผี   รูปภูมิ เป็นที่อยู่ของมาร  เคยเรียนมั๊ยคะ   พื้นฐานเด็กๆ เลยนะคะ
และในภูมิต่างๆ เวียนไปมาหาสู่กันได้ 

เช่นท่านสักกะ  ลงมาหาพระพุทธเจ้า ไปทำลายเต๊นท์ เดียรถีย์ 
มาดีดพิณ 
เวนิกเปรต มาฟังธรรม ได้


คำว่าผี 
ในพระไตรปิฎก  หลักฐานๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  เพียบ  เลยค่ะ 
ถ้าอ่านหนังสือ ก็จะเจอ เยอะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  มากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
นี่ไงคะ หลักฐานนิดๆหน่อยๆๆ ค่ะ คุณลุงหมาน


พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑  พระวินัยปิฎกเล่มที่ ๑  มหาวิภังค์ ภาค ๑
      [๒๑๘] ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุหมอผีรูปหนึ่ง ปลงชีวิตยักษ์แล้วมีความรังเกียจว่า
      [๒๒๑] ๑. ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งถูกผีเข้า ภิกษุอีกรูปหนึ่งให้ประหารภิกษุ
      ๒. ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งถูกผีเข้า ภิกษุอีกรูปหนึ่งมีความประสงค์จะให้ตาย
      ๓. ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งถูกผีเข้า ภิกษุอีกรูปหนึ่งมีความประสงค์ให้ตาย จึง

พระไตรปิฎกเล่มที่ ๔  พระวินัยปิฎกเล่มที่ ๔  มหาวรรค ภาค ๑
ปรากฏแก่ยสกุลบุตรดุจป่าช้าผีดิบ.  ครั้นแล้วความเห็นเป็นโทษได้ปรากฏแก่ยสกุลบุตร จิตตั้งอยู่
            ๖. ผีเข้าภิกษุ
      สมัยต่อมา ภิกษุทั้งหลายจำพรรษาในกระท่อมผี. คนทั้งหลายพากันเพ่งโทษ ติเตียน
พระผู้มีพระภาค  ตรัสห้ามว่า  ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงจำพรรษาในกระท่อมผี รูปใดจำ
เสนาสนะจำพรรษา  ๔๐. เรื่องจำพรรษาในกระท่อมผี  ๔๑. เรื่องจำพรรษาในร่ม  ๔๒. เรื่อง
            ๖. ผีเข้าสิงภิกษุ ....

พระไตรปิฎกเล่มที่ ๕  พระวินัยปิฎกเล่มที่ ๕  มหาวรรค ภาค ๒
      [๓๖] ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งอาพาธเพราะผีเข้า พระอาจารย์ พระอุปัชฌายะ
ดื่มกินเลือดสด อาพาธเพราะผีเข้าของเธอนั้น หายดังปลิดทิ้ง ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้น
อนุญาตเนื้อดิบ เลือดสด ในเพราะอาพาธเกิดแต่ผีเข้า.


เอาแค่นิดหน่อยนะค๊ะ ที่เหลือ ก็ไปหาอ่านกันเอาเอง อ่านหนังสือมากๆนะค๊ะ หลายๆเล่ม  


Onion_R


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ย. 2025, 00:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2226

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณลุงหมาน คิดว่า พระไตรปิฎก

เป็นศาสนา อะไรคะ ?

ใช่ศาสนาพุทธ หรือเปล่า?

พระไตรปิฎก พระวินัย สังคยานา แปลมา เขียนเรื่อง ผี มา มาผิดๆ หรือคะ ?

คณาจารย์ ครูบาอาจารย์ ที่สังคยานา พระไตรปิฎกมา ท่าน
แปลมาผิดๆๆ เขียนมาผิดๆๆ โดยไม่รู้ ไม่เข้าใจ หรือเปล่าคะ ?

ก็มีหลายคน ตามเมนท์ในเวปต่างๆ เก่งกาจสามารถ
ว่าผีไม่มีในพระไตรปิฎก

ถ้าคำพูดคนเหล่านั้น รวมทั้งคุณลุงหมาน ถูก เป็นจริง

ก็แสดงว่า คณาจารย์ครูบาอาจารย์ ที่สังคยานามา เขียนผิด แปลผิด เข้าใจผิด กันใช่มั๊ยคะ ?

สรุป ใครกันที่เลอะเทอะ หลอกตัวเอง หลอกคนอื่น ?
สรุปใครกัน ที่เลื่อนลอย ไร้หลักฐาน ?

สรุปใครกัน ที่เข้าใจพระไตรปิฎก ดีกว่ากัน ระหว่าง คณาจารย์ ที่สังคยานา กับ คุณลุงหมาน ?








huh


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ย. 2025, 10:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2226

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


ธรรมกาย เริ่มใช้คอม สร้างการ์ตูนแอนิเมชั่น เพื่อเป็นสื่อการสอน เริ่มประมาณ ในปี 2521
โดยทีมงานบริษัทโฆษณา
ส่วน 
พระไตรปิฎก ในคอมน่าจะเป็นฉบับแรก เพราะ เริ่มในปี 2526  จากหลวงปู่วิริยังค์  
โดยใช้ทีมงาน จาก บีดีซี ในไทย และ ดิจิตอลอีควิปเมนต์คอร์ป  อเมริกา
เริ่มใช้งานในวัด เป็นที่แรก ข้อมูลใช้ เครื่อง VAX7500 เป็นตัวเก็บและย่อยไปใช้ในพีซี 

พระไตรปิฏก ในคอมต่อมา  จากมหิดล  เริ่มปี2531  

พระไตรปิฎกในคอม ชุดต่อๆมา ก็มีของธรรมกาย ร่วมกับสมาคมบาลีปกรณ์ 

ชุดฉัฏฐสังคีติของพม่า ชุดมหาจุฬาฯ ชุดมหามกุฏฯ  ชุดธรรมทาน

และอีกหลายๆชุดต่อมา ในเวลาไล่เรี่ยกัน 

เพราะช่วงนั้น เริ่มมีรากฐาน เริ่มตื่นตัว เรื่องคอมพิวเตอร์
และมีแนวคิดจะนำพระไตรปิฎกมาเก็บในระบบคอม กันถ้วนหน้า 

และหลังจากนั้น เวปต่างๆก็เริ่มสร้างขึ้น 
และเอาข้อมูล จากเลเซอร์ดิสค์ จากฮาร์ดดิสก์ รีลเทป จากที่ต่างๆ 
นำมาลง เผยแพร่ตามเวปต่างๆ และยังคงเหลืออยู่ในปัจจุบัน 
เกมที่สนุกและเป็นที่นิยม ในคอมยุคนั้น คือ แพคแมน 

และระบบเก่าๆน้น เม ก็เคยเล่นมาแล้ว ตอนยังเป็นนักเรียนเกรด

เล่นเท่าไรก็แพ้ แล้วก็เลย แก้โปรแกรม เอาชนะแพคแมนได้ เย้ๆๆๆ 

s004


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 25 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร