วันเวลาปัจจุบัน 20 ก.ค. 2025, 23:15  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 426 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 16, 17, 18, 19, 20, 21, 22 ... 29  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มิ.ย. 2013, 22:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


ช่วงนี้ต้องเดินทางตลอด พอตกเย็นก็นั่งเล่นคอม แล้วก็ไปกระโดดน้ำในสระน้ำที่โรงแรมที่พัก เป็นการเปลี่ยนบรรยากาศ การสังเกตุตัวเองก็คือ ตัวรุมๆไหม student พิจารณาเสมอว่า อาการตัวรุมๆคือสภาวะธรรมนั่นเอง ยึดเอามากำหนดรู้ ไม่รู้นะครับว่าทำไมstudentต้องตีทุกอย่างออกมาเป็นธรรม คือเมื่อเกิดอาการขึ้น studentจะพิจารณาว่า เรายังรู้ตัวอยู่ แต่การกำหนดรู้ไม่แน่นแฟ้น เหมือนแรงตกต้องการพักผ่อน ก็จะนอนไปก่อนแล้วตื่นตี3 มานั่งสมาธิ student เองปกติเวลานี้มักจะตื่นขึ้นมาเฉยๆ ไม่รู้เป็นไง ก็ตื่นช่วงนี้ตลอด เลยถือโอกาสนั่งสมาธิเลย นั่งจนรู้สึกว่าเราได้กำหนดธรรมอยู่ ไม่ได้นั่งหานใจเข้าออกเฉยๆ ธรรมกำหนดรู้พอสมควรก้มตัวนอน สักพักก็หลับไปเลย เป็นอย่างนี้ตลอด ต่อโอกาสหน้าครับ

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.ค. 2013, 12:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


เมื่อคืน ได้นั่งสมาธิ จิตคนเราแล่นไปทั่ว จึงได้พิจารณว่า จิตนั้นแล่นหาอะไร หรือคำถามที่ได้เกิดขึ้นเมื่อคืนนั้น จิตแล่นหนีอะไร เพราะสังเกตุตัวเองว่า ตอนหายใจเข้าออกนั้น ความอึดอัดปรากฎขึ้นมา จิตนั้นเตรียมจะถอนออกเพื่อคลายความอึดอัดของลมหายใจ ตรงนี้จึงเกิดเป็นแนวทางเกิดขึ้น แนวทางนี้คือ เราจะไม่ถอนจิตออกจากความอึดอัดนี้ จึงได้กำหนดรู้ต่อไป ความรู้สึกนั้น ไม่เกี่ยวกับความสงบนะครับ เราเรียนรู้ธรรมเพื่อศึกษาธรรมชาติของขันธ์5 ความอึดอัดจึงเป็นธรรมชาติอย่างหนึ่ง ธรรมชาติจึงควรกำหนดรู้ครับ

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.ค. 2013, 09:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


วันนี้ก็ขออนุญาตนอกเรื่องนิดหนึ่ง เพราะ student เป็นลูกหลานคนอุบลราชธานีคนหนึ่ง ซึ่งพิธีแห่เทียนพรรษาก็ได้ผ่านไปด้วยความสมบูรณ์อีกปีหนึ่ง student ก็ไปวัดพระธาตุหนองบัวในสมัยที่อยู่อุบลฯ ตอนยังเรียนหนังสือ ก็บ้านใกล้วัด ปีนี้ก็ขอแสดงความยินดีกับวัดพระธาตุหนองบัวที่แกะสลักเทียนพรรษาได้รับรางวัลที่ ๑ ครับผม

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.ย. 2013, 14:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


เมื่อคืนนั่งสมาธิ ก็ได้คิดพิจารณาไปในทางพระไตรลักษณ์ว่าเราบังคับตัวเราไม่ให้เปลี่ยนแปลงไปไม่ได้ เราพยายามรักษาทั้งคนทั้งสิ่งของมาเป็นของๆเราหรืออยู่กับเราไปตลอดก็ไม่ได้เช่นกัน เมื่อคิดได้อย่างนี้ก็เป็นประโยชน์ต่อการนั่งสมาธิ จิตเราอยู่กับตัวดีขึ้น และกำหนดรู้ธรรมต่างๆได้ลึกซึ้งขึ้น มีจุดกำหนดที่ชัดเจน ก็ถือเอาเป็นข้อปฎิบัติของตนเองและข้อแนะนำสำหรับผู้เริ่มต้นและสนใจเรื่องของการจับอะไรในการเริ่มต้นครับผม

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.ย. 2013, 14:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


มีข้อปฎิบัติที่เกี่ยวข้องกับวิปัสสนาปัญญาที่ส่วนตัวก็ได้ถือเอามาเป็นข้อปฎิบัติ เช่น การอยู่ในที่ๆอำนวย ไม่ร้อนเกินไป ไม่หนาวเกินไป การหลีกเว้นความวุ่นวายจากผู้คนที่มีความวุ่นวายใจ เพราะเราจะพลอยวุ่นวายใจตามไปด้วย การหมั่นเข้าหากัลยาณมิตร ที่ๆ สนใจใฝ่ธรรม เพื่อความเจริญขึ้นของความปิติ ภาษาธรรม่าวว่าอะไรนะครับ เดี๋ยวโอกาสต่อไปจะนำรายละเอียดจากหนังสือมาลงอธิบายเพิ่มเติม และก็หมั่นสร้างความเพียร เป็นต้น ครับผม

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ก.ย. 2013, 04:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


ทุกๆท่านคงจะมีสุภาษิตประจำตัว ผมเองก็มีสุภาษิตไว้ยึดถือเป็นแนวทางฝึกตนเช่นกัน
" ฝนทั่งให้เป็นเข็ม "

นี่แหละครับสุภาษิตประจำตัวผม ผมจะทำความเพียรให้เหมือนกับการฝนทั่ง แม้จะใช้เวลานานขนาดไหน ผมก็จะทำให้ได้ เพราะกิเลสนั้น ไม่ใช่จะขัดเกราภายในวันสองวัน อาจจะอาศัยเวลานานนับเป็นหลายๆภพชาติ หรือหากมีปัญญาก็อาจจะทำได้ภายในชาตินี้ และผลที่ออกมา จะได้ได้เข็ม ไม่ช้าก็เร็วครับผม

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ต.ค. 2013, 00:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


เมื่อตอนเช้า ได้นั่งสมาธิ กำหนดลมหายใจเข้าออก ติดตามลมหายใจหรือกายตั้งแต่เข้าและออก จริงๆนั้นเคยตั้งคำถามว่าเมื่อหมดช่วงจังหวะของลมหายใจจะเกิดอะไรขึ้น ตรงนี้studentขอออกตัวว่า เป็นการตั้งคำถามเพื่อนำไปสู่คำตอบนะครับ คือ ให้หทัยเป็นผู้เสวยความดับลงของธรรมครับ เป็นการสิ้นสุดแห่งความดับลงของธรรม

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ต.ค. 2013, 00:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


เมื่อเช้าผมได้นั่งสมาธิตามปกติ ก็กำหนดรู้ธรรมตามปกติ เช่นหายใจเข้าออก พิจารณาไปเรื่อยๆ ตามลมหายใจเข้าออกไปเรื่อยๆ แล้วย้อนกลับมาที่ความเห็นของตนเอง แล้วนึกถึงคำสอนต่างๆจากพระพุทธเจ้า เรื่องทุกข์ ธรรมใดๆที่เกิดขึ้น นั่นแหละทุกข์ จะละเอียดน้อย ละเอียดมาก ก็ทุกข์ ละเอียดน้อยเราก็รู้ แต่ไม่ต้องไปใส่ใจว่า โอ้ย ยังไม่ดิ่ง ยังไม่ดิ่ง ไม่สงบเลย ไม่ต้องไปใส่ใจ กำหนดรู้ไปเรื่อยๆ ละเอียดไม่ละเอียดก็คือทุกข์ อยู่ๆ ก็เกิดเป็นความรู้ขึ้นมาว่า จิตเราน่ะเกาะธรรมที่เกิด แล้วไหนล่ะตัวเรา ไหนเรา คือ เคยมีความเห็นแบบนี้มาก่อน 2 3 ครั้ง ก็สงสัยอยู่ แต่วันนี้ เป็นความเห็นออกมาว่าอย่างนี้ ต่อพรุ่งนี้ครับ

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ต.ค. 2013, 21:52 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


student เขียน:
อยู่ๆ ก็เกิดเป็นความรู้ขึ้นมาว่า จิตเราน่ะเกาะธรรมที่เกิด แล้วไหนล่ะตัวเรา ไหนเรา คือ เคยมีความเห็นแบบนี้มาก่อน 2 3 ครั้ง ก็สงสัยอยู่ แต่วันนี้ เป็นความเห็นออกมาว่าอย่างนี้ ต่อพรุ่งนี้ครับ


:b12: มาต่อได้แล้ว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ต.ค. 2013, 00:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


ก็มีเรื่องอยากจะเล่าเยาะแยะครับ แต่เป็นเรื่องที่เคยเล่ามาแล้ว เรื่องสติบ้าง จิตเรานี้ยากที่จะบังคับ พอจะสนใจเรื่องนี้ สติก็อ่อนกำลังลงเรื่องนั้น ก็ต้องมาตั้งสติกันใหม่ การบังคับจิตนั้นเป็นเรื่องดีนะครับ แต่ไม่ใช่ไปบังคับสภาวะธรรมที่เกิด เช่นการบังคับจิตให้ตั้งมั่นอยู่ที่ลมหายใจเข้าออก แตไม่ได้หมายความว่าเราต้องไปบังคับการหายใจตนเอง เอกอนมีความเห็นเสริมว่าไงครับ

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ต.ค. 2013, 18:40 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


student เขียน:
ก็มีเรื่องอยากจะเล่าเยาะแยะครับ แต่เป็นเรื่องที่เคยเล่ามาแล้ว เรื่องสติบ้าง จิตเรานี้ยากที่จะบังคับ พอจะสนใจเรื่องนี้ สติก็อ่อนกำลังลงเรื่องนั้น ก็ต้องมาตั้งสติกันใหม่ การบังคับจิตนั้นเป็นเรื่องดีนะครับ แต่ไม่ใช่ไปบังคับสภาวะธรรมที่เกิด เช่นการบังคับจิตให้ตั้งมั่นอยู่ที่ลมหายใจเข้าออก แตไม่ได้หมายความว่าเราต้องไปบังคับการหายใจตนเอง เอกอนมีความเห็นเสริมว่าไงครับ


:b1: ...ไม่มีหรอก...

คนกำลังเดินต้องผ่านการลองโนน่ พิจารณานี่ไปตามประสา
และมันจะค่อย ๆ เป็นภูมิความรู้ความเข้าใจไปเรื่อย ๆ
...

คือ พอดีเอกอน ไม่ได้เจาะจงในเรื่องว่าจะบังคับดี หรือไม่บังคับดี
คือ...จะบังคับก็ได้ จะไม่บังคับก็ได้
มันก็อยู่ที่ว่า เวลาไหนทำอย่างไหนแล้วมันสบาย เท่านั้น


เรื่องที่เป็นระเบียบปฏิบัติอื่น ๆ เอกอนไม่รู้...

:b1: :b1: :b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ต.ค. 2013, 02:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


ตั้งแต่อาทิตย์ก่อน ว่าจะเขียนแต่ไม่มีจังหวะเพราะทำงานตลอด วันนี้หยุดจึงได้โอกาสที่จะเขียนประสบการณ์

ก็กำหนดรู้ไปเรื่อยๆจน คือจริงๆ ผมเองไม่ได้ห่วงเรื่องสมาธิเท่าไหร่ จึงบอกไม่ได้ว่าตอนนั้นสมาธินิ่งขนาดไหน รู้แต่ว่ากำหนดรู้ธรรมชัดเจนมาก ชัดเจนถึงขนาดว่าเสียงเดินของนาฬิกาปลุกจากอีกห้องหนึ่งเข้าถึงโสตและเห็นการกระทบอย่างชัดเจน พิจารณาเห็นตั้งแต่การเกิดขึ้น ดับลงของธรรมอย่างชัดเจน นั่งพิจารณาไปเรื่อยๆก็รู้สึกถึงอีกความรู้หนึ่งที่ยังไงก็ต้องน้อมลงสู่ความเป็นทุกข์ เพราะการอาศัยขันธ์5พิจารณาธรรมต้องอาศัยจิต เจตสิกด้วยหรือนามเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยนั่นเอง สติจึงเป็นเรื่องที่จำเป็นมาก แม้สมาธินั้นก็ต้องอาศัยสติ การสังเกตุจึงต้องดูว่เรามีสติที่เข้มแข็งแค่ไหนเพื่อเข้าไปเห็นสภาวะธรรมที่เกิดขึ้น

การกระทบกันของอายนตะในนอกจึงเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญที่เราห้ามไม่ให้เกิดไม่ได้ ตราบใดที่ยังมีหูที่ได้ยินอยู่ กายที่รับรู้ร้อนหนาวอยู่ เมื่อเห็นแล้วยังต้องเข้าถึงความเป็นทุกข์ของธรรมด้วยว่า ธรรมใดๆนั้นล้วนแล้วแต่เป็นทุกข์ ก็ยังไม่เข้าสู่อารมณ์ครับ ถึงแม้ว่าผมจะกำหนดรู้ได้อย่างข้องกว่าแต่ก่อน เห็นการปรากฎขึ้นของสภาวะ (อาจจะตามความเป็นจริง หรือกิเลสก็ตาม) แต่ผมเองก็ยังหาทางเข้าสู่อารมณ์ไม่ได้ เหมือนว่ารู้ตังว่าพระไตรลักษณ์ยังปรากฎออกมาไม่สม่ำเสมอ ถึงรู้แต่ยังเพลิดเพลินกับธรรม ก็ยังต้องฝึกต่อไปครับผม

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ต.ค. 2013, 10:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ธ.ค. 2009, 00:22
โพสต์: 223

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


eragon_joe เขียน:
student เขียน:
ก็มีเรื่องอยากจะเล่าเยาะแยะครับ แต่เป็นเรื่องที่เคยเล่ามาแล้ว เรื่องสติบ้าง จิตเรานี้ยากที่จะบังคับ พอจะสนใจเรื่องนี้ สติก็อ่อนกำลังลงเรื่องนั้น ก็ต้องมาตั้งสติกันใหม่ การบังคับจิตนั้นเป็นเรื่องดีนะครับ แต่ไม่ใช่ไปบังคับสภาวะธรรมที่เกิด เช่นการบังคับจิตให้ตั้งมั่นอยู่ที่ลมหายใจเข้าออก แตไม่ได้หมายความว่าเราต้องไปบังคับการหายใจตนเอง เอกอนมีความเห็นเสริมว่าไงครับ


:b1: ...ไม่มีหรอก...

คนกำลังเดินต้องผ่านการลองโนน่ พิจารณานี่ไปตามประสา
และมันจะค่อย ๆ เป็นภูมิความรู้ความเข้าใจไปเรื่อย ๆ
...

คือ พอดีเอกอน ไม่ได้เจาะจงในเรื่องว่าจะบังคับดี หรือไม่บังคับดี
คือ...จะบังคับก็ได้ จะไม่บังคับก็ได้
มันก็อยู่ที่ว่า เวลาไหนทำอย่างไหนแล้วมันสบาย เท่านั้น



เรื่องที่เป็นระเบียบปฏิบัติอื่น ๆ เอกอนไม่รู้...

:b1: :b1: :b1:



ข้อมูลเพิ่มเติมครับ อนุโมทนาคุณstudent และคุณeragon_joe ครับ :b8: :b8: :b8:


[๓๕๖]


:b47: ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม ๖ ประการ ย่อมเป็นผู้ไม่ควรเพื่อทำให้แจ้งซึ่งความเป็นผู้เย็นอย่างยิ่ง ธรรม ๖ ประการเป็นไฉน คือ

ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมไม่ข่มจิตในสมัยที่ควรข่ม ๑

ไม่ประคองจิตในสมัยที่ควรประคอง ๑

ไม่ยังจิตให้ร่าเริงในสมัยที่ควรให้ร่าเริง ๑

ไม่วางเฉยจิตในสมัยที่ควรวางเฉย ๑

เป็นผู้น้อมไปในธรรมเลว ๑

:b47: และเป็นผู้ยินดียิ่งในสักกายะ ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม ๖ ประการนี้แล ย่อมเป็นผู้ไม่ควรเพื่อทำให้แจ้งซึ่งความเป็นผู้เย็นอย่างยิ่ง



:b47: ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม ๖ ประการ ย่อมเป็นผู้ควรเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งความเป็นผู้เย็นอย่างยิ่ง ธรรม ๖ ประการเป็นไฉน คือ

ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมข่มจิตในสมัยที่ควรข่ม ๑

ย่อมประคองจิตในสมัยที่ควรประคอง ๑

ย่อมยังจิตให้ร่าเริงในสมัยที่ควรให้ร่าเริง ๑

ย่อมวางเฉยจิตในสมัยที่ควรวางเฉย ๑

เป็นผู้น้อมไปในธรรมประณีต ๑

:b47: และเป็นผู้ยินดียิ่งในนิพพาน ดูกรภิกษุทั้งหลายภิกษุประกอบด้วยธรรม ๖ ประการนี้แล ย่อมเป็นผู้ควรกระทำให้แจ้งซึ่งความเป็นผู้เย็นอย่างยิ่ง ฯ



http://84000.org/tipitaka/read/byitem.php?book=22&item=356&items=1&preline=0&pagebreak=0


:b47: :b47: :b47: :b47: :b47:



อรรถกถา อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต ทุติยปัณณาสก์ สีติวรรคที่ ๔


อรรถกถาสีติสูตรที่ ๑

พึงทราบวินิจฉัยในสีติสูตรที่ ๑ แห่งสีติวรรคที่ ๔ ดังต่อไปนี้ :-

บทว่า สีติภาวํ ได้แก่ ความเยือกเย็น.

ในบทว่า ยสฺมึ สมเย จิตฺตํ นิคฺคณฺหิตพฺพํ เป็นต้น มีอธิบายดังต่อไปนี้


ธรรมดาจิตควรข่มไว้ด้วยสมาธิ ในเวลาที่ฟุ้งซ่าน.

ควรข่มด้วยความเพียร ในเวลาที่จิตตกไปตามโกสัชชะ (ความเกียจคร้าน).

ควรให้ร่าเริงด้วยสมาธิ ในเวลาที่จิตขาดความแช่มชื่น.

ควรเข้าไปเพ่งด้วยอุเบกขาสัมโพชฌงค์ ในเวลาที่จิตเป็นไปสม่ำเสมอ.

http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=22&i=356


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ต.ค. 2013, 08:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


อนุโมทนากับคุณ rotala ครับ ก็ยังไม่ได้เข้ามาตอบเสียทีเดียวเพราะว่าข้อความนี้ให้ได้เข้ามาอ่านกันหลายๆคน ผมเองต้องบอกว่าข่มจิตนั้นต้องได้ใช้ในแต่ละวันแน่นอน เมื่อคืนก็ลุกขึ้นมานั่งสมาธิ3ครั้ง 2ครั้งแรกไม่มีความแน่วแน่ของจิต เพราะอารมณ์ฟุ่งซ่าน ก็นึกถึงความแก่ลง ความพลัดพรากมาช่วย ครั้งที่3 จิตได้เป็นความแน่วแน่ลงบ้างพอให้กำหนดรู้ธรรม พอตอนเช้าก็มีข่าวของพระสังฆราช ตอนแรกก็ยังไม่อยากเชื่อ พอทำใจได้ก็ยอมรับและคิดถึงคำสอนของท่านและการปฏิบัติของท่านตามแนวทางของพระอริยสงฆ์ สู่แดนนิพพานสมเป็นพระอนุพุทธะอีกพระองค์ของโลกครับผม

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ย. 2013, 00:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


เมื่อเช้าก็ได้นั่งสมาธิ กำหนดลมหายใจ ดูอุณหภูมิร่างกาย ดูกระดูกด้วยสัญญา มีสติอยู่ตามส่วนต่างๆของร่างกาย กำหนดธรรมที่เกิดทางอายตนะ เช่นหู แล้วก็สังเกตุอารมณ์ มีความรู้สึกว่าอารมณ์นั้นไม่ชอบเวทนาทางกาย เหมือนอยากเลิกนั่ง ก็สังเกตุดูไปว่าอาการอยากเลิกนั่งนี้ มีอิทธิพลอย่างหนักกับการตัดสินใจจริงๆ ก็ไม่ยอมเลิก นั่งต่อไปตามปกติ หันมาสนใจส่วนต่างๆของร่างกายต่อไปครับ

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 426 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 16, 17, 18, 19, 20, 21, 22 ... 29  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร