วันเวลาปัจจุบัน 19 ก.ค. 2025, 00:26  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 426 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 11, 12, 13, 14, 15, 16, 17 ... 29  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 พ.ค. 2012, 15:40 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


http://media.watnapahpong.org/video/7NM6BMRD2B2W/พุทธวจนสนทนา-ช่วงหลังฉัน-วันที่-15-เมย-2555-ณ-วัดนาป่าพง

เอ่ก อี๊ เอ๊ก เอ้ก


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 พ.ค. 2012, 13:36 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


http://media.watnapahpong.org/video/B2KWW28M4D3B/สนทนาธรรมค่ำวันเสาร์-21-เมย-2555

ประมาณนาที่ที่ 18

:b55: :b55: :b55:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 พ.ค. 2012, 14:08 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


:b17: :b17: :b17:

ความบังเอิญไม่เข้าใครออกใคร :b4: :b4:

http://media.watnapahpong.org/video/B2KWW28M4D3B/สนทนาธรรมค่ำวันเสาร์-21-เมย-2555

ประมาณนาที่ที่ 39

:b55: :b55: :b55:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ค. 2012, 14:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


พอดีมักจะกลับมาเปิดคอมเอาตอนดึกเลยไม่กล้าเปิดเสียง จึงยังไม่ได้ดูเลยที่คุณเอกอนโพส

ช่วงนี้ก็ยังคงอยู่ในการฝึกการกำหนดรู้ ยังคงใช้วิธีเดิมไม่เปลี่ยน ความเป็นปุถุชนคนธรรมดาก็ไม่ต้องบังคับตัว่เอง แต่เผลอเมื่อไหร่กิเลสก็รุมล้อม เล่นเวปจะเข้า3แห่งคือ เฟตบุค เวปธรรมจักร เวปคุณกรัชกาย youtube. ในเนื้อหาธรรมะจะหาหนังสืออ่าน จะมีหนังสือที่อ่านมาตลอด ว่างๆจะเปิดอ่านตลอด คนฝึกธรรมะนั้น ไม่รู้นะส่วนตัวจะระแวงว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นจะเหมาะสมหรือปล่าว ถ้ากำหนดรู้ขันธ์5เมื่อไหร่จะรู้ว่าดี ทำดีแล้ว เหมาะสมแล้ว ตั้งใจเอา แต่ถ้าไม่ได้กำหนดอะไร มักจะเกิดความระแวงตัวเองว่า เราจะทำเรื่องไม่เหมาะสมเกิดขึ้น แล้วจะเกิดความละอายแก่ใจ แต่เผลอตัวก็ทำ เช่นดูเพศตรงข้ามก็ชื่นชมในความสวยน่ารัก แต่ก็ฉุกคิดว่า อย่าให้เกินเลยไปกว่านี้ ส่วนมากจะละสายตาไปที่อื่น การควบคุมตัวเองคือความท้าทาย แต่ก่อนคิดว่าคนเราต้องกอบโกยใช้ชีวิตให้คุ้มในทางโลก แต่ตอนนี้การใช้ชีวิตให้คุ้มคือการเข้ามาเห็นการกระทำตัวเองแล้วพัฒนาในเรื่องการจับธาตุรู้ให้ทันด้วยสติ จึงจะถือว่าใช้ชีวิตให้คุ้มในความคิดตอนนี้

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ค. 2012, 11:39 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


หาหูฟัง...แค่พอใช้ได้..ก็น่าจะ..ok. นะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ค. 2012, 14:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


อ่านตอนแรกงง แต่มาเข้าใจทีหลัง ก็ไม่รู้อยู่มุมไหนของห้องเลยไม่เคยใช้ฟังซักทีครับ

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ค. 2012, 15:35 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ก็จริงเน๊าะ....หูเราก็อยู่นี้...แล้วจะให้ไปหาหูที่ไหนอีก...
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ค. 2012, 18:36 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
ก็จริงเน๊าะ....หูเราก็อยู่นี้...แล้วจะให้ไปหาหูที่ไหนอีก...
:b32: :b32:


:b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 พ.ค. 2012, 03:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


วันนี้เป็นวันหยุดได้มีโอกาสเข้าไปดูและฟังพระอาจารย์ท่านตอบธรรมะก็ดูทั้ง2คริปแลัว ที่คุณเอกอนนำมาลงให้ดู หวนมาดูว่าตัวเองปฏิบัติในแนวไหน จะเห็นว่าแตกต่างกับท่านพูดตรงที่ท่านจิตจับที่ลมหายใจ แต่ตัวผมจิตจับที่หน้าอกไล่ไปที่ท้อง แต่ผมจะใช้จังหวะที่ลมหายใจออกสุด มากำหนดรู้ต่ออีก 2 จุด จุดแรกคือลมหายใจออกสุด อกแฟบลงจะมีอาการไหวของจิตวูบหนึ่ง แล้วกำหนดรู้ต่อ จุด2จะเห็นสังขารตรงกลางอกขึ้นมาถึงศรีษะไหวอีกวูบหนึ่ง ไม่ได้บังคับ ไม่ได้ทำให้เกิดขึ้น แต่ธรรมเหล่านี้เกิดขึ้นและดับลงตามจังหวะของการหายใจเอง แล้วก็เริ่มขบวนการหายใจของรอบใหม่ และก็เป็นวงจรเหมือนเดิม จะสังเกตุตัวเองว่าไม่มีอาการอึดอัดเหมือนหายใจไม่ทั่วท้อง หรืออาการบังคับลมหายใจเหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาก่อน จริงๆผมก็พึ่งรู้การกำหนดรู้ในลักษณะนี้ได้ไม่นาน คิดว่าเมื่อเดือนที่แล้ว แต่ก่อนหน้าจะกำหนดรู้ได้1จุดคือเวทนา ต่อด้วยผัสสะหลังอกแฟบลง ยังกำหนดรู้สังขารไม่ได้ หลังออกจากสมาธิก็ลองกำหนดดูจังหวะยุบหนดพองหนดก็กำหนดเห็นเหมือนกัน การกำหนดรู้สภาวะสมาธิเกิดก็ชัดเจนได้ง่าย ก็อยู่ตรงนี้ครับในช่วงนี้ คืออาศัยกันและกันทั้งยุบหนอพองหนอและสภาวะของสมาธิ รวมทั้งสติไม่วิญญาณออกนอก ต่อวันต่อไปครับ
ต้องขอบคุณเอกอนที่นำคริปมาให้เพื่อนๆในเวปได้ดูกัน

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 มิ.ย. 2012, 15:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


วันนี้ก็มีเรื่องเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับเมื่อคืนนี้ พอกำหนดรู้ขันธ์5ไปเรื่อยๆ จึงพิจารณาว่า เดี๋ยวจิตก็ไปจับเอามุมนี้ เดี๋ยวจิตก็ไปกำหนดรู้มุมใหม่ สลับกันระหว่างรูปและนาม ก็พิจารณาว่านี้ทุกขัง ความเป็นก้อนคือเป็นทุกข์ พิจารณาไปเรื่อยจึงเกิดคำถามว่า แล้วนี่ทุกขัง อนิจจังเป็นอย่างไร พิจารณาไปพร้อมกำหนดรู้ขันธ์5ด้วยสติ เห็นความกำหนดรู้ว่าสภาวะจริงๆอยู่ตรงกำหนดรู้ ที่หลอกและปรุงแต่งคือเห็นเป็นตัวตน ไม่ว่ากำหนดจุดไหน ก็ปรุงแต่งออกมาเป็นตัวตน เหมือนได้ยินเสียงคุ้นหูก็ปรุงแต่งเห็นเป็นเสียงรถบ้าง เสียงคนบ้าง ทั้งๆที่โสตก็ทำงานไป จับทันโสตธาตุ แต่ไม่เห็นความเป็นอนิจจัง เพราะการปรุงแต่งผัสสะเป็นนั่นเป็นนี่ เหมือนกำหนดรู้เวทนา ปวดขาก็ปรุงแต่งว่าปวดขาทั้งๆที่เวทนานั้นเกิดขึ้นและดับลงที่ขันธ์5 แต่ทุกกำหนดรู้ของเราต้องมีผลเป็น ขาบ้าง แขนบ้าง อกบ้าง ปรุงแต่งออกมาเป็นสมมุติสัจจะตลอดเวลา ทั้งที่ก้อนที่รวมกันนั้นคือขันธ์5 จึงเป็นความรู้ใหม่เกิดขึ้นว่า เราไม่ควรปรุงแต่งผัสสะเป็นเราเป็นเขา แต่ทุกผัสสะคืออนิจจังนั่นเอง

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 มิ.ย. 2012, 12:08 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


student เขียน:
วันนี้ก็มีเรื่องเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับเมื่อคืนนี้ พอกำหนดรู้ขันธ์5ไปเรื่อยๆ จึงพิจารณาว่า เดี๋ยวจิตก็ไปจับเอามุมนี้ เดี๋ยวจิตก็ไปกำหนดรู้มุมใหม่ สลับกันระหว่างรูปและนาม ก็พิจารณาว่านี้ทุกขัง ความเป็นก้อนคือเป็นทุกข์ พิจารณาไปเรื่อยจึงเกิดคำถามว่า แล้วนี่ทุกขัง อนิจจังเป็นอย่างไร พิจารณาไปพร้อมกำหนดรู้ขันธ์5ด้วยสติ เห็นความกำหนดรู้ว่าสภาวะจริงๆอยู่ตรงกำหนดรู้ ที่หลอกและปรุงแต่งคือเห็นเป็นตัวตน ไม่ว่ากำหนดจุดไหน ก็ปรุงแต่งออกมาเป็นตัวตน เหมือนได้ยินเสียงคุ้นหูก็ปรุงแต่งเห็นเป็นเสียงรถบ้าง เสียงคนบ้าง ทั้งๆที่โสตก็ทำงานไป จับทันโสตธาตุ แต่ไม่เห็นความเป็นอนิจจัง เพราะการปรุงแต่งผัสสะเป็นนั่นเป็นนี่ เหมือนกำหนดรู้เวทนา ปวดขาก็ปรุงแต่งว่าปวดขาทั้งๆที่เวทนานั้นเกิดขึ้นและดับลงที่ขันธ์5 แต่ทุกกำหนดรู้ของเราต้องมีผลเป็น ขาบ้าง แขนบ้าง อกบ้าง ปรุงแต่งออกมาเป็นสมมุติสัจจะตลอดเวลา ทั้งที่ก้อนที่รวมกันนั้นคือขันธ์5 จึงเป็นความรู้ใหม่เกิดขึ้นว่า เราไม่ควรปรุงแต่งผัสสะเป็นเราเป็นเขา แต่ทุกผัสสะคืออนิจจังนั่นเอง


:b1:

เป็นผู้ที่มีความตั้งใจในการปฏิบัติจริง ๆ

:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 มิ.ย. 2012, 15:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


วันหนึ่งไปงานศพคุณยายคนหนึ่งที่รู้จักมาเป็นเวลาพอสมควร ก็รู้สึกว่าเป็นโอกาสอันดีที่จะได้กำหนดรู้ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา ก็เลยตั้งจิตไว้ว่า ต้องวางเฉยในเรื่องอารมณ์ ไม่เศร้าไปกับคนอื่น ไม่น้ำตาซึมเพราะคำพูดที่กินใจของลูกหลานคุณยายที่เสียไป เพราะในความคิดช่วง2ถึง3อาทิตย์นี้ไม่มีอะไรมาเป็นใหญ่ในใจเรามากกว่าเรื่องกำหนดรู้ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา แม้ความเศร้าหมองก็จะถูกสลัดออกไป หรือสุขใจในบางเรื่องก็จะต้องมีทุกขัง อนิจจัง อนััััตตาเข้ามาเป็นธรรมให้คิด เช่นดีใจในสิ่งที่ไม่จีรังอะไรแบบนี้ ดังนั้น จุดมุ่งหมายของการไปงานศพจึงมีแต่เรื่องทุกขัง อนิจจัง อนัตตาในความคิด พอเห็นศพก็ทำให้เราได้คิดว่าแม้เราก็จะเป็นแบบนี้ ก็ได้กำหนดรู้สังขารตัวเองบ้าง แทรกไปกับการกำหนดรู้อายตนะ ทาง โสตและ จักษุ เวลาเห็น หรือฟังพระสวด ก็เป็นการเรียนที่ดีอีกวันหนึ่งครับ

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 มิ.ย. 2012, 23:28 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2011, 21:40
โพสต์: 952


 ข้อมูลส่วนตัว


student เขียน:
วันหนึ่งไปงานศพคุณยายคนหนึ่งที่รู้จักมาเป็นเวลาพอสมควร ก็รู้สึกว่าเป็นโอกาสอันดีที่จะได้กำหนดรู้ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา ก็เลยตั้งจิตไว้ว่า ต้องวางเฉยในเรื่องอารมณ์ ไม่เศร้าไปกับคนอื่น ไม่น้ำตาซึมเพราะคำพูดที่กินใจของลูกหลานคุณยายที่เสียไป เพราะในความคิดช่วง2ถึง3อาทิตย์นี้ไม่มีอะไรมาเป็นใหญ่ในใจเรามากกว่าเรื่องกำหนดรู้ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา แม้ความเศร้าหมองก็จะถูกสลัดออกไป หรือสุขใจในบางเรื่องก็จะต้องมีทุกขัง อนิจจัง อนััััตตาเข้ามาเป็นธรรมให้คิด เช่นดีใจในสิ่งที่ไม่จีรังอะไรแบบนี้ ดังนั้น จุดมุ่งหมายของการไปงานศพจึงมีแต่เรื่องทุกขัง อนิจจัง อนัตตาในความคิด พอเห็นศพก็ทำให้เราได้คิดว่าแม้เราก็จะเป็นแบบนี้ ก็ได้กำหนดรู้สังขารตัวเองบ้าง แทรกไปกับการกำหนดรู้อายตนะ ทาง โสตและ จักษุ เวลาเห็น หรือฟังพระสวด ก็เป็นการเรียนที่ดีอีกวันหนึ่งครับ



สุดยอดความเพียร เลยครับ อนุโมทนา ด้วยใจจริงๆๆ
ความเพียร จะทำให้เราพ้นทุกข์

ขอบคุณๆ สาธุ
:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 มิ.ย. 2012, 00:59 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:

ไปงานศพกัน..แต่จะมีกี่คนที่ดูศพ

บางคนดูโลงศพ....ก็ไม่เห็นศพ...จะเอาแต่นิจจัง...ครำครวญว่า..ไม่น่าจะมาเป็นอย่างนั้นอย่างนี้..เลย

จะเอานิจจังท่าเดียว...ก็เลยไม่เห็นอนิจจัง..นี้ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับคนตาย

ส่วนคนอื่น ๆ...ก็คิดแต่ว่า...เราไม่พลาดท่าเป็นโรคนั้นโรคนี้หรอก...เราจะตรวจตราอย่างดี

นี้ก็พวกไม่เอาอนิจจัง...จะเอานิจจังอย่างเดียว...

แม้ที่สุด...คิดหาทางลีกเลี่ยงการตายไม่ได้...ก็หาโลงศพสวย ๆ ..ดอกไม้งาม ๆ ...มาปกปิดอนิจจัง

ดูเถอะ..แม้ที่สุดมันอนิจจังไปแล้ว...ก็ยังพยายามปกปิดอีก

อวิชชา...มันทำงานได้ทุกที่...ทุกเวลา...ทุกสถานะ...เพียงเราจะทันมันมั้ย..เท่านั้น

หลวงพ่อชา..ถ้าจำไม่ผิดนะ..ท่านกล่าวใว้ว่า...

เห็น..ก็เห็นอยู่
รู้..ก็รู้อยู่
แต่..ไม่เอามาพิจารณาให้เป็นปัญญา....

:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 มิ.ย. 2012, 14:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


ถึงวันนี้ศพก็ถูกเผาแล้ว เมื่อ2 วันก่อนสงสัยกินกาแฟตอนดึกเลยนอนไม่หลับ ประกอบกับเหมือนจะเป็นไข้หวัด อาการตัวรุมๆเริ่มเจ็บคอ หลับๆตื่นๆ ทั้งคืน ก็ปรากฏว่า ฝันเห็นแต่โลงศพของยายคนที่เสียไป มีคนรายล้อมแต่ไม่รู้จัก เราตื่นก็เอาสติมาสู้ ก็เลยรู้ว่าเวลาคนที่ป่วย สติจะไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัว จะโดนจิตหลอนท่าเดียว เราก็โดนจิตหลอนทั้งคืน ลุกเข้าห้องน้ำมานอนต่อ ภาพโลงศพก็เข้าฝันเหมือนเดิม จนสว่างปรากฏว่าฝันอยู่เรื่องเดียว ก็เลยเป็นงงว่า เกิดอะไรขึ้น ทำไมเราไม่มีสติในยามที่เราต้องการเจริญสติ ก็ต้องกินยาแก้ไข้ไปจนถึงวันนี้ ก็เริ่มดีขึ้นครับ

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 426 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 11, 12, 13, 14, 15, 16, 17 ... 29  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร