วันเวลาปัจจุบัน 05 พ.ค. 2025, 13:42  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 189 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10 ... 13  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ต.ค. 2011, 00:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


sunflower เขียน:
สติปัฏฐาน4ก็คือการฝึกให้มีสติตลอดเวลาคะ และฝึกพิจารณาถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป และที่เรียกว่า
สติปัฏฐาน4คือการเอาสติพิจารณา กาย เวทนา จิต และธรรมคะ(ถูกเปล่าหว่า s002 )

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=2&t=28061&start=15


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ต.ค. 2011, 10:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 ก.ย. 2011, 15:23
โพสต์: 53

แนวปฏิบัติ: สติปัฏฐาน4
อายุ: 17
ที่อยู่: ก.ท.ม.

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้าว งงคะ s006 การปฏิบัติสติปัฏฐาน4จำเป็นต้องพึ่งญาณด้วยหรอคะ s006 (เห็นในหนังสือสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม- - มีแต่คนที่ไม่มีญาณแล้วมาปฏิบัติ แล้วได้ญาณอ่ะคะ) งง s006


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ต.ค. 2011, 05:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เมื่อครั้งพระพุทธเจ้าตรัสรู้ใหม่ๆ ก่อนที่จะประกาศธรรม ได้ทรงมีพุทธดำริว่า “ธรรมที่เราเข้าถึงแล้วนี้ ลึกซึ้ง เห็นยาก หยั่งรู้ตามยาก สงบ ประณีต ตรรกะหยั่งไม่ถึง ละเอียดอ่อน เป็นวิสัยที่บัณฑิตจะพึงทราบ”

และมีข้อความเป็นคาถาต่อไปอีกว่า

“ธรรมที่เราเข้าถึงโดยยาก เวลานี้ ไม่ควรประกาศ ธรรมนี้มิใช่สิ่งที่สัตว์ผู้ถูกราคะโทสะครอบงำจะรู้เข้าใจง่าย สัตว์ทั้งหลายผู้ถูกราคะย้อมไว้ ถูกกองความมืดคืออวิชชาห่อหุ้ม จะไม่เห็นภาวะที่ทวนกระแส ละเอียดอ่อน ลึกซึ้ง เห็นยาก ละเอียดยิ่งนัก”

ธรรมในที่นี้ หมายถึงปฏิจจสมุปบาท และนิพพาน (จะว่าอริยสัจ 4 ก็ได้ใจความเท่ากัน)

แต่ธรรมเมื่อแยกก็เป็นสองคือโลกียธรรม กับโลกุตรธรรม โลกียธรรมก็คือความขยันหมั่นเพียรการประกอบสัมมาชีพ และหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบต่อกัน เช่นระหว่างบิดามารดาต่อบุตรธิดา เป็นต้น ที่ตรัสในสิงคาลกสูตร

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ต.ค. 2011, 06:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


หลับอยุ่ เขียน:
sunflower เขียน:
สติปัฏฐาน4ก็คือการฝึกให้มีสติตลอดเวลาคะ และฝึกพิจารณาถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป และที่เรียกว่า
สติปัฏฐาน4คือการเอาสติพิจารณา กาย เวทนา จิต และธรรมคะ(ถูกเปล่าหว่า s002 )

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=2&t=28061&start=15



มีพุทธพจน์ในมหาสติปัฏฐานสูตรดังที่ว่า

“ภิกษุทั้งหลาย ทางนี้เป็นมรรคาเอก เพื่อความบริสุทธิ์ของสัตว์ทั้งหลาย เพื่อข้ามพ้นความโศกและปริเทวะ เพื่อความดับไปแห่งทุกข์ และโทมนัส เพื่อบรรลุโลกุตรธรรม เพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งนิพพาน นี้คือสติปัฏฐาน 4”

จะเป็นหญิงหรือชายก็ตาม เมื่อปฏิบัติ (มรรควิธี) ตามหลักนี้ถูกต้องเป็นสัมมาปฏิปทาแล้ว เขาจะอยู่จบ

พรหมจรรย์ที่นี คือว่า ผู้นั้นจะรู้เข้าใจปฏิจจสมุปบาท ดูศัพท์ที่เห็นจนชินตาโสกะ ปริเทวะ ทุกข์

โทมนัส ก็จะเห็นธรรมคือโลกุตรธรรม (ผู้ใด เห็นปฏิจจสมุปบาท ผู้นั้น ย่อมเห็นธรรม ผู้ใดเห็นธรรม ผู้

นั้น ย่อมเห็นปฏิจจสมุปบาท) และเมื่อดับทุกข์ได้แล้ว ก็จึงนิพพานก็เท่ากับนิโรธที่กล่าวในอริยสัจ

ข้อที่ 3

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ต.ค. 2011, 10:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ก.ย. 2010, 09:07
โพสต์: 761

แนวปฏิบัติ: อานาปาฯ
งานอดิเรก: ศึกษาพุทธธรรม
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม
ชื่อเล่น: ปลีกวิเวก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ดูคลิปเหล่านี้ก่อนนะครับนะ :b1:

http://fws.cc/whatisnippana/index.php?topic=80.0

เขาแนะนำเด็กๆให้ภาวนาว่าไง ฟังดู :b14:


:b1: ดูคลิปแล้วสงสารเด็กๆค่ะ

มีญาติเราอยู่คนนึงไม่ทราบไปฝึกนั่งสมาธิที่สำนักไหน..เจ้าสำนักบอกให้ทำพิธีรับขันธ์(ไม่ทราบเป็นอย่างไรเหมือนกัน) บอกว่าเป็นร่างทรงของปู่เจ้าอะไรสักอย่างนี่แหละ พอรับขันธ์แล้วเค้าก็รับดูหมอ
ด้วยการเป็นร่างทรงให้กับปู่เจ้า..ทำนายและแก้กรรมอะไรประมาณนี้แหละเราก็ไม่ค่อยทราบรายละเอียดเพราะไม่เคยสนใจเรื่องพวกนี้และไม่ชอบการดูดวงทำนายทายทัก...หลังจากนั้นมาไม่นานก็รู้สึกญาติเราคนนี้ก็ค่อยๆ เปลี่ยนไปดูเพี้ยน ๆ บอกไม่ถูกคือไม่ปกติน่ะ...พ่อแม่พี่น้องเตือนก็ไม่สนใจทำผิดศีลผิดธรรมไปเรื่อย..เรียกว่าชีวิตวิบัติไปจากความดีก็ว่าได้....น่าสงสาร อย่างนี้เค้าเรียกว่าดำเนินชีวิตผิดไปจากธรรม :b41:

.....................................................
วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน โส เสฏฺโฐ เทวมานุสเส
ผู้ถึงพร้อมด้วยความรู้คู่ความดี คือผู้ที่ประเสริฐสุดในหมู่มนุษย์และเทวดา
วรรคทอง วรรคธรรม โดยท่าน ว.วชิรเมธี


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ต.ค. 2011, 11:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.พ. 2011, 19:56
โพสต์: 1798


 ข้อมูลส่วนตัว


รับขันธ์ก็เหมือนเอาร่างกายไปให้คนอื่นใช้ รวมถึงจิตใจก็จะถูกใช้ตามไปด้วย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ต.ค. 2011, 15:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 ก.ย. 2011, 15:23
โพสต์: 53

แนวปฏิบัติ: สติปัฏฐาน4
อายุ: 17
ที่อยู่: ก.ท.ม.

 ข้อมูลส่วนตัว


งง s006 สติปัฏฐาน4เราฝึกเพื่อตัดกิเลสตัณหาและฝึกให้มีปัญญา ไม่ใช่หรอคะ- - แล้วจะมีสติปัฎฐาน4ไปทำไมในเมื่อคนที่มีกิเลสกับไม่มีปัญญาไม่สามารถฝึกได้ แล้วอีกอย่าง คนธรรมดานั้นย่อมมีกิเลสไม่มากก็น้อย เขามาฝึกเพื่อลดกิเลสตัณหาต่างๆลงเพื่อเข้าถึงนิพพานอ่ะคะ(เข้าใจอย่างนี้อ่ะคะ)

และธรรมหลักใหญ่ที่จขกท.เข้าใจคือ ความไม่ประมาทคะ และการที่เราจะไม่ประมาทเราก็ต้องมีสติ และการที่จะมีสติตลอดเวลาได้ก็ต้องฝึกปฏิบัติสติปัฏฐาน4คะ (จขกท เข้าใจอย่างนี้อ่ะคะ)

และพระพุทธเจ้าท่านไม่ได้ห้ามว่าคนมีกิเลสห้ามปฏิบัติธรรมนี่คะ ท่านแค่บอกว่าไม่เข้าถึงธรรม s006 ดังนั้นก็ต้องปฏิบัติเพื่อลดกิเลสแล้วก็จะเข้าถึงธรรมของท่าน(จขกท เข้าใจอย่างนี้อ่ะคะ)

แล้วในบทพระธรรมคุณ
สันทิฏฐิโก
เป็นสิ่งที่ผู้ศึกษาและปฏิบัติพึงเห็นได้ด้วยตนเอง =>(แล้วถ้าเราไม่ปฏิบัติจะลดกิเลสแล้วเห็นธรรมได้ไงคะ- -)

สรุป

จขกท. เข้าใจว่าธรรมเป็นสิ่งที่ควรปฏิบัติเพื่อเข้าถึงคำสอนของพระพุทธเจ้า ถ้าเราไม่ปฏิบัติสติปัฏฐาน4 เราจะขาดสติ ไม่รู้เท่าทันกิเลสตัณหาในใจ และจะทำให้ไม่เกิดปัญญาในการเข้าถึงคำสอนของท่านคะ

นี่คือความคิดเห็นนะคะ มีใครอยากโต้แย้งอะไรก็ตามสบายคะ s002


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ต.ค. 2011, 17:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สาธุๆๆ ^ ความคิดความเข้าใจ (จขกท. = เจ้าของกระทู้) ข้างบนนั่นใช้ได้เลยครับ ชมด้วยความจริงใจ :b8:

ดูแล้วมีจิตใจใฝ่รู้มุ่งมั่นดีทีเดียว คือ สังเกตจากที่ติดตามกระทู้ของตนอย่างสม่ำเสมอ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ต.ค. 2011, 18:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


sunflower เขียน:
ตอนนี้เวลานั่งสมาธิไม่หลับแล้ว (เพราะหลับมาก่อนตื่นแล้วค่อยสมาธิเลยไม่หลับ)
แต่ก็มีปัญหาอีกอย่าง คือ จิตมันฟุ้งซ่านคะ บางครั้งนั่งสมาธิ พยายามทำให้หายง่วงได้แล้ว แต่พอหายง่วงไม่ทันไร จิตมันก็คิดนู้นนี่ บางครั้งพอดับความคิดฟุ้งซ่านได้ มันก็เริ่มง่วงนอน พอพยายามทำให้ไม่ง่วง จิตมันก็ฟุ้งซ่าน

สุดท้ายกำหนดพองหนอ ยุบหนอได้แค่นิดเดียว แต่ที่แย่ที่สุด คือ จิตมันไปคิดถึงเพลงต่างๆอ่ะคะ (เป็นโรคประสาทรึเปล่าก็ไม่รู้) พอพยายามกำหนดคิดหนอๆไปเรื่อยๆ มันก็หายนะคะ แต่หายไป 2 วิ เพลงมันก็ขึ้นเข้ามาในจิตอีก

เลยกำหนดคิดหนอใหม่แล้วมันก็หยุด พอหยุดก็จะไปกำหนดพองหนอ ยุบหนอต่อ เพลงมันก็แวบเข้ามาในสมองเลย
เลยเริ่มรู้สึกรำคาญ และเริ่มรู้สึกหงุดหงิด ทำยังไงถึงจะดับนิวรณ์ต่างๆได้อ่ะคะ


พึงเห็น คห.นี้ อันที่จริง จขกท.ก็ปฏิบัติสติปัฏฐาน (4) อยู่แล้วนี่

ขณะนั่งกำหนดตามดูรู้ทันอาการท้องพอง-ท้องยุบ เท่ากับกายานุปัสสนา พิจารณากาย

ฟุ้งซ่าน รำคาญ หงุดหงิด เท่ากับธรรมานุปัสสนา พิจารณาธรรม

คิดนู้นนี่นั่น แวบไปแวบมา เท่ากับจิตตานุปัสสนา พิจารณาจิต (หรือความคิด) แม้แต่จิตคิดถึงเพลงก็ด้วย แต่มีสัญญาซึ่งจำเพลงได้ทำงานร่วมด้วย

สรุป ก็คือ จขกท. ปฏิบัติถูกต้องแล้วนะตอนเนี้ย รู้สึกยังไง เป็นยังไง ทั้งทางกาย ทางใจ พึงกำหนดยังงั้น กำหนดให้ทันทุกๆขณะ

นิวรณ์ต่างๆจะดับ เมื่อสมาธิมีมากกว่านี้ ใจเย็นๆ ปฏิบัติไปทำไปอย่างที่ทำนั่นแหละถูกกแล้ว ขณะนั้นๆอะไรเกิดขึ้นกำหนดรู้ทันที

แต่ยังขาดอยู่อย่างหนึ่ง คือ จขกท. ยังไม่ยอมรับสัจธรรมความจริง คือว่า จขกท. จะให้ธรรมะธรรมชาติธรรมดา ซึ่งมันเป็นของมันยังงั้นๆ ให้เป็นตามความต้องการเรา จึงฝืนกระแสธรรม เราจึงเป็นทุกข์เพราะสัจธรรมด้วยประการฉะนี้แล เอวัง :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ต.ค. 2011, 19:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ศึกษาธรรมชาติที่เรียกกันว่าสัญญาที่

http://fws.cc/whatisnippana/index.php?t ... 93#msg9993

แพทย์เรียนรู้เกี่ยวกับโรค และต้องเรียนรู้เรื่องร่างกายอันเป็นที่ตั้งแห่งโรคด้วย ฉันใด

ผู้จะดับทุกข์ เมื่อเรียนรู้ทุกข์ ก็ต้องเรียนรู้เกี่ยวกับชีวิตอันเป็นที่ตั้งแห่งทุกข์ รวมถึงสภาวะแห่งสังขารโลกที่เกี่ยวข้องด้วย ฉันนั้น

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ต.ค. 2011, 22:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


sunflower เขียน:
อ้าว งงคะ s006 การปฏิบัติสติปัฏฐาน4จำเป็นต้องพึ่งญาณด้วยหรอคะ s006 (เห็นในหนังสือสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม- - มีแต่คนที่ไม่มีญาณแล้วมาปฏิบัติ แล้วได้ญาณอ่ะคะ) งง s006

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=2&t=28061&start=15


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ต.ค. 2011, 08:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


จขกท.หายไปไหนครับ :b15:

เคยฟังเพลงทานตะวันมั้ย :b12:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ต.ค. 2011, 10:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ธรรมหลักใหญ่ที่ จขกท.เข้าใจ คือ ความไม่ประมาทคะ และการที่เราจะไม่ประมาทเราก็ต้องมีสติ และการที่จะมีสติตลอดเวลาได้ก็ต้องฝึกปฏิบัติสติปัฏฐาน 4 คะ (จขกท เข้าใจอย่างนี้อ่ะคะ)


ข้อธรรมหลักใหญ่สำหรับใช้ปฏิบัติ สำหรับใช้ฝึกอบรมจิตนั่น ได้แก่สติปัฏฐาน 4 เมื่อปฏิบัติสติปัฏฐานถูกต้อง ก็จะรู้เข้าใจโลกและชีวิตตามเป็นจริง เมื่อเข้าใจโลกและชีวิตตามที่มันเป็นแล้วก็จึงมีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้ด้วยความไม่ประมาท (เหมือนนักกายกรรมผู้เป็นอาจารย์กับศิษย์)

ข้อปฏิบัติหลักย่อยก็อย่างวิธีปฏิบัติแบบ พอง-ยุบ พุทโธ หรือธัมโม สังโฆ นะมะพะทะ หรือสัมมาอรหังเป็นต้น นี้เรียกว่า ข้อปฏิบัติหลักย่อย ข้อปฏิบัติดังกล่าวนี้แหละ จะต้องทำให้คล้อยกับธรรมหลักใหญ่ (ธรรมานุธรรมปฏิบัติ) คือ สติปัฏฐาน 4 อย่าง จึงจะเป็นไปเพื่อความสิ้นทุกข์ โทมนัส อุปายาส

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ต.ค. 2011, 10:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 ก.ย. 2011, 15:23
โพสต์: 53

แนวปฏิบัติ: สติปัฏฐาน4
อายุ: 17
ที่อยู่: ก.ท.ม.

 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่เคยฟังอ่ะคะ- -


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ต.ค. 2011, 10:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 ก.ย. 2011, 15:23
โพสต์: 53

แนวปฏิบัติ: สติปัฏฐาน4
อายุ: 17
ที่อยู่: ก.ท.ม.

 ข้อมูลส่วนตัว


งง s006 ถ้าคนที่ไม่มีญาณปฏิบัติไม่ได้ แล้วคนที่เขาไม่มีญาณแล้วปฏิบัติจนได้ญาณนี่หมายความว่าไงหรอคะ งง s006 (เห็นบางคนเขาปฏิบัติจนเห็นอดีตชาติอ่ะคะ- -)


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 189 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10 ... 13  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร