วันเวลาปัจจุบัน 05 พ.ค. 2025, 15:51  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 23 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ก.ค. 2010, 14:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ส.ค. 2009, 19:31
โพสต์: 169

แนวปฏิบัติ: ดูจิต
งานอดิเรก: ทำดี
สิ่งที่ชื่นชอบ: ทุกเล่มที่ชอบ
ชื่อเล่น: เก็บเกี่ยว
อายุ: 0
ที่อยู่: ในธรรม

 ข้อมูลส่วนตัว


ตอบ คุณ กรัชกาย
ข้อที่ ๑ น้องสาวผม ตอนนี้คงเบื่อแล้วละลูก ๒ แล้ว
ข้อที่ ๒ อาการ ๓๒ มีดังนี้
:b31: ท๎วัตติงสาการปาฐะ
(หันทะ มะยัง ท๎วัตติงสาการะปาฐัง ภะณามะ เส.)
อัตถิ อิมัส๎มิง กาเย, ในร่างกายนี้มี : เกสา ผมทั้งหลาย, โลมา ขนทั้งหลาย, นะขา เล็บทั้งหลาย, ทันตา ฟันทั้งหลาย, ตะโจ หนัง,
มังสัง เนื้อ, นะหารู เอ็นทั้งหลาย, อัฏฐี กระดูกทั้งหลาย,
อัฏฐิมิญชัง เยื่อในกระดูก, วักกัง ไต, หะทะยัง หัวใจ,
ยะกะนัง ตับ, กิโลมะกัง พังผืด, ปิหะกัง ม้าม,
ปัปผาสัง ปอด, อันตัง ลำไส้, อันตะคุณัง ลำไส้สุด, อุทะริยัง อาหารในกระเพาะ, กะรีสัง อุจจาระ, ปิตตัง น้ำดี,
เสม๎หัง เสลด, ปุพโพ หนอง, โลหิตัง โลหิต,
เสโท เหงื่อ, เมโท มัน, อัสสุ น้ำตา,
วะสา น้ำเหลือง, เขโฬ น้ำลาย, สิงฆานิกา น้ำเมือก, ละสิกา น้ำลื่นหล่อข้อ, มุตตัง น้ำมูตร, มัตถะเก มัตถะลุงคัง เยื่อมันสมองในกะโหลกศีรษะ, อิติ ดังนี้แล. :b31: :b40:

.....................................................
รักษาที่ดีไว้ ก่อความดีใหม่ๆ ละๆๆชั่วต่อๆไป


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ก.ค. 2010, 15:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณพิจารณาอาการ 32 ยังไงครับ ?

คุณเก็บเกี่ยว ไปดูวิธีตัดความต้องการ...ของนักบวชชีเปลือยที่นี่

http://fws.cc/whatisnippana/index.php?t ... msg821#new

แต่ไม่แนะนำให้ทำตามนะครับ :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ก.ค. 2010, 15:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เมื่อสิ้นยุคขององค์พระศาสดาแล้ว เวลาล่วงไป และ คำสอนแผ่ไปในถิ่นต่างๆ ความเข้าใจคำสอน

ของพระพุทธเจ้าก็แปรไปจากเดิม และ แตกต่างกันไปได้หลายอย่าง เพราะผู้ถ่ายทอดสืบต่อมีพื้น

ความรู้ การศึกษาอบรมสติปัญญาแตกต่างกัน ตีความหมายพุทธธรรมแผกกันไปบ้าง นำเอาความรู้

ความเชื่อถือเดิมจากลัทธิศาสนาอื่น เข้ามาผสมแทรกแซงบ้าง อิทธิพลศาสนาและวัฒนธรรมใน

ท้องถิ่นเข้าผสมผสานบ้าง

คำสอนบางแง่เด่นขึ้น บางแง่เลือนลงเพราะการย้ำ และเลี่ยงความสนใจ ตามความโน้มเอียง

และความถนัดของผู้รักษาคำสอนบ้าง

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 03 ก.ค. 2010, 15:50, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ก.ค. 2010, 15:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




8DA1E_IMG_2132.jpg
8DA1E_IMG_2132.jpg [ 188.73 KiB | เปิดดู 2086 ครั้ง ]
หลักการหรือคำสอนใดก็ตาม ที่เป็นเพียงการคิดค้นหาเหตุผลในเรื่องความจริงเพื่อสนองความต้องการ

ทางปัญญาโดยมิได้มุ่งหมายและมิได้แสดงแนวทางสำหรับประพฤติปฏิบัติในชีวิตจริง อันนั้น ให้ถือว่า

ไม่ใช่พระพุทธศาสนา โดยเฉพาะอย่างที่ถือว่า เป็นคำสอนเดิมแท้ของพระพุทธเจ้า

viewtopic.php?f=2&t=19015

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 03 ก.ค. 2010, 15:54, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ก.ค. 2010, 20:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ส.ค. 2009, 19:31
โพสต์: 169

แนวปฏิบัติ: ดูจิต
งานอดิเรก: ทำดี
สิ่งที่ชื่นชอบ: ทุกเล่มที่ชอบ
ชื่อเล่น: เก็บเกี่ยว
อายุ: 0
ที่อยู่: ในธรรม

 ข้อมูลส่วนตัว


ไปดูมาแล้ว มันโหดไปครับพระพุทธเจ้าไม่ให้ทำ มันแก้ที่กายไม่จบเหตุมันมาจากใจต้องฝึกใจกัน
การฝึกพิจารณาอาการ ๓๒ นั้น คือ ฝึกเดินจงกรมประมาณ ครึ่งชั่วโมง ยืนพิจารณาอาการ ๓๒ ไปตั้งแต่ภายนอก ผม ขน หนัง เล็บ ฟัน และพิจารณา ภายใน ตั้งแต่เนื้อ ไปจนถึงเยื่อมันสมอง ว่าเป็นของไม่สะอาด ร่างกายนี้ประกอบไปด้วยธาตุทั้ง ๔ เมื่อธาตุทั้งไม่ทำงานไม่สมดุล เมื่อไรย่อมเกิดเวทนาต่างๆ และที่สุดเมื่อธาตุทั้ง๔ นี้ดับไป ร่างกายนี้ย่อมเกิดเน่าเหม็นเป็นของน่าเกลียดไม่สะอาดเลย เมื่อพิจารณาไปอย่างนี้เรื่อยๆ จึงเริ่มมานั่งสมาธิต่อไป
ที่ผมว่าน้องสาวทำ ๓ วันนั้นเร็วกว่าผม ๑๐ ปี นั้น คือเขาพิจารณาร่างกายตามขั้นตอนต่างๆแล้วเขาเห็นไปตามอย่างนั้น เช่น เห็นว่าเนื้อน่า หนองไหลออก มีกระดูกต่อกันเป็นท่อน และนำร่างกายที่พิจารณาแล้วนั้นมาเผาจนเป็นเถ่าถ่าน ที่เห็นนั้นคือการเห็นร่างกายของตนเอง ผมนั้นเห็นโดยสัญญาจากการจนจำมาจึงไม่เกิดการสลดสังเวณ เพราะไม่เห็นจากร่างของตนนั้นเอง ตัวราคะจึงไม่ดับ ที่ไม่แรงมากไปเพราะกำกับด้วยศีลอยู่นั้นเอง ทุกวันนี้ก็ทำบ้างเล่นบ้างไม่รีบแล้ว เพราะรีบแล้วมันไม่ได้ดังใจสักที :b17:

.....................................................
รักษาที่ดีไว้ ก่อความดีใหม่ๆ ละๆๆชั่วต่อๆไป


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ก.ค. 2010, 10:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เก็บเกี่ยว เขียน:
การฝึกพิจารณาอาการ ๓๒ นั้น คือ ฝึกเดินจงกรมประมาณ ครึ่งชั่วโมง ยืนพิจารณาอาการ ๓๒ ไปตั้งแต่ภายนอก ผม ขน หนัง เล็บ ฟัน และพิจารณา ภายใน ตั้งแต่เนื้อ ไปจนถึงเยื่อมันสมอง ว่าเป็นของไม่สะอาด ร่างกายนี้ประกอบไปด้วยธาตุทั้ง ๔ เมื่อธาตุทั้งไม่ทำงานไม่สมดุล เมื่อไรย่อมเกิดเวทนาต่างๆ และที่สุดเมื่อธาตุทั้ง๔ นี้ดับไป ร่างกายนี้ย่อมเกิดเน่าเหม็นเป็นของน่าเกลียดไม่สะอาดเลย เมื่อพิจารณาไปอย่างนี้เรื่อยๆ จึงเริ่มมานั่งสมาธิต่อไป


พิจารณากว้างไปครับ เหมือนจับปลานอกสุ่ม ความเห็นส่วนตัวนะครับ คุณน่าจะยึดเกาะอาการใด

อาการหนึ่งใน 32 นั้น ที่ปรากฏเด่นชัดขึ้นพิจารณา ทีนี้จะเหมือนจับปลาในสุ่ม

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ก.ค. 2010, 10:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ไปดูมาแล้ว มันโหดไปครับพระพุทธเจ้าไม่ให้ทำ มันแก้ที่กายไม่จบเหตุมันมาจากใจต้องฝึกใจกัน


เห็นด้วยครับ :b8: ถึงแม้รู้เลาๆว่าต้องเริ่มต้นจากข้างใน แต่ก็ไม่ง่ายนักสำหรับภาคปฏิบัติ แม้ว่า

ทางพุทธศาสนาจะมีทางให้แล้ว เพราะว่า...

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 04 ก.ค. 2010, 10:47, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ค. 2010, 14:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คนเก็บเกี่ยวพิจารณาคำบอกเล่าอารมณ์ที่ปรากฏเกิดแก่โยคีท่านหนึ่งดูครับ

(ที่หนูเคยบอกว่านั่งสมาธิแล้วเกิดอะไรแปลก ๆ นอกจากตัวพอง เรื่องเป็นอย่างงี้ค่ะ)

วันที่ฝึกนั่งสมาธิแบบนั่งขัดสมาธิวันแรก (ตอนเช้า) พอกำหนดว่า “ยุบหนอ” “พองหนอ” ซักพัก รู้สึกว่า

อาการตัวพองจะเกิดเร็วขึ้น พอกำหนดว่า “ตัวพองหนอๆๆ” ประมาณ 1-2 นาที คำภาวนาก็หายไปเอง

พอจะกำหนด “ยุบหนอ” “พองหนอ” ใหม่ก็เหมือนมีแรงต้านว่า ไม่ต้องกำหนดแล้ว

เลยกำหนดจิตดูกาย (ไม่แน่ใจว่าทำถูกไหม) คือดูที่คอและไหล่ เห็นกระดูกคอและกระดูกไหล่เป็นสี

ขาว และดูต่อลงไปที่แขนขวาจนถึงมือก็เห็นกระดูกแขนกับกระดูกมือ และเห็นเนื้อสีแดงเข้มดูชุ่ม ๆ

และเหมือนจะแฉะด้วย แล้วก็จะมีภาพพระพุทธรูป มีเฉพาะส่วนศีรษะกับไหล่ขึ้นมา บางทีก็มีวงกลมสี

ขาววนเข้าสู่จุดศูนย์กลางเรื่อย ๆ หรือไม่ก็เกิดวงกลมสีแดงส้ม บางทีก็เป็นแสงสีขาว

พระพุทธรูปจะเห็นหลายครั้ง ครั้งต่อ ๆ มาจะเห็นพระพุทธรูปองค์เดิมแต่เต็มตัวเป็นปางสมาธิ

หรือปางแสดงธรรม หรือปางห้ามญาติ แต่ไม่ว่าจะครึ่งตัวหรือเต็มตัว ก็จะเห็นแต่ทางด้านซ้าย

ก็กำหนดว่า “เห็นหนอ ๆ” อยู่ตลอด และครั้งสุดท้ายที่เห็น ก็เห็นครึ่งตัวแบบที่เห็นครั้งแรก และมีเสียง

ผู้ชายบอกว่า “พอแล้ว” ฯลฯ

viewtopic.php?f=2&t=24320&st=0&sk=t&sd=a&start=15

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 23 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร