วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ค. 2025, 21:56  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 113 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5 ... 8  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มิ.ย. 2010, 18:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


1 มิย. 53

nuchree says:

เสร็จแล้วค่ะพี่
60/30 ค่ะ

เดิน ก็ฟุ้ง นะคะ แบบฟุ้งสลับกะรู้น่ะค่ะ ตอนที่รู้ก็จะรู้กายชัด
เวลายืนหนอ ก็จะรู้สึกถึง ท้องหรือส่วนที่ลากผ่าน แต่จะชุดสุดที่ท้อง
ง่ายขึ้นน่ะค่ะวันนี้ เวลายืนหนอ

ระหว่างนั้นบางทีก็มีภาพแวบๆสลับมาให้รู้แล้วเราก็รู้กายต่อ
มีเวทนาร้อนผ่าวบ้างแต่น้อยแล้วก็เย็นแปลบๆ ตามจุดต่างๆของกาย
กะมีเจ็บๆ เป้นจังหวะๆ แล้วหายไป ตามจุดต่างๆ

พอมานั่งก็
มีรู้ว่ากำลังนังกะมันก็ยังรู้ว่าตัวค้อม หรือกำลังนั่งอยู่ ค่ะ หมดแล้วค่ะ
เด๋วเมมแล้วขึ้นรอบถัดไปค่ะ


เสร็จรอบ สองค่ะพี่
60/20 ค่ะ

เดิน ก็มีฟุ้ง มีบางช่วงก็อยู่กะกายได้ชัดแล้วก้อไปฟุ้ง เปลี่ยนเรื่องอีก ก็กลับมารู้กายต่อ
มีมดกัด มีเวทนาร้อนๆแสบๆบ้าง มีเย็นแปลบๆบ้าง มีจิตอกุศล

พอมานั่งก็
รู้กายนั่ง กะหลงไปปรุงไร้สาระ ก็รู้ด้วยว่าปรุง และกำลังนั่งอยู่ แต่ก็ยังออกไป แล้วก็สลับกะหยุดปรุง
และก็ปรุงอีก สลับกันจนจบค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

จ้ะ ทำต่อไปค่ะ

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มิ.ย. 2010, 03:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


June 02

โดนอีกจนได้...ทางที่ยังมองไม่เห็นจุดจบ...ถูกหลอกมานานว่าการได้สิ่งนั้นสิ่งนี้คือความสุข

2 วันนี้ใจมันเบาๆ ข้างใน จะว่าสุขลั้นลาก็ไม่ใช่ แต่ใจเบาสบาย
ถึงแม้ช่วงนั้นจะฟุ้งก็ยังรู้สึกได้ถึง ความเบา ก็คิดถึงคำพูดพี่น้ำว่าใจเบาเมื่อไรให้ระวังตัว
เจ้ากรรมนายเวรจะมาทวง แต่เราไม่ได้คิดว่าจะมีอะไรนะ เพราะมันเห็นไม่ชัดหรอก

วันนี้ก็โดนเลยคร้าบ อะไรที่เราให้ความสำคัญ มีความสุขได้เพราะมัน
ก็ทำให้เราทุกข์เพราะมันเหลือเกิน...

ครั้งนี้ ก็มีทุกข์ มีโกรธ และถ้าเผลอก็จะคิดอคติ ไม่พอใจเขา ยังสอบตกนะ ส่วนความทุกข์ที่ได้
มันก็เบาลงบ้าง ไม่ขุ่นมัวหรือหนักหัว หนักใจ บีบคั้นเท่าแต่ก่อน แต่ยังสอบไม่ผ่าน
เพราะยังมีการก่อเวรทางใจ คือความไม่พอใจ และอคติ เมื่อไม่ได้กำหนดควบคุม

ทางที่ยังมองไม่เห็นจุดจบ ...ไม่ใช่ไม่มีจุดจบนะ มีจุดจบ แต่เรายังไม่เห็นมัน ที่ไม่เห็นเพราะว่า
เราเดินไปข้างหน้าหวังจะไปถึงปลายทาง แต่แทนที่จะทางจะหดสั้นลงมันเหมือนยืดออกได้
เพราะเรายังไม่สามารถหยุดก่อเหตุได้

ขนาดศีล 5 ยังรักษาแบบบริสุทธิ์ไม่ได้ ข้อที่ผิดมากที่สุดก็มุสานี่ละ รองลงมาก็ปาณาติบาต
มุสาเพราะอะไร บางทีก็เผลอพูดจาเล่นกับเพื่อนแรงๆ หรือพูดไม่ดีกระทบพาดพิงถึงผู้อื่น
โดยไม่ได้ตั้งใจ ถึงเขาจะไม่อยู่ตรงนั้นใจเราหมองลง ส่วนปาณาติบาตเพราะขาดสติเผลอเรอ
เวลาทำโน่นทำนี่ แล้วทำให้สัตว์ตาย อย่างเช่นกวาดบ้านถูบ้าน มี 2 ข้อนี่แหละ ที่ด่างพร้อย
มันเหมือนเราวิ่งขึ้นลิฟท์ที่กำลังลงน่ะ วิ่งๆ แล้วก็เลื่อนลงๆ

ความพอใจ และไม่พอใจ ....เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ยากมากกกกกกก ปกติเราจะต้องติดอยู่เสมอ
ไม่ "พอใจ " ก็ "เสียใจ" ความรู้สึกเฉยๆ นั้นจะเกิดกะเราในช่วงที่ปฎิบัติ

พอออกจากสมาธิแล้วใจจะนิ่งๆ หน่อยไม่ทุกข์ ไม่สุข เพราะไม่ฟุ้งซ่าน
แต่ว่า.....เราสังเกตุว่า มันเป็นความติดใจนะ คือความเฉยๆ ที่เจอนี่มันสุขอีกแบบ
มันเอาอะไรมาเทียบไม่ได้ มันไม่เหนื่อย และสบายๆ เวลาที่เราได้อะไรที่เป็นลาภ
เช่น คำชม เงินทอง สิ่งของ พวกนี้ที่เราเชื่อว่ามันคือความสุข

แต่พอสังเกตุจิตใจ ดีใจเมื่อไรก็มีความโลภเมื่อนั้น โลภเมื่อไรก็ทุกข์เมื่อนั้น จิตใจสกปรก หนัก
และเหนื่อย ไม่เห็นจะต่างกะเวลาทุกข์ แค่คนละอารมณ์กัน ....



ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

กะลังสรุป สภาวะที่เจอช่วงนี้ค่ะ โดนอีกจนได้

สุขที่แท้จริง says:

บททดสอบค่ะ เรามักจะโดนทำข้อสอบแบบไม่ทันได้เตรียมตัวล่วงหน้า ไม่เหมือนข้อสอบทางโลก
มีทั้งปิดเทอมให้อ่านหนังสือ ให้เวลาอะไรๆหลายๆอย่าง แต่ทางโลกแต่เป้นโลกุตรธรรมนี่คนละเรื่องเลย

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ เข้าใจเรื่องศีล5 เพิ่มขึ้นค่ะ ในแบบของหมูนะคะ
ยากนะคะ ศีล 5 เพราะต้องรวมถึงทางใจด้วย

สุขที่แท้จริง says:

ใช่ค่ะ ขนาดหยาบๆนะคะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ ศีล 5 ทางกายมันก็ระดับหนึ่ง ทางใจละเอียดขึ้นมาอีก ซึ่งมันยากเพราะมีแต่สติ
ที่จะช่วยได้ สำหรับหมูนะคะ ถูกหลอกมานาน ว่าการได้ส่งนั้นสิ่งนี้คือความสุข

ดีใจเมื่อไรก็มีความโลภเมื่อนั้น โลภเมื่อไรก็ทุกข์เมื่อนั้น จิตใจสกปรก หนัก และเหนื่อย
ไม่เห็นจะต่างกะเวลาทุกข์ แค่คนละอารมณ์กัน

สุขที่แท้จริง says:
ค่ะ

ม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เสร็จแล้วค่ะพี่
60/30 ค่ะ
ตินเดินก็ฟุ้งง่ายค่ะ ไหลไปอดีด บ้าง อนาคตบ้าง แล้วก็มาตั้งใจรู้กายต่อ
ตอนที่รู้กายก็ชัดบ้าง บางทีก็มีภาพแวบๆๆ

ขณะที่ยังรู้กายอยู่ มีเวทนามดกัด มาห่างๆแล้วหายเร็ว
มีเจ็บๆ ตามกาย ไม่เยอะ

พอมานั่ง
ก็มีรู้ว่ากำลังนั่ง กะหลงไป แล้วก็รู้อีกว่ากำลังนั่งกายค้อมลงก็ยืดกายขึ้น
ก็รู้บ้าง แล้วก็หลงไปบ้างน่ะค่ะ หมดแล้วค่ะพี่
อ้อมี จะปรามาสหรือสบถ ห ยาบๆ ด้วยค่ะก็หยุดไว้ค่ะ

สุขที่แท้จริง says:
หมู ลดนั่งเหลือ 20 ก่อน

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ได้ค่ะพี่
เสร็จแล้วค่ะพี่
40/20 ค่ะ
ก็ฟุ้ง แล้วก็ยังรู้เท้า ก็กำหนดรู้หนอ มีมดกัด มีแสบๆ เย็นๆผิวค่ะ

พอมานั่ง
ก็รู้กายกะ หลงไปคิดๆ คือมันรู้ว่าไปคิด ไม่ได้ถึงกะลืมตัว
ยังรู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ค่ะ แต่ไม่จับกาย หมดแล้วค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

ทำไปเรื่อยๆนะหมู

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ ก็สะสมไป เท่าที่จะทำได้ค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

อย่าไปให้ความคาดหวังกับการปฏิบัติว่า ทำแล้วจะต้องเป็นแบบโน้น แบบนี้
แบบที่หลายๆคนเขาอาจจะดูเหมือนว่า เหมือนๆกัน แต่จริงๆแล้ว ตามเหตุที่แต่ละคนกระทำมา
ความอยาก ระวังนะ นั่นคือตัวสร้างความทุกข์ให้กับตัวหมูเอง

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ใช่ค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

วางไม่ได้ ก็ทุกข์ไปแบบนั้นแหละ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อืม ก็ขึ้นๆลงๆน่ะค่ะ บางทีก็ไม่อยาก บางทีก็อยาก ไม่แน่นอน
แต่จะอยาก หรือไม่อยาก ก็ทำไปเรื่อยๆ น่ะค่ะ

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มิ.ย. 2010, 21:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


3 มิย.


สุขที่แท้จริง says:

อ้าววว ขออภัยค่ะ ที่หัวเราะ ลืมไป กลัวโดน
ไม่อาววว ที่หลังอย่ามาเล่าเรื่องแบบนี้ บางทีพี่ก็ลืมตัว ไปหัวเราะน่ะ
แล้วพี่ต้องมาโดนไปด้วย พี่ไม่อยากโดนหรอกนะคะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อ่อ ค่ะพี่ ได้ค่ะ ไว้วันหลังไม่เล่ารายละเอียดละ

สุขที่แท้จริง says:

จ้าาา อนุโมทนา

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

แต่หมูก็ หุบปากลง นะคะ ตอนจี๊ด น่ะค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

เนอะ ก็ยังเป็นคนนี่เนอะ ยังอดไม่ได้จริงๆ มันก็ขำอ่ะนะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ถึงในใจจะยัง เดือด ใช่ค่ะไม่เป็นไรหรอกค่ะพี่ เป็นหมูๆก็หลุด

สุขที่แท้จริง says:

ขำหมูน่ะ ตอนในบล็อก กับตอนนี้ แหมมม

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ทำไมคะ

สุขที่แท้จริง says:

โดนทดสอบแบบเต็มๆ จำในบลอกของหมูที่เขียนไว้ได้ไหมล่ะบทสรุปน่ะ เหมือนจะทำใจได้

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อ่อ ตอนนั้นน่ะ คิดเลยว่า จะต้องไม่สร้างเหตุแล้ว แต่มันอื้อหือ ของแรงมาก

สุขที่แท้จริง says:

กิเลสน่ะ มันไว หมูบันทึกอะไรลงไป มันทดสอบทันทีเลย คิดว่าแน่นักหรือ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ แต่ก็หุบปากได้ ตอนไคล์แมกซ์หมถือว่าถึงตก แต่ได้คะแนน จิตพิสัย

สุขที่แท้จริง says:

พี่น่ะโดนมาหมดแล้ว ตอนนี้เลยทำให้ระวัง กิเลสมันจ้องงาบ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ลงบล็อกก็โดนด้วย

สุขที่แท้จริง says:

ใช่ค่ะ เจ้าหนี้ทั้งนั้นแแหละหมู ทวงตรงไหนได้ เขาเล่นเราตรงนั้น
ฉะนั้นเวลาเขียน เขียนเรื่องสภาวะดีกว่า โดนน้อยหน่อย เพราะกิเลสมันไม่แน่ใจว่าเราเป็นยังไง

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เออ นะ เหมือนตำราพิชัยสงครามซุนวู

สุขที่แท้จริง says:

โดนมาหมดแล้ว ไม่เห็นเหรอ พักหลังพี่ไม่ค่อยเขียนอะไรมาก

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
แล้วการเขียนลงบันทึก กะการลงบล็อกกิเลสมันเล่นงานต่างกันไหมคะ

สุขที่แท้จริง says:

ต่างค่ะ ถ้าลงบันทึกนี่ ไม่ค่อยมีอะไร ลงบล็อกทีไร เอาละ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เพราะเราอ่านเองคนเดียวไม่ได้ปล่อยไปที่ใคร เหมือนคิดในใจ ไม่ได้ออกมาให้คนรู้

สุขที่แท้จริง says:

คงแบบนั้นแหละค่ะ คือ ชดใช้เหมือนกันนะ แต่ทะยอยใช้ แต่ถ้าลงบล็อกนี่ รู้สึกจะโดนหนัก

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อืมม ต้องจำไว้

เสร็จแล้วค่ะพี่ 60/20 ค่ะ

ก็เดินก็มีแลบไปคิดโน่น คิดนี่ แต่ว่าจะยึดกาย ก็ช่วงไหนฟุ้งมากก็หายใจยาวๆรู้หนอ
หรือออกเสียงการเดินชัดขึ้นก็ช่วยให้อยู่กะการเดินได้ ยังไม่ถึงกะ หลงไปปรุงยาวมาก
แต่มันจะแวบปรุง แวบปรุง น่ะค่ะ

แล้วก็เวทนาจะเป็นพวกร้อนผ่าว แสบผิว เย็นแปลบ
มีมดกัดด้วยแต่จะจางลงเล็กน้อย ต้องสังเกตุและหายไว

พอมานั่ง
ก็ช่วงแรกก็รู้กายนั่ง หลังๆก็ลืมตัว แล้วกายก็ค้อมลง แล้วก็มารู้อีกอืมรู้สึกว่านาน
แล้วก็หมดเวลาค่ะ มีปรามาสด้วยตอนอุทิศส่วนกุศล อยู่ๆลอยขึ้นมา ก็ขอขมาไป

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่
หมูชอบคำนี้จัง มันช่วยให้ สบายใจขึ้น

เสร็จแล้วค่ะพี่
60/20 ค่ะ

ก็รู้กายเดิน แล้วก็ มีกิเลส พวก สบถ ปรามาส แต่มันจะเน้นไปสบถห ยาบๆก็หยุดไว้
แล้วก็ที่เหลือก็ เป็นพวกหลงไปปรุง หลังๆก็ตัววิจาร์ร ก็กำหนดรู้หนอ แล้วเดินต่อ รู้กายต่อได้
มีมดกัด มีแสบๆร้อนๆผิว มดกัดนี่ประปราย จุ๋มจิ่ม

พอมานั่ง
ก็รู้กายได้สักพัก มีมดกัดหรือคล้ายอะไรใชเท้า ทั้งไชทั้งกัดอันนี้ชัด จากนั้นหลงไป
มันก้คิดๆไร้สาระ ก็พยายามจะมายึดกาย ก็คิดไร้สาระให้เห็น

สุขที่แท้จริง says:

รบกับกิเลสตัวเองน่ะดีแล้ว แต่ละคนจะเจอแต่กิเลสลึกๆข้างในของตัวเองที่ถูกขุดออกมาเรื่อยๆ
เข้าใจมั่งหรือยังว่า ทำไมพี่ถึงเห็นแต่ทุกข์ แล้วทำให้ไม่อยากเกิดอีกต่อไป
ต่อให้ชาติต่อๆไปร่ำรวยล้นฟ้ามากมายขนาดไหนก็ตาม

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เข้าใจว่า ผู้ที่มีสติได้ต่อเนื่อง คงจะไม่เห็นสาระอะไร
คือมันมีแต่ทุกข์แล้วก็ยึดอะไรไม่ได้ แต่หมูยังไม่เข้าใจลึกซึ้ง ค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

ทำไปแล้วจะเข้าใจเอง ชีวิตมีแต่ความน่าเบื่อหน่าย

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ก็ลองดูแล้วกิเลสเราก็คือเงาสะท้อน สิ่งแวดล้อมที่เราเจอทุกวันนี้

สุขที่แท้จริง says:

มีแต่ความแก่งแย่ง ชิงดี ชิงเด่น มีแต่ความวุ่นวาย แม้แต่ในวัดก็ยังมีความวุ่นวาย

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ หมูตอนมีพวกกิเลสเอาคนอื่นมาปรุง คิดร้ายกะเขานี่
ก็สงสัยว่าคนอื่นเขาเป็นแบบเราไหม ทำไมเราปรุงแบบนี้คิดไปเองเลย บ้าจัง

สุขที่แท้จริง says:

มากน้อย แตกต่างกันไปตามกิเลสของแต่ละคนค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ มันแปลกดีนะคะ สิ่งที่เราเชื่อ หรือรู้สึกจริงๆแล้ว เป็นสิ่งที่เราสร้างขึ้นเอง

สุขที่แท้จริง says:

แล้วแต่ว่าใครจะมีกิเลสตัวไหนแรงมากกว่ากัน กิเลสตัวนั้นก็จะแสดงออกมาชัดเจน
อุปทานไงหมู การจะหลุดจากอุปทานไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ ก็แวบเดียวก็ปรุงแล้วก็เกิด เชื่อสิ่งที่ตัวเองปรุงไปยาว แล้วก็สะสมๆๆ

สุขที่แท้จริง says:

นี่แหละการเรียนรู้ด้วยตัวเอง จะเห็นแต่กิเลส ไม่ใช่เห็นแต่สิ่งดีๆที่นำมาเขียนแล้วเล่าบอกต่อๆกัน
เห็นสิ่งดีๆ แต่ไม่รู้ว่านั่นคือกิเลสตัวแม่ ที่ผูกให้ยึดติดแน่น ยิ่งกว่ากิเลสอื่นๆอีก

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

สิ่งดีๆ
สิ่งดีๆที่ว่าเช่นอะไรบ้างคะ

สุขที่แท้จริง says:

เช่นสุขไงหมู สุขนี่สลัดได้ยากยิ่งกว่าทุกข์

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

แหมก็มันชอบ ทุกขไม่มีใครอยากได้

สุขที่แท้จริง says:

แล้วจะผ่านไปได้ยังไงล่ะ นั่นใช้กำลังของสติมากกว่ายิ่งกว่าความทุกข์อีกนะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

โหว

สุขที่แท้จริง says:

ความทุกข์เจอบ่อยๆ แขยงแล้ว เข็ดไม่อยากเจอ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

สมมติมีสติแล้วก็จะหลุดจากสุช เหมือนเราหลุดจากทุกข์เป็นครั้งๆไป เหมือนกันปะคะ

สุขที่แท้จริง says:

ทำเองแล้วจะเข้าใจค่ะ แต่ละคนไม่เหมือนกัน
เพราะเหตุแต่ละคนที่ทำมาไม่เหมือนกัน ตอบว่าใช่หรือไม่ใช่ ไม่ได้ทั้งนั้นค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ถ้าติดสุข แล้วสุขหายไปก็คงทุกข์น่าดูนะคะ

สุขที่แท้จริง says:

ก็ตอบไม่ได้อีกแหละค่ะ อาจจะไม่ใช่อย่างที่คิดไว้ก็ได้ แล้วแต่กำลังของสติ สัมปชัญญะของแต่ละคน

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มิ.ย. 2010, 22:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


ลงย้อนหลังเมื่อคืน 4 มิถุนายน 53 เดิน 40/20 รอบเดียว เพราะกลับดึก

เมื่อคืนรวมพล Trainer ไปเจอกันเลยกลับดึก ถึงบ้านประมาณ ตี่ 1.30 เลยทำได้รอบเดียว

40/20
เดินฟุ้งแต่ยังรู้เท้าได้ไม่ถึงกะลืมตัว มีช่วงที่ลืมตัวไปเลยก็มี สักพักก็มารู้ลืมตั ก็ค่อยรู้กายต่อ
มีเย็นแปลบๆ นิดหน่อย นั่งมีรู้กายนั่งภาพรวม ลองดูว่าจับอะไรได้ รู้ท้องขยับพักเดียวและแป๊ปเดียว
ส่วนใหญ่จะรู้ว่ากายนั่งอยู่ในภาพรมมากกว่า จากนั้นมีมดกัดบ้าง คิดๆมัวๆ ตัวงอบ้างแล้วก็มดกัด
และไชที่เท้า แล้วหมดเวลา


5 มิถุนายน 2553 ระหว่างวัน 40/20 และกลางคืน 60/20

40/20

เดิน ฟุ้งซ่าน มีเรื่องที่โดนกระทำผุดขึ้นมา แล้วเกิดความทุกข์ ความไม่พอใจคนที่กระทำ กำหนดรู้หนอ
เดินๆไปอีก มีความทุกข์เรื่องเพื่อนผุดขึ้นมารู้แล้วก็มารู้เท้าต่อ จากนั้นกำหนดยืนหนอก็แวบไปปรุงอกุศล
ปรามาส ดึงกลับมารู้กายต่อ ไปอีก ก็ดึงมารู้กายอีก
มีเทนาเย็นแปลบๆ ที่เท้า ที่กาย มีมดกัดและไชที่เท้า 3 จังหวะแล้วหายไป

ตอนนั่ง มีรู้กายนั่งในภาพรวม แล้วไปปรุงคิดเป็นภาพไร้สาระ แล้วก็รู้แล้วก็ดึงมารูกายนั่งต่อ
แล้วไปเป็นภาพไรสาระอีก มีเวทนามดกัด เย็นแปลบด้วย สลับกะ ไปไร้สะระกะรู้กายภาพรวมนั่ง จนหมดเวลา

60/20

เวลากำหนดยืนหนอ รู้สึกไล่ลงมาจากหัวลงมาที่สะดือ รู้สึกถึงท้อง มีภาพ หนังหรือ
ความคิดเรื่องโน้นนี่แวบเข้ามาขณะที่กำหนดยืนหนอไปด้วย ก็รู้คลอๆกันทั้งภาพ

วันนี้เดินระยะแรก กะระยะที่2 ระยะที่สองจะชัดและมีสติไม่ค่อยฟุ้ง
แต่หลังๆก็มีฟุ้งไปอีก ยังมีคามไม่พอใจสภาวะ

แต่ไม่ได้ฝืน มีความคิดจะให้ค่าสภาวะก็รู้แล้วก็คลายไปไม่ฝืน มีเทนาเจ็บๆเหมือนอะไรไชๆกาย
เป็นจังหวะๆแล้วหายไป มีจะปรามาสก็กำหนดคิดหนอรู้หนอ

พอมานั่งก็รู้อกกะท้อง รอบนี้พอจับท้องกะอกได้นานหน่อยแล้วก็เริ่มมีสม่วงสักพักก็ปรุงๆคิดคลอๆ
กำหนดรู้หนอๆ แล้วก็ต่อด้วยพกเวทนา มดกัดหลายๆจุด แต่ไม่เจ็บมาก
กะมีอะไรไต่ๆ ตัวกะหน้า แล้วก็หมดเวลา

60/20

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ พูดว่า:
เสร็จแล้วค่ะพี่
60/20 ค่ะ

รอบนี้เดินฟุ้งเยอะค่ะ ไปอนาคตแล้วก็พอรู้ก็ มาตั้งใจรู้กายต่อ
เวลากำหนดยืนหนอก็รู้สึกถึงท้องชัดหน่อยค่ะเหมือนมันวิ่งปรู๊ด แต่ก็ไม่เสมอไปค่ะ
แล้วก็มีอกุศลซึ่งๆหน้าทั้งที่กำหนดรู้ตัวอยู่ มันลอยออกไปจะปรุง หยาบๆ ปรามาส
ก็กำหนดรู้หนอคิดหนอ

มีเวทนา เจ็บๆหลังเท้าแปลบๆ เป็นจังหะถี่ๆคิดกันหลายครั้งหลังๆค่อยๆห่างช่วงแล้วหายไป
มีมดกัด หลายครั้งพอรู้แล้ก็จางหายไป ในแต่ละครั้งที่ขึ้นน่ะค่ะ
มีเย็นแปลบๆ มีความอยากมาในรูปแบบความคิดรู้ก็หายไป

พอมานั่ง
ก็หลับตาปุ๊ปก็เห็นจิตมันปรุงงุงิๆ ไร้สาระ ตั้งใจสติเพื่อจับกาย ก็รู้ว่ามีกาย แต่จะเน้นที่พวกเวทนามดกัด
อย่างอื่นเลือนๆจำไม่ค่อยได้ค่ะ หมดแล้วค่ะ

สุขที่แท้จริง พูดว่า:
ค่ะ ยังนั่ง 20 ไปก่อนนะหมู

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ พูดว่า:
ค่ะพี่


June 05
ได้มาเพื่อที่จะเสียไป...

ช่วงนี้ก็รู้สึก เรื่อง ได้มาเพื่อที่จะเสียไปบ่อยๆ อะไรที่เรายินดีกับมัน เราย่อมเสียใจเพราะสิ่งเหล่านั้น
เราได้อะไรมา ก็เห็นเงาของการสูญเสียสิ่งนั้นไป ไม่ว่าจะจากเป็น จากตาย แม้กระทั่งการตอบรับ
ทางความรู้สึก หากเราชอบที่อีกฝ่าย ทำ พูด แสดงออก กับเราแบบนี้ แล้ววันหนึ่งมันเปลี่ยนแปลงไป
แค่นี้เราก็ทุกข์ใจแล้ว พอเขากลับมาทำ พูด แสดงออกกับเราในแบบที่เราชอบอีก เราก็ดีใจ
เพื่อที่จะเสียใจ ในอนาคตอีก

เคยฟังเทศน์ที่ท่านบอก ถ้าจำไม่ผิด ท่านบอกประมาณว่า คนเราไม่รู้เราสามารถปล่อยวางกายใจได้
ไม่ต้องแบกให้หนัก เหมือนกับเด็กคนหนึ่งเมื่อเกิดมาแล้วสมมติกำถังน้ำมาด้วยแล้วก็กำอยู่
ตลอดจนถังน้ำนั้นเหมือนเป็นอวัยวะส่วนหนึ่งของร่างกาย เด็กคนนั้นมันไม่รู้ว่ามันสามารถ
วางถังน้ำนั้นลงได้ มันเข้าใจผิดว่า ถังน้ำเป็นส่วนหนึ่งของตัวมัน

เมื่อเราเจริญสติ เราถึงได้รู้ว่าอารมณ์ทุกข์ใจ ก็เหมือนถังน้ำเราวางมันลงได้
ไม่จำเป็นต้องพกพามันติดตัวไปตลอด
แต่จะวางได้ก็ต้องฝึกฝน ไม่สามารถใช้ความคิดไปแก้ไข

การเจริญสติช่วยแก้ไขปัญหาอย่างถูกวิธี เพราะทำให้เรารู้การกระทำแบบนี้ จะส่งผลยังไงต่อไป
แต่มีหลายครั้งที่โดนกระทบแล้วตอนนั้น เรายังไม่แน่ใจ่ควรกระทำแบบไหน เพราะสติปัญญา
ยังไม่คมชัด เลยยังแยกแยะไม่ชัดเจน

แต่กลับบางเรื่องก็เข้าใจว่าควรทำอย่างไร จริงๆอยากเขียนว่าเรื่องอะไรที่เก็ทแล้ว
แต่กลัวจะโดนทดสอบเรื่องนั้นอีก เข้าข่ายไม่แน่จริง

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 มิ.ย. 2010, 22:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


June 06
6 มิถุนายน 2553 ระหว่างวัน 60/20 และ40/20

60/20

ฟุ้ง ปรามาส เดินระยะ 1 และ 2 แล้วง่วงข้างในจิต ตาสว่างปกติแต่จิตง่ว เปลี่ยนมาเดินระยะ 3
ดีขึ้น มีสมาธิ และกำหนดจังหวะการเดินได้ตรงปัจจุบันมากขึ้น แป๊ปหนึ่งก็เห็นจิตเฉออกจากทาง
ก็ดึงมารู้กายใหม่ มีความอยาก หลายครั้ง กำหนดรู้หนอไป มีมดกัด
พอนั่ง แล้วไม่ค่อยมีสติมันคิดแล้วหลงไป มีรู้สึกตัว เป็นระยะ เวลามีเสียงคนโน้นคนนี้ทำอะไรแทรกขึ้นมาก็จะหลุดจากความคิด แล้วก็ไปอีก มีเวทมาดกัดตอนนั่ง

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ พูดว่า:
เสร็จแล้วค่ะพี่
40/20 ค่ะ
รอบนี้ก็ เวลากำหนดยินหนอ เดินหนอนี่
ก็มีรู้แล้วก็จิตแวบๆไป มีภาพที่ทำไม่ดีไว้แล้วลืมไปแล้ว ไม่ได้คิดว่านี่ไม่ดีที่ทำกะแม่
ก็เลยรู้าเถียงแบบนี้บาป เรื่องนานหลายเดือนแล้ตอนเริ่มปฎิบัติ

แล้วก็อีกแปปก็ภาพที่เคยทรมานสัตว์ ฆ่าสัตว์
เข้ามาจากภาพโน้นไปภาพนี้ ก็กรรมแต่ก็ยังรู้เท้าได้แต่รู้แบบก่อนหน้าที่จะเห็นภาพพวกนี้
ก็จะรู้เท้าไปด้วยแล้วก็รู้ใจไปด้ว ว่าจิตใจตอนรู้กายเป็นไงก็เห็นมันยินดีแล้วก็ยินร้าย
มีความอยากในแต่ละครั้งที่ยินดียินร้ายกำหนดรู้หนอคามอยากนั้นหายไปก่อนแล้ว
แล้วเด๋วมันก็มาอีก แล้ค่อยต่อด้วยภาพที่เคยทำก็เลยไม่ค่อยมีสมาธิ

พอมานั่งก็
มันหลงไปคิดๆแล้วก็มีมารู้ว่ามีกายนั่งหมดแล้วค่ะ

สุขที่แท้จริง พูดว่า:
แต่ลคนเจอบททดสอบไปคนละแบบ
ถึ
งไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ พูดว่า:
อืมแบบที่มันเห็นแบบนี้ก็เป็นการทดสอบ เหมือนกนัถ้า ก็เลิกทำได้เหมือนกันนะคะ

สุขที่แท้จริง พูดว่า:
ค่ะ บางคนเป็นแบบนั้นจริงๆ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ พูดว่า:

เมื่อวานแม่หมูเขาเล่าว่าเขาสวดมนต์ 62 จบมั้งคะพุทธคุณ พาหุงมหากา
แล้วเขาถาม่าทำไมสวดมนแล้วตัวเบาๆ เหมือนไม่มีน้ำหนัก แล้เย็นๆ
เย็นรอบๆ เป็นปีติชนิดหนึ่งใช่ไหมคะ

สุขที่แท้จริง พูดว่า:
กะแล้ว ต้องถามแน่นอน

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ พูดว่า:

หมูบอกเขาไป

สุขที่แท้จริง พูดว่า:
การให้ค่า มัก่อให้เกิดทุกข์ได้ แต่คนเราก็ยังชอบยึดติดกับการให้ค่า

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ พูดว่า:
ค่ะพี่เข้าใจค่ะ

สุขที่แท้จริง พูดว่า:
ครั้งต่อไป แม่จะถามตลอด

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ พูดว่า:
ใช่ค่ะ

สุขที่แท้จริง พูดว่า:
นั่นคือปัญหาของหมู

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ พูดว่า:
หา หมูไม่รู้ก็จะบอกไม่รู้น่ะค่ะ

สุขที่แท้จริง พูดว่า:
ถ้าไม่รู้ ไม่ควรพูดน่าจะบอกกับแม่ไปว่า เด๋วไปถามพี่เขาให้

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ พูดว่า:
อ่า อันนี้ คิดว่าเป็นอุเพงคาปิติ

สุขที่แท้จริง พูดว่า:
นั่นไง

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ พูดว่า:
ง่ะ บอกผิดเหรอคะ

สุขที่แท้จริง พูดว่า:
อีกหน่อยแม่ก็จะมีคำถามตลอด คอยดู

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ พูดว่า:
เองั้นเราต้องพูดไงอะคะ

สุขที่แท้จริง พูดว่า:
บอกว่าจิตเป็นกุศลสิ ไม่ใช่ไปพูดแบบนั้น ทำให้เกิดการยึดติด
ทีนี้จะมีคำถามตามมาตลอดเวลา

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ พูดว่า:
งั้นเด๋วไปแก้ใหม่ค่ะ

สุขที่แท้จริง พูดว่า:
สายไปแล้ว พูดไปแล้ว จิตจำแล้ว

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ พูดว่า:
ง่ะ โอย ปัญญาหมูแยกแยะไม่ได้

สุขที่แท้จริง พูดว่า:
บอกแล้ว เรื่องสภาวะอย่าพูด

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ พูดว่า:
เนี่ยก่อเหตุใหม่เพราะแบบนี้

สุขที่แท้จริง พูดว่า:
คำว่าจิตเป็นกุศล มันจะเป็นคำกลางๆ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ พูดว่า:
ค่ะไว้ใช้ครั้งหน้า

สุขที่แท้จริง พูดว่า:
อีกหน่อย พอสวดมากกว่านี้ สภาวะนี้ไม่เกิด ต้องถามอีก ว่า ทำมากกว่าเดิม
ทำไมปีติที่หมูบอกนั้นไม่เกิด

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ พูดว่า:
หมูบอกมันไม่เที่ยงได้ไหมคะ บอกว่าทำไปเถอะค่ะ สะสมสติสมาธิ

สุขที่แท้จริง พูดว่า:
พี่พูดอยุ่เสมอๆ ว่าอย่าไปให้ค่า ไม่งั้นจะไปยึดติด
บอกว่าทำไปเถอะค่ะ สะสมสติสมาธิ ................. เนี่ยควรใช้มากที่สุด

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ พูดว่า:
ค่ะพี่ ใช้คำนี้แหละ แต่แม่หมูเขาติดแล้วละค่ะ
สวดตั้งแต่ยังสาว เกิดไม่เกิดเขาก็สวด

สุขที่แท้จริง พูดว่า:
แล้วเขาถามหมูทำไม ถ้าเป็นแบบนั้นน่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ พูดว่า:
เขาชอบคุยแนวนี้น่ะค่ะ แต่ต่อไปหมูจะระวังคำพูด
ไม่รู้าเป็นการทำให้เขายึดติด ปัญญายังน้อยอะค่ะ

สุขที่แท้จริง พูดว่า:
เข้าใจเรื่องเหตุที่ทำและผลที่ได้รับมากขึ้นหรือยังคะ ว่าทำไมเราจึงต้องระวัง

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ พูดว่า:
มันละเอียดมากค่ะพี่

สุขที่แท้จริง พูดว่า:
ระวังทุกๆอย่าง ให้อะไรกับใครยังไง เราก็รับผลแบบนั้น

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ พูดว่า:
ค่ะ... มันเป็นขั้นๆ หมายถึง ยังไงดีละคะ ความกระจ่าง
เรื่องนี้ เพราะสติที่น้อย ก็จะไม่มีตัวอะไรบอกว่านี่ส่งผลยังไง

สุขที่แท้จริง พูดว่า:
พี่เข้าใจความรู้สึกของหมูนะ เพราะเมื่อก่อนพี่ก็เป็นแบบหมู เพียงแต่พี่ไม่พูดบอกกับใคร
อ่านดูสิ่งที่เกิดขึ้นเรียกว่าอะไร แค่รู้ แล้วไม่เคยสนใจมัน พี่ถึงบอกไง เหตุสร้างมาแตกต่างกันไป
พี่ได้บทเรียนจากการทำพลาดหลายๆครั้งเรื่องการบอกสภาวงะของคนอื่นๆ ว่าเขาอยู่ตรงไหน
เป็นยังไง พี่ถึงเตือนหมู เพราะรู้ผลรับของมันดี

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ พูดว่า:
ค่ะพี่ ไม่เอาแล้วค่ะ

สุขที่แท้จริง พูดว่า:
เราทำให้คนอื่นยึดติด เราก็จะติด ไม่ก้าวหน้า พี่ถึงบอกไง คำศัพท์ต่างๆ วางไว้ชั่วคราว ไม่นำมาใช้
รู้มาก มันจะยากนาน ยิ่งรู้น้อย ทำให้มากเท่าไหร่ ทางสะดวกมากขึ้น
เพราะมันไม่ต้องไปเทียบเคียงกับอะไร แค่ดูตามความเป็นจริง
อุปกิเลสเกิดเพราะเหตุนี้แหละ การให้ค่า วิปัสสนูกิเลสเกิดเพราะเหตุนี้ อุปทาน
เห็นคนที่รู้ปริยัติเยอะๆไหม พูดเป็นต่อยหอย บรรยายสะอลังการ แต่สภาวะไม่ผ่าน

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ พูดว่า:
ค่ะพี่ ก็เคยเจอ

สุขที่แท้จริง พูดว่า:
ตัวอย่างมีเยอะแยะ หลงสภาวะเห็นไหม
คนที่หลงสภาวะ หลงเพราะอะไร หลงเพราะไปให้ค่า จากการอ่านที่เจอมา
คนแรกหลงก่อนแล้วบันทึกไว้ด้วยความเข้าใจผิดในสภาวะ
คนที่มาอ่าน อ้าวเจอสภาวะเดียวกัน ด้วยความไม่รู้ และเหตุที่เคยทำมาด้วย จึงหลงไปอีกคน

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ พูดว่า:
ค่ะพี่เราดูกิเลสไม่ต้องสนใจว่ามันคืออะไร
แค่ดูว่ามีกิเลสอะไร เกาะเกี่ยวหรือไม่ แล้วปฎิบัติไปเรื่อยๆ พอแล้วนะคะ

สุขที่แท้จริง พูดว่า:
นั่นแหละ ดูไป รู้ว่ามันมี แล้วเจริญสติต่อไป ทำแค่นั้น ไม่ต้องไปให้ค่า ให้ความหมายใดๆ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ พูดว่า:
ได้ค่ะพี่ จะทบทวนเรื่องนี้บ่อยๆและจะระวังในการพูดกับคนอื่นด้วยค่ะ ขอบคุณมากค่ะพี่
ไม่งั้นหมูก็ยังหลงพูด เพราะยังแยกแยะเรื่องนี้ไม่ได้

สุขที่แท้จริง พูดว่า:
ดีแล้วค่ะ ระวังให้มากขึ้น ทำกับใครยังไง เราก็รับผลตามนั้นแหละ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ พูดว่า:
ค่ะพี่ ...กว่าจะมีปัญญาแยกแยะตามความเป็นจริงได้นี่ สร้างเหตุวกนไม่รู้เท่าไรเลยนะคะ

สุขที่แท้จริง พูดว่า:
ใช่เลยย

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 มิ.ย. 2010, 23:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

60/20 ค่ะ
ก้อมีฟุ้ง ระหว่างที่รู้เท้าไปด้วยค่ะ ภาพ โน่น นี่ ความคิดโน่นนี่ แวบๆๆ
มีความไม่พอใจ มีความอยาก มีเจ็บเหมือนโดนเข้มตำบ้าง

แล้วก็พอนั่งก็จะ
มีหลงไปคิดๆ ลืมตัวกะ พอสุด แล้วก็กลับมารูว่ากำลังนั่ง
สลับกันค่ะ หมดแล้วค่ะ มันคิดแบบง่วงๆ น่ะค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

กำลังคิดอยู่

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

จะลดนั่งหรือคะ

สุขที่แท้จริง says:

ใช่จ้ะ
กำลังสมาธิของหมูจะได้เกิดได้แนบแน่นกว่านี้ แล้วค่อยๆปรับเพิ่มในการนั่งใหม่ได้
เมื่อก่อนที่ยังไม่ปรับนั้น ต้องดูอะไรหลายๆอย่าง

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่
งั้นเป็น เท่าไรคะ

สุขที่แท้จริง says:

นั่ง 15 นาที เดิน 1 ชม. ค่ะ
ถ้าจะเดินเกิน 1 ชม. ก็ได้นะ ถ้าเดินได้

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ งั้นขอเริ่มพรุ่งนนี้นะคะ

สุขที่แท้จริง says:

จ้ะ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

คิดถึงพี่น้ำเลยตอนเขาพูดถึงระบบ MLM เวลาเดินเลยขึ้นเรื่องนี้แวบๆตลอด

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ ทุกวันนี้ก็ยังมีคนตามพี่อยู่ แต่พี่บอกว่า นั่นไม่ใช่พี่แล้ว
การขายคือ ความอยากได้ของคนอื่นๆเขา

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อืมม ค่ะเขาบอกหมูว่า หมูอย่าฝันเล็ก เขาบอกว่าฝันเยอะๆจะได้มีพลัง
ค่ะหมูเข้าใจ

แล้วระหว่างเดินก็นะคะ คิดว่าสมมติเข้ามาที่ทางเส้นนี้
อืม สงสัยแทนที่จะขายได้ซื้อแจกเขาแทนคนนั้นก็เพื่อนเรา นี่ก็คนที่ช่วยเหลือเรา
โน่นก็คนป่วยเขาเลยจะซื่อมากินเพื่อรักษษสุขภาพ
แล้วจะไปขายใครลงฟะ

สุขที่แท้จริง says:

ตอนนี้เราอาจจะคิดแบบนี้ แต่จริงๆ อาจจะไม่ใช่ ความคิดเปลี่ยนได้ตลอดเวลาที่เจอกิเลส

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ เพราะบางทีก็โลภ

สุขที่แท้จริง says:

พี่ลงนิทานเซนไปอีกสองเรื่อง กิเลสตัวจริง กิเลสตัวปลอม หมูอ่านแล้วจะเข้าใจป่ะเนี่ย

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

นิทานเซนนี่สนุก เพราะมันไม่เข้าใจนี่แหละค่ะ สำหรับหมูนะคะ มันแบบเหมือนเรื่องที่เดาพล็อตไม่ได้

สุขที่แท้จริง says:

เหมือนตัดนิ้ว

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ แต่ตัดนิ้วนี้ งงมาก พอพี่เล่าก็โห ขนาดนี้เลยเหรอ

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ เด๋วอ่านเรื่องพระกับมารนะ แล้วมาลองสรุปให้พี่ฟังว่า ทำไมคนวาดรูป ถึงเลิกวาดรูป
พี่ไม่ได้ลงสรุปว่าทำไมคนวาดรูปถึงเลิกวาด แต่เขียนเรื่องกิเลสตัวจริงกับกิเลสตัวปลอมไว้แล้ว

เอออ... แบบนี้ดีนะ ให้หมูทำการบ้าน

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

สนุกดีค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

ใช้นิทานเซน

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ชอบ ชอบ

สุขที่แท้จริง says:

เด่วให้ทำวันละข้อพอ แหมๆๆๆถูกใจล่ะสิ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ใช่ค่ะเหมือนเล่นเกมส์ ตอบผิดไม่โดนตีนะคะ

สุขที่แท้จริง says:

ไม่ค่ะ ไม่มีผิด ไม่มีถูก

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
อ่านแล้วค่ะ จริงๆเรื่องนี้อะหมูเคยอ่านแล้ว
เป็นเรื่องที่โดนใจมากตอนอ่านมันสะเทือนใจนะค่ะ ที่รู้สึกคือ เป็นๆหมู ก็คงไม่วาดเมือนกัน
ทำไมหมูถึงจะไม่วาด เพราะคนเดียวกันเป็นได้ทั้งพระทั้งมาร แล้วจะยึดจากอะไรว่า
นี่คือลักษณะของพระหรือมาร มันยึดไม่ได้ ภาพที่วาดมันก็แค่ของหลอกน่ะค่ะ
จบแล้วค่ะการบ้าน

สุขที่แท้จริง says:

เข้าใจ ภาพวาดว่ายังไง

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เข้าใจว่ามันคืออิมเมจ
ของพระ ว่าต้องมีลักษณะแบบนี้ๆ
เหมือนเวลาหมูคาดหวังว่า นี่คือดี นี่คือเลว

คือมันเป็นมโนภาพที่เขาคิดเอาเองอะค่ะ ว่าพระอยู่ที่ลักษณะ ท่าทางแบบนั้นๆ
มารแบบนี้ๆแบบนี้น่ะค่ะ จบแล้วอะค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

อิมเมจคืออะไรคะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

คือภาพ ที่เขาสร้างเอง ความยึดมั่น

สุขที่แท้จริง says:

ภาพคืออะไร

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เย้ย ไปไม่ถูกแล้ว

สุขที่แท้จริง says:

ภาพคือ ความคิด ถูกไหมคะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ใช่ค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

เป็นความคิดที่ถูกแต่งขึ้นมาซ้อนความคิด

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ซ้อนหรือคะ

สุขที่แท้จริง says:

แล้วหมูก็ใส่คำว่าอิมเมจซ้อนไปอีกที ก็ถ้าความคิดเฉยๆ มันจะไม่มีภาพเกิดขึ้น

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อืมมม ค่ะ โห

สุขที่แท้จริง says:

ทั้งหมดคือ ความคิด

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เราคิดซ้อนคิด แต่เราไม่เห็น การที่เราอธบายหรือสื่อสารกันไม่ค่อยรู้เรื่อง
ต้องมีศัพท์มากมาย เป็นเพราะการปรุงแต่งนี่เอง

สุขที่แท้จริง says:

เข้าใจรู้ซ้อนรู้ชัดขึ้นมั่งมั๊ยคะ นั่นแหละใช่เลย

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เข้าใจว่ายังไม่รู้ แต่ได้รับการอธบายจากพี่ทำให้ พอจะเข้าใจขึ้น
ต้องทำไปเรื่อยๆ เพราะถ้าไม่เห็นเอง ก็จะไม่เข้าใจ

สุขที่แท้จริง says:

จากผัสสะ ที่มองคนๆหนึ่ง ที่ให้ค่าว่านี่ คือพระ นั่นคือความคิดเกิดละว่า เป็นพระ
ใส่จินตนาการลงไป นี่แหละพระในแบบที่ต้องการให้เป็น คิดซ้อนคิด
แล้วหมูใส่ลงไปอีก นี่อิมเมจ เพื่อเน้นให้ชัดขึ้นอีก

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ใช่ค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

กิเลสไวนะ กิเลสตัวปลอม

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

กิเลสตัวปลอม

สุขที่แท้จริง says:

กิเลสตัวปลอมเห็นแค่เปลือก

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เป็นไงคะ

สุขที่แท้จริง says:

เห็นแค่อิมเมจ ที่หมูให้ค่า หรือช่างวาดคนนั้นให้ค่า
แต่กิเลสตัวจริง คือสิ่งที่อยู่ในใจของคนที่เขามองให้ค่าว่าเป็นพระต่างหาก

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

โอ้โห

สุขที่แท้จริง says:

พอกิเลสตัวจริงโผล่มาแสดง ว่าตัวตนที่แท้จริงของพระที่เขาให้ค่าว่า
เป็นรูปแบบของพระที่เขาต้องการนั้น มันแค่เปลือก
ช่างวาดคนนี้เขาพบกิเลสตัวจริง เขาเลยเลิกวาดภาพ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อื้อหือ ก็กิเลสตัวจริงมันวาดไม่ได้

สุขที่แท้จริง says:

ใช่ค่ะ แต่เพราะยังมองไม่เห็นเลยจินตนาการเหมือนภาพของพระกับมาร
พระคือตัวแทนความดี มารคือตัวแทนความเลว จริงๆแล้วมันคือกิเลสทั้งสองอย่าง ไม่ว่าจะดีหรือเลว
เมื่อเกิดการให้ค่า จึงเห็นแต่กิเลสตัวปลอม มันไปมองข้างนอกไงหมู

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

คือมันไม่มองย้อนเข้าในในจิต

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ ช่างคนนี้พบธรรม เมื่อเห็นกิเลสมาแสดงตรงหน้า เหมือนคนถูกตีด้วยของแข็ง

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ มันบอกไม่ถูกนะคะ มันแทงใจน่ะค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

เซน ไม่ธรรมดา แต่ทำให้ธรรมดา

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

สนุกจัง

สุขที่แท้จริง says:

พออ่านแล้วเข้าใจในสภาวะด้วย จะชอบอ่านเซน

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ยังไม่ค่อยเข้าใจก้สนุกแล้วค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

อ่านหมดแล้วหรือยังน่ะ ตั้ง 70 กว่าเรื่องแล้ว

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ไล่อ่านจนหมดแล้วนะคะ
ที่พี่น้ำลง

สุขที่แท้จริง says:

นิทานเซนนี่เอาไว้เป็นคู่มือสอบสภาวะได้แบบสบายๆเลย

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อีกเรื่องที่ชอบก็ กบกะมะเขือเทศน่ะค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

อ๋อ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ก็คือสมมติเสียชีวิตไปตอนนั้น
ขณะกังวล ก็คงไปอบายทั้งๆที่เหยีบมะเขือเทศแท้ๆ แต่จิตเป็นอกุศลไปแล้ว เพราะไปคิดว่าฆ่าสัตว์

อย่างเวลาหมูเดินจงกรม แล้วสมติว่าเดินแล้วกำนดทันกะจังหวะพอดีเป๊ะๆ
นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าปฎิบัติดี ถ้าหมูพอใจ แต่ถ้าหมูฟุ้ง แต่หมูไม่ได้เดือดร้อนกะมัน แล้วก็รู้ว่าฟุ้ง
นั่นก็คือหมูมีสติแล้ว นี่คือการมองข้างใน
แต่ถ้า มองข้างนอกคือติดอยู่ที่ ฟุ้ง ว่าไม่ดี ติดอยู่ที่ตรงจังหวะว่าดีเป็นกิเลสตัวปลอมใช่ไหมคะ

สุขที่แท้จริง says:

ใช่ค่ะ กิเลสตัวจริงคือกิเลสที่อยู่ในใจเรา การให้ค่าที่ส่งออกไป แต่ไม่รู้ว่าหลงให้ค่าไปแล้ว
เมื่อยังไม่รู้ ก็หลงให้ค่าต่อไปเรื่อยๆ จนเป็นเหตุให้เกิดวัฏสงสาร

จนกว่าจะเห็นกิเลสตัวจริงจากจิตจริงๆ นั่นแหละ ถึงดับที่ต้นเหตุได้ คือ กิเลสจากจิตเรานี่เอง
ถ้าไม่มาเจริญสติ ไม่มีทางเห็นและรู้อย่างเด็ดขาด ส่วนมากจะเห็นแค่กิเลสตัวปลอม

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ จริงแล้วเราจะต้องเจอ ความทุกข์ ไอ้ที่ไม่ดีๆ นี่แหละ ที่จะทำให้เราปล่อยวางได้
ไอ้ที่ไม่นี่แหละ ของดี ที่จะขัดเกลาเรา ถ้าไปอยากจนเลิกไปก่อน

สุขที่แท้จริง says:

ใช่จ้ะ แต่ใครจะไปรู้ล่ะ เพราะถูกสอนมาแบบนั้น ยึดติดกับสิ่งดีๆ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ถ้าเขาทำ เจริสติปัฎฐานแบบนี้ เขาก็ต้องรุ้ได้นะคะ ดีใจจัง ที่ได้โอกาสนี้

สุขที่แท้จริง says:

แล้วแต่เหตุที่ทำมาน่ะหมู บางคนก็เจริญสติ แต่ที่ไม่รู้ยังมีอีกเยอะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เพราะเขารู้อยูกะกาย ใจ ได้น้อยเปล่าคะพี่

สุขที่แท้จริง says:

พี่เลี้ยงก็มีส่วนนะ เหมือนหมูเห็นของสิ่งๆหนึ่ง แต่หมูไม่รู้ว่าคืออะไร


บางทีเห็นแล้ว รู้แล้วว่าคืออะไร แต่วิธีใช้ รายละเอียดไม่มีบอก

บางอย่าง ต้องใช้กับไฟ บางอย่างต้องใช้กับน้ำ บางอย่างต้องใช้กับลม บางอย่างต้องใช้กับดิน

เมื่อเรานำไปใช้ไม่ถูกวัตถุประงค์ ถามว่าใช้ได้ไหม ใช้ได้ แต่เมื่อใช้ไม่ถูกวัตถุประงสงค์ ผลที่ได้รับย่อมไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย

แต่ถ้าเราไปเจอคนที่เขาใช้จนชำนาญ เรียกว่าหลับตาทำได้เลย มันยิ่งง่ายสำหรับเรามากขึ้น
เราไม่ต้องใช้เวลานาน วันนี้คุยกับคุณเจ้าของร้านเกมส์เรื่องนี้

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ว่ายังไงคะ

สุขที่แท้จริง says:

เด๋วนี้เขาไม่อิจฉาหมูแล้ว

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

โห เก่งจัง หมายถึงละไวจัง

สุขที่แท้จริง says:

ให้ค่าอีกละ เด๋วความอยากก็เล่นงานเอาอีกหรอกค่ะ

ถึ
งไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

รู้หนอ ๆ ค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

เด๋วนี้ชักจะลดเลี้ยวเก่งขึ้นนะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เวลาอ่านของเขาแล้วสนุกดีนะคะ คือดุกระตือรือร้นหมูชอบอ่าน
คนขี้สงสัยก็ช่วยให้หลายอย่างกระจ่างขึ้น

สุขที่แท้จริง says:

กิเลสชาวบ้าน อ่านแล้วสนุกนะ แต่กิเลสตัวเอง อ่านไม่รู้เรื่อง เหมือนกันหมด

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

มันก็ยัง ชอบมองนอกตัวน่ะะ


สุขที่แท้จริง says:

คนถึงชอบเล่นกับกิเลสเพราะเหตุนี้แหละ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ สงบได้แปปเดียว หาอ่านอีกละ

สุขที่แท้จริง says:

เข้าใจค่ะ มีเยอะแยะค่ะ เห้นไหม ความชอบ ละได้ยากกว่าความทุกข์

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ ความสนุกเพลิดเพลิน

สุขที่แท้จริง says:

ลองเล่นแล้วเจอทุกข์สิ เลิกเลย

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ใช่ค่ะ เป็นอย่างนั้นจิงๆ

สุขที่แท้จริง says:

เหมือนเจอไฟน่ะ พอรู้ว่าร้อน ไม่แตะอีกเลย

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

แต่บางเรื่องที่เราละยากทั้งๆที่โดนลวก ก็เพราะเรายังมีส่วนยินดีในมันอยู่นะคะ


สุขที่แท้จริง says:

เข้าใจค่ะ ตราบใดที่เรายังมีกิเลส ย่อมลงไปคลุกเคล้า
แต่ถ้ากำลังของสติมีกำลังมากกว่า ย่อมระงับใจได้ทัน เรามาเจริญสติเพราะเหตุนี้แหละ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ พี่ แล้วก็มีสติก็เพื่อให้แยกแยะถูกผิดได้
แต่ก่อนน่ะไม่เข้าใจนะคะ คือเข้าใจในระดับพื้นฐาน
แต่ก็เคยคิดว่า ใครๆก็ต้องรู้สิว่านี่มันดีไม่ไดี ในระดับศีลธรรมน่ะค่ะ
แต่จริงๆมันลึกลงไปมากกว่านั้น ชักดึกแล้ว เด๋วหมูกราบลาก่อนนะคะ คืนนี้


สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ นี่แหละที่ยากยิ่งนักที่จะรู้กันได้ แต่ไม่มีอะไรยาก ถ้าเราลงมือทำจริงๆ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ สะสมสติไป จะได้เห็นตามความจริงได้
หมูเข้าใจคำว่าโมหะชัดขึ้น เวลาเจอการกระทบแล้วมันไม่ชัด บางอย่าง มันรู้สึกเลยว่าสติไม่พอ


สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ ทำไปค่ะ

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 มิ.ย. 2010, 03:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


งไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เสร็จแล้วค่ะพี่

60/25 ค่ะพี่

walai says:

ค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ตอนเดินก็กิเลสเยอะค่ะ คือรู้เท้า มีความอยาก ก็กำหนดหนอไปค่ะ
แล้วเด๋วก็เป้นตัว จิตอกุศลที่มัน หย าบ ๆ เถื่อนๆ

จะปรามาสบ้าง จะว่าคนอื่น หรือบางทีก็สบถออกมาว่าคนก็กำหนดรู้หนอๆไปค่ะ
แล้วก็มาเป็นตัวอิจฉาเปรียบเทียบการปฎิบัติของคนอื่นกะเราก็กำหนดไปอีก

แล้วก็เปลี่ยนมาเป็นความกังวลเรื่องโรคภัยไข้เจ็บก็เป็นสักพักใหญ่แล้วก็เปลี่ยนหายไปอีก
ส่วนวทนาก็ไม่ชัดมากค่ะคือประปรายเจ็บๆ



พอมานั่ง
ก็รู้กายนั่งมีเวทนาเจ็บแหลมๆ และคันจี๊ดๆ
แล้วก็ หลังๆก็หลงๆไป แต่มันัยงรู้ว่ากำลังนั่ง แต่ไม่จับกาย และมีง่วงๆข้างในลึกๆ
แล้วก็ หลังๆก็มารู้กายที่ท้องว่าขยับตอนนั้นก้อรู้สึกนานมากๆเลยลองดูนาฬิกา
ปรากฎว่า มันเลยมา 10 นาทีแล้วแต่ไม่ได้ยินเสียงนาลิกาเลยแล้วก็ไม่ได้หลับด้วย
ก็เลยอุทิศส่วนกุศลค่ะ

walai says:

ลืมแล้วหรือว่าให้นั่งเท่าไหร่น่ะคะะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ไม่ได้ลืมค่ะพี่ ตั้งไว้ 15 นาทีค่ะ แต่มันไม่ได้ยินเสียงนาลิกาปลุกอะค่ะพี่ แล้วก็ไม่ได้หลับด้วยอะค่ะ สงสัยนาลิกาไม่ทำงาน

walai says:

พี่ก็เคยเจอนะแบบนี้ เมื่อก่อนค่ะ ช่างมันไม่เป้นไร

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เสร็จแล้วค่ะพี่

50/15 ค่ะ

ก็รู้เท้าค่ะ ก็รู้ชัด บางช่วงค่ะ แล้วก็มีความอยาก
ตอนก็กำหนดรู้หนอค่ะ ตอนนั้นก็ยังรู้เท้าได้ชัดเหมือนกัน แล้วก็รู้ไปด้วย
แล้วก็มีจิตตัว ที่มัน้ถื่อนๆเหมือนเดิม จะไปปรามาสบ้าง ห ยาบคายบ้าง
ก็กำหนดรู้หนอค่ะ มีปรามาส ก็กำหนดแล้วขอขมาค่ะแล้วมารู้กายต่อ
มีเวทนาเจ็บๆเหมือนเข็มตำนิดหน่อยค่ะ

พอมานั่งก็รู้กายบ้าง
หลงไปคิดแล้วตบๆกับมารู้ที่กายบ้าง จำไม่ค่อยได้ค่ะ แต่พอลางๆว่า รู้กายเคลื่อนไหวได้บ้าง

walai says:

หมูนี่ ภาษาปริยัติน่ะ ในการสอบอารมณ์น่ะ เรียกว่าพวกปัญญาคมกล้าหรือวิปัสสนาคทกล้า
เรียกให้ดูดีไง พวกความคิดเยอะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

โห ฟังแล้วจะหลง ก้ำกำ ช่วยตัวเองไม่ได้นะคะนี่แบบนี้ หลงแล้วกิเลสเกิดจิคะ

walai says:

เวลาพี่พูด ฟังให้จบก่อน
ถ้าครูบาฯอื่นๆพูดน่ะไม่แน่ อาจจะใช่ตามที่ท่านพูด แต่พี่ไม่มีทางพูดแบบนั้นหรอก
เด๋วโดนกิเลสลากไปกินกันหมด พี่น่ะผ่านบทเรียนมาเยอะ ไม่อยากสร้างเหตุให้กับใครๆอีก

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

มันหลงแน่ๆค่ะพี่

walai says:

ใช่สิ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

หลงกู่ไม่กลับ

walai says:

ก็เห็นตัวอย่างหลายคนมาแล้ว ที่พี่บอกสภาวะของเขาไปให้ ด้วยความไม่รู้
เลยกลายเป็นทำร้ายเขาไป แบบพี่ไม่ได้เจตนาร้ายอะไรเลย

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะจริงๆก็คือหวังดี ให้เขามีกำลังใจ

walai says:

หวังดี เปล่าหรอกมู อย่าพูดให้มันดูดีเลย พี่ประมาทต่างหากตอนนั้น
ไปคิดแทนคนอื่นๆว่า คงจะเหมือนพี่ คือไม่ยึดติดในคำเรียก แต่อยากให้รู้กันเท่านั้นเอง จะได้ไม่สงสัย

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อ่อ หมูนึกว่าพี่น้ำเสริมสร้างกำลังใจใเขา แต่มุมมองพี่น้ำอีกแบบ

walai says:

หมู จิตนะ มันชอบเอาดีให้คนที่ตัวเองรัก มากกว่าจะมองตามความเป็นจริง

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

โห เข้าใจแล้วค่ะพี่ น่ากลัวนะคะ

walai says:

เห็นไหม สภาวะมันละเอียด ยิ่งละเอียด ยิ่งระวัง เพราะโอกาสพลาดมันมี กิเลสมันจะละเอียดมากขึ้น

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

หลงกันง่ายขึ้น

walai says:

หากเราคิดอะไรที่เข้าข้างตัวเอง ถูกไว้ก่อนล่ะ คนอื่นผิดเองที่ไปยึด
จริงๆแล้วจะคิดแบบนั้นก็ได้ แต่นั่นคือคนประมาท ทำผิดแล้วไม่ยอมรับ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ความถูก ต้อง ตามความเป็นจริงนี่ มันยากนะคะ

walai says:

ใช่จ้ะ ความถูกต้องตามความเป็นจริงคืออะไรรู้มั๊ยหมู

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ก็คือกฎของเหตุและผลปะคะ

walai says:

นั่นคือส่วนหนึ่ง ยังมีอีก ละเอียดกว่านั้น

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

งั้นไม่รู้แล้วอะค่ะ

walai says:

แต่คนส่วนมากยอมรับได้ยากมากๆ ถ้ายังไม่เห็น เราไงหมู ตัวเราน่ะ ต้องผิดตลอด
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม เราเป็นฝ่ายผิดตลอด คนอื่นๆถูกตลอด แม้กระทั่งคนที่มาว่าเรา
ลองพิจรณาดูว่าจริงไหม

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

แปปนะคะ คิดก่อน

walai says:

หากไม่มีเหตุ ผลจะเกิดขึ้นได้มั๊ย

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เราต้องผิดตลอด ทุกหตุการณ์ ที่มีการกระทบ มันก็จะเกิดการแบ่งเขาแบ่งเรา

walai says:

ลองไล่สภาวะดูทีละขั้นนะ หัดไล่ดู เด๋วพี่จะพูดให้ฟัง

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เมื่อมีเรา มันก็มีคนถูกคนผิด ถูกผิด ก็คือผลของกรรมที่เราเคยทำไป

walai says:

ผลของกรรม ไม่ใช่ถูกหรือผิดค่ะ ถูกหรือผิด เป็นเพียงความคิดของแต่ละคนที่เกิดขึ้นณ ขณะนั้นๆ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

คือ ค่ะพี่

walai says:

การเกิดการกระทบ เกิดจากอะไร

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ก้อเกิดจากมีตัวเราอะค่ะ

walai says:

ใช่เหรอ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

คือเขาพูด มาโดน ตัวเรา

walai says:

แล้วทำไมเขาต้องมาโดนกับเราด้วยล่ะ ทำไมไม่ไปโดนคนอื่นๆแทน

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ก็เราไปรู้สึกว่าเขาว่าเราอะค่ะ ไปตีความว่าเขาว่าเรา

walai says:

การเกิดการกระทบทุกๆครั้ง ไม่ว่าจะดีหรือไม่ดี ในความคิดของเรา ล้วนเกิดมาจากเหตุ มันมีเหตุมาก่อน ผลเลยมาแสดงให้เห็น

เหตุดี ในความคิดของเรา เราอุปทานว่ามีความสุข เหตุไม่ดีสำหรับเรา เราอุปทานว่าคือทุกข์
เพียงเราเข้าใจถึงเหตุ เหตุที่เกิดแล้วทำให้ผลเป็นเช่นนี้

คนบางคน ทำไมกระทบแล้วเราไม่รู้สึกอะไรเลย แต่เป็นสักแต่ว่าเห็น
สักแต่ว่าได้ยินฯลฯ ทำไมถึงสักแต่ว่าล่ะ

เพราะคนเหล่านั้นไม่ได้สร้างเหตุมาร่วมกับเราทั้งดีและไม่ดี
พี่ถึงบอกไง เราผิดตลอด ไม่ว่าจะพาเขาหลงทาง หลงสภาวะ

นั่นคือ สภาวะของความพยาบาทที่เราเคยมีกับเขาในอดีต ที่เราไม่สามารถไประลึกอะไรได้เลย
เราต้องมาเจริญสติเพราะเหตุนี้

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ความยาบาท ทำให้เราพาเขาหลงสภาวะ ทั้งที่ชาตินี้เราไม่ได้ คิดพยาบาทเขา

walai says:

เพื่อจะได้มีสติรับมือกับทุกๆการกระทบไม่ว่าจะดีหรือร้าย ไม่ไปให้ค่าทั้งสองอย่าง
รู้แล้วก็ดับ รู้แล้วก็จบ ไม่ตอบโต้ สภาวะย่อมจบลงไปเอง จบโดยที่ว่า
เราอาจจะเป็นคนที่ผิดในสายตาหรือความคิดของคนๆนั้น

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

การให้ค่านี่ก็ คืดคิดว่านั่นไม่ดี นี่ดี ใช่ไหมคะ

walai says:

ใช่ค่ะ ความยึดติด อุปทานไงหมู

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อย่างการปรามาส หมูก็ให้ค่ามัน

walai says:

ใช่ค่ะ หมูอาจจะไม่ได้ทำมาแค่ชาตินี้ชาติเดียว ท่านทั้งหลายที่หมูปรามาส
เพราะเคยสร้างเหตุร่วมมากับหมู ดูพระพุทธเจ้าสิ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

แต่ละท่านหมูเคารพมากๆทั้งนั้นเลย

walai says:

จำได้ไหมที่พี่เล่าให้ฟัง

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เรื่องอะไรหรือคะ

walai says:

มันมีเหตุ อ้าว ที่ว่าพระองค์โดนนินนทา

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อ่อจำได้ค่ะ จำได้ค่ะ ที่บอกว่าจะให้หนีไปไหน ไปที่ไหนก้อโดน

แล้วให้ทำใจให้หนักแน่น เหมือนแผ่นดินใช่ไหมคะ

walai says:

ใช่ค่ะ นั่นแหละคือ สติ สัมปชัญญะ เมื่อก่อนตีความไม่ได้ ไม่เข้าใจนะ

จะทำใจให้หนักแน่นแบบแผ่นดินได้ยังไง เด๋วนี้เข้าใจชัดแจ๋ว ทุกอย่างมันมีเหตุ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ที่บอกว่า รองรับทั้งสิ่งสะอาดและสกปรก ใช่ไหมคะ

walai says:

ใช่ค่ะ สะอาดหรือสกปรก ล้วนเกิดจากการให้ค่า แต่ทุกสิ่งทุกอย่าง ล้วนไม่เที่ยง

ดีก็เลวได้ เลวก็ดีได้ มันมีเหตุและผล เราไปคาดเดาไม่ได้ ดูพระเทวทัติ

ร้ายแสนร้าย สำนึกได้ก้ยังได้รับคำทำนายเลยว่าเป้นพระปัจเจก

เห็นไหม กรรมแม้ไม่ได้เจตนา แต่ถ้าอีกฝ่ายเข้าใจผิด ความพยายบาท ก่อภพก่อชาติไม่รู้จบ



พี่เองนะ ก็ถือว่าชดใช้กับคนบางคนไป กับสภาวะที่ถูกว่ามาตอนครั้งก่อน

เพราะพี่ไปบอกสภาวะกับเขา ทำให้เขาหลง เขาถึงพูดมาไง พี่ขออโหสิกรรมกับเขาหรือยัง

ไปบอกว่าเขาอยู่ตรงไหน ทำไปไม่ได้เจตนาร้ายใดๆ ไม่คิดว่าเขายึดติดในสภาวะ

คิดว่าเขาคงเหมือนพี่ เห็นๆเวลาพูดมีแต่ปริยัติ คิดว่าคงเข้าใจ

นี่เห็นไหม อย่าไปคาดเดาใจ แม้จะสนิทกับเราก้ตาม กิเลสมันไว มันไม่ปราณีใครๆหรอก

ตอนนี้พี่ถึงไม่มีการพูดว่าใครสภาวะไหน บทเรียน มีแต่บอกว่า ทำต่อไป

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่เห็นแล้วละคะ สังเกตสักพักแล้วค่ะ

walai says:

เพราะรู้อยู่แล้วว่า สักวัน ทุกคนต้องได้คำตอบด้วยตัวเองอย่างแน่นนอน ดดยที่พี่ไม่ต้องไปยืนยันหรือไปบอกอะไร

ความอยาก อันตรายนะหมู อยากแต่ไม่รู้ว่าอยาก เป้นอยากที่ละเอียด

คนที่คิดแก้ไข แต่ไม่รู้ว้แก้ไขน่ะ เสร้จกิเลสไปแล้ว ความอยาก

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ก้อเป็นเรื่องยากมาค่ะ สำหรับความอยาก

walai says:

ใช่ พี่ถึงคอยปรับอินทรีย์ให้ คอยดูให้ตรงนี้ กับตอบคำถามที่คิดว่าตอบได้ ไม่เสียหาย เพราไม่ได้ชี้สภาวะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

การปรับอินทรีย์ ทำให้เรามีสติ คอยคุมอยู่ แล้วไม่เสร็จมันใช่ไหมคะเพราะถ้ามาธิล้ำไป อาจหลงได้

walai says:

ใช่ค่ะ ตัวสตินี่สำคัญมาก สมาธิก็สำคัญไๆม่ใช่ไม่สำคัญ แต่สติ สำคัญกว่า

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ พอพี่น้ำอธิบายแล้วชัดขึ้นนะคะ

walai says:

สมาธิล้ำหน้าก็เสร็จเลย นิ่ง หลงไปเลย ปัญญาก็เกิดไม่ได้ เพราะขาดความรู้สึกตัว

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

คือหมูจะรู้สึก ภาพมันไม่ชัดนะค่ะ ไม่สามารถอธิบาย ได้

walai says:

แค่รู้ไปค่ะ ไม่ต้องไปคาดเดา สภาวะเปลี่ยนไปตลอดเวลา

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ ล้ำลึกจังธรรมมะ

walai says:

ดูสมาธิกับสติเป็นหลัก อย่างอื่นแค่รู้ สติไม่ทัน กระทบมา กิเลสเอาไปกิน

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ไวมากค่ะ

walai says:

ใช่ไง ถ้ามีสมาธิคอยหนุนไว้บ้าง ยังช่วยกดข่มจิตเอาไว้อีกแรง

สมาธิมากไป ไม่เห้นกิเลสอีก ต้องคอยปรับเพราะเหตุนี้

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เข้าใจแล้วค่ะ รอบแรกหมูว่าหมูคงสมาธิเอาไปกิน เลยไม่ได้ยินเสียงปลุก

walai says:

เข้าใจใช่ไหม ที่พี่บอกว่า นั่งนานหรือไม่นาน ไม่ใช่ตัววัดผล

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:



เข้าใจค่ะ นั่งนาน ถ้าขาดสติ ก็ไร้บอย

walai says:

ใช่ค่ะ ครูบาฯท่านถึงจำกัดเวลาของสภาวะไว้ที่ 1 ชม. ของการนั่งไง แต่เดิน ยิ่งมากยิ่งดี

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อิริยาบทเคลื่อนไหวนี่ช่วยได้เยอะนะคะ เวลาเดิน ก่อนนั่ง กะนั่งอย่างดียวนี่ต่างกันสุดกู่

walai says:

ใช่ อันนี้เจอกับตัวเอง ช่วงที่ไม่มีสมาธิเลย การเดินจงกรมช่วยได้เยอะมากๆ

นั่งได้แค่ 5 นาที นี่ยิ่งกว่าอะไร เข้าใจเลยนะที่คนบอกว่า นั่งแค่ 1 นาทียังนั่งไม่ได้ มันฟุ้ง

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

มันจะฟุ้งมากเลยสิคะ ทรมานสุดๆ

walaisays:

ใช่เลย ไม่รู้ทำได้ไง เดินที 4 ชม. นั่งได้แค่ 5 นาที สุดๆเลยช่วงนั้นน่ะ
ตอนนี้สมาธิเริ่มกลับมาปกติมากขึ้นแล้ว

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อืม นึกออกละ ตอนเดินคิดจะเล่าให้พี่น้ำฟัง ตอนกำหนดรุ้หนอน่ะค่ะ
มันก็นึกได้ว่า หมูเคยเข้าพิธีของคนฮ่องกงน่ะค่ะ เป็นกลุ่มที่นับถือเจ้าแม่กวนอิม

แล้วเขาจะเอาชื่อนามสกุลวันเดือนปีเกิดเราเผากระดาษ แล้วก็เรียกเรามากระซิบ ข้างหู
เป็นศัพท์ 5 คำภาษาจีน แล้วให้เราเอามือทับไว้ที่อก ก่อนตายให้ท่องคำนี้แล้วเอามือทับวันที่อก



walai says:

อ๋อ เขาเรียกรับธรรมะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

จะไปดี พี่น้ำก็รู้จักใช่ไหมคะ ก็บอกว่า ถ้าก่อนตาย เราท่องแบบนั้นจะได้พบพระแม่กวนอิมแล้วไม่ตกนรก
หมูก็มานึกว่าเข้าใจแล้ว มันก็เหมือนการกำหนด ให้มีสมาธิกะสติ และยึดเหนี่ยวพระโพธิสัตว์ไว้
จิตเป็นกุศล ไม่ไปอบาย
แต่ก่อนก็ไม่เชื่อไม่เข้าใจว่าจะมีผล ก็เลยจะเล่าว่ามีแบบนี้ด้วยน่ะค่ะ



walai says:

ค่ะ ที่พี่เคยไปมา


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เหรอคะของหมูเชิญมาทำพิธีจากฮ่องกงเลย ตั้งแต่เด็กๆ มาที่บ้านย่า

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 มิ.ย. 2010, 00:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


16 มิย.


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เสร็จแล้วค่ะพี่
60/15 ค่ะ
เดินก็รู้เท้า แล้วก็มีความอยากมาเรื่อยๆมาแล้วก็คลายบางทีก็อยู่นานหน่อย บางทีก็คลายเร็ว
มีเวทนาเจ็บๆเหมือนโดนฉีดยา มดกัดบ้างนิดหน่อยค่ะ

พอมานั่ง
ก็รู้กายนั่งไม่นานตัวมันก้อค้อมลงด้วย จากนั้นก็บางทีก็รู้กายอีกว่ากำลังนั่ง แต่จะคิดๆเพลินไปน่ะค่ะ งุงิๆ
ไม่รู้เรื่องอะไรบ้าง แบบนั้นน่ะค่ะ แล้วก็มารู้กายได้แบบแตะๆจนหมดเวลาค่ะ

เสร็จละค่ะพี่ 41/19 ค่ะ
ตอนเดินก็ทุกข์ ขึ้นมาเป็นระยะ เพราะความ ความไม่พอใจ แล้วก็หาย แล้วก็มามีเวทนา มดกัดบ้าง
แสบๆผิวบ้าง เย็นๆผิวบ้าง การรู้เท้าก็สามารถรู้ได้

พอมานั่ง
ก็รู้ท้องขยับได้แบบแตะๆ กะใจไปไร้สาระ พอไร้สาระก็กำหนด รู้หนอตั้งสติก็มารู้กายได้แบบมีหลักมาขึ้น
แล้วเลื่อนลอยไร้สาระคลอๆกะรู้ว่ากำลังนั่ง ก็กำหนดรู้หนออีกทำแบบนี้สลับกันไปจนจบค่ะ

walai says:
วันนี้พี่เห็นนิมิต พี่เห็นจากจิตนะหมู

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
นิมิตรอะไรคะ

walai says:
เห็นกายข้างในของพี่น่ะ มันใส หมูเคยเห็นเวลาแดร้อนจัดๆไหม
เวลาที่เรามองไปที่ถนน มันจะสะท้อนเงาของแดดขึ้นมา เขาเรียกว่า พยัพแดดน่ะ มันใสแบบนั้น

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
หมายถึงอะไรกันนะ

walai says:
ไม่รู้สิ พี่ไม่ได้สนใจ แค่รู้ว่าเกิดนิมิต วันนี้สมาธิเกิดทั้งวัน นี่ยังเป็นอยู่เลย ก็แค่รู้นะ
สมาธิแปลกๆ มันหน่วงๆตลอดทั้งวัน พี่เลยว่ามันแปลกๆ แล้วมาเห็นนิมิตแบบนั้นอีก
เรียกว่ากำหนดยืน พี่เข้าสมาธิได้เลย นี่นั่งอยู่หน้าคอมฯแท้ สมาธิยังเกิดตลอด
มันสุขแบบนี้เองนะสุขอยู่ข้างใน

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ก็เหมือนสมัยก่อนสิคะ

walai says:
ใช่ค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ก็แปลกนะคะ แต่ก็ไม่รู้ว่าคืออะไร

walai says:
ก็ไม่มียินดี ยินร้ายอะไรนะ แค่รู้ไป

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
งืมมๆ พี่เคยเกิดนิมิตรแนวนี้ไมคะ

walai says:
ไม่เลยนะ เพิ่งเห็นแบบนี้ครั้งแรก แล้วเห็นทางจิตด้วย จะแม่นกว่าทางตา
เพียงแต่ว่าไม่รู้หมายถึงอะไร ถึงบอกไง แค่รู้

เมื่อกี้ก็ฟังๆเพลงอยู่ดีๆ จิตเข้าสมาธิไป สุขมากๆเลย มันเกิดสภาวะสุขทันที
แต่พี่เฉยๆ แค่รู้กับสภาวะพวกนี้

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
อีกสักพักพี่น้ำก้อได้คำตอบนะคะ

walai says:
ค่ะ ยังไงก็ได้อยู่แล้ว เลยแค่รู้ไง ไม่สงสัยอะไร ทำไปนะหมู ตัวอย่างมีให้เห็น
ไม่ต้องไปหวังผล นิพพงนิพพานแบบที่เขาพูดๆกัน

มาถึงตรงพี่นี่ สุขก็ไม่รู้จะสุขยังไงละ ชีวิตนี้หาได้ยากยิ่งนัก สุขแบบนี้
แถมเหตุก็ลดน้อยลงไปเรื่อย มันก็เลยสุขมากขึ้น

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะพี่ ไม่รู้ว่าจะยังไง แต่ก็จะพยายามรักษาความเพียรไว้

walai says:
ทำให้ต่อเนื่อง มันไม่ได้มีอะไรมาก มีแค่รู้อยู่กับกาย เอาจิตรู้อยุ่ในกาย มีสติ สัมปชัญญะรู้อยู่
กับทุกๆการกระทบ อย่าให้ค่า แล้วหมูจะผ่านทุกอย่างไปได้เอง อะไรเกิดให้แค่รู้

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะพี่ ...ส่วนใหญ่มันให้ค่าอัตโนมัติ แบบอโตเมติก

walai says:
สติ ยังไม่ทันค่ะ ถ้าทัน มันดับทันที

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะ ก็ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ไม่ทันก็รู้ไปว่าไม่ทัน นะคะ

walai says:
เห็นความไม่เที่ยงบ่อยๆ มันจะเลิกให้ค่าไปเรื่อยๆ ผลที่ได้รับ มันจะทำให้ความอยากลดน้อยลงไปเอง
เพราะรู้คำตอบว่า ไม่ต้องไปอยาก ยังไงก็ได้ผลแน่นอน

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ความไม่เที่ยงนี่ เห็นยากจังนะคะ ...นี่คือความในใจ

walai says:
เข้าใจค่ะ ทำไปนี่แหละ สภาวะทุกวันนี้เขาแสดงให้หมูเห็น เพียงแต่หมูเห็นจากความคิด
มันยังไม่แจ้งโดยสภาวะที่ออกมาจากจิต หมูก็เลยยังมีการให้ค่าอยู่ พี่เองใช่ว่าจะเห็นตั้งแต่แรก
เสียเมื่อไหร่ล่ะ นี่ถ้าไม่ได้สร้างเหตุดีมาก่อน ไม่ได้สร้างด้านนี้มาก่อน สมาธินี่สำคัญมากๆนะ
เพราะสมถะพี่แรง สัญญาเก่า พอมาทำต่อมันจึงถูกกระตุ้น
เมื่อพละ 5 เขาพร้อม ของเก่าบวกกับของใหม่ที่ทำเพิ่ม ทำงานร่วมกัน มันจึงเห็นผล
เห็นแล้วใช่จะหยุด เพราะสภาวะเขานำทางเราเอง เราแค่รู้ แล้วตามไป มีแค่นี้
อย่าแก้ไข การแก้ไข นั่นคือ เอาความทุกข์เข้าหาตัวเอง ความวุ่นวายจะตามมาไม่รู้จบ

เจริญสติไป
จำไว้ว่า คือ ท่องเอาไว้เลย เวลาเจอการกระทบ ไม่ว่าจะดีหรือร้าย
ถ้าเจอร้ายนี่ ส่วนมากจะทนไม่ค่อยได้ ถ้าสติยังไม่มีกำลังมากพอ จะชอบตอบโต้
ให้ท่องเอาไว้ ถ้าทนไม่ไหว นั่นคือตัวเราในอดีต เราสร้างเหตุเอาไว้ ชดใช้เขาไป อดทนเอาไว้
โดนแค่นี้ไม่ตายหรอก ภพชาติ การเกิดน่ากลัวกว่า

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ท่องไว้ๆ ค่ะพี่ จะจำไว้ค่ะ

walai says:
วันไหนเหนื่อย เพลีย ไม่อยากทำ ไม่อยากก็ให้รู้ว่าไม่อยาก แต่ทำสักนิดนึง
เดิน 5 นาที นั่ง 5 นาทีก็ได้ อย่าหยุดทำ ความคิด ความรู้สึก มันเปลี่ยนตลอดเวลา

บางทีทำแล้วหลับ ห่วยแตกทั้งอาทิตย์ พอวันต่อมาทำแล้วดี มันไม่เที่ยง เราไปให้ค่าเองว่าดีหรือไม่ดี
จริงๆแล้วมันเป้นเพียงสภาวะที่เกิดจากกิเลสหรืออารมณ์ของเรานี่เอง

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะพี่ ช่วงนี้ก็ความความไม่พอใจ ก่อนหน้านี้หลาบหายไปพักหนึ่ง ตอนนี้วนมาอีก

walai says:
นั่นแหละ บททดสอบ สติไง บททดสอบมาหลายๆแบบ เพียงแต่ว่าเราจะตอบตัวเองได้ว่า
สติทันหรือไม่ มันจะพัฒนาไปเรื่อยๆ หากทำไม่หยุด

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะพี่

walai says:
หมูไปพักได้ละ วันนี้เขียนอะไรเยอะหน่อย
ช่วงนี้สภาวะไม่หลับไม่นอนกลับมาอีกแล้ว นอนแค่ 1 ชม. พี่พอแล้ว

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says
ค่ะ พี่ ขอบคุณพี่น้ำมากนะคะ

walai says:
จ้ะ ไว้เจอกันพรุ่งนี้

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 มิ.ย. 2010, 23:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เสร็จแล้วค่ะพี่

60/15 ค่ะ

เดินก็รู้กาย กำหนดยืนหนอก็รู้สกึถึงจิตที่ลากลงไปถึงท้องก็มีความยินดีกำหนดรู้หนอไป
พอไม่พอใจสภาวะ ก็กำหนดรู้หนอไป ปรามาส จะเกิด กำหนดรุ้หนออีก
มีเจ็บๆ กายเป็นจังวะไม่เยอะ มีความอยากบ้างประปรายก็กำหนดรู้หนอไป

พอมานั่ง
ก็รู้ท้องขัยบ พอจิตสะเปะสะปะไม่มีหลักก็กำหนดรุ้หนอไปก็ชัดขึ้น
แต่ก้ไม่ได้ชัดตลอดก็มีคิดๆถึงการ์ตูนที่ชอบอ่านตอนเด้กเหมือนได้อ่านซ้ำ
สักพักก็หมดเวลานั่งต่ออีกนิดยังพอรู้ท้องขยับได้ แป๊ปเดียวก็เลิกค่ะ แล้วแผ่ส่วนกุศลต่อ

60/15 ค่ะ
รอบนี้ก็ฟุ้งบ้างหรือบางทีก็รู้กายชัดบ้าง

พอมานั่งก็
รู้กายนั่งค่ะ แล้วหลงไปคิดเปะปะก็กำหนดรู้หนอ
ส่วนใหญ่ก็จะรู้กายคลอๆคิด มีเวทนา เย็นแปล็บๆนิดหน่อยค่ะหมดแล้วค่ะพี่

walai says:
ที่ทำงานเป็นไงมั่งคะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ก็ไม่มีอะไรนี่คะ มีเหตุการณ์อะไรหรือเปล่าคะ หมูไม่ได้ตามข่าวเลย

walai says:
เปล่าค่ะ พี่คงพูดสั้นไป หมายถึงชีวิตของหมู กับที่ทำงานน่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
อ่อออ ก็วันนี้สอนหนังสือ เวลาไม่พอใจจะดุน้องก็กำหนดรู้หนอค่ะ
เลยไม่ได้ทำให้ใครเสียใจเหมือนครั้งที่แล้ว

walai says:
กิเลสมันเล่นได้ตลอดเวลา

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ก็ใช่ค่ะ แต่ว่าแหมคือหมูเป็นพวกรักแรง น่ะพ่

walai says:
ต้องมาเจริญสติเพราะเหตุนี้ไงจะได้ไม่ไปยึดติด ทั้งรักทั้งเกลียด
มีแต่กิเลส มีตรงไหนล่ะ รักกับเกลียดน่ะ มีแต่คิดเข้าข้างตัวเองทั้งนั้น
รักปานจะกลืนกินพอเขาด่าเข้าหน่อย เกลียดขี้หน้าไม่มองกันเลย
รักจริง ต้องให้อภัยได้สิให้เขาร้ายแค่ไหนก็ต้องอภัยได้

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
อืม ก็จริงนะคะพี่ เรารักเขาเพราะเขาดีกะเรา ถูกใจเรา

walai says:
มีแต่ไม่รักตัวเองทั้งนั้นแหละ มีแต่ไปหลงรักกิเลส
รักตัวเองต้องมีสติ ต้องรู้ว่า นี่เหตุใหม่แล้วนะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะพี่ สุดท้ายพอคิดไปคิดมา เราก็รักตัวเอง

walai says:
ยิมจมูกคนอื่นหายใจ มันถึงได้เป็นแบบนี้กันไง

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
อืมม ค่ะ พี่คะพุทธศาสนาน่ะ เที่ยงไหมคะ

walai says:
พุทธศาสนาคืออะไรล่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ธรรมมะ

walai says:
ใช่เหรอ งั้นถาม ธรรมะคืออะไรล่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ความเป็นจริง คิดได้เท่านี้อะค่ะ

walai says:
กายนี่ล่ะหมู กายนี่ใช่ธรรมไหม

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ใช่ค่ะ

walai says:
ความเป็นจริงของหมูคืออะไร

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
หมายถึง สภาพจริงๆของทุกสรรพสิ่งอะค่ะของทุกสรรพสิ่ง
แต่ไม่รู้ว่าไอ้สภาพจริงๆเป้นไงอะค่ะ


walai says:
ทำไมถึงเรียกพุทธศาสนาล่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
เราก็ไปกำหนดเอง ว่านี่คือพุทธศาสนา

walai says:
ค่าต่างกันไหม

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
เป็นสิ่งสมมติขึ้นเหมือนกัน

walai says:
แล้วตอบตัวเองได้หรือยังว่าพุทธศาสนาเสื่อมได้ไหม

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
เสื่อมได้ค่ะ เพราะเป็นสิ่งที่ตนไปกำหนดขึ้น คนรุ่นนั้น หายไป

walai says:
แล้วถามมาทำไมคะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
หมูถาม นี่ ไม่รู้จะบอกยังไง แต่เกิดความสงสัยตอนปฎิบัติน่ะค่ะว่า
สักวันนหนึ่ง คนที่เข้าถึงหลักธรรมจะหมดไปมั๊ย คำสอนต่างๆ แนวทางแบบหายสูญน่ะค่ะ

walai says:
เหรอ แล้วทำไมพระพุทธเจ้าถึงมีได้หลายองค์ล่ะ
ใครเป้นคนสอนพระองค์ล่ะ ใครเป็นคนทำให้พระองค์ทรงตรัสรู้ได้ล่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะพี่ พระองค์ทำเองหมดค่ะ

walai says:
แล้วมาสงสัยอะไรอีกล่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะพี่ ไม่สงสัยแล้วค่ะ

walai says:
ติดเชื้อมาเหรอคะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
เปล่าค่ะ มันเกิดตอนเดินจงกรม

walai says:
หมูเองก้รู้คำตอบเองอยู่แล้ว ไม่ใช่ไม่รู้ พอไล่มาก็ตอบได้

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
เอไม่นะคะพี่

walai says:
ถึงถามไง แล้วไปสงสัยอะไร

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ไม่ได้แกล้งอะค่ะ คือเหมือนไม่รู้ พอพี่ไล่ถึงตอบได้ค่ะ

walai says:
ทำต่อไปค่ะ
มันสองประเด็น พี่พูดถึงธรรมะ กับพระพุทธศาสนา
แล้วหมูตอบได้หรือยัง พุทธศาสนาเสื่อมไหม หมูบอกว่าเสื่อมได้ แล้วมันเสื่อมเพราะอะไรล่ะ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ก็เพราะ พุทธบริษัท 4 ค่ะ

walai says:
งัดตำรามาเลยน่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ตามตำรา ช่ายยยค่ะ

walai says:
น่านน โทษแต่นอกตัวกัน คนโน้นไม่ดี คนนี้ไม่ดี เลยทำให้ศาสนาเสื่อม
ทั้งๆที่มันเป็นแค่บัญญํติ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ก็ตัวหมูเองก็ 1 ในพุทธบริษัทไงคะ

walai says:
แค่คำเรียกเข้าใจไหม มันคนละอย่างกับสภาวะของธรรมะ สภาวะของธรรมะไม่มีวันเสื่อม
ต่อให้คนหายไปจนหมดโลก ธรรมะก็ไม่มีวันเสื่อม
แต่พระพุทธศสานาน่ะ อาจจะเรียกในชื่ออื่นได้

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
พี่คะ หมู จะสรุป ว่า งันธรรมมะก้ออยู่เหนือกฎของ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตาสิคะ

walai says:
จะบ้าตาย เด๋วไล่ให้กลับไปเริ่มต้นใหม่เลย

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
โอเคค่ะ หมูว่าแล้ว

walai says:
เอาเถอะ ทำไป สงสัยให้รู้ว่าสงสัย พี่ไม่อธิบายให้ฟังเหรอก

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
หายแล้วละค่ะ ขี้เกียจสงสัย ไม่ใช่ว่ารู้นะคะ

walai says:
ของพรรค์นี้ต้องรู้เห็นด้วยตัวเอง ไม่งั้นพี่จะเอาหลักของการเจริญสตินี่ เอาจากไหนล่ะ
ในตำรามีเขียนไว้มั๊ย มีแค่ว่า ให้รู้อยู่ในกาย เวทนา จิต ธรรม มีแค่นั้น

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ใช่ค่ะ

walai says:
มีใครเคยบอกมั๊ย ทุกสิ่งที่มากระทบ แล้วจิตเรากระเพื่อม นั่นคือเหตุที่เราทำไว้

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ไม่มีค่ะ อ่านไม่เคยเจอเลย

walai says:
มีใครมาชี้เรื่องกิเลสไหม

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ไม่อะค่ะ

walai says:
กิเลสนอกตัว กิเลสในตัว มีเขียนไว้มั๊ย

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
อันนี้ไม่เคยเห็นเลยค่ะ

walai says:
แล้วพี่เอามาจากไหนล่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ก็จากการเจริญสติ

walai says:
รู้ต่างๆที่พี่เขียน เอามาจากไหนล่ะ ทั้งๆที่ไม่ได้เรียนปริยัติเหมือนคนอื่นๆเขา
ที่มาสงสัยกันนี่ เกิดจากกอะไรล่ะ ความอยาก

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ก็ขาดสติ เลยเกิดสงสัย

walai says:
สติน่ะมี ไม่ได้ขาดหรอก

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
มีน่อย

walai says:
สติมันไม่ทันจิต

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะ มันเร็วมากกก

walai says:
ลงมาอนุบาลใหม่เลย โทษฐานไม่จำ เลื่อนลอย

เราทุกคนน่ะ ล้วนนับหนึ่งใหม่กันตลอดเวลา
เฉพาะคนที่รู้จักกิเลสโดยสภาวะแล้วนะ
ถึงจะตกๆหล่นๆ อย่างน้อยโอกาสที่จะสร้างอกุศลน่ะ มันน้อยลง
แหมม พอบอกอนุบาล หงอยเลยนะคะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
มันรู้ แล้วก็ไม่รู้นะคะ แล้วพอรู้ มันก็ไม่รู้อีก อะไรก็ไม่รู้

walai says:
ก็จะไปเอาอะไรกับสภาวะล่ะ ก็บอกแล้ว ให้แค่รู้ไป แล้วไปยึดติดอะไรกับรู้หรือไม่รู้

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะ พี่ ทำต่อไปค่ะ

walai says:
ทำไป สงสัยก้ให้รู้ว่าสงสัย แล้วกลับไปอ่านสภาวะเก่าๆที่ผ่านๆมา
คำตอบอยู่ในนั้นทั้งนั้น ถ้ายังสงสัยอ่ะนะ กลับไปย้อนอ่านดู

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะหายสงสัยแล้วค่ะ

walai says:
ดูสภาวะไป บัญญัติน่ะ ปล่อยไป
ใครว่าเรายังไง ช่างหัวเขา เราปฏิบัติเพื่อขัดเกลากิเลสในใจเรา
เพื่อจะได้ไม่ไปให้ค่าต่อทุกๆสิ่งที่เกิดขึ้น จะได้ไม่ต้องไปทุกข์เพราะการหลงไปให้ค่า

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะพี่ ถ้าไม่ให้ค่า ความทุกข์ทางใจก็ไม่มีนะคะ

walai says:
ใช่ค่ะ จะมีได้ไง เมื่อมันไม่มีการให้ค่า แล้วจะเอาตรงไหนมาสุขหรือทุกข์ล่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะ ไม่เหลือทั้งสองอย่าง

walai says:
ค่ะ สุขหรือทุกข์ทางโลกน่ะ เจือด้วยกิเลสทั้งนั้น
สุขที่เกิดจากการเจริญสติน่ะ มันสะอาดกว่ากัน เพราะมันแค่รู้ รู้ว่าสุข แต่ไม่ได้เกิดจากการให้ค่า

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ทำต่อไป....

walai says:
ใช่ค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
อืมม พี่น้ำคะ หมูไม่ได้ขออโหสิกรรมพี่นานแล้ว
จริงๆสภาวะปรามาส ที่เผลอไป ยังมีอยู่ มันมักเกิดต่อจากที่หมูคิดศรัทธาพี่
เหมือนจิต อีกตัวที่อกุศลมันโผล่ เลยจะขออโหสิกรรม นะคะ ที่ขาดสติ เอาไม่อยู่ ในบางครั้ง
ขอขมาค่ะ

walai says:
ทำไปค่ะ มันไม่มีอะไรเที่ยง แม้แต่ตัวพี่เองก็ไม่เที่ยง
ทำต่อไป เพราะคนที่ได้รับผลคือตัวหมู ไม่ใช่พี่

พี่ถึงบอกไง อย่าไปให้ค่า หมูให้ค่าเมื่อใด หมูจะทุกข์
นั่นคือบททดสอบของหมู

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
เฮ้อค่ะ ก็จะใช้ทางนี้ขัดเกลาตัวเองไปค่ะพี่ ขอบคุณมากค่ะพี่



June 18
สอบตกอีกแล้ว...ประจำ

วันนี้โดนกระทบ 2 เรื่อง
บัตรเข้าออกประตูเราลืมไว้ที่ ร้านขายน้ำ แล้วไปต่อว่าเขา
เรื่องที่สอง โทรไปเรื่องงานโดนคำพูดที่ฟังแล้วเหมือนยวนๆ

พอมาวางสายแล้วคำพูดพี่น้ำเพิ่งผุดขึ้นมา ว่าให้ท่องเอาไว้ เวลาโดนกระทบอดทนชดใช้เขาไป
อย่าตอบโต้ ก็ครั้งนี้ทำไม่ได้อีกแล้ว กลับมาฟังคำสอนของหลวงพ่อเรื่องฆ่าความโกรธ

คนที่ยอมให้ความโกรธเกิดขึ้น แทนที่จะฆ่ามัน กลายเป็นเราฆ่าตัวเอง
เอาดีไม่ได้...การเจริญกรรมฐานเป็นการขัดเกลาไม่ให้โกรธถึงจะโกรธ
แต่ไม่ถึงกะรังเกียจ หรือพยาบาท

แต่ตอนนั้น มีหมดทั้งโกรธ ทั้งพยาบาท ยอมรับทุกประการ เสียใจนะ

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2010, 21:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


ถึงไม่ใช่งูพิษ เสร็จแล้วค่ะพี่ 60/15 ค่ะ
ก็รู้กายเวลาเดิน มีเวทนาเย็นแปลบๆนิดหน่อย มีมดกัด 2 ครั้ง

พอมานั่ง ก็รู้ท้องบ้าง
ส่วนใหญ่จะรู้ท้อง บ้างอกบ้างขยับ ไม่สม่ำเสมอ กะไปคิดเรื่องปัญหาที่มี
ในช่วงท้ายของการนั่งค่ะ แต่ ยังรู้ว่านั่งอยู่

รอบสอง 40/20 ค่ะ
รอบนี้ก็จะฟุ้งๆน่ะค่ะ แต่ยังรู้เท้าเดินได้ มีเจ็บๆ ตามร่างกายเล็กน้อยๆ

พอมานั่งก้รู้ท้องบ้าง คิดๆบ้างๆ แต่ยังรู้ว่านั่งอยู่ มีเจ็บๆ อก


สุขที่แท้จริง เป็นไงมั่งหมู พอจะจับจุดได้ถูกมั่งหรือยัง


ถึงไม่ใช่งูพิษ คือ ก็ยึดหลักว่า รู้กายไม่หลงไปน่ะค่ะ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าถูก แน่ๆ แบบนี้น่ะค่ะ
แบบเวลาที่มีไม่พอใจ ก็รู้แล้วก้อ ไม่ไปห้ามมันน่ะค่ะ หรือความอยาก ก้อรู้แล้วก็ไม่ได้ไปห้ามมัน

สุขที่แท้จริง แล้วนานไหม กับสภาวะตรงนั้นที่รู้สึก

ถึงไม่ใช่งูพิษ ไม่นานค่ะก็เด๋วก็เปลี่ยนเป็นไปจับเรื่องอื่นๆ เช่นฟุ้งเรื่องโน้นบ้าง รู้กายบ้าง
เวทนาบ้าง


สุขที่แท้จริง ตอนนี้ มันจะเห็นแต่เหตุนะ เหตุที่สร้างกัน เพราะความไม่รู้
กุศลของแต่ละคน สั่งสมไป มากน้อยไปตามกิเลส

ถึงไม่ใช่งูพิษ ค่ะพี่ ช่วงนี้ ไอ้ความรุ้สึกว่าตัวเองมีความรู้อะไร มันหายไปหมด

สุขที่แท้จริง นั่นแหละค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ เหมือนคนไม่รู้อะไรเลยน่ะค่ะ แต่ทำไปเรื่อยๆ

สุขที่แท้จริง ถ้าคิดว่า ยังมีรู้ นั่นคือ เรายังไปให้ค่ากับสิ่งต่างๆอยู่

ถึงไม่ใช่งูพิษ มันบางทีก้อยังมีความรุ้สึกว่าทำไมไม่รุ้อะไรเพิ่มอีก
แต่ว่าก็ไม่รู้จะไปทำให้ตัวเองทุกข์ทำไมน่ะค่ะ ก็เลยอืม อยากก็รู้ไป

สุขที่แท้จริง ความอยากไงหมู
หมูต้องย้อนกลับมาถามตัวเองละว่า ที่ไม่มีรู้อะไรเพิ่มขึ้นของหมูน่ะ รู้นั้นคือรู้อะไร
คนเราทุกข์ สุข เกิดจาก การให้ค่าต่อสิ่งที่มากระทบ พอใจ สมดังที่คาดหวัง ก็ให้ค่าว่า สุข

ถึงไม่ใช่งูพิษ ก็ใช่ค่ะ ความพอใจกะไม่พอใจก็รวดเร้วมาก

สุขที่แท้จริง สังเกตุสิ ตัวโทสะน่ะ เราจะเห็นแบบหยาบๆ ได้ง่ายมากๆ ความโกรธ

ถึงไม่ใช่งูพิษ ใช่ค่ะพี่ ความสุขมันจะเพลิน

สุขที่แท้จริง แต่พอเจ้ากามราคะ กับกามปฏิฆะ ความยินดี กับ ความยินร้าย
เวลาเกิดน่ะ ดูยากขึ้นมาอีกระดับ

ถึงไม่ใช่งูพิษ ไอ้ยินร้ายนี่ก็ง่ายนะคะ คือความไม่พอใจปะคะ ความไม่ชอบ หงุดหงิด

อะไรดูยากสุดคะ ความอยากปะคะ

สุขที่แท้จริง จิตเราไง การยอมรับตามความเป็นจริง ยากที่สุด

ถึงไม่ใช่งูพิษ พี่น้ำ คะ การยอมรับตามความเป็นจริงนี่ เหมือนมันละเอียดๆๆๆขึ้นไป

สุขที่แท้จริง ใช่ค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ สำหรับหมุอะ ก็แค่ระดับหนึ่ง ความหมายของพี่น้ำนี่ อยากทราบอะค่ะ
พอจะยกตัวอย่างได้ไหมคะ

สุขที่แท้จริง แล้วแต่เราจะให้ค่ากับมันนะ เช่น พี่ถามว่า สมมุตินะ สมมุติว่า ถ้าหมูโดนเจ้านายตำหนิมา
ทั้งๆที่หมูคิดว่า คิดว่านะ คิดว่าตัวเองไม่ผิด ถ้าหมูเจอสภาวะแบบนี้ ขณะนั้น หมูจะทำยังไง


ถึงไม่ใช่งูพิษ ก็คงเถียงน่ะค่ะ

สุขที่แท้จริง นี่ไง หมูปฏิเสธสภาวะที่เกิดขึ้น ไม่ยอมรับตามความเป็นจริง
เพราะว่าไปให้ค่ากับตัวเองว่า ตัวเองทำถูก

ถึงไม่ใช่งูพิษ โหว งั้นความเป็นจริงคือ นี่คือผล ของเหตุ

สุขที่แท้จริง ใช่ค่ะ ถูกต้อง

ถึงไม่ใช่งูพิษ มันต้องเข้าใจเหตและผลก่อน

สุขที่แท้จริง สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด คือ ผลของหมูที่ต้องได้รับ
จากเหตุที่เคยทำเอาไว้ ด้วยความไม่รู้ แต่อาจจะระลึกได้หรือไม่ได้ทั้งหมด
เข้าใจหรือยังว่า สิ่งที่หมูกำลังทำอยู่ตอนนี้ ทำไมเจออะไรมากมาย เพราะว่าหมูเข้าหาต้นเหตุเลย
หมูไม่ได้เริ่มต้นจากความไม่รู้มาก่อน เหมือนหมูทำการบ้านน่ะ แล้วมีคีย์คำตอบให้เสร็จสรรพ
หมูแค่ทำตาม

ถึงไม่ใช่งูพิษ ค่ะพี่ คือเหมือนพี่น้ำปูทางไว้ให้หมูแล้วน่ะค่ะ แบบกรุยทางให้
แค่หมูลงมือทำ ไม่ต้องไปค้นหาหนทางเอง

สุขที่แท้จริง ใช่ค่ะ คือ ลงมือทำที่เหตุ ดับที่เหตุเลย

ถึงไม่ใช่งูพิษ หมูก็เลยเดินตรงเข้าสู่ถนน ทดสอบสิคะ บททดสอบก็เข้ามา
ทีนี้ก็อยู่ที่หมูเอง ว่าจะชดใช้แล้วจบเหตุ หรือก่อเหตุต่อ

สุขที่แท้จริง ใช่ค่ะ สิ่งที่เกิดขึ้นหรือสภาวะที่เกิดขึ้นของแต่ละคนนั้น ล้วนเกิดจากเหตุที่เคยทำมาทั้งสิ้น
พอได้รับผล เรากลับยอมมันไม่ได้ ยอมไม่ได้เพราะอะไร เพราะความไม่รู้
แต่ตอนนี้มารู้แล้ว ก็ขึ้นอยู่กับสติ สัมปชัญญะที่มีอยู่และที่ทำเพิ่มละว่าทันได้มากน้อยแค่ไหน
ต่อการสร้างเหตุใหม่ที่เกิดขึ้น หรือจะแค่รู้ ไม่ไปแก้ไขใดๆ

ถึงไม่ใช่งูพิษ อืมที่หมูยังขัดขืนสภาวะ อย่างตัวอย่างคือเถียงหัวเหน้า
นั้นเป็นเพราะหมูยังไม่ได้ลึกซึ้งถึงเหตุและผลด้วยตนเอง หมูก็ต้องสะสมสติ ไว้เพื่อ รับผลที่จะเกิด

สุขที่แท้จริง อย่างงานที่แต่ละคนทำนั้น ล้วนเกิดจากเหตุที่ทำมาทั้งสิ้น

ถึงไม่ใช่งูพิษ ค่ะ ก็ยังนับว่า ยังดีที่งานเป็นงานสะอาด ไม่พัวพันกะ เรื่องไม่ดี

ถึงไม่ใช่งูพิษ หมูตกลงย้ายห้องแล้วค่ะ ช่วงนี้ปลวกไม่ได้มารบกวนหมูก็จริง
แต่เขายังอยู่เพียงแต่เขาไม่ออกมาให้เห็น ก้อเลยย้ายดีกว่า ห้องกว้างกว่าเดิม 2เท่าไดมั้ง

สุขที่แท้จริง เห็นไหม เสียน้อยเสียยาก เสียมาก เสียง่าย มีโอกาสย้ายก็ย้ายซะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ ค่ะพี่ ตอนแรกปฎิเสธไปแล้ว เพราะนึกว่าไม่มีปลวก
แล้ว แต่ลองเขี่ยดู ยังมีแต่เขาซ่อนตัว

สุขที่แท้จริง ค่ะ ถึงเวลาก็ได้ย้าย คนไหนมีวิบาก เขาก็ไปอยู่ห้องนั้นแทน

ถึงไม่ใช่งูพิษ เรื่องสภาวะนี่ไม่ใช่เล่นเลย โดนทดสอบ เรื่อยๆ
ถ้ายอมรับความจริงได้ถึงขีดสุด ใครมาทำร้ายก้ไม่หนีสิคะ

สุขที่แท้จริง ใช่เลยจ้าาา

ถึงไม่ใช่งูพิษ โอย ยากมากก

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2010, 22:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


June 19
สอบตกอีกแล้ว ฮ่วย! + ระหว่างวัน 35+10 กลางคืน 60/20 และ 40/20

เดิน 35/10
ตอนเดินก็ช่วงแรกๆรู้กายได้ ไม่ค่อยฟุ้ง กำหนดได้เป็นอย่างๆไป หลังๆเริ่มฟุ้งและหงุดหงิด
ก็เลยหยุดก่อนตอนแรกตั้งใจจะเดิน 60 พอมานั่งก็ รู้กายนั่ง เวลาคิดก็กำหนดคิดหนอ
ทีนี้นั่งๆไปมดกัด มดจริงๆ กัด ตอนแรกก็กำหนด รู้หนอๆแล้วไม่ไหวเลยลืมตาไล่มัน
พอหลับตาอีก สักพักกัดอีก คราวนี้ทั้งมดทั้งสภาวะมด ผสมกัน สภาวะมาแล้วหายไป
ตัวจริงกัดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สังเกตว่า ทั้งกัดรอบแรก เมื่อกำหนดรู้แล้วจะมีนิมติรสีม่วงเกิด
ครั้งที่ สองก็ด้วย แต่ก็ทนไม่ไหวลืมตาไล่ต่อ แล้วเลยอุทิศส่วนกุศลต่อเลย

เมื่อเช้าสอบตกอีกแล้ว ไม่ไหวเลยทำไมควบคุมตัวเองไม่ได้แบบนี้

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ พูดว่า (10:47):
รอบแรก 60//20

ตอนเดินก็รู้เท้า มีฟุ้งกำหนดไป

แล้วพอมานั่ง ก็โดนมดไต่ มดจริงๆไต่หลายตัว
ก่อนไต่ก็รู้ว่ากำลังนั่งรู้ท้องขยับแผ่วๆ พอไต่มากๆเข้าก็ลืมตาปัด แล้วนั่งใหม่ก็รู้กายนั่ง

40/20 ค่ะ
เดินก็รู้เท้า เวลากำหนดยืนหนอเวลารู้ก็ชัดตอนลากจิตขึ้นลงแต่ก็บางครั้งค่ะ
มีเจ็บโน่นี่ไม่มาก

แล้วก็พอนั่งก็รู้กายนั่ง หลังๆมีมดไต่ มดจริงๆไม่ลืมตาเอามือปัดๆเสื้อนั่งต่อจนจบค่ะ

walai
ดีแล้ว ไม่ลืมตา

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ พูดว่า:

ค่ะพี่ เมื่อคืนก็นอนกะมด

walai
ใช้หนี้ไปค่ะ บททดสอบ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ พูดว่า:
ได้อ่านบทความบางบทความอ่านแล้วคิดถึงตอนเจอพี่น้ำครั้งแรก

walai
ได้แค่บอกว่า เหตุใครทำ คนนั้นรับไป มันมีแค่นี้แหละหมู ไปว่าเขา เราก็สร้างเหตุอยู่เฉยๆดีกว่า

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ พูดว่า:

ค่ะพี่ อ่านแล้วอยากร้องไห้ เศร้า คิดถึงอดีต

walai
เห็นไหม ขนาดหมูปฏิบัติมาแค่นี้ ยังเข้าใจเลย แล้วคนอื่นๆล่ะ พี่ถึงบอกไง เขาสร้างเหตุร่วมกันมา
พี่เองนะก็เคยเข้าใจสภาวะแบบผิดๆแบบนี้แหละ เป็นมาก่อน

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ พูดว่า:

ค่ะ เพิ่งรู้ว่าพี่น้ำเคย อ่านในบันทึก รู้แต่ว่าทนมาก

walai
พี่ไม่ได้เขียนเรื่องนี้ลงไป คือพอดีมันผ่านๆ เป็นเพราะพี่ไม่แม่นสภาวะในช่วงนั้น

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ พูดว่า:

อ่อ พอเจริญสติต่อไปพี่น้ำก็เข้าใจตามจริง

walai

พูดว่า:
ใช่ค่ะ สภาวะมันต้องแม่นจริงๆนะหมู ตอนนี้ ใครมาถาม พี่ถึงไม่พูดอะไร
เวลาเกิดการกระทบ พี่ถามนะ หมูทำยังไง

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ พูดว่า:
ตอนนี้กำหนดนะคะ ไม่งั้นเลยเถิด

walai พูดว่า:
อย่างหมูคือกำหนด นั่นคือรู้กำลังสติของตัวเอง

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ พูดว่า:
ใช่ค่ะพี่

walai พูดว่า:
แต่อย่างพี่ หรือที่พี่สอนคนอื่นๆ เวลาเกิดการกระทบ ดูจิตเราก่อน หมายถึงถ้าสติทันแล้วนะ
ถ้าสติไม่ทันให้กำหนดก่อน เพราะสิ่งที่มากระทบล้วนมีเหตุ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ พูดว่า:
หมูต้องใช้คำกำหนดเป็นพี่เลี้ยงก่อน
การรู้กายรู้ใจ เรารู้ได้อยู่แล้ว ต้องรู้ตรงกะปัจจุบัน สติจะเกิดเองไม่ได้ถ้าไม่ได้ฝึกดีก่อน
อกุศลเกิดขึ้นแล้ว ก็กิเลิสงาบ ถ้าสติดีอยู่แล้ว ความโกรธจะไม่เกิด กิเลสก็จะไม่เกิด

walai พูดว่า:
นั่นแหละ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ พูดว่า:
โชคดี ที่มาได้เจริญสติปัฎฐาน

walai พูดว่า:
การให้ค่า แล้วแต่เหตุที่ทำมากัน

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ พูดว่า:
กับดักเต็มไปหมดเลย หนทางนี้นะคะ

walai พูดว่า:
ใช่ค่ะ นั่นคือเหตุ เหตุแต่ละคนทำมา

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ พูดว่า:
ค่ะ ถ้าใครเขาหมดเหตุ มีโอกาสออกจากตรงที่ติดอยู่นั้น ความเชื่อเปลี่ยนยากจะตาย

walai พูดว่า:
เวลาหมูตอบตามสภาวะของหมู หมูจะตอบได้ชัดเจน

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ พูดว่า:
2 -3 วันแล้วโดนกระทบตลอด พอเจอวิชาหมานั่งขี้ ก็ตาเหล่เลย แบบประทับทรวงมาก

walai says:
แน่นอนนค่ะ กิเลสมันไวน่ะหมู พี่ถึงบอกไง หมูไปให้ค่าเอง ไม่งั้นคงไม่ไปสงสัย
ไม่ทบทวนให้ดีๆก่อนจะถาม เจอท่าหมานั่งขี้ไป ตกไปอยู่อนุบาลเลยย

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ พูดว่า:
มันยังอีกเยอะค่ะ หมายถึงก็ดีค่ะ มันทำให้ระวังตัว สอบตกหลายรอบ ก็รู้ว่าตัวเองอยู่ตรงไหน
เวลาที่สติมีหรือช่วงนั้นไม่โดนกระทบ หมูชอบคิดว่าอยากเจออีกจะกำหนดให้
พอเจอปุป ติดๆกันหลายเรื่องเลย แล้วเหมือนกิเลสมันหัวเราเยาะว่านี่ไงเจอแล้วไง เป็นไงละ

ก็บางทีก็ขำนะคะ เออจริงของมันเวลาอารมณ์ครอบงำจิตแล้ว
มันต่างกันหน้ามือกะหลังมือ ก็ต้องหมั่นกำหนดบ่อยๆ

walai พูดว่า:
ค่ะ โดนทำข้อสอบ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ พูดว่า:
ไม่ต้องไปหวังหรอกมรรคผล เหมือนพี่น้ำบอกแหละค่ะ แค่ความโกดหยาบๆเห็นๆ เอาตัวรอดแค่นี้ก่อน

walai
ใช่เลยค่ะ ยิ่งหวัง ยิ่งโดนหงายหลัง

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มิ.ย. 2010, 00:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


22 มิถุนายน
เดิน 60/25 และ 25/10 ---> เดิน 1 ชั่วโมง ให้ปรับเวลานั่งเหลือ 15
เดินน้อยกว่า 1 ชั่วโมง นั่งแค่ 10

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
เสร็จแล้วค่ะพี่ 60/25 ค่ะ

เดิน การรู้เท้าก็รู้ได้แต่บางทีก็ขาดช่วง มีมดกัด 1 ครั้งค่ะ
มันก็เห็น ความแตกต่างระหว่าง เวลามีสติ กะวลาโดนกิเลสครอบงำ

พอมานั่ง
ก็รู้ว่ากายกำลังนั่งกะไปคิด กำหนดรู้หนอ
แล้วรู้กายนั่งต่อ แต่ไม่ได้จับที่ส่วนใดส่วนหนึ่งค่ะ
จำรายละเอียดมากไม่ได้แต่ ไม่ได้หลับใน ประมาณรู้ว่านั่งๆ คลอๆคิดๆ
นั่งเกินมา 5 นาทีเพราะไม่ได้ยินเสียงนาลิกา แล้วกำหนดออกเพราะคิดว่าเกินเวลาแล้วค่ะ

walai says:
ลดนั่งเหลือ 15 นาทีค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
อ้อตอนนั่งมีมดกัดประมาณ 2 ครั้งค่ะ

walai says:
ถ้าเดินน้อยกว่า 1 ชม. ให้นั่ง 10 นาทีพอค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ได้ค่ะ

เสร็จแล้วค่ะพี่ 25/10 ค่ะ
เดินก็รู้เท้าชัดบ้าง ไม่ชัดบ้าง

นั่งค่ะ
พอนั่งก็รู้ท้องกะอกขยับค่ะ คลอๆคิดแผ่วๆ รู้ได้จนจบการนั่งค่ะ

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มิ.ย. 2010, 20:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


says: เพิ่งอ่านเจอที่พี่น้ำลงเรื่องทดสอบความโลภ โดนเหมือนกันค่ะ อะเมซิ่ง
พี่สาวเขาจะขายของ โอกาสกำไรเยอะมาก ก็อยากร่วมหุ้นด้วย แต่นั่นหมายถึง
จะเวลาน้อยลงเพราะเสาร์อาทิตย์ต้องไปขายของ ทุกวันนี้ก็น้อยอยู่แล้ว

และถ้าไปขายจริงๆ ก็จะไปปฎิบัติกะพี่น้ำ ในวันหยุดบางโอกาสเหมือนที่เป็นอยู่ไม่ได้
เขาก็ถามให้กำหนดวันมา ก็เลยบอกเขาว่า ไม่ละ เขามีหุ้นกะเพื่อนอยู่แล้ว
ถ้าเดือดร้อนฉุกเฉินไม่มีคนเฝ้าร้านบางครั้ง ถ้าพอช่วยได้ในวันนั้น ไม่ติดอะไรก็บอกมา
แต่ไม่ทำจริงจังแล้ว ก็ยอมรับนะคะว่าใจหนึ่งมันอยาก แต่ว่า

walai says: เข้าใจค่ะ หากไม่เด็ดขาด ไปทางนี้ไม่รอดค่ะ ความอยากมี มันมีเยอะกว่า

says: ค่ะ พี่ ก็ว่ายังงั้น สรุปไปแล้ว ไม่ทำค่ะ ช่วยเวลาฉุกเฉินเท่าที่ช่วยได้
แต่เรายังรักษาเวลาสำหรับปฎิบัติ

walai says: โดนกันไปถ้วนๆหน้าค่ะ โดนกันหมด คนที่ปฏิบัติกับพี่
โดนทดสอบตัวเดียวกัน แม้แต่น้องที่อยู่บ้านด้วยกัน เกือบจะทำให้หลายๆคน
ที่ยังมือใหม่ ถอดใจเลิกทำไปเลย

says: แปลกดีนะคะ หลายครั้งแล้วนะคะ จะเห็นพี่น้ำนำเราก่อน

walai says: ค่ะ เจอสภาวะเดียวกัน แต่อยู่ที่ใครมีสติ สัมปชัญญะ
รับมือกับเหตุการณ์ได้มากกว่า

says: แล้วพี่ก็จะเฉลยเร็ว แล้วเราก็จะได้คำตอบจากทางเลือกของพี่
หรือบางทีเราตอบเองแล้วแล้วยังลังเล ก็มาเจอพี่

walai says: ทุกอย่างมีเหตุมาก่อนค่ะ

says: กราบขอบพระคุณ อย่างสูงค่ะพี่

walai says: พี่บอกแล้วว่า สภาวะทุกคนเหมือนกันหมด
แต่รายละเอียดแตกต่างกันไปตามเหตุที่แต่ละคนกระทำมา
แต่เจอสภาวะเดียวกัน แตกต่างรูปแบบเท่านั้นเอง

says: แต่บททดสอบพี่น้ำยากกว่านะคะ คือดูแล้วมีแต่ได้
ปฎิบัติก็ได้เงินก็ได้ไม่เห็นเสียอะไรเลย

says: ของพี่กิเลสมันใส่สูทมาเลย มาแบบไฮโซเศษฐี เอาเงินจำนวนมากมายื่นให้
แล้วถามว่าเอาป่ะ ทั้งๆที่ๆจะไปทำงานใหม่นี่ก็ปฏิบัติได้ ไม่ใช่ทำไม่ได้
ยิ่งสติ สัมปชัญญะมีมากขึ้นเท่าไหร่ บททดสอบยิ่งละเอียดมากขึ้น


says: นั่นสิพี่ กิเลสใส่สูท

walai says: พี่ห่วงทางนี้มากกว่าค่ะ ห่วงพวกแม่ค้า ห่วงพวกคนทำมาหากิน
จะต้องเลิกทำกันหมด เมื่อไม่มีพี่อยู่

says: อ้าวเหรอคะ ทำไมละคะ

walai says: คนปฏิบัติทุกคน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ กำลังใจ พี่เลี้ยงจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ
เหมือนหลายๆคน ตอนที่มาทำกับพี่ใหม่ๆน่ะ ไม่รู้เรื่องอะไรเลย

says: อ่านข้อความไม่ละเอียดค่ะ นึกว่าเขาต้องเลิกจากอาชีพเขาน่ะค่ะ
ขอโทษค่ะ อ่านปราดๆ

walai says: เลิกปฏิบัติค่ะ

says งั้นจริงค่ะ ทุกคนต้องการพี่เลี้ยง

walai says: ที่เลิกเพราะยังไม่เข้าใจตัวสภาวะของเหตุที่แท้จริง
ที่ทำให้ชีวิตเขาต้องเป็นแบบนี้กัน

says: ขนาดเห็นบ้างแล้วยังยอมรับยากเลยค่ะ

walai says: ทำแล้วเจออุปสรรค ทำแล้วยากจน ทำแล้วทุกข์ สารพัดปัญหา
ทุกคนต้องไปกล่าวโทษว่าเพราะทำกรรมฐานหรือเจริญสติ
เพราะเขายังไม่เห็นตามความเป็นจริง เขาจึงพูดแบบนั้นกัน โทษนอกตัว

says: ค่ะพี่

walai says: ความอยาก กิเลสใส่สูทของพี่น้ำน่ะ


says: ถ้าเป็นหมูๆอาจคิดว่านี่ไง ผลตอบแทน จากการปฎิบัติ

walai says: กิเลสตัวแม่เลยแหละนั่น ความอยากมี อยากได้ เงินคืออสรพิษ

says: หมูว่าหลายคนเลยค่ะ ที่ต้องรู้สึกแบบนั้น อ่านแล้วน้ำลายสอ

walai says: จากหมื่นได้เพิ่มเป็นสามหมื่น เรื่องปกตินะ เป็นใครๆก็อยากได้
ขนาดน้องที่บ้านยังบอกเลยว่าไปสิ ทำไมไม่ไป บ้านก็อยู่ฟรี

says: ค่ะพี่ มันดูดีทุกอย่าง

walai says: เพราะทุกคนมองที่เงิน มองที่รายได้
ทุกคนมองว่ากลางคืน หรือตอนไหนๆก็ปฏิบัติได้ เอาเงินไว้ก่อน แบบนี้หาได้ยาก
แต่สำหรับตัวพี่มองคนละแบบกับคนอื่นๆ

ได้เงิน 3 หมื่นจริง แต่ต้องแลกกับสภาวะของพี่ที่กำลังไปได้ดี
ปฏิบัติได้ถึงวันละ 8 ชม. มีเวลาสร้างกุศลกับคนอื่นๆในเวลากลางคืน
พี่เลือก เงินน้อย มากกว่าเงินมากนะ เงิน 3 หมื่น แต่ต้องสูญเสียเวลา
อันมีค่าไปถึง 8 ชม.

says: ค่ะพี่ ชัดเจนนะคะ ไม่คุมเคลือ เงิน 3หมื่นแลกกับภพชาติที่ยาวออกไป
เทียบแบนี้ไร้ค่าสิ้นดีเลยค่ะ เงิน

walai says: ไม่รู้ว่าจะตายวันไหน เกิดไปได้เดือนเดียวหรือไม่ทันจะไป ต้องตายก่อนล่ะ
เงินมีค่าไหม ไม่มีเลย

says: เสร็จแล้วค่ะพี่ เดิน 60 นั่ง15 ค่ะ
วันนี้ฟุ้งไหลเยอะค่ะ ปกติฟุ้งล้วยังรู้ตัว อันนี้เผลอ
พอมารู้ก็ชัดใหม่ แต่มีเผลอไหลไปแล้ว คือคิดเรื่องงาน
แล้วก็มีความอยาก อยากจะรู้ตัวได้เยอะๆ แล้วมีมดกัดนินดหน่อย

พอมานั่ง
ก็คล้ายๆกันค่ะ จะมีหลงไหลไปกะความคิด แต่ก็รู้กว่ากำลังนั่ง

รอบ 2 25/10 ค่ะ
ก็รอบนี้ยังมีฟุ้งบ้าง แต่ว่า รู้เท้าได้ต่อเนื่องขึ้น
มีมดกัดนิดหน่อย

พอมานั่ง
รู้ท้องขยับ มีหลงไปคิดเรื่องขายของ
พอรู้ว่าหลง ก็กำหนดรู้หนอมาอยูกะกายได้ชัดขึ้น
คราวนี้ก้อรู้กาย บ้างอารมณ์บ้างไปจนจบค่ะ

walai says: อยากได้เงินเพิ่มล่ะสิ

says: ใช่ค่ะ


walai says:

เข้าใจค่ะ ก็เหมือนหลายๆคนที่พี่พูดเร่องานใหม่ให้ฟัง มีแต่คนอยากได้
พี่ทุกข์มามากพอแล้ว พี่เข้าใจในสิ่งเหล่านี้ดี และไม่คิดจะวนเวียนกลับไปหามันใหม่อีก
จริงๆแล้วต้องย้อนกลับมาดูตัวเอง

สมัยก่อนพี่ก็เป็นแบบนี้ พี่ถึงบอกไง พี่เข้าใจถึงชีวิตของคน มีเท่าไหร่ก็ไม่รู้จักคำว่าพอ
เพราะที่เคยคิดว่า ถ้าได้เท่านี้ๆจะพอละ พอได้จริงๆ มันไม่เคยพอ ต้องทะยาน
หาเพิ่มไปเรื่อยๆ สุดท้าย ถอยห่างจากเส้นทางนี้ไป
ทุกอย่างล้วนมีเหตุมาก่อน ชีวิตของแต่ละคนจึงเป็นเช่นนั้น

says: คือคิดเอาเงินมาให้แม่ และก็จุนเจือ คนอื่นๆบางโอกาส
อีกส่วนก็สปอยตัวเอง

walai says: เหตุสารพัดเหตุแหละที่จะขุดขึ้นมาอ้าง ถ้าไม่อยากได้ มันจะไม่มีข้ออ้าง
นี่แหละยากยิ่งนัก

says: ค่ะ มันก็ยังอยากน่ะค่ะพี่ ตอนพี่น้ำหาเงินเก่งๆ ตอนนั้นก็รู้สึกว่าไม่พอเหรอคะ

walai says ไม่เคยพอ ไม่รู้จักคำว่าพอ เพราะหาง่าย แต่ใช้หมด แถมติดลบ
สังคมเยอะ เพื่อนเยอะ ชอบเลี้ยงชาวบ้าน ชอบไปกินข้าวตามร้านอาหาร
แล้วจะไปเหลืออะไร ของซื้อมาก็ทิ้งๆขว้างๆ กินทิ้ง กินขว้าง พอวันหยุด เมาโลด

says ค่ะ ตอนนี้เหลือ 1 หมื่น แต่กลับรู้สึกพอ อะไรกันนี่ แถมมีเหลือเก็บอีก

walai says: เพราะมีสติไงหมู รู้ว่าอะไรควรซื้อ ไม่ควรซื้อ จำเป็นแค่ไหน
ต้องเรียกว่ามีเงินทำบุญดีกว่า พี่ไม่เคยเก็บ แต่ไม่เคยเป็นหนี้เพิ่มอีก
แถมทะยอยใช้ของเก่าหมดไปทีละคน

says: 1 หมื่น ใช้หนี้ได้ มีเงินทำบุญ พอใช้ต่อเดือน โอโห

walai says: แล้วพี่จะไปวิ่งหาเอาทุกข์มาใส่ตัวอีกทำไมล่ะ
อยู่แบบนี้ก้สบายอยู่แล้ว กรรมฐานก็ได้ทำเต็มที่ เงินก็มีใช้
จะไปเอาอะไรมากมาย ทำบุญก็ได้ทำ มีที่ให้เลือกทำอีก
มีให้แม่ได้ เมื่อก่อนไม่มีให้เลย จะไปหาแบบนี้ได้ที่ไหน

says: ไม่มีแน่ๆๆๆ ทำกรรมฐานได้ทั้งวันนี่ ไม่มีอีกแล้ว

walai says: เห็นมะ อยากได้ห้องแอร์ ก็ได้ทันตาเห็น ไม่ต้องไปเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม
จากที่เคยคิดจะติดแอร์ที่บ้าน ตอนนี้ไม่คิดแล้ว ไปวัดสบายกว่าเยอะ
อาหารการกินอุดมสมบูรณ์ น้ำปานะมีสารพัดให้เลือก จะไปหาได้ที่ไหนแบบนี้น่ะ
กิเลสนะ ความอยากมีของคนมีเยอะ ถึงได้หลุดจากเส้นทางนี้ไป พี่น่ะเจอมาหมดแล้ว
ถึงไม่สนใจจำนวนเงินที่เขาให้มา

says: ต้องไม่ประมาทๆๆ จะท่องไว้ๆค่ะ

walai says: จำไว้นะ ยิ่งเงินสูง ภาระความรับผิดชอบยิ่งเยอะตาม งานยิ่งมากขึ้น

says: ใช่ค่ะพี่ จริงๆค่ะ ทุกวันนี้ก็ อืมม ระดับหนึ่งละ

walai says: บางทีคนไม่มองตรงจุดนี้กัน ไปมองแต่หลักของเงินที่จะได้
แต่ไม่มองสิ่งที่จะต้องสูญเสียไป

says: วันนี้ปฎิเสธงานบางอย่าง ที่จะมีผลต่อความก้าวหน้าในอนาคต
เพราะถ้าทำเวลาจะน้อยลงแน่ พี่คะคือสังเกตุความโกรธ ตัวเองน่ะค่ะ
มันชัดมากเลยและรุนแรง เคลื่อนไหวเป็นอิสระมากๆๆๆๆๆ

เหมือนตัวความโกรธเพียวๆเด่นขึ้นมา แต่จะสงบไวขึ้น
ไม่วนกลับไปเกาะเกี่ยวเข้ามาอีก ผ่านล้วผ่านเลย ถ้าเกาะอีกก็บางลงๆๆ
ในเรื่องนั้นๆ แต่ตอนที่โกรธจะเห็นมันรุนแรงกว่าสมัยก่อนเจริญสติแบบเด่นชัด

walai says: ถ้าเทียบกับที่ยังไม่ได้มาเจริญสติล่ะ

says: ก่อนเจริญสติเหมือนมันกรุ่นๆตลอดเวลา
แล้วจะทุ่มความรู้สึกจมอยู่กะเรื่องนั้นๆตลอด จนจิตมันช้ำ แล้วจะมีความแค้นเกิดขึ้น

แต่ว่ามันไม่รุนแรงแบบเฮือก ตูมเดียวน่ะค่ะมันนอนๆๆ ต่อเนื่อง
ตอนนี้จะรุนแรงแบบปรี๊ดด แต่สั้นลง

walai says นั่นแหละ มันเทียบผลให้เห็นได้
ความโกรธ หรือตัวโทสะ แบบหยาบจะเห็นได้ชัดกว่าตัวละเอียด

says: แล้วพอมันสงบในตอนนี้นะคะ มันหน้ามือหลังมือเลยค่ะมันเหมือนไม่เคยโกรธ
มาก่อนเลย จะแทนที่ด้วยเมตตา เหมือนแบบเออชั้นเป็นอะไร
แล้วก็เห็นใจเขาว่าเขา เป็นแบบนั้นเพราะกิเลส ก็เหมือนเรา แต่นั่นคือผ่านจากโกรธแล้ว

แต่สมัยก่อนจะไม่สามารถรู้สึกแบบนี้ได้
มันต้องใช้ความคิดข่ม แต่ก็ยังโกรธ ยิ่มข่มยิ่งโกด

walai says: ค่ะ กำลังของสติ สัมปชัญญะรู้เท่าทันการปรุงแต่งของจิตมากขึ้น
ยิ่งถ้าทันปัจจุบัน มันจะสักแต่ว่ารู้ ไม่ไปโกรธ
มันจะมองเห็นแต่เหตุที่กระทำ และผลที่ได้รับ มันจะมีแต่ให้อภัยเขา

says: ค่ะ เปรียบเทียบระว่างจิตตอนโกรธกับไม่มีความโกรธ ได้ชัดมากๆค่ะ
แต่ก่อนเทียบไม่ได้ ทำต่อไป อย่างน้อยก็ทุกข์สั้นลง

walai says: นั่นแหละ พี่ถึงบอกไง ไม่ต้องไปมองไกล ไปมองสิ่งที่มองไม่เห็น
ให้มองปัจจุบัน ให้ดูผลที่ได้รับในปัจจุบัน มองดูสิ่งที่เกิดขึ้นปัจจุบัน มองตรงนี้
ไม่ใช่ไปคุยเรื่องมรรค ผล นิพพาน มีแต่น้ำท่วมทุ่ง ผักบุ้งโหรงเหรง

ดูเหตุที่ทำ ดูผลที่ได้รับพอ
ดูสติ
ดูสมาธิ
ดูปัญญาที่เปลี่ยนไป
ดูรู้ที่มีเกิดขึ้น เริ่มมีรายละเอียดให้เราเห็นเด่นชัดมากขึ้น

says: อืมมม ค่ะพี่ ต้องใช้เวลา

walai says: ใช้ความต่อเนื่อง เวลาไม่ใช่ตัววัด

says: ค่ะพี่ แบบค่อยๆสะสมไป ให้ต่อเนื่อง


walai says: ใช่ ไม่ต้องรีบ ความรีบคือความอยากที่แฝงอยู่ พอรีบแล้ว เจอแต่ทุกข์
เพราะไม่ได้ดั่งใจ ให้ค่าอีกแล้ว ทำเท่าที่เราทำได้

วันไหนขี้เกียจมากๆก็ให้รู้ว่า เออมันขี้เกียจจริงๆ ไม่ปฏิเสธ เดิน 5 นาที นั่ง 5 นาทีพอ
แต่อย่าหยุดแม้แต่สักวันเดียว เวลาไหนมันรู้สึกขยัน อารมณ์ดี อยากทำ ทำไป
ทำตามกิเลส เหมือนพายเรือตามน้ำ อย่าไปขัดใจคุณกิเลสเขา
อย่าคิดว่าแน่ซะเหลือเกิน เดี่ยวน้ำตาตกมา จะหาว่าไม่บอกกันมั่งเลย

says: สมมติเราขัดใจปั๊ป ความไม่พอใจจะเกิด แล้วก็อาจจะทรมานจนเลิกทำไปเลย

walai says: อย่าไปคาดเดา คุณกิเลสเขามีหลายวิธีที่จะทำให้เราทุกข์
เรารู้ทันเขาน่ะดีแล้ว หัดโง่เข้าไว้ อย่าทำตัวฉลาด อย่าอวดเก่งว่าเก่งแล้ว
ไม่กลัวหรอกกิเลส แล้วจะหาว่าไม่บอก เจอมาหมดแล้ว

says: โดนๆเลยค่ะ ก็พอคิดอวดเก่ง ตอนไม่มีกระทบว่าเออแหม
มาแล้วข้าจะกำหนดให้ โดนติดกันเลย

walai says: นั่นแหละ เฉายิ่งกว่าปลาตายอีก

says: แล้วจิตก็เปลี่ยน จากสบายๆเนี่ย เป็นนรกเลยค่ะ แบบมันไม่น่าเชื่อเลย

walai says: เพราะเราไปหลงให้ค่าไง

says: มันไม่ทันการกระทบน่ะค่ะ

walai says: ถ้ากระทบมาแค่รู้ แค่ดู ไม่ไปให้ค่า ทุกข์ย่อมไม่เกิด

says: สติยังแค่รู้ไม่ได้ค่ะ เลยลุกเป็นไฟ

walai says: เหตุที่เกิดน่ะใครทำล่ะ เราเองและตัวต้นเหตุ ทำเอาไว้ทั้งนั้น
ทีนี้พอผลเขามาแสดงตัวให้เจ้าของรับรู้ ดันจำไม่ได้ซะนี่
มันถึงมีเรื่องไม่รู้จบ ก่อเหตุใหม่ไปเรื่อยๆ

says: ใช่ค่ะ ยอมรับเลย ยังยอมไม่ได้ เลยยังก่อเหตุ

walai says: มีวิธีเดียวเท่านั้นแหละที่จะรับมือกับสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นเหล่านี้ได้
มีแต่การเจริญสติเท่านั้น สติ สัมปชัญญะดี หิริ โอตัปปะก็ทำงานมากขึ้น
ศิลก็สะอาดมากขึ้น สมาธิตั้งมั่นได้ง่ายมากขึ้น ปัญญายิ่งไม่ต้องไปพูดถึงเลย

says: ค่ะจะรักษาให้ต่อเนื่องต่อไป ก็ได้อ่าน ที่ว่าโดนบททดสอบกันทั่วหน้าแล้วนะคะ
โดนกันทั่วจริงๆ งานลดลง

walai says: มันไม่เที่ยงค่ะ

says: อืมม ค่ะ พี่น้ำเจอแปลกมาเยอะ

walai says: นี่แหละคือเหตุดีของพี่ ทำให้พี่ไม่ยึดติด ไม่งั้นหลงตาย
ตั้งแต่เรื่องพระธาตุ และเรื่องประหลาดๆอีกมากมาย

says: นั่นสิคะ พระธาตุนี่ก็อะเมซิ่งมาก เหล็กไหลนี่ก็ด้วยนะคะ
มีแต่ของปาฎิหารย์

walai says: เจอจนชินนะ เฉยๆ

says: อืมมม ยังติ่นเต้น

walai says: แต่ยอมรับว่าพระธาตุนี่อะเมซิ่งกว่าทุกๆเรื่อง
เล่นมาแบบฝังอยู่ในเนื้อเหล็ก คิดดูละกัน

says: พี่น้ำขอดู ก็มาเลย

walai says: แล้วพระตั้งสี่สิบกว่าองค์ มีแต่หน้าตักห้านิ้ว

says: เป็นพระธาตุของท่านใดอะคะ

walai says: พี่ไม่รู้หรอก ดูไม่เป็น

says: แบบเหมือนเพชรแวบๆใช่ไหมคะ

walai says: เป็นเหมือนเพชร แวววับเลย

says: คนอื่นๆเห็นคงกรี๊ด

walai says: ทำไมเหรอคะ มีอะไรพิเศษเหรอ

says: แหมพี่คะ โอย จาเป็นลม

walai says: ก็ไม่รู้เรื่องนี้จริงๆ

says: ไม่ได้เกิดขึ้นแบบเห็นจะๆนี่คะ ปกติพระธาตุเราเห็นที่บอกว่าใช่คือวางไว้แล้ว
เราไม่รู้ที่มา แต่นี่เห็นๆว่าปาฎิหารย์

walai says: แล้วแบบเพชรนี่คือของใครคะ

says: เปล่าคะหมูไม่รู้ของใครแต่หมายถึงคนอื่นๆน่ะ อยู่ๆมาเห็นโผล่แบบนี้ก็กริ๊ด

walai says: อ่อ เยอะมากๆ แต่ใครๆมาขอ เอาไปไม่ได้ เพราะฝังในเนื้อเหล็กของพระ
มีนะ จะขอยกไปทั้งพระอีก

says: ดีตรงที่ ทำให้คนที่ไม่ชื่อ เรื่องบุญกุศล ยอมรับความจริง

walai says: พี่บอกว่าถึงเอาไปก็ไม่มีประโยชน์เพราะพี่อธิษฐานแค่ขอดู พี่ไม่ได้อยากได้

says: คนอยากคงขอดูไม่ได้นะคะ

walai says: ท่านก็เลยเสด็จมาให้ดูซะสะใจไปเลย

says: นั่นสิคะ เห็นว่าหอมด้วยใช่ไหมพี่

walai says: อ๋อ เขาได้ดูกัน พี่ไม่หวง แต่เขาจะขุดเอาไป ไม่ก็ขอพระพี่ไป
พี่เลยบอกว่าเอาไปไม่ได้ เดี๋ยวพระธาตุก็หายไปแล้ว พี่แค่ขอดู ไม่ได้อยากได้ หอมมากๆ

says: เขาว่าไงคะ กลิ่นเหมือนอะไร

walai says: เปรียบเทียบไม่ได้ รู้แต่ว่าหอมมากๆ
แม่บ้านบอกว่า ห้องของพี่มีกลิ่นหอมออกมานอกห้อง เขาเลยถามพี่ว่าใช้สเปรย์อะไร
ฉีดห้อง เขาไม่เคยได้กลิ่นหอมแบบนี้

says: เอ๊ะ พระวางที่บ้านหรือที่ทำงานคะ

walai says: ตอนนั้นอยู่หอที่บริษัทน่ะ
จะมีแม่บ้านคอยมาทำความสะอาดแถวระเบียงหน้าห้องทุกวัน ผีที่หอดุ หาคนอยู่ได้ยาก
พี่ไม่เคยเจอ เพื่อนพี่ไปนอนห้องพี่ก็เจอ

เพื่อนบอกว่าเป็นผู้ชาย ตัวใหญ่ มายืนมอง แล้วหายตัวไปต่อหน้าเขา
เขาเลยไม่ยอมนอนห้องพี่อีกเลย

says: เอ่อ งั้นชักกลัวไม่กล้าไปพักบ้านพี่น้ำ ที่บ้านหลังนี้คงมีเหมือนกันนะคะ
ก็เคยเจอจังๆ 2 ครั้ง มาดีๆค่ะ ครั้งแรกมาสั่งสอน เพราะนอนดึก เลยเปลอมตัว
มาเป็นพ่อ ตาเหลือกเลยด้วยความกลัว

ครั้งที่สอง ไปปฎิบัติ แล้วไม่มีนาฬิกาปลุก โดนดึงแขนขึ้นๆลงๆ 2-3 ครั้งให้ตื่น

walai says: ทำให้นึกถึงตัวเองน่ะ ที่โดนผีด่าว่าควาย ง่วงน่ะ ไม่ยอมทำกรรมฐาน
โกรธนะตอนนั้น หนอยย มาด่าเฉยเลย หายง่วงเลย

says: ไม่หายก็บอกไม่ถูกละค่ะ มาซะเปรี้ยว
ตอนโดนดึงแขนอะค่ะ เหมือนเราเห็นแขนตัวเราซ้อนๆๆๆ กัน ขึ้นลงช้าๆ
แล้วว่าไงรู้ไหมคะ ก็บอกว่าอือรู้แล้ว เดี๋ยวไป ขอหลับตาอีกนิด

walai says: ตาลายป่ะ

says: ตาหลับอยู่ค่ะ แต่เห็น
สติเป็นยาวิเศษ อ่านที่พี่น้ำคุยกะคุณเก๊ะว่าการบรรลุทำ ไม่เกี่ยวกะขยันแต่เกี่ยวกะเหตุ
แบบหนี้เราน้อย แล้วเจริญสติต่อเนื่องก็บรรลุไว หรือคะ

walai says: แปบบนะ ถ้าหนี้น้อย ไหนเข้าใจว่ายังไง

says: คือเข้าใจว่า เหตุที่เราก่อไว้ เหตุที่เราก่อไว้น่ะค่ะ ทะยอยใช้หมดแล้ว

walai says: เหตุที่เราก่อไว้คืออะไร

says: กรรมดี กะกรรมชั่วค่ะ

walai says: กรรมดี กรรมชั่ว คืออะไร

says: อุปทาน อืมมม นะคะ

walai says: อุปทานยังไงคะ

says: ก็พอกระทบ แล้วปรุงแต่น่ะค่ะก็เกิดดีชั่วขึ้น

walai says: สรุปได้หรือยังคะ เหตุคืออะไร

says: การปรุงแต่งค่ะ

walai says: การปรุงแต่งเกิดจากอะไร

says: ขาดสติค่ะ


walai says: มันก็ใช่หมดนะ ที่หมูพูดๆมา แต่มันแบบหยาบๆ
ทำไมบางสิ่งกระทบ แล้วเราไม่ปรุงล่ะ

says: คือ เราไม่สนใจมันอะค่ะ แบบไม่มีความหมายสำหรับเรา

walai says: นั่นสิ ทำไมล่ะ ทั้งๆที่มันก็คือเหตุ เหมือนที่ถามพี่เรื่องหนี้เมื่อกี้
การกระทบทุกๆการกระทบ มันมีของมัน มันเป็นของมันแบบนั้นอยู่แล้ว
ซึ่งเราเรียกมันว่า สภาวะ ถึงแม้ไม่มีเรา สิ่งนี้ก็มีอยู่แล้ว เมื่อมีเรา จึงมีเหตุให้เกิดขึ้นเอาง่ายๆ คนเขาด่ามาน่ะ กิเลสของใคร

says: ของคนด่าค่ะ

walai says: กิเลสชาวบ้านถูกไหม

says: ช่ายค่ะ

walai says: ถ้าไม่เคยสร้างเหตุมาร่วมกับเขา ก็จะสักแต่ว่ารู้ สักแต่ว่าดู
สักแต่ว่าเห็น ใช่ไหม

says: เอ่อทุกวันนี้โดนด่า ยังสักแต่ว่าไม่ได้อะค่ะ แต่ถ้าเขาด่าคนอื่นน่ะได้ค่ะ

walai says: ไปไกลเลย ถามตรงนี้ไปตอบตรงอื่น ถามหน่อย ถ้าโดนคนบ้าน่ะ โกรธไหม

says: ไม่โกรธค่ะ

walai says: ทำไมไม่โกรธล่ะ ทั้งๆที่เขาด่า

says: ก็เขาบ้า เขาบ้าน่ะค่ะ ก็เลยไม่ถือ เพราะเขาไม่ปกติ

walai says: แล้วในมุมกลับ ถ้าคิดว่าเพราะเขาบ้า
แล้วเวลาคนอื่นที่มาด่าเรา ทำไมไม่คิดว่าเขาบ้ามั่งล่ะ

says: เอ่อ เพราะเรารู้สึกว่าเขาจงใจด่าเรา แบบมีปัญหากะเรา

walai says: ในหมูบ้านพี่ มีคนโดนคนบ้าด่า เขาโกรธคนบ้ามากๆ
ถึงขนาดถือไม้ไล่ตีคนบ้า เห็นไหมเหตุ

เหตุก็คือสภาวะหรือสิ่งที่เกิดขึ้น มันมีของมันอยู่แล้ว
แต่เราไปอุปทานให้ค่ามันเอง มันถึงได้สร้างเหตุใหม่ไม่รู้จักจบสิ้น
กิเลสทั้งนั้น กิเลสชาวบ้าน แต่เอามาเป็นกิเลสตัวเอง จำเรื่องพระกับมารได้ไหม

says: จำได้ค่ะ ที่เลิกวาดรูป

walai says: ที่นี้เข้าใจคำว่าหนี้หรือยังล่ะ เหตุไม่มีแล้ว ผลจะมีได้ไง เหตุก็คือกิเลส
เพราะสภาวะยังไม่ถึง ถึงได้ถามมาแบบนั้น

says: ค่ะพี่ ก็ยังเหมือนเดิมอะค่ะ ทำต่อไป ไว้ย้อนกลับมาอ่าน สักวันคงเข้าใจมากขึ้น

walai says: นั่นแหละคือคำพูดที่ถูกต้องเลย ทำต่อไปค่ะ

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มิ.ย. 2010, 02:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


25 มิย. 53


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
เสร็จแล้วค่ะพี่
50/10 ค่ะ
เดินก็มีมัวๆ กะความคิดเยอะค่ะเป็นพวกเหตุการ์วอบแวบ
รู้เท้าได้ด้วยค่ะ

พอมานั่ง
ก็รู้กายนั่ง กะจะวูบ หรือเอน มันง่วงๆ ค่ะ แต่ไม่ถึงกะหลับ หมดแล้วค่ะพี่

walai says:
ค่ะ นี่ขนาดนั่งแค่ 10 นาทีเองนะ เอาเถอะ ดีกว่านั่งยาว

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ก็รู้ตัวค่ะว่ายาวปั๊ป หลับอร่อยแน่

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มิ.ย. 2010, 01:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


says: สวัสดีค่ะพี่ ส่งการบ้านรอบแรกค่ะ 60/15
เดินก็รู้เท้า มีความคิดก็รู้เท้า มีมดกัด มีเจ็บปวดตามกาย เป็นจังหวะ แล้วก็หายไป

พอมานั่ง
ก็รู้ท้องขยับกะไปหลงคิดไร้สาระ ง่วงๆเพลินๆข้างใน แล้วก็หลุด ออกจากสภาวะนั้น มารู้กายได้อีก
แล้วก็ไปสภาวะไร้สาระเพลินอีก แลวก็หลุดออกมาอีก สลับกันไป
จนจบค่ะตอนอุทิศส่วนกุศลก็มีนิมิตสีม่วง แล้วก็หายไป

รอบสอง 60/15 ค่ะ

ก็รู้เท้าค่ะ แล้วก็มีเย็นแปลบๆ มีมดกัด แล้วก็มีเย็นแปลบๆมีมดกัด หลังๆก็มีไหลไปกะความคิด
รู้เท้าแบบคลอๆแล้วหยุด มารู้เท้าชัดขึ้น

พอมานั่ง ก็รู้ท้องขยับ แล้วก็เห็นจิตมัน มันก็พูดในขณะที่ยังมีสติรุ้กายอยู่ ก็มีไม่พอใจมัน แล้วก็หายไป
รู้กายต่อไป คู่กะมีความคิด จากนั้นก็เริ่มความคิดบางลงรู้กายชัดกว่า
มีอารมณ์ต่างๆก็กำหนดรู้ในอารมนั้นค่ะ

walai says: ยังนั่ง 15 นะคะ ยังไม่เพิ่ม

says: ได้ค่ะพี่ การเดินจงกรมนี่ เหมือนเราหันหน้าเข้าหากิเลสตัวเองเลยนะคะ

walai says: ค่ะ กิเลสออกมาเพียบ

says: คนเลยไม่ค่อยชอบทำ แต่ก่อนก็ไม่ชอบเพราะไม่รู้ แค่รู้ว่าทุกข์จังเวลาเดิน

walai says: ค่ะ ถึงบอกไงคะ ทำแล้วจะรู้ทุกอย่างด้วยตัวเอง พี่จะไม่บอกอะไร
ไม่งั้นไปจ้องกัน ไหนหว่า แล้วกลายเป็นหลอกตัวเองไป

says: ค่ะพี่เป็นแบบนั้นจริงๆ

walai says: คนเรานะหมู ตราบใดที่ยังยอมรับตามความเป็นจริงไม่ได้ ยังชอบเล่นกิเลส
ยากที่จะเห็นตามความเป็นจริงได้ เพราะตัวละครหรือตัวกิเลสที่นำลงไปเล่น มันหลอกตัวเอง
เคยเห็นไหม จิตหลอกจิต

says: จิตหลอกจิต ก็เคยโดนหลอกว่าทำแบบนี้ แต่จริงๆแล้วกำลังฟุ้งซ่านน่ะค่ะ
แต่มากกว่านี้อาจจะดูไม่ออกนะคะ

walai says: ทำต่อไปค่ะ สภาวะยิ่งละเอียดมากขึ้นเท่าไหร่ นั่นคือ สติ สัมปชัญญะที่มีกำลังมากขึ้น เราจะรู้เท่าทันสิ่งที่เกิดมากขึ้น ไม่ไปหลงทางมัน

บางครั้งมีหลง เพราะยังไม่ทัน กิเลสเขาจะเนียนมากๆ แบบคาดไม่ถึง
แต่เขาจะหลอกเราได้ไม่กี่ครั้ง เพราะเราจะระวังมากขึ้น

says: อืมมค่ะ แค่มีสติ กะสัมปัญชัญญะ แล้วมันก็จะเป็นไปเองสิคะไม่ต้องไปหวัง
แค่มีก็เป็นเครื่องมือตรวจกิเลส ที่เพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้นไปเอง

walai says: ค่ะ มีสติกับสัมปชัญญะให้ครบได้ตลอดเวลา มรรค 8 เกิดแล้ว
ขนาดไม่ครบตลอดเวลา ยังทันสภาวะมากขึ้น แล้วคิดดูละกัน ถ้ามีได้ตลอดเวลานี่ ไม่ต้องพูดถึงเลย

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


แก้ไขล่าสุดโดย walaiporn เมื่อ 27 มิ.ย. 2010, 01:47, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 113 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5 ... 8  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร