วันเวลาปัจจุบัน 19 ก.ค. 2025, 04:00  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 198 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 7, 8, 9, 10, 11, 12, 13, 14  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มิ.ย. 2010, 05:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ก.พ. 2009, 05:07
โพสต์: 372


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
คุณกบ ฯ เขียน
ลองมาดูหลวงปู่มั่น...คุณเฉลิมคงไม่สงสัยในตัวท่านมั้งเน๊าะ..ท่านสอนมหาองค์หนึ่งว่า..
(ทำนองว่า)....ท่านมหาตำราที่เรียนมาเก็บใว้ก่อน..ลงมือปฏิบัติก่อน..เมื่อได้ผลแล้ว..ผลของการปฏิบัติกับตำราจะสอดประสานกันเอง...

หากอย่างนี้..จะเข้าเกณท์ ข้อที่ 1 ..ของคุณเฉลิมหรือเปล่า??

ข้อเท็จจริง..จำตำราได้หมด..ไม่แน่ว่าจะได้ความเป็นอรหันต์??..ใช่เพราะ..สัญญา..กับ..ปัญญา..มันคนละเรื่องกัน...ว่าจริงมั้ยครับคุณเฉลิม??


คุณกบครับ ผมไม่อาจล่วงรู้วาระจิต ของหลวงปู่กับศิษย์ท่านได้ ในขณะนั้น ว่าจริตของท่านมหา เป็นเช่นไร เหมาะกับการเจริญวิปัสสนาแบบไหน

แต่ที่ผมจำได้ หลวงปู่มั่น ท่านเคารพในพระไตรปิฏก อรรถกถา ท่านได้บันทึกหลักธรรมต่าง ๆ ไว้ ทบทวน และ พกติดตัว

และหลวงปู่ท่านยังย่อ คัมภีร์ต่าง ๆ ไว้ รวมทั้ง พระอภิธัมมัตถสังคหะ

บทธรรมบรรยาย ของหลวงปู่มั่น
http://www.dharma-gateway.com/monk/prea ... _12_01.htm


-----------------------------------------------------------

อ้างคำพูด:
อ้างคำพูด:
ข้อเท็จจริง..จำตำราได้หมด..ไม่แน่ว่าจะได้ความเป็นอรหันต์??..ใช่เพราะ..สัญญา..กับ..ปัญญา..มันคนละเรื่องกัน...ว่าจริงมั้ยครับคุณเฉลิม??


จริงครับ ดังเรื่องราวของพระใบลานเปล่า ที่ท่องจำพระไตรปิฏกได้ทั้งหมด เคยบวชเป็นพระภิกษุในศาสนาของพระพุทธเจ้า หลาย ๆ พระองค์ แต่ไม่บรรลุ จนปัญญาบารมี สะสมมาเต็มที่แล้ว ในสมัยนี้ พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันจึงโปรดได้ ปรากฏใน พระไตรปิฏก อรรถกถา ดังที่ ผมได้นำมาแสดงต่อคุณ mes ที่จะแต่งตั้ง ผมเป็น ใบลานเปล่า ( ซึ่ง สัญญาและปัญญา ของผมไม่สมควรจะถูกยกย่อง เช่นนั้นเลย เพราะจำอะไรไม่ค่อยได้มาก )

http://larndham.org/index.php?showtopic ... r=1&st=83&




๕. เรื่องพระโปฐิลเถระ [๒๐๘]
http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=30&p=5

ข้อความเบื้องต้น

พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภพระเถระนามว่าโปฐิละ ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า "โยคา เว" เป็นต้น.

รู้มากแต่เอาตัวไม่รอด

ดังได้สดับมา พระโปฐิละนั้นเป็นผู้ทรงพระไตรปิฎกในศาสนาของพระพุทธเจ้า ๗ พระองค์ บอกธรรมแก่ภิกษุ ๕๐๐ รูป. พระศาสดาทรงดำริว่า "ภิกษุนี้ ย่อมไม่มีแม้ความคิดว่า "เราจักทำการสลัดออกจากทุกข์แก่ตน เราจักยังเธอให้สังเวช."

จำเดิมแต่นั้นมา พระองค์ย่อมตรัสกะพระเถระนั้น ในเวลาที่พระเถระมาสู่ที่บำรุงของพระองค์ว่า "มาเถิด คุณใบลานเปล่า, นั่งเถิด คุณใบลานเปล่า, ไปเถิด คุณใบลานเปล่า แม้ในเวลาที่พระเถระลุกไป ก็ตรัสว่า "คุณใบลานเปล่าไปแล้ว."

--------------------------------------------------------------------


อ้างคำพูด:
แล้วหากใช้..สัญญา..ความจำได้หมายรู้..ไปพิจารณาหลักกาลามสูตร..ผลของการพิจารณามันจะพ้นไปจากความเป็นตัวสัญญา..ได้อย่างไร..ผู้มีปัญญาลองใช้ปัญญาพิจารณาเอานะครับ

.แล้วทีนี้..คุณเฉลิมยังกล้าเชื่อ..ในสัญญา..ยึดมั่นพึ่งพาอาศัย..มันไปซะทั้งหมด..ได้มั้ย??



คุณกบครับ หมายถึง นำสุตามยปัญญา ที่เคยฟัง เคยศึกษา จากพระไตรปิฏก อรรถกถา และพระธรรมถึก ที่ทรงพระไตรปิฏก ไปพิจารณา อาจาริยวาท หรือ อัตตโนมติ หากขัดแย้งกับ พระธรรมวินัย ก็ไม่เชื่อครับ

ยกตัวอย่าง เช่น หลวงพ่อที่ คุณหลับอยู่ นับถืออยู่มาก ๆ สอนมาว่า ท่านได้เคยนั่งสมาธิ ติดต่อพระพุทธเจ้าได้ ไม่ว่าจะเป็นองค์แรก (องค์ปฐม) ถึง องค์ปัจจุบัน ในดินแดนพระนิพพาน

แต่พระพุทธองค์ได้ตรัสไว้ดังนี้

http://larndham.org/index.php?showtopic=24144&st=1

ดูกรภิกษุทั้งหลาย กายของตถาคต มีตัณหาอันจะนำไปสู่ภพขาดแล้วยังดำรงอยู่ เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายจักเห็นตถาคตชั่วเวลาที่กายของตถาคตยังดำรงอยู่ เมื่อกายแตกสิ้นชีพแล้วเทวดาและมนุษย์ทั้งหลายจักไม่เห็นตถาคต เปรียบเหมือนพวงมะม่วง เมื่อขาดจากขั้วแล้วผลใดผลหนึ่งติดขั้วอยู่ ย่อมติดขั้วไป ดูกรภิกษุทั้งหลาย กายของตถาคตมีตัณหาอันจะนำไปสู่ภพขาดแล้ว ก็ฉันนั้นเหมือนกัน ยังดำรงอยู่ เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายจักเห็นตถาคตได้ก็ชั่วเวลาที่กายของตถาคตยังดำรงอยู่ เมื่อกายแตกสิ้นชีพแล้ว เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายจักไม่เห็นตถาคต.

--------------------------------------------------------------------

อย่างคุณ หลับอยู่พยายามอ้าง พระไตรปิฏก บางส่วนเพื่อมาสนับสนุน อาจาริยวาท เช่น เรื่อง อายตนนิพพาน, ธรรมกาย ก็ดี เช่น


32449.ออกจากภพนี้ไปสู่บุรีคือนิพพานอันอุดม... ในพระไตรปิฏก
viewtopic.php?f=2&t=32449

ข้าแต่พระสุคตเจ้า หม่อมฉันเป็น
มารดาของพระองค์ ข้าแต่พระธีรเจ้า พระองค์เป็นพระบิดาของ
หม่อมฉัน ข้าแต่พระโลกนาถ พระองค์เป็นผู้ประทานความสุข
อันเกิดจากพระสัทธรรมให้หม่อมฉัน ข้าแต่พระโคดม หม่อมฉัน
เป็นผู้อันพระองค์ให้เกิด ข้าแต่พระสุคตเจ้า รูปกายของพระองค์นี้
อันหม่อมฉันทำให้เจริญเติบโต
ธรรมกายอันน่าเพลิดเพลินของหม่อมฉัน อันพระองค์ทำให้เจริญเติบโตแล้ว


เห็นคุณหลับอยู่ เน้นข้อความเกี่ยวเรื่อง ธรรมกาย ด้วย

ยิ่งต้อง ศึกษา พระไตรปิฏก อรรถกถา ในบทอื่น ๆ ประกอบด้วย ให้มาก ๆ

ไม่ใช่อ่านเจอที่ตรงกับ อาจาริยวาท ก็ฟันธงเลยว่า อาจาริยวาท ถูกต้องทุกประการ

นี่และครับคุณกบ เขาเรียกว่า อาจาริยวาทเหล่านี้ ( หลวงปู่ หลวงพ่อ นั่งสมาธิติดต่อพระพุทธเจ้าได้ในแดนนิพพาน ) ต้องใช้ กาลามสูตร พิจารณาให้มาก ๆ

http://84000.org/tipitaka/dic/v_seek.php?text=กาลามสูตร
กาลามสูตร สูตรหนึ่งในคัมภีร์ติกนิบาต อังคุตตรนิกาย พระพุทธเจ้าตรัสสอนชนชาวกาลามะแห่งเกสปุตตนิคมใน แคว้นโกศล ไม่ให้เชื่อถืองมงายไร้เหตุผล ตามหลัก ๑๐ ข้อ คือ
อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการฟังตามกันมา,
ด้วยการถือสืบๆ กันมา,
ด้วยการเล่าลือ,
ด้วยการอ้างตำราหรือคัมภีร์,
ด้วยตรรก,
ด้วยการอนุมาน,
ด้วยการคิดตรองตามแนวเหตุผล,
เพราะเข้ากันได้กับทฤษฎีของตน,
เพราะมองเห็นรูปลักษณะน่าเชื่อ,
เพราะนับถือว่าท่านสมณะนี้ เป็นครูของเรา;
ต่อเมื่อใด พิจารณาเห็นด้วยปัญญาว่า ธรรมเหล่านั้นเป็นอกุศล เป็นกุศล มีโทษ ไม่มีโทษ เป็นต้นแล้ว จึงควรละหรือถือปฏิบัติตามนั้น
เรียกอีกอย่างว่า เกสปุตติยสูตร หรือเกสปุตตสูตร.

.....................................................
สมถะ (ฌาน, สมาธิ) ที่เป็นบาทของวิปัสสนา
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=2&t=21049

ผู้บรรลุธรรม จากสมถะ มีจำนวนน้อยกว่าผู้ไม่มี
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=2&t=21062

การเจริญสติปัฏฐานหมวดพิจารณาอิริยาบถ ๔ จากพระไตรปิฏก อรรถกถา
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=2&t=29201

ควรศึกษาอัตตโนมติ ของท่านพุทธทาสหรือไม่ ?
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=17187


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มิ.ย. 2010, 05:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ก.พ. 2009, 05:07
โพสต์: 372


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
32449.ออกจากภพนี้ไปสู่บุรีคือนิพพานอันอุดม... ในพระไตรปิฏก
viewtopic.php?f=2&t=32449

ข้าแต่พระสุคตเจ้า หม่อมฉันเป็น
มารดาของพระองค์ ข้าแต่พระธีรเจ้า พระองค์เป็นพระบิดาของ
หม่อมฉัน ข้าแต่พระโลกนาถ พระองค์เป็นผู้ประทานความสุข
อันเกิดจากพระสัทธรรมให้หม่อมฉัน ข้าแต่พระโคดม หม่อมฉัน
เป็นผู้อันพระองค์ให้เกิด ข้าแต่พระสุคตเจ้า รูปกายของพระองค์นี้
อันหม่อมฉันทำให้เจริญเติบโต
ธรรมกายอันน่าเพลิดเพลินของหม่อมฉัน อันพระองค์ทำให้เจริญเติบโตแล้ว


เห็นคุณหลับอยู่ เน้นข้อความเกี่ยวเรื่อง ธรรมกาย ด้วย

สงสัยจะเชื่อตาม อัตตโนมติ, อาจาริยวาท ของหลวงปู่ หลวงพ่อที่นั่งสมาธิได้รูป ฌาน แล้วเกิดนิมิตเป็นรูปแก้ว , เป็นพระพุทธรูป ใส ๆ แล้วยึดถือ นิมิตนั้นว่าเป็น นิพพาน

สงสัยจะมาจากสายจานบิน

------------------------------------
คุณ mes ครับ แนวร่วมคุณเป็นแนว สัสสตทิฏฐิ เชื่อว่า การไปเกิดในแดนนิพพาน ยั่งยืนเป็นอมตะ มหานิรันดร์กาล ไม่มีการตาย สามารถมาติดต่อกันได้ด้วย วิชาธรรมกาย & มโนมยิทธิ ที่ค้นพบโดยอาจารย์ของคุณหลับอยู่ หลังจากเลือนหายมาเป็นเวลานาน

แต่อาจารย์ใหญ่ของคุณ คือ ท่านพุทธทาส สอนในแนวอุจเฉททิฏฐิ สูญตั้งแต่ยังไม่นิพพาน การเวียนว่ายตายเกิดในภพต่าง ๆ ไม่เกี่ยวกับทุกข์ และอาจจะไม่มีจริงด้วยซ้ำ

ท่านทั้ง ๒ แนวร่วม เชิญด่าผมให้สบายอารมณ์เลยนะครับ ถ้าด่าแล้ว สนองตัณหา สนุกสนาน :b12:

คุณกรัชกาย จัดเพลงให้ผมด้วย
( เห็นจัดเพลงให้บ่อย ๆ เอาเพลงอะไรดีน่ะ " จำเลยรัก " ล่ะกัน :b2: )

.....................................................
สมถะ (ฌาน, สมาธิ) ที่เป็นบาทของวิปัสสนา
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=2&t=21049

ผู้บรรลุธรรม จากสมถะ มีจำนวนน้อยกว่าผู้ไม่มี
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=2&t=21062

การเจริญสติปัฏฐานหมวดพิจารณาอิริยาบถ ๔ จากพระไตรปิฏก อรรถกถา
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=2&t=29201

ควรศึกษาอัตตโนมติ ของท่านพุทธทาสหรือไม่ ?
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=17187


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มิ.ย. 2010, 07:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2007, 21:13
โพสต์: 2631

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


เฉลิมศักดิ์ เขียน:
แต่อาจารย์ใหญ่ของคุณ คือ ท่านพุทธทาส สอนในแนวอุจเฉททิฏฐิ สูญตั้งแต่ยังไม่นิพพาน การเวียนว่ายตายเกิดในภพต่าง ๆ ไม่เกี่ยวกับทุกข์ และอาจจะไม่มีจริงด้วยซ้ำ


ผมตั้งกระทู้สำหรับเรื่องนี้รอเหลิมสัทธรรมปฏิรูปที่

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=32501

.....................................................
นิพพานที่นี่ เดี๋ยวนี้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มิ.ย. 2010, 07:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2007, 21:13
โพสต์: 2631

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


อย่าเพิ่งเปิดทางให้เหลิมสัทธรรมปฏิรูปหนี

ประเด็นที่ถกเถียงกันคือ

1.ในการปฏิบัติธรรมต้องถือหลักธรรมานุธรรมะ

คือหลักธรรมย่อยต้องคล้อยตามหลักธรรมใหญ่

ที่เหลิมหยิบยกอรรถกถาขึ้นมาเป็นหลักใหญ่

ผมถามว่า

พระสูตรกับอรรถกถา อย่างใหนควรเป็นหลัก

พระสูตรต้องคล้อยตามอรรถกถา หรือ อรรถกถาต้องคล้อยตามพระสูตร


2.ถ้าฌานคือการนั่งหลับตาเฉย

แล้วองค์ฌานคืออะไร

.....................................................
นิพพานที่นี่ เดี๋ยวนี้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มิ.ย. 2010, 08:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2007, 21:13
โพสต์: 2631

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


เหลิมเข้ามาอยู่พอดี

ตอบมาเดี๋ยวนี้เลย

อย่าดิ้น

.....................................................
นิพพานที่นี่ เดี๋ยวนี้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มิ.ย. 2010, 08:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2007, 21:13
โพสต์: 2631

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


แล้วเข้าไปที่

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=32501

กล้าใส่ร้ายป้ายสีต้องกล้ารับผิดชอบ

อย่าวิ่งหนีหางชี้เป็นไอ้ขี้เรื้อน

.....................................................
นิพพานที่นี่ เดี๋ยวนี้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มิ.ย. 2010, 09:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


chalermsak เขียน:
คุณกรัชกาย จัดเพลงให้ผมด้วย
(เห็นจัดเพลงให้บ่อย ๆ เอาเพลงอะไรดีน่ะ " จำเลยรัก " ล่ะกัน :b2: )




คุณเฉลิมศักดิ์นึกยังไงถึงอยากฟังเพลงนี้ครับ :b1: เนื้อร้องเหมือนๆน้อยอกน้อยใจไงไม่รู้ แต่ก็หยิ่งใน

ศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์

สู้ต่อไปครับ อย่าเพิ่งท้อ วันไหนนึกท้อๆเหมือนยาหม่องตราลิงถือลูกท้อล่ะก็ ให้นึกถึงช้างศึกที่เข้าสู่สงคราม

ครับ จะต้องอดทนต่อลูกศรที่ยิงมาจาก 4 ทิศ ต่อให้เลือดท่วมตัวก็ไม่คุกเข่ากลางสนาม...ครับ

:b1: :b12:

จัดไปครับ "จำเลยรัก" เวอร์ชั่นใหม่

http://bignose.exteen.com/20071228/punch/page/32

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 12 มิ.ย. 2010, 09:29, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มิ.ย. 2010, 11:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


เหลิมมันควาย อายตนะนั้นมีอยู่ อสังขตสถาน ๆลๆ ข้าลอกมาจากพระไตรปิฏก ไม่ได้บัญญัติมาเองว่ะ :b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มิ.ย. 2010, 11:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


[quote="chalermsak"]



รู้มากแต่เอาตัวไม่รอด

มึงปฏิเสธ ยิ่งไปกันใหญ่ ไอ้ปริพาชกเหลิม





ยกตัวอย่าง เช่น หลวงพ่อที่ คุณหลับอยู่ นับถืออยู่มาก ๆ สอนมาว่า ท่านได้เคยนั่งสมาธิ ติดต่อพระพุทธเจ้าได้ ไม่ว่าจะเป็นองค์แรก (องค์ปฐม) ถึง องค์ปัจจุบัน ในดินแดนพระนิพพาน

แต่พระพุทธองค์ได้ตรัสไว้ดังนี้

http://larndham.org/index.php?showtopic=24144&st=1

ดูกรภิกษุทั้งหลาย กายของตถาคต มีตัณหาอันจะนำไปสู่ภพขาดแล้วยังดำรงอยู่ เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายจักเห็นตถาคตชั่วเวลาที่กายของตถาคตยังดำรงอยู่ เมื่อกายแตกสิ้นชีพแล้วเทวดาและมนุษย์ทั้งหลายจักไม่เห็นตถาคต เปรียบเหมือนพวงมะม่วง เมื่อขาดจากขั้วแล้วผลใดผลหนึ่งติดขั้วอยู่ ย่อมติดขั้วไป ดูกรภิกษุทั้งหลาย กายของตถาคตมีตัณหาอันจะนำไปสู่ภพขาดแล้ว ก็ฉันนั้นเหมือนกัน ยังดำรงอยู่ เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายจักเห็นตถาคตได้ก็ชั่วเวลาที่กายของตถาคตยังดำรงอยู่ เมื่อกายแตกสิ้นชีพแล้ว เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายจักไม่เห็นตถาคต.

--------------------------------------------------------------------
เทวดากับมนุษย์ไม่เห็น แต่ไม่ได้บอกว่าพรอริยะเจ้าไม่เห็นด้วยเหมือนกัน (ยังมีวาทะสวนพวกลานอธรรมพันติป๊ อีกเยอะ ไม่ต้องห่วง :b13:
อย่างคุณ หลับอยู่พยายามอ้าง พระไตรปิฏก บางส่วนเพื่อมาสนับสนุน อาจาริยวาท เช่น เรื่อง อายตนนิพพาน, ธรรมกาย ก็ดี เช่น


32449.ออกจากภพนี้ไปสู่บุรีคือนิพพานอันอุดม... ในพระไตรปิฏก
viewtopic.php?f=2&t=32449

ข้าแต่พระสุคตเจ้า หม่อมฉันเป็น
มารดาของพระองค์ ข้าแต่พระธีรเจ้า พระองค์เป็นพระบิดาของ
หม่อมฉัน ข้าแต่พระโลกนาถ พระองค์เป็นผู้ประทานความสุข
อันเกิดจากพระสัทธรรมให้หม่อมฉัน ข้าแต่พระโคดม หม่อมฉัน
เป็นผู้อันพระองค์ให้เกิด ข้าแต่พระสุคตเจ้า รูปกายของพระองค์นี้
อันหม่อมฉันทำให้เจริญเติบโต
ธรรมกายอันน่าเพลิดเพลินของหม่อมฉัน อันพระองค์ทำให้เจริญเติบโตแล้ว


เห็นคุณหลับอยู่ เน้นข้อความเกี่ยวเรื่อง ธรรมกาย ด้วย

ยิ่งต้อง ศึกษา พระไตรปิฏก อรรถกถา ในบทอื่น ๆ ประกอบด้วย ให้มาก ๆ
หรอ แบบมึงไม่เอาฌาณ ฌาณคือการนั่งหลับตาต้องพิจารณาให้มากๆๆๆๆๆนะเหลิม :b4:
ไม่ใช่อ่านเจอที่ตรงกับ อาจาริยวาท ก็ฟันธงเลยว่า อาจาริยวาท ถูกต้องทุกประการ
มึง อ่านลวกๆ เลยไม่รู้ว่า ในพระสูตรนั้น ครบเครื่องอย่างไรไงเหลิม :b28:

นี่และครับคุณกบ เขาเรียกว่า อาจาริยวาทเหล่านี้ ( หลวงปู่ หลวงพ่อ นั่งสมาธิติดต่อพระพุทธเจ้าได้ในแดนนิพพาน ) ต้องใช้ กาลามสูตร พิจารณาให้มาก ๆ
มึงเอากาลามสูตรมาใช้ก็ปรับเข้าข้อที่10แล้วเหลิมเอ๋ยยย ปัญญามึงไม่ทันพระพุทธเจ้าท่านดอก
quote]


แก้ไขล่าสุดโดย หลับอยุ่ เมื่อ 12 มิ.ย. 2010, 11:41, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มิ.ย. 2010, 11:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


หลับอยุ่ เขียน:
chalermsak เขียน:




รู้มากแต่เอาตัวไม่รอด

มึงปฏิเสธ ยิ่งไปกันใหญ่ ไอ้ปริพาชกเหลิม





ยกตัวอย่าง เช่น หลวงพ่อที่ คุณหลับอยู่ นับถืออยู่มาก ๆ สอนมาว่า ท่านได้เคยนั่งสมาธิ ติดต่อพระพุทธเจ้าได้ ไม่ว่าจะเป็นองค์แรก (องค์ปฐม) ถึง องค์ปัจจุบัน ในดินแดนพระนิพพาน

แต่พระพุทธองค์ได้ตรัสไว้ดังนี้

http://larndham.org/index.php?showtopic=24144&st=1

ดูกรภิกษุทั้งหลาย กายของตถาคต มีตัณหาอันจะนำไปสู่ภพขาดแล้วยังดำรงอยู่ เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายจักเห็นตถาคตชั่วเวลาที่กายของตถาคตยังดำรงอยู่ เมื่อกายแตกสิ้นชีพแล้วเทวดาและมนุษย์ทั้งหลายจักไม่เห็นตถาคต เปรียบเหมือนพวงมะม่วง เมื่อขาดจากขั้วแล้วผลใดผลหนึ่งติดขั้วอยู่ ย่อมติดขั้วไป ดูกรภิกษุทั้งหลาย กายของตถาคตมีตัณหาอันจะนำไปสู่ภพขาดแล้ว ก็ฉันนั้นเหมือนกัน ยังดำรงอยู่ เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายจักเห็นตถาคตได้ก็ชั่วเวลาที่กายของตถาคตยังดำรงอยู่ เมื่อกายแตกสิ้นชีพแล้ว เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายจักไม่เห็นตถาคต.

--------------------------------------------------------------------
เทวดากับมนุษย์ไม่เห็น แต่ไม่ได้บอกว่าพรอริยะเจ้าไม่เห็นด้วยเหมือนกัน (ยังมีวาทะสวนพวกลานอธรรมพันติป๊ อีกเยอะ ไม่ต้องห่วง :b13:
อย่างคุณ หลับอยู่พยายามอ้าง พระไตรปิฏก บางส่วนเพื่อมาสนับสนุน อาจาริยวาท เช่น เรื่อง อายตนนิพพาน, ธรรมกาย ก็ดี เช่น


32449.ออกจากภพนี้ไปสู่บุรีคือนิพพานอันอุดม... ในพระไตรปิฏก
viewtopic.php?f=2&t=32449

ข้าแต่พระสุคตเจ้า หม่อมฉันเป็น
มารดาของพระองค์ ข้าแต่พระธีรเจ้า พระองค์เป็นพระบิดาของ
หม่อมฉัน ข้าแต่พระโลกนาถ พระองค์เป็นผู้ประทานความสุข
อันเกิดจากพระสัทธรรมให้หม่อมฉัน ข้าแต่พระโคดม หม่อมฉัน
เป็นผู้อันพระองค์ให้เกิด ข้าแต่พระสุคตเจ้า รูปกายของพระองค์นี้
อันหม่อมฉันทำให้เจริญเติบโต
ธรรมกายอันน่าเพลิดเพลินของหม่อมฉัน อันพระองค์ทำให้เจริญเติบโตแล้ว


เห็นคุณหลับอยู่ เน้นข้อความเกี่ยวเรื่อง ธรรมกาย ด้วย

ยิ่งต้อง ศึกษา พระไตรปิฏก อรรถกถา ในบทอื่น ๆ ประกอบด้วย ให้มาก ๆ
หรอ แบบมึงไม่เอาฌาณ ฌาณคือการนั่งหลับตาต้องพิจารณาให้มากๆๆๆๆๆนะเหลิม :b4:
ไม่ใช่อ่านเจอที่ตรงกับ อาจาริยวาท ก็ฟันธงเลยว่า อาจาริยวาท ถูกต้องทุกประการ
มึง อ่านลวกๆ เลยไม่รู้ว่า ในพระสูตรนั้น ครบเครื่องอย่างไรไงเหลิม :b28:

นี่และครับคุณกบ เขาเรียกว่า อาจาริยวาทเหล่านี้ ( หลวงปู่ หลวงพ่อ นั่งสมาธิติดต่อพระพุทธเจ้าได้ในแดนนิพพาน ) ต้องใช้ กาลามสูตร พิจารณาให้มาก ๆ
มึงเอากาลามสูตรมาใช้ก็ปรับเข้าข้อที่10แล้วเหลิมเอ๋ยยย ปัญญามึงไม่ทันพระพุทธเจ้าท่านดอก
quote]

อสังขตสถานนั้นอยู่ในพระสูตร เหลิมเอ๋ยยย ไม่ใช่พวกนักปราชญ์ลวงโลก ตาม พัน ติ๊ป และลานอธรรมว่ะ :b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มิ.ย. 2010, 11:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ก.พ. 2009, 05:07
โพสต์: 372


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
คุณกรัชกาย เขียน
คุณเฉลิมศักดิ์นึกยังไงถึงอยากฟังเพลงนี้ครับ เนื้อร้องเหมือนๆน้อยอกน้อยใจไงไม่รู้ แต่ก็หยิ่งใน

ศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์

สู้ต่อไปครับ อย่าเพิ่งท้อ วันไหนนึกท้อๆเหมือนยาหม่องตราลิงถือลูกท้อล่ะก็ ให้นึกถึงช้างศึกที่เข้าสู่สงคราม

ครับ จะต้องอดทนต่อลูกศรที่ยิงมาจาก 4 ทิศ ต่อให้เลือดท่วมตัวก็ไม่คุกเข่ากลางสนาม...ครับ



จัดไปครับ "จำเลยรัก" เวอร์ชั่นใหม่

http://bignose.exteen.com/20071228/punch/page/32

.....................................................


:b8: ขอบคุณครับ ที่จัดเพลงให้ฟัง เย็นใจขึ้นมาหน่อย

คุณกรัชกาย ครับ จัดเพลงคนกับควาย ของพี่หงา คาราวาน ให้ฟังปลุกใจ คนเดือนตุลาหน่อยครับ :b4:
-------------------------------------
กรณีธรรมกาย
http://b2b2.tripod.com/tmk/
นิพพานเป็นอนัตตา.....42
นิพพาน ไม่ใช่ปัญหาอภิปรัชญา.....42
แหล่งความรู้ที่ชัดเจนมีอยู่ ก็ไม่เอา กลับไปหาทางเดาร่วมกับพวกที่ยังสับสน.....47
พระพุทธเจ้าตรัสไว้แน่นอนเด็ดขาด ว่าลัทธิถืออัตตาไม่ใช่คำสอน ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า.....50
พระไตรปิฎกและอรรถกถาระบุว่า นิพพานเป็นอนัตตา.....53
การหาทางตีความ ให้นิพพานเป็นอัตตา…………60
การใช้ตรรกะที่ผิด เพื่อให้คิดว่านิพพานเป็นอัตตา.....64
การจับคำความที่ผิดมาอ้างเป็นหลักฐาน เพื่อให้นิพพานเป็นอัตตา.....66
เมื่อจำนนด้วยหลักฐาน ก็หาทางทำให้สับสน……68
เมื่อหลักฐานก็ไม่มี ตีความก็ไม่ได้ ก็หันไปอ้างผลจากการปฏิบัติ.....71
เพราะไม่เห็นแก่พระธรรมวินัย จึงต้องหาทางดิ้นรนเพื่อหนีให้พ้นสัจจะ.....73
ความซื่อตรงต่อหลักพระศาสนา และมีเมตตาต่อประชาชน คือหัวใจของการรักษาระบบไตรสิกขาไว้ให้แก่ประชาสังคม.....75

ธรรมกาย เรื่องสูงที่ไม่ใหญ่.....79
ธรรมกายแบบไหน ก็มีความหมายชัดเจนของแบบนั้น.....79
ธรรมกายเดิมแท้ในพุทธกาล.....83
บำรุงเลี้ยงบริหารร่างกายไว้ รูปกายก็เจริญงอกงาม หมั่นบำเพ็ญศีลสมาธิปัญญา ธรรมกายก็เจริญขึ้นมาเติบโตได้เอง.....89
จะมองดูรูปกาย ก็อาศัยเพียงตาเนื้อ แต่ต้องมีตาปัญญา จึงจะมองเห็นธรรมกาย……93
จะเอาธรรมกายของพระพุทธเจ้า หรือธรรมกายแบบไหน ก็มีเสรีภาพเลือกได้ แต่ขอให้บอกไปตามตรง……97

อายตนนิพพาน คือดับอายตนะ.....99
"อัตตา" ไม่มีโดยปรมัตถ์ เป็นเรื่องที่ชัดเจนไปแล้ว.....00
"อายตนนิพพาน" ไม่มีโดยบาลีนิยม ก็ชัดเจนเช่นกัน.....103
อายตนนิพพาน ไม่มี แต่แปลให้ดีก็ได้ความหมาย นิพพานายตนะ ถึงจะใช้เป็นศัพท์ได้ แต่ไม่ให้ความหมายที่ดี.....107
ใจหมดโลภโกรธหลง สว่างโล่งสดใส เมื่อไร ก็ได้เห็นนิพพานของพระพุทธเจ้า เมื่อนั้นทันที….109
เรื่องเบ็ดเตล็ด.....112




อ้างคำพูด:
คุณหลับอยู่ เขียน
เหลิมมันควาย อายตนะนั้นมีอยู่ อสังขตสถาน ๆลๆ ข้าลอกมาจากพระไตรปิฏก ไม่ได้บัญญัติมาเองว่ะ


คุณหลับอยู่ทำตัวเยี่ยงเจ้าสำนักจานบิน จะเลี่ยงพระบาลี ให้มีแดนนิพพานให้ได้จริง นะนี่

.....................................................
สมถะ (ฌาน, สมาธิ) ที่เป็นบาทของวิปัสสนา
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=2&t=21049

ผู้บรรลุธรรม จากสมถะ มีจำนวนน้อยกว่าผู้ไม่มี
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=2&t=21062

การเจริญสติปัฏฐานหมวดพิจารณาอิริยาบถ ๔ จากพระไตรปิฏก อรรถกถา
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=2&t=29201

ควรศึกษาอัตตโนมติ ของท่านพุทธทาสหรือไม่ ?
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=17187


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มิ.ย. 2010, 11:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


mes เขียน:
หนุกหนาน cool

ต้องมาเล่นที่ร้าน ขัดใจมากครับคุณmes ไม่งั้นมันส์กว่านี้ อยากให้พวกลานอธรรมที่ไล่คุณmes มาจัง ติดอยู่ตรง ผมต้องมาเล่นตามร้านนี้แหละ smiley :b7:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มิ.ย. 2010, 11:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


หลับอยุ่ เขียน:
Quote Tipitaka:
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๓ บรรทัดที่ ๔๕๕๐ - ๔๘๘๗. หน้าที่ ๑๙๖ - ๒๑๐.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_it ... agebreak=0
:b42: :b42: :b42:
:b44: :b44: :b44:
:b8: :b8: :b8:


นี่ไง อาริยวาทของข้า ยังมีเยอะนะเหลิม Onion_L
:b32:

ชัดเจน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มิ.ย. 2010, 12:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


chalermsak เขียน:
กรณีธรรมกาย
http://b2b2.tripod.com/tmk/
นิพพานเป็นอนัตตา.....42
[color=#FF0000]แสดงว่าผู้พูดบรรลุแล้ว ถ้าไม่ได้เป็นพระอรหันต์ ต้องปราชิกหรือไม่!?เพราะความสือ่ในทำนองว่าแจ้งในพระนิพพานแล้ว

Onion_L นิพพาน ไม่ใช่ปัญหาอภิปรัชญา.....42
แล้วใครทำให้โลกุตระเป็นแค่ปรัชญาล่ะ
:b32: แหล่งความรู้ที่ชัดเจนมีอยู่ ก็ไม่เอา กลับไปหาทางเดาร่วมกับพวกที่ยังสับสน.....47
พระพุทธเจ้าตรัสไว้แน่นอนเด็ดขาด ว่าลัทธิถืออัตตาไม่ใช่คำสอน ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า.....50
ลัทธิไหนหรือ ไปอ่านพระไตรปิฏกมาใหม่ดีกว่าจะจบเปรียญอะไรก็เถิด Onion_L
พระไตรปิฎกและอรรถกถาระบุว่า นิพพานเป็นอนัตตา.....53

การหาทางตีความ ให้นิพพานเป็นอัตตา…………60
แล้วแต่สิ พอถามกลับเสือกแถไปไหนก็ไม่รู้
:b32: การใช้ตรรกะที่ผิด เพื่อให้คิดว่านิพพานเป็นอัตตา.....64
ยังกะคนแต่งใชถูกยังงั้นแหละ
:b32: การจับคำความที่ผิดมาอ้างเป็นหลักฐาน เพื่อให้นิพพานเป็นอัตตา.....66
ใครหรอที่เป็นข่าวอยู่ไม่ต้องบอกนะ ละไว้ในฐานที่เข้าใจ
:b6: เมื่อจำนนด้วยหลักฐาน ก็หาทางทำให้สับสน……68
กูว่าพวกมึงแหละสับสน พอมีคำว่าธรรมกายสัญญาวิปลาสไปนึกถึงวัดธรรมกายเข้าแทนที่จะนึกถึง พระพุทธองค์
เมื่อหลักฐานก็ไม่มี ตีความก็ไม่ได้ ก็หันไปอ้างผลจากการปฏิบัติ.....71
แบบนี้มึงเลยเหลิมเอ๋ยยย แถมมั่วปฏิเสธฌาณอีกต่างหาก
เพราะไม่เห็นแก่พระธรรมวินัย จึงต้องหาทางดิ้นรนเพื่อหนีให้พ้นสัจจะ.....73
กูไม่ใช้พระว่ะ แต่ที่ห่มเหลืองแล้วยังไม่บรรลุ นี่ระวัง!
Onion_L ความซื่อตรงต่อหลักพระศาสนา และมีเมตตาต่อประชาชน คือหัวใจของการรักษาระบบไตรสิกขาไว้ให้แก่ประชาสังคม.....75

เอตำรา ใครหนอ แต่งในทำนองกลัวติดฌาณ
:b6: Onion_L ธรรมกาย เรื่องสูงที่ไม่ใหญ่.....79
ธรรมกายแบบไหน ก็มีความหมายชัดเจนของแบบนั้น.....79
แล้วมาอธิบายทำไมล่ะ :b10: :b32:
ธรรมกายเดิมแท้ในพุทธกาล.....83
พูดแบบนี้ระวังเป็นอวดอุตริโดย ออโต้หนา...
Onion_L บำรุงเลี้ยงบริหารร่างกายไว้ รูปกายก็เจริญงอกงาม หมั่นบำเพ็ญศีลสมาธิปัญญา ธรรมกายก็เจริญขึ้นมาเติบโตได้เอง.....89
หรอ แล้วใครหนอ แต่งตำรา กลัวติดฌาณ ขัดไตรสิกขา(คิดเอาเองนะ)
จะมองดูรูปกาย ก็อาศัยเพียงตาเนื้อ แต่ต้องมีตาปัญญา จึงจะมองเห็นธรรมกาย……93
ตาเนื้อมองไม่เห็นอยู่แล้ว ไม่บอกก้รู้แต่ไม่เห็น
จะเอาธรรมกายของพระพุทธเจ้า หรือธรรมกายแบบไหน ก็มีเสรีภาพเลือกได้ แต่ขอให้บอกไปตามตรง……97
อืมแล้วที่ผ่านมาปกปิดพระสูตรไปใย ๆลๆ

อายตนนิพพาน คือดับอายตนะ.....99
ไม่บอกไม่รู้นะเนี่ย แล้วนิพพานเกี่ยวกับภพ3ไหมล่ะ
"อัตตา" ไม่มีโดยปรมัตถ์ เป็นเรื่องที่ชัดเจนไปแล้ว.....00
ฟันธงๆได้แสดงว่าบรรลุแล้ว
:b5: "อายตนนิพพาน" ไม่มีโดยบาลีนิยม ก็ชัดเจนเช่นกัน.....103
นั่นไง ลัทธิสูญ
:b32: อายตนนิพพาน ไม่มี แต่แปลให้ดีก็ได้ความหมาย นิพพานายตนะ ถึงจะใช้เป็นศัพท์ได้ แต่ไม่ให้ความหมายที่ดี.....107
เจาะตามอักษรกันนี่ปรับปราชิกได้นะ
Onion_L ใจหมดโลภโกรธหลง สว่างโล่งสดใส เมื่อไร ก็ได้เห็นนิพพานของพระพุทธเจ้า เมื่อนั้นทันที….109
เรื่องเบ็ดเตล็ด.....112
:b30:

[/color]


อ้างคำพูด:
คุณหลับอยู่ เขียน
เหลิมมันควาย อายตนะนั้นมีอยู่ อสังขตสถาน ๆลๆ ข้าลอกมาจากพระไตรปิฏก ไม่ได้บัญญัติมาเองว่ะ


คุณหลับอยู่ทำตัวเยี่ยงเจ้าสำนักจานบิน จะเลี่ยงพระบาลี ให้มีแดนนิพพานให้ได้จริง นะนี่


นั่นไงกูว่าแล้ว เอา สร้อยส้มตำปลาร้าให้เหลิมหน่อยสิ :b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มิ.ย. 2010, 13:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


หลับอยุ่ เขียน:
chalermsak เขียน:




รู้มากแต่เอาตัวไม่รอด

มึงปฏิเสธ ยิ่งไปกันใหญ่ ไอ้ปริพาชกเหลิม





ยกตัวอย่าง เช่น หลวงพ่อที่ คุณหลับอยู่ นับถืออยู่มาก ๆ สอนมาว่า ท่านได้เคยนั่งสมาธิ ติดต่อพระพุทธเจ้าได้ ไม่ว่าจะเป็นองค์แรก (องค์ปฐม) ถึง องค์ปัจจุบัน ในดินแดนพระนิพพาน

แต่พระพุทธองค์ได้ตรัสไว้ดังนี้

http://larndham.org/index.php?showtopic=24144&st=1

ดูกรภิกษุทั้งหลาย กายของตถาคต มีตัณหาอันจะนำไปสู่ภพขาดแล้วยังดำรงอยู่ เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายจักเห็นตถาคตชั่วเวลาที่กายของตถาคตยังดำรงอยู่ เมื่อกายแตกสิ้นชีพแล้วเทวดาและมนุษย์ทั้งหลายจักไม่เห็นตถาคต เปรียบเหมือนพวงมะม่วง เมื่อขาดจากขั้วแล้วผลใดผลหนึ่งติดขั้วอยู่ ย่อมติดขั้วไป ดูกรภิกษุทั้งหลาย กายของตถาคตมีตัณหาอันจะนำไปสู่ภพขาดแล้ว ก็ฉันนั้นเหมือนกัน ยังดำรงอยู่ เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายจักเห็นตถาคตได้ก็ชั่วเวลาที่กายของตถาคตยังดำรงอยู่ เมื่อกายแตกสิ้นชีพแล้ว เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายจักไม่เห็นตถาคต.

--------------------------------------------------------------------
เทวดากับมนุษย์ไม่เห็น แต่ไม่ได้บอกว่าพรอริยะเจ้าไม่เห็นด้วยเหมือนกัน (ยังมีวาทะสวนพวกลานอธรรมพันติป๊ อีกเยอะ ไม่ต้องห่วง :b13:
อย่างคุณ หลับอยู่พยายามอ้าง พระไตรปิฏก บางส่วนเพื่อมาสนับสนุน อาจาริยวาท เช่น เรื่อง อายตนนิพพาน, ธรรมกาย ก็ดี เช่น


32449.ออกจากภพนี้ไปสู่บุรีคือนิพพานอันอุดม... ในพระไตรปิฏก
viewtopic.php?f=2&t=32449

ข้าแต่พระสุคตเจ้า หม่อมฉันเป็น
มารดาของพระองค์ ข้าแต่พระธีรเจ้า พระองค์เป็นพระบิดาของ
หม่อมฉัน ข้าแต่พระโลกนาถ พระองค์เป็นผู้ประทานความสุข
อันเกิดจากพระสัทธรรมให้หม่อมฉัน ข้าแต่พระโคดม หม่อมฉัน
เป็นผู้อันพระองค์ให้เกิด ข้าแต่พระสุคตเจ้า รูปกายของพระองค์นี้
อันหม่อมฉันทำให้เจริญเติบโต
ธรรมกายอันน่าเพลิดเพลินของหม่อมฉัน อันพระองค์ทำให้เจริญเติบโตแล้ว


เห็นคุณหลับอยู่ เน้นข้อความเกี่ยวเรื่อง ธรรมกาย ด้วย

ยิ่งต้อง ศึกษา พระไตรปิฏก อรรถกถา ในบทอื่น ๆ ประกอบด้วย ให้มาก ๆ
หรอ แบบมึงไม่เอาฌาณ ฌาณคือการนั่งหลับตาต้องพิจารณาให้มากๆๆๆๆๆนะเหลิม :b4:
ไม่ใช่อ่านเจอที่ตรงกับ อาจาริยวาท ก็ฟันธงเลยว่า อาจาริยวาท ถูกต้องทุกประการ
มึง อ่านลวกๆ เลยไม่รู้ว่า ในพระสูตรนั้น ครบเครื่องอย่างไรไงเหลิม :b28:

นี่และครับคุณกบ เขาเรียกว่า อาจาริยวาทเหล่านี้ ( หลวงปู่ หลวงพ่อ นั่งสมาธิติดต่อพระพุทธเจ้าได้ในแดนนิพพาน ) ต้องใช้ กาลามสูตร พิจารณาให้มาก ๆ
มึงเอากาลามสูตรมาใช้ก็ปรับเข้าข้อที่10แล้วเหลิมเอ๋ยยย ปัญญามึงไม่ทันพระพุทธเจ้าท่านดอก
quote]

แบบมึงปฏิเสธฌาณ คงพิจารณาแบบโง่ๆนะ :b32: หรือเหลิมคิดว่า e-mail มือถือถึงกันได้ว่ะ ควาย!!! :b32:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 198 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 7, 8, 9, 10, 11, 12, 13, 14  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร