วันเวลาปัจจุบัน 06 พ.ค. 2025, 00:18  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 133 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ค. 2010, 13:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ย. 2009, 00:37
โพสต์: 86

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ลิ้มธรรม เขียน:
เราเริ่มต้นด้วย การเจริญภาวนา มาตั้งเเต่เเรก เเละมีความเชื่อมั่นในคำกล่าวของ..
หลวงปู่ดูลย์ ที่ว่า.."........การฟังจากคนอื่น การค้นคว้าจากตํารานั้น ไม่อาจแก้ข้อสงสัยได้
ต้องเพียรปฏิบัติทําวิปัสสนาญาณให้แจ้ง ความสงสัยก็หมดไปโดยสิ้นเชิง"


....ก็เหมือนกันอีกและครับ.....ความเข้าใจที่คล้ายๆ กัน.... แต่มาจนถึง..เมื่อก่อนหน้านี้ไม่นาน...... โคตรภู..เหมือนพายเรือในอ่าง.... ไม่สามารถก้าวข้ามออกไปได้..... จึงต้องกลับไปหาต้นฉบับ... นั้นก็คือทรงตรัสไว้ว่าอย่างไร.... เกี่ยวกับเรื่องที่สงสัย... เกี่ยวกับสภาวะธรรม....ที่เกิดขึ้น...ทุกวันนี้โคตรภู... มีความสุข.. ความยินดี.. ตามอัตภาพครับ

ลิ้มธรรม เขียน:
เเต่สิ่งที่เราปฏิบัติอยู่นั้น ก็ให้ผลเช่นเดียวกัน
ธรรมก็คือธรรม จะเอาอะไรกับธรรม สัมผัสเเล้ว ก็สลายไป ในที่สุด
หรือว่าอย่างไร? ท่านโคตรภู


ครับ...... เป็นไปตามนั้นครับ.... ตรงตามที่ทรงตรัสไว้ว่า....
สัพเพ สังขารา อนิจา
สัพเพ สังขาร ทุกขัง
สัพเพ ธรรมา อนัตตา....


เจริญในธรรมครับ

.....................................................
....ถ้าไม่ทำสัญญาให้เป็นปัญญา ทำอย่างไรก็เป็นกามสัญญา......


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ค. 2010, 13:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


cool สวัสดีครับคุณโคตรภู
ที่ผม ลอกยกพระสูตรมา(บางส่วน) จะเห็นได้ว่า เราหนีไม่พ้นเรื่องธาตุธรรม เลยนะครับ ส่วนตัวผมคิดว่า
นับจากล่างสุดคือ โลกันต์ อเวจี นรก 456ขุม โลกมนุษย์ สวรรค์ พรหมโลกชั้นต่างๆ จน นิพพาน
ก็ต้องมีธาตุ มีธรรม หยาบ ประณีต ละเอียด ๆลๆ ไม่เหมือนกันนะครับ


แก้ไขล่าสุดโดย หลับอยุ่ เมื่อ 15 พ.ค. 2010, 13:57, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ค. 2010, 14:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 เม.ย. 2010, 10:07
โพสต์: 86

แนวปฏิบัติ: เงียบๆคนเดียว
งานอดิเรก: ฟังธรรมของหลวงพ่อพุธ ฐานิโย&หลวงพ่อปราโมทย์.
สิ่งที่ชื่นชอบ: ตามดูจิต,หลวงปู่ฝากไว้,สติปัฏฐาน ๔
ชื่อเล่น: Mulan ;)
อายุ: 0
ที่อยู่: ปัจจุบัน

 ข้อมูลส่วนตัว


โคตรภู เขียน:
ณ กาลบัดนี้ ท่านลิ้มธรรม เองคิดว่า ธรรมะคืออะไรครับ


แก้ไขล่าสุดโดย ลิ้มธรรม เมื่อ 24 เม.ย. 2011, 03:55, แก้ไขแล้ว 13 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ค. 2010, 14:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ย. 2009, 00:37
โพสต์: 86

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


smiley smiley
หลับอยุ่ เขียน:
สวัสดีครับคุณโคตรภู
ที่ผม ลอกยกพระสูตรมา(บางส่วน) จะเห็นได้ว่า เราหนีไม่พ้นเรื่องธาตุธรรม เลยนะครับ ส่วนตัวผมคิดว่านับจากล่างสุดคือ โลกันต์ อเวจี นรก 456ขุม โลกมนุษย์ สวรรค์ พรหมโลกชั้นต่างๆ จน นิพพาน
ก็ต้องมีธาตุ มีธรรม หยาบ ประณีต ละเอียด ๆลๆ ไม่เหมือนกันนะครับ



สวัสดีครับ...... เจริญในธรรมครับ.... ท่านหลับอยู๋......
เมื่อ สงกรานต์ที่ผ่านมา.... มีโอกาสไปศึกษาธรรม... กับครู.. อาจารย์... มาเกือบ 10 วัน
ก็ขอให้ท่านหลับอยู่... มีส่วนร่วมใน กุศล... ผลบุญนี้ด้วยครับ :b8: :b8: :b8:

พอดีมีหัวข้อสนทนาธรรมเกี่ยวกับเรื่องธาตุ..ที่ท่านหลับอยู่..ยกมาข้างต้น..... และ คำว่า อัพยากตาธรรม..... ตามที่ท่านหลับอยู่ เข้าใจ... ต้องขออภัยที่จะกล่าวว่ามันคลาดเคลื่อนไปบ้างครับ.... โคตรภู... ลองตรวจสอบ...กับพระไตรฯ...แล้วมันมีความหมายหนักไปทางด้าน..
ผล....หรือกุศลวิบาก(การให้ผลซ้ำๆๆๆๆ) หรือธรรมที่ไม่อาจจัดเข้ากลุ่ม(กุศล,อกุศล)คือนิพพาน... ไม่น่าจะใช่ธรรมะที่เป็นกลางๆ... ดังนั้นจึงจะสามารถอธิบายตามพระอภิธรรมได้ว่า

....ถ้าอกุศลเป็นจิตเหตุ.....ผลหรือวิบากก็คือ.....โลกันต์ อเวจี นรก 456ขุม (มีขันธ์ 5)

....ถ้ากุศล(กามาวจรกุศล)เป็นจิตเหตุ.....ผลหรือวิบากก็คือ..... โลกมนุษย์ สวรรค์ (มีขันธ์ 5)

....ถ้ากุศล(รูปาวจร+อรูปาวจร)เป็นจิตเหตุ.....ผลหรือวิบากก็คือ..... พรหมโลกชั้นต่างๆ (มีขันธ์ 1,4)
....ถ้าโลกุตระกุศลเป็นจิตเหตุ.....ผลหรือวิบากก็คือ.....มัคค 4 ผล 4 หรือนิพพานในที่สุด

ดังนั้น ไม่ว่าจะ ธาตุ ๓ (รูปธาตุ, อรูปธาตุและอมตะธาตุ).... ธาตุ ๑๘ และมหาภูมิรูป ๔ ก็จะอธิบายด้วยเหตุและผล... ตามพระอภิธรรม.. ในพระไตรปิฎก.... ที่กล่าวมานี้ครับ ดังนั้นคำว่า

"ไม่มีธาตุแล้วธรรรมะจะอยู่ได้อย่างไร" :b8: :b8: :b8:

...โคตรภู จึงกล่าวกับท่านหลับอยู่ว่า.... มีนัยพอสมควร... ไม่ทราบท่านผู้กล่าวไว้นึกถึงอะไรอยู่..มีบริบทไว้ว่าอย่างไร...... ท่านหลับอยู่กล่าวว่าจำมาได้ไม่ทั้งหมด... โคตรภู...จึงบอกว่าน่าเสียดาย...

เจริญในธรรมยิ่งๆ ขึ้นครับ

.....................................................
....ถ้าไม่ทำสัญญาให้เป็นปัญญา ทำอย่างไรก็เป็นกามสัญญา......


แก้ไขล่าสุดโดย โคตรภู เมื่อ 15 พ.ค. 2010, 14:40, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ค. 2010, 14:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


ผมก็เสียดายเหมือนกัน ครับ พออยู่บ้านสงสัยอยากรู้ พอเจอ ดันไม่อยากถาม
ท่านนี้ รู้กาลมรณะภาพๆ ในวันพระใหญ่ ท่านไม่ลอกประตูกุฎิ เพื่อให้คนอื่นเข้าไปได้ในวันมรณะภาพ(วันพระใหญ่)ในท่า ปรินิพาน(นอนตะแคงขวา)
ก่อนรู้จักท่าน รุ่นพี่ผมเล่านามท่านให้ผมฟังผมก้เลื่อมใสอยากเจอ ท่าน ก็นึกอยากเจอ ผมก็นั่งที่วัด จู่ๆ ท่านก็เดินผ่านมาพอดี (กิริยาท่านน่าเลื่อมใสมากๆครับ) ผมก็ยกมือไหว้ท่านมารู้ภายหลังว่า ท่านคือ หลวงพ่อที่ ผมอยากเจอนั่นแล

พอคุณตั้งกระทู้นี้ ผมก็พยายามนึกย้อนหลังว่าท่านสอนกล่าวอะไรมาบ้าง(ลืมไปเยอะ)เซ็งตัวเองอยู่เหมือนกัน

ท่านสอนให้กำหนดอานาปาน ให้ได้ถึงฌาณ4ก่อน ท่านกล่าวว่า(ผมจำได้ไม่หมดเหมือนกันขออภัย)"....จับลมหายใจเข้ายาว ออกยาว เข้าสั้นออกสั้น ถึงฌาณ4 แล้วสามารถทำอะไรแปลกๆได้ ทำน้ำให้แข็งได้...."
(แล้วค่อยต่อสติปัฏฐาน4 กายในกาย เวทนา จิต ธรรม)

เอาเป็นว่าท่านไม่ธรรมดาละกันครับ


แก้ไขล่าสุดโดย หลับอยุ่ เมื่อ 15 พ.ค. 2010, 15:03, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ค. 2010, 15:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


อัพยา ส่วนตัวผมก็ เทียบ เหมือนสีเทา ครับ
กุศลานี่ธรรมขาว
อกุศลานี่ธรรมดำ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ค. 2010, 15:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


ท่านยกคำกล่าว ของหลวงพ่อสด ท่านมา บอกสอนด้วย หลายอย่างๆ ผมก็ไม่เข้าใจ :b3:
เช่น (ลมหยุดใจหยุด ผมก็จำได้ไม่หมด กลัวโพสบอกไปแล้ว ความเพี้ยนนะครับขออภัย)
ผมก็นั่งนึกๆอยู่นี่แหละครับ จำคำพูดได้ไม่หมดจริงๆ :b3:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ค. 2010, 15:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ย. 2009, 00:37
โพสต์: 86

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


หลับอยุ่ เขียน:
ท่านสอนให้กำหนดอานาปาน ให้ได้ถึงฌาณ 4 ก่อน ท่านกล่าวว่า(ผมจำได้ไม่หมดเหมือนกันขออภัย)"....จับลมหายใจเข้ายาว ออกยาว เข้าสั้นออกสั้น ถึงฌาณ4 แล้วสามารถทำอะไรแปลกๆได้ ทำน้ำให้แข็งได้...."
(แล้วค่อยต่อสติปัฏฐาน4 กายในกาย เวทนา จิต ธรรม)


เจริญในธรรมครับ.... ท่านหลับอยู่.....
ครูอาจารย์ที่ไปนมัสการ.. ศึกษาธรรมอยู่ด้วย..... ก็สอนคล้ายๆ กัน...ว่า ต้องฝึกให้เกิดความตั้งมั่นแห่งจิต.... นั้นคือฌาน.....นั้นเอง เป็นการพัฒนาจิตของปุถุชน... เป็นพื้นฐาน....เป็นแนวทาง....เป็นบาทแห่งปัญญา....ในศาสนานี้ครับ..... ท่านกล่าวว่า.... ทุกวันนี้เราไม่เชื่อใจตัวเอง.... อำนาจหรือความสามารถแห่งจิต.....ความตั้งมั่นแห่งจิต.....จึงไม่เกิดครับ.... หรือคืออภิญญา 6 ตามที่บัญญัติไว้ในพระไตรฯ ครับ.... เราๆ.. ท่านๆ.... จึงเห็นเป็นเรื่องประหลาดไป


เจริญในธรรมครับ

.....................................................
....ถ้าไม่ทำสัญญาให้เป็นปัญญา ทำอย่างไรก็เป็นกามสัญญา......


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ค. 2010, 15:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


แล้วคุณโคตรภูคิดว่าธรรมะคืออะไร ครับ :b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ค. 2010, 15:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


นีกได้ครับหากเรื่องที่ตั้งแห่งจิต ท่านให้สุดลมหายใจ เข้า ตรงราวสะดือ(กลางกั๊ก จุดกำเนิดธาตุธรรมเดิม) ให้เอาใจจรดอยู่ตรงนั้น แบบที่หลวงพ่อสดท่านสอน คำพูดท่านจำไม่ได้เป๊ะๆ แต่ผมเข้าใจแบบนี้ครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ค. 2010, 15:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ย. 2009, 00:37
โพสต์: 86

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue smiley

ณ กาลเวลา... บัดนี้..... โคตรภู... มีความเห็นเช่นเดียวกับท่านหลับอยู่ครับว่า...

ในบริบท... แห่ง...

การทำที่สุดแห่งทุกข์แล้ว.....
เป็นไปเพื่อวิราคะแล้ว.....
เป็นไปเพื่อนิพพานแล้ว....

.... ธรรมะคือ.... จิตหรือขันธ์ 5....

..... ธรรมะเป็นเรื่องของ กุศล อกุศลและอัพยากต.....

........ ไม่นอกเหนือไปจากกายและจิตนี้ครับ.....

หมายเหตุ อัพยากตธรรมา ในบริบทแห่ง ผล วิบากและนิพพาน นะครับ

.....................................................
....ถ้าไม่ทำสัญญาให้เป็นปัญญา ทำอย่างไรก็เป็นกามสัญญา......


แก้ไขล่าสุดโดย โคตรภู เมื่อ 15 พ.ค. 2010, 15:39, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ค. 2010, 15:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


โคตรภู เขียน:
smiley smiley
หลับอยุ่ เขียน:
สวัสดีครับคุณโคตรภู
ที่ผม ลอกยกพระสูตรมา(บางส่วน) จะเห็นได้ว่า เราหนีไม่พ้นเรื่องธาตุธรรม เลยนะครับ ส่วนตัวผมคิดว่านับจากล่างสุดคือ โลกันต์ อเวจี นรก 456ขุม โลกมนุษย์ สวรรค์ พรหมโลกชั้นต่างๆ จน นิพพาน
ก็ต้องมีธาตุ มีธรรม หยาบ ประณีต ละเอียด ๆลๆ ไม่เหมือนกันนะครับ



สวัสดีครับ...... เจริญในธรรมครับ.... ท่านหลับอยู๋......
เมื่อ สงกรานต์ที่ผ่านมา.... มีโอกาสไปศึกษาธรรม... กับครู.. อาจารย์... มาเกือบ 10 วัน
ก็ขอให้ท่านหลับอยู่... มีส่วนร่วมใน กุศล... ผลบุญนี้ด้วยครับ :b8: :b8: :b8:

พอดีมีหัวข้อสนทนาธรรมเกี่ยวกับเรื่องธาตุ..ที่ท่านหลับอยู่..ยกมาข้างต้น..... และ คำว่า อัพยากตาธรรม..... ตามที่ท่านหลับอยู่ เข้าใจ... ต้องขออภัยที่จะกล่าวว่ามันคลาดเคลื่อนไปบ้างครับ.... โคตรภู... ลองตรวจสอบ...กับพระไตรฯ...แล้วมันมีความหมายหนักไปทางด้าน..
ผล....หรือกุศลวิบาก(การให้ผลซ้ำๆๆๆๆ) หรือธรรมที่ไม่อาจจัดเข้ากลุ่ม(กุศล,อกุศล)คือนิพพาน... ไม่น่าจะใช่ธรรมะที่เป็นกลางๆ... ดังนั้นจึงจะสามารถอธิบายตามพระอภิธรรมได้ว่า

....ถ้าอกุศลเป็นจิตเหตุ.....ผลหรือวิบากก็คือ.....โลกันต์ อเวจี นรก 456ขุม (มีขันธ์ 5)

....ถ้ากุศล(กามาวจรกุศล)เป็นจิตเหตุ.....ผลหรือวิบากก็คือ..... โลกมนุษย์ สวรรค์ (มีขันธ์ 5)

....ถ้ากุศล(รูปาวจร+อรูปาวจร)เป็นจิตเหตุ.....ผลหรือวิบากก็คือ..... พรหมโลกชั้นต่างๆ (มีขันธ์ 1,4)
....ถ้าโลกุตระกุศลเป็นจิตเหตุ.....ผลหรือวิบากก็คือ.....มัคค 4 ผล 4 หรือนิพพานในที่สุด

ดังนั้น ไม่ว่าจะ ธาตุ ๓ (รูปธาตุ, อรูปธาตุและอมตะธาตุ).... ธาตุ ๑๘ และมหาภูมิรูป ๔ ก็จะอธิบายด้วยเหตุและผล... ตามพระอภิธรรม.. ในพระไตรปิฎก.... ที่กล่าวมานี้ครับ ดังนั้นคำว่า

"ไม่มีธาตุแล้วธรรรมะจะอยู่ได้อย่างไร" :b8: :b8: :b8:

...โคตรภู จึงกล่าวกับท่านหลับอยู่ว่า.... มีนัยพอสมควร... ไม่ทราบท่านผู้กล่าวไว้นึกถึงอะไรอยู่..มีบริบทไว้ว่าอย่างไร...... ท่านหลับอยู่กล่าวว่าจำมาได้ไม่ทั้งหมด... โคตรภู...จึงบอกว่าน่าเสียดาย...

เจริญในธรรมยิ่งๆ ขึ้นครับ



กุศลธรรม อาศัยอัพยากตธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย
คือ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นกุศล อาศัยหทยวัตถุ เกิดขึ้น
อกุศลธรรม อาศัยอัพยากตธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย
คือ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นอกุศลอาศัยหทยวัตถุ เกิดขึ้น
อกุศลธรรมและอัพยากตธรรม อาศัยอัพยากตธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย
คือ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นกุศล อาศัยหทยวัตถุเกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยมหาภูตรูป
ทั้งหลาย เกิดขึ้น


เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๔๐ บรรทัดที่ ๔๖๖๗ - ๔๘๑๔. หน้าที่ ๑๘๒ - ๑๘๘.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka3/v ... agebreak=0


ผมก็มึนๆไม่เข้าใจแบบรู้จริงรู้ยิ่งเป็นมุนีอยู่นะครับ ขออภัย :b8: (ก็ต้องให้พวกเราบรรลุกันจริงๆ) :b1:
เจริญธรรมเช่นกันครับ

ส่วนท่านนึกอะไรอยู่เราไม่มีทางรู้หรอกครับ ผมรู้ว่า ผมคิดอะไรอยู่ตอนอยู่กับท่านๆ รู้หมด :b5:

เรื่องจักรวาลด้วยครับ เรื่องทำไมคนยุคนี้เป็นมะเร็งกันมาก เรื่องโลกยุคก่อนๆโน้น ๆลๆ สุดยอดครับ :b8:


แก้ไขล่าสุดโดย หลับอยุ่ เมื่อ 15 พ.ค. 2010, 15:51, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ค. 2010, 15:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


ส่วนธรรมเอกผุดขึ้น เมื่อมีฌาณ ที่ผม ยกมา ก็เป็นกุศลฌาณ ครับคุณโคตรภู
ฌาณ ที่เป็นอัพยาก็มีบอกในพระอภิธรรม(จำไม่ได้ว่าอยู่เล่มไหน)

ส่วนฌาณที่เป็นอกุศล มีแน่นอน ครับมีฤทธิ์ด้วย ล่าสุดฟังเทปมา มีการอมปรอท แล้ววาจาสิทธิ์ด้วยครับ ครูบาอาจารย์กล่าวว่า เป็นธรรมดำ ครับพวกหมอผีแกติ มนต์ดำไสยเวทย์ ก็อยู่พวกนี้เหมือนกัน


แก้ไขล่าสุดโดย หลับอยุ่ เมื่อ 15 พ.ค. 2010, 15:48, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ค. 2010, 16:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


โคตรภู เขียน:
tongue smiley

ณ กาลเวลา... บัดนี้..... โคตรภู... มีความเห็นเช่นเดียวกับท่านหลับอยู่ครับว่า...

ในบริบท... แห่ง...

การทำที่สุดแห่งทุกข์แล้ว.....
เป็นไปเพื่อวิราคะแล้ว.....
เป็นไปเพื่อนิพพานแล้ว....

.... ธรรมะคือ.... จิตหรือขันธ์ 5....

..... ธรรมะเป็นเรื่องของ กุศล อกุศลและอัพยากต.....

........ ไม่นอกเหนือไปจากกายและจิตนี้ครับ.....

หมายเหตุ อัพยากตธรรมา ในบริบทแห่ง ผล วิบากและนิพพาน นะครับ


เราอาจคิดไม่ตรงกันหลายจุด เพราะ ลี้ลับเกินคิดครับ ธรรมที่ทำให้เป็นรูปก็เป็นธรรม ธรรมที่ทำให้เป็นนามก็เป็นธรรม ธรรมที่ทำให้เป็นรูปนามก็เป็นธรรม
เยอะครับ
เจริญธรรมครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ค. 2010, 18:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


แล้วนัยยะที่คุณโคตรภูบอกว่า มีนัยยะๆ อะไรหรือครับ บอกหน่อยสิครับ :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 133 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร