วันเวลาปัจจุบัน 22 มิ.ย. 2025, 05:14  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 34 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ค. 2010, 16:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 08:14
โพสต์: 829

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อิอิ

คุณ ทำมาพูด เอ๊ย ธรรมมาภูต

จิตแบบคุณ ดูๆเหมือน ตัวต่อเลโก้ น๊าคร๊าบบบ

เอาอันโน้น อันนี้ มาประกอบ
ประกอบผิดประกอบถูก
ประกอบไป ประกอบมา
เป็นรูปเป็นร่าง ใหม่ๆ

เหอๆๆ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ค. 2010, 18:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ย. 2009, 20:09
โพสต์: 202

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
รู้แต่ว่าสิ่งใดเกิดขึ้นสิ่งนั้นย่อมดับไป ใช่ป่าวคะ ?


ใช่ครับ สิ่งหนึ่งสิ่งใดในโลกนี้ล้วนเกิดขึ้นเป้นธรรมดา ย่อมดับไปเป็นธรรมดา

สรุปแล้วก็ยังไม่ได้ตอบคำถามผมที่ถามไปนะครับ

ที่ผมถามว่าสติปัญญาเกิดขึ้นที่ไหน?

ส่วนคนที่มีสติปัญญาอ่านออกเขียนได้แล้ว

อยู่ๆความรู้ที่เกิดจากการอ่านออกเขียนนั้น คงไม่ดับหายไป คืออยู่ๆก็อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ใช่มั้ย?

:b39:

.....................................................
ความเพียรมีผล ความพยายามมีผล
เชิญพบปะพูดคุยกับธรรมภูต


แก้ไขล่าสุดโดย ธรรมภูต เมื่อ 09 พ.ค. 2010, 18:33, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ค. 2010, 18:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ย. 2009, 20:09
โพสต์: 202

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


enlighted เขียน:
อิอิ

คุณ ทำมาพูด เอ๊ย ธรรมมาภูต

จิตแบบคุณ ดูๆเหมือน ตัวต่อเลโก้ น๊าคร๊าบบบ

เอาอันโน้น อันนี้ มาประกอบ
ประกอบผิดประกอบถูก
ประกอบไป ประกอบมา
เป็นรูปเป็นร่าง ใหม่ๆ

เหอๆๆ


ชี้ให้ชัดเจนสิครับ อย่ากำๆกวมๆอยู่แบบนี้เลย

.....................................................
ความเพียรมีผล ความพยายามมีผล
เชิญพบปะพูดคุยกับธรรมภูต


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ค. 2010, 19:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 08:14
โพสต์: 829

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ธรรมภูต เขียน:
enlighted เขียน:
อิอิ

คุณ ทำมาพูด เอ๊ย ธรรมมาภูต

จิตแบบคุณ ดูๆเหมือน ตัวต่อเลโก้ น๊าคร๊าบบบ

เอาอันโน้น อันนี้ มาประกอบ
ประกอบผิดประกอบถูก
ประกอบไป ประกอบมา
เป็นรูปเป็นร่าง ใหม่ๆ

เหอๆๆ


ชี้ให้ชัดเจนสิครับ อย่ากำๆกวมๆอยู่แบบนี้เลย


อิอิ

ก็ต้องมาสอนอภิธรรมเบื้องต้น นะจ๊ะหนูน้อย


จ สระ อิ ต เต่า อ่านว่า จิต คืออะไร ?
คือธรรมชาติของธาตุที่รู้

เจตสิก หมายถึงอาราย
หมาย ธรรมชาติชนิดหนึ่งซึ่งประกอบกับจิต
ต่อกับจิต แบบตัวเลโก้
เรียกกันเต็มๆๆ ว่าจิตเจตสิก



อิอิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ค. 2010, 22:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 พ.ค. 2010, 19:28
โพสต์: 18

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ธรรมภูต เขียน:
อ้างคำพูด:
รู้แต่ว่าสิ่งใดเกิดขึ้นสิ่งนั้นย่อมดับไป ใช่ป่าวคะ ?


ใช่ครับ สิ่งหนึ่งสิ่งใดในโลกนี้ล้วนเกิดขึ้นเป้นธรรมดา ย่อมดับไปเป็นธรรมดา

สรุปแล้วก็ยังไม่ได้ตอบคำถามผมที่ถามไปนะครับ

ที่ผมถามว่าสติปัญญาเกิดขึ้นที่ไหน?

ส่วนคนที่มีสติปัญญาอ่านออกเขียนได้แล้ว

อยู่ๆความรู้ที่เกิดจากการอ่านออกเขียนนั้น คงไม่ดับหายไป คืออยู่ๆก็อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ใช่มั้ย?

:b39:


:b9: แหะๆ เมื่อรู้ว่าสิ่งใดเกิดขึ้นสิ่งนั้นย่อมดับไปแล้วก็ยังไม่ดับ หรอคะ ??
ที่ถามว่าสติปัญญาเกิดขึ้นที่ไหน? นั้นก็เกิดขึ้นต่อไปอีก ใช่ป่าวคะ ??
เพราะคุณธรรมภูตยังอยากจะบอกว่าสติปัญญาเกิดขึ้นที่ไหนอยู่ รึป่าวคะ ??


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ค. 2010, 23:59 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ธรรมบุตร เขียน:
จิตไม่เที่ยง

จิตเป็นทุกข์

จิตเป็นอนัตตา

ความรู้อย่างที่ว่ามานี้ชื่อว่า เข้าใจจิต รู้จักจิตตามความเป็นจริง.


หากจิตไม่เที่ยง...เป็นทุกข์....เป็นอนัตตา

แล้วเราใยไปสนใจมันทำไม????..ละว่า

จะมีอะไรมาปกมาคลุม..มาหุ่มมาห่อ

เพราะเดียวมันก็อนัตตาแล้วนี้น่า..จรีงมั้ย???

:b13: :b13:

ก็เพราะมันไม่อนัตตา..นี้ซี..จึงต้องเข้าไปยุ่ง

อย่างที่หลวงตา..ว่า..จิตนี้มันไม่เคยฉีบหาย..นะ

ส่วนที่ฉีบหายตายจากได้นี้..ก็พวกส่วนเกีนไปจากจิต..ทั้งนั้น

ชาตเอย..
ภพเอย..
อุปาทานเอย..
ตันหาเอย..
เวทนาเอย..
นามรูปเอย..
วีญญาณเอย..
แม้สุดท้าย..อวีชชา..เอย

พ้นจากนี้..ก็เหลีอแต่จิตบรีสุทธ..


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 พ.ค. 2010, 21:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ย. 2009, 20:09
โพสต์: 202

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


innocent เขียน:
ธรรมภูต เขียน:
อ้างคำพูด:
รู้แต่ว่าสิ่งใดเกิดขึ้นสิ่งนั้นย่อมดับไป ใช่ป่าวคะ ?


ใช่ครับ สิ่งหนึ่งสิ่งใดในโลกนี้ล้วนเกิดขึ้นเป้นธรรมดา ย่อมดับไปเป็นธรรมดา

สรุปแล้วก็ยังไม่ได้ตอบคำถามผมที่ถามไปนะครับ

ที่ผมถามว่าสติปัญญาเกิดขึ้นที่ไหน?

ส่วนคนที่มีสติปัญญาอ่านออกเขียนได้แล้ว

อยู่ๆความรู้ที่เกิดจากการอ่านออกเขียนนั้น คงไม่ดับหายไป คืออยู่ๆก็อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ใช่มั้ย?

:b39:


:b9: แหะๆ เมื่อรู้ว่าสิ่งใดเกิดขึ้นสิ่งนั้นย่อมดับไปแล้วก็ยังไม่ดับ หรอคะ ??
ที่ถามว่าสติปัญญาเกิดขึ้นที่ไหน? นั้นก็เกิดขึ้นต่อไปอีก ใช่ป่าวคะ ??
เพราะคุณธรรมภูตยังอยากจะบอกว่าสติปัญญาเกิดขึ้นที่ไหนอยู่ รึป่าวคะ ??

ครับคำว่าดับไปนั้น เป็นเพียงแค่ดับไปจากความรู้สึกนึกคิดเท่านั้นเอง พร้อมที่จะเกิดขึ้นมาใหม่

ที่สำคัญนั้นอยู่ที่ว่าเราฝึกฝนอบรมจิตมาดีพอหรือไม่ต่างหากครับ

ถ้าที่ฝึกฝนอบรมจิตมาดีพอ เรื่องทั้งหลายในโลกที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ก็ล้วนเป็นธรรมดาของโลก

เพราะเราไม่ส่งจิตออกไปยึดมั่นถือมั่นสิ่งเหล่านั้นมาเป็นของๆเรา เราก็ไม่ทุกข์ เพราะละเหตุได้ใช่มั้ย?

ส่วนที่ไม่ได้ฝึกฝนอบรมจิตมานั้น ใครๆก็พูดได้ทั้งนั้นว่า ไม่เคยยึดมั่นถือมั่นเลย

แต่ลองถามจิตใจตนเอง โดยความเป็นจริงจะเห็นถึงความหวั่นไหวซัดส่ายไปมาอยู่ตลอดเวลา

บางครั้งที่เฉยนั้น เป็นเพราะจิตอยู่ในภวังค์ยังไม่ได้เสวยอารมณ์เท่านั้น

หรือเฉยบังคับตนเองให้พยายามเฉย ที่เค้าเรียกว่าเฉยโง่(จิตยังมีอวิชชาครอบงำอยู่)

ไม่ใช่เฉยเพราะจิตสามารถปล่อยวางอารมณ์ทั้งหลายออกไปณ.ภายในจากจิตได้.....

ใช่ครับ ผมต้องการคำตอบคือ จิต

เพราะธรรมทั้งหลายล้วนเกิดขึ้นณ.ภายในจิต ต้องการรู้อะไรค้นดูได้ที่จิต

ฉะนั้นจิตจึงเป็นหลักธรรมสำคัญในพระพุทธศาสนา

พระพุทธศาสนาสอนเพียงแค่เรื่องจิตกับอารมณ์เท่านั้น

:b39:

.....................................................
ความเพียรมีผล ความพยายามมีผล
เชิญพบปะพูดคุยกับธรรมภูต


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 พ.ค. 2010, 13:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 เม.ย. 2010, 17:59
โพสต์: 3

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


จำได้ว่าครูอาจารย์เท่านเคยสอนว่า จิตนั้นเป็นของลึกซึ้ง การศึกษาทำได้ด้วยการฟังธรรมให้มาก ปฏิบัติภาวนาให้มาก แล้วจะเป็นผู้ฉลาดในจิตเอง ไม่ต้องไปถามใคร


ถ้าเท่าที่ผมหรือท่านใดปฏิบัติอยู่ พึงเรียกว่า "เข้าใจ" จิตอย่างแท้จริงแล้ว ย่อมมีผู้เห็นธรรมปรากฏไม่ช้าก็เร็ว มาภาวนาให้มากกันดีกว่าครับ :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 พ.ค. 2010, 20:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ย. 2009, 20:09
โพสต์: 202

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


enlighted เขียน:
ธรรมภูต เขียน:
enlighted เขียน:
อิอิ

คุณ ทำมาพูด เอ๊ย ธรรมมาภูต

จิตแบบคุณ ดูๆเหมือน ตัวต่อเลโก้ น๊าคร๊าบบบ

เอาอันโน้น อันนี้ มาประกอบ
ประกอบผิดประกอบถูก
ประกอบไป ประกอบมา
เป็นรูปเป็นร่าง ใหม่ๆ

เหอๆๆ


ชี้ให้ชัดเจนสิครับ อย่ากำๆกวมๆอยู่แบบนี้เลย


อิอิ

ก็ต้องมาสอนอภิธรรมเบื้องต้น นะจ๊ะหนูน้อย


จ สระ อิ ต เต่า อ่านว่า จิต คืออะไร ?
คือธรรมชาติของธาตุที่รู้

เจตสิก หมายถึงอาราย
หมาย ธรรมชาติชนิดหนึ่งซึ่งประกอบกับจิต
ต่อกับจิต แบบตัวเลโก้
เรียกกันเต็มๆๆ ว่าจิตเจตสิก



อิอิ


การจะสอนอะไรใครนั้น ก็ควรสอนตนเองให้รู้จริงก่อน

ไม่ใช่รู้บ้าง ไม่รู้บ้าง แบบที่เป็น อย่าเพิ่งคิดสอนใครเลย

แค่คำจำกัดความเรื่องจิต ก็ไปคนละเรื่องแล้ว

ใช่จิตเป็นธาตุ แต่ที่มีธรรมชาติชอบแส่ส่ายแล่นออกไปรู้รับอารมณ์ก็เพราะมีอวิชชาครอบงำอยู่ใช่มั้ย?

เจตสิก เครื่องปรุงแต่งจิตให้เสียคุณภาพไปใช่มั้ย?

แล้วสติที่เป็นธรรมที่มีอุปการะมาก ย่อมยังจิตให้มีคุณภาพใช่มั้ย?

ไม่ต้องเรียกจิตเจตสิกหรอกครับ คำว่าเจตสิกก็เป็นคำผสมระหว่างจิตกับสิ่งที่เกิดขึ้นที่จิตอยู่แล้ว

:b39:

.....................................................
ความเพียรมีผล ความพยายามมีผล
เชิญพบปะพูดคุยกับธรรมภูต


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 พ.ค. 2010, 22:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 08:14
โพสต์: 829

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ธรรมภูต เขียน:
enlighted เขียน:
ธรรมภูต เขียน:
enlighted เขียน:
อิอิ

คุณ ทำมาพูด เอ๊ย ธรรมมาภูต

จิตแบบคุณ ดูๆเหมือน ตัวต่อเลโก้ น๊าคร๊าบบบ

เอาอันโน้น อันนี้ มาประกอบ
ประกอบผิดประกอบถูก
ประกอบไป ประกอบมา
เป็นรูปเป็นร่าง ใหม่ๆ

เหอๆๆ


ชี้ให้ชัดเจนสิครับ อย่ากำๆกวมๆอยู่แบบนี้เลย


อิอิ

ก็ต้องมาสอนอภิธรรมเบื้องต้น นะจ๊ะหนูน้อย


จ สระ อิ ต เต่า อ่านว่า จิต คืออะไร ?
คือธรรมชาติของธาตุที่รู้

เจตสิก หมายถึงอาราย
หมาย ธรรมชาติชนิดหนึ่งซึ่งประกอบกับจิต
ต่อกับจิต แบบตัวเลโก้
เรียกกันเต็มๆๆ ว่าจิตเจตสิก



อิอิ


การจะสอนอะไรใครนั้น ก็ควรสอนตนเองให้รู้จริงก่อน

ไม่ใช่รู้บ้าง ไม่รู้บ้าง แบบที่เป็น อย่าเพิ่งคิดสอนใครเลย

แค่คำจำกัดความเรื่องจิต ก็ไปคนละเรื่องแล้ว

ใช่จิตเป็นธาตุ แต่ที่มีธรรมชาติชอบแส่ส่ายแล่นออกไปรู้รับอารมณ์ก็เพราะมีอวิชชาครอบงำอยู่ใช่มั้ย?

เจตสิก เครื่องปรุงแต่งจิตให้เสียคุณภาพไปใช่มั้ย?

แล้วสติที่เป็นธรรมที่มีอุปการะมาก ย่อมยังจิตให้มีคุณภาพใช่มั้ย?

ไม่ต้องเรียกจิตเจตสิกหรอกครับ คำว่าเจตสิกก็เป็นคำผสมระหว่างจิตกับสิ่งที่เกิดขึ้นที่จิตอยู่แล้ว

:b39:


อิอิ

ทำมาพูด

ยังไม่รู้ตัวอีก ว่าตนเองน่ะมั่วขนาดไหน

จิต+ธรรมชาติ+แส่ส่าย+อารมณ์ + อวิชชา
จิต+สติ+ผู้อุปถัมภ์ +คุณภาพ
จิต+เจตสิก+ไร้สมรรถภาพ

จิตตัวต่อเลโกสำหรับเด็กๆ อยู่ดี
ทำมาพูดเอ๊ยย

อิอิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ค. 2010, 08:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ย. 2009, 20:09
โพสต์: 202

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


enlighted เขียน:
ธรรมภูต เขียน:
enlighted เขียน:
ธรรมภูต เขียน:
enlighted เขียน:
อิอิ

คุณ ทำมาพูด เอ๊ย ธรรมมาภูต

จิตแบบคุณ ดูๆเหมือน ตัวต่อเลโก้ น๊าคร๊าบบบ

เอาอันโน้น อันนี้ มาประกอบ
ประกอบผิดประกอบถูก
ประกอบไป ประกอบมา
เป็นรูปเป็นร่าง ใหม่ๆ

เหอๆๆ


ชี้ให้ชัดเจนสิครับ อย่ากำๆกวมๆอยู่แบบนี้เลย


อิอิ

ก็ต้องมาสอนอภิธรรมเบื้องต้น นะจ๊ะหนูน้อย


จ สระ อิ ต เต่า อ่านว่า จิต คืออะไร ?
คือธรรมชาติของธาตุที่รู้

เจตสิก หมายถึงอาราย
หมาย ธรรมชาติชนิดหนึ่งซึ่งประกอบกับจิต
ต่อกับจิต แบบตัวเลโก้
เรียกกันเต็มๆๆ ว่าจิตเจตสิก



อิอิ


การจะสอนอะไรใครนั้น ก็ควรสอนตนเองให้รู้จริงก่อน

ไม่ใช่รู้บ้าง ไม่รู้บ้าง แบบที่เป็น อย่าเพิ่งคิดสอนใครเลย

แค่คำจำกัดความเรื่องจิต ก็ไปคนละเรื่องแล้ว

ใช่จิตเป็นธาตุ แต่ที่มีธรรมชาติชอบแส่ส่ายแล่นออกไปรู้รับอารมณ์ก็เพราะมีอวิชชาครอบงำอยู่ใช่มั้ย?

เจตสิก เครื่องปรุงแต่งจิตให้เสียคุณภาพไปใช่มั้ย?

แล้วสติที่เป็นธรรมที่มีอุปการะมาก ย่อมยังจิตให้มีคุณภาพใช่มั้ย?

ไม่ต้องเรียกจิตเจตสิกหรอกครับ คำว่าเจตสิกก็เป็นคำผสมระหว่างจิตกับสิ่งที่เกิดขึ้นที่จิตอยู่แล้ว

:b39:


อิอิ

ทำมาพูด

ยังไม่รู้ตัวอีก ว่าตนเองน่ะมั่วขนาดไหน

จิต+ธรรมชาติ+แส่ส่าย+อารมณ์ + อวิชชา
จิต+สติ+ผู้อุปถัมภ์ +คุณภาพ
จิต+เจตสิก+ไร้สมรรถภาพ

จิตตัวต่อเลโกสำหรับเด็กๆ อยู่ดี
ทำมาพูดเอ๊ยย

อิอิ

ใครกันแน่ครับ ที่มั่วไม่เลิก มั่วขนาดว่าตัวเองมั่วยังไม่รู้ตัวเลย

จิต+อวิชชา+เกิดธรรมชาติชอบแส่ส่ายออกไป+อารมณ์+เกิดสุข ทุกข์

จิต+สติ+เกิดสมาธิ+รู้เห็นตามความเป็นจริง+จิตมีคุณภาพ

เจตสิก+จิตถูกปรุงแต่งไปตามอารมณ์แล้ว+ไร้คุณภาพ+สุข ทุกข์ ไปตามสิ่งปรุงแต่ง

คิดจะต่อเลโก้ ก็หัดเรียนรู้จากการปฏิบัติ ไม่ใช่คิดเอาเองแบบมั่วๆสิ

ทำมาจึงพูด ไม่ใช่ดีแต่พูดแล้วไม่ทำนะจ๊ะ

:b39:

.....................................................
ความเพียรมีผล ความพยายามมีผล
เชิญพบปะพูดคุยกับธรรมภูต


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ค. 2010, 08:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.พ. 2010, 13:35
โพสต์: 355

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ธรรมบุตร เขียน:
ละได้ย่อมสงบ...


รูปภาพ



ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ ล้วนแต่เคลื่อนที่ไปสู่ความเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
ทุกอย่างในโลกนี้ เคลื่อนไปสู่การสลายตัวทั้งสิ้น
ไม่ยึด ไม่ทุกข์ ไม่สุข ละได้ย่อมสงบ


คัดลอกจากหนังสือ เรียนธรรมะบูชาพระสุปฏิปันโน เล่มของ หลวงปู่ทวด


จิตมี 2 ชนิด 1. จิตสังขาร หรือจิตในปฏิจจสมุปบาท 2. จิตนิพพาน หรือจิตนอกปฏิจจสมุปบาท

ที่หลวงปู่ทวดท่านพูดถึง ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
แต่นิพพานจิตหรือจิตหลุดพ้นอยู่ที่ไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องอยู่ในโลกนี้นะครับ ที่ประจำของมันอยู่นอกโลก นอกวัฏฏสงสาร เพราะวัฏฏสงสารเป็นที่ของจิตไม่บริสุทธิ์อยู่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ค. 2010, 08:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.พ. 2010, 13:35
โพสต์: 355

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ธรรมภูต เขียน:
สงสัยครับ ถ้าจิตเป็นตัวทุกข์

ดับจิตทิ้งซะ แล้วจะพ้นทุกข์ได้มั้ยครับ?

ถ้าจิตเป็นตัวทุกข์แล้ว ในกรณีจิตที่ติดสุขหละ? จะว่ายังไง

:b34:


คำว่า "จิตดับ" หรือ "ดับจิต"หมายถึง จิตสังขาร หรือจิตในปฏิจจสมุปบาทดับ
เมื่อจิตไม่บริสุทธิ์ดับ จิตที่เป็นแก่นแท้ของเรา คือ "นิพพานจิต" หรือจิตหลุดพ้น หรือจิตพ้นวิเศษ ที่เป็นนิจจัง สุขขัง อัตตา จะออกมา

จิตที่ติดสุข คือ จิตที่หลงติดอยู่ในความสุขไม่บริสุทธิ์ ที่ยังเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เช่น รูปพรหม และอรูปพรหม


แก้ไขล่าสุดโดย คนดีที่โลกลืม เมื่อ 13 พ.ค. 2010, 08:46, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ค. 2010, 08:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.พ. 2010, 13:35
โพสต์: 355

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


enlighted เขียน:
ธรรมภูต เขียน:
สงสัยครับ ถ้าจิตเป็นตัวทุกข์

ดับจิตทิ้งซะ แล้วจะพ้นทุกข์ได้มั้ยครับ?

ถ้าจิตเป็นตัวทุกข์แล้ว ในกรณีจิตที่ติดสุขหละ? จะว่ายังไง

:b34:



อิอิ

จิตติดสุข
ก็รอไปยุคพระศรีอารีย์ไง ค่อยฟังธรรมใหม่คร๊าบ

เฮ้ออ


ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเราตถาคต(พระพุทธเจ้าทุกพระองค์)

ผู้ใดไม่เห็นธรรม ผู้นั้นไม่เห็นเราตถาคต

แม้พระศรีอารีย์อยู่ตรงหน้าเธอ เธอก็ไม่เห็นท่าน กลับไปมองหาพระศรีอารีย์ในที่อื่น ในกาลเวลาอื่น
ในเวลานี้ หรือในภายภาคหน้า พระศรีอารีย์ก็จะเทศน์อย่างนี้ แต่เพระจิตเธอมีทิฏฐิมานะ คิดว่าตัวเองแน่ เธอจึงมองไม่เห็นท่าน


แก้ไขล่าสุดโดย คนดีที่โลกลืม เมื่อ 13 พ.ค. 2010, 08:56, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ค. 2010, 09:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 08:14
โพสต์: 829

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ธรรมภูต เขียน:
enlighted เขียน:
ธรรมภูต เขียน:
enlighted เขียน:
ธรรมภูต เขียน:
enlighted เขียน:
อิอิ

คุณ ทำมาพูด เอ๊ย ธรรมมาภูต

จิตแบบคุณ ดูๆเหมือน ตัวต่อเลโก้ น๊าคร๊าบบบ

เอาอันโน้น อันนี้ มาประกอบ
ประกอบผิดประกอบถูก
ประกอบไป ประกอบมา
เป็นรูปเป็นร่าง ใหม่ๆ

เหอๆๆ


ชี้ให้ชัดเจนสิครับ อย่ากำๆกวมๆอยู่แบบนี้เลย


อิอิ

ก็ต้องมาสอนอภิธรรมเบื้องต้น นะจ๊ะหนูน้อย


จ สระ อิ ต เต่า อ่านว่า จิต คืออะไร ?
คือธรรมชาติของธาตุที่รู้

เจตสิก หมายถึงอาราย
หมาย ธรรมชาติชนิดหนึ่งซึ่งประกอบกับจิต
ต่อกับจิต แบบตัวเลโก้
เรียกกันเต็มๆๆ ว่าจิตเจตสิก



อิอิ


การจะสอนอะไรใครนั้น ก็ควรสอนตนเองให้รู้จริงก่อน

ไม่ใช่รู้บ้าง ไม่รู้บ้าง แบบที่เป็น อย่าเพิ่งคิดสอนใครเลย

แค่คำจำกัดความเรื่องจิต ก็ไปคนละเรื่องแล้ว

ใช่จิตเป็นธาตุ แต่ที่มีธรรมชาติชอบแส่ส่ายแล่นออกไปรู้รับอารมณ์ก็เพราะมีอวิชชาครอบงำอยู่ใช่มั้ย?

เจตสิก เครื่องปรุงแต่งจิตให้เสียคุณภาพไปใช่มั้ย?

แล้วสติที่เป็นธรรมที่มีอุปการะมาก ย่อมยังจิตให้มีคุณภาพใช่มั้ย?

ไม่ต้องเรียกจิตเจตสิกหรอกครับ คำว่าเจตสิกก็เป็นคำผสมระหว่างจิตกับสิ่งที่เกิดขึ้นที่จิตอยู่แล้ว

:b39:


อิอิ

ทำมาพูด

ยังไม่รู้ตัวอีก ว่าตนเองน่ะมั่วขนาดไหน

จิต+ธรรมชาติ+แส่ส่าย+อารมณ์ + อวิชชา
จิต+สติ+ผู้อุปถัมภ์ +คุณภาพ
จิต+เจตสิก+ไร้สมรรถภาพ

จิตตัวต่อเลโกสำหรับเด็กๆ อยู่ดี
ทำมาพูดเอ๊ยย

อิอิ

ใครกันแน่ครับ ที่มั่วไม่เลิก มั่วขนาดว่าตัวเองมั่วยังไม่รู้ตัวเลย

จิต+อวิชชา+เกิดธรรมชาติชอบแส่ส่ายออกไป+อารมณ์+เกิดสุข ทุกข์

จิต+สติ+เกิดสมาธิ+รู้เห็นตามความเป็นจริง+จิตมีคุณภาพ

เจตสิก+จิตถูกปรุงแต่งไปตามอารมณ์แล้ว+ไร้คุณภาพ+สุข ทุกข์ ไปตามสิ่งปรุงแต่ง

คิดจะต่อเลโก้ ก็หัดเรียนรู้จากการปฏิบัติ ไม่ใช่คิดเอาเองแบบมั่วๆสิ

ทำมาจึงพูด ไม่ใช่ดีแต่พูดแล้วไม่ทำนะจ๊ะ

:b39:


อือื
คนที่เค้าปฎิบัติน่ะคร๊าบบ
คนที่เค้าเรียนปริยัติน่ะคร๊าบ
จะไม่ไปเข้าใจ ว่า จิต จะต้องบวกโน่นบวกนี่หรอกคร๊าบ

ความรู้เรื่องจิต ก้คือจิต
ไม่เอามามั่ว มาบวกโน่น บวกนี่ แบบคุณภูดหรอกคร๊าบ

ลองไปอ่านดูความเห็น คุณพูดตั้งแต่ต้นกระทู้ก็ได้น่ะคร๊าบ
อย่ามาแก้ตัวเลยคร๊าบ
ความเห็นผิดน่ะคร๊าบบ
อิอิ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 34 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร