วันเวลาปัจจุบัน 05 พ.ค. 2025, 19:22  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กระทู้นี้ถูกล็อก คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความ หรือ ตอบกลับในกระทู้นี้  [ 38 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มี.ค. 2010, 08:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว




000000000000000000000000000000000000000000000000000000.bmp
000000000000000000000000000000000000000000000000000000.bmp [ 466.22 KiB | เปิดดู 2112 ครั้ง ]
Y4775273-7.jpg
Y4775273-7.jpg [ 13.72 KiB | เปิดดู 2111 ครั้ง ]
ในคาถาที่ 2 ว่า ยทา หเว ปาตุภวน.ติ ธม.มา อาตาปิโน ฌายโต พ.ราห.มส.ส อถส.ส กง.ขา วปยน.ติ สพ.พา ยโต ขย? ปจ.จยาน? อเวทิ เมื่อใดธรรมทั้งหลายปรากฏแก่พราหมณ์ผู้มีความเพียรเพ่งอยู่ เมื่อนั้นความสงสัยทั้งปวงของพราหมณ์นั้นย่อมสิ้นไป เห็นจริงเเท้ไม่ต้องสงสัย ยโต ขย? ปจ.จยาน? อเวทิ เพราะพราหมณ์นั้นได้รู้ความสิ้นไปของปัจจัยทั้งหลาย

ตรงนี้สำคัญนัก
พราหมณ์นั้นได้รู้ว่าความสิ้นไปของปัจจัยทั้งหลาย รู้ความสิ้นไป
เมื่อพราหมณ์เดินขึ้นไปเป็นลำดับจนกระทั่งถึงกายพระอรหัต ก็รู้ทีเดียว รู้ชัดทีเดียว ที่จะขึ้นไปเช่นนี้ก็ต้องรู้ชัด เห็นชัดทีเดียว เพราะแกเห็นแล้ว
ดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายมนุษย์ที่จะชะลอกายมนุษย์ไว้ได้นี้เพราะ อภิชฌา พยาบาท มิจฉาทิฏฐิ บังคับอยู่ บังคับธรรมที่ทำให้เป็นกายมนุษย์อยู่ ทั้งหยาบทั้งละเอียด
กายทิพย์เล่า เพราะปัจจัยคือ โลภะ โทสะ โมหะ ทั้งหยาบทั้งละเอียด บังคับกายทิพย์ทั้งหยาบทั้งละเอียดอยู่
กายรูปพรหมทั้งหยาบทั้งละเอียดเล่า ทั้งหยาบทั้งละเอียดก็เพราะปัจจัย คือ ราคะ โทสะ โมหะ ทั้งหยาบทั้งละเอียดบังคับกายรูปพรหมอยู่
ขึ้นไปจากภพไม่ได้ ไปไม่พ้น
กายอรูปพรหมเล่า ทั้งหยาบทั้งละเอียด เพราะกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย อวิชชานุสัย บังคับอรูปพรหมทั้งหยาบทั้งละเอียดอยู่

พ้นจากภพไปไม่ได้
กายธรรมเล่าเพราะ สักกายทิฏฐิ วิจิกิจฉาสีลัพพตปรามาสเป็นสังโยชน์ เป็นปัจจัยคุ้มครองป้องกันไม่ให้หลุดพ้นไปจากโคตรภูบุคคลได้ทั้งหยาบทั้งละเอียด
เมื่อเข้าถึงพระโสดา เป็นพระโสดาบัดบุคคลแล้ว ทั้งหยาบทั้งละเอียดเพราะ กามราคะ พยาบาทอย่างหยาบ บังคับอยู่ ทั้งหยาบทั้งละเอียด
กายพระสกทาทั้งหยาบทั้งละเอียดเล่า เพราะกามราคะ พยาบาทอย่างละเอียด มันบังคับอยู่ ทั้งหยาบทั้งละเอียด พระสกทาคาไปไม่ได้ติดอยู่เพียงแค่พระสกทาคานี้
เมื่อเข้าถึงพระอนาคา ทั้งหยาบทั้งละเอียดก็ รูปราคะ อรูปราคะ มานะ อุทธัจจะ อุทธัจจะ อวิชชา สังโยชน์เบื้องบนนี่เอง
นี่เป็นปัจจัยคุ้มครองป้องกันไม่ให้เป็นพระอรหัตได้ เป็นลิ่ม เป็นสลักอยู่อย่างนี้
ท่านอุตส่าห์พยายามให้เข้าถึงพระอรหัต เดินทางศีล สมาธิ ปัญญา วิมุตติ วิมุตติญาณทัสสนะ
พอบรรลุเป็นพระอรหัต หลุดจากรูปราคะ อรูปราคะ มานะ อุทธัจจะ อวิชชาเรียกว่า ขีณาสโว ผู้มีอาสวะสิ้นแล้ว กามาสวะ ภวาสวะ อวิชชาสวะ ไม่มีในพระอรหัต
เมื่อไม่มีในพระอรหัตเห็นชัดเช่นนี้ ท่านก็รู้นะซี
รู้ชัด เห็นชัดทีเดียวว่านี่เเหละ
ยโต ขย? ปจ.จยาน? อเวทิ พราหมณ์นั้นได้รู้ความสิ้นไปของปัจจัยทั้งหลาย

ไม่มีปัจจัยเลย ปัจจัยฝ่ายที่จะตรึงไว้ไม่มีมีเลย หลุดจากปัจจัยหมด เป็นพระอรหัต เป็นสมุจเฉทปหาน แน่นอนในพุทธศาสนา


แก้ไขล่าสุดโดย หลับอยุ่ เมื่อ 29 มี.ค. 2010, 10:23, แก้ไขแล้ว 6 ครั้ง.
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มี.ค. 2010, 08:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว




p27.jpg
p27.jpg [ 44.01 KiB | เปิดดู 2106 ครั้ง ]
เมื่อรู้จักหลักเช่นนี้ ในบาทที่ 3 รับรองอีก รับรองทีเดียวว่า
ยทา หเว ปาตุภวน.ติ ธม.มา อาตาปิโน ฌายโต พ.ราห.มณส.ส
เมื่อใดธรรมทั้งหลายปรากฏแก่พราหมณ์ผู้มีความเพียรเพ่งอยู่
วิธูปย? ติฏ.ฐติ มารเสน? พราหมณ์นั้นย่อมกำจัดมารและเสนามารเสียได้
สูโรว โอภาสยมน.ตลิกขน.ติ
ดำรงอยู่เหมือนดวงอาทิตย์ผุดขึ้นมากำจัดมืด กระทำอากาศให้สว่างฉะนั้น
นี้ปรากฏเป็นพระอรหัตแล้วอย่างนี้ สว่างเป็นดวงอาทิตย์กลางวันเรื่อยไม่มีค่ำเลย เมื่อยังไม่ถึงพระอรหัตละก็ยังมีค่ำ ยังมีสว่างอยู่
ถ้าถึงพระอรหัตละก็ไม่มีค่ำทีเดียว มีสว่างตลอด เพราะดวงธรรมเต็มที่แล้ว
ดวงธรรมที่ทำให้เป็นพระอรหัตนั่นวัดผ่าศูนย์กลาง 20 วา กลมรอบตัว ดวงนั้นยิ่งกว่าดวงจันทร์ดวงอาทิตย์ไปอีก
ดวงจันทร์ก็ดี ดวงอาทิตย์ก็ดี ส่องให้ความสว่างในที่ที่ส่องได้ ที่ลึกลับลงไปใต้แผ่นดินส่องไม่ได้ ถ้ำคูหาส่องไม่ถึง
ดวงธรรมของพระอรหัตนั้น ใต้แผ่นดินก็สว่างหมด เหนือดวงจันทร์ดวงอาทิตย์ก็สว่างหมด เห็นสว่างตลอดหมด ในถ้ำ ในเหว ในปล่อง ในใส้พุงตับไต เห็นตลอดหมด ปรากฏอย่างนี้

ท่านจึงได้เทียบด้วย สูโรว โอภาสสยมน.ตลิขน.ติ
เหมือนดวงอาทิตย์อุทัยขึ้นมา แล้วกำจัดความมืด ทำอากาศให้สว่าง

ดวงธรรมก็ทำให้สว่างยิ่งกว่านั้น สว่างในไส้พุงตับไตสว่างหมด
ในภูเขา ดวงอาทิตย์ส่องได้แต่ในที่ที่ส่องได้
ในที่ลึกลับเข้าไปในภูเขาเข้าไปส่องไม่ได้
ส่วนดวงธรรมส่องเข้าไปได้ตลอดหมด
ท่านจึงได้ยืนยันว่า นต.ถิ ปญ.ญา สมาอาภา แสงสว่างใดเสมอด้วยปัญญาไม่มี
ดวงธรรมนั่นแหละให้เกิดปัญญาสว่าง ไม่มีที่กำบังอันใดแต่นิดเดียว จะกำบังก็กำบังไม่ได้
ไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดกำบังได้เลย ส่องสว่างได้ตลอด นี้ท่านจึงได้ชี้ว่าเหมือนยังกับดวงอาทิตย์ผุดขึ้น เหมือนดวงอาทิตย์เกิดขึ้นแล้วกำจัดความมืด ทำอากาศให้สว่าง ดวงธรรมก็เทียบด้วยอย่างนั้นเหมือนกัน


แก้ไขล่าสุดโดย หลับอยุ่ เมื่อ 28 มี.ค. 2010, 12:48, แก้ไขแล้ว 8 ครั้ง.
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มี.ค. 2010, 08:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว




000000000000000000000000000000000000000000000000000000.bmp
000000000000000000000000000000000000000000000000000000.bmp [ 466.22 KiB | เปิดดู 2105 ครั้ง ]
นี้เป็นอุทานคาถา พระบรมศาสดาทรงตรัสเทศนา เป็นธรรมอันลึกซึ้ง
ฟังพอดีพอร้ายไม่รู้เรื่อง

เมื่อเป็นของลึกซึ้งขนาดนี้ละก็ จำเอาไว้ว่าเราจะต้องทำให้เป็นเหมือนอย่างนี้ นี่ที่เขาเป็นธรรมกายเขารู้หนา แค่นี้เขาเข้าใจทีเดียวว่า อ้อ! ตำรับตำรามีจริงอย่างนี้ เราก็เห็นจริงเหมือนตำราแล้ว ถูกต้องตามตำราแล้ว
ผู้ที่ไม่เห็น ไม่เป็นปรากฏ ก็เท่ากับตาบอด ไปไหนไม่รอด ติดอยู่แค่กายมนุษย์นี่เอง
ดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายมนุษย์ก็ไม่เห็น ไม่เป็นกับเขา
เมื่อไม่เห็น ไม่เป็นกับเขา ก็ไม่มีธรรมเป็นเครื่องอยู่ ก็เป็นทุกข์อยู่ร่ำไป ไม่มีสุข


ผู้มีธรรมเป็นเครื่องอยู่ก็เป็นสุข


พระพุทธเจ้าทรงรับสั่งว่า ธม.มสุขวิหารี
ผู้มีธรรมเป็นเครื่องอยู่เป็นสุข ในปัจจุบันทันตาเห็น ถ้ามีธรรมเป็นเครื่องอยู่ละก็เป็นสุขในปัจจุบันทันตาเห็น เป็นสุขเดี๋ยวนั้น
ท่านยืนยันด้วยว่า อกาลิโก เมื่อเข้าถึงดวงธรรมนั้นแล้ว เป็นสุขเดี๋ยวนั้น ไม่ต้องผลัดกาลเวลา ไม่มีกาลเวลา จะได้เลื่อนความสุขนั้นมาในเวลานั้นเวลานี้นี่ไม่มีสุข พอถึงก็สุขทีเดียว ไปถึงเดี๋ยวนั้นก็เป็นสุขเดี๋ยวนั้นทีเดียว จึงเรียกว่า อกาลิโก แล้วไม่ใช่เท่านั้น เห็นดวงแจ่มแจ้งกระจ่างสว่างกับใจอยู่ อาจจะเรียกบุคคลผู้อื่นเข้ามาดูได้ รูปพรรณสัณฐานเป็นอย่างนี้
นี่เหมือนกับเทศน์ให้ฟังอย่างนี้แหละ เรียกบุคคลอื่นให้มาดูได้ เป็นดวงขนาดนั้น ๆ โตเท่านั้น สว่างถึงนั่น อาจจะเรียกบุคคลอื่นให้เข้ามาดูได้อย่างนี้ นี่เรียกว่า เอหิปส.สิโก โอปนยิโก ไม่ใช่เป็นของเเข็ง
น้อมเข้าไปในใจก็ได้
น้อมเข้าไปตั้งอยู่แค่ไหนก็ได้
น้อมออกข้างนอกก็ได้
น้อมลงข้างล่าง ซ้าย หน้า หลัง นอก ใน
น้อมไปได้ตามใจชอบหมดทั้งสิ้น ไม่ผิด นั่นเป็นของอ่อนตามใจอย่างนั้น เรียกว่า โอปนยิโก เป็นของน้อมได้ตามชอบใจ

ปจ.จต.ต? เวทิตพ.โพ วิญ.ญหิ
ผู้รู้รู้ได้เฉพาะตัว ใครเข้าถึงใครก็รู้ ใครทำเป็นใครก็เห็น ใครได้ใครก็ถึง ใครไม่ได้ใครก็ไม่ถึง ใครไม่เป็นใครก็ไม่เห็นเท่านั้น ปรากฏอย่างนี้ นี้แหละ อุทานคาถาที่พระศาสดาทรงประสงค์แสดงไว้


แก้ไขล่าสุดโดย หลับอยุ่ เมื่อ 28 มี.ค. 2010, 09:14, แก้ไขแล้ว 3 ครั้ง.
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มี.ค. 2010, 08:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว




Y4775273-7.jpg
Y4775273-7.jpg [ 13.72 KiB | เปิดดู 2103 ครั้ง ]
ที่ชี้แจงแสดงมาแล้วนี้ ตามวาระพระบาลี คลี่ความเป็นสยามภาษาตามมตยาธิบายพอสมควรแก่เวลา
เอเตน สจ.จวช.เชน ด้วยอำนาจความสัจที่ได้อ้างธรรมปฏิบัติในอุทานคาถาตั้งแต่ต้นจนอวสานนี้ ขอความสุขความสวัสดีจงบังเกิดมีแก่ท่านทั้งหลาย บรรดามาสโมสรในสถานที่นี้ทุกทั่วหน้า
สพ.พพุทธาภาเวน ด้วยอนุภาพพระพุทธเจ้าทั้งปวง
สพ.ธมมานุภาเวน ด้วยอานุภาพพระธรรมทั้งปวง
สพ.พสง.ฆานุภาเวน ด้วยอนุภาพพระสงฆ์ทั้งปวง
ปิฎกต.ตยานุภาเวน ด้วยอานุภาพปิฎกทั้งสาม คือ วินัยปิฎก สุตตันตปิฎก ปรมัตถปิฎก
ชิสาวกานุภาเวน ด้วยอานุภาพชินสาวกของท่านผู้ชนะมาร
จงดลบันดาลความสุขสวัสดิ์ให้อุบัติบังเกิดมี เป็นปรากฏในขันธปัญจกแห่งท่านทานิสราบดีทั้งหลาย บรรดามาสโมสรในสถานที่นี้ทุกถ้วนหน้า
อาตมาภาพชี้แจงแสดงมาพอสมควรแก่เวลา สมมติว่ายุติธรรมคาถาด้วยอรรถนิยมความเพียงเท่านี้ เอว? ก็มีด้วยประการฉะนี้ฯ

:b42: :b42: :b42:
:b44: :b44: :b44:
:b48: :b48: :b48:
:b8: :b8: :b8:
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 มี.ค. 2010, 12:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว




.jpg
.jpg [ 52.37 KiB | เปิดดู 2064 ครั้ง ]
8path.gif
8path.gif [ 103.1 KiB | เปิดดู 2063 ครั้ง ]
นัตถิ สันติ ปะรัง สุขัง
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร)
ขนาดไฟล์ 2 MB เวลา 04:57 นาที

http://www.watpaknam.org/teaching/view.php?id=11

ภูมิสมถะ,ภูมิวิปัสสนา

พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร)
ขนาดไฟล์ 26 MB เวลา 27:38 นาที

http://www.watpaknam.org/teaching/view.php?id=10


องคุลิมาล (1)

พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร)
ขนาดไฟล์ 16 MB เวลา 17:25 นาที

http://www.watpaknam.org/teaching/view.php?id=8


องคุลีมาล(2)
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร)
ขนาดไฟล์ 19 MB เวลา 20:39 นาที

http://www.watpaknam.org/teaching/view.php?id=9
:b42: :b42: :b42:
:b44: :b44: :b44:
:b48: :b48: :b48:
:b8: :b8: :b8:


แก้ไขล่าสุดโดย หลับอยุ่ เมื่อ 31 มี.ค. 2010, 12:13, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 มี.ค. 2010, 12:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว




Y4775273-7.jpg
Y4775273-7.jpg [ 13.72 KiB | เปิดดู 2060 ครั้ง ]
"...พูดอย่างนี้ไม่รู้เรื่อง แสดงอย่างนี้ก็ไม่รู้เรื่องเสียด้วย เพราะไม่สนใจ
เพราะทำไม่ถูก มันก็ไม่สนใจด้วย
เพราะใจหยาบ กิเลสมันหนาเกินไป ไม่อยากสนใจ
ไม่อยากให้ถูกพุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะ กลัวกิเลสมันจะหมดเสีย
มันเป็นเสียอย่างนั้น กิเลสคนมันเป็นอย่างนั้น

เพราะเหตุนั้น การที่เข้าถึงพุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะนี่นะไม่ใช่เป็นของง่าย วัดปากน้ำสอนตรงๆ เสนอตรงๆ บอกโต้งๆ ชัดๆ ไม่ได้ปิดไม่ได้บังอย่างหนึ่งอย่างใด ไม่ได้ซ่อนเร้นเลย
เพราะเหตุว่า พระรัตนตรัย พุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะ เป็นของกลาง ไม่ใช่เป็นของใคร
ใครก็มีด้วยกันทุกคน หญิงก็มี ชายก็มี เด็กเล็กมีด้วยกันทั้งนั้น จะเข้าถึงพุทธรัตนะ เป็นอันดับไปนา ตั้งใจฟังให้แน่นอน ตั้งใจให้ถูกนา...."

(หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ)




กัณฑ์ที่ ๓๗
ปกิณกะเทศนา
วันที่ ๑๘ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๔๙๗
.................................................................................



นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ฯ

สกฺกตฺวา พุทฺธรตนํ โอสถํ อุตฺตมํ วรํ
หิตํ เทวมนุสฺสานํ พุทฺธเตเชน โสตฺถินา
นสฺสนฺตุปทฺทวา สพฺเพ ทุกฺขา วูปสเมนฺตุ เต
สกฺกตฺวา ธมฺมรตนํ โอสถํ อุตฺตมํ วรํ
ปริฬาหูปสมนํ ธมฺมเตเชน โสตฺถินา
นสฺสนฺตุปทฺทวา สพฺเพ ภยา วูปสเมนฺตุ เต
สกฺกตฺวา สงฺฆรตนํ โอสถํ อุตฺตมํ วรํ
อาหุเนยฺยํ ปาหุเนยฺยํ สงฺฆเตเชน โสตฺถินา
นสฺสนฺตุปทฺทวา สพฺเพ โรคา วูปสเมนฺตุ เตติ ฯ


แก้ไขล่าสุดโดย หลับอยุ่ เมื่อ 31 มี.ค. 2010, 12:33, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 มี.ค. 2010, 12:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว




Y4775273-7.jpg
Y4775273-7.jpg [ 13.72 KiB | เปิดดู 2058 ครั้ง ]
ณ บัดนี้อาตมภาพจักได้แสดงพระปกิณกะเทศนา เพื่อเป็นปฏิการสนองประคองศรัทธาประดับสติปัญญาคุณสมบัติของท่านผู้พุทธบริษัท ทั้งคฤหัสถ์บรรพชิต บรรดามาสโมสรในสถานที่นี้ทุกถ้วนหน้า

เพราะเราท่านทั้งหลาย ล้วนมีในเคารพในพระพุทธศาสนา มั่นหมายในพระรัตนตรัยมิได้เคลื่อนคลาด เหตุนั้นการที่เคารพในพระพุทธศาสนา มั่นหมายในพระรัตนตรัยนั้น

วันนี้จะแสดงให้กระชั้นมั่นคง สนับสนุนท่านผู้มั่นคงให้แน่นหนักขึ้นไป
เพราะเหตุว่าพระรัตนตรัยนี่แหละเป็นหลักสำคัญ เป็นตัวศาสนาจริงๆ

ถ้าไม่ถูกพระรัตนตรัยแล้ว ก็ไม่ถูกศาสนาเหมือนกัน
ถ้าถูกพระรัตนตรัยแล้ว ก็ถูกศาสนาเท่านั้น

นี้เป็นข้อสำคัญ องค์พระบาลีที่ได้ยืนยันยกขึ้นไว้ในเบื้องต้นนั้นว่า
สกฺกตฺวา พุทฺธรตนํ
กระทำความเคารพพุทธรัตนะ
โอสถํ อุตฺตมํ วรํ
อันเป็นดังโอสถอันอุดมประเสริฐ
หิตํ เทวมนุสฺสานํ
เป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย
พุทฺธเตเชน โสตฺถินา นสฺสนฺตุปทฺทวา
อุปัทวันตรายทั้งหลาย จงหายไปโดยความสวัสดี ด้วยอำนาจพุทธรัตนะ ทุกข์ทั้งสิ้นจงสงบไป ด้วยความสวัสดี ด้วยอำนาจของพระพุทธเจ้า
สกฺกตฺวา ธมฺมรตนํ โอสถํ อุตฺตมํ วรํ
ความเคารพพระสัทธรรมเป็นโอสถอันอุดมประเสริฐ
ปริฬาหูปสมนํ
เป็นเครื่องสงบระงับกระวนกระวายเสียได้
ธมฺมเตเชน โสตฺถินานสฺสนฺตุปทฺทวา สพฺเพ ภยา วูปสเมนฺตุ เต
อุปัทวะทั้งหลายจงหายไป ด้วยความสวัสดี ด้วยอำนาจธรรมรัตนะ ภัยทั้งหลาย ภัยซึ่งเป็นที่ตั้งของความน่ากลัวของท่าน จงสงบไปโดยความสวัสดี ด้วยอำนาจพระธรรมรัตนะ



สกฺกตฺวา สงฺฆรตนํ โอสถํ อุตฺตมํ วรํ
ความเคารพพระสังฆรัตนะเป็นโอสถอันอุดมประเสริฐ
อาหุเนยฺยํ ปาหุเนยฺยํ สงฺฆเตเชน โสตฺถินา
นสฺสนฺตุปทฺทวา สพฺเพ โรคา วูปสเมนฺตุ เต
อุปัทวะทั้งหลายจงหายไป โดยความสวัสดี ด้วยอำนาจพระสังฆรัตนะ โรคทั้งสิ้นจงวิบัติไป จงสงบไป โรคทั้งสิ้นของท่านจงสงบไปด้วยอำนาจของพระสังฆรัตนะ

สามข้อนี้นี่แหละเป็นหลักเป็นประธานสำคัญในพระพุทธศาสนา นี่เนื้อความของพระบาลีคลี่ความเป็นสยามภาษาได้ความเท่านี้

ต่อแต่นี้จะอรรถาธิบายขยายความ เพราะเราท่านทั้งหลายหญิงชาย คฤหัสถ์ บรรพชิตไม่ว่า มาบวชใหม่ๆ เข้ามาเป็นอุบาสกใหม่ๆ เข้ามาเป็นอุบาสิกาใหม่ๆ ในพระพุทธศาสนา หรือเก่าๆ ก็ตาม จงพยายามให้ถูกแนวแผนแบบเดียวกัน

ท่านแนะนำไว้นี่แหละเป็นหลักสำคัญวางไว้เป็นเนติแบบแผน ขึ้นสู่คัมภีร์ในท้ายสวดมนต์ของ ๗ ตำนาน หรือ ๑๒ ตำนาน มีปรากฏอยู่ พระสงฆ์สวดมนต์ทุกเมื่อเชื่อวันก็ว่าได้

ท่านให้ท่องไว้ให้ขึ้นปากชำนาญใจ เป็นบรรทัดฐานที่ตั้งของการปฏิบัติของพระพุทธศาสนา ข้อต้นพุทธศาสนิกชนปฏิบัติพระพุทธศาสนา ท่านแนะนำให้เคารพพุทธรัตนะ เคารพธรรมรัตนะ เคารพสังฆรัตนะ ๓ อย่างนี้เป็นประเด็นของ สกฺกตฺวา ในบทนี้

ในปกิณกะเทศนานี้ เคารพพุทธรัตนะ เคารพธรรมรัตนะ เคารพสังฆรัตนะ นี้เป็นใจความ แล้วท่านแยกออกอีก

เคารพพุทธรัตนะเป็นยาอันอุดมอันประเสริฐ ยาอันอุดมอันประเสริฐทำอะไรให้แก่เรา ทำความสงบโรค ภัย ไข้เจ็บให้หมดได้ ด้วยประการทั้งปวง นี้เป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่เทวดา และมนุษย์ทั้งหลาย นี่ส่วนพุทธรัตนะนี้เป็นข้อสำคัญ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 มี.ค. 2010, 12:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว




Y4775273-7.jpg
Y4775273-7.jpg [ 13.72 KiB | เปิดดู 2056 ครั้ง ]
ก็ส่วนพระธรรมเล่า เมื่อเคารพพระธรรมรัตนะเป็นอย่างไรบ้าง เป็นโอสถอันอุดมประเสริฐดุจเดียวกัน

ปริฬาหูปสมนํเป็นเครื่องสงบระงับความกระวนกระวาย นั่นแน่ความกระวนกระวายนะ เราอยากได้สงบนัก เวลากระวนกระวายขึ้นมาแล้ว ก็ไม่สบายทีเดียว ไม่ว่ากระวนกระวายชนิดอะไร เมื่อถึงพระธรรมแล้ว สงบหมด นี่ดีอย่างนี้ ประเสริฐอย่างนี้ พระธรรมรัตนะ

เคารพพระสงฆ์เล่า เป็นยาอันประเสริฐสุดดุจเดียวกัน แต่ว่า ปริฬาหูปสมนํ อาหุเนยฺยํ ปาหุเนยฺยํ
ควรเพื่อของอันบุคคลนำมาบูชา
ควรเพื่อสิ่งของอันบุคคลจัดไว้ต้อนรับ ของที่เขานำมาบูชานะ ควรแก่พระสังฆรัตนะแท้ๆ

ควรที่เขาจัดของไว้ต้อนรับ ควรแก่พระสังฆรัตนะแท้ๆ ของคำนับล่ะของเช่นไร ของคำนับน่ะเป็นของสำคัญ

เมื่อเขาแต่งงานบ่าวสาวกันใหม่ๆ เจ้าสาวจะไปหาพ่อผัวแม่ผัว จะไปคำนับพ่อผัวแม่ผัว ต้องแต่งของประณีตทุกสิ่งทุกอย่าง ภาชนะก็ประณีตทุกสิ่งทุกอย่าง สุดฝีมือที่จะประณีตได้ เอาไปคำนับพ่อผัวแม่ผัว


นั่นแหละ ควรแก่พระสงฆ์แท้ๆ ถ้าถวายพระสงฆ์ พระสงฆ์รับได้ ควรแก่พระสงฆ์แท้ๆ ทีเดียว

ของคำนับละ ของต้อนรับล่ะ ต้อนรับเมื่อเขาหมั้น เขานัดว่าจะหมั้นกับสาวละ เจ้าสาวก็แสดงสุดฝีมืออีก มีภาชนะชนิดใด มีเงินทอง ข้าวของชนิดใด มีเครื่องประณีตเท่าใด ก็มาแต่งต้อนรับทั้งหมดอีกเหมือนกัน นั่นแหละของที่เขามาจัดมาต้อนรับนะ



ควรแก่พระสงฆ์แท้ๆ ทีเดียว นี่ปรากฏอย่างนี้
แต่ว่าต้องรู้จักเคารพพระพุทธรัตนะ เคารพพระธรรมรัตนะ เคารพพระสังฆรัตนะ จะเคารพกันท่าไหน

นี่เป็นพิธีสำคัญนัก ถ้าเคารพไม่ถูกก็ไม่ได้เรื่อง ปฏิบัติศาสนาไปสัก ๑๐ ปี ๒๐ ปี ๓๐ ปี ก็ไม่ได้เรื่อง ถ้าเคารพพุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะไม่ถูก

ที่เคารพพระพุทธรัตนะ พระธรรมรัตนะ พระสังฆรัตนะไม่ถูกนะ เคารพอย่างไร? ก็ไหว้นบเคารพบูชาอยู่อย่างนี้นะ จะว่าไม่ถูกอย่างไร?

นั่นแหละไหว้นบเคารพก็จริงแหละ แต่ทว่าใจแกจะเชือนไปทางไหนก็ไม่รู้ ใจแกจะจรดไปตรงไหน ก็ไม่รู้
ใจแกจะจรดลงไปถูกพุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะหรือไม่ ก็ไม่รู้ แกจะรู้หรือว่าพุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะอยู่ที่ไหน?

แกจะไปจรดถูกอย่างไร นี้แหละ หมดทั้งพระทั้งเณรเดี๋ยวนี้แหละ จรดถูกไม่กี่คนหรอกหนา

จรดไม่ถูก ก็เคารพไม่ถูก
เมื่อรู้ว่าเคารพพุทธรัตนะ เอาใจสอดลงไปตรงไหนก็ไม่รู้
เคารพธรรมรัตนะ เอาใจสอดลงไปตรงไหนก็ไม่รู้
เคารพสังฆรัตนะเอาใจสอดลงไปตรงไหน ก็ไม่รู้

นี่คอยกำหนดไว้ในใจนะ แล้วจะชี้แจงแสดงว่าต้องสอดตรงนั้นต้องสอดตรงนี้ ทำท่านั้นทำท่านี้ ให้เข้าใจทีเดียว เพราะวันเข้าพรรษาเรามาอยู่ใหม่ เริ่มต้นปฏิบัติจริงจังกันละ จะเอาจริง นี่ในทางพระพุทธศาสนาจริงๆ ไม่ให้ทุกข์เข้ามาแทรกสิง ไม่เอาความเหลวไหลละ ตั้งอกตั้งใจทำกันจริงๆ ทำกันจริง ต้องเคารพพุทธรัตนะ ให้ถูกพุทธรัตนะจริงๆ

เคารพธรรมรัตนะ ให้ถูกธรรมรัตนะจริงๆ เคารพพระสังฆรัตนะให้ถูกสังฆรัตนะจริงๆ

เมื่อถูกจริงเข้าแล้วละก็ ระงับทุกข์ ระงับภัย ระงับโรค จริงๆ นะอุปัทวะทั้งหลายหายไปโดยความสวัสดี ด้วยอำนาจพุทธรัตนะ ทุกข์ทั้งสิ้นย่อมดับ ย่อมสงบไป ถึงความสวัสดี ด้วยอำนาจธรรมรัตนะนั้น


สัพเพ ภยา วูปสเมนฺตุ เต อุปัทวะทั้งหลายย่อมสงบ ย่อมหายไป โดยความสวัสดี ภัยทั้งสิ้นย่อมสงบไป โดยความสวัสดี ด้วยอำนาจธรรมรัตนะ ภัยนี้ใครก็กลัวนัก เมื่อเคารพถูกจริงๆ เข้าละก็ อุปัทวะทั้งหลายย่อมหายไป ถึงความสวัสดีด้วยอำนาจธรรมรัตนะ

ด้วยอำนาจสังฆรัตนะ โรคของท่านทั้งสิ้นย่อมดับไป สงบไป โดยความสวัสดี ด้วยอำนาจสังฆรัตนะ นี่เป็นข้อสำคัญ สงบทุกข์ ระงับทุกข์ ระงับภัย ระงับโรค หายไปหมด ท่านประเสริฐอย่างนี้

นี่เป็นที่ต้องการของเรานักหนาทีเดียว ใครๆ ก็ต้องการ ยิ่งคนแก่คนเฒ่าก็ต้องการนัก ย่อมระงับโรคได้ คนหนุ่มคนสาวต้องการนัก ระงับโรคระงับภัยได้ ทั้งแก่ทั้งเด็ก ทั้งหนุ่มทั้งสาวเขาต้องการนัก เพราะระงับทุกข์ได้ ใครก็ไม่ชอบทุกข์ ชอบแต่สุข

ทุกข์อย่างนี้ ภัยอย่างนี้มันสำคัญนัก โดนใครเข้าละก็ หน้าเบ้เข้าทุกคน หน้าบอกบุญไม่รับ ชักรูปขึ้นมาดูตัวเองก็เกลียดตัวเอง ถ้าไปโดนทุกข์โดนภัยเข้าแล้ว

เหตุนี้จะหมดทุกข์ หมดภัย หมดโรคไปได้ ต้องอาศัยเคารพพุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะจริงๆ

เคารพต่อท่านได้ต้องเอาใจจรดตรงไหนนะ?
เคารพพุทธรัตนะเราจะต้องเอาใจนั้นวางให้ถูกส่วน ภิกษุก็ดี สามเณรก็ดี อุบาสกก็ดี อุบาสิกาก็ดี เคารพพุทธรัตนะต้องเอาใจวางให้ถูกส่วน ไว้กลางดวงธรรมที่ทำให้เป็นพุทธรัตนะ


ถ้าว่าถูกกลางดวงธรรม ที่เป็นเป้าหมายใจดำมีอยู่ตรงนั้น เอาไปตั้งดิ่งอยู่ตรงนั้นแหละ ธรรมกายก็แจ่มใส ใสเป็นกระจกคันฉ่องส่องเงาหน้าสะอาดสะอ้านเป็น สงฺขสุทฺธนี ไม่ราคีเลยทั่วสกลกาย


ในพุทธรัตนะนั้นใจก็หยุดนิ่ง นี่แหละ สกฺกตฺวา พุทธฺรตนํ เป็นอย่างนี้ นี่ สกฺกตฺวา พุทธฺรตนํ
สกฺกตฺวา ธมฺมรตนํ ล่ะ เคารพพระธรรมบ้าง ก็ถูกพระธรรมอยู่แล้ว ที่ไปหยุดนิ่งอยู่กลางดวงธรรม นั่นถูกพระธรรมอยู่แล้ว กลางดวงธรรมทีเดียว พระธรรมที่จะเป็นอยู่ได้ เจริญอยู่ได้ ก็ต้องอาศัยธรรมรัตนะดวงนั้น

ถ้าหยุดอยู่ศูนย์กลางดวงธรรมรัตนะแล้วก็ได้ชื่อว่าเคารพพุทธรัตนะด้วย พระธรรมรัตนะด้วย

สังฆรัตนะเล่า ก็แบบเดียวกัน สังฆรัตนะคือธรรมกายละเอียด อยู่ในกลางดวงธรรมรัตนะนั้น ที่ไปเคารพนิ่งอยู่นั้น ก็ตัวสังฆรัตนะนั่นแหละเป็นตัวไปหยุดนิ่งอยู่นั่น ตัวสังฆรัตนะทีเดียว ธรรมกายละเอียดทีเดียว ธรรมกายละเอียดไปหยุดนิ่งอยู่ทีเดียว นั่นตัวสังฆรัตนะแท้ๆ ที่เดียวกันนั้นเองแหละ เคารพพุทธรัตนะ เคารพธรรมรัตนะ เคารพสังฆรัตนะ

ถ้าว่าเคารพอย่างนี้ ถามดูเถอะพวกมีธรรมกายนั่น เป็นอย่างไรบ้าง ทุกข์สงบไหม? ภัยสงบไหม? โรคสงบไหม?สบายใจเย็นใจอิ่มใจปลาบปลื้ม ใจตื้นใจเต็มทีเดียว แช่มชื่น ตื่นเต้นผ่องใสทีเดียว ให้รู้จักหลักอันนี้นะ

รู้จักอันนี้เสียแล้ว ก็จะแสดงวิธีเคารพพุทธรัตนะ เคารพธรรมรัตนะ เคารพสังฆรัตนะ เป็นลำดับไป


แก้ไขล่าสุดโดย หลับอยุ่ เมื่อ 31 มี.ค. 2010, 12:44, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 มี.ค. 2010, 12:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว




Y4775273-7.jpg
Y4775273-7.jpg [ 13.72 KiB | เปิดดู 2053 ครั้ง ]
สกฺกตฺวา พุทฺธรตนํ กระทำความเคารพพุทธรัตนะ รัตนะเขาแปลว่าแก้ว ไม่ใช่เหลวๆ ไหลๆ ไม่ใช่เป็นของไม่มี เคารพกันเซ่อกันไปอย่างนั้นเมื่อไร ท่านเป็นองค์ทีเดียว เป็นองค์อย่างไร?
เราเป็นหญิงก็ดี เป็นชายก็ดี เป็นคฤหัสถ์บรรพชิตไม่ว่า เราเคยนอนฝันไหมล่ะ? เคย เคยเห็นไอ้กายที่ฝันออกไปนั้นไหมล่ะ? เคยเห็นไอ้กายที่ฝันรูปพรรณสัณฐานเป็นอย่างไร?

เหมือนท่านอย่างนี้แหละ เหมือนตัวท่านอย่างนี้แหละ นุ่งห่มก็เป็นอย่างนี้แหละ แต่พอตื่นขึ้นแล้ว เดี๋ยวนี้กายที่ฝันมันไปอยู่อย่างไร ไม่มีใครรู้กัน พอตื่นขึ้นแล้วไม่รู้ว่ามันไปไหน? หายเข้ามาในกายมนุษย์เสียแล้ว ไม่รู้ว่ากายฝันไปอยู่ที่ไหน

ไม่รู้จริงๆ ไม่รู้แท้ทีเดียว จะให้ตามจริงไม่ถูกว่ามันอยู่ที่ไหน ฝันไปแล้วก็ปรากฏทีเดียว มามีตัวป้อล่ออยู่ ทำเรื่องของฝันเป็นที่เป็นทางของมัน พอมันเลิกฝันแล้ว ตื่นขึ้นแล้วก็เป็นกายมนุษย์เสียแล้ว

กายที่ฝันไปอยู่ที่ไหน? นี่มันลึกลับอย่างนี้เห็นไหมล่ะ นี่มันลึกลับอย่างนี้
ที่จะเอาใจไปจรดถูกพุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะ ไม่ใช่เป็นของง่าย เป็นของยากทีเดียว ถ้าว่าคนไม่สนใจจริงๆ จรดไม่ถูกทีเดียวละ


พูดอย่างนี้ไม่รู้เรื่อง แสดงอย่างนี้ก็ไม่รู้เรื่องเสียด้วย เพราะไม่สนใจ
เพราะทำไม่ถูก มันก็ไม่สนใจด้วย
เพราะใจหยาบ กิเลสมันหนาเกินไป ไม่อยากสนใจ
ไม่อยากให้ถูกพุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะ กลัวกิเลสมันจะหมดเสีย
มันเป็นเสียอย่างนั้น กิเลสคนมันเป็นอย่างนั้น


เพราะเหตุนั้น การที่เข้าถึงพุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะนี่นะไม่ใช่เป็นของง่าย วัดปากน้ำสอนตรงๆ เสนอตรงๆ บอกโต้งๆ ชัดๆ ไม่ได้ปิดไม่ได้บังอย่างหนึ่งอย่างใด ไม่ได้ซ่อนเร้นเลย


เพราะเหตุว่า พระรัตนตรัย พุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะ เป็นของกลาง ไม่ใช่เป็นของใคร

ใครก็มีด้วยกันทุกคน หญิงก็มี ชายก็มี เด็กเล็กมีด้วยกันทั้งนั้น จะเข้าถึงพุทธรัตนะ เป็นอันดับไปนา ตั้งใจฟังให้แน่นอน ตั้งใจให้ถูกนา

ต้องเอาใจหยุดตรงศูนย์กลางดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายมนุษย์ เมื่อเราบริสุทธิ์ดังแสดงแล้ว ตั้งแต่วันวานนี้ บริสุทธิ์กาย วาจา ใจ ไม่มีร่องเสียเลย

เราอยู่ข้างซีกที่บริสุทธิ์ทีเดียว ข้างขวา ข้างซ้ายไม่ไปละ ไปซีกข้างถูก ไม่ไปซีกข้างผิด ซีกข้างบริสุทธิ์สนิททางพระ

ทางมารไม่ไป ชั่วไม่มีเลยเท่าเส้นขนปลายขน
แต่พอเช่นนั้นแล้วก็เอาใจหยุดนิ่งอยู่ศูนย์กลางดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายมนุษย์ กลางดวงของมนุษย์นี่เป็นดวงจริงๆ นะ ใสเท่าฟองไข่แดงของไก่ตั้งอยู่กลางกาย สะดือทะลุหลัง ขวาทะลุซ้าย สะดือทะลุหลังขึงด้ายกลุ่มเส้นหนึ่งตึง ขวาทะลุซ้ายขึงด้ายกลุ่มเส้นหนึ่งตึง เอาให้ตรง ตรงกลางจรดกัน ตรงนั้นเรียกว่ากลางกั๊ก
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 มี.ค. 2010, 12:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว




.jpg
.jpg [ 52.37 KiB | เปิดดู 2051 ครั้ง ]
คำอธิบาย: (กลางกั๊ก คือ ฐานที่6)
8path.gif
8path.gif [ 103.1 KiB | เปิดดู 2050 ครั้ง ]
กลางกั๊กนั่นแหละ ถูกกลางดวงธรรม ที่ทำให้เป็นกายมนุษย์ ใสบริสุทธิ์เท่าฟองไข่แดงของไก่


ใจกายมนุษย์เข้าจรดดังนี้ ใจบริสุทธิ์ดังนี้ ใจจรดอยู่กลางกั๊ก ในกลางดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายมนุษย์นั่นแหละ

ถ้าใจไปจรดตรงกลางถูกเข้าแล้วละก็ ดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายนั้นเด่น ให้เป็นกายมนุษย์นั่นแหละ ถ้าว่าถูกส่วนเข้าแล้ว จะเข้าถึงดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายมนุษย์ละเอียด ๒ เท่าฟองไข่แดงของไก่

หยุดอยู่กลางกลางดวงธรรมที่ทำให้เป็น กายมนุษย์ละเอียด แบบเดียวกัน ถูกส่วนเข้าแล้ว จะเข้าถึงดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายทิพย์ ๓ เท่าฟองไข่แดงของไก่

หยุดอยู่ศูนย์กลางดวงธรรมที่ทำให้เป็น กายทิพย์ นั่นแหละ พอถูกส่วนเข้าแล้ว จะเข้าถึงดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายทิพย์ละเอียด ๔ เท่าฟองไข่แดงของไก่ กลมรอบตัว

หยุดอยู่ศูนย์กลางดวงธรรมที่ทำให้เป็น กายทิพย์ละเอียด นั่นแหละ พอถูกส่วนเข้าแล้ว จะเข้าถึงดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายรูปพรหม ๕ เท่าฟองไข่แดงของไก่

หยุดอยู่ศูนย์กลางดวงธรรมที่ทำให้เป็น กายรูปพรหม นั่นแหละ พอถูกส่วนเข้าแล้ว จะเข้าถึงดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายรูปพรหมละเอียด ๖ เท่าฟองไข่แดงของไก่

หยุดอยู่ศูนย์กลางดวงธรรมที่ทำให้เป็น กายรูปพรหมละเอียด นั่นแหละ พอถูกส่วนเข้าแล้ว จะเข้าถึงดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายอรูปพรหม ๗ เท่าฟองไข่แดงของไก่

หยุดอยู่ศูนย์กลางดวงธรรมที่ทำให้เป็น กายอรูปพรหม นั่นแหละ พอถูกส่วนเข้าแล้ว จะเข้าถึงดวงธรรมที่ทำให้เป็น กายอรูปพรหมละเอียด ๘ เท่าฟองไข่แดงของไก่ เป็นชั้นๆ เข้าไปอย่างนี้
นี่เข้าไปละ เข้าไปเป็นชั้นๆ อย่างนี้ จำเสียให้แน่ทีเดียว เข้าไปอย่างนี้
จิตอย่างนี้เข้าไปถูก
ไปถูกพุทธรัตนะทีเดียว พอเข้าไปถูกส่วนดังนี้แล้ว แน่นอนแล้ว



นิ่งอยู่กลางดวงธรรม ที่ทำให้เป็น กายอรูปพรหมละเอียด นั่นแหละ พอถูกส่วนเข้า เข้าถึง กายธรรม ดวงธรรมที่ทำให้เป็นธรรมกายใหญ่เท่าหน้าตักธรรมกาย วัดผ่าเส้นศูนย์กลางเท่าหน้าตักธรรมกาย กลมรอบตัว

หยุดอยู่กลางดวงธรรมที่ทำให้เป็น ธรรมกาย นั่นแหละ พอถูกส่วนเข้าแล้ว จะเข้าถึงดวงธรรมที่ทำให้เป็น ธรรมกายละเอียด วัดผ่าเส้นศูนย์กลาง ๕ วา กลมรอบตัว

หยุดอยู่กลางดวงดวงธรรมที่ทำให้เป็น ธรรมกายละเอียด นั่นแหละ พอถูกส่วนเข้าแล้ว จะเข้าถึงดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายพระโสดา ๕ วา ผ่าเส้นศูนย์กลาง ๕ วา กลมรอบตัว

หยุดอยู่กลางดวงดวงธรรมที่ทำให้เป็น พระโสดา นั่นแหละ พอถูกส่วนเข้าแล้ว จะเข้าถึงดวงธรรมที่ทำให้เป็นพระโสดาละเอียด วัดผ่าเส้นศูนย์กลาง ๑๐ วา กลมรอบตัว

หยุดอยู่กลางดวงดวงธรรมที่ทำให้เป็น พระโสดาละเอียด นั่นแหละ พอถูกส่วนเข้าแล้ว จะเข้าถึงดวงธรรมที่ทำให้ เป็นกายพระสกทาคา วัดผ่าเส้นศูนย์กลาง ๑๐ วา กลมรอบตัวเท่ากัน

หยุดอยู่กลางดวงดวงธรรมที่ทำให้เป็น พระสกทาคา นั่นแหละ พอถูกส่วนเข้าแล้ว จะเข้าถึงดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายพระสกทาคาละเอียด วัดผ่าเส้นศูนย์กลาง ๑๕ วา กลมรอบตัว

หยุดอยู่กลางดวงดวงธรรมที่ทำให้เป็น กายพระสกทาคาละเอียด นั่นแหละ พอถูกส่วนเข้าแล้ว จะเข้าถึงดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายพระอนาคา วัดผ่าเส้นศูนย์กลาง ๑๕ วา กลมรอบตัว

หยุดอยู่กลางดวงดวงธรรมที่ทำให้เป็น กายพระอนาคา นั่นแหละ พอถูกส่วนเข้าแล้ว จะเข้าถึงดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายพระอนาคาละเอียด วัดผ่าเส้นศูนย์กลาง ๒๐ วา กลมรอบตัว

หยุดอยู่กลางดวงดวงธรรมที่ทำให้เป็น กายพระอนาคาละเอียด นั่นแหละ พอถูกส่วนเข้าแล้ว จะเข้าถึงดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายพระอรหัต วัดผ่าเส้นศูนย์กลาง ๒๐ วา กลมรอบตัว

หยุดอยู่กลางดวงดวงธรรมที่ทำให้เป็น กายพระอรหัต นั่นแหละ พอถูกส่วนเข้าแล้ว จะเข้าถึงดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายพระอรหัตละเอียด วัดผ่าเส้นศูนย์กลาง ๓๐ วา กลมรอบตัว
พระสมณโคดมสั่งสอนแค่นี้


แก้ไขล่าสุดโดย หลับอยุ่ เมื่อ 31 มี.ค. 2010, 14:04, แก้ไขแล้ว 4 ครั้ง.
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 มี.ค. 2010, 13:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว




000000000000000000000000000000000000000000000000000000.bmp
000000000000000000000000000000000000000000000000000000.bmp [ 466.22 KiB | เปิดดู 2047 ครั้ง ]
.jpg
.jpg [ 52.37 KiB | เปิดดู 2045 ครั้ง ]
097.gif
097.gif [ 38.01 KiB | เปิดดู 2044 ครั้ง ]
ถ้าแค่นี้ละก็ ต่อแต่นั้นก็เรียนชั้นสูงต่อไป ถ้าว่าสอนแค่นี้แล้วเป็นปล่อยตัวได้ พึ่งตัวได้แล้ว นี่วัดปากน้ำสอนแค่นี้เหมือนกัน

แต่ยังเหาะเหินเดินอากาศไม่ได้ มารมันยังขวางอยู่ หลักสำคัญแค่นี้
เมื่อรู้จักหลักนี้แล้วละก็ นี่แหละ เข้าถึงธรรมกายแล้วเรียกว่า เคารพพระรัตนตรัยนะ เป็นลำดับเข้าไปอย่างนี้นะ ทีนี้รู้จักหลักละ ดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายมนุษย์


กลางดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายมนุษย์ เป็นดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายมนุษย์ละเอียด
กลางดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายมนุษย์ละเอียด เป็นดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายทิพย์
กลางดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายทิพย์ เป็นดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายทิพย์ละเอียด
กลางดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายทิพย์ละเอียด ก็มีดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายรูปพรหม
กลางดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายรูปพรหม มีดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายรูปพรหมละเอียด
กลางดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายรูปพรหมละเอียด มีดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายอรูปพรหม
กลางดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายอรูปพรหม มีกายอรูปพรหมละเอียด
กลางดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายอรูปพรหมละเอียด นี่ ๘ ดวงแล้ว
พอถึง ๘ ดวง ก็กลางดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายอรูปพรหมละเอียด ก็มีดวงธรรมที่ทำให้เป็นธรรมกาย เท่าหน้าตักธรรมกาย
กลางดวงธรรมที่ทำให้เป็นธรรมกาย ก็ดวงธรรมที่ทำให้เป็นธรรมกายละเอียด วัดผ่าเส้นศูนย์กลาง ๕ วา กลมรอบตัว จนกระทั่งถึง ๓๐ วา
นี่ขึ้นไปอย่างนี้

นี่หลักสำคัญ จะเคารพพุทธรัตนะนั้น ต้องให้ถูกหลักดังนี้ เริ่มต้นทีเดียวยังไม่ถูกพุทธรัตนะ จะถูกพุทธรัตนะไม่ได้ ต้องเลย ๘ ดวงขึ้นไปก่อนจึงจะถูกพุทธรัตนะ


แก้ไขล่าสุดโดย หลับอยุ่ เมื่อ 31 มี.ค. 2010, 13:03, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 มี.ค. 2010, 13:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว




.jpg
.jpg [ 52.37 KiB | เปิดดู 2042 ครั้ง ]
8path.gif
8path.gif [ 103.1 KiB | เปิดดู 2041 ครั้ง ]
เริ่มต้นทีเดียวต้องเข้าไปดังนี้ ทำใจหยุด นั่ง นอน เดิน ยืน ขี้ เยี่ยว ไม่รู้ ให้หยุด บังคับให้หยุด

ขี้ก็ช่าง เยี่ยวก็ช่าง
นั่งก็ช่าง นอนก็ช่าง
เดินก็ช่าง เวลาตื่นแล้วก็ตั้งกันเป๋งเชียวละ
ถ้าไม่หยุด ไม่ยอมกัน นี่อย่างนี้

อย่างนี้เรียกว่าปฏิบัติศาสนาจริงกันละ ไม่ท้อแท้ ไม่ป้อแป้กันละ แข็งแกร่งทีเดียว

นี้แหละ ตั้งไปหยุดไป จนกระทั่งถึง ๘ กาย แบบเดียวกันหมด ไม่ได้มีทางอื่น เคี้ยวคดไปอย่างหนึ่งอย่างใดเลย



นี่เป็นตัวจริงอย่างนี้ หยุดกลางของหยุดๆๆๆ
ถ้าว่าไม่หยุดเลย ไม่ถูกศาสนาสักนิดหนึ่ง

ถ้าว่าหยุดเวลาไร ถูกศาสนาเวลานั้น
ถ้าว่าหยุดเวลาไร ถูกพุทธรัตนะเวลานั้น
ถ้าว่าหยุดเวลาไร ถูกธรรมรัตนะเวลานั้น
ถ้าว่าหยุดเวลาไร ถูกสังฆรัตนะเวลานั้น


ถ้าว่าไม่หยุดแล้ว ก็ไม่ถูกพุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะอย่างแน่ทีเดียว ไม่ต้องสงสัย
อย่าไปโทษใครเลย โทษตัวเอง โทษใครก็ไม่ได้ โทษตัวของตัวเอง
คนอื่นเขาหยุดได้ ตัวหยุดไม่ได้ ก็โทษตัวเอง โทษคนอื่นไม่ได้ จะไปเวรให้ใครก็ไม่ได้ ต้องว่าตัวเอง โทษตัวเองทีเดียว


แก้ไขล่าสุดโดย หลับอยุ่ เมื่อ 31 มี.ค. 2010, 13:09, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 มี.ค. 2010, 13:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว




.jpg
.jpg [ 52.37 KiB | เปิดดู 2039 ครั้ง ]
crystal_blue.jpg
crystal_blue.jpg [ 10.87 KiB | เปิดดู 2038 ครั้ง ]
stop.jpg
stop.jpg [ 9.38 KiB | เปิดดู 2037 ครั้ง ]
ภิกษุ สามเณรบางรูปอยากได้ธรรมเต็มที อุตส่าห์พยายามทำใจให้หยุดนิ่ง หยุดหนักเข้า
บางทีมันไม่หยุด ทำไปเท่าไรๆ ก็ไม่หยุด บ่นแต่ไม่หยุดนั่นแหละ จนกระทั่งทำไม่เป็นเสียเลย
บางท่านทำประเดี๋ยวเดียวเป็นเสียแล้ว เป็นเรื่องไปทีเดียว

อย่างกับผู้ที่เทศน์นี้ เคยเป็นอุปัชฌาย์บวชให้เขา สามเณรบางรูป ภิกษุบางรูป พอปรารภบวช พอปรารภผม ก็เป็นทีเดียว เอาผมมาพิจารณาทีเดียว ทำใจให้หยุด ผมเป็นนิมิตสมาธิทีเดียว

พอบอกให้เท่านั้นแหละ แกเห็นทีเดียว เห็นผมทีเดียว


เห็นผมแล้วก็ อ้าวผมน่ะมันเป็นอย่างไร รูปพรรณสัณฐานเป็นอย่างไร ประมาณบอกถูกละ โคนไปทางไหน ปลายทางไหน สีสันวรรณะเป็นอย่างไร

บอกถูกละ นิ่งเข้ากลางผมนั่นแหละ ประเดี๋ยวเดียวผมแปลงสี ประเดี๋ยวเดียวเป็นดวงใสเท่าดวงจันทร์ดวงอาทิตย์ ประเดี๋ยวเดียวพอบอกขาดคำเป็นแล้ว ท่านองค์นั้นเป็นแล้ว อ้าวเป็นอยู่ดวง อยู่กลางดวงนั่น

พอหยุดก็ให้อยู่กลางดวงนั่น กลางดวงใสเท่าดวงจันทร์ดวงอาทิตย์นั่น
กลางดวงนั่นแหละ มีรอยอยู่นิดหนึ่งเท่าปลายเข็ม ปลายจรดนั่นแหละที่ตั้งของใจ

ถ้าดำอยู่ละก็ มารตั้งเสียแล้ว
ถ้าว่าบริสุทธิ์แล้วละก็ เป็นของพระแท้ๆ
ถ้าดำอยู่แล้วละก็ มารมันตั้งเสียแล้ว มารมายึดเป็นเจ้าของเสียแล้ว
ถ้าว่าใสสะอาดแล้วก็ นั่นเป็นของพระแท้ๆ


ใจต้องนิ่งอยู่ที่เดียว ที่รอยหยุดของกลางดวงเท่าดวงจันทร์ดวงอาทิตย์ รอยใสนั่นเป็นกลางหยุด หยุดอยู่กลางนั่น หยุด
พอหยุดถูกส่วนเข้าเท่านั้น หยุด อ้ายลักษณะที่หยุดน่ะ ซ้าย ขวา หน้า หลัง ล่าง บน นอก ใน ไม่ไปละ

หยุดที่กลางนั่น กลางของกลาง ซ้าย ขวา หน้า หลัง ล่าง บน นอก ใน ไม่ไป
กลางของกลาง กลางของกลาง กลางของกลาง ถูกส่วนเข้าเห็นดวงศีลทีเดียว เท่าดวงจันทร์ดวงอาทิตย์ เหมือนกัน

หยุดในกลางดวงศีล ก็มีรอยหยุดอีกเหมือนกัน หยุดอยู่ที่เดียว หยุดในหยุด กลางของกลาง กลางของกลาง กลางของกลาง
พอหยุดก็เข้ากลางใจที่หยุดเชียว กลางของกลาง กลางของกลาง กลางของกลาง พอถูกส่วนเข้าก็เห็นดวงสมาธิทีเดียว
หยุดอยู่กลางดวงสมาธิ
พอใจหยุดก็เข้ากลางของใจที่หยุดเชียว กลางของกลาง กลางของกลาง กลางของกลาง ซ้าย ขวา หน้า หลัง ล่าง บน นอก ใน ไม่ไป กลางของกลาง กลางของกลาง กลางของกลาง ถูกส่วนเข้า ก็เข้าถึง ดวงปัญญา
หยุดอยู่ศูนย์กลางของดวงปัญญา เข้ากลางของใจที่หยุดนั่น กลางของกลาง กลางของกลาง กลางของกลาง

ถ้าปฏิบัติไม่ถูกหลัก แล้วนานเชียวกว่าจะได้ ถ้ารู้จักหลักแล้วประเดี๋ยวเดียว พอถูกส่วนเข้าเท่านั้นเห็นดวงปัญญา หยุดอยู่กลางดวงปัญญาที่รอยหยุด พอใจหยุด ก็กลางของกลาง กลางของกลาง กลางของกลาง พอถูกส่วนเข้าก็เห็น ดวงวิมุตติ
หยุดอยู่กลางดวงวิมุตติ รอยที่หยุดมีอีกทีเดียว แบบเดียวกัน พอใจหยุด ก็กลางของใจที่หยุด กลางของกลาง กลางของกลาง กลางของกลาง พอถูกส่วนเข้าเห็น ดวงวิมุตติญาณทัสสนะ อีกทีเดียว
หยุดอยู่กลางดวงวิมุตติญาณทัสสนะอีก พอใจหยุดก็เข้ากลางของใจที่หยุด กลางของกลาง กลางของกลาง กลางของกลาง
พอถูกส่วนเข้าก็เห็นกายฝันแล้วนั่น กายฝันนี่เองอยู่ในกลางดวงวิมุตติญาณทัสสนะ อยู่นี่เอง




แก้ไขล่าสุดโดย หลับอยุ่ เมื่อ 31 มี.ค. 2010, 13:22, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 มี.ค. 2010, 13:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว




.jpg
.jpg [ 52.37 KiB | เปิดดู 2035 ครั้ง ]
8path.gif
8path.gif [ 103.1 KiB | เปิดดู 2034 ครั้ง ]
เมื่อก่อนข้าไม่รู้จัก เมื่อข้าฝันแล้วก็หายไป ข้าไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน? เจ้าอยู่กลางดวงวิมุตติญาณทัสสนะ นี่เอง พอเข้าถูกส่วนเข้าแล้ว เป็นเรื่องไป ไปอย่างนี้แหละ


คราวนี้พอใจกายมนุษย์ละเอียดหยุดนิ่งอยู่ศูนย์กลางดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายมนุษย์ละเอียด เท่าดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์แบบเดียวกัน เห็นดวง ธัมมานุปัสสนาสติปัฏฐาน ดวงศีล สมาธิ ปัญญา วิมุตติ วิมุตติญาณทัสสนะ

พอถึงดวงวิมุตติญาณทัสสนะก็เห็น กายทิพย์ หยุดอยู่กลางกายทิพย์อีกแบบเดียวกันอีก หยุดอยู่กลางกายทิพย์ เข้ากลางของหยุดหนักเข้าไป พอถูกส่วนเข้าเห็นดวงธัมมานุปัสสนาสติปัฏฐาน พอถูกส่วนเข้าก็เข้าถึงดวงตลอดขึ้นไปถึงดวงวิมุตติญาณทัสสนะ เห็น กายทิพย์ละเอียด


หยุดอยู่กลางกายทิพย์ละเอียดอีกแบบเดียวกัน พอถูกส่วนเข้าเห็นดวง ๕ - ๖ ดวงนั่น ถึงดวงวิมุตติญาณทัสสนะ ก็เห็น กายรูปพรหม

หยุดอยู่กลางกายรูปพรหมอีก พอถูกส่วนเข้าเห็นดวงทั้ง ๖ นั้นอีก ถึงดวงวิมุตติญาณทัสสนะ เห็น กายรูปพรหมละเอียด

หยุดอยู่กลางดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายรูปพรหมละเอียดอีก พอถูกส่วนเข้าแบบเดียวกันเข้าถึง ๖ ดวง ถึงดวงวิมุตติญาณทัสสนะ เห็น กายอรูปพรหม

หยุดอยู่กลางดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายอรูปพรหม พอถูกส่วนเข้าเห็นดวงทั้ง ๖ ดวง ถึงดวงวิมุตติญาณทัสสนะ เห็น กายอรูปพรหมละเอียด

หยุดอยู่กลางดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายอรูปพรหมละเอียดอีก พอถูกส่วนเข้าเห็นดวงทั้ง ๖ อีก หยุดอยู่กลางดวงวิมุตติญาณทัสสนะ
เห็น กายธรรม รูปเหมือนพระปฏิมากร เกตุดอกบัวตูม ใส เป็นกระจกคันฉ่องส่องเงาหน้า

ดวงธรรมที่ทำให้เป็นธรรมกาย วัดผ่าเส้นศูนย์กลางเท่าหน้าตักธรรมกาย กลมรอบตัว ในกลางดวงธรรมที่ทำให้เป็นธรรมกายนั่น มีธรรมกายละเอียดหน้าตัก ๕ วา สูง ๕ วา เกตุดอกบัวตูม


แค่นี้แหละ ถูกละพุทธรัตนะ นั่นแหละเข้าถูกเรียกว่า เคารพพุทธรัตนะถูกเข้าแล้ว ถูกพุทธรัตนะทีเดียว


เคารพธรรมรัตนะถูกเข้าแล้ว เห็นดวงธรรมรัตนะทีเดียว
เคารพสังฆรัตนะถูกเข้าแล้ว เห็นธรรมกายละเอียดทีเดียว
นี่ในบท
สกฺกตฺวา ประสงค์แค่นี้ ประสงค์แค่นี้นี่ตัวจริงเป็นอย่างนี้
เมื่อรู้จักตัวจริงอย่างนี้แล้ว เคารพให้ถูกอย่างนี้นะ ถ้าเคารพถูกอย่างนี้แล้ว บาลีบอกอานิสงส์ทีเดียว


แก้ไขล่าสุดโดย หลับอยุ่ เมื่อ 31 มี.ค. 2010, 13:25, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 มี.ค. 2010, 13:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว




000000000000000000000000000000000000000000000000000000.bmp
000000000000000000000000000000000000000000000000000000.bmp [ 466.22 KiB | เปิดดู 2100 ครั้ง ]
.jpg
.jpg [ 52.37 KiB | เปิดดู 2098 ครั้ง ]
fa2.jpg
fa2.jpg [ 15.96 KiB | เปิดดู 2097 ครั้ง ]
Y5330282-4.jpg
Y5330282-4.jpg [ 27.08 KiB | เปิดดู 2097 ครั้ง ]
meditation_05.jpg
meditation_05.jpg [ 55.13 KiB | เปิดดู 2095 ครั้ง ]
สกฺกตฺวา พุทฺธรตนํ โอสถํ อุตฺตมํ วรํ
ใครเข้าไปถึงละก็ ดังโอสถอันอุดมประเสริฐทีเดียว ดังโอสถอันอุดมประเสริฐทีเดียว ลวกไข้ที่กำลังดิ้นขวักไขว่ๆ พอถูกเข้าเท่านั้นหลับเรียบสบายใจ เย็นฉ่ำ โรคภัย ไข้เจ็บหายหมด นั่นระงับเสียอย่างนั้น

พอถึงพุทธรัตนะเท่านั้นแหละ ความร้อนด้วย ราคะ โทสะ โมหะ ด้วยทุกข์ ด้วยภัย ด้วยโรคต่างๆ หายเป็นปลิดทิ้งหมด หายอย่างนั้น หายอย่างไร โรคหายอย่างนั้นจริงๆ จังๆ อย่างนี้ ท่านจึงได้วางตำราไว้

โอสถํ อุตฺตมํ วรํ หิตํ เทวมนุสฺสานํ
เป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย มนุษย์เข้าถึงแล้วต้องเป็นแบบเดียวกัน เทวดาเข้าถึงแล้วก็เป็นแบบเดียวกัน พุทธรัตนะนี่แบบเดียวกันหมด รสชาติแบบเดียวกันหมด ปรากฏอย่างนี้
นี่เขาจึงเรียกว่า เป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย

พุทฺธเตเชน โสตฺถินา นสฺสนฺตุปทฺทวา สพฺเพ ทุกฺขา วูปสเมนฺตุ เต
อุปัทวะทั้งหลายหายไปโดยความสวัสดี ด้วยอำนาจพุทธรัตนะ ทุกข์ทั้งสิ้นของท่านย่อมสงบไป ด้วยอำนาจพุทธรัตนะ สงบจริงๆ อย่างนี้ นี่อานิสงส์เคารพพุทธรัตนะ
เคารพพระธรรมก็ได้ ถ้าถึงพระธรรมก็แบบเดียวกัน คล้ายกัน

สกฺกตฺวา ธมฺมรตนํ เคารพพระสัทธรรม เคารพพระธรรมรัตนะ
ปริฬาหูปสมนํพอถึงธรรมรัตนะเข้าเท่านั้นแหละ ความเร่าร้อนสงบ ความเร่าร้อนสิ้น เร่าร้อนด้วยเพลิงราคะ โทสะ โมหะ ดับหมดไม่เหลือเลย ทุกข์อันหนึ่งอันใดหายหมด เข้าถึงธรรมรัตนะเสียแล้ว ความเร่าร้อนไม่มีเลย เย็นฉ่ำหมดทั่วทั้งร่างกายสบายทีเดียว นี่อานิสงส์บอกไว้ว่าเป็นอย่างนี้ เมื่อถึงเข้าแล้วเป็นอย่างนี้ทีเดียว

ปริฬาหูปสมนํ ธมฺมเตเชน โสตฺถินา นสฺสนฺตุปทฺทวา
อุปัทวะทั้งหลายย่อมหายไปโดยความสวัสดี ด้วยเดชของพระธรรม ภัยทั้งสิ้นของท่านย่อมสงบไปโดยความสวัสดี ด้วยเดชของพระธรรม มาถึงพระธรรมเข้าแล้ว จริงๆ อย่างนี้
ถามดูได้สอบดูได้ พวกที่ได้ธรรมกาย ผู้ที่ถึงนะไม่ต้องไปถามใครละ ใครได้ ใครถึง ถามได้ทีเดียว

เดี๋ยวนี้ในวัดปากน้ำมีธรรมกาย ๑๕๐ กว่าคน เป็นผู้เข้าถึงพุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะแล้ว

ส่วนสังฆรัตนะเล่าเมื่อเข้าถึงแล้ว เข้าถึงสังฆรัตนะ
อาหุเนยฺยํ ปาหุเนยฺยํ เข้าถึงสังฆรัตนะแล้วก็แช่มช้อยทีเดียว
ควรเพื่อของนำมาต้อนรับ ของนำมาถวาย
ควรเพื่อของที่เขาจัดไว้ต้อนรับ ควรทั้ง ๒ ประการ นำมาถวายก็ควร ต้อนรับก็ควร ควรทั้ง ๒ นัย
อาหุเนยฺยํ ปาหุเนยฺยํ สงฺฆเตเชน โสตฺถินา
นสฺสนฺตุปทฺทวา สพฺเพ โรคา วูปสเมนฺตุ เต

อุปัทวะทั้งหลายย่อมหายไปด้วยอำนาจสังฆรัตนะ โรคทั้งสิ้นของท่านย่อมสงบไปโดยความสวัสดี ด้วยอำนาจของพระสงฆ์

มีอานิสงส์บอกไว้ ด้วยอำนาจพุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะ เป็นดังนี้ ไม่ต้องสงสัยละ ไม่ต้องสงสัยทีเดียว เมื่อรู้จักหลักอันนี้เป็นหลักจริงของพุทธศาสนา พุทธศาสนาท่านบอกตรงๆ ไว้อย่างนี้

บัดนี้ วัดปากน้ำสืบเอามาใช้แล้ว เป็นธรรมกาย ๑๕๐ กว่ารสชาติเขารู้กันแล้ว
เขาพูดกันได้เป็นเสียงเดียวกัน รสชาติเป็นเสียงเดียวกัน
ให้ทำเป็นอย่างนี้นะ ถ้าทำเป็นอย่างเขาแล้วละก็ ก็เข้าถึงพุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะ

ถูกส่วนเข้าดังนี้ละก็

พระพุทธเจ้าอยู่ที่ไหนก็พูดได้นะ อยู่นิพพานก็ไปได้ พระพุทธเจ้าอยู่ที่ไหนไปได้หมด หรือจะอาราธนามาที่นี่ก็ได้ เดี๋ยวนี้ก็ได้ทีเดียว
นี่เป็นหลักจริง เป็นหลักจริงอย่าทอดทิ้ง ให้เอาใจใส่ทุกถ้วนหน้า


แก้ไขล่าสุดโดย หลับอยุ่ เมื่อ 31 มี.ค. 2010, 13:43, แก้ไขแล้ว 5 ครั้ง.
แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กระทู้นี้ถูกล็อก คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความ หรือ ตอบกลับในกระทู้นี้  [ 38 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร