วันเวลาปัจจุบัน 05 พ.ค. 2025, 21:39  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 44 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 มี.ค. 2010, 12:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เจ้าของกระทู้ ตั้งหัวข้อว่า"อยากรู้สมาธิดีแค่ไหนทดสอบได้กับแดดและยุง"

เจ้าของกะทู้
สมาธิ เป็นคุณภาพของจิต
ความอดกลั้น เป็นอุบาย หรือบริบทในการละอาสวะ

การสมาทานธุดงค์ ก็เป็นการฝีกตน เป็นวัตร
แต่ไม่ใช่การแสดงถึง คุณภาพของจิต

พระอรหันต์ ก็รู้สีกร้อน หนาว หิว กระหาย แต่ปราศจากอาสวะครับ

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 มี.ค. 2010, 19:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 มี.ค. 2010, 03:38
โพสต์: 29

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ทำสมาธิ ต้องทดสอบด้วยหรือคะ

ทำไม.....

และ เพื่ออะไร......

:b10: :b23: :b10:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 มี.ค. 2010, 23:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 เม.ย. 2009, 22:00
โพสต์: 407

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ทำสมาธิ ต้องทดสอบด้วยหรือคะ
ทำไม.....
และ เพื่ออะไร......


ไม่รู้เหมือนกันคับว่าต้องทดสอบด้วยหรือไม่ ผมทำเพื่อจะทดสอบสภาวะสุขจากเมตตาภาวนาที่เกิดจากการภาวนาในที่สัปปายะนั้น หากไปทำในสถานที่อื่นจะยังคงสภาวะสุขนี้ได้หรือไม่
ผมมักใช้สมาธิช่วยบรรณเทาเวทนา ในคราวที่ปวดศรีษระ(โรคประจำตัว) หรือ เป็นไข้ ปวดแขน ปวดขา ปวดหลัง ฯ ได้รับความทุกข์ทรมานทางกาย หรือหิวกระหาย ก็ไม่รู้ว่าเป็นธรรมโอสธอย่างที่เขาเรียกกันหรือเปล่า เพราะทำให้การเจ็บไข้ได้ป่วยหายเร็วขึ้น เพียงแต่อยากจะบอกให้ท่านทั้งหลายได้รู้ถึงประโยชน์ของสมาธิ หากเราเพียรเจริญบ่อยๆ แล้วมันก็จะสามารถช่วยได้ในยามลำบากครับ
แต่ถ้าวิธีดังที่เสนอมานี้ผิดแผกไปจากแนวทางพุทธศาสนาผมก็ต้องขออภัยท่านทั้งหลายด้วยครับ

ไหนๆ ผมก็ตอบท่านแล้ว ถ้ามีทุกขเวทนาทางกายอย่างรุนแรงเกิดขึ้น ท่านคาร์เนชั่น จะมีวิธีทำอย่างไรดีคับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 มี.ค. 2010, 20:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 พ.ย. 2008, 12:29
โพสต์: 814

ที่อยู่: กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


คือที่เขาถามๆกัน เขาสงสัยว่าสมาธิจะดีได้ ไม่เหนจะต้องทดสอบกับแดดและยุง หมายถึง ไม่ต้องมี
แดดกับยุง ก้สามารถสร้างสมาธิให้ดีขึ้นได้ ไม่เหนจำเป็นต้องมาทนแดดร้อน ทนรำคาญกับยุงกัดเลย
ไม่เหนจะมีไรดีขึ้น ผมคิดว่าเขาคงจะเข้าใจกันอย่างนั้น

แต่ผมจะบอกอะไรไว้อย่างว่า ความอดทนในขณะที่ฝึกสมาธิมีความจำเป็นมาก คนที่สมาธิตั้งมั่นอยู่ได้
และทำได้ต่อเนื่อง ล้วนแต่อาศัยความอดทนที่เกิดจากการปฏิบัติ หรือจะเรียกว่าได้บททดสอบก็ได้
เพราะคนส่วนใหญ่จะไม่ค่อยอยากลำบาก โดยเฉพาะมาทนนั่งสมาธิให้ได้ จริงๆแล้วการทนต่อลมแดด
หรือทนยุงกัด เป็นแบบทดสอบของทุกขเวทนาทางกาย จะเลือกทำหรือไม่ทำก้ได้ เพียงแต่ถึงจะหนีแดดกับยุง มาได้เมื่อมานั่งก็ต้องเจอกับทุกขเวทนาอันเนื่องจากนั่งนานๆอยู่ดี และเวทนาที่ต้องเจอเมื่อมีโรคร้ายรุมเร้า หรือช่วงจิตก่อนจะตาย ก้ล้วนต้องมีสติและใช้ความอดทนเพื่อควบคุมจิตเช่นกัน

เพราะเมื่อหากผ่านบททดสอบไปได้สมาธิย่อมก้าวหน้าขึ้นตามลำดับ ความเจ็บปวดจากยุงกัด เมื่อเทียบกับเวทนาตอนนั่ง ห่างกันมาก ความปวดที่เกิดจากตอนนั่งหากเทียบความเจ็บปวดก่อนตายยิ่งคนละเรื่องเลย ดังนั้นบททดสอบเรื่องแดดและยุงที่ทำพอประมาณไม่ได้ทำมากเพื่อทดสอบว่าสมาธิผู้ปฏิบัติดีหรือไม่ หรือทนได้มากน้อยแค่ไหน ที่คุณอายะพยายามจะสื่อ จึงถือเป็นเรื่องที่สัมพันธ์กัน

สมาธิจะดีได้ต้องผ่านความยากลำบากขณะนั่งก่อน ผ่านได้ สมาธิก้จะมั่นคง ก้เป็นเรื่องยากเหมือนกัน
หากจะอธิบายให้เข้าใจ ก้อาจจะเข้าใจว่านั่งเฉยๆสมาธิก้คงจะดีขึ้นตามลำดับแต่เป็นไปได้น้อยมาก


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มี.ค. 2010, 00:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 เม.ย. 2009, 22:00
โพสต์: 407

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อนิจจัง ทุกข์ขัง อนันตา

นักปฏิบัติส่วนมากเมื่อเจอทุกข์ขัง ไม่ว่าโดยเจตนาหรือไม่ ก็เข้าเีกียร์ R กันซะมาก แล้วก็เชี่ยวเสาะหาว่ามันจะมีวิธีปฏิบัติแบบไหนหนอที่ไม่ต้องเจอกับทุกข์ขัง ซึ่งเผอิญสมัยนี้มีบางสำนักที่เปิดสอนวิธีแบบชิวๆ ก็ติดอกติดใจกันใหญ่
โดยแท้จริงแล้วการที่การปฏิบัติที่ถูกต้องนั้นอย่างไรก็จะต้องเจอกับทุกข์ขัง แน่นอนเพียงแต่ว่าบางท่านอาจเจอน้อยหรือมากต่างกันเท่านั้นเอง เวทนาทางกาย เวทนาทางจิต อันไหนมันจะทรมานกว่ากันหนอ ถ้าอยากรู้น่าลองดูนะครับ ไม่ต้องตากแดด ตากยุงก็ได้ นั่งในห้องแอร์เนี่ยแหละแต่ขอซัก 2- 3 ชม ต่อเนื่องอย่าขยับ ลองดูแล้วจะรุ้เอง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มี.ค. 2010, 01:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3832

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


อายะ เขียน:
อนิจจัง ทุกข์ขัง อนันตา

นักปฏิบัติส่วนมากเมื่อเจอทุกข์ขัง ไม่ว่าโดยเจตนาหรือไม่ ก็เข้าเีกียร์ R กันซะมาก แล้วก็เชี่ยวเสาะหาว่ามันจะมีวิธีปฏิบัติแบบไหนหนอที่ไม่ต้องเจอกับทุกข์ขัง ซึ่งเผอิญสมัยนี้มีบางสำนักที่เปิดสอนวิธีแบบชิวๆ ก็ติดอกติดใจกันใหญ่
โดยแท้จริงแล้วการที่การปฏิบัติที่ถูกต้องนั้นอย่างไรก็จะต้องเจอกับทุกข์ขัง แน่นอนเพียงแต่ว่าบางท่านอาจเจอน้อยหรือมากต่างกันเท่านั้นเอง เวทนาทางกาย เวทนาทางจิต อันไหนมันจะทรมานกว่ากันหนอ ถ้าอยากรู้น่าลองดูนะครับ ไม่ต้องตากแดด ตากยุงก็ได้ นั่งในห้องแอร์เนี่ยแหละแต่ขอซัก 2- 3 ชม ต่อเนื่องอย่าขยับ ลองดูแล้วจะรุ้เอง


ทุกข์ที่คุณพูดมา มันมีสองทุกข์นะ

ทุกข์แรกคือทุกขเวทนา

อีกทุกข์คือทุกข์ที่เป็นทุกขังอริยสัจ เป้นสภาพที่ไม่ทนอยู่อย่างเดิม

อย่างก้อนหินที่มันตั้ง
นี่มันไม่เจ็บไม่ปวด ยุงกัดไม่รู้สึก มันไม่ทุกข์
ไม่มีทุกข์เวทนา
แต่มันมีทุกข์ ที่อยู่ในอริยสัจ
คือวันหนึ่งต้องสลาย ไม่ทนคงเดิมอยู่

ผมอาจจะอธิบายเรื่อพวกนี้ได้ไม่ค่อยดีนัก
แต่ให้จับประเด้นหลักว่าคุณเข้าใจคำว่าทุกข์สองอย่างผสมกันอยู่
ลองไปหาดูความแตกต่างเอา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มี.ค. 2010, 21:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 เม.ย. 2009, 22:00
โพสต์: 407

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ชาติสยาม เขียน:
ทุกข์ที่คุณพูดมา มันมีสองทุกข์นะ
ทุกข์แรกคือทุกขเวทนา
อีกทุกข์คือทุกข์ที่เป็นทุกขังอริยสัจ เป้นสภาพที่ไม่ทนอยู่อย่างเดิม
อย่างก้อนหินที่มันตั้ง
นี่มันไม่เจ็บไม่ปวด ยุงกัดไม่รู้สึก มันไม่ทุกข์
ไม่มีทุกข์เวทนา
แต่มันมีทุกข์ ที่อยู่ในอริยสัจ
คือวันหนึ่งต้องสลาย ไม่ทนคงเดิมอยู่
ผมอาจจะอธิบายเรื่อพวกนี้ได้ไม่ค่อยดีนัก
แต่ให้จับประเด้นหลักว่าคุณเข้าใจคำว่าทุกข์สองอย่างผสมกันอยู่
ลองไปหาดูความแตกต่างเอา


ก็ต้องขออภัยท่านชาติด้วย ที่ผมไม่เชี่ยวชาญอภิธรรม เพียงแต่เล่าประสบการณ์การเจอเวทนาก็เพียงเท่านั้น โดยส่วนตัวผมขณะที่นั่งกำหนดไปแล้วเวทนามันเกิดก็ไม่ได้สนใจหรอกว่ามันมีทุกข์กี่ประเภทรู้เพียงแต่ว่าเวทนาทางกายนี้มันรุนแรง หนักแน่น เจ็บปวด สุดบรรยาย สิ่งที่ทำได้ก็เพียงกำหนดสติตามอาการเวทนานั้นไป หรือทำสมาธิให้ความรู้สึกทางกายมันน้อยลงก็เท่านั้นละครับ ก็อยากจะบอกเพิ่มเติมว่าผมเป็นโรคไมเกรน ผมก็ใช้สมาธิ บวกกับการเจริญสตินี่แหละ ต่อสู้กับมัน หรือแม้กระทั่งบางช่วงที่เป็นไข้ ปวดขา ปวดเข่า ฯ สมาธินี้ช่วยได้จริง ลองได้ด้วยตัวท่านเองครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มี.ค. 2010, 23:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.ค. 2006, 06:25
โพสต์: 2058


 ข้อมูลส่วนตัว


จาก พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์

พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)

อ้างคำพูด:
ทุกข์
1. สภาพที่ทนอยู่ได้ยาก, สภาพที่คงทนอยู่ไม่ได้ เพราะถูกบีบคั้นด้วยความเกิดขึ้นและความดับสลาย เนื่องจากต้องเป็นไปตามเหตุปัจจัยที่ไม่ขึ้นต่อตัวมันเอง
(ข้อ ๒ ในไตรลักษณ์)
2. อาการแห่งทุกข์ที่ปรากฎขึ้นหรืออาจปรากฎขึ้นได้แก่คน
(ได้ในคำว่า ทุกขสัจจะ หรือ ทุกขอริยสัจจ์ ซึ่งเป็นข้อที่ ๑ ในอริยสัจจ์ ๔)
3. สภาพที่ทนได้ยาก, ความรู้สึกไม่สบาย ได้แก่ ทุกขเวทนา,
ถ้ามาคู่กับโทมนัส (ในเวทนา ๕) ทุกข์ หมายถึงความไม่สบายกาย คือทุกข์กาย (โทมนัสคือไม่สบายใจ)
แต่ถ้ามาลำพัง (ในเวทนา ๓) ทุกข์ หมายถึงความไม่สบายกายไม่สบายใจ คือทั้งทุกข์กายและทุกข์ใจ






ทุกข์ มีใน3ความหมาย

1.ทุกขัง ในไตรลักษณ์ ที่หมายถึง ทนได้ยาก

2.ทุกข์ในอริยสัจจ์ ที่ หมายถึง ชาติ ชรา มรณะ โสกะ ๆลๆ หรือ ตรงกับที่ว่า กล่าวโดยย่ออุปาทานขันธ์๕เป็นทุกข์

3.ทุกข์ ในเวทนา ที่หมายถึง ทุกขเวทนา



แต่ ทั้ง3นัยยะนี้ ก็ มีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มี.ค. 2010, 23:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.พ. 2009, 20:42
โพสต์: 699


 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่แน่ใจว่า จะใช้ได้กับทุกคนหรือเปล่า...

การต้องทนกับอะไรสักอย่าง จะทำให้สมาธิไม่ก้าวหน้า เพราะการ ทน มันไม่ทำให้ใจสงบนะ
จริงๆ ถ้ายุงกัด เราก็ทำสมาธิได้ แต่ต้อง ละ ความรู้สึกตรงนั้นไป ซึ่งส่วนใหญ่เราไม่ค่อย ละ หรอก ตีเปรี้ยงๆ เลย :b9: :b9: :b9:
แต่ถ้าเป็นอาการที่ขจัดไม่ได้ ก็จะ ละ เช่น ปวดท้อง เป็นไข้ เป็นต้น ส่วนถ้าขาเริ่มชา เรามักจะไม่ ละ ก็ขยับเปลี่ยนตำแหน่งเลย เพราะรู้ว่า ถึงละได้ก็จริง แต่พอออกจากสมาธิ ก็แทบเดี้ยงเลย

เชื่อไหม เราเห็นโอปปาติกะครั้งแรก จากการนอนสมาธิ นอนสบายๆ นี่แหล่ะ ต่อมาพอนอนแล้ว เริ่มตกภวังค์ ก็หันมานั่ง พิง พิงพนักเอนๆ นี่แหล่ะ
ก็มาในช่วงหลัง ที่จะนั่งหลังตรง เพราะต้องการฝึกอะไรหลายๆ อย่าง ซึ่งการนั่งพิงจะทำได้ไม่ดี


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 มี.ค. 2010, 00:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 เม.ย. 2009, 22:00
โพสต์: 407

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


murano เขียน:
ไม่แน่ใจว่า จะใช้ได้กับทุกคนหรือเปล่า...

การต้องทนกับอะไรสักอย่าง จะทำให้สมาธิไม่ก้าวหน้า เพราะการ ทน มันไม่ทำให้ใจสงบนะ
จริงๆ ถ้ายุงกัด เราก็ทำสมาธิได้ แต่ต้อง ละ ความรู้สึกตรงนั้นไป ซึ่งส่วนใหญ่เราไม่ค่อย ละ หรอก ตีเปรี้ยงๆ เลย :b9: :b9: :b9:
แต่ถ้าเป็นอาการที่ขจัดไม่ได้ ก็จะ ละ เช่น ปวดท้อง เป็นไข้ เป็นต้น ส่วนถ้าขาเริ่มชา เรามักจะไม่ ละ ก็ขยับเปลี่ยนตำแหน่งเลย เพราะรู้ว่า ถึงละได้ก็จริง แต่พอออกจากสมาธิ ก็แทบเดี้ยงเลย

เชื่อไหม เราเห็นโอปปาติกะครั้งแรก จากการนอนสมาธิ นอนสบายๆ นี่แหล่ะ ต่อมาพอนอนแล้ว เริ่มตกภวังค์ ก็หันมานั่ง พิง พิงพนักเอนๆ นี่แหล่ะ
ก็มาในช่วงหลัง ที่จะนั่งหลังตรง เพราะต้องการฝึกอะไรหลายๆ อย่าง ซึ่งการนั่งพิงจะทำได้ไม่ดี



เรียน ท่านมุระ
ผมก็ต้องขอชี้แจงหน่อยนะในฐานะผู้ตั้งกระทู้ ก่อนที่ออกไปตากแดด ตากยุงนั้น ให้ฝึกในที่สัปบายะ ให้เข้าออกสมาธิคล่องเสียก่อนแล้วค่อยลองไปทดสอบ ถ้าเกิดวสีจนเชี่ยวชาญแล้ว มันก็ไม่ทรมานอะไรหรอก เพราะความรู้สึกทางกายมันเบาบางมาก ผมว่าผมเคยตอบประเด็นนี้ไปแล้วนะครับ
อีกอย่างที่ท่านว่าการ ทน ทำให้สมาธิไม่ก้าวหน้า ผมเกรงว่าจะทำให้ท่านอื่นเข้าใจผิดในประเด็นนี้ ซึ่งสำคัญมาก เพราะว่าในผู้ฝึกใหม่นั้น ต้องเผชิญกับเวทนาเป็นธรรมดา ชา ปวด เมื่อย แสบ คัน ร้อน หนาว ฯลฯ ผู้ปฏิบัติก็ต้องเพียรทนต่อสู้ผ่านไปให้ได้ ทำไปเรื่อยๆ ก็จะอยู่กับเวทนาได้ อย่างไม่ทรมาน อีกทั้งบางท่านยังใช้เป็นอารมณ์กรรมฐานที่แจ่มชัดในการเจริญ สติ สมาธิ ให้พัฒนาต่อไป


กรณีที่นั่งหลังตรง ถ้าท่านเพียรเจริญ สติ สมาธิ ให้มากพอแล้ว ร่างกายมันจะปรับเป็นนั่งหลังตรงให้ แบบออโต้ มิต้องฝืนเลย ผมขอยืนยัน
ในประเด็นเรื่องเห็นสัตว์ภพภูมิอื่น ผมไม่ขอแสดงความเห็น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 เม.ย. 2010, 19:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ม.ค. 2010, 20:24
โพสต์: 43

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ทำอย่างท่านอายะว่านั่น ถ้าดี ครูอาจารย์คงบอกให้ทำแล้ว :b6:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 เม.ย. 2010, 06:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มี.ค. 2010, 14:54
โพสต์: 126

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ฝึกอะไรอยู่ครับ เล่นเป็นพรามห์เลย สติ สมาธิ ปัญญา หายไปเลย แสดงว่าอยากเกิดเป็นอรูปพรหมเลย ไม่ต้องรับรู้สิ่งใดเลย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 เม.ย. 2010, 08:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 เม.ย. 2009, 22:00
โพสต์: 407

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ฝึกอะไรอยู่ครับ เล่นเป็นพรามห์เลย สติ สมาธิ ปัญญา หายไปเลย แสดงว่าอยากเกิดเป็นอรูปพรหมเลย ไม่ต้องรับรู้สิ่งใดเลย


มาอีกแล้วทำสมถะไม่ได้ แล้วดูถูกสมถะ แถมไปดูถูกอรูปพรมอีก ที่ไปดูถูกพรหมนะตัวท่านเองปฏิบัติอะไรได้บ้างครับ ศีล 5 ถือครบไหม ยังดูหนัง ฟังเพลง ติด เน็ท อยู่หรือเปล่า
ท่านรู้ได้อย่างไรครับว่าการทำสมถะ สติ สมาธิ ไม่มี ส่วนเรื่องปัญญาค่อยว่ากันอีกที
ไหนเล่าให้ฟังหน่อยซิครับปัญญาที่ท่านได้นะมันเป็นอย่างไร ท่านปฏิบัติอย่างไร เอาให้แจ่มเลยนะครับ


แก้ไขล่าสุดโดย อายะ เมื่อ 28 เม.ย. 2010, 08:33, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 เม.ย. 2010, 08:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มี.ค. 2010, 23:38
โพสต์: 193

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ตากแดดมาก ระวังเป็นมะเร็งผิวหนังเน้อ~

.....................................................
หากไม่สนใจหลักธรรมปลีกย่อย แล้วจะบรรลุหลักธรรมใหญ่ได้ยังไง -- กวนอู

"ทรัพยกรมนุษย์หากตายไป บริษัทฯ สามารถหามาแทนได้ แต่ทรัพยากรครอบครัวนั้น ครอบครัวไม่สามารถหามาแทนได้"


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 44 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร