มีราคะหรือโลภะในจิตเป็นปัจจุบัน ย่อมบรรลุอกุศลวิบากจิตไปสู่อบาย
มีโทสะในจิตเป็นปัจจุบัน ย่อมบรรลุอกุศลวิบากจิตไปสู่อบาย
มีโมหะในจิตเป็นปัจจุบัน ย่อมบรรลุอกุศลวิบากจิตไปสู่อบาย


มีกามสัญญาในจิตเป็นปัจจุบัน ย่อมบรรลุกามาวจรกุศลวิบากจิตไปสู่โลกมนุษย์และสวรรค์ 6 ชั้น
กามสัญญาคือการพัวพันด้วยนิวรณ์อยู่ในขันธ์ 5 คือรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญา และพัวพันในอายตนภายในและภายนอกได้แก่ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส และธัมมารมณ์


มีรูปสัญญาในจิตเป็นปัจจุบัน บรรลุปฐมฌานรูปาวจรกุศลกุศลจิต ย่อมบรรลุรูปาวจรกุศลวิบากจิตไปสู่รูปพรหม
มีรูปสัญญาในจิตเป็นปัจจุบัน บรรลุทุติยฌานรูปาวจรกุศลกุศลจิต ย่อมบรรลุรูปาวจรกุศลวิบากจิตไปสู่รูปพรหม
มีรูปสัญญาในจิตเป็นปัจจุบัน บรรลุตติยฌานรูปาวจรกุศลกุศลจิต ย่อมบรรลุรูปาวจรกุศลวิบากจิตไปสู่รูปพรหม
มีรูปสัญญาในจิตเป็นปัจจุบัน บรรลุจตุตถฌานรูปาวจรกุศลกุศลจิต ย่อมบรรลุรูปาวจรกุศลวิบากจิตไปสู่รูปพรหม


มีรูปสัญญาในจิตเป็นปัจจุบัน บรรลุจตุตถฌานรูปาวจรกุศลกุศลจิต แต่เบื่อหน่ายในจิต มีวิภวตัณหาในจิต ย่อมบรรลุรูปาวจรกุศลวิบากจิตไปสู่รูปพรหมชั้นอสัญญีสัตตา


มีอรูปสัญญาในจิตเป็นปัจจุบัน บรรลุจตุตถฌานอรูปาวจรกุศลกุศลจิต ประกอบด้วยอากาสานัญจายตนสัญญา ย่อมบรรลุอรูปาวจรกุศลวิบากจิตไปสู่อรูปพรหม
มีอรูปสัญญาในจิตเป็นปัจจุบัน บรรลุจตุตถฌานอรูปาวจรกุศลกุศลจิต ประกอบด้วยวิญญานัญจายตนสัญญา ย่อมบรรลุอรูปาวจรกุศลวิบากจิตไปสู่อรูปพรหม
มีอรูปสัญญาในจิตเป็นปัจจุบัน บรรลุจตุตถฌานอรูปาวจรกุศลกุศลจิต ประกอบด้วยอากิญจัญญายตนสัญญา ย่อมบรรลุอรูปาวจรกุศลวิบากจิตไปสู่อรูปพรหม
มีอรูปสัญญาในจิตเป็นปัจจุบัน บรรลุจตุตถฌานอรูปาวจรกุศลกุศลจิต ประกอบด้วยเนวสัญญานาสัญญายตนสัญญา ย่อมบรรลุอรูปาวจรกุศลวิบากจิตไปสู่อรูปพรหม


ปฏิบัติตามพระธรรมเทศนาในจิตเป็นปัจจุบัน เจริญฌานเป็นโลกุตตระ บรรลุโสดาปัตติมัคคจิต ย่อมบรรลุโสดาปัตติผล เวียนตายเวียนเกิดมาเป็นมนุษย์อีกไม่เกิน 7 ชาติ แล้วดับขันธ์ปรินิพพาน

ปฏิบัติตามพระธรรมเทศนาในจิตเป็นปัจจุบัน เจริญฌานเป็นโลกุตตระ บรรลุสกทาคามีมัคคจิต ย่อมบรรลุสกทาคามีผล เวียนตายเวียนเกิดมาเป็นมนุษย์อีกเพียงชาติเดียว แล้วดับขันธ์ปรินิพพาน

ปฏิบัติตามพระธรรมเทศนาในจิตเป็นปัจจุบัน เจริญฌานเป็นโลกุตตระ บรรลุอนาคามีมัคคจิต ย่อมบรรลุอนาคามีผล ตายแล้วไปสู่พรหมโลกชั้นสุทธาวาส 5 ชั้น ไม่หวลกลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีก แล้วดับขันธ์ปรินิพพาน

ปฏิบัติตามพระธรรมเทศนาในจิตเป็นปัจจุบัน เจริญฌานเป็นโลกุตตระ บรรลุอรหัตตมัคคจิต ย่อมบรรลุอรหัตตผลจิต ย่อมดับขันธ์ปรินิพพานในชาตินี้ไม่เกิดกันอีก



เจริญในธรรมครับ

ขอความอนุเคราะห์ท่านมหาราชันย์ ขยายตรงนี้หน่อยเจ้าค่ะ








เจริญในธรรมค่ะ

กระบี่ฯ เข้าใจว่า แม้จะเป็นพรหม บรรลุจตุตถฌานรูปาวจรกุศลจิต ก็ใช่จะเสวยทิพย์อยู่ในชั้นนั้นๆ อย่างเดียว แค่แวบเดียวของจิตที่เกิดความเบื่อหน่ายขึ้น ซึ่งเป็นวิภวตัณหาก็น่าจะจุติเพราะ เป็นอกุศลจิต
ไม่น่าเป็น กุศลจิตนะคะ

หรือเป็นเพราะว่า จิตนั้นยังเป็นรูปาวจรกุศลจิต แม้เกิดความเบื่อหน่ายซึ่งเป็นวิภวตัณหา จิตก็ยังคงเป็น รูปาวจรกุศลจิต ... ไม่เป็นอกุศล

จึงใคร่ขอความอนุเคราะห์อธิบายตรง วิภวตัณหา นี้หน่อยค่ะ




เจริญในธรรมค่ะ

มีปัจจุบันธรรม ตั้งรออยู่ให้เลือกด้วยหรือนี่ สาธุ