วันเวลาปัจจุบัน 05 พ.ค. 2025, 17:21  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


- สถานที่ปฏิบัติธรรม
แนะนำรายชื่อสถานที่ปฏิบัติธรรมกรรมฐานทั่วประเทศ
http://www.dhammajak.net/forums/viewforum.php?f=9

- รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า
http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=30



กระทู้นี้ถูกล็อก คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความ หรือ ตอบกลับในกระทู้นี้  [ 9 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ม.ค. 2010, 18:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ม.ค. 2010, 18:20
โพสต์: 16

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณครับ พบทางออกแล้วครับ

เพิ่งเข้าใจว่าทุกอย่างอยู่ที่ใจครับ ขอบคุณครับ


แก้ไขล่าสุดโดย เพียงลำพัง เมื่อ 28 ม.ค. 2010, 00:02, แก้ไขแล้ว 3 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ม.ค. 2010, 07:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 พ.ย. 2009, 17:20
โพสต์: 532

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ที่ว่ามานี้บวชนั้นเตรียมนี้มากมายเรียกว่าบวชกาย แต่ทั้งหมดนี้ตองรวมถึงบวชใจ ปลงใจ ตัดใจ ตัดปลิโพธิ ไปพร้อมจึงจะบริบูรณ์ บวชใจคืออย่างไร ก็คือ ปลงใจ ตัดใจ จากความกังวลใจทั้งหลาย เช่นตอนนี้ กังวลใจ เรื่องบวชไม่บวชดี ก็ไม่ตั้ง ไม่ต้องไม่อะไรกับอะไรกับการบวชมากมาย เรียกบวชก็ได้ ไม่บวชก็ได้ แต่บวชจริงๆก็ดีจะได้เรียนรู้การสละ จาคะตามองค์พุทธะ พระโพธิสัตว์ พระอรหันต์ ครูบาอาจารย์ท่านทั้งหลาย แม้จะได้ไม่กี่วันหรือจะบวชแล้วจะอยู่ไปตลอด ก็ลองแซมเปิ้ลดูสักครั้งจะเป็นไร สิ่งหนึ่งสำคัญคือตั้งใจมากไป ลดความตั้งใจลงหน่อย ให้มันเป็นตามโอกาสสมควร เกิดเองเป็นเองบ้าง ตั้งท่ามาก เก๊กท่ามากไป ว่าจะบวช มันเลยตึงไป ผ่อนคลายจากเข้าไป เน้น มุ่งนี้ลง ความเครียดทั้งหลายก็จะผ่อนลงไปละ เตือนใจ ไม่ตั้ง ไม่ต้อง ไม่อะไรกับอะไร เรียบง่ายไป บวชใจ เย็นใจ ปลงใจไปก่อน
เหอๆตอนก็เช่นกันละเตรียม ผ้าไตร เตรียมบาตร มีเจ้าภาพบุญพร้อมแล้ว แต่ยังเคลียร์ไม่เสร็จ ตอนแรกว่าจะขาย ไม้ในสวนแล้วเคลียร์หนี้ แล้วมีอีกคนเขาว่าไม่ต้องไปขาย เขาจะมาเป็นเจ้าภาพเคลียร์หนี้ให้ ประมาณ 2แสนบาทนี้ละ เขาว่าสิ้นเดือนนี้ละเงินคงเข้า นี้ผ่านมา 1เดือนละ ยังไม่ได้บวช ทุกวันก็ฟังธรรม กรวดน้ำ อยู่ทุกวันตัดจิต ตัดใจ ปลงใจ ไม่อะไรกับอะไรตลอด และว่างๆก็เข้ามาตอบธรรมในเว็บนี้ละ ถ้าไปบวชแล้วคงไม่มีโอกาสได้มาตอบแล้วละ ภาวะตรงนี้เลยไม่แตกต่างกัน การมุ่ง ตั้ง ต้อง คือตัณหาอุปทาน เป็นเหตุปัจจัยจของทุกข์ ฉะนั้นคือไม่ตั้ง ไม่ต้อง ไม่อะไรกับอะไร
ที่ทางบ้านเขาอยากเตรียมผ้าก็อยากได้บุญจากพระ คิดว่าไม่ได้มีผ้าเองแล้วไม่ได้บุญ จริงแล้วแค่ สละ จาคะ อนุญาต ให้ออกบวช และอนุโมทนาด้วยนี้ก็บญกุศลพร้อมแล้ว
เออลืมไปไม่ทราบเป็นจังหวัดอะไร คือผ้าไตรของผม ที่ว่าเจ้าภาพนำมาให้นะมัน ผ้า 3-4 ไตร ของอย่างอื่นเต็มกล่องเลย หากติดขัดเรื่องนี้ติดที่วัดแล้วไม่ได้ ไม่มีเรื่องผ้าอะไร ก็บอกมาได้ที่
yodchaw@hotmail.com ขออนุโมทนาด้วยขอรับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ม.ค. 2010, 09:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ม.ค. 2010, 18:20
โพสต์: 16

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณในน้ำใจนะครับ ที่ช่วยเข้ามาตอบแล้วจะยังช่วยเรื่อง ผ้าฯ อีก
แต่ไม่เป็นไรครับ กำลังทรัพย์มีครับ เพียงแต่ผมแค่ข้องใจว่าทำไมต้องซื้อด้วย
คือไม่ได้งกนะครับ แต่แค่รู้สึกว่า ถ้าเราจะปลงทางโลกทำไมต้องใช้เงินเพื่อใช้จ่ายพวกนี้ด้วยเหรอ ประมาณนี้ครับ

สุดท้ายผมขอเข้าคำถามเรื่อง บทสวดนะครับ

ผมได้หนังสือเล่มเหลือง (มนต์พิธี)
และลองหาบทสวด ไฟล์ mp3 ในเนต
บางท่อนมีไม่เหมือนกันครับ ไม่ทราบว่าจะยึดตามอันไหนดี

เช่น คำขอสรณคมน์และศิล
-ในหนังสือมีเริ่มต้น อุกาสะ ก่อน
-ใน mp3 ขึ้น อะหัง ภันเต เลยครับ

คำขอนิสสัย ก็เช่นเดียวกันครับ

ขอบคุณมากๆ เลยนะครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ม.ค. 2010, 10:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 พ.ย. 2009, 17:20
โพสต์: 532

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


จะพูดไปเรื่องอานิสงค์ถวายผ้าแก่ผู้ออกบวช เมื่อชาติหนึ่งภพใดถึงวาระตัวเองจะออกบวชบ้างก็ย่อมมาให้เองมีผ้ามาเองในอัติโนมัติเลยไม่ต้องไปหาให้ยุ่งยากหรอ และหากไม่เคยสละ ไม่เคยทานผ้าใดๆมาเลยย่อมไม่พละอานิสงค์เรื่องผ้าเลย ต้องลำบากต้องหาเหมือนครั้งพุทธกาล บางคนบางท่านฟังธรรมบรรลุแล้วแต่พอจะบวชหาผ้าไม่ได้ จนถูกวัวขวิดตายก็มีเลยไม่ได้บวชครองผ้า
จะสวดมนต์บทไหนมันก็แล้วแบบที่บวชให้ไปเรียนถามอุปัชฌาย์อาจารย์ ว่าบวชแบบไหน ธรรมยุต หรือมหานิกาย เดียวท่านชี้แจงให้เองละไม่ต้องกังวล


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ม.ค. 2010, 10:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7513

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue
:b1:
...แค่คิดก็ได้บุญแล้ว...อย่าเพิ่งไปคิดว่าทำไม่ได้...ลองปฏิบัติแบบยังไม่บวชก่อน...
...ท่านอื่นที่บวชมาก่อนเรามีเยอะแยะ...คิดไปก่อนว่าทำไม่ได้...มันเป็นอกุศลในใจตน...
:b27:
...บวชใจน่ะเริ่มก่อนได้จากศีลน้อยข้อก่อน...รักษาได้มันเพิ่มข้อได้เองไม่ต้องกังวล...
...พูดแล้วยังไม่ได้ทำ...ไม่ได้ผิดเพราะยังไม่พร้อม...ก็ขอเวลาเตรียมตัวก่อน...
:b3:
...อะไรที่เราทำได้เองไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายในการบวชล้วนทำเพื่อไม่เบียดเบียน...
...เราทำได้เองสิดี...ได้บุญเยอะ...ขี้คร้านแต่จะมีคนมาขออนุโมทนาร่วมบุญล่ะไม่ว่า...
:b13:
...งั้นข้าพเจ้าขออนุโมทนาทุกบุญ...ก่อนอื่นก็ขอมีส่วนร่วมในบุญกุศลที่ท่านทำทุกประการด้วยเจ้าค่ะ...
:b8: :b20: :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ม.ค. 2010, 12:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 2009, 22:46
โพสต์: 167

แนวปฏิบัติ: buddhism
อายุ: 0
ที่อยู่: nontaburi

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:

กิจโฉ มนุสสปฏิลาโภ การได้เกิดเป็นมนุษย์นั้นเป็นของยาก

กิจฉัง มัจจานัง ชีวิตัง การได้มีชีวิตอยู่เป็นของยาก

กิจฉัง สัทธัมมัสสะ สวนัง การได้ฟังพระสัจธรรมของพระพุทธเจ้าเป็นของยาก

กิจโฉ พุทธานมุปปาโท การบังเกิดขึ้นของพระพุทธเจ้าเป็นของยาก


มีคนจำนวนมากอยากบวช แต่ไม่มีวาสนา
มีผู้หญิงจำนวนมากอยากบวช แต่ไม่มีโอกาส


บวช เป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ ในการเกิดเป็นมนุษย์

บวชแล้ว ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ยิ่งเป็นเรื่องยิ่งใหญ่มาก ๆ
เป็นที่พึ่งสำหรับตัวเอง พ่อ แม่ พระศาสนา และสรรพสัตว์จำนวนมาก


:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ม.ค. 2010, 14:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มิ.ย. 2008, 22:40
โพสต์: 1769

แนวปฏิบัติ: กินแล้วนอนพักผ่อนกายา
งานอดิเรก: ปลุกคน
สิ่งที่ชื่นชอบ: Tripitaka
ชื่อเล่น: สมสีสี
อายุ: 0
ที่อยู่: overseas

 ข้อมูลส่วนตัว


การบวชหมายถึงการที่ผู้บวชมีความประสงค์ที่จะขจัดขัดเกลากิเลสของตนเอง เนื่องจากเห็นภัยในวัฏฏะจึงอยากหาทางพ้นทุกข์..ผู้ที่บวชจึงพึงเห็นประโยชน์ตนเช่นนี้เป็นหลัก..ย่อมยังกิจอันควรแก่สมณะเพศให้บริบูรณ์ได้ กิจหรือ"ธุระ"ของพระภิกษุมี๒อย่าง คือคันถธุระ ๑ ได้แก่ การศึกษาปริยัติ และ วิปัสสนาธุระ ๑คือการปฏิบัติวิปัสสนาเพื่อการบรรลุธรรม...เช่นนี้ย่อมยังบุญกุศลอันไพบูลย์มาสู่ตนและบริวารรวมทั้งสาธุชนผู้เข้ามามีส่วนอุปัฏฐากบำรุงด้วยเครื่องไทยทานปัจจัย๔ทั้งหลาย..

ส่วนผู้ที่จะบวชไปด้วยความเชื่อบางอย่าง บวชหนีหนี้หนีกฏหมายหนีปัญหา หมดทางหากินหรือบวชตามประเพณีดายไป เพราะเข้าใจว่า"จะได้บุญ"เหล่านี้ล้วนมีโอกาสที่จะได้กระทำบาปกรรมใหญ่มากที่จะมีผลอันน่ากลัวรออยู่..เพราะเหตุใด?....เพราะเขาย่อมไม่ทราบว่า ผู้ที่มานุ่งห่มเหลืองอันเป็นเครื่องแบบของพระที่พระพุทธเจ้า ทรงประทานมาด้วยพระมหากรุณายิ่งนั้น หากนุ่งแล้ว ชาวบ้านผู้หวังบุญย่อม"ลุกรับ กราบไหว้ ถวายขาทนียโภชนียะ น้ำ ผ้า ดอกไม้ ของหอมฯลฯ ด้วยความเคารพนบนอบยิ่ง มีการกราบและไหว้อยู่นั่นแล" ด้วยสำคัญว่าท่านเป็น"พระสงฆ์สุปฏิปัณโน สาวกของพระผู้มีพระภาค"..อันเป็น"นาบุญ"อันยิ่งใหญ่ของโลก"..เมื่อผู้ที่มานุ่งห่มเหลืองไม่ทราบเหตุเช่นนี้ ก็ไม่กระทำคุณสมบัติอันควรจะเป็นให้เกิดขึ้น ด้วยการกระทำธุระของสงฆ์ดังกล่าวไว้ข้างบน ..แต่กลับใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสอยู่ในเครื่องแบบนั้น.. นี่เป็นการหลอกลวงชาวบ้านอยู่ตลอดกาลที่อยู่ในเพศบรรพชิต ทั้งเมื่อไม่ได้ศึกษาพระธรรมวินัย ก็ ย่ิอมล่วงซึ่งสิกขาบทเป็นอันมากอยู่ จึงดูท่าว่าการบวชนี้มิใช่เรื่องเพื่อเจริญบุญแต่ประการใด แต่กลับจะเป็นช่องทางด่วนไปอบายทุคติอย่างน่ากลัวยิ่ง..ดังนั้นจึงพึงใคร่ครวญพิจารณาให้รอบคอบถ้วนถี่ว่าจะสามารถกระทำตนให้สมควรแก่"ความหวัง"ของสาูธุชนผู้หวังได้บุญหรือไม่?? หากพิจารณาแล้วเห็นว่าภารกิจนี้เรายังไม่อาจทำได้เวลานี้ก็พึง"รอ" และเจริญกุศลในเพศฆราวาสให้เต็มที่ ซึ่งจะปลอดภัยมากกว่า..

.. แต่หากมุ่งมั่นตั้งใจแน่วแน่ที่จะขจัดขัดเกลากิเลสตั้งใจรักษาพระวินัยให้เคร่งครัด ก็พึงเ่ร่งการเข้าบวชโดยมิชักช้า และในการนี้ ข้าพเจ้าก็ขอกราบอนุโมทนาสาธุการยิ่งด้วยครับ :b8: :b45: :b44: :b45:

อ้างคำพูด:
เลยสงสัยว่า ทำไมใครๆ ต้องบอกว่า พูดว่าจะบวชแล้วต้องบวช
ถ้าไม่บวชจะเกิดอะไรขึ้นครับ


เกิดความร้อนใจจนต้องตั้งคำถามนี่แหละครับ เหมือนว่าคนที่ตั้งสัจจะไว้แต่ไม่ทำตามก็เดือดร้อนใจโทษที่ตามมาคือคนอื่นขาดความเชื่อถือในคำพูดของเราครับ..หากไม่บวชสิ่งที่เกิดขึ้นคือไม่มีพระเพิ่มอีกรูปหนึ่งเท่านั้นเองครับ

.....................................................
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ


แก้ไขล่าสุดโดย -dd- เมื่อ 25 ม.ค. 2010, 15:39, แก้ไขแล้ว 4 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ม.ค. 2010, 18:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 09:34
โพสต์: 1478

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ไวโรจนมุเนนทระ เขียน:
:b8: :b8: :b8:

กิจโฉ มนุสสปฏิลาโภ การได้เกิดเป็นมนุษย์นั้นเป็นของยาก

กิจฉัง มัจจานัง ชีวิตัง การได้มีชีวิตอยู่เป็นของยาก

กิจฉัง สัทธัมมัสสะ สวนัง การได้ฟังพระสัจธรรมของพระพุทธเจ้าเป็นของยาก

กิจโฉ พุทธานมุปปาโท การบังเกิดขึ้นของพระพุทธเจ้าเป็นของยาก


มีคนจำนวนมากอยากบวช แต่ไม่มีวาสนา
มีผู้หญิงจำนวนมากอยากบวช แต่ไม่มีโอกาส


บวช เป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ ในการเกิดเป็นมนุษย์

บวชแล้ว ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ยิ่งเป็นเรื่องยิ่งใหญ่มาก ๆ
เป็นที่พึ่งสำหรับตัวเอง พ่อ แม่ พระศาสนา และสรรพสัตว์จำนวนมาก


:b8: :b8: :b8:


:b8: :b20: :b8: :b20: :b8: :b20:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ม.ค. 2010, 20:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ม.ค. 2010, 16:32
โพสต์: 323

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


.:b42: :b42: :b42: .

รูปภาพ

ไม่รู้เมื่อไร จะได้เกิดเป็นคนอีก

ไม่รู้เมื่อไร จะพบพระพุทธศาสนาอีก

ไม่รู้อีกเมื่อไร

ดีใจด้วย ดีใจด้วย ดีใจด้วย

โอกาสมาแล้ว พร้อมแล้ว

สาธุ สาธุ สาธุ


:b53:

โอมฺ มณีปทฺเม หุมฺ

ขอปัญญาจงบังเกิดมี

หลวงจีนงมงาย


. :b48: :b48: :b48:.


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กระทู้นี้ถูกล็อก คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความ หรือ ตอบกลับในกระทู้นี้  [ 9 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร