วันเวลาปัจจุบัน 12 มิ.ย. 2025, 04:19  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 252 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10 ... 17  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ม.ค. 2010, 01:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


วันที่ 147

รอบที่ 1 90/25 (เน็ตล่มใช้งานไม่ได้ 4 วัน วันนี้วันแรก)

ตอนเดินก็มัวมีรู้เท้าได้ กำหนดขวาย่างหนอ ซ้ายย่างหนอ สามารถกำหนดตรงจังหวะ
แต่การเดินจะแข็งๆ มีความทุกข์ยืนพื้น ขึ้นมาตลอดการเดิน มันขึ้นมาจุกที่แถวอก และ คอ

มีความง่วง มีเวทนามดกัด แต่กัดเจ็บกว่าปกติ มีคัน เวทนาเหล่านี้มา 2- 3 ครั้ง ติดกัน
แล้วก็ไป มีหลงไปคิดแล้วก็รู้ว่าไปคิดแล้วก็หยุดคิด แล้วมารู้กายเดินต่อ

แล้วก็เกิดความทุกข์ขึ้นมาอีก มีความไม่พอใจ ความอยาก แต่มันไม่ได้โดดเด่นอะไร
ที่ชัดเจนคือ อาการทุกข์ที่ยืนพื้น (ไม่ได้มีเรื่องกลุ้มใจ อะไรเป็นพิเศษ ไม่ได้มีอะไรที่เครียดเป็นพิเศษ)

มีเหนื่อย มีอยากเลิกปฎิบัติ ความง่วงและมัว มีบางช่วงที่หายไป แล้วกายชัด
ห้องสว่างจนรู้สึกว่าจ้ามาก แล้วก็กลับมามัวใหม่ เป็นแบบนี้ 2 ครั้ง

พอมานั่งก็รู้กายต้นๆ แล้วหลงไป มันไม่มีแรง แต่มันก็กลับมา
จากที่หลงไปอีก มาที่กายแต่แบบแตะๆ แล้วก็ไปอีก ไปๆมาๆ จนจบ (มันง่วงๆเพลียๆเหนื่อยๆ)

คำสอนพี่น้ำ ก็ไม่เป็นไรถ้ามันกลับมารู้กายทันเวลาเราฟุ้งไม่ต้องถึงให้แค่รู้แล้ว
มาอยู่กับกายส่วนไหนก็ได้ ก็จบ



รอบที่ 2 50/20

มีความทุกข์ความเครียดของจิต มีเวทนาหลายอย่าง ร้อนผ่าว มดกัด คัน ปวดท้อง ปวดขา
ปวดกระดูกนิ้ว รู้เท้าได้แค่แตะๆ ความคิดอกุศลจะขึ้นมาหลายครั้ง กำหนดรู้หนอไป
บางครั้งก็เผลอคิดไม่ดีไปแล้ว ก็กำหนดรู้หนอตาม

พอมานั่งก็รู้กายได้ต้นๆ แล้วก็หลงไป แล้วก็มารู้ที่จิตอีกช่วงท้ายยังไม่ได้จับกาย
แต่รู้อยู่ที่จิต ว่าตอนนี้ไม่ได้หลงสักแปปก็หมดเวลา
ตอนเดินมีความไม่พอใจหลายครั้ง เกิดตามหลังความคิดว่าปฎิบัติไม่ดี ซึ่งเผลอคิดขึ้นมาแวบๆ

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ม.ค. 2010, 01:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


วันที่ 148


งไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เสร็จแล้วค่ะพี่ 90/25 ค่ะ
ตอนเดินก็รู้เท้า มัว และง่วงนิดๆ ช่วงต้น มีความอยาก และแน่นหน้าอก
อืมสังเกตว่ามัน ยึด ยึดการปฎิบัติไม่ได้สบายๆ แต่ไม่ได้จงใจยึด

เป็นกิเลสที่ขึ้นมาเอง แล้วก็เดินๆไป ก็มีความทุกข์ ตามอารมณ์ ที่ไหลไป
ทุกครั้งที่มีความคิด จะมีอารมณ์เกิดขึ้นเสมอ ถึงแม้จะคิดเป็นเรืองเป็น ราว หรืไม่ก้อตาม

มีความรู้สึกว่า ความทุกข์ มันเกิดจากความพอใจ หรือไม่พอใจของจิต
ที่มันตัดสินของมันเองไม่มีเหตุผล เช่น เวลาเดินรู้เท้าก็จริง แต่ บางทีมันก็ ไปไม่พอใจเอง

ว่านี่ไม่ดี ก็เกิดอารมณืทุกข์ทางใจตามมา ก็ดูเท้าไปด้วย ดูอารมณืทุกข์ไปด้วย
เห็นว่ารู้เท้าได้ และก็มีอารมณ์ทุกข์ด้วย เลยรู้สึกว่า ความพอใจไม่พอใจ ไม่ค่อยมีเหตุผลเท่าไร

ก็เดินๆดูเท้าต่อไป มีบางช่วง ที่มันหายมัว มาสว่าง แล้วก็กลับไปมัวใหม่
หลังๆ มีเบื่อ ปวดขา ยังมีมดกัดอยู่ตอนเดิน มักมาตอนหลง ถ้าให้ความสนใจ จะขึ้นมาถี่
มีขี้เกียจ เลิกเดิน ปวดขา

พอมานั่งก็ไม่ค่อยอยู่กับกาย มีเวทนา เจ็บเหมือนมดกัด บ่อยมาก และเจ็บมาก
หลายๆจุด แต่ ไม่กลับมาจับกาย ไปรู้อาการมดกัด และ ไปกึ่งๆลอย คู่กัน มีงุบลงไป 2 ครั้ง
แต่ไม่ได้หลับ แล้วจากนั้นก็ไม่กลับมากาย แต่ไม่ได้หลับค่ะ จบแล้วค่ะ

สุขที่แท้จริง says:
เจริญสติต่อไปค่ะ พอสติดีมากขึ้น สภาวะมดกัดจะหายไปเองค่ะ
ไม่ต้องไปกังวลนะคะ เวลารู้สึกเกิดสภาวะนี้ กำหนดรู้หนอๆๆๆ ค่ะ

ถ้ารำคาญมากๆก็เอามือลูบๆได้ แต่อย่าลืมตานะคะ ระหว่างเอามือลูบๆให้กำหนดรู้หนอ
แต่แค่รู้ว่ามดกัด ไม่ไปรำคาญอะไรมากมายนักก็แค่รู้มันค่ะ คือ กำหนดรู้มัน


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ตอนนี้หมูรู้มัน แล้วมันก็ หายไป ส่วนใหญ่จะมาสั้นๆค่ะ

สุขที่แท้จริง says:
นั่นแหละค่ะ ถ้าสติมันทัน มันจะหาย
กำลังอยู่ในช่วงทบทวนสภาวะค่ะ มันจะรู้สึกเจ็บมากขึ้น


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
เสร็จแล้วค่ะพี่ 40/20 ค่ะ
ตอนเดินก็รู้เท้า รู้ความคิด เห็น อคติ แบ่งเขาแบ่งเรา เราดีกว่าเขา
แล้วก็มี เห้นตัวความอยาก แบบเวลาเดินแล้วเรารู้เท้า หรือรู้สภาวะ

จะมีตัวที่คอยที่จะ คิดว่านี่ดี แบบอยาก ๆ ค่ะ ก็ดูมันไปค่ะแล้วมันก็หาย
แล้วก็มีจะคิดอกุศล เริ่มจากหลงไปคิดเรื่องปกติก่อน แล้วก็จะเลยไป

เห็นอาการของจิต จะไปคิด เป็นลักษณะของจิตอกุศล มีหยุด แล้วกำหนดรู้หนอ 3 ครั้ง
แล้วก็ไปรู้การเดินต่อ แล้วหลังๆมีเผลอคิดอกุศล แบบเป็นความคิดแนวที่ไม่สมควร
ก็กำหนดรู้หนอ 3 ครั้ง ไปแล้วปล่อย ไปดูกาย แล้วก็เดินๆไป มีมานะ อวดดี ตามด้วย
จะไปตำหนิคนอื่นหลังจากมานะ ก็รู้ก็หยุด แล้วก็เลยกำหนดรู้หนอตามมัน 3 ครั้ง

แล้วก็ไปรู้กายต่อ มีอาการ ปวดขาเหมือนตะคริวที่น่อง แล้วกหายไป แล้วก้มีมดกัด1 ครั้ง
แล้วหายไปเลย มีมาอีกตอนหลัง 2-3 ครั้งก็กำหนดรู้หนอไป 3 ครั้งแล้วปล่อยไป
แล้วก็มีหลงไปคิดบ้าง

แล้วพอมานั่ง ก็รู้กายได้ แบบรู้ลมบ้าง รู้ท้องขยับบ้าง ช่วงหนึ่งมันสงบ
แล้วรู้สึกถึงท้องไหวเบาๆ เบามาก ตามจังหวะการหายใจเข้าออก แต่ไม่ได้ไปจ่อที่ท้อง

แบบเข้าก็รู้ว่ามีการขยับ และออกก็รู้ว่ามการขยับแต่อันนี้ไปจับที่แขน ที่สีกะเสื้อเบาๆ
รู้แบบนี้ไปสักพักหนึ่ง ก็หลงไปไม่อยู่กะกาย แล้วก็มีช่วงที่กึ่งรู้กึ่งหลง แล้วก็ หมดเวลา
ตอนมันหลงคิดอยู่พอดีค่ะ หมดแล้วค่ะ พี่

สุขที่แท้จริง says:
จ้ะ ตราบใดที่ยังมีกิเลส สภาวะก็มีมาให้เราเรียนรู้ตลอดเวลา
เหตุที่หลงออกไปนอกกาย เพราะสติเรายังไม่ทัน ก็ไม่ต้องไปกังวลอะไรนะ เจริญสติต่อไป
หลงดีกว่าหลับ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะ หลับแล้วยาว

สุขที่แท้จริง says:
หลับนี่ต้องลดนั่งอีกแน่นอน

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
เหลือ 1 นาที

สุขที่แท้จริง says:

ไม่หรอกค่ะ การเจริญสติต้องอาศัยการสะสมไปเรื่อยๆ แล้วแต่เหตุที่เราเคยกระทำมาด้วย
แต่ตอนนี้ ถือว่า หมูน่ะมีชีวิตใหม่แล้ว ตั้งแต่ได้มาเจริญสติปัฏฐาน


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
อืม แล้วแต่ว่าเราสะสม โลภ โกด หลง ไว้ มากแค่ไหนใช่ไหมคะ
แล้วก็แล้วแต่ว่า เรามีโอกาสเจริญสติมากแค่ไหน

สุขที่แท้จริง says:
ใช่ค่ะ เหตุทั้งดีและไม่ดี ที่เคยกระทำไว้ ล้วนส่งผลมาที่ปัจจุบัน
แต่ตอนนี้หมูกำลังสร้างเหตุดี อนาคตผลย่อมดีแน่นอน


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ขอบคุณค่ะพี่ ตอนนี้ หมูมีความเข้าใจเรื่องของกิเลส ในแง่ของ มันมากขึ้นได้ยังไง
แล้วทำบุญแบบไหน ถึงได้บุญ ทำไม ทำบุญแล้วได้บาป แบบไหนทำแล้วเป็นบุญจริง

สุขที่แท้จริง says:
ค่ะ เราจะเริ่มเห็นตามความเป็นจริงเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะ เวลาเราทำบุยถึงแม้เราจะอดอ ยาก แต่ถ้าใจเราไม่กังวล มีความสุขกะการให้
นั่นก็คือกุศล อกุศลเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เมือ่ขาดสติ
ขาดสติเมือไรก็สะสมกิเลสเมื่อนั้น ท่านถึงได้ให้ทำต่อเนื่อง

สุขที่แท้จริง says:
สติ สำคัญมากๆค่ะ กิเลสมันจ้องจะงาบเราตลอดเวลา

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะ ขอบคุณพี่น้ำมากๆ นะคะ วันนี้

สุขที่แท้จริง says:
ไม่เป็นไรจ้ะ อนาคตหมูจะพบแต่สิ่งดีๆในชีวิต วันนี้กิเลสอาจจะทำให้เราต้องทุกข์ใจอย่างมากมาย
แต่วันหน้าเราต้องหันกลับมาขอบคุณสิ่งเหล่านี้


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะพี่น้ำ หมูโชคดีได้เจริญสติ

สุขที่แท้จริง says:
โมทนาค่ะ ถูกต้องที่สุด เจริญสติ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
สาธุค่ะพี่

สุขที่แท้จริง says:
พี่นี่เป็นตัวอย่างหมดเลยนะ ทั้งมีสมาธิกับสติ กับมีสติอย่างเดียวไม่มีสมาธิ โหดมากๆ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

นั่นสิคะ พี่น้ำผ่านมาม้ดเลย

สุขที่แท้จริง says:
ตอนนี้สภาวะพี่ สมาธิกลับมาปกติแล้ว สมาธิเริ่มมีกำลังมากขึ้นเรื่อยๆ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
เหมือนตำราเล่มใหญ่มากๆ

สุขที่แท้จริง says:
ก็กำลังจะลงบล็อกเหมือนเดิม เรื่องสภาวะ
อิอิ ... อ่านแล้วห้ามอิจฉานะช่วงนี้ เป้นช่วงเสวยผลแห่งการสร้างเหตุดี
มาตลอดเวลาที่ผ่านมา


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ถ้าอิจฉาจะกำหนดรู้หนอนะคะ

สุขที่แท้จริง says:

พี่น่ะเสร้จกิเลสความสงบมาหลายวัน พยายามหาวิธีให้กับตัวเองอยู่หลายวัน
ให้หลุดจากความสงบ แต่ยิ่งอยาก ยิ่งไม่หลุด เลยเฝ้าดู ไม่ดิ้นรน เออแฮะ ...
มันหลุดได้เอง เอากับมันสิ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะพี่

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ม.ค. 2010, 23:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


วันที่ 149


งไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
เสร็จแล้วค่ะพี่ 60/25
ตอนเดินก็ รู้เท้า มัว มีความง่วงปน แล้วก็ตอนเริ่มต้นจิตใจมันไมปกติ
ก็มีความคาดหวัง คอยจ้องสภาวะค่ะ ก็เดินๆไป ก็เปลี่ยนไป เป็นคิดๆ คุ่กะรู้การเดิน

มีช่วงที่มันเงียบความคิดเงียบ แล้วไปจับเท้าที่เดินชัดมาก ตอนนั้นไม่มัว
แต่เห็นว่ามีจิตที่ตื่นเต้น คอยดูสภาวะนั้นอยู่ แล้วก็กลับมามัวเหมือนเดิม

มีความ คิด และความรู้สึกหงุดหงิดกระทบจากการคิดถึงเรื่องงาน
ก็รู้พร้อมเท้า สักพักมันก้เปลียนไป

จิตมันคิดเรื่องนั้น หรือจับเรื่องนั้น พอแล้วมันก็เปลี่ยนไป
มีตัวที่แบบยิ้มเยาะ เหมือนเราดีกว่าคนอื่น มีความไม่พอใจ
มีอารมณ์แน่นไม่สบายที่ตรงอก เวทนาตอนเดิน มีเหมือนพวกไหช๊อตเบาๆค่ะ

พอมานั่ง ก็ไม่ค่อยรู้กายค่ะ มันไม่มีแรง มันหลงไป ไม่จับกาย แต่เหมือนรู้อยู่รางๆ
แบบไม่ได้หายไปซะทีเดียว แต่บอกไม่ได้ว่ารู้ตรงจุดไหน

แล้วก็มีเหมือนงุบลงไป แล้วมารู้สึกว่าทำไมมันนาน ก็อีกสักพัก
เสียงหมดเวลาก็ดังขึ้นค่ะ จบแล้วค่ะพี่ วันนี้รอบเดียวนะคะ

สุขที่แท้จริง says:

ทำไมดูเหมือนเหนื่อยจังเลยล่ะคะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะพี่ วันนี้สอน น่ะค่ะ

สุขที่แท้จริง says:
อ่อ ... ใช้พลังกับลูกศิษย์ไปมากก

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
อืม จริงๆก้ไม่ถึงกะมากนะคะ ก็แต่รู้สึกเหนื่อยจัง แล้วก็ ตอนก่อนเจริญสติ
มันคิดว่า ไม่อยากทำเลย

สุขที่แท้จริง says:
เข้าใจค่ะ เบื่อๆอยากๆ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะ แบบนั้นเลยค่ะ

สุขที่แท้จริง says:
เรื่องธรรมดาๆมากๆเลยค่ะ พี่ก็ยังเป็นอยู่ค่ะ แต่ไม่บ่อย ถึงจะยังไงก้ต้องทำ
จิตมันจะบอกตัวเองแบบนี้ทุกครั้ง มันก็เลยเหมือนกับว่า เบื่อก็เท่านั้น อยากก็เท่านั้น
สุดท้ายก็ต้องทำ เพราะไม่มีที่ไหนจะดีเท่าที่ตรงนี้อีกแล้ว

เบื่อได้ มันก็หายได้ อยากได้มันก็หายได้ อยากเพราะอะไร เบื่อเพราะอะไร เบื่อเพราะไม่ถูกใจ
ไม่ได้ดั่งใจ มันขี้เกียจ อยากเพราะอะไร อยากทำเพราะสบายใจ ทำแล้วถูกใจ

แหมม วันนี้สภาวะดีจริงๆ อยากทำสักหลายๆรอบ มันแค่อารมณ์ความรู้สึก
ที่เกิดขึ้นในขณะนั้นๆน่ะค่ะ ไม่มีอะไรหรอก สติเรายังไม่ทั้นกิเลสน่ะ
กิเลสมันเลยทดสอบตลอดเวลา


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
อืมๆ ค่ะพี่

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ม.ค. 2010, 01:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


วันที่ 150


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เสร็จแล้วค่ะพี่ 90/25 ค่ะ

ตอนเดินเริ่ม้นเดินก็ มันก็มีฟุ้งๆ แล้วก้ มีความมัวๆ แต่ไม่มาก
มีความง่วงนิดนึงไม่มาก รู้เท้าได้ค่ะ แล้วก็ มันก็เห็นความไม่พอใจ เกิดขึ้น ตามความคิด

บางทีเดินแล้วอยากกลับไปคิดถึงสภาวะที่ผ่านมา แล้วมันนึกไม่ออก
ก็ไม่พอใจแล้ว แต่กระบวนการมันเร็วมากค่ะ แล้วก็พอผ่อนก็คลาย มันวอบแวบๆ

หลังๆหลงบ่อย หลงไปคิดเรื่องที่ชอบ ก็หัวเราะ แล้วเห้นควาอยากคิดต่อ
พอเรามาใส่ใจกะการเดิน มันก็เห็นความอยาก - ความไม่พอใจ แต่บางๆ
ไม่พอใจ ว่าอยากคิดแต่เราไม่ไปคิดต่อน่ะค่ะ แล้วมันก็หายไป มารู้กายต่อได้

แล้วก็หลงไปเพลินคิดอีก ก็เลยเอ... หายใจยาว กำหนดรู้หนอ 3 ครั้ง ทำแบบนี้
เวลาเพลินคิด หลังๆก็เห็นว่า ความคิด + อารมณ์ มากมาย เกิดขึ้นเสมอ แต่สามารถรู้เท้าได้

ในขณะที่ความคิด + อารมณืวอบแวบมากมาย มีอยู่ ต้องจับอยู่กับกาย มันจะไม่ไหลไปในอารม
แต่เราเห็นว่า การจับอยู่กะกายนั้น จับได้ไม่ตลอด มันจะแวบ ไปปรุง แล้วกลับมารู้

ดังนั้น จึงทำให้มีอารมณ์ ต่างๆเสมอ แล้วก็ต้องดึงมาไม่ลงไปในอารมณ์ต่อ
ไม่งั้นจะปรุงยาว มันจะปรุงตลอดเวลาค่ะ

หลังก็รักษาความรู้สึกตัวได้ แต่ต้องใช้คำบริกรรม 1 - 6 และก็หลงไปเมื่อไร
ก็หายใจยาวๆตั้งสติใหม่รู้สึก อย่างไร เมื่อกระทบแล้วปรุงปั้ป ก็รู้ที่การเดิน มากที่สุด
มันก็เลยไม่หมอง ในจิตมาก หมองนิดหน่อยตอนเผลหลงไป แต่ตั้งตัวได้ไวไม่ลงไปคลุกมาก

พอมานั่ง รู้กายนั่ง รู้ท้องขยับแต่ไม่จับพองยุบ แต่เมื่อนั่ง ปรุงง่ายกว่าเดิน
หลงไปปรุงแล้วไม่รู้ตัว ดึงกลับมาที่กายไม่ค่อยได้ ก็จะหลงไป
ตอนหลังมีปรามาส... ก็เลยขอขมาตอนจบค่ะ

แล้วก็ เวทนา ที่เกิตอนเดินและนั่งมีมดกัดแล้วก็หายไป
แล้วมาใหม่ แล้วก้ไปอีก นานๆมาทีค่ะ

ตอนเดิน อกุศลจะเกิด ตัวสบถน่ะค่ะ ก็รู้กำหนดรู้หนอไป ก็ไม่ได้ขึ้นมา
ทีนี้เวลาที่เดินแล้วรู้สึกดี มันมีความอยาก ความพอใจ ที่พี่น้ำเรียกนิกันติขึ้นมา
ก็รู้ลงไปค่ะ แล้วมันก้หายไป แต่เผลอก็มาอีกค่ะ จบแล้วค่ะพี่

สุขที่แท้จริง says:
ค่ะ นิกันติ แรกๆไม่เท่าไหร่ ถ้าปล่อยผ่านไป ติดใจมากขึ้น พอติดใจมากขึ้น
สภาวะนี้หายไป ทุกข์แล้ว เพราะไปคาดหวังว่าจะเจอสภาวะนี้อีก


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:


ค่ะพี่น้ำ ไอ้ตัวนี้น่ะค่ะ ทำให้คาดหวัง และหลงตัวเอง

สุขที่แท้จริง says:
สภาวะมันแสดงไตรลักษณ์มาสอนให้หมูตลอดเวลา เพียงแต่ว่า
หมูยังไม่แจ้งออกมาจากจิตของตัวเอง มันเลยเจอสภาวะเหมือนจะเดิมๆซ้ำๆ

แต่จริงๆแล้ว มันเปลี่ยนไปเรื่อยๆ สติ สัมปชัญญะทันเมื่อไหร่ มันจะแจ้งออกมาเองค่ะ
ไม่ต้องไปคาดหวังหรือคาดเดาว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ถ้าจะเกิด สภาวะเขาจะเกิดเอง

มันจะเห็นชัดมากขึ้นเร่อยๆ การเกิดอุปทาน ยึดมั่นถือมั่นในสิ่งที่มากระทบ
มันจะลดลงไปเรื่อยๆตามกำลังของสติ สัมปชัญญะที่เกิดขึ้นน่ะค่ะ

เมื่อความอยากเกิดขึ้น อย่าไปขัดขืนมัน แต่ให้รู้ลงไป แล้วดูมัน มองดูมัน ว่า เออ
เราหนีไม่ได้นะ เราปฏิเสธมันไม่ได้ มันก็แค่ความรู้สึก ความคิดที่เกิดขึ้นในขณะนั้นเอง
พอสภาวะเปลี่ยนไป ความอยากก็เปลี่ยนไป เปลี่ยนไปตามสิ่งที่มากระทบ หรือ
ตามความคิดที่เกิดขึ้นแต่ละขณะๆ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ จะจำไว้แล้วพยายามดูตัวเองมากๆค่ะ มันบังคับไม่ได้
งั้นหมู ไปทำรอบ 2 นะคะ เด๋วมาส่งการบ้านค่ะ 60/20

ตอนเดินรอบนี้ก็ ริ่มต้นก็ มีความอยากค่ะ เห็นชัดเลย ว่ามันอยาก เพราะติดใจสภาวะที่แล้ว
อืมมันดัดแปลง แบบ จงใจทำเป็นธรรมชาติ ปรับตรงนั้นตรงนี้
ก็เลยรู้ว่ามันปรับเพราะจะให้เห็นเหมือนรอบที่แล้ว ก็รู้มันไป แล้วก็รู้เท้าด้วย แต่รู้แบบทุกข์ๆ

แล้วก็รอบนี้ สติยังไม่ตั้งมั่น อารมณ์ไหล ไหลไปกะความคิด
การรู้เท้าจึงรู้แบบแตะๆ แล้วมีความอึดอัด แน่น เป็นอารมณืเกิดขึ้นมา
แล้วก็ มีความทุกข์บีบคั้นขมขื่นขึ้นมา แล้วก็ดูๆไป สักพัก อารมณ์เหล่านั้นก็หายไป
กลายเป็นไม่มีความรู้สึกทุกข์ รู้เท้าปกติ ใจผ่อนคลายขึ้น
แล้วก็ปวดท้องเลยขาดจังหวะไปเข้าห้องน้ำค่ะ

ออกมาเดินรู้เท้าใหม่ก็หลงเพลินคิดไป ก็หายใจยาวๆ กำหนดรู้หนอ แล้วเดินต่อ
ทีนี้มันก็ลองนับ 1- 6 เอาไม่อยู่ เพราะรู้สั้นๆ แต่หลงไวมาก

เลยลองกำหนด ขวาหนอ ยกหนอ ย่างหนอ ลงหนอ ถูกหนอ กดหนอ
สังเกตว่าช่วยให้อยู่กะกายมากขึ้น แล้วพอสักพัก ก็ทิ้งคำบริกรรมไปเอง
มีเจ็บเหมือนมดกัด มีจิตจะอกุศลปรามาส ก็กำหนดรู้หนอไป แล้ววาง

ก็รอบนี้นั่งพออยู่กะกายได้ ดูท้องได้ แต่ไม่จดจ่อที่ท้อง รู้ท้องขยับ เบาๆ
แต่สมาธิไม่แนบแน่น มีหลงลอยไป แล้วก็มาดูกายต่อ
รู้ที่มือบ้าง รุ้ที่ท้องบ้าง แล้วก็หลงไป ปรุงแต่งความคิด

คือทั้งเดินและนั่งรอบนี้ มันจะผุด ความคิดในทางลบมาตลอด
เรื่องที่เราไม่ชอบ เรื่องที่กังวล เรื่องที่โกด

ตอนนั่งมันก้ผุดเรื่องกังวลมาก็ปรุงๆไป แล้วก็เปลี่ยนไป เลิกคิดเรื่องนั้นแล้ว
มารู้สึกภายหลังว่า เออเลิกปรุงไปแล้ว เพิ่งรู้ตัว
แล้วก็เลยมา ตั้งสติจะจับกายใหม่ ตอนนั้นรู้ที่จิต ก็หมดเวลาพอดี จบแล้วค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

ยังดีค่ะ ไม่ไปติดรสชาติการปรุงจนกลับมารู้กายไม่ได้

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

รอบหลังนี้กิเลสเพียบเลยค่ะ หลงไป

สุขที่แท้จริง says:

การเจริญสติ สำคัญมากๆเพราะเหตุนี้แหละค่ะ ถ้าเราไม่มาเจริญสตินะ
จะไม่เคยมองสิ่งที่เราคิดเหล่านี้เลย เราจะแค่คิดแล้วก็ผ่านมันไป
จะไม่มาเห็นมันได้ชัดเจนขนาดนี้


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ จิงๆค่ะ บางทีหลงไปแล้วมารู้ตัว เห็นเลยว่ามันปรุง แบบรวมมิตรคือปนๆลอยๆ
แยกแยะไม่ออก ระหว่างวันนะคะ

สุขที่แท้จริง says:

เมื่อเราเห็นมัน เรารู้แล้วว่าเหตุเกิดจากอะไร เราจึงพยายามสำรวม สังวร ระวัง
กายและใจเราเพราะเหตุนี้แหละ

เอานะ เรียนรู้มันไป อยู่กับกองกิเลสมันมาไม่รู้กี่ภพกี่ชาติละ อยู่แบบไม่รู้ว่าอยู่
ตอนนี้รู้แล้วนี่ ก็เรียนรู้มันไป เอาสติดักจับให้ทัน

สติทันมันก็ดับ แล้วมันก็หันไปหาตัวอื่นๆเล่นต่อ เพื่อสนองตามกิเลสในใจที่เรายังมีอยู่

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ ...วันนี้ไปอ่านที่บอร์ดมานะค่ะ เห็นกิเลสเพียบ

สุขที่แท้จริง says:

การกระทบ เมื่อสติไม่ทัน การปรุงแต่งไวมากๆ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อ่านปุบก็ใจดีด

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ กิเลสชาวบ้านเขา เราเอามาปรุงตามกิเลสที่เรามีอยู่

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ มันก็จะเห็นนะคะ ว่าเรา เป็นยังไง

สุขที่แท้จริง says:

ถ้าเราอ่านแล้วคิดไม่ดีกับเขา ผลก็ตกอยู่ที่เรา

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ น่ากลัวแฮะ

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ เพราะความไม่รู้ไงคะ เมื่อรู้แล้ว เราจะไม่ทำมัน เพราะเรากลัวผลที่จะได้รับ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เวลาอ่าน มันก็จะมี + กับ ลบ เป็นอคติ ของเรา แต่ไม่ได้ปรุงเป็นคำพุด
เป็นอารมณ์เห็นด้วยไม่เห็นด้วย แบบนี้น่ะค่ะ พอจะคิดไม่ดีก็หายใจยาวๆ รู้หนอน่ะค่ะ
แต่เห็นจิตมัน เมามันมากแบบ สนุก เพลิดเพลิน ...ง่า

สุขที่แท้จริง says:

ธรรมดาค่ะ จิตมันชอบไหลลงต่ำ ไหลไปหาสิ่งที่เราชอบ พอเจอสิ่งที่ไม่ชอบ
มันจะปรุงทันที ถ้าสติไม่ทัน

ไม่ว่าจะคิดดีหรือไม่ดี ผลคือเรารับทั้งนั้น ใครเขาทำอะไรยังไง คนๆนั้นเขารับผล
ไม่ใช่เราจะไปเป็นคนตัดสินว่าคนนั้นถูกคนนี้ผิด

บอร์ดน่ะ ที่ประลองกิเลสชั้นเลิศเลยแหละ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ของแท้ค่ะ ขนาดแค่อ่าน ยัง ฟูฟ่อง ส่วนใญ่อ่านของพี่น้ำน่ะค่ะ แล้วก็กระทู้คนอื่นในกระทู้พี

สุขที่แท้จริง says:

ก็เราทุกคนล้วนต่างยังมีกิเลสกันอยู่ จะปรุงมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับกิเลสในใจของแต่ละคน
หาอ่านแต่ข้อธรรมะดีกว่าค่ะ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อ่า ค่ะ ... เหมือน อดยา ได้ค่ะพี่ จะทำตามคำแนะนำค่ะ สงสัยดิ้นปั๊ดๆ ช่วงแรก

สุขที่แท้จริง says:

ธรรมดาค่ะ ชอบสนใจเรื่องชาวบ้าน

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ s

ใช่ค่ะพี่ มันเป็นแบบนั้นจริงๆ แม้...เมามันมาก คนถึงได้ติดหนังติดละครนะคะ

สุขที่แท้จริง says:
ค่ะ อันนี้จริงค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

หมูสังเกตตัวเอง ว่าเออเว้ย ไม่ยอตัวเอง ก้อยากรู้เรื่องคนอื่น
เพื่อจะได้วิพากษืวิจารเขา มันเป้นเองอัตโนมัติไม่รู้ตัวเลย

สุขที่แท้จริง says:

พี่ไม่ได้ดูทีวีตั้งแต่เข้าพรรษามาจนถึงวันนี้ หนังสือพิมพ์ก็แทบจะไม่แตะ
ตอนนี้ใครไม่ต้องมาคุยอะไรกับพี่เลย ไม่รู้เรื่องกับเขาสักอย่าง


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

แล้วก็เป็นกันทุกคนด้วยมองรอบตัวส่วนใหญ่

สุขที่แท้จริง says:

เรื่องธรมดาน่ะหมู จิตส่งออกนอก พอเจริญสติมากขึ้น เรื่องชาวบ้านจะสนใจน้อยลง
จิตมันจะจดจ่ออยู่กับกายมากขึ้น เจริญสติไปค่ะ มีแต่คนถูกบังคับ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อ่า หมายถึงอะไรหรือคะ

สุขที่แท้จริง says:

ก็เพราะพอเราเห็นเหตุและผลชัดเจนมากขึ้น มันถอยไม่ได้แล้ว ไม่อยากทำก็ต้องทำ

ถึงไม่ใช่งูพิษ

ก็จริงค่ะ ขี้เกียจก็ขี้เกียจอยู่ค่ะ แต่ถ้าไม่เจริญสติ ก็ไม่รู้จะทำอะไร
พอ ปล่อยหลงไป ใจมันก็ช้ำ เหนื่อยๆ

สุขที่แท้จริง says:

ใช่จ้ะ บางวันนี้ ไม่อยากจะขยับเลย แต่ก็ต้องทำ ทำทั้งที่รู้สึกเบื่อแสนเบื่อ
เพราะเรารุ้แล้วว่าถ้าไม่เจริญสติ ชีวิตเราจะเจอกับอะไรบ้าง


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ก้อคงทุกข์มากๆ มากกว่า เจริญสติ
ร่างกายก็เสื่อมถอย นับวันก็จะเห็นแต่การสูญเสียพลัดพราก
จิตใจที่ยังไม่เคยฝึกฝนให้รับมือกะความทุกข์
ก็คงไม่พอใจตลอด จนตายเลยค่ะ ตายก็ตกนรกอีก

สุขที่แท้จริง says:

ใช่หมู ทุกสิ่งไม่มีอะไรให้เราเป็นที่พึ่งพิงได้ นอกจากการเจริญสติเท่านั้น
ถ้าบอกว่ายึดพระรัตนตรัย เวลาโกรธล่ะ ยึดได้ไหม ไปแล้ว กิเลสกระโดดผึงเลย
ให้แขวนพระเต็มคอ เก่งคัมภีร์แค่ไหนก็เอาไม่อยู่


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อืมม ก็ใช่ค่ะ เวลาโกดน่ะค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

เขาเรียกว่า ศัรธาแต่ขาดปัญญาไงหมู

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ยากจิงๆ ปัญญา นี่ เกิดจาก สมาธิ + สติ หรือคะ

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ ประกอบกัน

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ม.ค. 2010, 04:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


วันที่ 151


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:


90/25 เดินก็รู้เท้าค่ะ มีความคิดเกดขึ้นแล้วไหลไป ยังรู้เท้าด้วย
ก็มีความทุกข์เกิดขึ้นมา พยายามจับที่กาย ก็รู้ได้ค่ะ บางช่วง

จิตเผลอไปปรุงแต่ง ทำให้เกิดโทสะโกดขึ้นมา ก็ดูอารมณืโกรธ
แล้วเห็นมัน หนักเบา แล้วหายไป จิตมันระลึกว่าอารมณืนี้อย่าเก็บไว้
อย่าสะสมให้ดู แล้วก็ไปรู้กายต่อ ช่วงไหนที่ไหลไปกะอารมณืกลางอกเยอะ
ก็จะหายใจยาวๆ กำหนดรุ้หนอๆ แล้วมาจับกายใหม่

ก็มีบางช่วงที่อยู่กะกายได้ชัด รู้ลมหายใจ ความคิดเบาลง
แต่ไม่ได้สงบแบบแนบแน่น แล้วก็กลับมาไหลตามความคิดอีก
คอยรู้กายน่ะค่ะพี่ บางทีหลงไปคิดแล้วไม่รู้ตัว แต่เห็นตอนจบค่ะ

แล้วก็มารู้กายใหม่ มีจิตจะสบถ ก็กำหนดรู้หนอไป
มีเวทนาเจ็บเหมื่อนโดนทิ่ม 2 ครั้งได้ แล้วก็มีเวทนา เจ็บเท้าเหมือน โดนแก้วบาด
จนยกเท้าขึ้นมาดู ไม่มีอะไร 2 ครังค่ะ

พอมานั่ง ก็รู้กายได้ต้นๆ แล้วหลงไปค่ะ มีงุบลงไป 2 ครั้ง
รู้สึกนานมากเลยตอนนังค่ะ แล้วก็หมดเวลาค่ะพี่ จบแล้วค่ะ

อืมวันนี้ตอนที่ เดินมัน เห็นสิ่งที่ต้องปรับปรุงเยอะมากค่ะ
ว่าเราไม่สำรวมอินทรีย์ แล้วก็ละอายใจ
ความ ตวามไม่พอใจก็มีค่ะ ก็รู้ลงไปแล้วก็หายไปค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

กำลังคิดอยู่

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

คะ เรื่องอะไรเหรอคะพี่ ลดนั่งเหรอคะ

สุขที่แท้จริง says:

แบบจะให้หมูเอาสมาธิมาใช้ดีไหม แต่มันจะบดบังทุกข์ ทำให้เราไม่เห็นตามความเป็นจริง
คือ เห็นน่ะ แต่อาจจะเห็นได้ช้า เห็นหมูทุกข์เหลือเกิน


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ไม่หรอกค่ะพี่ มันทุกข์ แบบไม่ทุกข์

สุขที่แท้จริง says:

อธิบายได้ไหมคะ เพราะสิ่งที่หมูส่งอารมณืมานี่ มันดูว่าหมูทุกข์มากน่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

คือว่า มันก็มีความเจ็บบ้าง มีอารมณืบีบคั้นขึ้นมาบ้าง
แต่มันเห็นว่า เราไม่ได้จมลงไป
มันลอยขึ้นมา แล้วเราแยกมันได้บ้างน่ะค่ะ
คือ มันรุ้กาย แล้วก็เห็นอารมณ์ ถ้าไปอยู่กะอารมณ์
ก็เห็นว่าจิตช้ำก็จะทุกข์ ถ้ามาอยู่กะกาย ก็ไอ้อารมณืมันก็ วอบแวบๆ
ไม่ได้ไปแช่อยู่นานค่ะ ขึ้นมาแล้วก็ เบา แล้วก็ขึ้นมา หายไป แบบนี้น่ะค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

รับไหวก็ดีแล้ว คิดว่ารับไม่ไหวน่ะค่ะ ห่วงว่า กลัวจะท้อแท้เอาน่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

สภาวะนี้ปกติใช่ไหมคะพี่

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ ตามสภาวะ ไม่มีอะไรค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

งั้นก้ดูตามจริงดีกว่าค่ะ ตอนทุกข์มากๆของหมู คือปรามาสน่ะค่ะพี่ ที่ผ่านมา

สุขที่แท้จริง says:

สังเกตุดูนะคะ เวลาสภาวะเกิดนี่ ดูเหมือนเราจะทุกข์ไปกับมัน แต่พอเราไปอยู่กับทางโลก
เวลาอะไรมากระทบ เรานิ่งมากกว่าเดิม ไม่ไปโวยวายหรือโกรธคนอื่นๆเขาเหมือนเมื่อก่อน
คือ จะรู้สึกว่า ชีวิตทางโลก ใจน่ะมันจะเบาสบายมากขึ้น
แบบเราจะทุกข์แค่ในสภาวะเวลาปฏิบัติ พออกจากการปฏิบัติ ทุกข์ตรงนี้หายไปทันที


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ ตอนนี้หมูลองทบทวนตัวเองนะคะ
ก็มีสิ่งที่ต้องก้ไขปรับปรุงเยอะมากค่ะ เรื่องสำรวมอินทรีย์

สุขที่แท้จริง says:

ไปเจออะไรมาหรือคะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ก็ 1 ชอบยุ่งเรื่องขาวบ้าน แบบที่เล่าให้พี่น้ำฟังไงคะ
แล้วก็ ชอบส่งออกนอกต้องหาอะไรอ่าน ไม่ยอมมาดูตัวเอง
ถึงจะอ่านหัวข้อธรรมก้อเถอะค่ะ แล้วก็ ยังขาดสติ เวลาพูดจา พอพลั้งไปแล้วก็รู้สึกผิด
ขาดการสำรวม หลายๆอย่างค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ พอสติดีมากขึ้น หิริโอตัปปะจะเกิดเหมือนเงาตามตัว

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

สว่นเรื่อง ของการกระทบทางโลก ก็พอกระทบก็โกดเขานั่นแหละค่ะ
เพียงแต่จะระงับได้บ้างไม่ออกมา แต่ก็โกด ปรุงหลายรอบ

สุขที่แท้จริง says:

ดีแล้วค่ะ ยอมรับตามความเป้นจริงในสิ่งที่ยังเป็นอยู่ และมีอยู่

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะเห็นความเห็นแก่ตัว สิ่งที่ไม่ควรทำมีมาก ขอบคุณพี่น้ำมากนะคะ

สุขที่แท้จริง says:

หมูต้องขอบคุณในความเพียรของตัวเองนะคะ
ที่ยังทำต่อเนื่องได้ โดยไม่ถอดใจเลิก
มีคนจำนวนมากที่ไม่เข้าใจสภาวะ ยิ่งทำยิ่งเห็นกิเลส


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ หมูก็ว่ามันเข้าใจยากเหมือนกันค่ะ เพราะว่ามันจับต้องไม่ค่อยได้
แบบต้องเจอบ่อยๆ น่ะค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ แล้วจะเห็นความน่ารังเกียจในตัวเองที่ไม่เคยมองเห็นมัน
คิดว่าตัวเองดี แต่ไม่เคยมองเห็นส่วนเลวของตัวเอง มองแต่ชาวบ้าน จับกลุ่มร่วมนินทากับเขา
โอ๊ยยย .. สร้างเหตุไปด้วยความไม่รู้มากมายย


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ ใช่ค่ะ จิงๆ มากๆค่ะ ว่าตัวเองนะคะ บางทีเราอยู่ตรงนั้นด้วย ก็ต้องเงียบไว้ก่อน

สุขที่แท้จริง says:

อดีตนี่ฝังดินแล้วกระทืบๆให้จมธรณีไปเลย
เคยทำมาแล้วทั้งนั้นแหละค่ะ ไม่งั้นพูดไม่ถูกหรอก โง่มาตั้งนาน ดีไม่โง่ไปจนตาย


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ตอนนี้หมูเจอเหตุการนี้อยู่ค่ะ อยู่ในกลุ่ม ต้องตั้งสติ

สุขที่แท้จริง says:

อยากจะให้หมูลองเดิน 60 นาที นั่ง 30 จะดูว่าหมูจะหลับอีกไหม

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เปลี่ยนจาก 90/25

สุขที่แท้จริง says:

ใช่ค่ะ ถ้าหลับอีก ก็คงกลับมาแบบนี้

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

แต่ว่า ขนาด 90/25 ยังหลงไป งุบเลยนะคะ

สุขที่แท้จริง says:

งั้น 60/25 ก็ได้ค่ะ งุบนี่ เหมือนคนสัปหงกใช่ป่ะ หมายถึงหัวสัปหงกลงไปใช่ไหมคะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ใช่ค่ะพี่

สุขที่แท้จริง says:

งั้นลอง 60 /25

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ได้ค่ะ อันนี้ก็จะเพิ่มสมาธิ มากขึ้น ใช่ไหมคะ

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ แล้วเหลือ 30 จาก 90 น่ะ หมายถึงถ้าทำรอบเดียว จะให้เอาจาก 30 นี่
มาเดิน 20 นั่ง 10 ลองดูก่อนน่ะค่ะ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ได้ค่ะพี่

สุขที่แท้จริง says:

ก็จะกลายเป็นสองรอบ
แต่ถ้าทำสองรอบใหญ่ ให้ 60/25 ส่วนรอบสอง ก็ปกติที่หมูเคยทำ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อ่อค่ะ ทวนนะคะ ทำย่อยก็ เดิน 20/10 แบบนี้สองรอบ

สุขที่แท้จริง says:

ไม่ใช่ คือ ถ้าทำรอบเดียว ปกติ 90/25 ถูกไหม ที่นี้ ให้ลดลงเป็น 60/25
มันจะเหลืออีก 30 นาที จากเดินน่ะ ให้นำมาเดิน 20/10 เป็นรอบที่สอง


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อ่ออออออออ เก็ทละค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

จ้ะ ถ้าวันไหนทำสองรอบใหญ่ ก็รอบแรก 60/25 ส่วนรอบสองแล้วแต่หมู
ลองแบบนี้ก่อน จะดูว่ายังมีหลับอีกไหม


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ เด๋วเริ่มพรุ่งนี้นะคะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

รอบ 2 40/15

เดินก็รู้เท้า แต่มันก็ไหลไปกะคิด ก็รู้ทั้งเท้าและอารมณ์ที่กลางอก
อารมณ์ทุกข์ที่เกิดขึ้นเพราะจิตไปสนใจความคิด ขึ้นมา แล้วก็แปรเปลี่ยนไป
แล้วก้อขึ้นมา บางทีรุ้ลงไปความทุกข์ความไม่พอใจก็เบาหายไป แล้วก็พอไปหลง
อยู่กะคิด ก็มาอีก เป็นแบบนี้เนืองๆ มีเวทนาเจ็บ + คัน เจ็บแบบมดกัด แล้วก็หายไป
มีเวทนาอย่างอื่นอีกแต่จำไม่ได้ มาแล้วก็ไป

รอบนีhเห็นว่าเวลาเผลอหลงไป มันจะหลงไปคิดอกุศล ชอบเพ่งโทษหรือติเตียนชาวบ้าน
ชัดมากๆ ตอนจะจบนี่ชัดเลย ดีที่เสียงนาลิกาปลุกหมดเวลา มันถึงหลุดออกมาพอดี
เริ่มคิดอคติต่อว่าไปแล้วด้วย มันหลงไปจริงๆ

พอมานั่ง ก็รู้กายนั่งรู้ท้องขยับเบาๆ ตามการหายใจ แล้วก็หลงไป รอบนี้รู้ว่าหลง
ไปอยู่ในโลกของความคิด เหมือนสร้างนิยายเห็นเป็นภาพ เห็นระหว่างเกิด แล้วก็เห็นตอนภาพ
ที่ปรุงมันหายไปแล้วก็มาอยู่กะกายรู้ท้องขยับเบาๆต่อ แล้วก็หลงไปสร้างภาพ อีกแล้วก็เห็น
ตอนภาพที่ปรุงมันหายไปอีก แล้วก็มารู้ท้องขยับอีก จนจบเวลา

สุขที่แท้จริง says:

ก็คุยเยอะอ่ะนะเมื่อกี้ พอไปทำรอบสองมันก็ฟุ้งน่ะ จริงๆแล้วไม่ควรคุยก่อนที่จะทำกรรมฐาน
พี่ก็คิดว่าเราทำแค่รอบเดียวเลยคุยด้วย


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อ่อ ค่ะ ตอนแรก ก้กะจะทำรอบเดียวแหละค่ะ แต่ไปๆมาๆทำอีกดีกว่า สะสมไป

สุขที่แท้จริง says:

ดีแล้วค่ะ ถ้าทำได้น่ะมันดี ดีสำหรับตัวเรา ดูพี่สิ 3 เดือนผ่านมา
เดือนนี้เดือนที่ 4 สภาวะเริ่มกลับมาปกติ สมาธิเริ่มจะคงที่
จากไม่มีสมาธิเลยน่ะเห็นไหม


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เร็วจิงๆค่ะ ยังทึ่งไม่หาย จากไม่มีสมาธิ
ตอนนี้ก้พักได้เหมือนเดิมแล้วสิคะ

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ บางคืนก็นั่งทั้งคืนน่ะค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ดีจังพี่น้ำมีแรงแล้วนะคะ พี่น้ำไม่ชอบนอนปฎิบัติเหรอคะ

สุขที่แท้จริง says:

บอกตามตรงนะหมู พี่ชอบนั่งมากกว่านอนน่ะ นั่งแล้วสมาธิมันเกิดง่าย
แล้วก็เหมือนเราได้พักเต็มที่ถึงจะไม่กี่ชม.ก็ตาม บางทีแค่ชม.เดียวก็สดชื่นแล้ว


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ งั้นก้อดีนะคะ ประหยัดเวลา แถมได้ทำความเพียร

สุขที่แท้จริง says:

เวลาที่เหลือนี่มีค่ามากๆเลยนะ
พี่ไม่รู้ว่าเวลามันจะเหลือให้เราได้อยู่ในโลกใบนี้ได้อีกนานเท่าไหร่
ก็พยายามทำให้มากเท่าที่จะมากได้ สะสมหน่วยกิตไปเรื่อยๆ
เรื่องจริงน่ะหมู สักวันเราต้องตาย


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ พูดแบบนี้ทีไร เสียวทู๊กที แต่ก็จริงค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

แล้วลองนึกสภาวพนะ คนที่กำลังขาดลมหายใจน่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

โอย ดิ้นปัดๆสิคะ อ่ามันทรมานิคะ

สุขที่แท้จริง says:

นั่นแหละ ขาดสติ พอขาดสติจิตมันก็จะระลึกถึงส่งที่ระลึกได้ตอนนั้น
นั่นน่ะไปตามนั้นเลย ถ้ามีสติ ไม่ทรมาณหรอกค่ะ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อย่างหมูฝึกๆแบบนี้ ก็จะมีสติได้ใช่ไหมพี่ แบบทำไปเรื่อยๆ สะสมไป

สุขที่แท้จริง says:

อิอิ .. ต้องลองตายสักครั้งมังคะ ถึงจะเจอคำตอบ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

กรี๊ด แต่ชาติที่แล้ว บุญนักหนา ที่ตายแล้วได้มาเป้นคน

สุขที่แท้จริง says:

ก็เรื่องจริงนี่นา ดูปุ๋ยสิ เขายังเจอมาแล้วเลย เขาถึงได้เข้าใจในสิ่งที่พี่พยายามบอก
ว่าทำไมให้ทำความเพียรอย่าให้ขาด ช่วงรอยต่อของจิตนี่สำคัญมากๆ
พี่หมายถึงความสำคัญของสติในยามที่เรากำลังจะหมดลมหายใจน่ะ
เถอะค่ะ สภาวะของหมูตอนนี้ เรื่องความตายอาจจะดูน่ากลัวถ้าพูดคุยด้วย
แค่เล่าสู่กันฟัง ให้รู้ไว้ว่า เวลาจะตาย สติ สัมปชัญญะ สำคัญมากๆขนาดไหน
จะได้ไม่ประมาท


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เสียวจริงๆ หมูเจอทุกขเวทนาเยอะก็ดีแล้วค่ะ จะได้ฝึกเรื่องนี้ไปในตัว นี่ก็ตาเหลือกเลย

สุขที่แท้จริง says:

ทุกขเวทนาที่หมูเจอตอนนี้น่ะ ยังจิ๊บๆนะ แต่ละคนเจอไม่เหมือนกันหรอก

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ หมูก็คิดแบบนั้นค่ะ คงเทียบไม่ได้กะตอนขาดลมหายใจ สงสัยต้องลองกลั้นลมดู

สุขที่แท้จริง says:

นั่นแหละถูกแล้ว และลองนึกถึงเวลาเจ้บป่วยสิ เวลาเจ็บปวดจะทำยังไง

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ ยังไงแก่ก็ต้องเจ็บ เจ็บก็ต้องตาย

สุขที่แท้จริง says:

ใช่ การได้ฝึกทุกขเวทนา แค่นี้นะ ยังไม่เท่ากับคนที่เขาเจ็บป่วยหรอก

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ ตอนนี้ขอแค่นี้ก่อนนะคะ

สุขที่แท้จริง says:

ชีวิตพี่น่ะ คลุกคลีกับสิ่งเหล่านี้มาตลอด เกิด แก่ เจ็บ ตาย

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อ่านที่พี่น้ำเขียนเรื่องทางเดินแล้วน่ะค่ะ ตอนนั้นพี่น้ำคง เศร้าเหมือนกันนะคะ

สุขที่แท้จริง says:

เศร้ามากๆเลยแหละ ก็ชีวิตของตัวเองแท้ๆ แต่โดนคนอื่นลิขิต ถึงแม้จะเป็นพ่อของเราก็ตาม

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

แล้วเพื่อนอาชีพเดียวกันเขารู้สึกเหมือนพี่นำไมคะ

สุขที่แท้จริง says:

ไม่รู้สิ พี่ไม่เคยคุยเรื่องนี้กับใครๆ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ พี่น้ำถูกปูทางไว้หมดเลย ให้เดินมาทางนี้

สุขที่แท้จริง says:

ใช่ เวลาโดนถามว่าทำไมทำอาชีพนี้ พี่จะตอบว่า พ่อขอร้องงง
มันคงมีเหตุน่ะหมู เรื่องบังเอิญในโลกใบนี้ไม่มีหรอก


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

บางทีนะคะ พี่น้ำอาจจะเคยอธิษฐานไว้แต่ก่อน ว่าขอให้แบบสิ่งแวดล้อม แบบนี้

สุขที่แท้จริง says:

พี่เป็นคนไม่มีเป้าหมาย ไม่มีจุดหมายในชีวิต ไม่เคยอยากได้อะไร ไม่มีฝัน ไม่มีอะไรเลย

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ ตกลงพี่น้ำงงกะสภาวะเหรอคะ

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ พี่กำลังงกับสภาวะของตัวเอง ว่าสภาวะเขามาทดสอบอะไรอีก
หรือมีอะไรที่ยังต้องชดใช้กันอีก พี่ก็พยายามทำดีที่สุดแล้ว
ถ้าต้องมีการชดใช้อีกก็ต้องยอม


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ด่านนี้ ยากจังนะคะ ยาวนาน

สุขที่แท้จริง says:

ใช่ โดนทุกรูปแบบเลยด่านนี้ พี่คงสร้างเหตุไม่ดีไว้เยอะมากๆเลยในอดีต
แค่ที่เคยระลึกได้ ก็จัดว่าร้ายโคดๆเลย ในอดีตชาติ พี่ถึงเกลียดตัวเองไง ใจร้ายมากๆ
เขาเหล่านั้นเลยมาทวงคืนสิทธิอันชอบธรรมของเขา


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ง่าพี่น้ำขอ...แล้วนี่คะ

สุขที่แท้จริง says:

ขอก็ต้องชดใช้ค่ะ การขอคือ ไม่จองเวรต่อกันอีกต่อไป แต่ที่เราทำกับเขาไว้ล่ะ
ไม่งั้นทุกคนก้สบายสิ ไม่พอใจใคร ตีหัวดครม แล้วยกมือไหว้ ขออโหสิกรรมเด้อ
ตีเพราะหมั่นไส้น่ะ คนถูกตีก็ฟาดเข้าให้มั่งสิ ใครจะไปยอมล่ะ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ก็จริงค่ะ สมมติเขาฟาดใส่พี่ แล้วพี่อโหสิจริงๆ เขาก็จะไม่โดนฟาดแล้วใช่ไหมคะ

สุขที่แท้จริง says:

การขออโหสิกรรมคือ ต่างคนต่างยอมความกัน ไม่จองเวรกัน แต่กรรมมันยุติธรรมนะ
เราอโหสิให้ แต่มันจะมีมือที่ 2,3,4 ต่อไปเรื่อยๆน่ะมากระทำแทนเรา
คือ เขาจะโดนคนที่มีวิบากหรือเคยสร้างเหตุร่วมกับเขามาน่ะ มาฟาดเขาแทนพี่
พี่น่ะจบแล้ว แต่เขาน่ะต้องชดใช้ ส่วนที่พี่ดดนเขาฟาดน่ะ นั่นคือ ใช้หนี้เขาไปแล้ว
วงจรอุบาท์น่ะหมู


ไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

งั้นหนี้จบจริงๆเมื่อเราโดน แล้วเราหยุด กรรมนี่ไม่เข้าข้างใคร

สุขที่แท้จริง says:

เขาเรียกปฏิจจสมุปบาท พี่เรียกวงจรอุบาท์ เพราะมันอุบาท์จริงๆ
ก่อเวรก่อกรรม ก่อภพก่อชาติไม่รู้จบ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อืมมม ออกเสียงคล้ายกันนะคะ

สุขที่แท้จริง says:

ความหมายเดียวกันแหละ หยุดเมื่อไหร่ จบเมื่อนั้น

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เราทำให้คนอื่นทุกข์ กรรมไม่สนหรอกว่าสาเหตุคืออะไร ใครเริ่มก่อน
มันก็ต้องได้ผลทุกข์ แต่ก่อนจะ คิดว่าอันนี้ทำได้เพราะเขาเริ่มก่อน
ชั้นทำได้ ถุกต้องแล้ว

สุขที่แท้จริง says:

ใช่หมู เพราะความไม่รู้นี่แหละ ถึงได้ก่อภพก่อชาติกันไม่รู้จักจบสิ้น เมื่อรู้แล้วถึงจะหยุดได้
ถ้าถามว่าจุดเริ่มต้นจากใคร บอกได้เลย ตัวเราน่ะแหละ
เราทำเขา เขาก้ทำเรา เราไม่ทำเขา เขาจะมาทำเราได้ไง ทุกอย่างมันมีเหตุนะ
ไม่ใช่จู่ๆผลจะมาเฉยๆ

เรากำลังสร้างเหตุดีค่ะ ฉะนั้น เมื่อเจออะไรหลายๆอย่างที่ไม่ดีตอนนี้
นั่นคือผลที่เกิดจากเหตุที่เราทำไว้ในอดีต
ยอมรับอย่างเดียว อย่าหนี อย่าต่อสู้ แต่จงมีสติรู้อยู่


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

กำลังพยายามอยู่น่ะค่ะ ตอนนี้ต้องละหลายๆอย่าง เพราะรู้ว่า มันขวางทางเดิน

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ เจริญสติต่อไปค่ะ

สร้างเหตุดี ผลย่อมดีอย่างแน่นอน ดีกว่าไปลงนรกค่ะ นรกน่ากลัวมากๆนะคะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

โอยค่ะพี่ กลัวอะค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

กลัวก็ต้องเจริญสติต่อไป

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ กลัวตั้งกะเด็กแล้วค่ะ อันนี้เป็นสาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้สนใจธรรมมะ
นอนๆอยู่แล้วสะดุ้งกลางดึก เพราะมีเสียงเตือนตัวเองว่า ปล่อยไว้ จะไปนรกนะ

สุขที่แท้จริง says:

พี่น่ะ จะชอบได้ยินเสียงดนตรีไทย แบบไกลมากๆ บางทีก็จะเป็นเสียงสวดมนต์
รู้ว่าเป็นเสียงสวดมนต์ แต่ฟังไม่ออก ไม่ใช่ภาษาแบบที่เราสวด
แหมมม ... ถ้าไม่มาเจริญสตินะ คงจะได้เห็นอะไรต่อมิอะไรอีกแน่นอน
แต่ไม่แตะต้อง ไม่ยุ่งเลย ครูบาฯสั่งไว้ว่า ทิ้งให้หมด ให้ดูตามความเป็นจริงอย่างเดียว
ท่านบอกว่า เรื่องพวกนี้ หรือ สิ่งเหล่านี้จะดูเมื่อไหร่ก็ดูได้ แต่ตอนนี้ห้ามแตะ
ก็ดีนะ รู้ แต่ทำไม่รู้ หัวเราะอะไรคะ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ก็คือ คนอยาก รู้ เยอะแยะน่ะค่ะ ไม่ได้รู้ คนรู้ต้องแกล้งไม่รู้
คิดถึงเรื่อง ที่ฟังมาด้วยค่ะ พระที่ท่าน อยู่สงบๆ ท่านเห็นโยมนั่งรถมาเป็นคัน
ท่านเดินไปคุยกะกำแพง โยมจะได้ไม่มายุ่ง

สุขที่แท้จริง says:

เข้าใจในความรู้สึกของท่านนะคะ ว่าทำไมท่านต้องทำแบบนั้น บางทีก็น่ารำคาญนะ
พี่เองก็เคยเป็นแบบนั้น ตอนช่วงที่ว่า คนมาหาแล้วให้มาดูโน่นดูนี่กัน


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ หมูพอจะคิดภาพออก มันคงวุ่นวาย

สุขที่แท้จริง says:

ใช่ พี่ถึงไม่ชอบสอนใคร ขอแบบนี้ดีกว่า สบายดี ไม่ต้องตาม
ใครอยากได้ความรู้มาเลย ใครไม่ไหวจะไปก็ไปเรื่องของเขา ทุกอย่างมันมีเหตุ
อะไรๆที่เราเคยผ่านมาแล้วน่ะหมู มันจะพลิกแหลงได้หมด เหมือนเรื่องการทำกสิณที่พี่เคยพูดน่ะ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ จำได้ค่ะตั้แต่เด็กๆ

สุขที่แท้จริง says:

ก็ได้นำมาใช้ตอนที่ไม่มีสมาธินี่แหละ แต่เป็นกสิณลมแทน
ไม่ต้องไปหานอกตัว เพ่งลมในตัวเรานี่แหละ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เป็นความสามารถส่วนบุคคล ห้ามเลียนแบบ

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ แล้วแต่ความชำนาญของแต่ละคน

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ม.ค. 2010, 01:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


วันที่ 152


ม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เสร็จแล้วค่ะพี่ รอบแรก 60/25

เดินรู้เท้า มีความคิดและอารมณ์ที่กลางอกตลอดเวลาหากไปร่วมคิดก็จะมัวและทุกข์
หากอยู่กับการเดินก็จะชัดและไม่ทุกข์มาก

มีความพอใจซึ่งเกิดขึ้นหลังจากไปปรุงแต่งความคิด รู้ว่ามีก็ดับไป
มีเผลอหลงไปนานๆประมาณครึ่งรอบการเดินแล้วก็กลับมารู้กายใหม่

เมื่อเผลอร่วมวงไปกับความคิดมากขึ้น กำหนดรู้หนอหายใจยาวๆ 3 ครั้ง
แล้วบริกรรมกำกับการเดินในใจ สักพักทิ้งคำบริกรรม เพื่อความสะดวก
แล้วสลับกับบริกรรมใหม่อีก

มีความรู้สึกว่าความทุกข์ที่เกิดขึ้นเป็นของไม่จริง เพราะแค่กายเดิน
แต่เมื่อไปยุ่งกะความคิดก็ไหลไปอยู่ในอารมอันมากมายก่อให้เกิดทุกข์ขึ้นมา
เมื่อออกมาจากอารมกลางอกความทุกข์นั้นก็หายไป

ในภาพรวมคือรู้กายแต่ยังไหลไปปรุงแต่งบ่อยๆ ทำให้มีอารมณืทุกข์เกิดขึ้นถี่
ส่วนเวทนาตอนเดินมีมดกัด มีเจ็บแปล๊บๆที่เท้า และเจ็บเหมือนโดนทิ่มเป็นจังหวะ
รู้มันสักพักก็หายไป ๆ

พอมานั่งพยายามอยู่กับกาย รู้ได้ตอนต้นว่าท้องขยับ และกายสัมผัสพื้น
แล้วใจก็หลงไปปรุงแต่งภาพ จำไม่ได้ว่าภาพอะไร แล้วก็กลับมารู้กายใหม่ แล้วก็ไปใหม่
แล้วก้อกลับมากายใหม่ เป็นแบบนี้จนจบ

รอบ 2 เดิน 60 นั่ง 20

ตอนเดินรู้เท้าและก็คิดรอบนี้มีหลงเพลินไปคิด รู้เท้าแตะๆ มีเวทนาเจ็บเป็นจังหวะ ที่ขา
และส่วนอื่นๆของกาย แล้วดักพักก็หายไป มีความมัว ความง่วง สักพักก็มีช่วงที่หลุดจากความคิด
มารู้สึกถึงการมีอยู่ของกายในปัจจุบันชัดแต่แวบเดียวแล้วก็กลับเป็นแบบเดิม มีความไม่พอใจ
รู้แล้วก็เบาๆ หายไป มาไม่เยอะ มีความคิดอยากปฎิบัติให้มากๆ

พอมานั่งก็รู้กายนั่งได้ตอนต้น แล้วมีเวทนามดกัด มดเดินที่แขน
ไม่สนใจก็ลืมสภาวะนั้นไป มีง่วงๆ แล้วจำไม่ค่อยได้ตอนนั่งรู้สึกว่ามันนานมากๆ แล้วก็หมดเวลา
จบแล้วค่ะพี่

สุขที่แท้จริง says:

ช่วงนี้เจอแต่เวทนานะคะ เดินก็เจ็บ นั่งก็มดกัด

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ ทางกาย และก็ใจค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

เดี๋ยวสติดีขึ้น จะดีเองค่ะ
จากเท่าที่พี่มองๆมานะ สภาวะของหมูนี่ เรื่องที่ทำงาน งานที่ทำ ก็ส่งผลมาที่สภาวะด้วย
ความเครียด ความเหนื่อยกับงาน ก็วันไหน ถ้ากลับมามันรู้สึกล้า รู้สึกเบื่อ รู้สึกเหนื่อย
ให้เดินรอบแรก 30 นั่ง 15 แล้วถ้าคิดว่า ทำต่อไม่ไหว ก็นอนกำหนดเอา ถ้าทำต่อได้
ค่อยทำแล้วกำหนดเวลาเอาเองค่ะ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อืมๆค่ะ จริงๆแล้ว ก็อยากทำทุกวันแหละค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

อย่างสภาวะวันนี้ หมูได้กลับบ้าน ได้พัก หมูจะไม่มีสภาวะเหนื่อยออกมา

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ใช่ค่ะพี่ หมูสังเกตตัวเอง วันที่มีสภาวะเหนื่อยนี่จะมี 2 แบบค่ะ
แบบแรกคือเหนื่อยงานจริงๆ กะแบบที่ 2 นี่เจอเหตุการณ์ไม่พอใจจากคนรอบข้างเยอะ

สุขที่แท้จริง says:

ทุกๆสิ่งที่มากระทบ ถ้าสติเรายังไม่ทัน ก้ต้องเหนื่อยแบบนั้นแหละค่ะ
เหนื่อย เบื่อ ขี้เกียจ แบบไหนดีกว่ากันล่ะ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

หมูว่ามันตระกูลเดียวกัน

สุขที่แท้จริง says:

ไม่เหมือนกันนะคะ เหนื่อยมีหลายแบบ เบื่อมีหลายแบบ แต่พอบอกว่า ขี้เกียจนี่
ไม่ต้องอธิบายต่อเลย


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

หมูว่ามันทุกข์เหมือนกันน่ะค่ะ แต่เข้าใจแบบที่พี่น้ำว่านะคะ ถ้าขี้เกียจนี่ยาก

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ เพราะเราไม่อยากเกิดมีอาการแบบนั้น คือ ไม่อยากให้มีอาการแบบนั้นเกิดกับเรา

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ใช่ค่ะ ไม่อยาก แต่ว่า

สุขที่แท้จริง says:

แต่เราปฏิเสธความจริงไม่ได้

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ใช่ค่ะ ตอนปฎิบัติ ความทุกข์นี่เป็นรื่องปกติ ความไม่พอใจนี่ก็ปกติ

สุขที่แท้จริง says:

สติไงคะ สติกับสมาธิที่เอาจิตเฝ้าดูอยู่ พออกกรรมฐาน แป่กเลย สติไม่ทัน

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ ก็พอไม่ได้ทำ เวลาอื่นๆ

สุขที่แท้จริง says:

ทำไปค่ะ วันใดสติมีกำลังมากพอ เราจะอยู่กับสิ่งเหล่านี้ได้

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

บางทีความทุกข์มันขึ้นมา ก็ต้องลุกมาทำ น่ะค่ะ ต้องอยู่กะกายถึงจะบรรเทาไป

สุขที่แท้จริง says:

ใช่ค่ะ พออยู่กับกายได้ ค่อยยังชั่วขึ้น

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

มันก้ยังทุกข์นะคะ ไม่ได้หายไป แต่ว่าไม่ได้จมลงไป หมูรู้สึกเหมือนมันเป็นกระแส
เหมือนแม่น้ำที่ไหลไป อารมณ์ทุกข์และการปรุงแต่งน่ะค่ะ
รู้สึกตัวเอง ยังจมอยู่ในนั้น แต่แบบบางที มาก บางทีก็อยู่ที่ตื้นก็จะทุกข์ไม่มาก

สุขที่แท้จริง says:

เกิดจากตัวเราทั้งนั้นแหละค่ะ วันใดเราเข้าใจตัวเราได้ ทุกข์น่ะเพราะอะไร สุขน่ะเพราะอะไร
ใจมันจะเบาลงไปเรื่อยๆ สิ่งกระทบต่างๆส่งผลน้อยลง


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่

สุขที่แท้จริง says:

หมูมีอะไรจะถามอีกไหมคะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ไม่มีแล้วค่ะพี่น้ำ ขอบคุณมากนะคะ

สุขที่แท้จริง says:

การส่งอารมณืนี้ เพื่อผู้แนะนำจะได้ปรับอินทรีย์ให้ว่าควรเพิ่มหรือลดอะไร
ผู้ปฏิบัติเองน่ะ มองตัวเองไม่ออกหรอก แยกไม่ได้
เพราะ ไม่ว่าใครจะอะไรแบบไหน แต่กิเลสคงสภาพ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ ตอนนี้ หมูไม่กล้า คิดลบกะใครเลย เนี่ย เฮ้อ ถ้ามีสตินะคะ

สุขที่แท้จริง says:

กิเลสน่ะหมู โกหกไม่ได้หรอก ตัวกิเลสมันจะแสดงออกมา

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ล่าสุดหมูละอ้ายละอาย ที่เล่าให้พี่น้ำฟังจำได้ไหมคะ
เรื่องร้านหมูกระทะที่มีกุ้งสด แล้วให้ลูกค้าน็อกคกุ้ง
แล้วให้ลูกค้าน๊อกกุ้ง ตอนนั้นก็คิดตำหนิในใจใช่ไหมคะ แล้วกลายเป้นว่า
ไปอุดหนุนด้วยความไม่รู้ ที่ไปกินล่าสุดน่ะค่ะ ไม่รู้ว่าที่นั่นก็มีแบบนี้แต่หมูไม่ได้กิน
กุ้งที่เขาอามาสดๆ แต่ก็เศร้าเลย

สุขที่แท้จริง says:

ดีแล้วค่ะ อย่าไปคิดตำหนิติติงอะไรๆอีก

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

บางทีเราไม่รู้ตัวเลยนะคะว่าเราตำหนิ

สุขที่แท้จริง says:

ทุกอย่าง มันจะย้อนกลับมาหาที่ตัวเราหมด

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อย่างพี่น้ำบอก ถ้าไม่เจริญสติ ไม่รู้การควรไม่ควรจริงๆค่ะ มันละเอียดมากๆ

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ ถ้าไม่ได้มาเจริญสติ จะไม่มีวันเห็นรายละเอียดต่างๆได้ จิตมันไวค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ พี่คะ อะไรที่รู้แล้ว เห็นแล้ว มันกลับไปลืมได้หรือคะ

สุขที่แท้จริง says:

การกระทำทุกอย่าง หากยังไม่ได้ที่ ยังไม่ได้ระดับของความมั่นคง เมื่อหยุดทำ
ย่อมถดถอยลงไปได้ แต่พอมาทำต่อ มันจะค่อยๆกลับคืนมาค่ะ

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ม.ค. 2010, 23:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


วันที่ 153


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ พูดว่า:
เสร็จแล้วค่ะพี่ รอบแรก 60/25

ตอนเดินรู้เท้า และก็รู้ว่ามีความคิด มีมดกัด 2ครั้งได้ค่ะ แล้วไม่ได้สนใจมองมัน แล้วมันก็หายไป
ก็ปวดขาน่ะค่ะ ก็ต้องค่อยๆเดิน มีความไม่พอใจ ก็รู้ มันไม่ได้หนักๆค่ะ

แล้วก็มีหลงไป แล้วมารู้สึกตัวอีก ก็มารู้กายเดินใหม่ค่ะ มีปรามาส ก็กำหนดรู้หนอ
ยังมีความไม่พอใจที่ปรามาสค่ะ แต่ไม่หนักมาก แล้วก็ทิ้งไป เดินต่อ อืมมันรู้การเดิน
แล้วก็บางที่ความคิดก็จะไม่ค่อยดัง แต่มันไม่ได้สงบแบบแนบแน่นค่ะ ก็แค่รู้ว่ามันเป็นแบบนั้น

พอมานั่ง ก็รู้กายนั่งได้ค่ะ กายที่ถูกพื้น ท้องขยับเบา ใจไม่ได้จดจ่อเข้าไปใกล้ท้องค่ะ แต่รู้
แล้วก็หลงไปคิด ไร้สาระ แล้วก็มารู้กายอีกค่ะ แบบแบบนี้หลายครั้ง แล้วก็มีคิดถึงการปรามาส
ก็ขอขมาในใจไป แล้วนั่งดูกายต่อ มีเวทนาเหมือนอะไรไชเท้า

พอมารอบ 2 เดิน 20 นั่ง 10 ตอนเดินก็รู้เท้า แล้วก็มีคิดเหมือนเดิม มันก็รู้คู่กันน่ะค่ะ
ไม่ได้ลงไปจมในความคิดแบบหมกมุ่นนะคะ มีคัน มีหลงไป แล้วก็มารู้การเดินใหม่

พอนั่งก็รู้ท้องขยับเหมือนเดิมค่ะว่ามันไม่ได้จดจ่อที่ท้องแต่รู้ท้องขยับเบาๆ
มีคันต้องเกาค่ะ จบแล้วค่ะพี่ อ้ออีกนิดค่ะ ก่อนจะปฎิบัติ โกรธแม่มาค่ะ
ก็จะทนไม่ไหวแล้ว จะโวยวาย ก็เลยเข้าห้องแล้วเดินจงกรม ดูความรู้สึกโกรธไป

เห็นมันปรุง แล้วความแน่นหน้าอกเกิดขึ้น เห็นพยาบาท แล้วก็พิจารณา
ว่าทำไมโกรธ ขนาดนี้ ก็รู้สึกว่า เพราะมีตัวเรา ตัวเราร้ายกาจขนาดนี้เลย
แตะต้องไได้เลยกระทบไม่ได้เลย แล้วมันก็ในความโกรธ มันก็มีความไม่โกรธ
เหมือนความโกรธเป็นเปลือก อ่า แต่ข้างในมันเริ่มไม่โกรธ

แล้วก็รู้สึก อยากไปปรนนิบัติเขาน่ะค่ะ เลยเข้าไปนวดแล้วดูใจตัวเอง
บางที่ก็มีแน่นๆ แล้วมันก็หายไป ไม่ได้ตกค้างอะไร จบแล้วค่ะ

สุขที่แท้จริง พูดว่า:
วิบากกรรม เราทุกคน ไม่เคยมีใครไม่เกิดมาเป้นพ่อ แม่ พี่ น้อง สามี ภรรยาฯลฯ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ พูดว่า:
ค่ะพี่ ก็คิดแบบนั้นเหมือนกันค่ะพี่

สุขที่แท้จริง พูดว่า:
แผ่เมตตาไปนะคะ เวลาโกรธก็หายใจยาวๆ กำหนดรู้หนอๆๆๆๆ
ชาตินี้เขาเกิดเป็นแม่เรา แม่เราหนอๆๆ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ พูดว่า:
ค่ะพี่ ตอนนั้นมันแผ่ไม่ออกเลยอะค่ะ

สุขที่แท้จริง พูดว่า:
เปล่าค่ะ ไม่ใช่ไปแผ่ตอนนั้น ตอนนั้นให้หายใจยาวๆแล้ว กำหนด
แผ่นี่คือ หลังปฏบัติ ให้แผ่เมตตากรวดน้ำ เอ่ยชื่อแม่ด้วยนะคะ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ พูดว่า:
อ่อ ทำอยู่ค่ะพี่

สุขที่แท้จริง พูดว่า:
นั่นแหละ ชดใช้เขาไปค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ พูดว่า:
ค่ะพี่ก็ค่อยยังชั่วเลยค่ะ พอพิจารณาอารมณ์ตรงๆ

สุขที่แท้จริง พูดว่า:
เข้าใจนะคะ เรื่องแม่

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ พูดว่า:
แบบนี้รู้สึกใจสบายโปร่งดีด้วยค่ะ มันไม่ได้เก็บกดน่ะค่ะ
แต่ก่อนเอาความคิดเข้าข่มแล้วมันเหมือนคนเก็บกด
แล้วมันพร้อมจะขุดคุ้ยเรื่องเก่ามาโกรธ แต่แบบนี้มันเหมือน มันเบา

สุขที่แท้จริง พูดว่า:
ค่ะ ดีแล้ว เราทะยอยใช้หนี้เขาไป สักวันหนี้ย่อมหมดอย่างแน่นอน

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ พูดว่า:
ค่ะพี่

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ม.ค. 2010, 02:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


วันที่ 154


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

จิตใจก็มีความคิดของมันอยู่ตลอดปกติ เห็นกิเลส ไม่พอใจ ทุกข์ใจ ตามหลังความคิด
พอมันเกิดขึ้นมา ก็ดูมันพิจารณามันว่าเกิดจากอะไร ก็เห้นว่า มี "เรา"
ก็ความทุกข์ความไม่พอใจก็หายไปทันที ก็เดินต่อ

ก็มีเห็นความคิดปรุงแต่ง ที่มันส่งเสริม กิเลส ให้พอกพูนขึ้น อย่างเช่น ความคิดที่ชอบอกมาว่า
อือเห็นแบบนี้ๆ แล้วมันจะมีความพอใจ กะอีโก้ ความเป็นเราขึ้นรางๆ จากความคิดแบบนั้น

เดินๆไป ก็รู้เท้านะคะ แล้วก็คือมัน ก็รู้สึกว่า ถึงรู้เท้ายังไง ก็ยังคิด แล้วความคิดก็แบบ อะรไเนี่ย
ไม่มีต้นไม่มีปลาย คนระเรื่องคนระราว ขึ้นมาเอง แล้วก็หายไป แล้วก็มารู้เท้า

มันจะ วอบแวบๆ ตลอดเลย ธรรมชาติของมัน ก็รู้สึกแบบนั้นแล้วเหมือน จิตมันตกใจ
แล้วหายไป แต่ว่า ไม่รู้ตกใจอะไร คิดไม่ออก มันเหมือนจะรู้แต่ไม่รู้
ก็มีความอยาก อยากปฎิบัติ ตามหลังวามคิด ที่มีตัวเราอีกค่ะ
ก็รู้ไป มันก็เลยไม่ได้มีตลอด แล้วมีความง่วง มัว แล้วจิตมันจะชาๆ

แล้วก็ไปคิดอะกุศลกะผู้มีพระคุณ ก็เสียใจ
แต่ไม่ได้ลงไปคลุกมาก แต่ก็เสียใจเบาๆ อวลๆ

แล้วก็ละไปดูกายเดินต่อก็ ก่อนละ ก็กำหนดรู้หนอ ให้จิตมันจำได้ 3 ครั้ง
วันนี้ไม่มีพวกเวทนามดกัด มีแต่เจ็บขา ข้างขวา เจ็บเพราะไปนวดมา ค่ะ

แล้วก็พอมานั่ง ก็หลงไป หลับในนะคะ คิดว่า แล้วหลังๆ ก็เลิกหลับใน มารู้ที่จิต
เหมือนแบบอืมเลือกที่จะใช้จิต มารู้กายได้แล้ว ตอนแรกก็ขี้เกียจรู้นะคะ
แต่ก็เอามารู้กายนั่ง ที่ท้องขยับต่อ ก่อนที่จะมารู้กายที่บอกหลับใน
มันก็รู้สึกรางว่ามีงุบด้วย แต่จำไม่ค่อยได้ พอตอนหลังมารู้ที่จิตพอจะมีแรงใช้จิตดูกาย
ก็เลยมาดูกายจนจบค่ะ

สุขที่แท้จริง says:
ทำกี่รอบคะวันนี้

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เด๋วอีกรอบค่ะ จริงๆง่วง แต่ กลัวเสียนิสัย ไปก่อนนะคะ

เสร็จแล้วค่ะพี่ 60/20

เดินรู้เท้า ก็คิดเยอะ ไม่ค่อยมีสมาธิกะการเดิน แต่ยังรู้เท้าได้อยู่ มีเวทนา
เจ็บเหมือนเข็มตำที่ปลายนิ้วมือ มีร้อนผ่าวที่ผิว ที่ขาน่ะค่ะ ที่เจอเยอะคือ
อกุศลปรามาสะน่ะค่ะ มันจะขึ้น หรือขึ้นมาแล้ว เป็นความคิดไม่ดีในแง่ลบน่ะค่ะ
ก็กำหนดรู้หนอ มันเบาๆนะคะ ขึ้นไม่ชัดแต่มี ก็ไม่พอใจ พอรู้ว่าไม่พอใจ
มันก็เบาความไม่พอใจ แต่ไม่ดับทีเดียว ยังอวลๆ บางทีก็จะขึ้นมาแรงๆ

สักพักก็เปลี่ยนไปคิดเรื่องอื่นค่ะ มีกิเลสพวก ดูถูกคนอื่น ยิ้มเยาะคนอื่น
ปนมากะการหลงไปคิดค่ะ แล้วก็มีหลงไป คิดเรื่องอนาคต

ช่วงนั้น ก็รู้เท้าแต่รู้ว่ามีการเดินน่ะค่ะ ไม่ได้รู้เท้าจริงจัง นานเหมือนกันหลายรอบ
แล้วก็เอาใหม่ มาตั้งใจเดินอีกค่ะ

พอมานั่ง ก็รู้กายนั่งได้ช่วงต้นๆกะกลางๆค่ะ
รู้เป็นกายนั่งบ้าง ท้องพองยุบบ้าง แบบขยับเบาตามการหายใจน่ะค่ะ
แล้วนานๆไป จิตเริ่มเลื่อนลอยไม่มีแรง จนจบค่ะ หมดแล้วค่ะพี่ อ้อ มีจิตไม่ยอมรับสภาวะด้วยค่ะ

สุขที่แท้จริง says:
เจอกิเลสเพียบเลยย

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ใช่ค่ะพี่ จิตไม่ยอมรับสภาวะ ตอนนั้นเหนเรา ชัดเจนมากค่ะ

สุขที่แท้จริง says:
จิตมันยอมรับอะไรง่ายๆสะที่ไหนล่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
"เรา" ค่ะ

สุขที่แท้จริง says:
ต้องดูมัน เฝ้าดูมันไป กำหนดให้ทัน ถ้าเป้นอกุศลน่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
แล้วมันก็หายไปค่ะ ค่ะพี่ ก็พยายามดูความคิดให้ทัน คือ แบบไม่ให้หลงไป
มันหลงอยู่แล้ว แต่ว่า ความคิดอุศลน่ะค่ะพี่ พยายามจะทันมัน

สุขที่แท้จริง says:
จ้ะ ตอนนี้กิเลสมันแผลงฤทธิ์ ยิ่งสติดี มันยิ่งเจอน่ะหมู
เหมือนที่หมูนิมิตเลย จำได้ป่ะ ในที่นอนน่ะมีแต่ตัวปลวก


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
จำนิมิตรได้ค่ะพี่

สุขที่แท้จริง says:
นิมตใช้ได้เลยนะเนี่ย

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ตัวปลวก มุดเข้าไป อึย ตอนนั้นน่ะค่ะ
ยังคิดว่าเอาผ้ามาปูทับแล้วนอนจะได้ไหม แล้วก็ตกใจ ว่า เอ้ยขนาดผูกแข็งๆ
มันยังเจาะเข้าไปได้ ผ้ามันก็ออกมาได้ ต้องคอยจดจ้องที่ผ้า ว่ามันออกมาจริงหรือเปล่า
มันมีรูไหม ยังห่วงนอนนะคะนั่น ขนลุกเลยละค่ะ

สุขที่แท้จริง says:
อบอุ่นดีออกมีเพื่อนประหลาดๆร่วมเตียงเคียงหมอน

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
แหยะ มันอื้อหือ

สุขที่แท้จริง says:
ก็ให้รู้ว่านิมิตนะ ระวังนะ จิตมันจะติดใจ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ขอยืมไดม่อนมากอดดีกว่าค่ะ ค่ะพี่ จะคอบระวังไว้ค่ะ พี่น้ำเตือนอะไร โดนนทู๊กที

สุขที่แท้จริง says:
กิเลสมันกระโดดงับหัวใจเราตลอดเวลา

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะ ปฎิบัตินี่ นอกจะไม่ได้ ว่าปฎิบัติ

สุขที่แท้จริง says:
ทำต่อเนื่องดีแล้ว วันไหนรอบเดียวก็ทำแบบที่บอก วันไหนสองรอบก็แบ่งเวลาเอาเอง

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะพี่ ตอนนี้มันอยากทำเยอะๆหมูก็รู้ว่ามันเป็นกิเลส แต่ถึงไม่ทำก็กิเลส
ทำก้อกิเลส เลือกทำดีกว่า

สุขที่แท้จริง says:
เวลานอนอย่าลืมจับพองยุบล่ะ ได้มากได้น้อยเก็บหน่วยกิตไป
ถ้ามันหลับปล่อยให้หลับไปเลย ไม่ต้องไปดึงจิตกลับมา


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะพี่ ยังทำอยู่ทุกคืนน่ะค่ะ

สุขที่แท้จริง says:
นี่แหละกำไรชีวิต ทำไปนะ สติปัฏฐาน 4 ใครทำได้ ไม่มีคำว่าอดอยากเร้นแค้น
ยิ่งทำ ยิ่งนับวันเราจะอยู่กับความทุกข์และความสุขได้ โดยไม่ไปทุกข์หรือสุขกับมันมากเกินไป
ได้แค่นี้ชีวิตนับว่าประเสริฐยิ่งนัก ไม่เสียดายที่ได้เกิดมา ส่วนจะเป็นอะไรยังไงเรียกอะไร
ไม่ต้องไปสนใจ จะทำให้เกิดอุปทานไป ผู้ปฏิบัติส่วนมากไปไม่รอด เพราะติดอุปทานนี่แหละ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะพี่น้ำ คือว่า หมูก็ยังมีความอยากนะคะ คือจิตมันจะอยาก จะดิ้น อยากได้ บรรลุ
แต่ว่า มันเห็น กิเลสแล้วมันก็รู้

สุขที่แท้จริง says:
ดูกิเลสอย่างเดียวน่ะหมู

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะพี่ คือมันเห้นกิเลสแล้วหมูเข้าใจแล้วว่า ทำไม คนที่ผ่านสภาวะรอบแรก
ถึงได้ ไม่ต้องให้ใครมาบอก

สุขที่แท้จริง says:
คำว่า บรรลุ ก็แค่คำเรียก ยิ่งไปอาลัยใยดี ยิ่งอยากจนหยดสุดท้าย
จิตงี้ดิ้นพราดๆด้วยความอยาก ขอเพียงหมูตั้งจิตไว้ว่า จะเจริญสติปัฏฐานไปเรื่อยๆ
จนลมหายใจสุดท้าย ไม่สนใจว่าจะเรียกว่าอะไร จะได้อะไร ที่รู้ๆคือ ชีวิตเราจะดีขึ้นอย่างแน่นอน
แล้วเราจะเป็นอิสระ เราเป็นหนี้ เป็นขี้ข้ากิเลสมานานแล้ว ทายปัญหานะ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะพี่

สุขที่แท้จริง says:
อะไรเอ่ย ตอนฉันไม่รู้จักเธอ เธอดูสวยน่ารัก?
อะไรเอ๋ย พอรู้จักเธอแล้ว น่าเกลียดโคดๆ?

อะไรเอ่ย ถ้าไม่รู้จักเธอ สายตาฉันคงมืดบอด?
อะไรเอ่ย แรกๆดูเหมือนจะด้อยค่า ดูไปดูมามีค่ามหาศาล?


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
อืมม หมดแล้วหรือคะ

สุขที่แท้จริง says:
หมดแล้ววว ชั่วคราว

ไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ถึงหมูเดานะคะ
อันแรก เดาว่าคงเป็นกายเราหรือตัวของเรานี่น่ะค่ะ

อันที่สองนี่ ก็เดาว่าธรรมมะ

อันที่ 3 นี่ไม่รู้น่ะค่ะ

สุขที่แท้จริง says:
ตอบเลยค่ะไม่ต้องกลัวถูกผิด ธรรมะน่าเกลี่ยดยังไงหรือคะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะ อันที่ 2 นี่คือกิเลสน่ะค่ะ ไม่ใช่ค่ะ ส่วนอันสุดท้ายนี่ ยังคิดอยู่ค่ะ

คือ 1 กะ 2 นี่ตอบเหมือนกันคือร่างกาย หรือตัวเรา อันที่ 3 นี่กิเลสหรือธรรมมะ
อันที่ 4 ยังแป๊กค่ะ ยอมแพ้

สุขที่แท้จริง says:
หมู .... จำได้ไหม แรกที่เจอกัน

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ขอเฉลยค่ะ คะ ทำไมหรือคะ

สุขที่แท้จริง says:
ตอนเรายังไม่รู้จักกิเลส

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะจำได้ค่ะ

สุขที่แท้จริง says:
เรารู้แต่ว่านั่นเรียกกิเลส นี่เรียกกิเลส แต่ยังไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของมัน

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะพี่ ไม่รู้ว่าแบบไหน คือกิเลส รู้แต่ชื่อเรียก

สุขที่แท้จริง says:
เราว่ามันสวยงามเวลาชอบใจ ไม่สวยงาม เวลาไม่ชอบใจ
เราเลยหลงกิเลสว่ามันสวย เราเลยจมอยู่กับกองกิเลสมาไม่รู้ตัวตลอดเวลา

ข้อ 1 คือกิเลส เราหลงมัน เรามักจะหลงของที่คิดว่าสวยงาม


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ใช่ค่ะ ซึ่งส่วนใหญ่คือจินตนาการ ของเราเอง

สุที่แท้จริง says:ข
ใช่ค่ะ อุปทาน
ข้อ2 เมื่อรู้จักมันแล้ว ถึงได้รู้ว่ามันน่าเกลียดโคดๆ นี่ก็กิเลส


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ใช่ค่ะ สุดๆเลยค่ะ

สุขที่แท้จริง says:
อะไรเอ่ย ถ้าไม่รู้จักเธอ สายตาฉันคงมืดบอด .................. นี่ก็กิเลส จริงไหม
ถ้าเราไม่ได้มาเจริญสติปัฏฐาน เราจะไม่มีวันที่จะรู้จักกิเลสที่แท้จริง


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ใช่ค่ะพี่ ข้อนี้หมูตอบกิเลส

สุขที่แท้จริง says:
อะไรเอ่ย แรกๆดูเหมือนจะด้อยค่า ดูไปดูมามีค่ามหาศาล? .........กิเลสพอรู้จักมันแล้ว
เรารังเกียจมันดูเหมือนมันไม่มีราคาเลย แถมให้ยังไม่เอาเลย จริงไหม


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
หมูว่าแล้ว.. ตอนพี่น้ำเฉลย ข้อ3

สุขที่แท้จริง says:
ทั้งหมดคือกิเลสค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ถ้างั้นหมูขอต่ออีกนิดนะคะ ทั้งหมดนี้นอกจากกิเลสแล้ว
ยังเปรียบระดับของสภาวะที่เปลียนไปหรือระดับความเข้าใจ ที่มากขึ้นได้จากการเจริญสติ

สุขที่แท้จริง says:
ใช่ค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
นานๆทีจะพอตอบได้บ้าง นี่ก็กิเลสนะคะ

สุขที่แท้จริง says:
ค่ะ ดูไปดูมามีค่ามหาศาล .... กิเลสนี่มีค่าจริงๆนะ ถ้าไม่รู้จักกิเลสล่ะก็
ชีวิตเราก็คงจะไม่อยากคาดเดา ที่ว่ามีค่าคือ หาซื้อไม่ได้ ต้องทำเองถึงจะเห็น
ใครมาบอกยังไงๆก็มองไม่เห้น ต้องเจริญสติเท่านั้น


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะพี่น้ำ คือธรรมมะจริงๆ มันเหนือคำอธิบาย ให้เข้าใจได้

สุขที่แท้จริง says:
รักและเคารพพระพุทธเจ้าและครูบาฯทั้งหลายมากๆเลยนะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
กิเลสที่เหมือนหมอกควัน คนไม่ทำไม่รู้ ค่ะพี่

สุขที่แท้จริง says:
พี่น่ะ ไม่ว่าจะเห็นพระที่ไหนๆ เดี๋ยวนี้ ชื่นใจนะ แต่ถ้าไปเจอแบบยังมีมุมมืดอยู่ก็เฉยๆ
มองแค่ว่า กรรมใครกรรมมัน


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะพี่ หมูไม่กล้า แบบสติยังไม่กล้าแข็ง แต่ปิดหูปิดตาดีกว่า เรื่องอกุศลๆ น่ะค่ะ

สุขที่แท้จริง says:
ค่ะ เมิ่อก่อนพี่ก็เป็นเหมือนหมูนี่แหละนะ เคยมีแอบบว่าพระในใจ เวลาท่านอยู่ในกิริยาที่ไม่สำรวม
พอมาเจริญสตินี่ เลิกเลยไม่เอา ไม่แตะ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ตอนนี้ก็เลิกค่ะ แต่สติยังอ่อน ไม่เจตนา แต่ความเคยชิน ที่สะสมมา
ในอดีต ทำให้ปรุงไวมาก แต่ดีขึ้นมากนะคะ มันจะระวังมากขึ้นเยอะๆๆ

ตอนนี้เข้าใจที่พี่น้ำบอกเจ้ากรรมนายเวร การกระทบ เป็นตัวทดสอบสภาวะ
ที่จะบ่งบอกถึงสติขิงเรา และก็มีผลต่อสภาวะที่เปลี่ยนไป

พอดีไปอ่าน ที่น้ำมันหอย ส่งอารมพี่น้ำน่ะค่ะ อ่านแล้วเข้าใจเลย เพราะตอนนี้โดนอยู่
พูดถึงถ้าไม่มีบททดสอบ ก็ไม่รู้ระดับการเอาตัวรอดของสติ
ถ้ายังโทสะกล้าอยู่ ก็ต้องฝึกฝนมากขึ้น แล้วจะผ่านไปได้เอง

สุขที่แท้จริง says:
ค่ะ ทุกอย่างคือการเรียนรู้ ทุกสภาวะที่เกิดขึ้นคือตัววัดสติ
แบบไม่ต้องให้ใครมาบอกเราหรอก เริ่มเข้าใจแล้วใช่ไหมคะ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ใช่ค่ะพี่น้ำ

สุขที่แท้จริง says:
โมทนาจ้ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
เริ่มเข้าใจ แต่ว่าให้สรุปแบบยาวๆยังไม่ค่อยได้ สาธุค่ะพี่

สุขที่แท้จริง says:
นี่แหละผลของการเจริญสติปัฏฐาน ไม่ทำไม่มีทางรู้หรอก

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะพี่ เวลาคุยกันเรื่องนี้ต้องระวังมากๆเลย แล้วมันเหนื่อย

สุขที่แท้จริง says:
เข้าใจค่ะ อีกหน่อยมันจะออโต้เอง จิตมันจะอัตโนมัติเลย

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
คือ หมูหมายถึงกะคนรอบข้างน่ะค่ะ

สุขที่แท้จริง says:
นั่นแหละ พี่เข้าใจค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะพี่ ไว้หมูทำไปเรื่อยๆแล้ว เข้าใจไปเรื่อยๆ แล้วกันค่ะ
คำสอนพี่น้ำ เป็นประสบการณ์ เหมือนเครื่องหมายน่ะค่ะ แผนที่

สุขที่แท้จริง says:
คำแนะนำดีกว่าค่ะ ถ้าใช้คำว่า คำสอน เท่ากับไปตีเสมอครูบาฯ
พี่ขอเป็นเพียงพี่เลี้ยงดีกว่าค่ะ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะ คำแนะนำ

สุขที่แท้จริง says:
กิเลสต้องระวังค่ะหมู ถึงแม้พี่จะไม่มีเรื่องยึดติดกับตรงนี้
แต่กิเลสมันก็จ้องงาบอยู่ตลอดเวลา อะไรที่ระวังได้ ควรระวังไว้


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
หมูเข้าใจค่ะ

สุขที่แท้จริง says:
จำไว้นะคะ ไม่ว่าครูบาฯไหนๆ เราควรเคารพเสมอกันหมด ส่วนท่านจะดีหรือไม่ดี
อันนั้นเรื่องของท่าน เพราะท่านกระทำท่านเป็นผู้รับผล เราเก็บเกี่ยวเอาแต่สิ่งดีๆเอาไว้
ใครจะวิจารณ์อะไรยังไง เราแค่ฟังพอ เพราะทุกอย่างมันมีผลต่อการปฏิบัติของเรา


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะพี่ หมูจะระวัง ค่ะ

สุขที่แท้จริง says:
กับพระนี่ พี่ให้ความเคารพเหมือนกันหมด เพียงแต่ที่มาขอสอบอารมณ์กับพี่เท่านั้น
ที่พี่ต้องพูดตามสภาวะของท่าน แต่ก็ขอขามกับท่านนะ ไม่ใช่ว่าสอบอารมณ์ท่าน
แล้วไปยกตนข่มท่าน


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะพี่ มันอยู่ที่การวางใจ มีแต่เราเท่านั้นที่รู้ว่าใจเราเป็นยังไง

สุขที่แท้จริง says:
ใช่ค่ะ เวลาสอบอารมณ์พระนี่ ต้องนิ่งสุดๆเลย กระเพื่อมไม่ได้
ถ้ากระเพื่อมไปในทางที่ไม่ดี นี่ถือว่าไปอบายแล้ว


ถึงไม่ใช่งูพิแต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:ษ
อื้อหือ น่ากลัวมากๆนะคะ

สุขที่แท้จริง says:
พี่วางของพี่ไว้แบบนี้จริงๆ คือ พี่จะยกพระไว้นะ ยิ่งท่านปฏิบัติด้วย ต้องระวัง

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะพี่ คือให้ภาพเหมือน มีมีดจ่อที่คอหอย แบบคมกริบ เป็นเงามันปลาบ

สุขที่แท้จริง says:
ก็ดีนะคะ เท่ากับได้ดูจิตเราไปด้วย เวลาเกิดการกระทบ ทดสอบกิเลสเราไปในตัว

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะ บททดสอบพี่น้ำ ความเสี่ยงสูงมากๆ เลย ถ้าสติไม่ดี นี่ ...

สุขที่แท้จริง says:
ทำไงได้ล่ะคะ ก็ไม่รู้นะว่าท่านได้เมล์พี่มาจากไหน

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
พี่น้ำไม่ได้ สอบอารมณ์ท่านแล้วใช่ไมคะ

สุขที่แท้จริง says:
ไม่แล้วนะ สองครั้งนั่นจบเลย ท่านไม่เห็นกิเลสตัวเอง คือ
ท่านคิดว่าท่านเป็นแบบบัญญัติที่เขาเรียกๆกันน่ะ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
เข้าใจค่ะ

สุขที่แท้จริง says:
ก็ไม่เป็นไรนะ แล้วแต่เหตุที่กระทำมา

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
วันนี้น้ำมันหอย ทำไหมคะ

สุขที่แท้จริง says:
ทำค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
หมูไปอ่านสภาวะเขา ได้ความรู้ดีค่ะ เช่น การพิจารณา นิมิตร
จนเกิดสมาธิ แล้วถอนมาทำวิปัสนาต่อ

สุขที่แท้จริง says:
ค่ะ แต่ละคนไม่เหมือนกัน

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ม.ค. 2010, 01:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


วันที่ 155


กระต่ายขนฟ says ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็น:

เสร็จแล้วคะพี่น้ำ 60/25 ค่ะ
เดินรุ้เท้า วันนี้มันปรุงเยอะค่ะ เท้ารู้ แล้วความคิดไหล มีความมัว ตั้งแต่ต้นจนจบการเดิน
แต่บางช่วง ก็จะไม่มัวมาก เผลอไม่ได้ จะไปด่าชาวบ้าน คือว่าเขา หยาบๆ

ไม่ได้มีความโกดแค้นด้วยค่ะ เหมือนที่เคยเล่า ว่าเดินผ่านแล้วผุดคำด่า ขึ้นมาเฉยๆ
แบบนั้นน่ะค่ะ ก็พอมันวิ่งไปเริ่มขึ้นคำด่าแล้ว ก็รู้มัน มันก็หาย เป็นบ่อยๆ

เปลี่ยน คนที่จะด่าแล้วแต่ระลึกถึงใครได้ ก็กำหนดรู้หนอๆ หายใจยาวๆ ก็เลยจะเกร็ง ค่ะ
เหมือนคอยระวังจนกลัว แล้วก็เกร็งไม่นาน ก็หลงไปคิด ปรุงแต่ง เรื่องทั่วไปๆน่ะค่ะ

แล้วก็ ไอ้สภาวะเกร็งก็กลับมาอีก แล้วก็เดินๆไปก็หายไปอีก มีจิตคิดเหิมเกริม
แบบว่าชอบคิด ยอตัวเอง แล้วพอเห้นก็มีความไม่พอใจ
แล้วก็รู้ว่ามันมี + มีทุกข์แล้วสักพักก็หายไป

มีเหมือนมดกัด เดิน 1 หน นั่ง 1 หน กัดครั้งเดียว แล้วก้หายไปค่ะ
มีเวทนาเจ็บเท้า เหมือนโดนเข็มหรือเสี้ยนตำ เป็นจังหวะ สักพักก็หายไป

มีผิวกายรอ้นผ่าวบ้าง เหมือนชาๆบ้าง อย่างละครั้งแล้วหายไปค่ะ
มีอารมณืร้อนใจ แบบอยากเดินไวๆ แต่เดินไม่ไว จงใจเดินช้าๆดูมัน
ก็มีตัวสะใจขึ้นมา สะใจอารมณ์ที่มันร้อนใจ แล้วก็เรารู้อารมณ์สะใจ นั้นอีกต่อ

พอมานั่ง ก็ตอนต้นก็รู้กายนั่ง แล้วก็ เห็นความคิด แบบจะไปปรุงแต่ง ก็แยกความคิด
คือเหมือน เรารู้ก็จะแยกมันออกไป แบบคล้ายเอามือ แยกมันออก แล้วมารู้กาย ก็ทำได้

แปปหนึ่ง ก็กระหยิ่มจว่าเออ รู้วิธีอยู่ะกายแล้ว แล้วพอกระหยิ่มปั๊ป หลงไปเลยค่ะ ยาววว
หลงไปหลับใน มีงุบลงไป 2 ครั้ง แล้วมารู้ตอนหลัง กลับมารู้ที่จิต ก็ค่อยเอามจิตมารู้กายนั่ง
แล้วก็หลงไปอีก อยู่กะกายได้น้อยค่ะ มาหมดเวลา ตอนที่ เห็นว่ากำลังหลงไปปรุงพอดีเลยค่ะ
ก็หงุดหงิดว่า เสร็จมัน แล้วก็่ง่วงๆออกมาด้วย ก็แผ่เมตตา จบแล้วค่ะ


สุขที่แท้จริง says:
มาหมดเลยนะทุกสภาวะที่ผ่านๆมา โดนทำข้อสอบหนักเลย

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

คะวนมาหมดเลย

สุขที่แท้จริง says:
เห็นไหม ไม่ต้องไปหาคำตอบจากใครๆ เข้าใจหรือยัง

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ ก็เข้าใจมากขึ้นค่ะ ระหว่างวันยังอยู่กะตัวเองไม่ค่อยได้เท่าไร ตอนนั้นก็จะเหมือนกับจำ
เรื่องเหล่านี้ไม่ค่อยได้ แล้วมาจำได้ ตอนกลางคืนที่ทำ เหมือนคนละโลกเลย

สุขที่แท้จริง says:
เรื่องปกติค่ะ สติ สัมปชัญญะยังไม่มากพอ เลยยังจำไม่ได้หมด
สภาวะเขาจะมาให้เราข้อสอบแบบนี้แหละ มาแบบไม่รู้ตัวเลย


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

พอระหว่างวัน สภาวะเหล่านี้วามเข้าใจเหล่านี้ก็เหมือนความฝัน
พอกลับมาที่บ้าน แล้วก็เหมือนเราอยู่กับ ธรรมมะ
ไอ้สิ่งที่เกิดนอกบ้านเราก็จะรู้สึกว่าทำไมตอนนั้นมันไม่ เหมือนไม่รู้สึกแบบตอนเราอยู่บ้าน

สุขที่แท้จริง says:
ตอนนี้มันยังแยกๆคนละตอนอยู่ค่ะ อีกหน่อยมันจะเป้นหนึ่งเดียวกัน
จิตมันจะละเอียดมากขึ้น กิเลสก้จะเนียนมากขึ้น


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ พยายามเชื่อมต่อมันอยู่ค่ะ
อย่างน้อยไม่ให้มัน เป็นคนละโลกกันเกินไป


สุขที่แท้จริง says:
ไม่ต้องไปพยายามเชื่อมอะไรมันหรอกค่ะ สภาวะเขาไปของเขาเอง
แค่พยายามรู้กายกับใจให้ทัน เอาจิตอยู่กับกายให้ได้น่ะ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ หมูพยายามทำแบบนั้นน่ะค่ะ คือกลางวัน มันจะไม่ได้เข้าใจสภาวะเหมือนกลางคืน
ก็เลยพยายาม กลับมาอยุ่กะกาย แต่สอนหนังสือช่วงนั้นก้อจะ ไม่ค่อยมีสติอยู่กะกาย
เพราะสอนทั้งวันเลย

สุขที่แท้จริง says:
เข้าใจค่ะ การกระทบแตกต่างกัน แต่จะเจอกิเลสเหมือนๆกันส่วนมากคือตัวโทสะ พี่เองวันนี้ก็เจอ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ผ่านไหมคะ

สุขที่แท้จริง says:

แว่บไปแป๊บนึง กลับมาอยู่กับกายได้ทัน แต่สีหน้าคงจะแสดงไปแป๊บนึงน่ะ
มันเป้นเวลาพักเที่ยงน่ะ มันก็เลยเกิดอารมณ์นั้น
เวลาเขาพัก เขาไม่มาหาเรา เขามาหาเราเวลาเราพัก


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

น่าน เราเลยไม่ได้พัก... ของหมูเจอเป็น เหมือนพูดอะไรไป คนรอบข้างเกิดโทสะได้ง่าย ใส่หมู
ก็ต้องหุบปาก แล้วก็ เหมือนเดิมค่ะ ความคิดเรา ที่เคยคิดไม่ดีกะเขา เขาก็พูดใส่เรา วะ ฮะ ฮ่า
โดนเต็มๆ เด๋วหมูมาส่งรอบต่อไปนะคะ


สุขที่แท้จริง says:
จ้ะ พักนี้โดนทำข้อสอบ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
เสร็จแล้วค่ะพี่น้ำ รอบ 2 เดิน 47 นั่ง 20 ค่ะ
ตอนเดินก็รอบนี้ไม่มัวค่ะ รู้เท้า แต่กิเลสเยอะค่ะ ก็ มีปรามาส หลายๆครั้ง ที่ขึ้นมา พอเรากำหนดรู้หนอ
เวทนาก็แซงมา เป็นปวดมือตุบๆ แล้วหายไป แล้วเราก็กำหนดรู้หนอ 3 ครั้งต่อ

แล้วก็ มีทั้งกายร้อนผ่าวบางส่วน มีปวดหัว ปวดแล้วหายไป มีอื่นๆอีกมาแล้วหายไป แต่ำจไม่ได้ค่ะ
แล้วก็ ตอนเดินเราตั้งใจจะให้อยุ่กะกาย แต่ธรรมชาติคือมันมีคิด แล้วก็มีความจงใจ ไปแยก
ไม่ให้ไป ร่วมกะคิดเป็นการปรุงแต่ง คือมีเจตนาจะแยกจิต ไม่ให่ลงไปปรุงแต่งความคิดทีขึ้นมา
ประกอบไปด้วยความไม่พอใจในเจตนานั้น ก็รู้ลงไป แล้วมันก็จะคล้ายจะหาย แล้วก็มีมาอีก

แล้วก็เปลี่ยนเป็นพวกปรามาสบ้าง เป็นเวทนาบ้าง เป็นหลงไปคิดปรุงแต่งบ้าง
แล้วก็ มีความคิดทีมันสรรญเสริญตัวเอง ก็รู้ลงไป มันไม่ได้ขึ้นมาเป็นคำพูด

ที่ชัดเจนมันเป็นความเข้าใจว่านี่คือการสรรเสริญตัวเอง แล้วก็เห็นจิตมันเหมือน มีตัวตน
มีตัวรับคำสรรญเสริญ แล้วก็พอรู้มันก็ไม่ไปสรรญต่อ แล้วพอเดินๆไป รู้เท้าได้ดีหน่อย
ก็จะเกิดอาการของจิตที่มัน เหมือนเวลาใครชมเรานะค่ะ อาการไม่ปกติ ก็รู้ไป
มันเป็นแบบนี้น่ะค่ะ วนไปวนมาอยู่กับพวกนี้ แต่มันมาเร็วๆ แล้วก็ติดกัน สลับๆกัน

แล้วก็พอมานั่ง ก็รู้กายได้ แต่ยังงี้ค่ะ คือพอออกมาแล้ว มันจะลืมว่ารู้ตรงจุดไหนบ้าง
แต่ตอนนั่งจะคิดว่าเออก็รู้กายนี่ ต้องเล่าให้พี่น้ำฟังแบบนี้ มันเลยจำไม่ได้แล้วค่ะตอนนั่ง
จบแล้วค่ะพี่

สุขที่แท้จริง says:
อะไรที่จงใจ ส่วนมากจะจำไม่ได้

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
แปลกดีนะคะ

สุขที่แท้จริง says:
มันเป้นการจะพูดยังไดีล่ะ คือ อะไรที่เราจงใจจะกระทำน่ะ พอถึงเวลาจริงๆ เราจะลืมหมด
จำไม่ได้ มันไม่เหมือนกับการไม่ตั้งใจ คือรู้ไป อะไรเกิดก็รู้ ไม่ต้องเจตนาจะจำ แต่มันจะจำได้หมด


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
อืมม ค่ะพี่ มันก็เป็นแบบนั้น

สุขที่แท้จริง says:
ไม่เป้นไรค่ะ สภาวะมันจะแปรเปลี่ยนไปเรื่อยๆน่ะ
น้องสาวหมู เป็นไงมั่งคะ ยังแผ่ส่วนกุสลให้กอล์ฟไมค์อีกป่ะคะ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
อาทิตย์นี้ หมูกลับไป จะสอนเขา ปรากฎว่า วันแรกเขาปวดท้อง
วันที่สอง นวดให้แม่ถึง 3 ทุ่ม แล้วเขาต้องเรียนเช้า เลยไม่ไดทำ

สุขที่แท้จริง says:
วิบากกรรมนะ แต่ไม่เป้นไรนะคะ ตราบใดที่หมุยังกลับบ้านอยู่เรื่อยๆ
ยังคงแนะนำเขาได้ อาจจะมากบ้างน้อยบ้าง แล้วแต่เหตุที่กระทำกันมา


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะพี่ ถ้าเรา เวลาแผ่ส่วนกุศล

สุขที่แท้จริง says:
น้องๆพี่ แขนขาดี สมองดี ไม่มีใครเอาเลย คงยังไม่ได้เวลาของเขา

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
เราอธิษด้วยว่าขอให้เขาคนนั้นๆมีสัมมาฐิธิ ได้โอกาสปฎิบัติธรรม แบบนี้มีผลไหมคะ

สุขที่แท้จริง says:
การขอ ให้ขอทีละอย่าง อย่าขอทีละหลายๆอย่าง ขอทีละอย่าง หากกระแสจิตถึง ได้ผลค่ะ
พี่ส่วนมากสรุปตัวเดียวคือ ขอให้คนๆนั้นจงมีความสุข


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
หมูบอกขอให้มีความสุข สุขภาพแข็งแรง บางครั้งก็เจริญทั้งทางโลกทางธรรม

สุขที่แท้จริง says:
ได้ผลนะ แต่จะช้าหรือเร็วก็อยู่ที่เหตุที่คนๆนั้นเขาเคยกระทำมาด้วย

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะ แตงกวาชอบปฎิบัติ แต่ต้องทำกะหมู ไว้อาทิตย์หน้าลองพยายามใหม่ค่ะ

สุขที่แท้จริง says:
ดีแล้วค่ะเมื่อเราเริ่มช่วยเหลือตัวเองได้ เราก็พอจะช่วยคนอื่นๆเขาได้ ตามอัตภาพของเรา
และตามเหตุที่คนๆนั้น ด้วยว่าเขาเคยสร้างเหตุร่วมมากับเราหรือเปล่า
พี่น่ะใช้เวลา 10 ปีนะ กว่าจะได้ตามคำอธิษฐาน


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
พี่น้ำอธิษฐานอะไรหรือคะ

สุขที่แท้จริง says:
ขอให้ได้ที่ทำงานที่มีสัปปายะเหมาะแก่การปฏิบัติ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ข้อเดียวเลยหรือคะ

สุขที่แท้จริง says:
ขอแค่ข้อเดียว ไม่เคยขออะไรอย่างอื่น ไม่เคยอยากได้อะไร

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
หมูนึกว่า ขอเหมือนที่หมูท่อง ที่บอกว่าล่วงพ้นบ่วงมาร...

สุขที่แท้จริง says:
อันนั้นอธิษฐานจิตหลังปฏิบัติ คนละอย่างกันค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
แล้วงานสัปปายะนี่ ขอตอนไหนหรือคะ

สุขที่แท้จsays:ริง
ตอนนั้นยังทำงานที่รพ. แบบเหนื่อยมาก เบื่อขึ้นเวร ขอเวรยาก ไปไหนก็ยาก

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะ says:เป็นกระต่ายขนฟ
อืมม ค่ะ คงคนไข้เยอะ

สุขที่แท้จริง says:
เยอะ ไหนจะญาติ ไหนจะคนไข้ เบื่อมาก

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
งืมๆ ค่ะ แล้วขอตอนตักบาตรหรือหลังทำบุญหรือคะ

สุขที่แท้จริง says:
เมื่อก่อน ไม่ได้อธิษฐานจิตแบบนี้ ขอทุกครั้งหลักปฏิบัติ
พอมาตอนหลังถึงได้เข้าใจ และรู้ว่าหลังการปฏิบัติหรือสร้างกุศลให้อธิษฐานแบบนี้ อย่าไปขออื่นๆ
การอธิษฐานเราต้องฉลาดในการอธิษฐาน ขอให้รวย รวยมามีความสุขไหม ขอให้สุขภาพแข็งแรง
แล้วมีความสุขไหม ขอโน่น ขอนี่ แล้วมีความสุขไหม ไม่มีเสุขที่แท้จริงเลยแม้แต่สักอย่างเดียว


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะพี่ หมูก็ขอสองอย่างน่ะค่ะ
1.คือแบบที่พี่น้ำบอก ปัญญาญาน

2.คือกัลยาณมิตร

นี่หลังปฎิบัติ ถ้าทำบุญทำทาน ก็จะขอให้ไม่ลำบาก ในการเลี้ยงชีพเพื่อไม่มีเครื่องรุงรัง
ในการปฎิบัติ แบบพร้อมที่จะปฎบัติได้ไม่พมีภาระ

สุขที่แท้จริง says:
ค่ะ ทุกสิ่งอยู่ที่เรากระทำ เราเป้นผู้สร้างเหตุให้เกิดขึ้นเอง
จงเป้นผู้ดู เท่าที่สติจะทัน จงเป็นผู้รู้ เท่าที่สติ จะทัน แต่ไอ้ตัวผู้รู้นี่ พยายามเลือกเหตุหน่อย
ไอ้ตัวผู้รู้หรือกรูรู้นี่แหละ ตัวสร้างเหตุใหม่ให้เกิดขึ้นแหละ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ที่บอกว่าจงเป็นผู้ดู เท่าทีสติจะทัน อันนี้เข้าใจนะคะ
ส่วนจงเป็นผู้รู้เท่าที่สติจะทัน นี่หมายถึง เวลาตรึกธรรม พิจารณาธรรม หรือเปล่าคะ

สุขที่แท้จริง says:
ทุกๆสภาวะ ไม่มีข้อแม้
ตัวผู้รู้ก็คือ ตัวกรูไง กรูรู้ไง สติน้อยสุดเลย พอสติดีขึ้น จะเป้นผู้รู้ คือ รู้
แต่ก้ยังมีแบบๆคิดบ้างแต่ไม่มาก ส่วนผู้ดูนี่ สติเขาทัน มันดับทันที


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะ ยังแค่ผู้รู้น่ะค่ะ แล้วก็มันจะเกิด กู ด้วย แล้วมารู้กู อีกที

สุขที่แท้จริง says:
มันก้มี 3 ตัวนี่แหละ มากน้อย ตามกำลังสติของแต่ละคน

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะ

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ม.ค. 2010, 23:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


วันที่ 156

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เดิน 60/25 ตอนเดิน ก็รู้เท้า มีความฟุ้งซ่าน คิดเยอะ มีความอยาก ความไม่พอจ
ความไม่พอใจนี่ เมื่อรู้แล้วมันก็เบาๆลงไป

มีอกุศล จะปรามาส ก็กำหนดรู้หนอไป 3 ครั้ง มีความพอใจ พอใจหลังจาก รู้เท้า
รู้ลงไป ในความพอใจอีกที มันจะเนียนมาก
เวทนาที่เจอ คือเหมือนเข็มตำ ที่ขา ที่หัว

พอมานั่ง ก็ รู้ท้องได้ต้นๆ จากนั้นก็ หลงไป แล้วก็มารู้ที่จิต ก็เอามารู้กายอีก
แล้วก็มันจะง่วงมาก เมื่อออกจากการนั่ง
ส่วนตอนเดินก็ จะมัวๆง่วงๆ บางครั้งชัด บางครั้งก็มัว ส่วนใหญ่มัวค่ะ จบแล้วค่ะพี่

สุขที่แท้จริง says:
ทำต่ออีกหรือป่ะคะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
อ่า วันนี้มึนหัวมากค่ะ วันนี้ทำรอบเดียวค่ะ

สุขที่แท้จริง says:
จ้ะ ตอนนี้ไม่มีอะไรค่ะ ทบทวนสภาวะน่ะ
เท่าที่ดูๆมาหมูกลับมารู้ทันที่กายได้ไวมากขึ้น เจริญสติต่อไปค่ะ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ได้ค่ะพี่ ช่วงนี้จะ ขี้เกียจมากๆ

สุขที่แท้จริง says:
ขี้เกียจหรือขยัน ล้วนไม่เที่ยงหรอกค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
อืมๆ จริงค่ะ

สุขที่แท้จริง says:
ไปนอนเถอะค่ะ เช้ามาจะได้รู้สึกดีขึ้น อย่าลืมจับพองยุบให้ติดเป็นนิสัยนะคะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ได้ค่ะ

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ม.ค. 2010, 00:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


วันที่ 157

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
เสร็จแล้วค่ะพี่ 60/25 ตอนเดินก็เหมือนเดิมคือรู้เท้า ความคิดก็เยอะแยะ
คือว่า ความคิดนี่มัน เห็นว่ามีความไม่พอใจ ขึ้นมา แบบ พอมันขึ้นมา เราดูไป
มันก็แผ่วไป แล้วมันก็ไปคิดต่อ เหมือนไปคิดเกี่ยวกับอารมณ์พวกนี้ แล้วเห็นไปด้วย

เช่นพอมันหาย แล้วพอคิดเกี่ยวกับสิ่งที่เห็นแล้ว มีความไม่พอใจต่ออีก เพราะมันมีความเชื่อว่า
ไม่ควรคิด ก็เห็นอีกว่า มีความเชื่อแบบนั้น แล้วความไม่พอใจเกิด แล้วพอเห็นแล้ว
ความไม่พอใจหายไป ก็มีความคิดต่ออีก ประมาณว่า เป็นความคิดที่มัน บวก
ก็เห็นความพอใจเกิด แต่เป็นความพอใจที่มัน จะยึดติด
แล้วพอเห็นความพอใจ ที่จะยึดติด ก็มีความไมพอใจอีก
แล้วก็ดูไปแบบนี้น่ะค่ะ สลับไป บ่อยๆ แล้วก็เห็นว่าเกิดจากความคิด ทั้งนั้น

ทำให้พอใจ ไม่พอใจ ในขณะที่กายก็ยังเดินอยู่ แต่ความคิดเห็น ทิฐิ ความเชื่อ
ทำให้เกิดอารมณืสารพัด ทั้งๆที่ร่างกายก็แค่เดินไปเดินมา

แล้วมันก็ผ่านเหตุการณ์เหล่านี้ไป หลงคิดปกติทั่วไปบ้างกลับมารู้กายบ้าง
มีมัว สลับกะชัดบ้าง มีเวทนามดกัดบ้าง มีร้อนผ่าวบ้าง มีเจ็บเป็นจังหวะที่ขา
มีเหมือนเข็มตำนิ้วแรงๆ อกุศล พอนึกถึงสภาวะอกุศลก็จะขึ้นมา ก็กำหนดรู้หนอไป

แล้วพอมานั่ง ก็รู้กายนั่งได้ รู้ลม มันก็ช่วงต้นๆจะไม่จับพองยุบ
แล้วช่วงท้ายๆเลยค่ะ สามารถรู้ท้องขยับได้
ช่วงกลางสักพักหนึ่งเหมือนจะหายไป จำไม่ได้
แต่วันนี้นั่งพอจะรู้กายได้ เป็นระยะค่ะ จบแล้วค่ะ

สุขที่แท้จริง says:
เบื่อก็ต้องทน เจริญสติไปค่ะ จนกว่าจะผ่านสภาวะนี้ไปได้

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อ้อ มีความอยาก ด้วยค่ะ เห้นมันน่ะค่ะพี่

สุขที่แท้จริง says:
อยากน่ะไม่ต้องพูดถึงหรอก อ่านดูก็รู้แล้วแหละค่ะ
ถ้าไม่อยากจะไม่ทุกข์ขนาดนี้หรอกค่ะ อยากไปให้พ้นๆ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
มันไม่ได้อยาก แบบสมัยแรกๆ น่ะค่ะ

สุขที่แท้จริง says:
มันรำคาญ มันหงุดหงิด มันเบื่อ แต่ก้บางครั้ง ไม่ทุกครั้ง

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
อืม เหมือนมันเนียนขึ้น มาเนียนๆ รอบนี้จะไม่ได้หงุดหงิด
คือ เหมือนมันไม่ทุกข์มากน่ะค่ะ เหมือนเห็นมัน พอแปปเดียวก็หาย

สุขที่แท้จริง says:
ค่ะ มันเป็นไปตามสภาวะ คือ เมื่อมันทุกข์มากขึ้น จิตมันเลยไม่เอา
เมื่อจิตมันไม่เอาหมดเมื่อไหร่ สภาวะจะเปลี่ยนไปอีกค่ะ


รู้สึกยังไง ให้รู้ไปตามนั้น ตามที่มันเป็น ยิ่งปฏิเสธมัน มันยิ่งเกิด ปล่อยให้เกิดตามที่มันเป็น
มันก็จะไม่ต้องมานั่งเหนื่อย รู้หนอๆๆ อย่าลืมใช้ให้เป็นประโยชน์นะคะ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
เสร็จ แล้วค่ะพี่ 60/20 รอบนี้ก็ ปรุงเยอะค่ะ ส่วนใหญ่จะไประลึกถึงเรื่องที่ทำให้เกิดโทสะ
ก็มีทั้งโทสะ ทั้งพยาบาท มีความทุกข์จากการปรุง มีไหลไปคิด จะคิดอคติหรือปรามาส

ก็รีบเบรกไว้ก่อน หายใจยาวๆกำหนดรู้หนอ 3 ครั้งแล้วตั้งสติอยู่ที่กาย บริกรรม ไปด้วย
ก็ดีขึ้นค่ะ เวทนา มีผ่าวๆที่ผิว มีปวดหลัง ก็เลยไม่พอใจ

พอมานั่ง ก็รู้กายนั่ง พยายามอยู่กะกาย ก้จะรู้ว่ามีกายนั่งอยู่ ไม่ไปจับที่ท้องขยับ
แล้วก็มีหลงไป ลอยกะความคิด ไม่นานค่ะ คือเห็นมัน แล้วก็เรารู้แล้วก็มาระลึกที่กายใหม่
เป็นแบบนี้ไปจนท้ายๆ คัน ก็เกา สักพักก็หมดเวลาค่ะ จบแล้วค่ะ

สุขsays:ที่แท้จริง
บางครั้ง หมูสามารถปรับเปลี่ยนอริยาบทและสถานที่ได้นะ ถ้าเบื่อสภาวะเดิมๆ
ตอนนี้สภาวะมันจะซ้ำๆน่ะ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ปรับเปลี่ยนอิริยาบท ยังไงคะ อ่าสถานที่ด้วย

สุขที่แท้จริง says:
แต่ยังดีที่กลับมารู้อยู่กับกายได้ ไม่หลงไปนาน
เช่น จากนั่งบนที่นอน หมูอาจจะมานั่งที่เก้าอี้ก็ได้ เพื่อให้รู้สึกสบายตัวขึ้น
เดินจงกรม อาจจะเดิน .. ลืมไปหมูอยู่หอ ไม่ได้อยู่บ้าน


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะพี่ ที่น้อย

สุขที่แท้จริง says:
ระยะทางสั้น เวลายาว อาการไม่พอใจ ย่อมเกิดได้ง่าย
อดทนนะคะ แต่ละคนสร้างเหตุมาแตกต่างกันไป

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะพี่น้ำ ก็ทำไปเรื่อยๆค่ะ จริงๆ ก็ช่วงนี้ไม่ได้ทุกข์ใจอะไรมากค่ะ ในการปฎิบัติ ช่วงแรกๆ หนักกว่าค่ะ

สุขที่แท้จริง says:
ค่ะ ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรเพิ่มเติม

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะพี่ เหมือนทำไปเรื่อยๆ

สุขที่แท้จริง says:
ดีแล้วค่ะ ทำเพราะต้องทำ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ดีนะคะ มีพี่น้ำ คือแบบ เหมือนมีกำลังใจ

สุขที่แท้จริง says:
ค่ะ เส้นทางเราเหมือนๆกัน เแตกต่างตรงกิเลส กิเลสมากทุกมาก

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะพี่ อ้อลืมบอกว่า ตอนเดินรอบหลังน่ะค่ะ เห็นตัวร้ายๆ ที่จะทำร้ายคนน่ะค่ะ
ไม่ใช่แค่พยาบาท แต่มากถึงขนาดสามารถทำร้ายคน เป็นตัวจิต น่ะค่ะ เห็นความดุร้าย
อาการของมัน ไม่ได้ขึ้นเป็นความคิด เป็นอาการ

สุขที่แท้จริง says:
ค่ะ กำหนดทันมั๊ยคะ รู้หนอๆๆ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
คือ ไม่ได้กำหนดรู้หนอค่ะ ตอนนั้น มันขึ้นแล้วมันก็หายไป
แต่ตอนที่พยาบาทพวกนี้ กำหนดรุ้หนอตามหลังนะคะ

สุขที่แท้จริง says:
ค่ะ ตามสำทับไว้

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะพี่ คราวหลังถ้ามีอีก จะกำหนดสำทับค่ะ

สุขที่แท้จริง says:
อดทนไปเน้อ ผ่านตรงนี้ไป ก็ไปเจอตัวอื่นอีก

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ใจมันสบายขึ้นน่ะค่ะ มันไม่ไปทุกข์ มาก ไม่ค่อยเอาเรื่องเอาราวกับ มัน
แต่ถามว่าตอนนั้นทุกข์ไหม ก็ทุกข์นะคะ แต่มันไม่ไปยึดติดมาก

สังเกตเห็นว่าสนใจเรื่งไหน เรื่องไหน ก็ทุกข์เพราะเรื่องนั้น หนักเพราะเรื่องนั้น
แม้แต่กุศล หรือสภาวะ

สุsays:ขที่แท้จริง
เกาะเกี่ยวตรงไหนมาก ตรงนั้นก้มีผลมาก

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ค่ะ แม้จะเป็นกุศล เรื่องดีๆ

สุขที่แท้จริง says:
ทุกสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่มีแบ่งแยกค่ะ มันคือสภาวะ ไม่ว่าจะอกุศลหรือกุศล
กิเลสมันจะมาสอนเราตลอดเวลาไม่ให้ไปยึดมั่นถือมั่นในสิ่งหนึ่งสิ่งใดทั้งสิ้น


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
จริงๆ ก็ไม่เข้าใจคำว่ายึดมั่นถือมัน หมายถึง ได้ยินบ่อยๆ
แต่ไม่รู้แบบไหนที่ คือยึดมั่นถือมั่น อย่างที่เจอช่วงนี้

สังเกตเอาเอง ว่าถ้าสนใจหรือตั้งใจ อะไร มันจะ มีน้ำหนัก จิตใจจะไม่ปกติ
พอเราไม่สนมัน มันก็หายไป ทุกๆเรื่อง ก็เลยรู้สึกว่า นี่หรือเปล่าที่เขาเรียกว่าอุปทาน
แต่ก็ยังไม่กล้าสรุป เพราะว่า มันก็จะไปติดอีก

สุขที่แท้จริง says:
ทุกสิ่งมันมีของมันอย่างนั้นอยู่แล้ว เป้นวัฏจักร ไม่ว่าจะมีเราเกิดขึ้นมาหรือยังไม่มีก็ตาม เมื่อสิ่งใดมากระทบแล้วเราไปให้ค่าให้ความหมายต่อมัน สิ่งนั้นจะมีตัวตนขึ้นมาจริงๆ
มีตัวตนตามที่เราคิด ตามที่เรารู้สึก อุปทานน่ะแหละหมู

ถ้าเราแค่ดู แค่รู้มัน ไม่เอาใจเข้าไปข้อง มันก้จะหายไปเอง
เหมือนเวทนาต่างๆที่เกิดขึ้น มันต้องสีสติ สัมปชัญญะในระดับหนึ่ง หมูต้องผ่านตรงนี้ไปก่อน
ถึงจะเข้าใจ เมื่อสติ สัมปชัญญะดี สมาธิดี เราจะเห็นสภาวะตั้งแต่เกิดจนกระทั่งดับ เ
ราแค่เป็นผู้ดู ผู้รู้ แต่จิตเราไม่ไปข้องเกี่ยวอะไรด้วย


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
อืมค่ะ ไว้ทำไปเรื่อยๆ หมูคงเข้าใจเอง

สุขที่แท้จริง says:
ค่ะ เรียนรู้ไป มันจะรู้ด้วยตัวเอง
พี่ตอนนี้ก็จากสภาวะสงบ มันสงบมากๆ ยิ่งสภาวะเปลี่ยนไปมากเท่าไหร่
จิตเรายิ่งสงบมากขึ้น คือ ทุกข์ไม่นาน สุขไม่นาน มันแค่รู้ เราจะเกิดอาการเบื่อหน่าย
เหมือคนขี้เกียจน่ะหมู ทำนะไม่ใช่ไม่ทำ เวลาทำไม่ขี้เกียจหรอก ปกติดี
แต่ชีวิตประจำวันนี่สิ มันขี้เกียจ จิตมันจ้องจะเข้าแต่สมาธิ ตั้งแต่สมาธิพี่กลับมานี่แหละ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
อืมๆค่ะ แล้วพี่น้ำทำไงคะ

สุขที่แท้จริง says:
พี่เหรอ จะทำยังไง เฝ้าดูมันสิ แต่ไม่ยอมทำตามมัน มันเหมือนฟัดกับตัวเอง
ตัวหนึ่งมันบอกว่า ไปเถอะ เดินจงกรม นั่งมาธิดีกว่า ได้กำไร ส่วนตัวงพี่เองคิดว่า
ไม่เอาอ่ะ สมาธิมากแแบบเมื่อก่อนจะทำยังไง ปวดหัวตายย เดี๋ยวก็ดับเป็นว่าเล่นอีก


งไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ฝืนน่าดูเลยนะคะ กิเลสนี่ต้องฝืนจริงๆทรมานแทบดิ้นตายเลย

สุขที่แท้จริง says:
มันไม่มีอะไรจริงๆเลยนะ การปฏิบัติเนี่ย ทำเดิมๆซ้ำๆ แต่ต้องคอยปรับอินทรียเอาเท่านั้นเอง
สมาธิเยอะไป นั่งน้อยลง ฟุ้งซ่านมากไป เดินให้น้อยลง นั่งให้มากขึ้น ถ้านั่งแล้วฟุ้ง
ให้เดินให้มากขึ้น ปรับไปปรับมา มีแค่นี้เอง ดูกิเลสให้ทัน


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
พอพี่น้ำ ให้ลดเวลาเดิน แล้วเหมือนมันไม่โดนทุกข์บีบคั้นมาก เพราะสมาธิแน่เลย

สุขที่แท้จริง says:
ค่ะ สมาธิมันจะช่วยเราได้มาก

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
แต่เห็นว่ามันจะขี้เกียจง่ายขึ้น

สุขที่แท้จริง says:
นั่นแหละใช่เลย สมาธิมากไปก็ทำให้ขี้เกียจ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
ตอนนี้สมาธิพี่น้ำกลับมา เหมืแนแต่ก่อน กำลังคิดว่า นี่สมาธิหมูน้อย ยังขี้เกียจ
ถ้ามากๆ อย่างพี่น้ำ หมูนอน ไม่กระดุกกระดิกเลย

สุขที่แท้จริง says:
พี่แบบนั้นเลยตอนนี้ พอหัวถึงหมอน บางทีจับพองไม่ทันจะยุบ หลับเลย หลับสนิทยิ่งกว่าสนิท
ไม่มีการรับรู้ใดๆทั้งสิ้น บางทีมันหลับลึกแม้กระทั่งเสียงนาฬิกาดังรอบแรกยังไม่ได้ยินเลย
ใช้มือถือตั้งเวลาน่ะ มันจะปลุกซ้ำทุก 5 นาที


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
อ้อ แหม กลับมาที ก็มาซะเยอะเลย

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ม.ค. 2010, 01:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


วันที่ 158

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

60/25 ตอนเดินก็ รู้เท้าค่ะ เริ่มเดินก็ฟุ้งว่านคิดโน่นนี้ก็ เกี่ยวกับการปฎิบัตินี่แหละค่ะ
ไปคิดถึงสภาวะเก่า ว่าเออเมื่อวานเห็นอย่างนั้นๆ จากนั้นก็เปลี่ยน เป็นไปปรุง

คือมันจะไประลึก ถึงเรื่องในอดีตที่ลืมไปแล้ว ที่มันเป็นเรื่องที่เรา อายบ้าง โกรธบ้าง
ก้รู้น่ะค่ะ ก็มีความุกข์ความอาย ก้อสักพักมันก็เปลี่ยนเรื่องอีก

ทีนี้ก็ไป ระลึกถึง คนที่เราคิดว่าเราอโหสิให้เขาแล้ว แต่มันไปนึกถึงคำพูดที่เขาเคยพูดกะเรา
แล้วมันเกิดอารมณ์โกดปรุงต่อ ว่าเขาคิดยังไง แล้วมันเห้นน่ะค่ะ เห็นว่าจิตมันมีอาการปรุง
ก็ถอนออกมา เพิ่งเริ่มต้นโกรธและเริ่มปรุง มันก็เลยไม่ลงไปปรุงต่อ แล้วก็มารุ้กายใหม่
แล้วก็คราวนี้มันก็ไป ระลึกถึง เรื่องที่เราทำไม่ดี ในวันนี้ที่สติเราไม่พอ เลยทำไป
มาทบทวนว่า ตอนนั้น เป็นอย่างนี้ๆ ตอนเราทำบางทีเราไม่ได้คิดว่ามันไม่ดี ก็เสียใจ

แล้วก็เศร้า และกลัว กลัวกรรม สงสารคนถูกทำด้วย ก็สักพักก็หายไป แต่นานหน่อยค่ะ
ก็มารู้กายอีก คือจริงๆตอนเกิดพวกนี้ก็รู้กายนะคะ แต่รู้คู่กัน แล้วไปหนักอารมณ์

พออารมณ์พวกนี้ดับ ก็จะมาชัดที่กาย มากขึ้น ความคิดก็เงียบลง รู้ลักษณะของลมหายใจ
จะแผ่ว สั้นแต่ไม่ได้สั้นมาก แล้วก็รู้เท้า สักพักก็ไปมันก็เริ่มมีเสียงความคิดขึ้นมาอีก
ก็เริ่มมัว แล้วก็รู้เท้าคู่กะความคิด แต่เท้าก็ไม่ชัด แล้วก้อ เด๋วก็ปรุงเรื่องความละอาย
ที่ทำไปขึ้นมาอีก เรื่องเดิมๆของวันนี้

ส่วนเวทนา ก็มี เจ็บแปล๊บๆที่สีข้าง ภายในท้อง แล้วก็เจ็บเป็นจังหวะ ที่ไหนจำไม่ได้
มีร้อนผ่าวที่ผิว คันปวดนิ้ว

พอมานั่ง ก็รู้กายนั่ง แล้วก็มีไปคิด แผ่วๆ ไปอยู่กะคิดแผ่วๆ แล้วก็ มีมารู้ท้อง แต่ว่า
ไม่ได้รู้แบบจ่อเข้าไป แล้วก็มีคิดแผ่วๆ แต่ไม่รุ้คิดอะไร แล้วก็รู้สึกนานมาก

มีความง่วง มีเหมือนจิตมันอิ่มๆนิด ก็ยังมีกลับมาที่กายได้ สลับกับไปแผ่วๆคิด จบแล้วค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

ต่ออีกรอบป่ะคะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ ขึ้นเลยนะคะ 60/20 รอบนี้ก็เดินฟุ้งซ่านน่ะค่ะ ก็รู้เท้า ความคิดไหลมาเรื่อยๆ ช่วงต้นๆ
ก็ไประลึกถึงเรื่องที่ทำให้ขำ แล้วก็คิดขึ้นมาว่า อะไรเนี่ย เด๋วก็คิดเรื่องขำ เด๋วก็คิดเรื่องทุกข์
มันเอาแน่เอานอนไม่ได้ประมาณนี้น่ะค่ะ แล้วคิดๆไป ก็เหมือนมันจะทุกข์ ใจไม่สบาย ก็ปล่อยไป

มาดูการเดินใหม่ จากนั้นก้เริ่ม ความคิดเยอะ แต่ไม่ได้จับเรื่องใดเรื่องหนึ่งค่ะ
ก็มีรูเท้าได้แต่จะไม่ดเจน ก็รู้คู่กะความคิดที่มัน เยอะ แล้วก็ มีปรุงความอยากขึ้นมา
คือปรุงรูปของกินน่ะค่ะ แล้วก็ไปอยากปรุงอาหารหลายประเภทเลย ทีละประเภทแล้วก็หายไป
แล้วก็ประเภทใหม่ขึ้นมา แล้วจากนั้นก็หลงไปคิดบ้าง แล้วก็มารวบรวม ความตั้งใจใหม่บ้าง

พอมานั่ง ก็มีหลงไปคิดอกุศลที่ไม่สมควร ปรามาสน่ะค่ะ มันจะสร้างเป็นภาพ ยังไม่สำเร็จ
แต่รู้ว่าจะเป็นภาพอะไร ก็ทุกข์มากเหมือนกัน ก็ขอขมา แล้วนั่งต่อ แล้วก็ไม่ค่อยจับกายน่ะค่ะ
มันเหมือนคิดแผ่วๆ จบแล้วค่ะ

รอบนี้มันก็จะมีมดกัดด้วยค่ะ มีเจ็บโน่นนี่ แล้วก็เบื่อ เมื่อย อยากเลิกทำหมดแล้วค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

กำลังจะถามพอดี คิดว่าผ่านเจ้ามดตัวน้อยได้แล้วสะอีก

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ยังเลยค่ะ ยังบ่ ผ่าน

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ ยอมรับมันไปค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

มา 2 ครั้งได้ค่ะ ค่ะพี่

สุขที่แท้จริง says:

เจริญสติต่อไป เดินจงกรม ลองใช้แบบรูปแบบ สลับกับแบบไม่ต้องมีรูปแบบบ้างนะคะ
คือ รอบที่ 1อาจใช้แบบมีรูปแบบ รอบที่สอง ไม่มีรูปแบบสลับไปมา
จนกว่าจะครบเวลาเดินจงกรมน่ะค่ะ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อืมๆ ตอนนี้สลับกันแบบ เบื่อรูปแบบก็เดินแบบไม่มีรูปแบบ
แต่ไม่ได้ทำทั้งรอบน่ะค่ะ ปนกันเลย

สุขที่แท้จริง says:

ลองทำทั้งรอบดูนะคะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ได้ค่ะพี่ ไว้เริ่มพรุ่งนี้ค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ ค่อยๆปรับรายละเอียดไปค่ะ บางทีเราเองอาจจะเพราะยังดูตัวเองยังไม่ค่อยออกน่ะค่ะ
เราก็เลยยังปรับเองไม่ได้


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ มันต่างกัน ยังไงหรือคะ แบบมีรูปแบบ กะไม่มี

สุขที่แท้จริง says:

ต่างกันค่ะ การมีรูปแบบ ที่แรกๆพี่ไม่ได้ให้หมูใช้ เพราะสติยังไม่มากพอที่จะใช้ได้
สังเกตุดูตัวเองสิคะ ใหม่ๆน่ะ ถ้าให้เดินแบบมีรูปแบบจะรู้สึกเหมือนหุ่นยนต์


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ก็ คือมันจะรู้สึกเหมือนโดนบังคับ แบบนั้นน่ะค่ะ มันจะทุกข์

สุขที่แท้จริง says:

ใช่ค่ะ นั่นแหละพี่เรียกหุ่นยนต์ มีหลายๆคนที่เป็นนะ ไม่ใช่แค่หมูคนเดียว
ฉะนั้นพี่จึงให้หมูเลือกรูปแบบที่จะปฏิบัติสำหรับตัวเองก่อน แล้วสภาวะเขาจะสอนหมูเอง
ว่าถ้าเดินแบบนี้ จะรู้สึกอย่างนี้ ถ้าเดินแบบนี้จะรู้สึกอย่างนี้ มันจะแยกๆกันในตอนแรกๆ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

กำลังคิดตามอยู่ค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

ให้คิดก่อนค่ะ แล้วโพสมาตามที่คิด พี่รอได้

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อ่อเปล่าค่ะ อ่านของพี่น้ำแล้วคิดตาม เพราะเหมือนยังไม่ค่อยเห็นอะไรมากตอนเดิน
แบบว่ารู้แต่เดินชัด เดินไม่ชัด รู้อารม แบบนั้นน่ะค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

หมูลองทบทวนนะคะ ตั้งแต่แรกเริ่มปฏิบัติ เมื่อแรกเริ่มหมูจะเดินแบบรูปแบบไม่ได้เลย
แต่ตอนนี้หมูเริ่มเดินแบบรูปบแบบได้มากขึ้น โดยใช้การนับตัวเลขเป็นจังหวะแทน


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อ่าค่ะ คือ มันไม่ยึด การปฎิบัติว่าต้องแบบไหน เดินแบบไหน ต้องบริกรรมไหม เหมือนสมัยเริ่ม
แค่รู้กายรู้อารมณ ให้ดีที่สุดในตอนนั้นน่ะค่ะ เลยเดินรูปแบบแบบ ไม่กังวลกะเรื่อง ความคิด
ว่าจะถูกหรือผิด มันก็เลยมีสมาธิเดินได้

สุขที่แท้จริง says:

ถ้าเป็นเมื่อก่อน หมูจะแยกรายละเอียดแบบนี้ไม่ได้
นี่เพราะ สติ สัมปชัญญะ ดีขึ้น เลยเห็นภาพชัดเจนมากขึ้น แยกแยะรายละเอียดได้มากขึ้น


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะแต่ก่อนแยกไม่ได้ค่ะ ไม่เข้าใจความทุกข์ค่ะ ว่าเกิดจากอะไร มันปนกันไปหมด
ทังเดินทั้งทุกข์ ทั้งความอยาก

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ ตอนนั้นสติยังไม่มากพอ และยังไม่เห็นกิเลส ยังไม่รู้จักมัน
พอรู้จักกิเลส หมูเลยเริ่มแยกมันออกจากกันได้ทีละน้อย


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่น้ำ เป็นแบบนั้นจริงๆค่ะ
งั้นเวลาเดินแบบมีรูปแบบ ก็คือ หมูก็ก้าวตามจังหวะจะนับไม่นับก้ได้ เหมือนเดิม ใช่ไหมคะ
ออกเสียงไม่ออกเสีย งหรือใช้จิตรู้ตามจังหวะของรูปแบบนั้นๆ ก้ได้

สุแท้จริง says:ขที่

ให้ดูความฟุ้งของตัวเองค่ะ ถ้ายังฟุ้งแบบนี้ ให้ใช้บริกรรมเข้าช่วยไปก่อน
เพราะถ้าสติดีแล้ว ความคิดมันจะแยกออกจากกันค่ะ คือ กายส่วยกาย ความคิดส่วนความคิด
จิตมันจะแค่รู้ ตอนนี้พี่เห็นว่า หมูพอจะเริ่มเดินแบบรูปแบบได้แล้ว
ถึงบอกว่า ให้ลองดู ทำสลับไปมา แล้วดูความรู้สึกของตัวเองด้วย


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ได้ค่ะ งั้นรอบแรก เป็นรูปแบบมีคำบริกรรม รอบ 2 ก็เดินตามที่หมูเดินทุกวันนี้แล้วเทียบเอานะคะ

สุขที่แท้จริง says:

แบบนี้นะคะ คำว่ารอบที่พี่พูดถึงน่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ครบ 1 ชั่วโมง

สุขที่แท้จริง says:

คือ ถ้าหมูเดิน 60 นาที เดินรอบแรกคือ หมายถึงไปและกลับ หมูจะใช้รูปแบบก่อน
หรือไม่ใช่รูปแบบก็ได้ พอรอบที่สอง ถ้ารอบแรกใช้รูปแบบไปแล้ว
รอบที่สอง ไปกลับจะไม่ใช้รูปแบบ แต่ให้รู้อยู่กับเท้าทุกย่างก้าวที่เดินแทน
ทำแบบนี้ สลับไปมาจนครบ 60 นาทีหรือตามเวลาที่หมูกำหนดไว้น่ะค่ะ
หมายถึงเดินไปกลับ ไม่ได้หมายถึงรอบที่ทำนะคะ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

โอ้ว ค่ะพี่

สุขที่แท้จริง says:

แต่พี่เรียกเดินไปกลับเป็นรอบ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เข้าใจแล้วค่ะพี่ แปลกจริงๆ แต่ น่าลองจังค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ ลองดูค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ขอบคุณค่ะ พี่น้ำ พี่น้ำมีเทคนิคเยอะมากๆเลย

สุขที่แท้จริง says:

ลองระยะที่ 1 ก่อนนะคะ ขวาย่างหนอ ซ้ายย่างหนอ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ได้ค่ะพี่

สุขที่แท้จริง says:

มีเทคนิดมากมาย เพราะผ่านมามากมาย

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

จริงๆจะบอกว่า

สุขที่แท้จริง says:

เดินร้องไห้ขี้มูกโป่งยังมีเลย เอาป่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ง่ะ ม่ายยยอาวว คือจะบอกว่าช่วยได้มากเลยค่ะกับเทคนิคเหล่านี้ เหมือนมันไม่ยึดน่ะค่ะ
จะทำอะไรแบบไหนก้ได้ ให้มีสติและจักสังเกตุตัวเอง

สุขที่แท้จริง says:

ใช่ค่ะ ขอให้มีสติ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อย่างเดินพร้อมฟังเพลง ข้าพเจ้าไม่เคยรู้มาก่อนว่าทำได้ พอพี่น้ำให้ทำ
ทีนี้เวลาใครเปิดเพลงจัดงาน หมูก็ทำได้ ไม่ต้องมากังวลว่าต้องหยุดทำ

สุขที่แท้จริง says:

ทุกอย่างมีประโยชน์เห็นไหมคะ สภาวะเขาสอนเราทั้งนั้น

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ ต้องช่างสังเกตจริงๆนะคะ พี่น้ำนี่เป็นนักเรียนรู้จริงๆ

สุขที่แท้จริง says:

ไม่งั้นนะ ใครเขาตีกัน ใครเขาด่ากัน เราคอยเงี่ยหูฟังเสียงเขาตายเลย สต่งสติหายโม๊ดดด

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ ใช่ค่ะพี่ คิดว่าต้องไม่มีอุปสรรคถึงจะทำได้ แต่พอแบบนี้มันก็ ไม่สนใจแล้ว ยังไงก็ทำ

สุขที่แท้จริง says:

ใช่ค่ะ ทุกอย่างมันมีเหตุ ถ้าเขาไม่ตีกันจนตายไปสะก่อน สุดท้ายคนที่ช่วยเขาก็คือเรา
อันนี้เจอกับตัวเองค่ะ ข้างบ้าบน สามีภรรยา ขี้เมาทั้งคู่ ตีกันเกือบทุกวัน
คนที่ทำแผลให้ทุกครั้งก็คือพี่ คนที่พาเข้ามานอนในบ้านก็คือพี่ เพราะสามีเขาไม่ให้เข้าบ้าน
เช้ามาเขาก็กลับบ้านเขา พอสร่างเมา ลืมเราแล้ว พี่ก็ขำๆ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

น่าสงสาร เขาลืมจริงๆเหรอพี่

สุขที่แท้จริง says:

เขาเปิดคาราโอเกะ ตะโกนเสียงดังสนั่นลั่นซอย พี่ก็เดินจงกรม นั่งสมาธิไป
มันก็แค่เสียง นี่แหละผลของการเจริญสติละ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

สุดยอดค่ะพี่

สุขที่แท้จริง says:

คาราโอเกะน่ะไม่ธรรมดานะคะ ยิ่งคนเมาด้วย

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เสียงดังสุดๆไปเลย แถมตีกันด้วย แล้วเมาอีก เอิ๊ก

สุขที่แท้จริง says:

ใช่ค่ะ ไม่ถูกใจ ด่ากันแล้ว ลั่นไปหมดเลย

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

คนแถวนั้นไม่ว่าเอาหรือคะ

สุขที่แท้จริง says:

ใครจะกล้าว่าล่ะหมู แต่ก้มีคนแอบโทรฯแจ้งตำรวจนะ ก็หยุดไปพักนึง
สุดท้ายก็เอาอีก แต่ตอนนี้ ย้ายไปหมดแล้วทั้งสองหลัง

มันมีเหตุนะหมู พี่ถึงต้องรับผลแบบนี้
พี่น่ะสมัยก่อนเคยกินเหล้า เคยเที่ยว จำได้ป่ะที่เล่าให้ฟังน่ะ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

จำได้ค่ะพี่ ที่บอกเปรี้ยว ซ่า สุดๆ พี่น้ำเมาอาละวาดด้วยหรือเปล่าคะ

สุขที่แท้จริง says:

เดี๋ยวนี้กล้ายืดอกรับว่าตัวเองเลว เพื่อเป็นตัวอย่างให้คนอื่นๆเห็นว่า เวลาใครเขามาด่า
เวลาใครเขามาทำอะไรไม่ดี อย่าไปโทษนอกตัว อย่าไปโทษคนอื่นๆ
เหตุล้วนเกิดจากเราทำไว้ในอดีต ไม่ต้องรอชาติหน้าหรอก ชาตินี้แหละ กรรมมันติดจรวด
พี่ไม่ได้เมาอาละวาด เมาแล้วหลับ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ก้ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนนี่คะ ทำไม

สุขที่แท้จริง says:

ทำสิคะ เปิดเพลง ตอนนั้นเช่าห้องอยู่กับรุ่นพี่และเพื่อนอีกคนนึง
เวลาลงเวรหรือไปเที่ยวกลับมา จะชอบเปิเดวิทยุเสียงดังสนั่น เราก็ไม่ทันคิดน่ะ
เพราะว่าหลับไปแล้ว พี่พอหลับแล้วนี่ เสียงดังแค่ไหนก็ไม่ตื่น จนกว่าจะถึงเวลาตื่น มันจะตื่นเอง


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ หลับได้ยังไงเนี่ย มิน่าละค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

ทีนี้พี่ที่อยู่ด้วย เขาต้องหนีไปนอนข้างล่าง บ้านสองชั้นน่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ไม่กลัวเสียงกรน ดีเหมือนกันนะคะ ภาพจิตดีจังนะเนี่ย

สุขที่แท้จริง says:

ใช่ค่ะ ใครจะกรนเสียงดังแค่ไหน พี่ไม่ได้ยินหรอก หลับสนิท คือเป็นคนที่หลับสนิทจริงๆ
เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กๆแล้วค่ะ แม่บอกว่า ถ้าไม่ปลุกให้กินนม พี่จะไม่ตื่นเองแบบหลับได้ทั้งวัน


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

หมูว่าเป็นสมาธิที่ติดมาจาชาติที่แล้วหรือเปล่า สมาธิทำให้ง่วงนี่คะ

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ น่าจะเป็นแบบนั้น เคยอ่านเจอนะ เรื่องของคนหลับว่าเป็นเรื่องของสมาธิ
แต่พี่ไม่ได้ไปสนใจ มันก็แค่หลับ วันนี้พี่ทำรอบเย็นอีกรอบ ไม่ลองไม่รู้


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เป็นยังไงบ้างคะ

สุขที่แท้จริง says:

ก็ดีนะ อาการเบื่อมันหายเป็นปลิดทิ้งเลย

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เอ๊ะ อยู่ๆก้หาย

สุขที่แท้จริง says:

สมาธิไงหมู แต่สมาธิเดี๋ยวนี้ดีกว่าเมื่อก่อน ไม่ทำให้พี่ปวดหัว
จะนั่งพิจรณาอะไรนี่ รู้สึกมันชัดเจนมากขึ้น เมื่อก่อนพิจรณาอะไรเป็นสะที่ไหนล่ะ ทำแบบโง่ๆ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

มันมีแรง อ่าว

สุขที่แท้จริง says:

ก็ทำแบบไม่รู้อะไรไง

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เหมือนหมูตอนนี้สิคะ ร้อง อ่าว เลย

สุขที่แท้จริง says:

ไม่อ่ะ ของหมูดีกว่า รู้จักกิเลสแล้ว สภาวะมันจะพาไปเอง พี่เพียงคอยดูสภาวะให้
แล้วคอยแนะนำว่าหมูควรปรับ ควรเพิ่ม ควรลด อะไร ตรงไหน
จิตมันมีแรงจริงๆ อันนี้ยอมรับนะ สมาธิกลับมาครั้งนี้ พี่รู้สึกว่าพี่ก้าวหน้ามากขึ้น


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ อย่างที่หมูเดินดู กิเลสไป แล้วเหมือนค่อยๆสังเกตมันไป แล้วเหมือนเจาะรายละเอียดมัน
นี่ใช่การพิจารณา พี่พูดถึงกันหรือเปล่าคะ

สุขที่แท้จริง says:

พูดถึงกัน ..... คืออะไรคะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ก็ที่ ใช้คำ มันพิจารณา คำว่าพิจารณา ในการปฎิบัติน่ะค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

อ่อ .. จิตมันพิจรณาเอง

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ก็เลยสงสัยว่า แบบหมูนี่ ใช่ไหมคะ

สุขที่แท้จริง says:

มันจะทบทวนแต่ละสภาวะขึ้นมา

แบบเดียวกันแหละหมู พอรู้จักกิเลสแล้ว จิตมันจะรู้จักพิจรณา มันจะมองแต่เหตุและผล

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

แบบที่หมูเห็น เรา ในความโกรธ ว่าทำไมโกรธ แล้วมันก็หายไป และมีความเข้าใจ

สุขที่แท้จริง says:

นั่นแหละ มันจะไม่ไปมองนอกตัว ไม่ไปกล่าวโทษนอกตัว
ยิ่งจิตละเอียดมากขึ้นเท่าไหร่ มันจะจับกิเลสได้ไวขึ้น ชัดขึ้น


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

สุดยอดเลยค่ะพี่

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ เห็นไหมว่า พี่เองแนะนำหมู พี่ก็ดูจิตตัวเองไปด้วย

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ยังไงหมูอนุโมทนาด้วยนะคะ ช่วงนี้พี่น้ำก้าวหน้าขึ้น พี่ดูจิตตัวเองไปด้วย ตอนคุยกะหมู
หมู ก็พยายามรู้ตัว ตอนคุยกะพี่ แบบมือพิม์ ใจคิด จะได้ระวัง

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ จำได้ไหม เมื่อก่อนนี้ พี่จะชอบพูดถึงบุคคลที่ 3 กับหมู ดีที่ว่าหมูรับตรงนั้นได้ เป็นบางคน
เผ่นไปแล้ว เพราะเขาไม่เข้าใจ แต่เดี๋ยวนี้มันไม่มี


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ จำได้ หายเกลี้ยงเลย

สุขที่แท้จริง says:

ใช่ค่ะ จิตมันละเอียดมากขึ้น

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เฮ้อ ... ฟังแล้วกระชุ่มกระชวยนะคะ

สุขที่แท้จริง says:

เราว่าเขา เขาก้ว่าเรา มันไม่รู้จบ ไม่ว่าจะว่าต่อหน้าหรือลับหลัง ด้วยวิธีการไหนๆก็ตาม
ล้วนส่งผลหมด เด๋วนี้จิตมันไว มันรู้ไวมากขึ้น


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ ผลของการเจริญสติ

สุขที่แท้จริง says:

เอานะ เจริญสติต่อไป ถ้าวันใด กล่าวเพ่งนอกตัวน้อยลง นั่นน่ะ ใกล้แล้ว ใกล้เป็นคนดี

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ว่าแล้ว ปกติพี่น้ำไม่พูดให้

สุขที่แท้จริง says:

อันนี้ดีจริงๆ ไม่ใช่ติดดี

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ คือถามว่า

สุขที่แท้จริง says:

ถ้าดี จะไม่ว่าใคร ถ้าติดดียังมีว่าคนอื่นๆ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เข้าใจเลยค่ะ จะมีเราดี เขาไม่ดี เขาไม่ดี เพราะเราดี

สุขที่แท้จริง says:

นั่นแหละ ความคิดทั้งนั้นแหละ เพราะยังมีเรา ตราบใดที่ยังมีเรา มันก่อเรื่อง ก่อเหตุใหม่ไม่รู้จบ
เราไม่ได้ทำลายเราทิ้ง แต่เราจับเอาเราที่มีมาขัดเกลาเสียใหม่ ให้สะอาดขึ้น


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อืม... พูดถึงว่า บอกยากเหมือนกันนะคะ ว่ากิเลสมันเป็นยังไง
คือ มันรู้สึก มันเข้าใจ แต่มันพูด ไม่เป็นภาษาออกมา

สุขที่แท้จริง says:

พี่ถึงบอกไง มี เรา เมื่อไหร่ นั่นแหละ โง่ ถูกค่ะ ถ้ามีภาษา นั่นไม่ใช่

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ มันเหมือน ความเข้าใจ รู้สึก + เข้าใจ ไม่ใช่ความคิดบ่นพร่ำถึงสิ่งที่อ่านมา

สุขที่แท้จริง says:

ใช่ค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เด่วหมูไปทำอีกนิดหน่อยค่ะ ไว้พรุ่งนี้เจอกันค่ะพี่

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


แก้ไขล่าสุดโดย walaiporn เมื่อ 23 ม.ค. 2010, 01:31, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ม.ค. 2010, 02:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


วันที่ 159


งไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เสร็จรอบแรก ค่ะพี่ 60/25 ตอนเดินก็ทำตามที่พี่น้ำแนะนำค่ะ คือ สลับกัน
ระหว่างมีรูปแบบและคำบริกรรม กับไม่มีรูปแบบ ไม่มีคำบริกรรม ก็คือว่า

ถ้าทำแบบมีรูปแบบและมีคำบริกรรม ก็รู้เท้าได้ชัด ทั้ง ยก ย่าง วาง คือมันจะเห็นละเอียด
ครั้งแรกๆทีลองทำ มันจะแข็งๆหน่อย เหมือนพอเราก้าวขา มันเหมือนมีแรงส่ง แต่จะชัดเจนน่ะค่ะ

พอมาเดินแบบ ไม่มีรูปแบบก็เห็นว่า การรู้สึกเท้าจะขาดช่วง คือมันจะไม่เห็นชัดเหมือนมีรูปแบบ
มันจะไปอยู่ที่ใจ หรืออารมณืได้ง่ายกว่า และ ความฟุ้งซ่านก็มักเดิขึ้นช่วงนั้น แต่ว่า
การรู้กายจะสบายๆกว่าค่ะ แล้วบางครั้งจะรู้ในภาพรวกาย คือจะไม่ลงไปจับเท้า

ทีนี้การที่เดินสลับกัน มันช่วยทำให้รู้ว่า ตอนไหนที่ขาดสติ เพราะขาดสติเมื่อไร
ก็จำไม่ได้แล้วว่านี่ต้องแบบมี รูปแบบ หรือรอบนี้เดินไม่มีรูปแบบ การสำรวมระวัง เลยมีมากขึ้น

หากเดินบริกรรมแบบมีรูปแบบ เมื่อไรที่ไปปรุง ก็จะรู้ง่าย เพราะว่าคำบริกรรมจะเบา
หรือขาดหายไป แล้วการปรุงจะแทรกเข้ามา

สำหรับเวทนามด กัด ยังมีอยู่ และเจ็บมาก แต่จะเกิดขึ้น ในรอบที่เดิน ไม่มีรูปแบบ
แล้วก็ มีความไม่พอใจเกิดขึ้น เกิดจากพยายามเดิน ก็ดูไป ไม่ได้ปฎิเสธมัน

แล้วก็เห็นว่าที่ความไม่พอใจเกิด เพราะยังมีความยึดถือเรื่องการปฎิบัติ อยู่ จิตมันเลย ไม่พอใจ
ก็รู้ไปน่ะค่ะ อกุศลปรามาสยังมีอยู่ ก็มีความเสียใจ แล้วกำหนดรู้ แล้วขอขมา แล้วปล่อยไป

แล้วพอมานั่ง ก็ รู้กายได้ค่ะ รู้ท้องเคลื่อนไหว แล้วก็มีไปคิด คือคิด รู้คู่กะกาย มันไม่ได้หลงลืมกาย
แต่ไม่ได้เงียบสงบ มีคิดอกุศลปรามาส ก็ขอขมา แล้วนั่งต่อ แล้วก็จนหมดเวลาค่ะ
บางช่วงก็ไม่ค่อยอยู่กะกายค่ะ แต่ภาพรวมคือไม่ได้หลงลืมตัว หายไป

สุขที่แท้จริง says:
ต่ออีกรอบป่ะคะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ต่อค่ะพี่ เด๋วขอเซฟข้อมูลก่อนนะคะ แล้วมาส่งใหม่ค่ะ
เสร็จแล้วค่ะพี่ 60/26

ก็ตอนเดินก็รอบนี้จะเผลอบ่อยค่ะ คือว่ามันจะจำไม่ได้ว่ารอบนี้ตามรูปแบบหรือว่าไม่รูปแบบ
แล้วก็บางครั้งพอกำหนดขวาย่างหนอแล้วมัน ไปคิดด้วย มันก็เลยกำหนดลอยๆ แต่ก็รู้เท้านะคะ

จิตใจมีความทุกข์ ความไม่พอใจ ความกังวล กังวลเรื่องร่างกาย โรคภัย ในอนาคต
ก็ทุกข์มากเหมือนกันค่ะ มันปล่อยวางไม่ได้ ห่วงกาย ก็แต่ว่า เดินๆไป มันก็เปลี่ยนไปคิดเรื่องอื่น

อารมณ์ความกลัว กังวลก็แผ่วหายไป แล้วเด๋วก็ระลึกขึ้นมาใหม่อีก แล้วก็หายไปช่วงหลังๆ
แล้วก็มีจิตจะปรามาส ก็กำหนดก่อน ก็ยังไม่ได้ขึ้น แต่ก็ทุกข์ค่ะ

ตอนกำหนด มีความไม่พอใจแทรก มีเวทนา เหมือนมดกัด มันก็ไม่เชิง คือมันเจ็บจี๊ดๆ
เหมือนโดนตำ เป็นจังหวะที่เท้า มีมัว แต่ไม่มาก แล้วก็หายไป

แล้วพอมานั่ง ก็รู้ท้องขยับ กขยับ ไม่ได้รู้เป็นพองยุบ แต่รู้ว่ามีการเคลื่อนไหว เบาๆ แล้วก็มันเงียบๆ
แล้วก็ มีลอยไปปรุงเปนภาพ แต่ยังรู้กายได้แตะๆ แล้วก็มีช่วงที่ลมหายใจแผ่วจนเหมือนไม่ค่อยหายใจ
แต่กายยังขยับอยู่ ก็เลยรู้ว่ามีลม มีกายเคลื่อนไหวก็เงียบค่ะ

ตรงนี้คือผลของการเจริญสติต่อเนื่อง เมื่อจิตเกิดสมาธิ แต่ไม่ดิ่งไปสู่สมาธิส่วนลึก
แต่มีสติรู้อยู่ สมาธิตรงนี้จะอยู่ระหว่างอุปจารกับอัปนาสมาธิ
จะรู้อยู่กับกายแผ่วเบา ไม่สามารถสัมผัสพองยุบได้ชัด เพราะจิตมีสมาธิมาก



แล้วก็ความกังวล เรื่องโรคภับขึ้นมาอีก ก็เกิดความรู้สึก อยากจะพ้นๆ แบบกลัว
แล้วก็คิดว่า กลัวนรก กลัว โรค แบบ ไม่กล้าประมาท แล้วก็เอาเถอะ ถ้าชาตินี้จะตายโดยโรค
ก็เอาเถอะ แต่ทำให้เต็มที่ ให้มันจบๆไป แล้วก็ เลยทิ้งพวกนี้ไป
ดูกายต่อ ก็รู้กายเคลื่อนไหวต่อจนรู้สึกว่านานพอดูเวลาก็เลยเวลาแล้วค่ะจบแล้วค่ะพี่

สุขที่แท้จริง says:

กลัวน่ะดีแล้ว มันจะทำต่อเนื่อง

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ เกิดมาแล้ว มันกลัว มันไม่อยากเกิดอีก

สุขที่แท้จริง says:

เพราะมันเริ่มรู้ตามความเป็นจริงแล้วไงหมู เลยทำให้กลัวการเกิด

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ ความกังวลเรื่องกายนี่ ก็เพิ่งเกิดมาวันนี้

สุขที่แท้จริง says:

จะเกิดให้ดีเลิศแค่ไหนก็ต้องเจอกับความทุกข์อีก

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ แก่ เจ็บ ตาย ทุกข์กาย ทุกข์ใจ

สุขที่แท้จริง says:

เหตุแห่งทุกข์ เราจึงต้องมาเจริญสติเพราะเหตุนี้

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ตัณหา ใช่ไหมคะ

ขที่แท้จริง says:

ตัณหาคือความอยาก นี่คือ ขันธ์ 5 จ้ะ เจ้าตัวก่อให้เกิดทุกข์
ทุกข์ที่แท้จริง ทำไปเดี๋ยวรู้เองค่ะ พอรู้ก็ถึงบางอ้อเลย มันมีแค่นี้จริงๆ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่

สุขที่แท้จริง says:

เราอาจจะทุกข์แค่ช่วงปฏิบัติ แต่ชีวิตจริงเราไม่ไปทุกข์ใจกับอะไร เรามีสติรู้ทันมากขึ้น
ส่วนการปฏิบัติน่ะ มันเป็นไปตามสภาวะ

บางคนไม่เข้าใจคิดว่า ทำแล้วทำไมมีแต่ทุกข์ พี่อยากอธิบายให้ฟังนะว่า มันทุกข์แค่เวลาปฏิบัติ
มันเป็นไปตามสภาวะ แต่ชีวิตจริงน่ะ พี่มีชีวิตที่อิสระ สุขสบายมากๆเลยก็ว่าได้

ไม่ได้มาทุกข์แบบตามสภาวะที่เกิดขึ้นในขณะที่ปฏิบัติ แต่พูดไปคนคงไม่เข้าใจ
เพราะเขาไม่ได้มาทำแบบที่เราทำ

พี่ถึงเข้าใจที่หมูอธิบายเมื่อวานว่า มันทุกข์แค่ตอนปฏิบัติ แต่ชีวิตจริงไม่ได้ไปทุกข์กับมัน
มันมีสติมากขึ้น ทันมากขึ้น


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ คือว่า เราเข้าใจ ความทุกข์น่ะค่ะ แล้วเราก็จะไม่ไปทุกข์กะมันมาก

สุขที่แท้จริง says:

หมูก็เห็น ชีวิตพี่มีความสุขกาย สุขใจดี ร่าเริงตลอด คนมีความทุกข์ที่ไหน
จะมามีหน้าตาร่าเริงสดชื่นแบบนั้นล่ะ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ใช่ค่ะ ร่าเริ้ง ร่าเริง ตอนระหว่างวัน ความบีบคั้น ความไม่พอใจที่หมูเจอ มันลดลงแล้ว

สุขที่แท้จริง says:

ชีวิตพี่เป็นแบบนั้นจริงๆนะ พี่มีความสุขในชัวิตมากๆเลยก็ว่าได้ในตอนนี้
เพียงแต่สภาวะของพี่ในเรื่องปฏิบัติน่ะ พี่จะเจอแต่ทุกข์ เพราะว่าพี่รู้ทันกิเลสที่มันมาแสดง
ความสงบก็กิเลส พี่ติดมันพี่ก็ไปต่อไม่ได้ มันเลยทำให้พี่เบื่อสภาวะ พี่ไม่ได้เบื่อชีวิต


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อืมๆ ค่ะพี่ เหมือนพี่น้ำบอกว่า เบื่อจนจิตมันอยากเอาออกมา
หมูก็คิดว่าปรามาส มันกลับมา ทดสอบหมูอีกแล้ว

สุขที่แท้จริง says:

มันไม่ใช่เบื่อชีวิต แต่เบื่อสภาวะมันเกิดขึ้นเอง ไม่ใช่เราไปอยากให้เกิด แต่คนไม่เข้าใจ
ใช่หมู กิเลสมันรู้ว่าเราไม่ชอบตรงไหน มันจะเอาตรงนั้นมาหยอดทดสอบเราเรื่อย


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ก่อนหน้านี้ที่โดนหนักๆ หมูเข้าใจมัน จนไม่ทุกข์แล้ว พอกลับมาใหม่ เอาอีกแล้ว ทุกข์อีก
แต่ก็ไม่ได้ หนักเหมือนครั้งแรกๆ มันทำให้หมูต้องระวังตัวมากขึ้น

สุขที่แท้จริง says:

นั่นแหละ สติมันจะทัน มันจะเบาบางลงไปเรื่อยๆ เหมือนพี่น้ำไม่ชอบสภาวะความสงบ
เพราะรู้นี่ว่าถ้าติดความสงบเมื่อไหร่เสร็จมัน เลยไม่ชอบมัน มันจะสงบไปหมด
แม้แต่ความคิดก็แผ่วมากๆแทบจะไม่มี


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อื้อหือ เงียบมากๆสิคะ

สุขที่แท้จริง says:

นั่งก็สงบกี่ชม.ก็นั่งไปเถอะ เวทนาเกิดเราแค่ดูมันสงบลงไป
ใช่หมู เงียบมากก

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ก็ดูเหมือนมันดีนี่คะ แล้วมันไม่ดียังไงเหรอคะ

สุขที่แท้จริง says:

นี่แหละเลสตัวเอ้บบเลยย
สภาวะจะก้าวหน้าต่อเมื่อสภาวะความสงบนี้ผ่านไป


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อ้าวเหรอคะ ก็เราต้องทำไงละคะ

สุขที่แท้จริง says:

จะมีอะไรล่ะก็ทำแบบเดิม เจริญสติ เพียงแต่ต้องใช้เวลา

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อ้อ งั้นก็สงบก็สงบไป

สุขที่แท้จริง says:

พี่ถึงไม่ยอมทำรอบเย็นไง เพราะทำแล้วสมาธิมันเกิดมาก พอสติมาก
สมาธิมาก เมื่อคืนกว่าจะหลับได้ แทบแย่ แต่ก็หลับนะ เพียงแต่มันรู้ตัวทั้งคืน


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อ้าว แล้วไม่ทำ เราจะเจริญสติ แบบไหนอะคะ

สุขที่แท้จริง says:

เจริญสติแบบเดิมน่ะแหละ ไม่มีอะไรพิเศษหรอก

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เอแล้วแบบนี้ต้องทำไงถึงเหมาะละคะ ขยันก็ไม่ได้ด้วย

สุขที่แท้จริง says:

มันเกิดเอง พอถึงเวลามันก็หายไปเอง เมื่อไม่สนใจมัน
แต่พอดีพี่ยังไๆปสนใจมันอยู่น่ะ แบบประมาณว่า มาอีกแล้วเหรอออ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เข้าใจแล้วค่ะ วันนี้ให้แตงกวา ( น้องสาวตัวน้อย ที่ว่าเป็นโรคลมชัก )
เดิน ไปกลับ 3 รอบ ตอนแรก 2 รอบช้าๆ

สุขที่แท้จริง says:

ดีจัง เขาเดินได้หรือคะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

แล้วนั่งค่ะ เขาเก่งนะคะ ดูออกเลย ว่ามีสมาธิ เพราะก้าวขา ตรงจังหวะ

สุขที่แท้จริง says:

อานิสงส์ เขาเคยสร้างเหตุมาจริงๆ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

หมูดูเขาแล้ว เขาก้าวขาเป็นธรรมชาติ

สุขที่แท้จริง says:

แต่เพราะวิบากกรรมเขาจึงเป็นแบบนั้น

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ แล้วเดิน 2 รอบก่อน แล้วหมูให้เขานั่งจับพองยุบ มีสมาธินะคะ เขาลมแผ่วๆ
ตาปิดสนิท แล้วท้องเคลื่อนไหวธรรมชาติ สักพัก มือตก กลืนน้ำลาย แต่ยังหลับตา

สุขที่แท้จริง says:

ตรงสภาวะเลยนะนั่น

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

แสดงว่าสมาธิดี

สุขที่แท้จริง says:

หมูเก่งนะ จับรายละเอียดได้ทุกระยะเลย

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ก็คอยมองน่ะค่ะ แล้วก็ พอสักพักเขาเริ่มหายใจแรง หมูก็บอกว่าพอ
แล้วเห็นเขางัวเงีย หมูเลยให้เขา เดินไปกลับอีกรอบ ไม่อยากให้สมาธิมากไป

ก็เลยกลายเป็นเดิน 3 รอบ ตอนที่สุดทาง กำหนด ยืนหนอ หมูรู้ว่าเขาอาจจะไม่รู้ทำไง
เลยเอามือจับหัวเขา บอกตั้งสตินะ จากหัวถึงเท้า แล้วเอามือลูบลง ไปสุดเท้า
ออกเสียงไปด้วย ดูแล้วเขาก็นิ่ง มีสมาธิตาม บางครั้ง เขาจะหนอจบเอง
แสดงว่าเขากำหนด ตามการรับรู้ของเขาเอง แล้วก็กรวดน้ำ ให้ไมค์ตามเคย

สุขที่แท้จริง says:

ไม่ได้ให้เขานั่งหรือคะเวลาแผ่เมตตา กรวดน้ำน่ะค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

นั่งค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

อ่อ ... คิดว่าให้ยืน เห็นเล่าถึงตอนยืน

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อ่อเล่าย้อนหลังค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

โมทนาค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

สาธุค่ะพี่ ตอนกรวดน้ำ เขาก็ดูสงบดี แต่พอเอ่ยชื่อไมค์ แหม ยิ้มกรุ้มกริ่ม

สุขที่แท้จริง says:

รู้เลยยย

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

มากๆอะค่ะ เจ้านี่เขาแสบมากนะพี่ อย่างเวลาแม่ดุเขา
เขาบอกว่ายังนี้ไม่ได้สอนแล้วเขาเรีบกว่าด่า สอนต้องพูดดีๆสิ อื้อหือ

สุขที่แท้จริง says:

ฉลาดนะนั่น แยกแยะเป็น

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เขาฉลาดนะคะ แบบ บางทีเราอึ้งไปเลย

สุขที่แท้จริง says:

เห็นไหมว่าผลของการเจริญสติ อานิสงส์มาก
พอช่วยตัวเองถึงแม้ยังไม่ถึงที่สุดแต่ถือว่าเริ่มพึ่งตัวเองได้แล้ว นำไปช่วยคนอื่นๆได้


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ หมูก็ยังช่วยได้เท่านี้น่ะค่ะ เขาจะได้มีกุศลบ้าง จะสติหรือสมาธิ ก็ดีทั้งนั้นเพราะเป็นกุศล

สุขที่แท้จริง says:

หมู .. ตั้งสตินะ หายใจยาวๆ พี่น่ะไม่คิดว่าจะพูดหรอกนะ กลัวจะหลง
พี่น่ะทึ่งกับหมูมากๆเลยนะ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ทำไมหรือคะ

สุขที่แท้จริง says:

หมูก้าวหน้ามากๆ บางคนปฏิบัติถอดใจแล้ว ไม่ไปต่อ
แถมมาส่งอารมณ์กันแบบนี้ด้วย ไม่ได้อยู่คุมกัน เหมือนที่หมูยืนคุมแตงกวา
แบบต้องทำจริงๆถึงจะได้ผลจริง พี่ถึงบอกว่า พี่ไม่สนใจหรอกว่าใครทำจริงหรือไม่จริง
และมาส่งอารมณ์กับพี่ เพราะผลที่ได้รับคือคนทำ ไม่ใช่พี่ บางคนมองว่ามันซ้ำๆซากๆ
จริงๆแล้ว รายละเอียดมันมีตลอดเวลา


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะเยอะมากเลยค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

แล้วต้องรายงานตามความเป็นจริง ไม่ใช่รายงานเอาสวยงาม กิเลสไม่ยอมรายงาน สิ่งที่ไม่ดีที่เจอ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อ่อ อันนั้นเคยเป็นค่ะ แต่รายงานหมด ที่เล่าให้ฟังไงคะว่ามันอยากเล่าแต่เรื่องดี ๆ

สุขที่แท้จริง says:

พี่รู้ว่ามันน่าอายย แต่ถ้าเราไม่ยอมรับในสิ่งที่เราเป้น แล้วเราจะเห็นกิเลสที่แท้จริงได้ยังไง

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ กิเลสทำให้เรา ทำต่อ เพราะหมูปรามาส หมูเลยยิ่งต้องทำ
ยังติดหนี้ครูบาอาจารย์ พระรัตนตรัย ต้องทำเพื่อไม่ให้ซ้ำรอยเดิม
ยังบกพร่องมากมาย ก็เลยต้องทำน่ะค่ะ เพราะแบบนี้เลยทำต่อน่ะค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

ตื้นตันใจน่ะ ที่ส่งอารมณ์ไม่เคยขาด

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ขอบคุณพี่น้ำมากนะคะ หมูก็ดีใจมากๆ ที่ได้โอกาส ฝึกกับพี่น้ำ
ไม่งั้นไม่รู้จริงๆเลย ว่าอะไรเป็นอะไร เจอกิเลสก็ถอยแล้ว
คิดว่าไม่มีบุญ ทำแล้วยิ่งบาป แบบนั้นน่ะค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

เข้าใจค่ะ การจะให้ทำใจยอมรับว่าเรามีในสิ่งที่เราคิดว่ามันไม่ดี นี่มันยากจริงๆ
แถมต้องมาพูดตามความจริงที่เป็น ให้คนอื่นที่ไม่รู้จักเลย มาพูดให้เขาฟัง
แล้วเขาคนนี้จะเชื่อหรือไว้ใจได้หรือเปล่าก็ไม่รู้
ขอบคุณนะที่มาเชื่อใจกัน แล้วยอมทำตามที่พี่แนะนำ เพียงแต่ทำในรูปแบบที่หมูเลือกเอง


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ขอบคุณเช่นกันค่ะพี่ หมูคงเคยสร้างเหตุดี กะพี่น้ำจริงๆ เลยเชื่อ ไม่คิดระแวง

สุขที่แท้จริง says:

ต้องขอบคุณวาเขาด้วยนะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ ใช่ค่ะ วาเขามีบุญคุณ

สุขที่แท้จริง says:

เราเคยสร้างเหตุร่วมกันมาไม่งั้นไม่มีทางมาเชื่อกันหรอกค่ะ แล้วมาทำความเพียรต่อเนื่องแบบนี้
ดูสิ ถ้าคนไม่เข้าใจ แบบที่พี่เล่าให้หมูฟัง ทำไปทำไม เห็นมีแต่ทุกข์ ใครๆเข้ามาอ่านไม่มีใคร
อยากทำตาม เขาไม่รู้หรอกว่า เราทุกข์แค่ตามสภาวะ แต่ชีวิตจริงๆมีความสุข ไม่ได้ทุกข์อะไรเลย
นับวันยิ่งปฏิบัติ ยิ่งอยู่กับโลกได้อย่างมีความสุขมากขึ้น มีเส้นทางชีวิตของตัวเอง
มีทางที่ตั้งเป้าหมายเอาไว้ ใช้ชีวิตแบบมีคุณค่า เรียกว่าเกิดมาแล้วไม่เสียเปล่า
นอกจากช่วยตัวเองได้แล้ว สิ่งที่เราได้ผลตรงนี้ ยังนำไปช่วยคนอื่นๆต่อไปได้อีก
ไปอยู่ที่ไหนก็ไม่กลัวคำว่าอด เพราะมันไม่มีคำว่าอด มันมีแต่คำว่า มีๆๆๆๆ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ มันเบาใจขึ้น ก็ล่าสุดนี้ ผลออกมาว่าคงไม่มีโบนัส เพื่อนบอกหมูว่าไปแก้กลุ้มกัน อย่าคิดมาก
หมูก็นึกขึ้นมาได้ว่าเออ ว่ะ ลืมทุกข์ ไม่ได้คิดถึงตรงนั้นเลน คือมันก็มีบ้างที่เอ้อไม่ได้เหรอ
แหมผิดหวังนิดๆ แต่ก็ไม่ได้ทุกข์ ขนาดนั้นเลย

สุขที่แท้จริง says:

ใช่ เราจะไม่ไปทุกข์อะไรกับมัน เหมือนที่พี่เล่าให้ฟัง เงินเดือนพี่ออกล่าช้าไปสองเดือน
มีแต่คนเดือดร้อน พี่เฉยๆ เพราะพี่รู้จักใช้เงิน คนที่ไม่รู้จักใช้เขาก็เดือดร้อน เขาได้รับโบนัสกัน
พี่ไม่ได้ ทุกคนถามว่าไม่เสียใจเหรอ พี่บอกเฉยๆ มันไม่ใช่เงินของเรา ไม่เคยอยากได้ของใคร
ดีใจมากๆที่ได้มาทำงานที่นี่ ห้องทำงานส่วนตัว ห้องใหญ่กว่าคอนโด แถมแอร์เย็นฉ่ำทั้งวัน
สัปปายะเหมาะแก่การปฏิบัติมากๆ มันมีค่ามากกว่าเงินเดือน และเงินโบนัสที่เขาพูดๆกันอีก

หาได้ที่ไหนล่ะหมู ได้ทั้งเงิน ได้ทั้งกุศล ได้เจริญสติทั้งวันแบบนี้

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

หา ม่ายย ล่ายย ได้เจริญสติทั้งวันเลย แถมได้เงินเดือนอีก

สุขที่แท้จริง says:

แอร์นี่เย็นกระหน่ำ เปิดทั้งวัน โซาฟาที่เขามีไว้ให้แบบห้องชุดเลยนะ แสนสบาย เอาไว้นั่งจับพองยุบ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ดีนะคะ พอ..ใจ

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ พี่พอใจ
พอใจและมีความสุขกับการใช้ชีวิตแบบนี้

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

วันเกิดพี่น้ำ นี่ พี่น้ำจะไทำบุญไหมคะ

สุขที่แท้จริง says:

ไม่อยากพูดล่วงหน้า กลัวพลาด

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ ไว้ถ้ามีแผนไป หมูขอติดสอบห้อยตามไปด้วยนะคะ

สุขที่แท้จริง says:

ได้สิ กำลังคิดอยู่ว่าอาจจะจ้างเพื่อนมาขึ้นเวรแทน แต่ยังไม่แน่นอน

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ม.ค. 2010, 00:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


วันที่ 160


งไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เสร็จแล้วค่ะพี่ 60/25 ตอนเดินวันนี้ก็ ฟุ้ง ทุกข์ อยาก
คือว่า ตอนเริ่มเดิน ความทุกข์ก็ขึ้นมาที่อก และคอ ความไม่พอใจ ความทุกข์บีบคั้น
การเดินรู้เท้า แต่จะไม่ต่อเนื่องแบบเงียบๆ เพราะมันไปทุกข์กะคิด ดูไปว่าเกิดจากอะไร

เพราะว่าจิตมันเอียนๆ มาตั้งแต่กลางวันแล้ว แต่มาชัดเอาตอนปฎิบัติ นานมากค่ะ จนรู้สึกเห็น
ทั้งความอยากตอนก้าวเดิน ความอยากที่ปนกะความโกรธ ไม่พอใจ นึกถึงคำสอนพี่น้ำและพระสูตร
ที่ว่าให้ยอมรับมัน แต่มันเปนแค่ความคิดที่ยอมไม่ได้ จริง มันยังอยากหายจากทุกข์

มองๆไป เลยรู้สึกว่า ความเอียน ที่ทำให้ทุกข์มาก มันเกิดจากความยึดดี ยึดการปฎิบัติ
ว่าตอนนี้ทำความดีแล้ว แล้วก็ ระหว่างเดิน มันจะมีตัว ยิ้มๆเยิ้มๆ ซึ้งตัวนี้เมื่อเกิดแล้ว
เราจะไม่พอใจมัน จะเอียนมัน ตัวยิ้มๆเยิ้มๆนี้เอง ที่ทำให้ทุกข์ แล้วก็ ตัวนี้ เกิดขึ้นเช่น

หมูไปคิดว่าเด๋วรายงานสภาวะ พี่น้ำจะชมหรือเปล่า มันเกิดตัวนี้ มันสร้างภาพถูกชม
หรือบางที เวลาเผลอไปคิดว่าเราทำความดีอย่างนี้ สภาวะตอนนี้ ทันกิเลสมากขึ้นอยางนี้

หรือ ไม่ค่อยโกรธ หรือเป็นลูกที่ดี พี่ที่ดีแบบนี้ ตัวนี้จะเกิดขึ้นมา แล้วมันจะสร้างภาพ ให้เรา
ห้ามผิดไปจากนี้ ตัวนี้ทำให้ทุกข์และเอียน จนมันเหมือนคลื่นไส้ในจิต

และก็หมูเปลี่ยนเป็น เดินบริกรรมเพราะว่าหลายครั้ง จำไม่ไดได้ว่าเดินในรอบของมีรูปแบบหรือไม่มี
เลยใช้วิธีออกเสียงแทนที่จะบริกรรมในใจ ก็ดีขึ้น แล้วก็มารู้ว่า ไปปรุงมันขึ้นมาเอง

คือไปเห็นว่าเริ่มจากคิดปรุง แล้วจึงเกิดตัว ความคิดว่าเราติดดี 2 ครั้งนะคะที่เห็น
ก็พอเห็นก็ อ่อ หยุดทัน มันออกเสียงแล้วเห็นชัดขึ้น สำหรับวันนี้ แล้วก็พอดีหมดเวลาค่ะ

พอมานั่ง รู้สึกกายสลับกับไปคิดแผ่วๆ ไม่รู้กายนาน ไม่คิดยาวนาน มันแตะไปแตะมา
เท่าที่รู้สึกนะคะ แล้วมีเวทนา คือเจ็บเท้าแต่ไม่ใช่มดกัด มี 2 -3 ชนิด รู้มันแปปเดียว
ก็หลงไปสภาวะใหม่ คือหลงไปคิดแผ่วๆ ไแต่ไม่ได้ถึงกะลืมว่ากำลังนั่งอยู่นะคะ

แล้วก็กลับมาแตะกายอีกแปบ แล้วก็แผ่วๆคิดแต่ไม่รู้คิดอะไร สลับไปมาจนจบ
ออกมาก็ง่วงทีเดียวค่ะ จบรอบแรกแล้วค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ สติมันจะคอยดึงจิตเอาไว้ เราปรับเปลี่ยนรูปแบบได้ตลอดเวลา ส่วนการบริกรรมแบบออกเสียง
ไม่มีปัญหาค่ะ เพราะไม่มีความแตกต่างกันหรอก เมื่อสติดีแล้ว คำบริกรรมมันจะหายไปเอง


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ เด๋วหมูขึ้นรอบสองนะคะ เสร็จแล้วค่ะพี่ 40/10
ตอนเดินก็ รอบนี้ก็ยังไม่หลงเหมือนรอบที่แล้วคือยังพอจำลำดับได้ ว่าเดินแบบ มีรูปแบบไหรืไม่มี
แต่ก็มีลืมบ้างเหมือนกันค่ะ แล้วก็รู้เท้า ตอนบริกรรม แล้วก็มีความคิดด้วย ก็เห็นว่า
จิตมักจะเกิดความยินดี หลังจากเรารู้การเดิน ไอ้ตัวพอใจมันจะขึ้นมาเป็นระยะ

แล้วก็มีโอหัง คิดอวดดี น่ะค่ะ แล้วก็มีจะคิดอกุศลปรามาส แต่ยังไม่คิด คือรู้จังหวะว่าจิตกำลังจะไปคิด
ก็กำหนดทัน 2 ครั้งนะคะ แล้วพอกำหนดทัน ความยินดีว่าเก่ง ก็ซ้อนขึ้นมา ก็รู้ไปอีก

มันคอยจะพอก น่ะค่ะกิเลส ก็มีความอยาก ความไม่พอใจ แต่ไม่ได้นานมาก
บางครั้งรู้ก็เบาๆหายไป

แถวบ้านเปิดคาราโอเกะ ก็มี จิตมันลอกแลกๆจะไปด่า เขาน่ะแหละค่ะ
แต่ยังไม่ได้ด่า คือมันเป็นอาการ คอยดูมันอยู่น่ะค่ะ

พอมานั่ง ก็รู้กายขยับ แล้วก็มี ไปคิดเป็นภาพ ก็ยังรู้จัวว่ากำลังทำอะไรนะคะ
แต่ไม่ได้มาจับกายนาน หรือชัดเจน

มีปวดนิ้วเท้า อ้อตอนเดินเหมือนมีมดกัด แต่เบาๆ 2 ครั้งแล้วหายไปค่ะ จบแล้วค่ะพี่
ตอนนั่งมันไม่มีอะไรมากค่ะมันสั้น

สุขที่แท้จริง says:

แถวบ้าน เปิดคาราโอเกะ ก็มี จิตมันลอกแลกๆ จะไปด่า เขาน่ะแหละค่ะ
.............. อ่านแล้วขำๆ นึกภาพออกเลย


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ มันด่าภาษาจิต แต่ไม่ได้ขึ้นคำพูด เพราะคอบดูอยู่

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ ตอนนี้ถ้าเรียกภาษาคือ ขุดกิเลสน่ะหมู

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ หมูไม่ได้สังเกตตัวเอง คือระหว่างวัน ไม่เท่าทันความคิด
เลยพอก ตัว เยิ้มๆไว้เยอะวันนี้ เดินแล้วทุกข์มากเลย

แล้วพอวันนี้ หลังเจริญสติ รอบแรกมั้งคะ เห็นความคิดที่เผลอคิด โอ้โห ทุเรศ

สุขที่แท้จริง says:

นั่นแหละ ต่อไปจากเอียนๆนะ มันอยากจะอ้วกออกมาเลย

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ไอ้เอียนๆนี่ก็มีอยู่ในสภาวะ ด้วยใช่ไหมคะ คือทุกคนเจอไหมคะ หรือแล้วแต่กิเลส

สุขที่แท้จริง says:

สภาวะค่ะ จากเอียนมาเป็นอยากอ้วกก กิเลสค่ะ มันอยากเอากิเลสออกให้หมด

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

มีแล้วค่ะ อยากอ้วกติดกับเอียน เป็นอยู่น่ะค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

นั่นแหละ เห็นกิเลสตัวเองแล้วคลื่นไส้

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

มันทู่เรศจริงๆนะคะ ไม่กล้าเล่าเลย อายสุดๆ

สุขที่แท้จริง says:

ใช่ค่ะ จะรู้สึกทุเรศตัวเองมากๆ หมักหมมซุกซ่อนมันเอาไว้ โดยที่เราไม่คิดเลยว่า
มันจะมีมากมายขนาดนี้


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ พูดธรรมะมากไม่ได้ด้วย ตัว ที่ชอบคิด ยิ้มๆเยิ้ม มันจะขึ้นมาพอก
ถ้าเทียบเป็น คน เหมือนคนหน้าตาเมากรึ่มๆแก้มแดง หลงตัวเองน่ะค่ะ เห็นภาพไหมคะ

สุขที่แท้จริง says:

เข้าใจค่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

วันนี้ให้แตงกวาเดิน 3 รอบ แล้วนั่งต่อเลย แตงกวา สมาธิเขา หมูรู้สึกสมาธิเขาเยอะ
รู้สึกเข้าสมาธิไว จะจับได้ที่อกนะคะ แล้วพอลืมตามาเหมือนงงๆ
เหมือนเขาหลุดจากอีกโลกน่ะค่ะ

ตอนที่เขา กรวดน้ำ พวกนั้นเขาจะสมาธิสั้นมาก คือจะนั่งเฉยๆไม่ได้
ขาต้องกระดิก ตัวก็หรืออวัยวะส่วนอื่น ต้องขยับ แต่พอนั่ง เขานิ่งมาก หายใจแผ่ว

สุขที่แท้จริง says:

สมาธิแนบแน่นดี ดีแล้วค่ะ นำทางให้กับน้อง เราพบทางแล้ว นำคนอื่นต่อ
แม่จะได้ไม่ต้องเหนื่อย น้องเองจะได้ไม่ต้องไปมีวิบากกับแม่


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ก็จะค่อยๆ สอนเขาไปน่ะค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

หมูเองก็ เจริญสติต่อไป ปรับเปลี่ยนเอา อย่างที่บอก
นอกนั้นไม่ได้มีปัญหาอะไรที่จะต้องเพิ่มเติม ส่วนนั่งคงยังไม่ให้นั่งไปมากกว่านี้
สมาธิยังล้ำหน้าสติอยู่


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ ได้ค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

ทำต่อเนื่องไป
เห็นคนที่ทำๆหยุดๆแล้วก็เฮ้อออ แล้วก็เห็นบ่นๆกันว่าทำไมทำไม่ได้ จะทำได้ยังไง ทำๆหยุดๆ
บางคนก็ไปกล่าวโจมตีแนวทางปฏิบัติของท่านโน้นทางนี้ ว่าทำแล้วไม่ได้ผล
แต่ไม่ยอมย้อนกลับมามองตัวเองกันว่า ที่ทำไม่ได้ผลนะเพราะอะไร


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เฮ้อ เรื่องนี้ ทำเอาหมูเพี้ยนไป เมื่อวาน

สุขที่แท้จริง says:

ทำไมหรือคะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ต้องกำหนดแทบแย่ ก็เรื่องการโจมตี ที่เกิดขึ้นตอนนี้น่ะค่ะ เพื่อนหมูเล่าให้ฟัง

สุขที่แท้จริง says:

พี่คิดว่าคงจะเป็นเรื่องเดียวกันกับที่ได้ยินมา

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ใช่ค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

ซึ่งพี่เขียนไว้ในบล็อกแล้ว

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ อ่านแล้วแหละค่ะ แต่ตอนแรกอ่านแล้วปล่อยเลย

สุขที่แท้จริง says:

เป้นวิบากกรรมของท่าน เหตุที่ท่านเคยกระทำไว้ในอดีต

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ไม่ได้ตามข่าว ค่ะ แต่ข่าววิ่งมาชน ไม่อยากรู้ก็ต้องรู้

สุแท้จริง says:ขที่

หมูจำได้มั๊ย ตอนแรกที่หมูมาปฏิบัติกับพี่ใหม่ๆน่ะ ข้อมูลที่หมูฟังมา แล้วหมูสงสัย

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ จำได้ค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

แล้วที่มีคนนำคลิปจากยูทูฟมาให้ดู ที่ท่านกล่าวไปถึงทางพองหนอยุบหนอ
พี่บอกว่า ครูบาฯกับเราน่ะไม่แตกต่างกันหรอก ให้ดูปัจจุบัน
แล้วที่ดีที่สุดคือ อย่าไปว่าใคร พี่ถึงบอกว่า เป็นวิบากกรรมของท่าน


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ สลดใจเหมือนกันนะคะ

สุขที่แท้จริง says:

พี่เฉยๆนะ คือ มองด้วยความเข้าใจ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะ คือหมูเคารพท่านมากน่ะค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

คนที่เข้าใจสภาวะ จะเข้าใจเรื่องการส่งการบ้าน ว่าทำไมต้องมีการบ้านส่ง

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ ไม่ส่งแย่เลย

สุขที่แท้จริง says:

งานท่านหนักนะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ใช่ค่ะ หนักมากๆ จนท่านป่วย เลยสลด เพราะเหตุนี้น่ะค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

พี่เองเมื่อก่อนไม่กล้านำรูปหลวงพ่อมาใส่ในบล็อกนะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ทำไมหรือคะ

สุขที่แท้จริง says:

เมื่อยังเอาดีไม่ได้ ไปเอ่ยอ้างว่าเป็นศิษย์หลวงพ่อ อายเขา

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

อ่อ พี่น้ำละเอียด ละออ ดีจัง

สุขที่แท้จริง says:

เมื่อก่อนมีคนถามว่าเป็นศิษย์หลวงพ่อจรัญหรือ พี่จะตอบว่า เปล่าค่ะ
เพียงเคารพท่านและปฏิบัติตามแนวทางของท่าน

หมู ... ถ้าเรายังมีโทสะแรง มีพยาบาทคนอื่นๆ ไปเอ่ยอ้างว่าเป็นศิษย์หลวงพ่อได้ไง
เกิดเผลอปริ๊ดดด ไปด่าใครเขาเข้า เขาไม่ด่ากลับแค่เรา เขาว่าเลยเถิดไปถึงครูบาฯเราโน่น


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ เข้าใจค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

บุคคล ก่อเหตุ เพราะความไม่รู้ หากทุกคนรู้ ย่อมไม่มีใครอยากจะมีชีวิต
ที่เป็นแบบที่เป็นๆกันอยู่ มันเหนื่อยมากๆเลยนะ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ถ้ารู้ทุกคน ไม่มีใครอยากเกิดแหงๆ

สุขที่แท้จริง says:

ใช่หมู
สภาวะของพี่ที่ผ่านมาๆ ทั้งเหนื่อยและหนักมาก โดยเฉพาะช่วงปีที่ผ่านมานี่
หนักสุดๆกว่าทุกๆสภาวะเลยก็ว่าได้ ตอนนี้พอผ่านตรงนั้นมาแล้ว รู้สึกถึงความเบากายเบาใจ
มากขึ้นกว่าเมื่อก่อน แต่ไม่เคยประมาท อะไรมากระทบ ดูจิตตัวเองก่อนเลย
กระเพื่อมมากน้อยแค่ไหน แล้วมีแต่กล่าวโทษตัวเองที่สร้างเหตุไม่ดีเอาไว้มากมาย
ผลเลยต้องมาทุกทรมาณแบบนี้ ไม่ขอสร้างเหตุใหม่ให้เกิดอีกแล้ว จิตมันจะบอกแบบนี้เลยนะ
เบื่อนะหมู ไม่อยากเกิด จิตัมนจะบอกตัวเองแบบนั้นทุกครั้งที่เกิดการกระทบ
ตอนนี้ก็เลยอยู่แบบสบายๆเพราะสติทันมากขึ้น


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ กลัวเกิดมากกว่า

สุจริง says:ขที่แท้

ใช่ พี่ถึงไม่เคยหยุดทำความเพียร

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

คือหมูรู้สึกว่ากิเลส มันมีตลอดวลาเลยค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

จ้ะ ยิ่งสติดีมากขึ้นเท่าไหร่ จะเห็นกิเลสชัดเจนมากขึ้น

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ ประมาทไม่ได้ จริงๆ แต่ก่อน หมู คิดว่ากิเลส มันไม่น่ากลัวมาก
ก็ตัวหนักๆ โกรธ พอใจ ไม่พอใจ แต่ว่า หลังๆนี้ รู้สึก ว่ามัน ไม่ใช่แล้ว มันคือลมหายใจก็ว่าได้

สุขที่แท้จริง says:

จิตมันละเอียดมากขึ้น สติเริ่มทันมากขึ้น มันจะมียิบๆขึ้นมาให้เห็น

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ม.ค. 2010, 01:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


วันที่ 161

งไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

เสร็จแล้วค่ะพี่ 60/25 ค่ะ ก็ตอนเดิน มันฟุ้งมากๆ มีความทุกข์ อารมณ์กลางอก ขึ้นมาตลอด
แล้วก็การรู้เท้า มันจะ ลืมหลงรอบ ว่ารูปแบบ หรือไม่รูปแบบ การรู้เท้าก็รู้ได้

อย่างเวลาบริกรรมแล้วใจมันคิดซ้อนกันกะบริกรรมก็มี ตอนนั้นก็รู้เท้า ด้วย แต่ไม่ลงไปจับเท้าชัดเจน
มันไปคิดเรื่องการปฎิบัติ พอดีวันนี้โดนกระทบ แล้วมันทุกข์ใจ แล้วมันเห็นว่าทำไมทุกข์
ทุกข์เกิดอะไร รายละเอียดเป็นไง มันก็เลยเดินคิดแต่เรื่องสภาวะ พวกนี้

แล้วก็เห็นว่า ขณะเดินแล้วใจมันฟุ้ง อารมณ์มันบีบ มีความไม่พอใจ
มันมีความคิดตัวที่ต้องดี มันมีความ คิดขึ้นมาตลอด ความเกร็ง ของจิตหรือ การบังคับ
โดยมี ต้องดี ต้องถูกอยู่เบื้องหลัง แต่มันไม่ได้คิดคำว่าต้องดีขึ้นมาตรงๆ
มันไปทวน สภาวะ ว่าเมื่อกี้เป็นแบบนี้ แล้วเหมือนมันสรุปออกมาเป็นอารมณ์ไม่พอใจ ก็ดูไป

แล้วก็มีบางช่วงเบาขึ้น พอเห็นแล้วมันก็เบาขึ้น บ้าง แล้วก็มีความพอใจหลายตัว
แต่ละตัวไม่เหมือนกัน บางตัวพอใจ ว่าทำได้ดีในปัจจุบันนี้ บางตัวเป็นไอ้ตัวเยิ้มๆ ยิ้มๆเกิดตามหลัง

การคิดถึงสภาวะที่ผ่านมาแล้วไปสรุปเอา บางตัวก็เป็นความภูมิใจ ที่ "กูรู้"
แล้วก็เห็นแล้วมันก็หายไป ก็มีความไม่พอใจ ตามมา หลังๆหมูเดินแบบ บริกรรม
เพราะว่า จิตมันฟุ้ง เดินไปๆก็เริ่มอารมณ์เหล่านี้เริ่มคลายไป ความคิดเบาลงจับกายได้มากขึ้น

แล้วก็พอใจ ก็รู้ แล้วก็พอความคิดเริ่มเบา คำบริกรรมก็หายไปบางตอน
คือตอนฟุ้งคำบริกรรม ช่วยให้อยู่กะกายได้
ตอนเงียบคำบริกรรม จะกลายเป็นของรบกวน แต่ก็ไม่แน่นอนค่ะ

แล้วก็ พอมานั่ง ก็รู้ท้องขยับค่ะ มันไม่เสมอกัน บางทีก็พรวดแรงหน่อย
บางทีก็ไม่แรง แต่รู้กระท่อนกระแท่น ไม่ยาวนาน และไม่ได้จดจ่อ แต่ก็ไม่ได้รู้แบบห่างไป

แล้วก็ไปปรุง ภาพ อนาจาร แบบว่าเมลล์ที่ได้จากทีมวันนี้ ออกแนวเรตหน่อย
ก็คิดว่าไม่น่าเลยตู ตอนนั้นก็รู้ตัวว่านั่งอยู่นะคะ แต่มันขึ้นมาเป็นเมลล์ที่ดูวันนี้

เห็นเป็นภาพเหมือนเราดูวีดีโอ ตั้งแต่ต้นจนจบ แต่ไม่ได้ละอียดทุกตอน
แล้วก็คิดว่าเออดูไป ว่ามันจะเปลี่ยนไหม

สักพักจิตมันก็คล้อยเปลียนไปเรื่องอื่นเอง ก็รู้ว่าเปลี่ยนแล้ว
แล้วก็มีสลับมารู้ท้องขยับได้อีก แล้วก็ไปคิดแผ่วๆ อีก จนจบเวลา

อ้อตอนเดิน ลืมค่ะมีกิเลส ยิ้มพอใจที่เหนือกว่าคนอื่น แล้วก็ มีจะคิดอกุศลปรามาส
ก็กำหนดรู้หนอไปก่อน 3 ครั้ง

แล้วก็ตอนก้าวขาเดิน ขณะบริกรรมอยู่เราคิดว่าเรารู้เท้าแล้ว แต่ใจก็ยังซ้อนไปปรุงอยู่ตลอด
แล้วใจมันกระเทือน ซ้อนปรุง แบบชมตัวเอง นั่นน่ะค่ะ ที่บอกว่าตัวที่ชอบทบทวนสภาวะ
แล้วมาคิดว่า ทำดี ทำเก่ง จบแล้วค่ะ


แท้จริง says:สุขที่
กิเลสสส ยังมีออกมาเรื่อยๆน่ะหมู บอกแล้วมันเป็นช่วงขุดกิเลส มดหายเลย เจอเรดอาร์

ไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:
อ่อ ลืมบอกไปค่ะ ไอ้มดนี่เหมมือนยังมีอยู่ แต่ไม่ชัดเจนน่ะค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

ค่ะ มันจะหายไปจนหมด ทีนี้ก็ฟัดกับกิเลสไป เพิ่มนั่ง 5 นาทีนะคะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ งั้นไปทำรอบต่อไปค่ะ เสร็จแล้วค่ะพี่ 67/30
ก็เดิน รอบนี้ก็เดินไป คิดไป ก็บางที คือจะคิดแล้ว พอใจ แล้วก็ไม่พอใจ แล้วก็พอใจสลับกัน
แบบเห็นกิเลส ตัว พอใจ แล้วมันไม่พอใจกิเลส น่ะค่ะ แล้วก็เหมือนไปคิดว่ารู้กิเลสได้

ก็เกิดพอใจอีก แล้วก็ไม่พอใจที่มันพอใจ เท้าก็ยังรู้ค่ะ แต่ช่วงนั้นจะรู้แบบไม่ชัดเจนมาก
แต่รู้ว่ามีการเดิน ก็มีเห็นว่า ตอนรายงานจะจำสภาวะไม่ได้ แต่พอเดินแล้วจะนึกขึ้นได้ว่า
เออสภาวะนี้ ที่เจอ ล้วพอจะรายงานอีกก็จำไม่ได้อีกแล้ว

แล้วก้ มีหลงไปคิดเรื่องในอดีต คือคิดตอนรายงานสภาวะน่ะค่ะ
แล้วมันก็พอรู้ตัว มันก็สลดว่า แบบดื่มกินของเก่า

แล้วก็ มีหลงไปคิดไม่พอใจ ไปพยาบาทคน ก็พอรู้ก็หยุด กำหนดรู้หนอไป 3 ครั้ง
แล้วก็มาสงสัยว่าทำไมถึงหลงไปคิด พยาบาท ก็มันเกิดความคิดว่า เพราะมันไม่รู้ไง
ว่าถ้าเพลินไปคิด แล้วจะเลยไปปรุงแต่งพยาบาท ก็คิดว่า นี่หรือเปล่าอวิชชา
แต่ก็ปล่อยไป เพราะว่า มันก็คือความคิด แล้วก็มาจับกายต่อ
หลังๆ ก็เดินรู้เท้าได้ ไม่ไปฟุ้งมากค่ะ แต่ก็ยังมีเผลอไปอยู่

พอมานั่ง ก็มีรู้ท้องขยับ รู้ลม แล้วก็มีช่วงที่จำไม่ได้ แต่รู้สึกว่ามันไม่ได้หายไป
แล้วมันก็ มารู้ที่จิต แล้วก็เอาจิตมารู้ที่กาย แล้วก็ไปอีก

แล้วก็เหมือนมัน รู้ว่าจะเอาจิตมารู้กายก็ได้ แต่มันไม่ค่อยทำ เต็มที่
แต่ก็ยังมารู้ที่กายบ้างจนจบค่ะ อ้อยังมีมดกัดนะคะ ตอนต้นๆที่เดิน

สุแท้จริง says:ขที่

มันไม่เที่ยงเห็นไหม

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

มันยังไม่ได้รู้สึกว่าไม่เที่ยง น่ะค่ะ เหมือนมันดู สภาวะ เฉยๆ
ไม่ได้พิจารณาถึงความไม่เที่ยงน่ะค่ะ แต่ก็เข้าใจว่าถ้าพิจารณาย้อนกลับไป
อย่างออกมาจากการปฎิบัติ แล้ว มันก็จะรู้ว่า มันไม่เหมือนกัน

สุขที่แท้จริง says:

ใช่จ้ะ พี่ถึงให้หมูบันทึกเพราะเหตุนี้ ให้กลับไปอ่าน แล้วจะอ้อออ
แล้วหมูจะวางมันได้มากขึ้น ไม่สงสัยมัน ของหมูเอง กลับไปอ่านสภาวะทบทวนได้นะ


ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่ อ่านแล้ว มักจะมีไอ้ตัว ยิ้มๆ น่ะค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

มันเยาะเย้ยยเหรอ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

แหะๆ มันพอใจ

สุขที่แท้จริง says:

กูรู้ ใช่ป่ะ

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

กูเก่งค่ะ กูดี แบบนี้น่ะค่ะ

สุขที่แท้จริง says:

นั่นแหละ ดีแล้ว เจริญสติต่อไป เห็นน่ะดี ไม่เห็นน่ะหลง

ถึงไม่ใช่งูพิษ แต่ก็ไม่คิดจะเป็นกระต่ายขนฟ says:

ค่ะพี่

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 252 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10 ... 17  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร