27008.ญาณที่ ๒๙ วิหารัฏฐญาณ

มหาราชันย์

ปัญญาในความต่างแห่งวิหารธรรม เป็น วิหารัฏฐญาณ

ปัญญาในความต่างแห่งวิหารสมาบัติ เป็นวิหารสมาปัตตัฏฐญาณอย่างไร ฯ

พระโยคาวจร………

…..พิจารณาเห็นสังขารนิมิตโดยความเป็นภัย มีจิตน้อมไปในนิพพานอันไม่มีสังขารนิมิต ถูกต้องแล้วซึ่งสังขารนิมิตด้วยญาณ ย่อมพิจารณาเห็นความเสื่อมไป วิหารธรรมนั้นชื่อว่า อนิมิตตวิหาร

…..พิจารณาเห็นตัณหา อันเป็นที่ตั้งโดยความเป็นภัย มีจิตน้อมไปในนิพพานอันไม่มีตัณหาเป็นที่ตั้ง ถูกต้องแล้วซึ่งตัณหาด้วยญาณ ย่อมพิจารณาเห็นความเสื่อมไป วิหารธรรมนั้นชื่อว่า อัปปณิหิตวิหาร

…..พิจารณาเห็นความถือมั่นว่าตนโดยความเป็นภัย มีจิต น้อมไปในนิพพานอันว่างจากตน ถูกต้องแล้วซึ่งความถือมั่นว่าตนด้วยญาณ ย่อมพิจารณาเห็นความเสื่อมไป วิหารธรรมนั้นชื่อว่า สุญญตวิหาร ฯ

เจริญในธรรมครับ

มหาราชันย์

พระโยคาวจร…..

…..พิจารณาเห็นรูปนิมิตโดยความเป็นภัย มีจิตน้อมไปในนิพพานอันไม่มีรูปนิมิต ถูกต้องแล้วๆ ย่อมเห็นความเสื่อมไป วิหารธรรมนี้ชื่อว่า อนิมิตตวิหาร

…..พิจารณาเห็นตัณหาอันเป็นที่ตั้งแห่งรูป โดยความเป็นภัย มีจิตน้อมไปในนิพพานอันไม่มีที่ตั้ง ถูกต้องแล้วๆ ย่อมเห็น ความเสื่อมไป วิหารธรรม นี้ชื่อว่า อัปปณิหิตวิหาร

…..พิจารณาเห็นความถือมั่นว่ารูป โดยความเป็นภัย มีจิตน้อมไปในนิพพานอันว่างเปล่า ถูกต้องแล้วๆ ย่อมเห็นความเสื่อมไป วิหารธรรมนี้ชื่อว่า สุญญตวิหาร

เจริญในธรรมครับ

มหาราชันย์

พระโยคาวจร.....

.....พิจารณาเห็นเวทนานิมิตโดยความเป็นภัย มีจิตน้อมไปในนิพพานอันไม่มีนิมิต ถูกต้องแล้วๆ ย่อมเห็นความเสื่อมไป วิหารธรรมนี้ชื่อว่า อนิมิตตวิหาร

.....พิจารณาเห็นตัณหาอันเป็นที่ตั้งแห่งเวทนาโดยความเป็นภัย มีจิตน้อมไปในนิพพานอันไม่มีที่ตั้ง ถูกต้องแล้วๆ ย่อมเห็นความเสื่อมไป วิหารธรรมนี้ชื่อว่า อัปปณิหิตวิหาร

.....พิจารณาเห็นความถือมั่นเวทนาโดยความเป็นภัย มีจิตน้อมไปในนิพพานอันว่างเปล่า ถูกต้องแล้วๆ ย่อมเห็นความเสื่อมไป วิหารธรรมนี้ชื่อว่า สุญญตวิหาร

เจริญในธรรมครับ

มหาราชันย์

พระโยคาวจร.....

.....พิจารณาเห็น สัญญานิมิตโดยความเป็นภัย มีจิตน้อมไปในนิพพานอันไม่มีนิมิต ถูกต้องแล้วๆ ย่อมเห็นความเสื่อมไป วิหารธรรมนี้ชื่อว่าอนิมิตตวิหาร

.....พิจารณาเห็นตัณหาอันเป็นที่ตั้งแห่งสัญญา โดยความเป็นภัย มีจิตน้อมไปในนิพพานอันไม่มีที่ตั้ง ถูกต้องแล้วๆ ย่อมเห็นความเสื่อมไป วิหารธรรมนี้ชื่อว่า อัปปณิหิตวิหาร

.....พิจารณาเห็นความถือมั่นสัญญา โดยความเป็นภัย มีจิตน้อมไปในนิพพานอันว่างเปล่า ถูกต้องแล้วๆ ย่อมเห็นความเสื่อมไป วิหารธรรมนี้ชื่อว่า สุญญตวิหาร

เจริญในธรรมครับ

มหาราชันย์

พระโยคาวจร.....

.....พิจารณาเห็น “สังขารนิมิต” โดยความเป็นภัย มีจิตน้อมไปในนิพพานอันไม่มีนิมิต ถูกต้องแล้วๆ ย่อมเห็นความเสื่อมไป วิหารธรรมนี้ชื่อว่าอนิมิตตวิหาร

.....พิจารณาเห็นตัณหาอันเป็นที่ตั้งแห่ง"สังขาร" โดยความเป็นภัย มีจิตน้อมไปในนิพพานอันไม่มีที่ตั้ง ถูกต้องแล้วๆ ย่อมเห็นความเสื่อมไป วิหารธรรมนี้ชื่อว่า อัปปณิหิตวิหาร

.....พิจารณาเห็นความถือมั่น"สังขาร" โดยความเป็นภัย มีจิตน้อมไปในนิพพานอันว่างเปล่า ถูกต้องแล้วๆ ย่อมเห็นความเสื่อมไป วิหารธรรมนี้ชื่อว่า สุญญตวิหาร

เจริญในธรรมครับ

มหาราชันย์

พระโยคาวจร.....

.....พิจารณาเห็น “วิญญาณนิมิต” โดยความเป็นภัย มีจิตน้อมไปในนิพพานอันไม่มีนิมิต ถูกต้องแล้วๆ ย่อมเห็นความเสื่อมไป วิหารธรรมนี้ชื่อว่าอนิมิตตวิหาร

.....พิจารณาเห็นตัณหาอันเป็นที่ตั้งแห่งวิญญาณ โดยความเป็นภัย มีจิตน้อมไปในนิพพานอันไม่มีที่ตั้ง ถูกต้องแล้วๆ ย่อมเห็นความเสื่อมไป วิหารธรรมนี้ชื่อว่า อัปปณิหิตวิหาร

.....พิจารณาเห็นความถือมั่นวิญญาณ โดยความเป็นภัย มีจิตน้อมไปในนิพพานอันว่างเปล่า ถูกต้องแล้วๆ ย่อมเห็นความเสื่อมไป วิหารธรรมนี้ชื่อว่า สุญญตวิหาร

เจริญในธรรมครับ

มหาราชันย์

พระโยคาวจร.....

.....พิจารณาเห็น “จักษุนิมิต” โดยความเป็นภัย มีจิตน้อมไปในนิพพานอันไม่มีนิมิต ถูกต้องแล้วๆ ย่อมเห็นความเสื่อมไป วิหารธรรมนี้ชื่อว่าอนิมิตตวิหาร

.....พิจารณาเห็นตัณหาอันเป็นที่ตั้งแห่งจักษุ โดยความเป็นภัย มีจิตน้อมไปในนิพพานอันไม่มีที่ตั้ง ถูกต้องแล้วๆ ย่อมเห็นความเสื่อมไป วิหารธรรมนี้ชื่อว่า อัปปณิหิตวิหาร

.....พิจารณาเห็นความถือมั่นจักษุ โดยความเป็นภัย มีจิตน้อมไปในนิพพานอันว่างเปล่า ถูกต้องแล้วๆ ย่อมเห็นความเสื่อมไป วิหารธรรมนี้ชื่อว่า สุญญตวิหาร

เจริญในธรรมครับ

มหาราชันย์

พระโยคาวจร.....

.....พิจารณาเห็น “โสตนิมิต” โดยความเป็นภัย มีจิตน้อมไปในนิพพานอันไม่มีนิมิต ถูกต้องแล้วๆ ย่อมเห็นความเสื่อมไป วิหารธรรมนี้ชื่อว่าอนิมิตตวิหาร

.....พิจารณาเห็นตัณหาอันเป็นที่ตั้งแห่งโสต โดยความเป็นภัย มีจิตน้อมไปในนิพพานอันไม่มีที่ตั้ง ถูกต้องแล้วๆ ย่อมเห็นความเสื่อมไป วิหารธรรมนี้ชื่อว่า อัปปณิหิตวิหาร

.....พิจารณาเห็นความถือมั่นโสต โดยความเป็นภัย มีจิตน้อมไปในนิพพานอันว่างเปล่า ถูกต้องแล้วๆ ย่อมเห็นความเสื่อมไป วิหารธรรมนี้ชื่อว่า สุญญตวิหาร

เจริญในธรรมครับ

มหาราชันย์

พระโยคาวจร.....

.....พิจารณาเห็น “ฆานนิมิต” โดยความเป็นภัย มีจิตน้อมไปในนิพพานอันไม่มีนิมิต ถูกต้องแล้วๆ ย่อมเห็นความเสื่อมไป วิหารธรรมนี้ชื่อว่าอนิมิตตวิหาร

.....พิจารณาเห็นตัณหาอันเป็นที่ตั้งแห่งฆาน โดยความเป็นภัย มีจิตน้อมไปในนิพพานอันไม่มีที่ตั้ง ถูกต้องแล้วๆ ย่อมเห็นความเสื่อมไป วิหารธรรมนี้ชื่อว่า อัปปณิหิตวิหาร

.....พิจารณาเห็นความถือมั่นฆาน โดยความเป็นภัย มีจิตน้อมไปในนิพพานอันว่างเปล่า ถูกต้องแล้วๆ ย่อมเห็นความเสื่อมไป วิหารธรรมนี้ชื่อว่า สุญญตวิหาร

เจริญในธรรมครับ

มหาราชันย์

พระโยคาวจร.....

.....พิจารณาเห็น “ชิวหานิมิต” โดยความเป็นภัย มีจิตน้อมไปในนิพพานอันไม่มีนิมิต ถูกต้องแล้วๆ ย่อมเห็นความเสื่อมไป วิหารธรรมนี้ชื่อว่าอนิมิตตวิหาร

.....พิจารณาเห็นตัณหาอันเป็นที่ตั้งแห่งชิวหา โดยความเป็นภัย มีจิตน้อมไปในนิพพานอันไม่มีที่ตั้ง ถูกต้องแล้วๆ ย่อมเห็นความเสื่อมไป วิหารธรรมนี้ชื่อว่า อัปปณิหิตวิหาร

.....พิจารณาเห็นความถือมั่นชิวหา โดยความเป็นภัย มีจิตน้อมไปในนิพพานอันว่างเปล่า ถูกต้องแล้วๆ ย่อมเห็นความเสื่อมไป วิหารธรรมนี้ชื่อว่า สุญญตวิหาร

เจริญในธรรมครับ

มหาราชันย์

พระโยคาวจร.....

พิจารณาเห็น “กายนิมิต”
.....โดยความเป็นภัย
.....มีจิตน้อมไปในนิพพานอันไม่มีนิมิต ถูกต้องแล้ว
.....ย่อมเห็นความเสื่อมไป
วิหารธรรมนี้ชื่อว่า อนิมิตตวิหาร

พระโยคาวจร.....

พิจารณาเห็น “ตัณหาอันเป็นที่ตั้งแห่งกาย”
.....โดยความเป็นภัย
.....มีจิตน้อมไปในนิพพานอันไม่มีที่ตั้ง ถูกต้องแล้ว
.....ย่อมเห็นความเสื่อมไป
วิหารธรรมนี้ชื่อว่า อัปปณิหิตวิหาร

พระโยคาวจร.....

พิจารณาเห็น “ความถือมั่นกาย”
.....โดยความเป็นภัย
.....มีจิตน้อมไปในนิพพานอันอันว่างเปล่า ถูกต้องแล้ว
.....ย่อมเห็นความเสื่อมไป
วิหารธรรมนี้ชื่อว่า สุญญตวิหาร

เจริญในธรรมครับ

มหาราชันย์

พระโยคาวจร.....

พิจารณาเห็น “มโนนิมิต”
.....โดยความเป็นภัย
.....มีจิตน้อมไปในนิพพานอันไม่มีนิมิต ถูกต้องแล้ว
.....ย่อมเห็นความเสื่อมไป
วิหารธรรมนี้ชื่อว่า อนิมิตตวิหาร

พระโยคาวจร.....

พิจารณาเห็น “ตัณหาอันเป็นที่ตั้งแห่งมโน”
.....โดยความเป็นภัย
.....มีจิตน้อมไปในนิพพานอันไม่มีที่ตั้ง ถูกต้องแล้ว
.....ย่อมเห็นความเสื่อมไป
วิหารธรรมนี้ชื่อว่า อัปปณิหิตวิหาร

พระโยคาวจร.....

พิจารณาเห็น “ความถือมั่นมโน”
.....โดยความเป็นภัย
.....มีจิตน้อมไปในนิพพานอันอันว่างเปล่า ถูกต้องแล้ว
.....ย่อมเห็นความเสื่อมไป
วิหารธรรมนี้ชื่อว่า สุญญตวิหาร

เจริญในธรรมครับ

มหาราชันย์

พระโยคาวจร.....

พิจารณาเห็น “ชราและมรณะนิมิต”
.....โดยความเป็นภัย
.....มีจิตน้อมไปในนิพพานอันไม่มีนิมิต ถูกต้องแล้ว
.....ย่อมเห็นความเสื่อมไป
วิหารธรรมนี้ชื่อว่า อนิมิตตวิหาร

พระโยคาวจร.....

พิจารณาเห็น “ตัณหาอันเป็นที่ตั้งแห่งชราและมรณะ”
.....โดยความเป็นภัย
.....มีจิตน้อมไปในนิพพานอันไม่มีที่ตั้ง ถูกต้องแล้ว
.....ย่อมเห็นความเสื่อมไป
วิหารธรรมนี้ชื่อว่า อัปปณิหิตวิหาร

พระโยคาวจร.....

พิจารณาเห็น “ความถือมั่นชราและมรณะ”
.....โดยความเป็นภัย
.....มีจิตน้อมไปในนิพพานอันอันว่างเปล่า ถูกต้องแล้ว
.....ย่อมเห็นความเสื่อมไป
วิหารธรรมนี้ชื่อว่า สุญญตวิหาร

เจริญในธรรมครับ

มหาราชันย์

.....อนิมิตตวิหารเป็นอย่างหนึ่ง
.....อัปปณิหิตวิหารเป็นอย่างหนึ่ง
.....สุญญตวิหารเป็นอย่างหนึ่ง

.....อนิมิตตสมาบัติเป็นอย่างหนึ่ง
.....อัปปณิหิตสมาบัติเป็นอย่างหนึ่ง
.....สุญญตสมาบัติเป็นอย่างหนึ่ง

.....อนิมิตตวิหารสมาบัติเป็นอย่างหนึ่ง
.....อัปปณิหิตวิหารสมาบัติเป็นอย่างหนึ่ง
.....สุญญตวิหารสมาบัติเป็นอย่างหนึ่ง ฯ

ชื่อว่าญาณ เพราะอรรถว่ารู้ธรรมนั้น
ชื่อว่าปัญญา เพราะอรรถว่ารู้ชัด

เพราะเหตุนั้นท่านจึงกล่าวว่า………

.....ปัญญาในความต่างแห่งวิหารธรรม เป็น วิหารรัฏฐญาณ
.....ปัญญาในความแตกต่างแห่งสมาบัติเป็นสมาปัตตัฏฐญาณ
.....ปัญญา ในความต่างแห่งวิหารสมาบัติ เป็นวิหารสมาปัตตัฏฐญาณ

เจริญในธรรมครับ

กฎการใช้บอร์ด

27008.ญาณที่ ๒๙ วิหารัฏฐญาณ

ผู้ใช้งานขณะนี้