วันเวลาปัจจุบัน 24 มิ.ย. 2025, 22:45  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 118 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 4, 5, 6, 7, 8  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ต.ค. 2009, 10:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3832

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


มหาราชันย์ เขียน:

เช่นคำว่าโมโห คนไทยใช้แปลว่า โกรธ
ส่วนในพระพุทธศาสนา แปลว่า หลง ด้วยความลังเลและฟุ้งซ่าน
[/color]


นิดนึงนะ
ที่จริงคนไทยที่ว่า พูดไม่ผิดหรอก
เพราะมีโมหะ ถึงมีโลภะ โทสะ
โมหะมันเป็นพ่อแม่ของโลภะ โทสะ

ฟุ้งซ่าน ดูดีๆ รู้สึกให้ัมันดีๆ มันไม่เหมือนกันหรอก
ลังเลกับฟุ้งซ่าน คนละรสกัน
ฟุ้งซ่านเป็นโทสะนะ


แก้ไขล่าสุดโดย ชาติสยาม เมื่อ 15 ต.ค. 2009, 10:45, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ต.ค. 2009, 11:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ย. 2009, 00:37
โพสต์: 86

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ชาติสยาม เขียน:
นิดนึงนะ
ที่จริงคนไทยที่ว่า พูดไม่ผิดหรอก
เพราะมีโมหะ ถึงมีโลภะ โทสะ
โมหะมันเป็นพ่อแม่ของโลภะ โทสะ


ชาติสยาม เขียน:
ฟุ้งซ่าน ดูดีๆ รู้สึกให้ัมันดีๆ มันไม่เหมือนกันหรอก
ลังเลกับฟุ้งซ่าน คนละรสกัน
ฟุ้งซ่านเป็นโทสะนะ


:b20: :b20: :b20: :b16: :b16: :b16:

:b11: :b11: :b11: :b11: :b11: :b11:

.....................................................
....ถ้าไม่ทำสัญญาให้เป็นปัญญา ทำอย่างไรก็เป็นกามสัญญา......


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ต.ค. 2009, 12:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2009, 20:26
โพสต์: 1589

แนวปฏิบัติ: อรหัตตมัคค
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฎก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ชาติสยาม เขียน:
โมหะมันเป็นพ่อแม่ของโลภะ โทสะ



สวัสดีครับคุณโคตรภู

จิตโมหะมี 2 ดวงครับ
1.อกุศลจิตที่ประกอบด้วยวิจิกิจฉา คือ ลังเลสงสัย
2.อกุศลจิตที่ประกอบด้วยอุทธัจจะ คือ ฟุ้งซ่าน


โมหะไม่ใช่เป็นพ่อแม่ของโลภะ โทสะ
แต่โมหะเกิดร่วมเกิดพร้อมกับโลภะ หรือ โทศะได้ครับ


ถ้ากล่าวอย่างนี้
ชาติสยาม เขียน:
โมหะมันเป็นพ่อแม่ของโลภะ โทสะ


พระอนาคามี มีโมหะในกุศลธรรม
แต่จิตพระอนาคามีปราศจากโลภะ และ โทสะครับ



เจริญในธรรมครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ต.ค. 2009, 15:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3832

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


มหาราชันย์ เขียน:
ถ้ากล่าวอย่างนี้
ชาติสยาม เขียน:
โมหะมันเป็นพ่อแม่ของโลภะ โทสะ


พระอนาคามี มีโมหะในกุศลธรรม
แต่จิตพระอนาคามีปราศจากโลภะ และ โทสะครับ

เจริญในธรรมครับ[/color]



โมหะในกุศลธรรม?

แสดงว่าพระอนาคามีไม่มีกุศลเหลือแล้วหรือ

มานะ คืออะไร กุศลหรืออกุศล ?


เฉลย -
พระอนาคามีที่ไม่เหลือมานะ เขาเรียกว่าพระอรหันต์


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ต.ค. 2009, 15:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3832

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


มหาราชันย์ เขียน:
[color=#FF0000]สวัสดีครับคุณโคตรภู

จิตโมหะมี 2 ดวงครับ
1.อกุศลจิตที่ประกอบด้วยวิจิกิจฉา คือ ลังเลสงสัย
2.อกุศลจิตที่ประกอบด้วยอุทธัจจะ คือ ฟุ้งซ่าน




อืม ตำราว่าไว้อย่างนั้นจริงๆ
ขออภัย ที่เข้าใจผิด

แต่ยืนยันว่า ลังเลสงสัยกับฟุ้งซ่าน คนละสภาวะกัน
ยังไงก็ไม่ใช่อันเดียวกันแน่นอน


ส่วนที่ว่า โมหะไม่ใช่พ่อแม่ของโลภะโทสะนี้
ต้องขอให้ช่วยยกตัวอย่าง
1. จิตที่ไม่มีโมหะ แต่มีโลภะ
2. จิตไม่มีโมหะ แต่มีโทสะ

ถ้ามีจิตสองแบบนี้จริง ถึงจะยอมแพ้


แก้ไขล่าสุดโดย ชาติสยาม เมื่อ 15 ต.ค. 2009, 15:59, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ต.ค. 2009, 20:35 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


มหาราชันย์ เขียน:
ชาติสยาม เขียน:
โมหะมันเป็นพ่อแม่ของโลภะ โทสะ



โมหะไม่ใช่เป็นพ่อแม่ของโลภะ โทสะ
แต่โมหะเกิดร่วมเกิดพร้อมกับโลภะ หรือ โทศะได้ครับ


เพราะหลง (โมหะ)..ว่ารูปนี้เป็นเรา..จึงดิ้นรนไข่วขว้าหา..ลาภ..ยศ..สรรเสริญ..(โลภะ)..เพื่อปกป้องรูปนี้..เมื่อไม่ได้ดั่งหวัง..ก็ทุกข์..ก็โกรธ (โทสะ)

อย่างนี้..ก็พอที่จะเรียกว่า..โมหะเป็นบ่อเกิดของโลภะ โทสะ..ได้

..จะเรียก..ว่าเป็นพ่อเป็นแม่..ก็พอจะ Ok น่า.. :b12:

อ้างคำพูด:
ถ้ากล่าวอย่างนี้
ชาติสยาม เขียน:
โมหะมันเป็นพ่อแม่ของโลภะ โทสะ


พระอนาคามี มีโมหะในกุศลธรรม
แต่จิตพระอนาคามีปราศจากโลภะ และ โทสะครับ

เจริญในธรรมครับ[/color]


อย่างหยาบหายไป..แต่อาจจะเป็น..อย่างละเอียด..มาแทน

รูปราคะ....อรูปราคะ....อย่างละเอียดของ...โลภะ
มานะ...... อุทธัจจะ ...อย่างละเอียดของ...โทสะ
อวิชชา...นี้แหละตัวโมหะ

หมายเหตุ ; เป็นความเห็นส่วนตัว..ไม่รับประกันความถูกต้อง :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ต.ค. 2009, 21:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2009, 20:26
โพสต์: 1589

แนวปฏิบัติ: อรหัตตมัคค
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฎก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ชาติสยาม เขียน:
ส่วนที่ว่า โมหะไม่ใช่พ่อแม่ของโลภะโทสะนี้
ต้องขอให้ช่วยยกตัวอย่าง
1. จิตที่ไม่มีโมหะ แต่มีโลภะ
2. จิตไม่มีโมหะ แต่มีโทสะ

ถ้ามีจิตสองแบบนี้จริง ถึงจะยอมแพ้



จิตอกุศลมีโลภะ เกิดร่วมเกิดพร้อมกับ โมหะ จริง
จิตอกุศลมีโทสะ เกิดร่วมเกิดพร้อมกับ โมหะ จริง
คุณชาติสยามกล่าวถูกต้องในข้อนี้ครับ

แต่คนละประเด็นที่ผมติงมาครับ
อ่านดี ๆ ครับ



ชาติสยาม เขียน:
โมหะมันเป็นพ่อแม่ของโลภะ โทสะ


ถ้าเรากล่าวอย่างนี้ผู้อ่านย่อมเข้าใจว่า โมหะเป็นเหตุเป็นปัจจัยให้เกิดโลภะ และโทสะได้ครับ
เพราะใครๆ ย่อมทราบดีว่าพ่อแม่คือผู้ให้กำเนิด โมหะให้กำเนิด โลภะ และโทสะใช่หรือไม่ ??
ผมติงมาอย่างนี้





มหาราชันย์ เขียน:
โมหะไม่ใช่เป็นพ่อแม่ของโลภะ โทสะ
แต่โมหะเกิดร่วมเกิดพร้อมกับโลภะ หรือ โทศะได้ครับ



แต่ถ้าเกิดร่วมเกิดพร้อม อย่างนี้แค่เพื่อน หรือพี่น้อง หรือแฟน อย่างนี้ตรงตามอภิธรรม ผมใช้สภาวะธรรมตามอภิธรรมครับ




เจริญในธรรครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ต.ค. 2009, 21:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3832

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้าว ตกลงพูดเรื่องเดียวกันเหรอคับนี่
แหม ชวนโมโหอยู่ตั้งนานสองนาน


โมหะนี่นะ ลองดูเวลามันเกิดสิ
มันเกิดก่อนเพื่อน แทบไม่รู้สึก
อย่างอื่นๆมันถึงมีตามๆกัน ถึงเรียกว่ามันเป้นพ่อแม่ แล้วมีลูกมีหลาน

ที่ไปเห็นตอนเป็นโลภะ เป้นโทสะแล้วนี่นะ เรียกว่าสติมาช้าไปแล้ว


ถ้าไม่มีโมหะ คือมีสติขึ้นมาตั้งแต่โมหะมันโงหัวขึ้นมา
เจ้า โลภะ โทสะ หายหมด
ก็ขอเรียกว่าโมหะเป็นพ่อแม่ของมันก็แล้วกันนะ
ว่าตามที่มันเป้น ถ้าไม่ใช่ก็โทษที เข้าใจผิดเองนะ จุ๊บๆ


แก้ไขล่าสุดโดย ชาติสยาม เมื่อ 15 ต.ค. 2009, 21:27, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ต.ค. 2009, 21:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2009, 20:26
โพสต์: 1589

แนวปฏิบัติ: อรหัตตมัคค
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฎก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พระอนาคามี คือผู้มีสมาธิบริบูรณ์
จิตพระอนาคามีจึงเป็นจิตที่สงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลาย
พระอนาคามีละกามราคะและปฏิฆะได้หมดสิ้นแล้ว


แม้โดยชื่อว่ามี รูปราคะ ยินดีในรูปฌาน แต่รูปฌานเป็นกุศลจิตที่สงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลาย

แม้โดยชื่อว่ามี อรูปราคะ ยินดีใน อรูปฌาน แต่ อรูปฌานเป็นกุศลจิตที่สงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลาย

แม้กล่าวว่าท่านมีมานะ แต่ท่านดีจริง จิตท่านมีสมาธิบริบูรณ์จริง ๆ เป็นกุศลจริง ๆ

แม้กล่าวว่าท่านมีอุทธัจจะ คือฟุ้งซ่าน แต่ความฟุ้งซ่านเป็นไปเพื่อยินดีในกุศลธรรมที่ยังสมาธิให้บริบูรณ์ ฟุ้งในการยังจิตให้สงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลาย

แม้กล่าวว่าท่านมีอวิชชา แต่อวิชชาที่เหลือของพระอนาคามี คือการไม่รู้จักพระอรหัตตมัคคเท่านั้น ไม่ใช่อวิชชาในอกุศลจิตแบบปุถุชนครับ



เจริญในธรรมครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ต.ค. 2009, 22:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3832

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่รู้สิ ไม่ใช่พระอนาคามี
ไว้เป็นเมื่อไหร่จะบอกนะ :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ต.ค. 2009, 22:31 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ชาติสยาม เขียน:

ถ้าไม่ใช่ก็โทษที เข้าใจผิดเองนะ จุ๊บๆ


:b12: :b12:

ขอซื้อได้มัย? จุ๊บ ๆ นะ

:b10: :b10: :b10:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ต.ค. 2009, 22:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 พ.ค. 2009, 20:54
โพสต์: 282


 ข้อมูลส่วนตัว


Onion_L อ้างอิง คุณมหาราชันย
ความเค็ม คือ
ปริมาณความเข้มข้นของเกลือ


รสเค็ม คือ
ความรู้แจ้งทางชิวหาวิญญาณเมื่อลิ้นได้สัมผัสลิ้มชิมรสความเข้มข้นของเกลือ


อโศกะตอบ คุณมหาราชันย์ตอบได้อย่างนี้ ต้องกลับไปอ่านคำเนะนำของน้องวลัยพรให้ดีๆนะครับ

ผมเฉลยว่าคุณตอบ ผิดครับ ไม่ตรงประเด็นคำถาม

เชิญผู้รู้ทั้งหลาย (อย่างน้องวลัยพร)มาให้ความเห็น วิเคราะห์ วิจารณ์ธรรม ทำนองนี้ต่อไปครับ

เค็ม เป็นชื่อของรสชนิดหนึ่ง เป็นปรมัตถบัญญัญัติ คือการใส่ชื่อให้กับสัจจธรรม ปรมัตถธรรม จะอธิบายอย่างไรให้คนที่ไม่เคยสัมผัสรสเค็มฟัง เขาจะไม่มีทางรู้เรื่องหรอก

ที่คุณตอบมานั้น เป็นเพียงวิธีที่จะทำให้รู้รสเค็ม หรือคุณลักษณะของความเค็ม แต่มิได้อธิบายความหมายของคำว่า เค็ม

อีก 3 - 5 ปีข้างหน้าหวังว่าคุณมหาราชันย์คงจะได้สัมผัสและเข้าใจคำว่าปรมัตถ์อย่างถูกต้อง ขออำนวยอวยพร :b34: :b34: :b27: :b16: :b1: :b8:

.....................................................
เมตตาธรรม ค้ำจุนโลก


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ต.ค. 2009, 22:54 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


:b12: :b12:
ขออธิบายความเค็ม..

cheesy cheesy
s001 s001
cry cry
shocked shocked
s002 s002
:b41: :b41: :b41: :b41: :b36: :b39:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ต.ค. 2009, 00:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2009, 20:26
โพสต์: 1589

แนวปฏิบัติ: อรหัตตมัคค
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฎก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อโศกะ เขียน:
อีก 3 - 5 ปีข้างหน้าหวังว่าคุณมหาราชันย์คงจะได้สัมผัสและเข้าใจคำว่าปรมัตถ์อย่างถูกต้อง ขออำนวยอวยพร


ขอบคุณในคำอำนวยอวยพร นะครับ


สำหรับผมคำว่าปรมัตถ์ ไม่ต้องรอถึงอีก 3 - 5 ปีข้างหน้าหรอกครับคุณอโศกะ
ผมบอกคุณได้วันนี้เลยครับ


คำว่าปรมัตถ์อย่างถูกต้อง
คือ
1.อริยะมัคค 4 ได้แก่โสดาปัตติมัคค สกทาคามีมัคค อนาคามีมัคค และอรหัตตมัคค

2.อริยะผล 4 ได้แก่โสดาปัตติผล สกทาคามีผล อนาคามีผล และอรหัตตผล

3.นิพพาน


ไม่ใช่จิต เจตสิก รูป นิพพาน ตามที่คุณอโศกะเชื่อถือหรอกครับ

จิต เจตสิก รูป นิพพาน คือความรู้เพื่อประกอบการศึกษาไปสู่มัคคผลในพระพุทธศาสนาครับ


ผมทราบเจตนาของคุณอยู่แล้วครับ

อโศกะ เขียน:
ผมเฉลยว่าคุณตอบ ผิดครับ ไม่ตรงประเด็นคำถาม


อโศกะ เขียน:
[b]ธรรมมะ สัจจธรรม ปรมัตถธรรม อมตะธรรม นิพพาน ทั้งหมดนั้นต้องสัมผัสรู้ รู้ได้ด้วยจิตใจเจ้าของ นึก คิดเอาไม่ได้ ตัวอย่างง่ายๆดังเช่น ความเค็ม เค็ม อธิบายไม่ได้ด้วยภาษามนุษย์ ถ้าใครอธิบายให้รู้จักความเค็มได้ ผมมีรางวัลให้ 1 ล้านบาทครับ คุณมหาราชันย์จะลองดูก็ได้นะครับ แต่วิธีที่จะไปรู้ความเค็มได้นั้น บอกได้ อธิบายได้ตั้งหลายนัยยะ ตามพื้นจิตและระดับการศึกษาและประสบการณ์ของผู้อธิบาย อย่างที่เราท่านทั้งหลาายกำลังมาช่วยกันอธิบายวิธีเข้าถึงนิพพานกันอยู่ทุกวันนี้ครับ



คุณอโศกะกำลังใช้ภาษามนุษย์อธิบายผมอยู่หรือเปล่าล่ะครับ
แล้วผมจะได้ฟังคำตอบที่ถูกต้องเป็นภาษาอะไรละครับ บอกได้ไหม?


ผมก็ขอให้คุณโชคดีเช่นกันนะครับ


เจริญในธรรมครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ต.ค. 2009, 09:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ย. 2009, 00:37
โพสต์: 86

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เข้าร่วมแสดง ครับ

คำว่า "เค็ม" เชื้อชาติผมดำ ก็รู้จัก เชื้อชาติผมที่ไม่สีดำ ก็รู้จัก
แล้วทางวิชาการ(วิทย์ฯ) อธิบายการรับรู้รส ว่าเกิดจากตุ้มรับรสในลิ้น จะแบ่งเป็นบริเวณกัน รับรสต่างๆกัน ครับ

อ้างคำพูด:
การรับรส (gustation)
รส คือ ความรู้สึกตอบสนองทางประสาทสัมผัสที่ได้รับ เมื่ออาหาร ของเหลวหรือของแข็งที่ถูกเคี้ยวบดไปกับน้ำลาย ละลายไปสัมผัสกับต่อมรับรส (taste bud) บนผิวลิ้นหรือบริเวณใกล้เคียงปากและคอ
น้ำลาย สำคัญมากต่อการรับความรู้สึกเรื่องรส โดยเฉพาะเพื่อละลายหรือทำให้สารที่ให้รสเจือจาง และนำไปสู่อวัยวะรับรส น้ำลายได้มาจากต่อม 3 คู่ คือ ต่อม parotid, submaxillary และ sublingual
ลิ้น เป็นอวัยวะที่ช่วยในการรับรส โดยการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อ ทำให้สารให้รสมาสัมผัสกับต่อมรับรสได้ โดยบนลิ้นมี papillae เป็นส่วนที่ทำให้มีความรู้สึกในรส เนื่องจากมีต่อมรับรสอยู่เป็นส่วนมาก ส่วนที่ไม่มี papillae ก็จะไม่มีความรู้สึกในรสเลย ซึ่งได้แก่ ตอนกลางของลิ้น
การรับรสคล้ายกับการรู้สึกกลิ่นเพราะเป็นความรู้สึกทางเคมี (chemical sense) สิ่งเร้าต่อสารเคมีที่ละลายในน้ำ น้ำมัน หรือน้ำลาย ไปกระตุ้นต่อมรับรส (taste buds) ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ที่ ลิ้น เพดาน และลำคอบางส่วน
ตุ่มรับรส (รูปที่ 3) ประกอบด้วยส่วนต่างๆ ดังนี้คือ เซลล์รับรส (taste cell) เซลล์ที่อยู่รอบ ๆ taste pore เป็นรูที่เปิดให้สารละลายเข้าสู่เซลล์และเส้นประสาทที่จะนำกระแสประสาทไปสู่สมองส่วนกลาง ซึ่งม ี 3 ช่วงคือ สัญญาณจากตุ่มรับรสเข้าสู่ medulla oblongata แล้วเข้าสู่ thalamus ไปสิ้นสุดที่ cerebral cortex ส่วน parietal lobe ของสมองและเส้นประสาทที่เกี่ยวข้องกับการรับรสมี facial ซึ่งรับรสจากลิ้น 2/3 จากปลายและส่วนลิ้นไก่ glossopharyngeal รับส่วนที่เหลือของลิ้น รวมทั้งส่วนลิ้นไก่และลำคอ

ตุ่มรับรสในส่วนต่างๆ ของลิ้น เลี้ยงด้วยเส้นประสาทสมองต่างๆ กันดังนี้

ตุ่มรับรสในบริเวณสองส่วนสาม ด้านหน้าของลิ้นได้รับการควบคุมจากเส้นประสาทสมอง facial

บริเวณหนึ่งในสามส่วนด้านหลังของลิ้นได้รับการควบคุมจากเส้นประสาทสมอง glossopharyngeal

epiglottis และ pharynx ได้รับการควบคุมจาก เส้นประสาทสมอง vagus

รสพื้นฐาน มี 4 รส คือ
รสเปรี้ยว กรดเป็นตัวกระตุ้นโดยเฉพาะไฮโดรเจนอิออน โดยทั่วไปความเปรี้ยวขึ้นอยู่กับปริมาณไฮโดรเจนอิออน ชนิดของกรด (กรดอินทรีย์เปรี้ยวกว่ากรดอนินทรีย์) และปริมาณน้ำลาย

รสหวาน น้ำตาลเป็นสิ่งให้ความหวาน สารหลายชนิดที่มีส่วนประกอบทางเคมีที่แตกต่างกันให้รสหวานเหมือนกัน เช่น สารให้ความหวานกลุ่มแซคคารีน ไซคลาเมท แอสพาร์เทม เป็นต้น

รสเค็ม เกลือโซเดียมคลอไรด์เป็นสารที่ให้รสเค็มที่บริสุทธิ์กว่าสารอื่นๆ ความเค็มของเกลือมีความเค็มเรียงลำดับจากมากไปน้อยคือ NH4Cl > KCl > CaCl2 > LiCl2 > MgCl2 และความเค็มของเกลือโซเดียมเรียงลำดับดังนี้
Na2SO4 > NaCl > NaBr > NaI > NaHCO3 > Na2NO3

รสขม มีสารประกอบหลายชนิดที่ให้รสขมเช่นพวก alkaloids เช่น caffeine nicotine quinine และbrucine

โดยปกติ gustatory receptor ได้รับการกระตุ้นโดยรสหวาน รสขม รสเค็ม และรสเปรี้ยว ส่วนปลายลิ้นตอบสนองต่อรสทั้งสี่ดังกล่าว แต่มักตอบสนองต่อรสหวานและรสเค็ม ด้านข้างของลิ้นตอบสนองต่อรสเปรี้ยวได้ดีส่วนโคนลิ้นตอบสนองต่อรสขมได้ดี
หรือจะไปอ่านอย่างละเอียดที่

http://www.agro.cmu.ac.th/e_books/605331/TWO.htm#การรับรส%20%20(Gustation)


เขาอธิบายวิธีรู้รส ด้วยภาษามนุษย์ที่เป็นภาษไทยครับ บอกหมดทั้งขบวนการรู้รส และวิธีรับรส ด้วยกระบวนทางวิทยาศาสตร์ซึ่งเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุดในขณะนี้ ยังไม่มีข้อมูลมาลบล้างได้ในขณะนี้ครับ และแถมรสขม รสหวาน รสเปรี้ยว มาพร้อมกันเลยครับ

อิ อิ อิ อย่างนี้จะถูกหวย 1 ล้านไหมครับ

.....................................................
....ถ้าไม่ทำสัญญาให้เป็นปัญญา ทำอย่างไรก็เป็นกามสัญญา......


แก้ไขล่าสุดโดย โคตรภู เมื่อ 16 ต.ค. 2009, 09:44, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 118 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 4, 5, 6, 7, 8  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร