วันเวลาปัจจุบัน 19 ก.ค. 2025, 03:36  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 189 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 9, 10, 11, 12, 13  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ก.ย. 2009, 17:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




f54802676.gif
f54802676.gif [ 16.55 KiB | เปิดดู 4152 ครั้ง ]
คุณเช่นนั้นขอรับ อยู่ไหน คุณอยู่ไหน ยู้ฮู้ๆๆ ออกมาตอบคำถามข้างบนที ที่ถามไว้นั่นน่า ถาม

ง่ายๆว่า "ดังนี้" ตัด ออกได้ไหม จะเป็นอะไรไหม จะตกนรกไหม ขอรับ หากตัดออก :b32:

ย้ำอีกทีครับที่ใช้นาม สุตตะ ออกไป

ที่ใช้นาม เช่นนั้น เชิญเข้ามา :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ก.ย. 2009, 17:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ธรรมะในจินตนาการไม่มี มีแต่ลงมือปฏิบัติให้เจริญขึ้นด้วยวิริยะอุตสาหะ ด้วยเรี่ยวแรงของบุรุษ

ไม่ใช่พากันนั่งมองศัพท์บาลีแล้วก็ฝันๆ เอาว่าเป็นโลกุตระอะไรนั่น :b16:

แต่เพลง "รังรักในจินตนาการ" มีขอรับ :b32:

http://www.imeem.com/thaioldies/music/ONQUSeV9//

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 30 ก.ย. 2009, 17:51, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ต.ค. 2009, 07:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




208794.jpg
208794.jpg [ 61.81 KiB | เปิดดู 4054 ครั้ง ]
อรุณสวัสดิ์ครับท่านเช่นนั้นอะโป๊ะ :b8:

เช้านี้อากาศดีนะครับ เมื่อคืนฝนตกทั้งคืน :b12:

ทางบ้านคุณฝนตกไหมครับ :b1:

ฝนตกอากาศเย็นๆนี่นอนหลับสบายดีครับ

กรัชกาย :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 01 ต.ค. 2009, 18:16, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ต.ค. 2009, 19:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ที่จริง พุทธธรรม ถ้ารู้แจ้งเข้าใจจริงแล้ว เมื่อพูดชี้แจงอธิบาย แม้จะไม่ใช้ศัพท์ธรรมคำบาลี

สักคำเดียว ก็เป็นพุทธธรรม

แต่ตรงข้าม ถ้าไม่รู้ไม่เข้าใจ หรือรู้ผิดเข้าใจผิด แม้จะพูดออกมาทุกคำล้วนศัพท์บาลี

ก็หาใช้เป็นพุทธธรรมไม่ กลายเป็นแสดงลัทธิอื่นที่ตนสับสนหลงผิดไปเสีย

อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่รู้เข้าใจด้วยกันแล้ว คำศัพท์กลับเป็นเครื่องหมายรู้ที่ช่วยสื่อถึงสิ่งที่เข้าใจได้

โดยสะดวก พูดกันง่าย เข้าใจทันที

หรือแม้สำหรับผู้ศึกษาประสงค์จะเข้าใจ หากอดทนเรียนรู้คำศัพท์สักหน่อย

คำศัพท์เหล่านั้นแหละ จะเป็นสื่อแห่งการสอนที่ช่วยให้เข้าใจพุทธธรรมได้รวดเร็ว

หากจะชี้แจงสั่งสอนกันโดยไม่ใช้คำศัพท์เลย ในที่สุดก็จะต้องมีศัพท์ธรรมภาษาอื่น รูปอื่น ชุดอื่น

เกิดขึ้นใหม่อยู่ดี แล้วข้อนั้นอาจจะนำไปสู่ความสับสนยิ่งขึ้น

โดยนัยนี้ คำศัพท์อาจเป็นสื่อนำไปสู่ความเข้าใจพุทธธรรมก็ได้

เป็นกำแพงกั้น ไม่ให้เข้าถึงพุทธธรรมก็ได้


เมื่อเข้าใจเช่นนี้แล้ว พึงนำศัพท์ธรรมมาใช้ประโยชน์อย่างรู้เท่าทัน

คือ รู้เข้าใจ ใช้ถูกต้อง รู้กาลควรใช้ไม่ควรใช้ ให้สำเร็จประโยชน์ แต่ไม่ยึดติดถือคลั่ง

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ต.ค. 2009, 20:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คห. ที่ผ่านมา ผู้ใช้ชื่อว่า chefin ยกบาลีมาท่อนหนึ่ง- ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ

ขึ้นประกอบคำพูดของตนว่า=>(ผู้ที่มีฉันทะใฝ่ในธรรม เขาผู้นั้นย่อมขวนขวายมิใช่หรือเจ้าคะ

ท่านกรัชกาย?

เหมือนเช่นที่พวกเราทุกๆ คนได้กระทำอยู่ ทุกคนต้องเริ่มจากศูนย์ทั้งสิ้น ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ

เจ้าค่ะ)


ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ ชาวพุทธเคยได้ยินหรือเคยสวดกันมาบ้างแล้ว

ที่รู้เข้าใจกันว่าสวด อิติปิโส

เต็มๆ เฉพาะบทนั้น

สวากขาโต ภควตา ธัมโม สันทิฏฐิโก อกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปนยิโก ปัจจัตตัง

เวทิตัพโพ วิญญูหีติ. (วิญญูหิ+อิติ)


ผู้รู้ภาษาบาลีอยู่บ้างเห็นก็พอรู้ว่า บทไหนเป็นประธาน บทไหนเป็นกริยา

ธัมโม (ธรรม) เป็นประธาน เวทิตัพโพ เป็นกริยา

(เวทิตัพโพ เป็นต้น ในประโยคเดียวกัน ยังเปลี่ยนรูปไปตามประธานในประโยคอีกได้ เช่น เวทิตัพพา

เวทิตัพพัง เป็นต้น ผู้รู้เปลี่ยนได้ แต่ผู้ไม่รู้ก็ว่า ผู้รู้ หมิ่นธรรม ไม่เคารพธรรม ไม่ยำเกรงธรรม -

เพราะตนเห็นพยัญชนะเป็นธรรมะ)


"ธรรม" ในที่นี้ ท่านหมายถึงโลกุตรธรรมขั้นมรรคผลโน่น ...

ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ ...อันวิญญูชน พึงรู้ได้เฉพาะตน...ดังนี้ (ดูข้างบน)

อิติศัพท์ แปลว่า ดังนี้ อิติศัพท์ ใช้ปิดประโยค (คำพูด)

ที่นำๆ พุทธวจนะมาลงๆ ไว้ แล้ว....ก็.. ดังนี้ ทั่วๆไป

มาจาก อิติศัพท์ ที่ใช้ในลักษณะนี้แหละ

จะไม่แปล ดังนี้ ก็ได้ ตัดออกไปเลย ก็ไม่มีปัญหาอะไร ไม่ตกนรกหรอก



กรัชกายเห็นคุณเช่นนั้นนำมาลง...ดังนี้ จึงลองถามดูว่า ท่านรู้เข้าใจ สิ่งที่ตนนำมานั่นแค่ไหน

ก็เป็นที่ประจักษ์แล้ว


และอีก...ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ - อันวิญญูชน จะพึงรู้เฉพาะตน

ธัมโม ที่แปลว่า ธรรม ในประโยคนั้น คือผู้ที่ปฏิบัติธรรม จนบรรลุมรรคผลทำพระนิพพานให้แจ้ง

แล้ว เขาผู้นั้นจะพึงรู้เฉพาะตน คนอื่นซึ่งไม่เคยเข้าถึงจะไม่รู้เข้าใจ มองไม่ออกเลย


พึงมองให้เห็น ธัมโม หรือ ธรรมะ ซึ่งอยู่ข้างหลังพยัญชนะ มิใช่เห็นแต่พยัญชนะ บังธรรมอยู่

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ต.ค. 2009, 20:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ยังมองไม่ออกว่า ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ ยังไง

พิจารณาตัวอย่างพื้นๆ คือ ยังไม่ถึงระดับดังกล่าว ว่าเขา รู้เฉพาะตัวเขายังไง

แล้วผู้ที่ยังไม่ถึงไม่รู้ นึกไม่ออกยังไง

พิจารณาตัวอย่างนี้ (ตัดๆมาพอได้ใจความ) =>



ก่อนหน้านี้ไม่เคยปฏิบัติธรรมจริงๆจังๆเลย จนกระทั่งไม่นานมานี้ วาสนาพาให้ได้พบกับพระสงฆ์รูปหนึ่ง

ผมได้ถามท่านว่า ทำอย่างไรจึงจะพ้นทุกข์

ท่านก็ไม่ตอบอะไร ยื่นหนังสือของท่านให้สามเล่ม เป็นหนังสือเกี่ยวกับการปฏิบัติ

ตามแนวทางในอานาปานสติสูตร

ผมก็อ่านแค่เล่มแรก ใจความในเล่มแรกคือ ให้กำหนดรู้ลมหายใจให้ตลอด ในชีวิตประจำวัน

ยกเว้นเวลาขับรถ หรือเวลาอ่านหนังสือ แต่ก็ให้มีสติรู้อยู่ว่าเราทำอะไรอยู่

ท่านว่าให้กำหนดรู้ลมหายใจเสมือนว่า ลมหายใจเป็นกัลยาณมิตร



หลังจากนั้นมีวันหนึ่ง ผมเกิดนึกอยากนั่งสมาธิขึ้นมา ก็เลยนั่งสมาธิกำหนดลมหายใจ

ในการนั่งสมาธิครั้งนี้ ผมสามารถรับรู้ลมหายใจได้ตลอดสายเป็นเวลานาน

แต่ผมก็คิดว่า เวลาจิตเราสงบมากแล้ว แต่ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ถ้ายังไงเราลองเปลี่ยนวิธีกำหนดดูดีกว่า ก็เลยเปลี่ยนวิธีกำหนดในใจเป็นแบบอัปปมัญญา

กำหนดแค่ครั้งเดียวเท่านั้น จากนั้น ก็รู้สึกเหมือนกาย ขยายตามที่กำหนดแผ่เมตตาไปด้วย

รู้สึกว่า กายขยายไปทุกทิศ ความรู้สึกนี้มันเกิดในเวลาแค่แปปเดียว

กายขยายไปทุกทิศจนรู้สึกว่ากายหายไป รู้สึกว่าเหมือนจุ่มอยู่ในปิติ มีแต่ความสุขไปหมด

คิดขึ้นมาว่า

"มีความสุขขนาดนี้ในโลกด้วยหรือ ความสุขนี้ดีกว่าความสุขในโลกที่เราเคยพบมาทั้ง

หมด โอ ความสุขนี้แค่นั่งก็ได้แล้ว คนทั้งโลก (ส่วนใหญ่) มัวแต่วุ่นวายทำอะไรกันอยู่

บางคนทำทุจริตต่างๆเพื่อหาเงินมาสนองความสุขตน ทำไปทำไมนะ

มันเทียบกับความสุขที่เกิดจากความสงบนี้ไม่ได้เลย ความสุขนี้ไม่ต้องไขว่คว้ามาก

อยู่กับตัวเองแท้ๆ คน (ส่วนใหญ่) ในโลกกลับไม่รู้"


จากนั้น ก็สังเกตลมหายใจก็รู้สึกว่า ลมหายใจตอนนี้มันละเอียดมาก

ถึงค่อยเข้าใจคำว่า ลมหายใจหยาบลมหายใจละเอียดว่าเป็นยังไง

ก่อนหน้านี้เข้าใจว่า คือลมหายใจแรงๆเบาๆซะอีก


ความรู้สึกจากการเกิดสมาธิครั้งแรกนี้ มันเหมือนจุ่มค้างอยู่ปิติ คือปิติเกิดค้างอยู่

แต่ไม่เห็นนิมิตอะไรทั้งสิ้น แต่รู้สึกจิตเวลานี้ไม่มีนิวรณ์เลย คือ มีความรู้พร้อมอยู่

จากนั้นผมก็รู้สึกยินดีกับสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วคิดไปเรื่อยว่า "นี่คือปฐมฌานหรือเปล่านี่ ปฐมฌานเกิดกับเรา

หรือ"

จนจิตเริ่มไม่เป็นสมาธิ เริ่มปั่นป่วน หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงห้องข้างๆตะโกนเสียงดัง ก็เลยหลุดออกมา

จากสภาวะนั้น

http://larndham.net/index.php?showtopic=27390

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 02 ต.ค. 2009, 21:40, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ต.ค. 2009, 21:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




DSC01694.jpg
DSC01694.jpg [ 44.92 KiB | เปิดดู 4020 ครั้ง ]
ในบทสวดธรรมคุณดังกล่าว คห. ที่ผ่านมา มีผู้ยก “อกาลิโก” ขึ้นกล่าวอีก

แต่มีเจตนาใช้ในความหมายอื่น

ความหมายทางธรรมอย่างนี้

คือท่านที่ปฏิบัติธรรมถูกวิธี ปฏิบัติไปๆ เมื่อเหตุปัจจัยพร้อมเพรียงเมื่อไหร่ ก็เมื่อนั้น

คือ เข้าถึงธรรม หรือ บรรลุธรรมขณะนั้นทันที ซึ่งไม่ขึ้นต่อกาลเวลา จึงเรียกว่า อกาลิโก ไม่จำกัดกาล

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 01 ต.ค. 2009, 21:13, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ต.ค. 2009, 05:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณเช่นนั้น คุณควรขอโทษคุณแทนขวัญเสีย ที่ไปแนะนำเค้าไว้ =>....แนะนำว่า

ควรหยุดก่อนจะสายเกินไป


ไว้ที่นี่

viewtopic.php?f=2&t=20691&st=0&sk=t&sd=a&start=60


ไม่อย่างนั้นคุณเช่นนั้นเองนั่นแหละจะตกนรกไม่ได้ผุดได้เกิด

เกิดมาก็ปัญญาทึบ ด้วยเศษบาปที่ขวางทางผู้บำเพ็ญเพียรทางจิตและเจริญปัญญา

(อธิจิตตสิกขา อธิปัญญาสิกขา) ด้วยอกุศลเจตนาแล :b20:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ต.ค. 2009, 21:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ตัวอย่าง คห. เหนือขึ้นไป จะเห็นลักษณะของจิตที่มีสมาธิ คือ จะเดินเรียบอยู่กับอารมณ์ (กรรมฐาน)

ดังที่เขากล่าวว่า (การนั่งสมาธิครั้งนี้ ผมสามารถรับรู้ลมหายใจได้ตลอดสายเป็นเวลานาน)

เมือจิตมีสมาธิดังนั้นแล้ว มักมาพร้อมกับความสุข เช่นที่เขาว่า

(มีความสุขขนาดนี้ในโลกด้วยหรือ ความสุขนี้ดีกว่าความสุขในโลกที่เราเคยพบมาทั้ง

หมด ฯลฯ )


พร้อมทั้งกิเลสสงบราบคาบลง พร้อมมีสติรับรู้พร้อมอยู่ เช่นที่เขาว่า

(ไม่เห็นนิมิตอะไรทั้งสิ้น แต่รู้สึกจิตเวลานี้ไม่มีนิวรณ์เลย คือ มีความรู้พร้อมอยู่)


ศึกษาลักษณะของจิตที่สัมปยุตด้วยสมาธิลิงค์นี้

viewtopic.php?f=2&t=19067


:b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48:


ประโยชน์ของสมาธิลิงค์นี้


viewtopic.php?f=2&t=20511&p=95855#p95855

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 02 ต.ค. 2009, 22:58, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ต.ค. 2009, 10:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




Jane_peace_position.jpg
Jane_peace_position.jpg [ 134.64 KiB | เปิดดู 3898 ครั้ง ]
ตัวอย่างดังนำมาข้างบน มีที่พึงทำความเข้าใจอีกแห่งหนึ่ง เช่น ที่เขาว่า =>


อ้างคำพูด:
จากนั้น ผมก็รู้สึกยินดีกับสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วคิดไปเรื่อยว่า

"นี่คือปฐมฌานหรือเปล่านี่ ปฐมฌานเกิดกับเราหรือ"

จนจิตเริ่มไม่เป็นสมาธิ เริ่มปั่นป่วน

หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงห้องข้างๆตะโกนเสียงดัง ก็เลยหลุดออกมาจากสภาวะนั้น



หากผู้ปฏิบัติท่านใดต้องการเพียงเท่านั้นก็พึงประคองจิตให้อยู่กับกรรมฐานที่ตนใช้ดีๆ คือให้สมาธิเดิน

เรียบอยู่กับกรรมฐานนั้น

แล้วฝึกเข้าฝึกออกจากภาวะนั้นให้ชำนาญ ก็ฝึกตามนั้นตามอัธยาศัย


สังเกตตัวอย่างที่นำมา เขาหลุดจากภาวะนั้น เพราะยินดีดีใจต่อภาวะที่ตนประสบอยู่

จิตจึงฟุ้งแกว่งก็จึงหล่น (หลุด) จากกรรมฐาน

อุปมาก็เหมือนนักกายกรรม ซึ่งกำลังเดินไต่เส้นลวดที่ขึงอยู่

เดินๆ ได้หน่อยแล้วนึกยินดีว่าเราก็แน่เหมือนกันนะไต่ได้แล้ว ใครจะสู้เราได้ ฯลฯ

เมื่อรู้สึกยินดีจิตไหวตัวแกว่งไม่ตั้งมั่นก็ส่งผลมาถึงกายๆ ก็โอนเอนโยก ก็ตกลงมาเท่านั้นเอง

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 05 ต.ค. 2009, 19:08, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ต.ค. 2009, 23:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


อาจารย์กรัชกายค่ะ ขออนุญาตส่งกระทู้นี้ไปให้เพื่อนและน้องสาว
ได้ศึกษานะค่ะ เพราะเข้าใจง่ายและละเอียดดีค่ะ ทุกคนก็ยังเข้าใจกันอยู่ว่าแค่นั่งสมาธิก็น่า
จะพอแล้ว เดินจงกรมไม่สำคัญ เหมือนที่ทักทายเคยเข้าใจมา เห็นว่ากระทู้ของอาจารย์อ่าน
แล้วละเอียดและเข้าใจง่ายดีค่ะ พวกเขาก็ไม่ได้อยู่เมืองไทยค่ะ อนุโมทนา เจริญในธรรมค่ะ

:b41: :b41: :b41: :b43: :b41: :b41: :b41:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ต.ค. 2009, 05:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




12.gif
12.gif [ 8.54 KiB | เปิดดู 3848 ครั้ง ]
สวัสดีครับคุณทักทาย :b8:

เห็นว่าตรงไหนเป็นประโยชน์ก็นำไปใช้หรือส่งต่อเถอะครับ ไม่มีลิขสิทธิ์อะไร เชิญตามอัธยาศัยครับ


อ้างคำพูด:
ทุกคนก็ยังเข้าใจกันอยู่ว่าแค่นั่งสมาธิก็น่า
จะพอแล้ว เดินจงกรมไม่สำคัญ เหมือนที่ทักทายเคยเข้าใจมา



ไม่แปลกครับ ที่เข้าใจอย่างนั้น เพราะคนเราส่วนมากมักดูแต่สิ่งที่เห็นด้วยตาข้างนอก

แต่มองไม่ทะลุถึงข้างในคือจิตใจ หรือนามธรรม ซึ่งกำลังทำงานกันง่วนอยู่ โดยมีกายเป็นฐานฝึก

อบรมหรือเป็นกรรมฐานให้ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ต.ค. 2009, 07:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2009, 08:46
โพสต์: 405

แนวปฏิบัติ: ดูจิต-อานา
ชื่อเล่น: ขวานผ่าซาก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


การเดินจงกรม ที่จริง เดินกันไม่เกิน 2 ก้าว

ไม่เท้า ซ้าย ก็ เท้า ขวา

แต่ทำไมที่นี่ เดินกันนาน เหลือเกิน

ขอบคุณที่ให้แสดงความคิดเห็นครับ :b55:

.....................................................
สุ จิ ปุ ลิ...(หัวใจนักปราชญ์)

ปัจจุบันธรรม

โยนิโส มนสิการ
สติ สัมปชัญญะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ต.ค. 2009, 07:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




12.gif
12.gif [ 8.54 KiB | เปิดดู 3843 ครั้ง ]
moddam เขียน:
การเดินจงกรม ที่จริง เดินกันไม่เกิน 2 ก้าว

ไม่เท้า ซ้าย ก็ เท้า ขวา

แต่ทำไมที่นี่ เดินกันนาน เหลือเกิน

ขอบคุณที่ให้แสดงความคิดเห็นครับ :b55:



ความจริงก็มีสองขาอย่างคุณว่า แต่ที่นานเพราะว่าเราเดินไปคุยไป ถกเถียงกันไป

ที่ถกเถียงกันนี่ไม่ใช่เรื่องขานะครับ ถกเถียงกันเรื่องการใช้ขาสองขาครับ :b9: :b32:


http://www.imeem.com/people/L--DPio/mus ... Ti/01-mp3/

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 06 ต.ค. 2009, 07:38, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ต.ค. 2009, 23:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


ขอบคุณค่ะอาจารย์ ทักทายส่งไปให้ทั้งดุ้นเลยค่ะไม่เลือก
เพราะทุกอย่างมีสาระน่าศึกษาทั้งนั้นนอกจากวิธีการเดินแล้ว ยังมีเรื่องอื่นๆให้เรียนรู้
เป็นของแถมด้วย แล้วทั้งเพื่อนและทั้งน้องก็ได้รับแล้ว ฝากอนุโมทนาอาจารย์มาด้วยค่ะ

เจริญในธรรมค่ะ
:b41: tongue tongue tongue :b41:


.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 189 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 9, 10, 11, 12, 13  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร