วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ค. 2025, 20:25  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 169 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 8, 9, 10, 11, 12  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ส.ค. 2009, 02:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


เรียนอาจารย์ค่ะ รายงานผลของเมื่อคืนนี้ค่ะ
เดินระยะหนึ่งสิบนาทีเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเลย คิดนิดหน่อย เดินระยะสาม
เพิ่มเป็นสามสิบ ก็หลงนิดหน่อย คิดบ้าง เดินระยะสี่ยี่สิบสองครั้งเป็นสี่สิบ
แรกๆก็ดี ได้เรื่อยๆ มีเสียง มีเท้าลั่น ตัวเอนบ้าง แต่คิดเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
กำหนดพอหายได้สักแป๊ปก็กลับมาอีก ใกล้ๆจะหมดเวลา มีความรู้สึกผะอืดผะอม
อยากอ้วก ก็กำหนดไปตามนั้น เป็นสามครั้งก่อนหมดเวลา แต่สองครั้งหลังไม่มาก
เหมือนครั้งแรก สังเกตุว่าไม่ได้ยินเสียงรถบนฟรีเวย์ และเครื่องไดร์ผ้า เสียงมันหาย
ไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ก่อนจะออกจากเดินถึงกลับมาได้ยิน

นั่งสามสิบเท่าเดิม ไม่ได้อะไรเลย พองยุบชัดตอนต้นเวลา พอผ่านไปสักไม่ถึงห้านาที
ฟุ้ง ฟุ้งมากๆ กำหนดหายแล้วก็มาใหม่ กำหนดถูกหนอเพิ่ม พอหายไปก็ฟุ้งอีกที่ต้องเรียก
ว่าฟุ้งคือมันจับต้นชนปลายไม่ถูกเลย เป็นคนก็เหมือนไม่ใช่คน หน้าไม่ชัด เป็นมือเป็นแขน
ก็ไม่ใช่มือไม่ใช่แขน แล้วก็เป็นอะไรต่ออะไรไม่รู้ปนเป ยุ่งไปหมด สวดอิติปิโสไปสองบท
ก็ยังไม่หาย กลับมาได้แป๊บก็ฟุ้งมั่วอีก พองยุบหายไปเลย จะกลับมาบ้างก็เบามากๆ แทบ
ไม่รู้สึกเลยค่ะ เสียงฝาลั่นก็สะดุ้งสุดตัวเลย กำหนดไปตามนั้นค่ะ เสียงรถ เสียงเครื่องไดร์ผ้า
หายไปหมด ไม่ได้ยินอะไรเลย จะมีก็เสียงฝาลั่นเท่านั้นที่ได้ยินชัด ปวดหลังมีเป็นระยะอาจเป็น
เพราะง่วงด้วยมังค่ะ เพราะเมื่อคืนเริ่มปฏิบัติดึกไปหน่อย

พอเข้านอนหลับไปแล้ว สักพักสะดุ้งตื่นไม่ทราบว่าด้วยเหตุอันใด ก็เลยนอนกำหนดพองยุบ
ชัดแต่พองค่ะ ยุบค่อยมากๆ ได้สักพัก ก็หลับไป แล้วก็ตื่นเป็นระยะ พอรู้สึกตัวก็กำหนด
พอง ก็เหมือนเดิมคือพองชัด แต่ยุบไม่ค่อยชัด สามครั้งสำหรับการนอนเมื่อคืนนี้ จนเช้า

เมื่อเช้าพอจะหาเวลาได้บ้าง ก็นั่งครั้งแรกได้ยี่สิบนาที รู้สึกสงบลงไม่ค่อยคิดเท่าไหร่แล้ว
พองยุบกลับมาชัด แต่ไม่สุด ยังแผ่วๆอยู่ คิดบ้าง อย่างอื่นไม่มีอะไรเลย

สายๆ ก็เข้าไปนั่งได้อีกครึ่งชั่วโมง ครั้งนี้พองยุบชัดมากกว่าเมื่อเช้านี้ คิดน้อยลง และที่เคยบอกว่า
ระหว่างถูกหนอ จะไปหาพองหนอ ที่มันหายไปนั้น วันนี้รู้สึกเลยว่ามันไม่ได้หายไปไหน แต่
มันดับไปเลย เป็นอยู่สามครั้ง ชัดว่ามันดับเฉพาะจากถูกหนอ ดับ แล้วก็พองหนอค่ะ ส่วนจาก
พองหนอ ไปหายุบหนอนนั้นยังไม่ดับ ยังลากกันไปอยู่ เช่นกันจากยุบหนอไปหาถูกหนอก็
ยังไม่ดับค่ะ เรียนมาเพื่อพิจารณาค่ะ

อนุโมทนา เจริญในธรรม :b8: :b8: :b8:

:b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ส.ค. 2009, 08:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.พ. 2008, 10:00
โพสต์: 724

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: ปฏิบัติวิปัสสนา
อายุ: 0
ที่อยู่: เกษตร-นวมินทร์ กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


taktay เขียน:
แรกๆก็ดี ได้เรื่อยๆ มีเสียง มีเท้าลั่น ตัวเอนบ้าง แต่คิดเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
กำหนดพอหายได้สักแป๊ปก็กลับมาอีก ใกล้ๆจะหมดเวลา มีความรู้สึกผะอืดผะอม
อยากอ้วก ก็กำหนดไปตามนั้น เป็นสามครั้งก่อนหมดเวลา แต่สองครั้งหลังไม่มาก
เหมือนครั้งแรก สังเกตุว่าไม่ได้ยินเสียงรถบนฟรีเวย์ และเครื่องไดร์ผ้า เสียงมันหาย
ไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ก่อนจะออกจากเดินถึงกลับมาได้ยิน


เหมือนการทรงตัวเสียไป ให้กำหนดตามนั้น กำลังดีแล้วครับ ผมไม่ขออธิบาย อาการ
นี้เขาสอนอยู่ว่าอะไรเป็นทุกข์อะไรเป็นโทษ อะไรยังอยู่อะไรหายไป หน้าที่เรา กำหนดตาม
(อนุปัสสนา) ใส่ใจที่อาการ จิตจะบริกรรมแบบไหนไม่สำคัญเท่าจิตรู้อาการที่เป็นไปอยู่
ข้อนนี้สภาวะปรับสูงขึ้น อย่ากังวล
เสียงยังคงมีอยู่นะ ไม่ได้หายไป แต่สติมั่นคง คืออยู่ในสภาวะที่เรารู้ปัจจุบันนั้นๆ ไม่ได้ส่ายไป
ก็เลยเหมือนไม่มีเสียง แท้จริง ยังคงมีอยู่ ถ้าเราใส่ใจเสียง ก็จะมีเสียง สภาวะอื่นเหมือนไม่มี


taktay เขียน:
พอหายไปก็ฟุ้งอีกที่ต้องเรียกว่าฟุ้งคือมันจับต้นชนปลายไม่ถูกเลย เป็นคนก็เหมือนไม่ใช่คน หน้าไม่ชัด เป็นมือเป็นแขนก็ไม่ใช่มือไม่ใช่แขน แล้วก็เป็นอะไรต่ออะไรไม่รู้ปนเป ยุ่งไปหมด สวดอิติปิโสไปสองบทก็ยังไม่หาย กลับมาได้แป๊บก็ฟุ้งมั่วอีก พองยุบหายไปเลย จะกลับมาบ้างก็เบามากๆ แทบไม่รู้สึกเลยค่ะ เสียงฝาลั่นก็สะดุ้งสุดตัวเลย กำหนดไปตามนั้นค่ะ เสียงรถ เสียงเครื่องไดร์ผ้าหายไปหมด ไม่ได้ยินอะไรเลย จะมีก็เสียงฝาลั่นเท่านั้นที่ได้ยินชัด ปวดหลังมีเป็นระยะอาจเป็น
เพราะง่วงด้วยมังค่ะ เพราะเมื่อคืนเริ่มปฏิบัติดึกไปหน่อย


ถ้าสามารถกำหนดถูกหนอได้ (กำหนดนั่ง ๓ ระยะ ขึ้นไปทัน) แสดงว่านัยที่ฟุ้งไม่เสียหายมาก
สติสมาธิดีขึ้นมากโขเลย รับรู้ชัดเจนไปหมดอันนี้สมาธิดี แล้วที่ว่ามันไวจนจับต้นชนปลายไม่ถูก
ตรงนี้สติมีความคล่องตัวที่จะรู้สภาวะต่างๆ เสียงต่างๆมีอยู่ แต่เราไม่ใส่ใจตรงนั้น เพราะว่ามีอย่าง
อื่นที่เราใส่ใจและชัดเจนกว่า สังเกตครับว่า พอฝาลั่นแล้วรู้สึก เพราะฝาลั่นมันชัดกว่าที่เรากำลังรู้อยู่

ถ้าอาการแบบนี้มีอยู่ อย่าพยายามกำหนดว่า เห็นหนอ ฟุ้งหนอ ไม่ต้องแก้อะไรมาก ให้รู้อาการนั้น
เฉยๆ วางใจเป็นกลาง อย่าลำคาญ อย่าไม่พอใจ อุเบกขาไป แล้วกำหนด รู้หนอๆ จิตรู้ที่กำลังฟุ้งอยู่
อย่าตามว่ามันคือเรื่องอะไรแบบไหน ตรงนี้ดีแล้ว เริ่มจะละบัญญัติ(คำบริกรรม)ที่เรานำมาช่วยฝึกสติ
สมาธิ ตรงนี้ละครับ คนไม่เข้าใจคิดว่าเราติดบัญญัติกัน นี่ไง เริ่มจะละบริกรรมแล้ว


taktay เขียน:
พอเข้านอนหลับไปแล้ว สักพักสะดุ้งตื่นไม่ทราบว่าด้วยเหตุอันใด ก็เลยนอนกำหนดพองยุบ
ชัดแต่พองค่ะ ยุบค่อยมากๆ ได้สักพัก ก็หลับไป แล้วก็ตื่นเป็นระยะ พอรู้สึกตัวก็กำหนด
พอง ก็เหมือนเดิมคือพองชัด แต่ยุบไม่ค่อยชัด สามครั้งสำหรับการนอนเมื่อคืนนี้ จนเช้า



สติสมาธิเข้าสู่สภาวะชาคริกานุโยค คือ เริ่มมีความเพียรเป็นเครื่องตื่น(รู้) หมายถึง สติพยายามปลุก
จิตให้ได้ปัจจุบันที่ปรากฏอยู่ เป็นธรรมชาติหนีโมหะ เพราะการหลับเป็นโมหะ
ข้อนี้สังเกตนะครับ คนนอนไม่หลับ จะนอนไม่หลับแบบไม่รู้ปัจจุบัน แต่คนนอนไม่หลับตามนัยนี้
รู้ตัวเมื่อไร จะกำหนดสภาวะเองอัตโนมัติ ไม่ต้องกลัวหรือกังวล ไม่ต้องหายาทาน เข้าองค์คุณของ
ผู้ปฏบัติแล้ว นอนน้อย พูดน้อย กินน้อย


taktay เขียน:
ครั้งนี้พองยุบชัดมากกว่าเมื่อเช้านี้ คิดน้อยลง และที่เคยบอกว่า
ระหว่างถูกหนอ จะไปหาพองหนอ ที่มันหายไปนั้น วันนี้รู้สึกเลยว่ามันไม่ได้หายไปไหน แต่
มันดับไปเลย เป็นอยู่สามครั้ง ชัดว่ามันดับเฉพาะจากถูกหนอ ดับ แล้วก็พองหนอค่ะ
ส่วนจาก
พองหนอ ไปหายุบหนอนนั้นยังไม่ดับ ยังลากกันไปอยู่ เช่นกันจากยุบหนอไปหาถูกหนอก็
ยังไม่ดับค่ะ เรียนมาเพื่อพิจารณาค่ะ
อนุโมทนา เจริญในธรรม
:b8: :b8: :b8:
:b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41:

ที่ว่ามันดับ หมายถึงอะไร พอกำหนดแล้วมันหายไปเลยหรือเปล่า
หรือว่าเราเผลอไม่สนใจมัน ต่างกันตรงที่ว่า เผลอไม่สนใจกับกำหนดหรือกำลังรู้อยู่แล้วมันขาดหายไป
ลองดูดีๆ ตรงนี้สำคัญนะครับ ถ้าเพราะเรากำหนดแล้วขาดไปพอดี เรียกว่าได้ปัจจุบันขณะ
ตามธรรมดา จิตไวมาก เกิดดับจนเราจับแยกไม่ได้ ถ้าขาดแบบได้ปัจจุบัน แสดงว่าเราทันการเกิดดับ
หรือดับของจิต จะเห็นรอยต่อของขณะ

อนึ่ง เรื่องพองยุบชัดหรือไม่ ไม่ใช่ประเด็นนะ เราไม่หวังว่าจะชัดหรือไม่ เรามีหน้าที่รู้ให้ได้ปัจจุบัน
เราต้องวางใจเป็นกลาง เขาจะชัดหรือไม่ไม่ใช่เรื่องของเรา
เพียงแต่ต้องถามและให้บอก เพราะจะ
ใช้เป็นเครื่องมือวัดสภาวะต่างๆ เมื่อรายงานมา ผมก็ต้องแนะนำ เป็นธรรมเนียม ฉะนั้นแนะนำว่า
กำหนดรู้เห็นไปตามจริงที่ปรากฏ ระวังอย่าไปอยากให้ชัด โลภะจะเข้า และเมื่อไม่ชัด ก็อย่าไปรู้สึกไม่
พอใจ โทสะจะเข้า ถ้าเผลอมีอาการนี้ กำหนดรุ้ที่จิตว่า อยากหนอ ไม่พอใจหนอ หรือพอใจหนอ

สภาวะดีขึ้นเรื่อยๆ ถ้าตั้งใจ ก็จะก้าวหน้าเร็วครับ
อนุโมทนาสาธุ

.....................................................
เอกายโน อยํ ภิกฺขเว มคฺโค สตฺตานํ วิสุทฺธิยา โสกปริเทวานํ สมติกฺกมาย
ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย ญายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย ยทิทํ
จตฺตาโร สติปฏฺฺฐานา ฯ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ส.ค. 2009, 10:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ส.ค. 2009, 09:11
โพสต์: 23

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue
อนุโมทนาบุญกับคุณทักทายค่ะ :b8:

ยินดีกับความก้าวหน้า และสภาวะตื่นของคุณ
การปฏิบัติธรรมของดิฉันเมื่่อวานนี้ มีแต่สภาวะง่วงค่ะ :b2: :b2: :b2:
ง่วงตั้งแต่เดินไปถึงนั่งทีเดียว :b30: :b30: หนาๆทึบๆ บรรยายไม่ถูกแฮะ
เพราะเก็บรายละเอียดไม่เก่งเหมือนคุณทักทาย :b15:

คอยเชียร์อยู่ค่ะ ขอร่วมยินดีกับทุกความก้าวหน้าในธรรม ขอให้เจริญยิ่งๆขึ้นไปค่ะ
:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2009, 01:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


รายงานค่ะ จริงๆแล้วเมื่อคืนนี้แทบไม่มีอะไรเลย
เดินมีคิดกับหลงเท่านั้น ปวดหลังบ้างค่ะ

นั่งมีนิมิตสองครั้ง แล้วก็คิดวันนี้ก็ยังมั่วอยู่คือจับไม่ได้ว่าอะไรเป็นอะไร คนก็ไม่ใช่
อะไรก็ไม่รู้ดูไม่ออก พอกำหนดหายไป เดี๋ยวก็กลับมาอีก แต่มีอยู่สองครั้งที่เป็น
ฉากขาวๆ คือไม่มีอะะไรเลย เหมือนจอคอมฯที่มันแฮงค์ กำหนดรู้หนอสามครั้งถึงหาย
อีกสักพักก็เป็นอีกแต่ครั้งนี้หายเร็วกว่าครั้งแรกค่ะ มีหิวมากๆ ก่อนเข้าปฏิบัติลืมทานข้าว
ทรมานมาก กำหนดอย่างไรก็ไม่หาย พอเบาๆไป สักพักก็กลับมาอีก แต่กำหนดตาม
ทันเกือบหมด หิวหนอ ปวดท้องหนอ อยากออกหนอ แล้วขอสารภาพว่าขาดไปสามนาที
เพราะทนหิวไม่ไหวค่ะ อ้อ มีสะดุ้งแค่เสียงไม้ลั่น สะดุ้งสุดตัวเลยนะค่ะ
ตอนกลางคืนนอน ก็เหมือนเมื่อวาน พอรู้ตัวจะกลับตัวก็กำหนด บางครั้งสองสามครั้งก็หลับ
บางครั้งก็แค่ครั้งเดียวค่ะ เรียนมาเพื่อพิจารณา

อนุโมทนา สาธุ เจริญในธรรม

:b41: :b41: :b41: :b43: :b41: :b41: :b41:

ที่ว่าดับ นั้นคือมันหายไปเลย จากถูกหนอมาหาพองมันหายไปแป๊ป ถึงกลับมาหาพองได้ค่ะ

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2009, 08:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


รายงานค่ะ พอดีมีเวลาวันนี้ก็เลยปฏิบัติได้ไม่ต้องรอดึก
เดินระยะหนึ่งสิบนาที ระยะสามยี่สิบ ระยะสี่สี่สิบ สองระยะแรกแทบไม่มีอะไรเลยค่ะ
คิดนิดๆหน่อย จางๆ มีแต่เสียง กระดูกลั่นบ้าง เสียงไม้ลั่นบ้าง ฯลฯ
ระยะสี่ ยี่สิบนาทีแรกก็แทบไม่มีอะไรเหมือนกัน มีเสียงหนอ ยินหนอ คิดหนอบ้าง
แต่พอเข้ายี่สิบนาที่หลัง หลงบ้าง คิดเริ่มมาก กำหนดหายแล้ว อีกแป๊ปก็มาใหม่
อย่างอื่นไม่มีอะไรค่ะ

นั่งสามสิบนาที่ พองหนอ ก็สังเกตุตามที่อาจารย์แนะนำมา ที่ค่อยๆพอง และพองขึ้นเรื่อยๆ
พิจารณาได้แค่สามครั้งค่ะ นอกนั้นก็ไม่ได้เลย ส่วนยุบไม่เห็นค่ะ วันนี้ได้พองหนอ ยุบหนอ
ถูกหนอ ถูกหนอ มาก มีนิมิตสามครั้ง ครั้งแรกเป็นโครงกระดูกกำหนดสี่ห้าครั้งถึงหาย
แต่หายไปแปลกกว่าทุกครั้ง คือจะมีฉากสีขาวอยู่ข้างหลังแล้วกระดูกก็ค่อยๆละลายไป ครั้งที่สอง
เป็นหน้าน้องสาวที่เสียไป พอเห็นเขาก็กำหนดเห็นหนอ ครั้งที่สามเป็นอะไรไม่รู้ดูไม่ออก กำหนด
เห็นหนอ สองครั้งหลังนี่ก็แปลกเหมือนกันคือไม่ได้หายไปอย่างทุกครั้ง แต่มีฉากสีขาวค่อยๆปิด
เหมือนฉากละครเลยค่ะ แล้วก็เหมือนง่วง คือทุกสิ่งทุกอย่างหายไปไม่มีอะไรจับต้นชนปลายไม่ถูก
จะว่าง่วงก็ไม่น่าใช่ เพราะหัวค่ำอยู่เลย เรียนมาเพื่อพิจารณาค่ะ

อนุโมทนา เจริญในธรรมค่ะ

:b41: :b43: :b41: :b43: :b41: :b43:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2009, 15:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ส.ค. 2009, 09:11
โพสต์: 23

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue

ขอเข้ามาพักใจในห้องนี้ด้วยคน
ชอบมองคนปฏิบัติ เห็นแล้วเกิดกำลังใจ

......................................................
เผื่ออาจารย์ทั้งสองท่านจะช่วยเขี่ยให้ได้บ้าง


s007


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2009, 16:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.พ. 2008, 10:00
โพสต์: 724

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: ปฏิบัติวิปัสสนา
อายุ: 0
ที่อยู่: เกษตร-นวมินทร์ กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


taktay เขียน:
แต่พอเข้ายี่สิบนาที่หลัง หลงบ้าง คิดเริ่มมาก กำหนดหายแล้ว อีกแป๊ปก็มาใหม่
อย่างอื่นไม่มีอะไรค่ะ

กำหนดรู้ไปนะ ตามสภาวะ ลองสังเกตนิดนึง เราเผลอหรือหลงเพราะอะไร แล้วมาอธิบายนะ
ตรงนี้เกี่ยวด้วยสภาวะ ๒ ประเด็นคือ บางอย่างหายบางอย่างปรากฏ และ ระดับสติสมาธิ


taktay เขียน:
นั่งสามสิบนาที่ พองหนอ ก็สังเกตุตามที่อาจารย์แนะนำมา ที่ค่อยๆพอง และพองขึ้นเรื่อยๆ
พิจารณาได้แค่สามครั้งค่ะ นอกนั้นก็ไม่ได้เลย ส่วนยุบไม่เห็นค่ะ วันนี้ได้พองหนอ ยุบหนอ
ถูกหนอ ถูกหนอ มาก มีนิมิตสามครั้ง ครั้งแรกเป็นโครงกระดูกกำหนดสี่ห้าครั้งถึงหาย
แต่หายไปแปลกกว่าทุกครั้ง คือจะมีฉากสีขาวอยู่ข้างหลังแล้วกระดูกก็ค่อยๆละลายไป ครั้งที่สอง
เป็นหน้าน้องสาวที่เสียไป พอเห็นเขาก็กำหนดเห็นหนอ ครั้งที่สามเป็นอะไรไม่รู้ดูไม่ออก กำหนด
เห็นหนอ สองครั้งหลังนี่ก็แปลกเหมือนกันคือไม่ได้หายไปอย่างทุกครั้ง แต่มีฉากสีขาวค่อยๆปิด
เหมือนฉากละครเลยค่ะ แล้วก็เหมือนง่วง คือทุกสิ่งทุกอย่างหายไปไม่มีอะไรจับต้นชนปลายไม่ถูก
จะว่าง่วงก็ไม่น่าใช่ เพราะหัวค่ำอยู่เลย เรียนมาเพื่อพิจารณาค่ะ
อนุโมทนา เจริญในธรรมค่ะ

:b41: :b43: :b41: :b43: :b41: :b43:


ไม่เอะใจบ้างเหรอ
สิ่งที่ถูกรู้เห็นเป็น.....
จิตที่รู้เห็นเป็น........
มีสภาวะบางอย่างกำลังแสดงอยู่ ในสองสิ่งนั้น ถ้ารู้ กำหนดรู้หนอๆ รู้ที่ใจว่า เข้าใจ รู้ ซัก ๓ ครั้ง
จากนั้นหน้าที่ของเรามีเพียงกำหนดรู้ต่อไป ไม่ต้องสงสัยอีกเมื่อเรารู้แล้ว รู้แล้วละอย่ารู้แล้วถือไว้

ช่วงนี้ยังไม่เปลี่ยนไม่เพิ่ม ให้จดจ่อรู้อยู่ที่อาการของกายและสภาวะทางอายตนะแบบละเอียดหน่อย
ไม่ต้องฝืน แต่ใส่ใจ เราบังคับสติสมาธิไม่ได้ ค่อยใส่ใจเพิ่มไปทีละเล็กน้อย ถ้าทำ
ไม่นานก็จะพบอะไรในกายที่เราหลงว่าเป็นเจ้าของมันเองล่ะ

.....................................................
เอกายโน อยํ ภิกฺขเว มคฺโค สตฺตานํ วิสุทฺธิยา โสกปริเทวานํ สมติกฺกมาย
ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย ญายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย ยทิทํ
จตฺตาโร สติปฏฺฺฐานา ฯ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2009, 23:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


[quote="กามโภคี"]
กำหนดรู้ไปนะ ตามสภาวะ ลองสังเกตนิดนึง เราเผลอหรือหลงเพราะอะไร แล้วมาอธิบายนะ
ตรงนี้เกี่ยวด้วยสภาวะ ๒ ประเด็นคือ บางอย่างหายบางอย่างปรากฏ และ ระดับสติสมาธิ

บางครั้งก็หลงหลังจากกำหนดคิด หรือเสียง แต่บางครั้งก็ไม่ทราบมันหาย
ไปเลย มารู้ตัวอีกที ย่างเป็นเหยียบไปแล้วค่ะ


[size=85]ไม่เอะใจบ้างเหรอ
สิ่งที่ถูกรู้เห็นเป็น.....
จิตที่รู้เห็นเป็น........
มีสภาวะบางอย่างกำลังแสดงอยู่ ในสองสิ่งนั้น ถ้ารู้ กำหนดรู้หนอๆ รู้ที่ใจว่า เข้าใจ รู้ ซัก ๓ ครั้ง
จากนั้นหน้าที่ของเรามีเพียงกำหนดรู้ต่อไป ไม่ต้องสงสัยอีกเมื่อเรารู้แล้ว รู้แล้วละอย่ารู้แล้วถือไว้
ไม่ทราบจริงๆค่ะ

รับทราบค่ะ อนุโมทนา เจริญในธรรมค่ะ

:b41: :b43: :b41: :b43: :b41: :b43: :b41:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ส.ค. 2009, 00:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


วันนี้ที่นี่เป็นวันพระ ก็เลยตื่นเช้าเพื่อปฏิบัติ คิดว่าเช้าๆยังไม่มีอะไร
เข้ามาน่าจะมีสติสมาธิดี แต่อาจเข้าใจผิดก็ได้ เดินทั้งสามระยะไม่ค่อยนิ่งเลย คิดก็ยังเข้า
มาอยู่ ยิ่งท้ายเวลาของระยะสี่ ยิ่งรุมหนัก ก็ยังคงเหมือนเมื่อวานนี้ แต่มีอย่างหนึ่งที่สังเกตุ
ได้คือ อยากกลืนหนอ กลืนหนอ แต่ละครั้งนำลายมีรส ปริมาณ และอุณหภูมิไม่เท่ากัน
แต่บอกไม่ได้นะค่ะว่ารสอะไร ปริมาณมากบ้างน้อยบ้าง และก็บางครั้งรู้สึกว่าอุ่น กับไม่อุ่น
ส่วนนั่ง ไม่นิ่งเลยตั้งแต่เริ่มต้น จับต้นชนปลายไม่ค่อยถูก เสียงรถยนต์ก็ได้ยินบ้างไม่ได้ยินบ้าง
แล้วก็มีเสียงอะไรไม่รู้ เหมือนเสียงไมโครเวฟตอนที่หมดเวลาคือ ปิ๊ป แต่ลากยาวเป็นนกหวีด
ค่ะ กำหนดไปตามนั้น นิมิตมีสองครั้งแต่จับไม่ได้ว่าเป็นอะไร มันเบลอๆ กำหนดครั้งเดียวหายค่ะ
เพิ่มเติมอีกนิด ตอนเดินมีความรู้สึกว่าร้อน วูบๆวาบ กำหนดสามครั้งหาย เป็นสองครั้ง หลัง
จากนั้นก็มวนท้อง ผะอึดผะอม เหมือนหิวก็ไม่ใช่ กำหนดแป๊ปก็หาย เป็นสองครั้งเหมือนกัน
พยายามพิจารณา อายตนะตามที่อาจารย์บอก ก็ยังไม่ชัด มีแต่กลืนน้ำลายนั่นแหละที่ชัดสุด

เมื่อคืนนี้นอนไม่หลับ กระสับกระส่ายมากๆ กำหนดพองยุบ ได้แป๊ปเดียวก็คิดบ้าง นิมิตบ้าง
ไล่กำหนดไปตามนั้น นานมากกว่าจะหลับ พอหลับแป๊ปก็สะดุ้งตื่นอีก ก็กำหนดพองยุบ
แล้วก็วนคิดอีก เป็นสามครั้งเหมือนกัน แต่แปลกที่ว่าหลับๆอยู่พอจะกลับตัวก็จะรู้และกำหนด
ได้เอง ว่ากลับหนอ ทันบ้างไม่ทันบ้าง แต่ก็รู้ทุกครั้งที่จะกลับตัว บ้างครั้งยังมีอยากกลับหนอ
เพิ่มมาด้วย ไม่รู้ว่าละเมอติดมาจากเดินหรือเปล่าค่ะ เรียนมาเพื่อพิจารณา

อนุโมทนา เจริญในธรรมค่ะ

:b41: :b41: :b41: :b43: :b41: :b41: :b41:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ส.ค. 2009, 11:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


เรียนอาจารย์ค่ะ พอดีมีเวลาตอนเย็นก็เลยได้อีกหนึ่งบัลลังค์
สำหรับวันนี้ จะรายงานมาเรื่อยๆนะค่ะ ไม่ต้องกังวลถ้าไม่มีอะไรคืบหน้าอาจารย์ไม่ต้อง
ตอบก็ได้ เพราะยังแยกไม่ออกค่ะว่าอันไหนควรบอกหรือไม่
เมื่อกี้นี้เดินทั้งสามระยะเรียกว่าได้เก้าสิบแปดเปอร์เซ็นต์เลยก็ว่าได้ มีคิดบ้างนิดหน่อย
แต่จางๆ เดินชัดกว่า เสียงรถยนต์ รู้สึกว่าหายไปเป็นส่วนมาก กลืนน้ำลายก็เหมือน
เมื่อเช้านี้ อาการโดยรวมเหมือนเมื่อเช้านี้ค่ะ แต่คิดว่าสติน่าจะดีกว่า

นั่งก็เงียบดี ไม่ค่อยฟุ้ง มีนิมิตสองครั้ง ครั้งแรกเหมือนท่อนไม้ลอยเข้ามาเหมือนจะเข้ามา
ตีที่หน้าผาก กำหนดปุ๊ปหายปั๊ปเลย ส่วนครั้งที่สองตอนแรกเป็นเหมือนฉากสีขาวธรรมดา
แล้วก็เปลี่ยนเป็นสีเหมือนแดดส่อง เช่นกันกำหนดปุ๊ปหายปั๊ปค่ะ วันนี้ปวดหลังมาก กำหนด
พอทุเลา สักเดี๋ยวก็มาอีก จนหมดเวลา พองยุบค่อยมากๆ จนบางครั้งรุ้สึกว่ามันแทบไม่มี
เลย รับรองว่าตอนที่รุ้สึกแบบนั้นไม่ได้คิดอะไรเลย เฝ้าดูมันอยู่ เรียนมาเพื่อพิจารณาค่ะ

อนุโมทนา เจริญในธรรม

:b41: :b41: :b41: :b43: :b41: :b41: :b41:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ส.ค. 2009, 13:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.พ. 2008, 10:00
โพสต์: 724

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: ปฏิบัติวิปัสสนา
อายุ: 0
ที่อยู่: เกษตร-นวมินทร์ กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


taktay เขียน:
เรียนอาจารย์ค่ะ พอดีมีเวลาตอนเย็นก็เลยได้อีกหนึ่งบัลลังค์
สำหรับวันนี้ จะรายงานมาเรื่อยๆนะค่ะ ไม่ต้องกังวลถ้าไม่มีอะไรคืบหน้าอาจารย์ไม่ต้อง
ตอบก็ได้ เพราะยังแยกไม่ออกค่ะว่าอันไหนควรบอกหรือไม่
เมื่อกี้นี้เดินทั้งสามระยะเรียกว่าได้เก้าสิบแปดเปอร์เซ็นต์เลยก็ว่าได้ มีคิดบ้างนิดหน่อย
แต่จางๆ เดินชัดกว่า เสียงรถยนต์ รู้สึกว่าหายไปเป็นส่วนมาก กลืนน้ำลายก็เหมือน
เมื่อเช้านี้ อาการโดยรวมเหมือนเมื่อเช้านี้ค่ะ แต่คิดว่าสติน่าจะดีกว่า

ดูเหมือนว่าทักทายจะกังวลเรื่องความคิดหรือฟุ้งหรือนิมิตที่ปรากฏ ถ้ากังวลอยู่ เลิกได้เลย
วิปัสสนาแท้ไม่กลัวนิวรณ์ กลัวไม่มีสติรู้ทันนิวรณ์เท่านั้น วิธีระงับนิวรณ์ พระพุทธเจ้าท่านตรัส
ไว้ในมหาสติปัฏฐานสูตร ว่า นำออกเสียซึ่งอภิชฌาและโทมนัสในโลก
อธิบายง่ายๆคือ ไม่ยินดี(อภิชฌา)และไม่ยินร้าย(โทมนัส) ในสภาวะที่ปรากฏทุกอย่าง
ฉะนั้น เมื่อคิดหรือฟุ้งปรากฏ กำหนดรู้แบบไม่ยินดียินร้าย คือเมื่อประสบสภาวะทุกอย่างที่
พอใจหรือน่าพอใจ ก็กำหนดรู้ตามธรรมดาไม่ยินดี หรือเมื่อประสบสภาวะที่ไม่น่าพอใจ เช่น
นิมิตไม่ดีเลย น่ากลัว หรือไม่หายไปซักที ก็กำหนดรู้ไปตามจริง ไม่ต้องยินร้าย ข้อนี้ให้ใช้
กับการกำหนดทุกอย่าง
การกำหนดแบบนี้เรียกว่า ละด้วยการกำหนด(ปหานปริญฺญา) เป็นการประหารกิเลสในระดับต้น
ของวิธีเจริญสติปัฏฐานตามแนวนี้


taktay เขียน:
[i]นั่งก็เงียบดี ไม่ค่อยฟุ้ง มีนิมิตสองครั้ง ครั้งแรกเหมือนท่อนไม้ลอยเข้ามาเหมือนจะเข้ามา
ตีที่หน้าผาก กำหนดปุ๊ปหายปั๊ปเลย ส่วนครั้งที่สองตอนแรกเป็นเหมือนฉากสีขาวธรรมดา
แล้วก็เปลี่ยนเป็นสีเหมือนแดดส่อง เช่นกันกำหนดปุ๊ปหายปั๊ปค่ะ
อนุโมทนา เจริญในธรรม
:b41: :b41: :b41: :b43: :b41: :b41: :b41:

ลองสังเกตดูก็ได(ถ้าไม่กลัวฟุ้ง) เวลาสติสมาธิดี เราจะกำหนดไม่เกิน ๓ ครั้งหาย
ในบัลลังหนึ่งมีทั้งดีและไม่ดีปนกัน ที่เราต้องการคือ ต้องการให้สติสมาธิสมดุลกัน เพราะ
ถ้าสมดุลกันแล้ว สติสมาธิจะมั่นคงมาก ทำให้ จะสามารถผ่านเข้าไปเห็นรูปนามที่เป็นปรมัตถ์
อันเป็นประสงค์ในเบื้องต้นของวิปัสสนา
ทำไปแบบนี้ก่อน เก็บหน่วยกิดเราเอง ฝึกสติสมาธิให้กล้าไว้ เท่าที่อ่านดู กำหนดครั้งเดียวนิมิตหาย
ก็จัดว่าตอนนั้นสติสมาธิดีแล้วระดับหนึ่ง ที่สำคัญ เราไม่ใช่อยากให้หายไปหรือยากให้เกิด เขาเกิด
ดับเองตามเหตุปัจจัยของเขา เรามีหน้าที่รู้เท่านั้น

.....................................................
เอกายโน อยํ ภิกฺขเว มคฺโค สตฺตานํ วิสุทฺธิยา โสกปริเทวานํ สมติกฺกมาย
ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย ญายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย ยทิทํ
จตฺตาโร สติปฏฺฺฐานา ฯ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ส.ค. 2009, 12:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


รายงานก่อนแล้วกันนะค่ะ เดี๋ยวลืม เพิ่งเสร็จเดี๋ยวนี้เองค่ะ
เดินไม่รายงานแล้วนะค่ะ เพราะไม่มีอะไรเลย มีแต่มึน และเบลอ นิดหน่อยค่ะ
ส่วนนั่ง ก็แทบจะไม่มีอะไรอีกเหมือนกันหายไปหมดทั้งพองยุบเบามากจนเทบจะไม่รู้สึกเลย
ครั้งนี้นิมิตมีมากกว่าคิด มาแว่บหาย แว่บหายค่ะ ส่วนมากแทบจะไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร
มันเปลี่ยนเร็วมาก แทบจะดูไม่ออก มีอยู่อันหนึ่งที่นานหน่อยคือเป็นหน้าพระพุทธรูป
พอเห็นครั้งแรกปุ๊ปก็กำหนดเลย อันแรกหาย อันใหม่มาอีกแล้วก็เปลี่ยนหน้าไปเรื่อยๆ
เหมือนฉายหนังค่ะ แบบเร็วๆ มีปวดหลังสลับค่ะ คิดว่าวันนี้กำหนดตามทันแทบทุกอย่าง
ไม่สงสัย ไม่ลังเลแล้ว อะไรเข้ามาก็กำหนดไปตามนั้นค่ะ การปฏิบัติก็มีเท่านี้

แต่นอกปฏิบัติซิค่ะ ไม่รู้จะเกี่ยวกันไหม? คือนอนไม่หลับมาสองสามคืนแล้ว กระสับกระส่าย
น่าดู ไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อนเลย เมื่อก่อนมีเรื่องกลุ้มใจแค่ไหน? ก็ต้องหลับก่อนแล้วค่อยตื่น
มาคิด เวลานี้ไม่ได้มีเรื่องอะไรให้คิดเลย ปกติสุขดี กว่าจะหลับได้ทรมานมากๆ เมื่อคืนนี้
ยิ่งหนักใหญ่คือกว่าจะข่มให้หลับได้ตั้งนานพอจะหลับมีอาการเหมือนตอนนั่งเลยคืองึก เป็นตั้ง
หลายครั้ง กำหนดนานมาก พองหนอ ก็แล้วนอนหนอก็แล้ว พอเคลิ้มๆจะหลับ ก็จะสะดุ้งตื่น
พอหลับจริงๆ ก็แป๊ปเดียวก็ตื่น คืนนี้ยังไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร?

ส่วนกลางวันนั้น เบื่อมากๆ ไม่อยากพูดกับใคร ใครจะพูดด้วยก็เดินหนี อย่างดีก็แค่ยิ้มๆ
แล้วก็เดินหนี เมื่อวานลืมทานข้าวไปเลย จนหิวมากๆ ถึงนึกได้ว่ายังไม่ได้ทานข้าว แล้วก็
ทานแบบไม่มีรสชาติเลย เหมือนคนไม่สบาย แต่ไม่ได้เป็นอะไรนะค่ะ วันนี้ก็เลยต้องข่มใจ
กินข้าวเมื่อถึงเวลา กินแบบไม่รู้รสเหมือนกัน เมื่อวานมีอาการหดหู่ ห่อเหี่ยว ไม่สดชื่นเหมือน
ก่อนๆเลย แต่วันนี้เพิ่มหงุดหงิด ถดถอย เข้ามาอีกสองตัว จะเกี่ยวกับสภาวะหรือเปล่าไม่ทราบ
แต่ขอยืนยันได้ว่า ไม่ได้มีเรื่องอะไรกลุ้มใจเลย จะว่าไปตอนนี้ก็อยู่ในภาวะที่เข้าที่เข้าทางแล้ว
ด้วยซ้ำไป คนที่ทำงานด้วยกันเขาเริ่มพูดว่า "แปลกไป" แล้วค่ะ ต้องขอโทษด้วยนะค่ะถ้ามันไม่เกี่ยวกับการปฏิบัติ

อนุโมทนา เจริญในธรรมค่ะ

:b41: :b41: :b41: :b43: :b41: :b41: :b41:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ส.ค. 2009, 18:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.พ. 2008, 10:00
โพสต์: 724

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: ปฏิบัติวิปัสสนา
อายุ: 0
ที่อยู่: เกษตร-นวมินทร์ กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


taktay เขียน:
รายงานก่อนแล้วกันนะค่ะ เดี๋ยวลืม เพิ่งเสร็จเดี๋ยวนี้เองค่ะ
เดินไม่รายงานแล้วนะค่ะ เพราะไม่มีอะไรเลย มีแต่มึน และเบลอ นิดหน่อยค่ะ
ส่วนนั่ง ก็แทบจะไม่มีอะไรอีกเหมือนกันหายไปหมดทั้งพองยุบเบามากจนเทบจะไม่รู้สึกเลย
ครั้งนี้นิมิตมีมากกว่าคิด มาแว่บหาย แว่บหายค่ะ ส่วนมากแทบจะไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร
มันเปลี่ยนเร็วมาก แทบจะดูไม่ออก มีอยู่อันหนึ่งที่นานหน่อยคือเป็นหน้าพระพุทธรูป
พอเห็นครั้งแรกปุ๊ปก็กำหนดเลย อันแรกหาย อันใหม่มาอีกแล้วก็เปลี่ยนหน้าไปเรื่อยๆ
เหมือนฉายหนังค่ะ แบบเร็วๆ มีปวดหลังสลับค่ะ คิดว่าวันนี้กำหนดตามทันแทบทุกอย่าง
ไม่สงสัย ไม่ลังเลแล้ว อะไรเข้ามาก็กำหนดไปตามนั้นค่ะ การปฏิบัติก็มีเท่านี้


กำหนดไปตามที่รู้ ชัดหรือไม่ชัดก็ไม่ต้องใส่ใจ ไม่ใช่หน้าที่ของเรา เรามีหน้าที่รู้เท่านั้น

taktay เขียน:
แต่นอกปฏิบัติซิค่ะ ไม่รู้จะเกี่ยวกันไหม?


อาการนอกกรรมฐานอ่านแล้ว คงต้องสอบที่เอ็มแล้ว

เมื่อญาณแก่กล้ากำลังเดินไปอยู่ สติย่อมไม่ทันนิมิต
ที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่และเป็นไป ในสังขารทั้งหลายที่เข้า
ไปตั้งอยู่อย่างเร็ว สติย่อมตั้งอยู่ในที่ไกล้ความสิ้นไป
แตกไปหายไปของสังขารนั่นเอง

.....................................................
เอกายโน อยํ ภิกฺขเว มคฺโค สตฺตานํ วิสุทฺธิยา โสกปริเทวานํ สมติกฺกมาย
ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย ญายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย ยทิทํ
จตฺตาโร สติปฏฺฺฐานา ฯ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ส.ค. 2009, 13:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


รายงานค่ะอาจารย์ วันนี้ไม่ได้เรื่องอะไรเลย ง่วงค่ะ
เดินระยะแรกๆก็ดี ไม่มีอะไรเลย แต่มาระยะสี่ท้ายๆเวลา เริ่มง่วงมาก และเริ่มจาก
ปวดหลัง พอเกิดนิดหน่อย ก็กำหนดครั้งเดียวหาย เดินไปได้หน่อยหนึ่งปวดอีก
กำหนดแล้วก็หาย แล้วก็ย้ายไปปวดสะโพก เดี๋ยวโผล่ที่นั่น ที่นี่ แต่ละครั้งต้องกำหนด
เพิ่มขึ้นเรื่อยๆถึงจะหายค่ะ พยายามสังเกตุอาการ และการเกิดเวทนาตามที่อาจารย์ให้
การบ้านมา คืออธิบายไม่ค่อยถูกนะค่ะ เอาเป็นว่า บางครั้งก็เห็นว่ามันค่อยๆปวดขึ้น
ที่ละนิดๆ แต่บางครั้งมันก็โผล่ขึ้นมาเลย ถ้าเป็นอย่างหลังจะปวดนิดเดียวกำหนดครั้ง
เดียวก็หาย แต่ถ้าเป็นอย่างแรก มันจะปวดมากขึ้นเรื่อยๆ ต้องกำหนดมากกว่าสามครั้ง
ถึงจะเบาไป ไม่หายนะค่ะเพียงแต่ค่อยๆลดอาการลงค่ะ แล้วปวดส้นเท้าตอนยกส้นหนอ
แล้วพอยกหนอ จะไม่ปวดแต่หนักส้นเท้าค่ะ กำหนดตามนั้นก็หายบ้าง ไม่หายบ้าง ถ้าหาย
ไป แป๊ปเดียวก็กลับมาอีก เป็นอย่างนี้สักประมาณ ห้าหกครั้ง หลังจากนั้นก็ค่อยๆทุเลาไป
เดินก็ดูเหมือนจะมีแค่นี้นะค่ะ นึกไม่ค่อยออกค่ะ

ส่วนนั่ง วันนี้ทรมานมากๆ ตอนแรกๆก็ดีอยู่ สักแป๊ปเดียวเองค่ะ อาการปวดหลังก็เริ่มกำหนด
ครั้งเดียวหายก่อน สักพักมาใหม่เหมือนเดินเลย ถ้าโผล่มาก็แป๊ปเดียวหาย แต่ถ้าค่อยๆมา
จะต้องกำหนดนาน คือยิ่งกำหนดก็ยิ่งปวดเพิ่มขึ้นๆ จนปวดสุดๆแล้วจะค่อยๆหายไปๆ แต่ไม่
หายไปหมดนะค่ะ จะมีเหลือไว้หน่อยหนึ่ง แล้วก็ย้ายไปปวดที่อื่นแทน แล้วก็กลับมาที่เดิม
สลับไปๆมาๆ กำหนดตามนั้น ทันบ้างไม่ทันบ้าง แล้ววันนี้คิดมากกว่านิมิต นิมิตจะตามคิดมา
บ้างนิดหน่อย วูบวาบก็กลับมาอีกแล้วค่ะ

ที่อาจารย์ให้สังเกตุพองยุบ ว่าท้องเป็นอย่างไรนั้น ท้องเหมือนมันตันๆไม่เห็นอะไรเลยนอกจาก
พองกับยุบ เหมือนอยู่ในกระบอกอะไรสักอย่างหนึ่งค่ะ
ส่วนอาการปวดนั้น มีความรู้สึกว่าเหมือนเวลาเรากำมือแล้วปล่อย กำแล้วปล่อยแบบนั้นแหละ
แต่ต้องปวดมากๆนะค่ะ ถ้าน้อยๆไม่รุ้สึกแบบนั้นอธิบายไม่ถูกค่ะ แต่รู้ว่ามันค่อยบ้างแรงบ้าง
วันนี้งุบ แต่ไม่ต้องสงสัยค่ะ สารภาพว่าหลับคาที่ เพราะวันนี้เหนือยมากค่ะ จำได้แค่นี้ค่ะ

อนุโมทนา เจริญในธรรมค่ะ

:b41: :b41: :b41: :b43: :b41: :b41: :b41:


อาจารย์ค่ะ อาการนอนไม่หลับยังมีอยู่ ขนาดเมื่อคืนนี้ทั้งเหนื่อย ทั้ง
ง่วง แต่พอไปนอนก็มีอาการเหมือนเมื่อวานคือพอจะหลับๆ ก็จะกระตุกแบบสะดุ้ง หรือเป็นแบบ
งึกๆ หลายครั้งกว่าจะหลับได้ แล้วก็หลับๆตื่นๆ ตลอดค่ะ แล้วก็จั๊กจี้ ที่ฝ่าเท้าทั้งสองข้าง
กับกลางลำตัวด้านหลัง แต่จับไม่ได้ว่าที่ไหน จึงเรียนมาเพื่อพิจารณาค่ะ
...................................

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ส.ค. 2009, 02:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.พ. 2008, 10:00
โพสต์: 724

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: ปฏิบัติวิปัสสนา
อายุ: 0
ที่อยู่: เกษตร-นวมินทร์ กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


ดูดีๆซิ สภาวะสอนอะไรอยู่
บอกไม่ได้ บอกแล้วปัญญาไม่เกิด

.....................................................
เอกายโน อยํ ภิกฺขเว มคฺโค สตฺตานํ วิสุทฺธิยา โสกปริเทวานํ สมติกฺกมาย
ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย ญายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย ยทิทํ
จตฺตาโร สติปฏฺฺฐานา ฯ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 169 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 8, 9, 10, 11, 12  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร