วันเวลาปัจจุบัน 19 ก.ค. 2025, 19:23  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 89 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ส.ค. 2009, 19:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 เม.ย. 2007, 15:22
โพสต์: 603

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


http://board.palungjit.com/f126/%E0%B8% ... 50789.html

กระทู้นี้คะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ส.ค. 2009, 19:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


Supareak Mulpong เขียน:
ตื่นแต่เช้า ทำบุญตักบาตร ข้าวถุง แกงถุง อุทิศส่วนกุศลให้แก่เจ้ากรรมนายเวร ซัก 7 วันติดๆ กัน

ห้ามใส่เงิน เพราะถือว่าลดชั้นสาวกของพระพุทธองค์ลงมาเท่ากับขอทาน :b8: สาธุเจ้าค่ะ

ห้ามใส่ดอกไม้ ห้ามใส่น้ำ เพราะ พระท่านมาบิณทบาตรอาหาร ไม่ได้มาขออย่างอื่น บางรูปต้องเอาน้ำทิ้งกลางทาง เพราะมันจะหนักบาตร ไม่เชื่อลองอุ้มถังใส่น้ำเดินไกลๆ ดู... :b6: :b5:


:b6: :b10: แร๊วไงต่อเจ้าคะ ช่วยได้หรือเจ้าคะ จะหลับมั้ยเจ้าคะ :b6: tongue

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ส.ค. 2009, 20:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.พ. 2009, 20:42
โพสต์: 699


 ข้อมูลส่วนตัว


ลองทำหลายๆ วิธี น่าจะมีวิธีใดวิธีหนึ่งที่ใช้ได้
จริงๆ อยากบอกให้เลิกไปเลย คงเครียดมาก แต่คงยากสำหรับนักปฏิบัติ... รู้จักท่าศพของโยคะไม๊ ลองวิธีนั้นดู


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ส.ค. 2009, 21:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.ค. 2006, 06:25
โพสต์: 2058


 ข้อมูลส่วนตัว


murano เขียน:
ลองทำหลายๆ วิธี น่าจะมีวิธีใดวิธีหนึ่งที่ใช้ได้
จริงๆ อยากบอกให้เลิกไปเลย คงเครียดมาก แต่คงยากสำหรับนักปฏิบัติ... รู้จักท่าศพของโยคะไม๊ ลองวิธีนั้นดู



ท่าศพอาสนะ

http://www.school.net.th/library/create ... -4038.html


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ส.ค. 2009, 22:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ย. 2008, 22:30
โพสต์: 222

ที่อยู่: เวียนว่ายในวัฏสงสาร (-_-!)

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณทุกท่านมากๆขอรับ :b20: กระผมก็นึกว่าตัวเองจะเป็นบ้าเสียอีก :b22:

เดี๋ยวจะผมจะทำตามที่ท่านทั้งหลายแนะนำนะขอรับ....ว่าเป็นอย่างไร


สู้โว๊ย :b4:

.....................................................
ขอประสบความสุขทั้งทางโลกและทางธรรม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ส.ค. 2009, 00:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ค. 2009, 09:26
โพสต์: 1517

แนวปฏิบัติ: วิปัสสนาภาวนา
อายุ: 39
ที่อยู่: ลำพูน

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
:b6: :b10: แร๊วไงต่อเจ้าคะ ช่วยได้หรือเจ้าคะ จะหลับมั้ยเจ้าคะ :b6: tongue

เรื่องทางโลกก็รักษาด้วยวิธีทางโลก เรื่องทางธรรมก็รักษาด้วยวิธีทางธรรม
ในกรณีนี้ไม่สามารถสรุปได้ชัดเจนถึงสาเหตุทราบแต่อาการ ถ้าใช้ยาแล้วรักษาไม่หายก็ต้องลองวิธีทาธรรมดู :b12:

.....................................................
"ธรรมและวินัยอันใด เราแสดงแล้ว บัญญัติแล้วแก่พวกเธอ ธรรมและวินัยอันนั้น จักเป็นศาสดาของพวกเธอ โดยกาลล่วงไปแห่งเรา..."
"... ไม่เที่ยง เกิดดับ ..."


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ส.ค. 2009, 10:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.ค. 2006, 06:25
โพสต์: 2058


 ข้อมูลส่วนตัว


อวบอั๋นขั้นสุดท้าย เขียน:

กระผมก็นึกว่าตัวเองจะเป็นบ้าเสียอีก :b22:

เดี๋ยวจะผมจะทำตามที่ท่านทั้งหลายแนะนำนะขอรับ....ว่าเป็นอย่างไร


สู้โว๊ย :b4:




คำว่า "บ้า"ที่เป็นภาษาไทย ในความหมายที่เราใช้กันในปัจจุบัน จะตรงกับ ภาษาอังกฤษว่า mad.
ซึ่ง จะตรงกับโรคจิตอย่างรุนแรง(frank psychosis) ประเภทหลุดโลกไปเลย เช่น โรคจิตเภทอย่างรุนแรง(severe schizophrenia) สำคัญตนเป็นพระเจ้า เป็นศาสดา เป็นพระอรหันต์ ๆลๆ. หรือ ไปเที่ยวทำร้ายผู้อื่น เช่น มือปืนตลาดไท

คำว่า"เพี้ยน"ที่เป็นภาษาไทย ในความหมายที่เราใช้กันในปัจจุบัน จะตรงกับ ภาษาอังกฤษว่า crazy. ซึ่ง ไม่ได้รุนแรงหลุดโลกถึงขนาด "บ้า"...แต่ เพี้ยน...

แต่ ถ้าหากเพี้ยนมากๆ เพี้ยนแบบไม่ยอมเลิกรา เพี้ยนแบบมากขึ้นเรื่อยๆ ....สุดท้าย มันก็บ้า
(เช่น ที่คอยเวียนเข้ามาปาหิน เอาสนุก เรียกร้องความสนใจ ในลานธรรมจักรท่านหนึ่ง)




ส่วน คำว่า เครียด กังวล ย้ำคิดย้ำทำ ซึมเศร้า และ ๆลๆ .....ไม่ได้จัดว่า "บ้า".
ความรุนแรงของปัญหา มันต่างกันมาก อย่าไปนำคำในความหมายที่ไม่ตรงกับสภาวะมาใช้...จะสับสน


คือ คนไทยเรา... เอะอะ อะไร ก็จะบอกว่า"บ้า"
ทั้งๆที่ ความจริงแล้วมันไม่รุนแรงถึงขนาดนั้น

บางท่าน ซึมเศร้าแบบไม่รุนแรงมากนัก(mild depressive illness) ก็ถูกเข้าใจว่าบ้า
บางท่าน ย้ำคิดย้ำทำ(obcessive-compulsive neurosis) ก็ถูกเข้าใจว่าบ้า
บางท่าน วิตกกังวลสูง(anxiety neurosis) ก็ถูกเข้าใจว่าบ้า
บางท่าน เพียงแค่สับสน(adjusment disorder) ก็ถูกเข้าใจว่าบ้า



ภาวะซึมเศร้าที่ไม่รุนแรงนี้ เป็นกันเยอะมากในสังคมไทย
ผมจึงเสนอว่า ถ้ารู้สึกว่าตนเองอาจเป็นภาวะนี้ และ ไม่สามารถใช้วิธีการเจริญสติมาช่วยอย่างได้ผลดี...บางครั้ง การปรึกษาจิตแพทย์ ก็เป็นสิ่งจำเป็น
ไม่อยากให้มองว่า ถ้าปรึกษาจิตแพทย์แล้ว จะต้อง บ้าสุดขั้วอะไรขนาดนั้น

และ ถ้ารูสึกว่าตนเอง อาจมีภาวะทางจิตที่ผิดปกตินั้นเป็นสิ่งที่ดี เรียกว่า good insight.

หากว่า บ้าแบบสุดขั้วจนจริงๆ จะไม่มีความรู้สึกแบบนี้... แต่ คนรอบข้างเขาทนไม่ไหวแล้ว นั้นละ จึงจะถูกจับส่งตำรวจและจิตแพทย์


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ส.ค. 2009, 10:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.พ. 2008, 10:00
โพสต์: 724

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: ปฏิบัติวิปัสสนา
อายุ: 0
ที่อยู่: เกษตร-นวมินทร์ กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


แหม๋ คุณหมอตรงฯ สมภูมิหมอเลย

smiley


นับถือๆ :b12: :b12:

.....................................................
เอกายโน อยํ ภิกฺขเว มคฺโค สตฺตานํ วิสุทฺธิยา โสกปริเทวานํ สมติกฺกมาย
ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย ญายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย ยทิทํ
จตฺตาโร สติปฏฺฺฐานา ฯ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ส.ค. 2009, 11:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ย. 2008, 22:30
โพสต์: 222

ที่อยู่: เวียนว่ายในวัฏสงสาร (-_-!)

 ข้อมูลส่วนตัว


smiley ขอขอบคุณคุณตรงประเด็นครับ smiley
เพื่อนผมที่เป็นหมอก็บ่นเรื่องคนไทยจะไปหาจิตแพทย์ก็ต่อเมื่อ..เป็นมากๆแล้วค่อยไปหาหมอ..ซึ่งรักษายาก....ถ้าเราคิดว่าเครียดๆ ก็ไปพบจิตแพทย์ หรือ นักจิตวิทยาก็ได้ ครับ...ค่ายาไม่แพงเลยถูกมาก :b28: จนตกใจ....

.....................................................
ขอประสบความสุขทั้งทางโลกและทางธรรม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ส.ค. 2009, 11:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ส.ค. 2009, 09:11
โพสต์: 23

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ยังมารอลุ้น ฟังผลของคุณอวบอั๋นฯค่ะ

เมื่อคืนนี้เป็นอย่างไรบ้างคะ
ได้ลองใช้วิธีใด อย่างไร
หากประสปผลสำเร็จ
ก็จะเป็นประโยชน์กับท่านอื่นๆด้วย
tongue
เอาใจช่วยเต็มที่เลยค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ส.ค. 2009, 11:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ย. 2008, 22:30
โพสต์: 222

ที่อยู่: เวียนว่ายในวัฏสงสาร (-_-!)

 ข้อมูลส่วนตัว




Q7781606-81.gif
Q7781606-81.gif [ 91.06 KiB | เปิดดู 4795 ครั้ง ]
สวัสดีขอรับ คุณ วายามา
กระผมลองวิธี เดินจงกลม กับนั่งสมาธิ แบบ ไม่ตั้งใจทำขอรับ..คือแค่รับรู้สภาวะปัจจุบัล แต่ไม่ concentrate กับ สมาธิ ( ขออภัย ที่ใช้ภาษาอังกฤษ เพราะไม่รู้จะใช้คำอะไรในภาษาไทยดี :b6: )
เพราะปกติเวลากระพมทำสมาธิ จะพิจารณาร่างกายว่าพองขึ้นหรือยุบลง เพราะเคยพิจารณาที่ท้องแล้วเคยเกิดอาการร้อนที่ท้องอย่างมาก พระอาจารย์ เลยบอกว่าสมาธิไปอยู่ที่ท้องมากเกิน เพราะเราบริกรรมพิจารณาที่ท้องว่ายุบหรือพอง พระอาจารณ์เลยแก้ให้พิจรณาร่างกายทั่งร่างแทน....ซึ่ง....ก็ร้อนทั่งตัวจนเหงื่อโทรมกาย..... :b5: ....ยิ่งกว่าวิ่งรอบสนาม 3 รอบอีก..... :b14: ...เป็นอาการก่อนนอนไม่หลับของกระผม...ขอรับ.....พอหลายๆท่านบอกว่าสมาธิมากเกินไป กระพมเลยนึกขึ้นได้ว่าน่าจะจริง.... :b32: เลยนั่งแบบไม่ตั้งใจดู.....ผลก็คือ


ทำไมรู้สึกว่า... 20 นาที....มันทำไมเร็วจัง... :b16: แต่ก็นอนได้แต่ไม่สนิทนักขอรับ.....งีบได้แค่ 3 งีบ...เอง เมื่อคืน...... :b22:

แต่จะพยายามใหม่คืนนี้...แล้ววันนี้ตั้งใจจะไปออกกำลังกาย ตามที่คุณ ตรงประเด็น แนะนำขอรับ

แต่ต้องขอโทษคุณ murano นะขอรับ...ผมทำท่างศพอาสนะ...แล้วยิ่งตื่น.....อะขอรับ :b34:

ต้องขอขอบคุณทุกท่านด้วยขอรับ สำรับคำแนะนำและกำลังใจดีๆ smiley

.....................................................
ขอประสบความสุขทั้งทางโลกและทางธรรม
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2009, 06:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ส.ค. 2009, 09:11
โพสต์: 23

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


cool
อรุณสวัสดิ์ค่ะ
ไม่ทราบว่าเกิดอะไขึ้น :b9:
แนะนำไป แนะนำมา ดิฉันเลยนอนไม่หลับทั้งคืนเช่นกัน
พอดีเห็นว่าเช้าแล้ว เลยตัดสินใจลุกจากที่นอน
:b39: :b39: :b39:

รู้เพียงว่ามีสภาวะบางอย่างเปลี่ยนไปในระหว่างปฏิบัติ
จึงรู้สึกตัวตลอดคืนค่ะ (ได้กำไรทั้งคืน)

ยังคงนำวิธีเดิมๆมาใช้นะคะ
1.ตัดความกังวลเรื่องเวลาตื่น
2.เมื่อรู้สึกตัว ก็ปฏิบัติด้วยการกำหนดรู้อาการ

เขาจะหลับหรือไม่ ต้องแล้วแต่เขาค่ะ
แม้ว่าจะอยู่ถึงเช้าก็ไม่เป็นไรค่ะ ไม่เพลีย

คุณอวบอั๋นฯล่ะคะ เมื่อคืนเป็นอย่างไร
หวังใจว่าคงจะเริ่มปรับตัวได้ดียิ่งๆขึ้น
rolleyes rolleyes rolleyes


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2009, 07:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 เม.ย. 2009, 06:18
โพสต์: 731

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอกราบอนุโมทนาบุญ สาธุ.... :b8:

ขอแนะนำให้ดื่มนมอุ่นๆ ก่อนนอนถ้าเป็นไปได้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2009, 09:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
พระอาจารย์ เลยบอกว่าสมาธิไปอยู่ที่ท้องมากเกิน เพราะเราบริกรรมพิจารณาที่ท้องว่ายุบหรือพอง พระอาจารณ์เลยแก้ให้พิจรณาร่างกายทั่งร่างแทน....ซึ่ง....ก็ร้อนทั่งตัวจนเหงื่อโทรมกาย..... ....ยิ่งกว่าวิ่งรอบสนาม 3 รอบอีก



พระอาจารย์ เลยบอกว่าสมาธิไปอยู่ที่ท้องมากเกิน

พระอาจารย์อะไรขอรับ คุณอวบ ฯ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2009, 09:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 พ.ย. 2008, 12:29
โพสต์: 814

ที่อยู่: กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
แร๊วไงต่อเจ้าคะ ช่วยได้หรือเจ้าคะ จะหลับมั้ยเจ้าคะ

อย่างที่ K.Supareak พูดก็ถูกอยู่เหมือนกัน เพียงแต่อาจไม่ต้องติดกันทั้ง7วัน แค่เพียง1-2วันก็
เพียงพอแล้วในอาทิตย์นั้น ช่วยได้มากเหมือนกัน

การใส่บาตรตอนเช้าบ่อยๆ ช่วยแก้ไขโรคนอนไม่หลับได้จริง หรือแก้โรคที่หลับๆตื่นๆได้ผลดีด้วย
และเผลอๆอาจจะได้ผลดีกว่ากินยาติดๆกันซะอีก ทำไมถึงบอกยังงั้นเหตุผลมีอยู่ว่าเมื่อจิตมีศรัทธา
ทุกครั้งที่เราใส่บาตรจิตที่จะใส่บาตรเกิดความปิติยินดี เป็นกุศล เมื่อใส่บาตรแล้วได้รับศีลรับพรจากพระ
แล้วจิตก็พลอยปิติยินดีเป็นกุศลอีก จิตสบายอิ่มเอมใจใจเป็นสุข ความกังวลความฟุ้งซ่านหายไปเยอะ
สารแห่งความสุขหลั่งออกมาเหมือนตอนที่เรานั่งแล้วเกิดปิติ ดังนั้นเมื่อจะนอนเราจะนอนได้ง่ายขึ้น
จิตไม่แข็งจนเกินไป จะอ่อนโยนทำให้เคลิ้มหลับได้ง่าย

ถ้ากำหนดพองยุบ แล้วเปนแบบนี้ลองมากำหนดลมหายใจเข้า-ออก แทนจะง่ายกว่า เพราะลมมันเบาและละเอียด ทำให้จิตใจและกายเมื่อได้กำหนดไปแล้วเบากายเบาใจตามไปด้วยเช่นกัน

การทำสมาธิมีหลักสำคัญอยู่ว่า ปากไม่พูด จิตไม่คิด จิตไม่คิดนี่สำคัญที่สุด จะต้องไม่คิดเรื่องที่ทำให้จิตกังวล จะคิดก้คิดแต่เรื่องที่ภาวนาคืออยู่ในอารมณ์ภาวนาอย่างเดียวเท่านัน จิตจึงจะภาวนาสมาธิได้
ถ้าคิดเรื่องอื่นขณะภาวนา บอกได้เลยว่าฟุ้งซ่านยิ่งกว่าคิดในเวลาไม่ได้ภาวนาเสียอีก แล้วจะปวดหัวมาก ตัวจะหนักด้วย เมื่อนั่งเสร็จแล้วไม่รู้สึกถึงคำว่าผ่อนคลายเลย ก็มาจากจิตคิดมากไป สมาธิเลยไม่มั่งคงไปด้วย

อีกอย่างก้คือระหว่างช่วงที่ไม่ได้ทำสมาธิ ก้ผ่อนคลายสบายด้วยการดูหนัง ฟังเพลงทำนั่นทำนี่ด้วย
อย่ามุ่งแต่ว่าจะหาความสงบจากการภาวนาอย่างเดียว ให้ทำอย่างอื่นๆเพลินไปด้วย กิจกรรมพวกนี้
ทำให้อวัยวะในร่างกายทำงานสมดุล ตั้งอย่ในความปกติ และเปนการพักผ่อนในตัวที่ดีที่สุดเหมือนกัน
ไม่ต่างกับ "การนั่งสมาธิแบบถูกวิธี"

.....................................................
"มีสติเป็นเรือนจิต ใช้ชีวิตเป็นเรือนใจ ใช้ปัญญาเป็นแสงสว่างส่องทางเดินไปเถิด จะได้ล้ำเลิศในชีวิตของท่าน มีความหมายอย่างแท้จริง"
ในการปฏิบัติธรรม หลวงพ่อท่านบอกว่า ให้ตัดปลิโพธกังวลใจทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ลูก สามี ภรรยา ความวุ่นวายทั้งหลายทั้งปวง อย่าเอามาเป็นอารมณ์ จากหนังสือ: เจริญกรรมฐาน7วันได้ผลแน่นอน หัวข้อ12: ระงับเวรด้วยการแผ่เมตตา


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 89 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร