วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ค. 2025, 21:15  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 169 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 6, 7, 8, 9, 10, 11, 12  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ส.ค. 2009, 12:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


อาจารย์ค่ะ รายงานค่ะ
เดินระยะแรก ก่อนเดินต้องกำหนด "ดีใจหนอ" ก่อนเพราะพออ่านโพสต์ของอาจารย์
แล้วก็ดีใจค่ะ แต่ไม่เหิม อย่างที่อาจารย์บอกเลย คือตอนแรกคิดว่าทำไมเราถึงไม่ค่อย
ฉลาดเลย อะไรก็ไม่รู้สักอย่าง คำตอบของอาจารย์ไขข้อข้องใจให้พอดีเลยค่ะ มีกำลังใจ
ขึ้นอีกเป็นกอง แต่ตัวขึ้เกียจดิ้นนิดหน่อย แต่ดูเหมือนมันยังไม่กล้าโผล่ออกมา เดินก็แทบ
จะไม่มีอะไร เพียงแต่คิดนิดหน่อย และก็รู้สึกว่าแป๊ปเดียวเหมือนเมื่อวานเลย
พอเดินระยะสามได้สักไม่ถึงห้านาที เห็นเงาผ่านตรงช่องประตู คือประตูจะลอยสูงกว่าพื้น
สักประมาณนิ้วครึ่งค่ะ เป็นเงาเหมือนคนเดินผ่าน ซึ่งไม่น่าจะเป็นพวกเพื่อนที่อยู่ด้วยกัน
เพราะเขาเข้าห้องไปกันหมดแล้ว ไม่ได้สงสัยค่ะ ก็กำหนดเห็นหนอไป เดินมาได้อีกหน่อย
ก็เห็นพื้นนูนขึ้นมา ก็กำหนดหลายครั้งเหมือนกันกว่าจะหาย ที่นี้พอเดินต่อไป ยกย่างหาย
ต้องกลับมาตั้งต้นใหม่ สักระยะหนึ่งเห็นเงาวูบที่รูปภาพข้างฝาอีก คือรูปมันจะอยู่ด้านข้างของ
การเดินพอดี เงานั้นก็วูบผ่านไปไม่เร็วนะค่ะ ไม่ใช่แบบแว่บๆ อาจารย์คงนึกออกนะค่ะ
อธิบายยากจัง ก็กำหนดเห็นหนอ วันนี้ไม่กลัวเลยค่ะ และก็ไม่สงสัยแล้วคิดแต่ว่าจะอะไร
ก็ช่างเห็นแล้วกำหนดไปตามนั้น ก็มีคิดบ้างสองสามครั้ง
เดินระยะสี่ คิดเข้ามาเยอะค่ะ เดี๋ยวมา เดี๋ยวไป เรื่องนั้นบ้างนี่บ้าง กำหนดแป๊ปเดียวก็หาย
เหยียบเท้าลงพรหมรู้ว่านุ่มชัดและตามมาด้วยจั๊กจี้ สองสามครั้งค่ะ กำหนดไปตามนั้น แล้วก็
มีพื้นเต้นเหมือนจังหวะหัวใจนิดหน่อย กำหนดไม่นานก็หาย แล้วก็พื้นนูนอีกครั้งหนึ่งค่ะ ตอน
ทำงานกลางวัน พอนึกได้ก็กำหนด วันนี้ได้บ่อยขึ้น ตอนเช้าๆ ไม่มีอะไร ที่ชัดที่สุดก็ตอน
อยากกลืนน้ำลาย จะอัตโนมัติเลยว่า"อยากกลืนหนอ" ได้บ่อยขึ้น แต่พอใกล้เลิกงาน รู้สึกว่า
ขณะทำงานอยู่ พอใช้เท้าเหยียบจะจั๊กจี้เท้ามากตามด้วยขนลุกทุกครั้ง กำหนดนานกว่าจะหาย
ระยะเดินก็มีรายงานแค่นี้

นั่งวันนี้ตอนต้นพองยุบและถูกหนอ เป็นไปด้วยดี พองทำท่าจะเป็นห้าขั้นสองครั้ง แต่แล้วก็ลงมา
เท่าเดิม ส่วนยุบนั้นไม่ค่อยเต็มสี่ค่ะอ่อนๆไป พอสักระยะหนึ่งวูบๆวาบๆมาก่อนเลย แต่วันนี้เหมือน
แมงกระพรุน ลอยเต็มไปหมด ด้านซ้าย ขาวใสบ้าง ขาวบ้าง กำหนดเห็นหนออย่างเดียว
แล้วก็บอกตัวเองว่าจะเป็นอะไรก็ช่าง กำหนดไปเรื่อยๆ ไม่ยอมหายนานมาก ก็เลยกลับมาหา
พองต่อ อย่างแรกเลยเหมือนแม่มดใส่ชุดดำหน้าแก่ๆเหี่ยวๆ พอเห็นปุ๊ปเขาก็ชะโงกหน้าเข้ามา
ตะโกนใส่เหมือนกับว่าจงใจให้เราตกใจ ไม่ได้ยินเสียงนะค่ะ แต่ก็ไม่กลัวและไม่สงสัยแล้ว กำหนด
อย่างเดียว หลายครั้งเหมือนกันกว่าจะหาย พอหายไปก็เป็นอะไรไม่รู้ ดูไม่ออก เป็นสี่ขาวๆลอย
ไปลอยมาตรงหน้าหลายอันเหมือนกัน ก็ยังนึกอยู่ว่าอะไรเนี๊ยะ ก็กำหนดสงสัยหนอ ตามด้วยเห็น
ที่นี่ก็ตามมาด้วยเพื่อนที่เพิ่งเสียไปเมื่อเดือนพฤษภานี้เองค่ะ ยิ้มแต้มาเลย คนนี้เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว
ก็ฝันถึงเขา แล้วก็แผ่กุศลไปให้เขาหลังปฏิบัติทุกวัน วันนี้มาในนิมิตรเลย ก็กำหนดเห็นไปแป๊ป
ก็หายไป กลายเป็นเด็ก เป็นมือมาอีกแล้วค่ะ แต่วันนี้มือเหมือนคนที่เป็นอัมพฤกษ์ จากนั้นก็เป็น
แมว และเป็นบ้านสมัยที่ยังเป็นเด็ก เห็นเพื่อนที่เมืองไทยบ้าง แต่ครั้งนี้อันไหนเห็น อันไหนที่คิด
จิตบอกเองได้เลยค่ะ กำหนดได้ถูกไม่สับสนแล้ว ตามทันทุกอย่าง พองยุบได้สักหกสิบ
เองมั้งค่ะ เพราะมัวแต่ตามคิดกับเห็นและก็รู้ แล้วก็มีงุบหรือโงกก็ไม่รู้ เพราะวันนี้มันหงาย
ไปข้างหลัง รู้สึกนะค่ะ แต่ตัวไม่ได้หงาย เพราะยังรู้สึกว่าหน้ายังโค้งไปข้างหน้าเลย นาฬิกา
ดังพอดี สะดุ้งนิดหน่อย ก็กำหนดออกค่ะ รายงานสดเลยนะค่ะ รายละเอียดเก็บได้เท่านี้ หาก
มีอะไรที่ปรากฎในภายหลัง จะเรียนให้อาจารย์ทราบอีกครั้งนะค่ะ อนุโมทนา เจริญในธรรมค่ะ

:b41: :b41: :b41: :b48: :b41: :b41: :b41:
:b55:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ส.ค. 2009, 20:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.พ. 2008, 10:00
โพสต์: 724

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: ปฏิบัติวิปัสสนา
อายุ: 0
ที่อยู่: เกษตร-นวมินทร์ กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


cool เรื่องกำลังใจเอาไว้ก่อน เข้าเรื่องเลย....

เท่าที่อ่านดูในวรรคแรกๆ พอสรุปได้ว่า ปีติมามากหน่อย แต่เป็นปีติของสมาธิ
ที่ดีขึ้น เป็นปีติของระดับ ๔ นิมิตต่างๆยังคงมีอยู่ คิดว่าอีก ๑-๒ วันคงลด เพราะอ่าน
จากท้ายๆเริ่มกำหนดได้ทันปัจจุบันดีขึ้นมาก สติก็ดีขึ้นด้วย เริ่มเห็นลักษณะจำเพาะของ
รูปนามชัดดีแล้ว แต่นิมิตบางอย่างที่กำหนดหายช้านั้น คงเป็นช่วงๆของการปฏิบัติที่สมาธิยัง
ไม่ได้ดุลกับสติแบบต่อเนื่อง ในหนึ่งบัลลังนั่งอาจมีตกมีขึ้น

สรุปอาการ มีโอภาส ปีติ มีนิมิต สมาธิยังล้ำหน่อยๆ
นิมิตรูปเพื่อนที่ปรากฏ เห็นจริง แต่เราไม่รู้ได้ว่าจริงแค่ไหน แต่ที่อุทิศส่วนบุญให้เขา ทำถูกแล้ว

แต่ครั้งนี้อันไหนเห็น อันไหนที่คิด จิตบอกเองได้เลยค่ะ กำหนดได้ถูกไม่สับสนแล้ว


ตรงนี้ขออนุโมทนา ดีขึ้นนะครับ
การที่เดินระยะที่ ๔ แล้วมีคิดเข้ามามากเป็นเรื่องปกติครับ เพราะเพิ่งเริ่มระยะใหม่และระยะ ๔
สติก็จะเพิ่มมากไปอีก ก็เลยอาจมีคิดออกมามาก

แนะนำครับ ให้เดินนั่งเหมือนเดิม เวลาเท่าเดิม อีก ๒-๓ เพื่อให้สภาวะนิ่งก่อน
กำหนดต้นจิตดีๆ กำหนดอายตนะ ๕ ทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย(สัมผัส) ตรงนี้ย้ำเลย ต้องให้ไว
ให้ทัน เพราะถ้าตรงนี้ทำได้ไม่ดี ก็จะติดที่ระดับนี้นาน ส่วนมากจะวนๆอยู่แถวนี้เพราะสติด้อยไป
กำหนดไม่ทันปัจจุบันขณะ ขอให้ทำตรงนี้ให้ดีครับ ถ้าสติ สมาธิ กำหนดได้ทันปัจจุบันแล้ว
อาการนิมิต โอภาส หรือปีติจะหายไป แล้วจะประจักษ์อย่างอื่นต่อไปได้ครับ ใส่ใจกำหนด
ให้ตามติด อย่าละจนกว่าสภาวะจะหายไป นอกจากที่ยกเว้น
การเดินระยะที่ ๔ ตอนเหยียบหนอ ลงหนอ ให้เต็มฝ่าเท้าครับ และให้พอดีกับจิตที่รู้ คือ ๓ ส่วนตรง
กัน - หนอ จิตที่รู้ ฝ่าเท้าที่ลงเต็มที่ การลงเต็มที่หมายถึงไม่มีต่อไปอีกแล้ว ไม่มีขยับต่อไปได้อีก

ช่วยตอบคำถามด้วย
๑.ที่นี้พอเดินต่อไป ยกย่างหาย ต้องกลับมาตั้งต้นใหม่
คืออะไร หายอย่างไรครับ อธิบายหน่อย
๒.ต้นพอง กลางพอง สุดพอง ต้นยุบ กลางยุบ สุดยุบ ระดับไหนบ้างที่ชัดที่สุด ระยะไหนที่ไม่ชัด
๓.เวทนา ความคิด กำหนดประมาณกี่ครั้งครับ
๔.กำหนด พองหนอ ยุบหนอ นั่งหนอ ถูกหนอ ได้ถึงระยะไหนครับ

อนุโมทนาครับ ดีขึ้นเรื่อยๆ

.....................................................
เอกายโน อยํ ภิกฺขเว มคฺโค สตฺตานํ วิสุทฺธิยา โสกปริเทวานํ สมติกฺกมาย
ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย ญายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย ยทิทํ
จตฺตาโร สติปฏฺฺฐานา ฯ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ส.ค. 2009, 03:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


[quote="กามโภคี"]cool

ช่วยตอบคำถามด้วย
๑.ที่นี้พอเดินต่อไป ยกย่างหาย ต้องกลับมาตั้งต้นใหม่
คืออะไร หายอย่างไรครับ อธิบายหน่อย

ก็คือเบลอๆไปเลย คิดก็ไม่ได้คิด แต่มารู้สึกตัว
อีกทีก็กำลังยกหนอค่ะ คือหายแป๊ปหนึ่งค่ะว่างๆไปเลยค่ะ

๒.ต้นพอง กลางพอง สุดพอง ต้นยุบ กลางยุบ สุดยุบ ระดับไหนบ้างที่ชัดที่สุด ระยะไหนที่ไม่ชัด
ปกติจะชัดทุกระยะ แต่ถ้าจะอ่อนลงก็จะเป็นต้นพองไม่ค่อยชัด สุดพองชัดสุด
แล้วสุดยุบไม่ค่อยชัด แต่ต้นยุบชัดมาก


๓.เวทนา ความคิด กำหนดประมาณกี่ครั้งครับ
ถ้าเวทนาจะกำหนดไม่เกินสามครัังหายเป็นส่วนมาก แต่ถ้าคิดจะมากกว่าห้า
ครั้งแล้วแต่ค่ะ แต่ถ้าเห็นจะนานขึ้นไปอีก ไม่ค่อยยอมหายเลย


๔.กำหนด พองหนอ ยุบหนอ นั่งหนอ ถูกหนอ ได้ถึงระยะไหนครับ
เริ่มจะระยะสี่เป็นส่วนมากแล้วค่ะ แต่ถ้ากำหนดคิดนาน ก็จะถอยลงมาสาม
ถ้าไม่มีอะไรมาแทรกก็จะไต่ขึ้นไปห้าก็มีเฉพาะพอง ยุบยังอยู่เต็มที่สี่อยู่ยังไม่ละเอียดถึงห้าเลยค่ะ


อนุโมทนาครับ ดีขึ้นเรื่อยๆ[/quote

สาธุ อนุโมทนา เจริญในธรรมค่ะ



:b41: :b41: :b41: :b47: :b41: :b41: :b41:

อาจารย์ค่ะ มานึกได้ตอนที่ส่งซับมิทแล้ว คือมีอยู่ขณะหนึ่งตอนที่นั่ง
พองหนอ ยุบหนออยู รู้สึกว่าหัวใจหยุดเต้นไปเฉยๆเลย สักชั่วอึดใจหนึ่งค่ะ หายไปเลยไม่มี
อะไรเลย ก็เหมือนตอนเดินคือว่างๆ แต่รู้ว่าหยุดหายใจ ก็กำหนดรู้หนอ แป๊ปหนึ่งก็กลับมาพอง
ต่อค่ะ เรียนมาเพื่อทราบ ขอบคุณค่ะ

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ส.ค. 2009, 06:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.พ. 2008, 10:00
โพสต์: 724

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: ปฏิบัติวิปัสสนา
อายุ: 0
ที่อยู่: เกษตร-นวมินทร์ กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


taktay เขียน:

อาจารย์ค่ะ มานึกได้ตอนที่ส่งซับมิทแล้ว คือมีอยู่ขณะหนึ่งตอนที่นั่ง
พองหนอ ยุบหนออยู รู้สึกว่าหัวใจหยุดเต้นไปเฉยๆเลย สักชั่วอึดใจหนึ่งค่ะ หายไปเลยไม่มี
อะไรเลย ก็เหมือนตอนเดินคือว่างๆ แต่รู้ว่าหยุดหายใจ ก็กำหนดรู้หนอ แป๊ปหนึ่งก็กลับมาพอง
ต่อค่ะ เรียนมาเพื่อทราบ ขอบคุณค่ะ


สมาธิมากไป ก็เลยเบาที่สุด ลมหายใจยังมี หัวใจยังเต้น แต่ว่าเบาลง
ด้วยอำนาจสมาธิ

สติก็ยังมีรับรู้อยู่ แต่ว่า สมาธิเมื่อแน่น ก็ทำให้สติทำงานได้ไม่สะดวก เพราะจิตจะ
ติดอยู่ในอารมณ์เดียวตลอด(ความหมายคือ การย้ายจิตไปรับรู้สภาวะต่างๆช้าลง)
เมื่อสติทำงานช้า การกำหนดให้ได้ปัจจุบันทันทีก็ไม่ค่อยได้

ที่ว่ากำหนดนานกว่า 3 ครั้ง ล้วนมาจาก สติ สมาธิ และการกำหนดไม่ได้ปัจจุบันทั้งนั้น
ตรงนี้ติดกันแทบทุกคน ต้องอดทนฝึกไปครับ ลองดูอีก ๑-๒ วันก่อน เพราะเพิ่งเพิ่มระยะ
การเดินไป รอให้เดินคล่องอยู่ตัวก่อนในระยะที่ ๔ แล้วจะประเมิณอีกครั้ง ถ้านิมิตลดลง
ปีติลดลง ก็ถือว่าดี ถ้ายังมีหรือเพิ่มขึ้น คงต้องวินิฉัยไปทางเพิ่มสติ

วันแม่นะครับวันนี้ที่ประเทศไทย ขอให้คุณทักทายเป็นคุณแม่ที่ดีแบบนี้ตลอดไป

.....................................................
เอกายโน อยํ ภิกฺขเว มคฺโค สตฺตานํ วิสุทฺธิยา โสกปริเทวานํ สมติกฺกมาย
ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย ญายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย ยทิทํ
จตฺตาโร สติปฏฺฺฐานา ฯ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ส.ค. 2009, 21:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


สวัสดีค่ะ อาจารย์ เมื่อคืนนี้ไม่ได้รายงานเพราะคิดว่าจะเก็บ
มาพิจารณาก่อนค่ะ
เกือบเหมือนเมื่อวานทุกอย่าง เดินระยะหนึ่งไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย นอกจากตอนแรกรู้สึกว่า
เดินเร็ว ก็กำหนดเร็วหนอ แล้วก็เดินช้าลง มีคิดสองครั้ง พอกำหนดครั้งเดียวก็หาย
ทั้งสองครั้งแล้วก็เดินต่อจนครบ
ระยะสามเดินไปสักพัก สับสนค่ะ กลับไประยะหนึ่ง ต้องตั้งสติใหม่ ว่าระยะสาม ก็เช่นกัน
คิดสองสามครั้งกำหนดแป๊ปเดียวหายเหมือนกัน มีปวดหลังนิดหน่อย กำหนดแล้วก็จางๆไป
ไม่หายคือปวดที่เดิมของทุกวัน
ระยะสี่ ต้นเวลาเดินดีมาก ไปได้สักสี่ห้านาที ก็แว่บคิด กำหนดตามทันที แล้วก็แว่บคำว่า
"กิเสส" แล้วก็ตามด้วย เราต้องดับเพราะทำให้เราคิดและฟุ้ง ก็กำหนดรู้หนอ และเดินต่อ
มีหลงสองครั้ง คือเท้าไปก่อนกำหนด ย่างไปแล้ว แต่กำหนดเพิ่งยก ก็ตั้งสติใหม่ จนหมด
เวลา

นั่งเหมือนเดิมเลย คือพอนั่งได้สักแป๊ปมาอีกแล้ว แต่วันนี้เหมือนไฟฟ้าตกก่อน คือวับๆ แป๊ปหนึ่ง
แล้วก็เปลี่ยนเป็นวูบวาบเริ่มจากไกลๆก่อน กำหนดไปก็เข้ามาใกล้แล้วก็ถอยออกไป กำหนดไป
เรื่อยๆ ก็จางๆไป พอจางเป็นผู้ชายแล้วก็เปลี่ยนเป็นเด็กเริ่มคลานก่อน แล้วก็ยืน แล้วก็เป็นผู้หญิง
เป็นเพื่อนเป็นใครต่อใคร แต่วันนี้น้อยลงและช้าลง แต่แยกออกได้ทันทีว่า "คิดหนอ" หรือ"เห็น
หนอ"ตามไปเรื่อยๆ อันไหนที่เป็นเห็นหนอกำหนดสองสามครั้งก็หาย แต่ที่เป็นคิดหนอนั้นค่อนข้าง
นานไม่ยอมหายก็เลยลองกำหนดลงไปที่ลิ้นปี่ ตามที่อาจารย์วลัยพรเคยแนะนำไว้ แรกๆก็เร็วค่ะ
พอปักจิตลงที่ลิ้นปี่สักสองสามครั้ง คิดก็หายไป แต่ครั้งหลังกำลังกำหนดได้สักสองครั้งก็
มีมือทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เต็มไปหมดเหมือนกำลังแบมือขออยู่ที่ลิ้นปีนั้น ต้องเปลี่ยนมากำหนด
เห็นหนอ สี่ห้าครั้งถึงหายไป ก็กลับมาพองยุบ แล้วคำว่า"กิเลส" ก็แว่บเข้ามาอีก ตามด้วย"เราต้อง"ดับ"
โดยการปิดหูปิดตาจะได้ไม่ฟุ้ง ทุกประโยคเหมือนตอนเดินเลยค่ะ สักพักรู้สึกว่าลมหายใจที่
เข้าไปทำให้พองนั้น เป็นกลุ่มอยู่ในช่องท้อง ใต้ลิ้นปี่มาหน่อยเหมือนไอน้ำ
พอพองอีกครั้งก็เปลียนจากไอน้ำมีความรู้สึกว่ามันละเอียดขึ้นไปอีก จากสี่ขาว
เปลี่ยนเป็นใสและก็ละเอียดเหมือนไหม เป็นสามครั้งของพอง ยุบไม่มี กำหนดรู้หนอ
ก็หายไป กลับมาพองยุบตามเดิม แต่พองไม่ถึงสี่แล้วมีแค่สาม ยุบยังถึงสี่เหมือนเดิม มีความรุ้สึก
ว่ายุบสม่ำเสมอกว่าพอง พองเป็นไปตามสภาวะถ้ากำหนดมาก พองก็จะอ่อนลงมาค่ะ
วันนี้จำได้แค่นี้ ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมก็จะตามมาทีหลังนะค่ะ
วันแม่ของเมืองไทย ก็คงซาบซึ้งและชื่นมื่นกันทั้งประเทศ สำหรับคนที่นี่ก็คิดถึงทั้งแม่และลูกมาก
อย่างจับใจ แต่ไม่ทุรนทุรายเหมือนปีก่อนๆ แค่ "คิดถึง" จริงๆค่ะ

อนุโมทนา เจริญในธรรม mellow

:b41: :b41: :b41: :b42: :b41: :b41: :b41:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ส.ค. 2009, 22:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว



อิอิ .. คุณทักทาย .. ขอความเมตตาค่ะ เรียกว่า วลัยพรก็พอแล้วค่ะ tongue

การกำหนดมี 3 ระดับค่ะ ถ้ากำหนดคิดหนอ ไม่หาย นี่คือ ระดับที่ 1

ให้กำหนดรู้หนอ เอาจิตปักที่ลิ้นปี่ นี่คือระดับที่ 2

ถ้ากำหนดปักที่ลิ้นปี่ไม่หาย ครั้งต่อไป ให้กำหนดรู้หนอ เอาจิตปักเหนือสะดือค่ะ นี่คือ ระดับที่ 3

พวกทุกขังก็อย่างนี้แหละค่ะ กำหนดหลายครั้งกว่าจะดับได้ สติ สัมปชัญญะยังไม่ทัน

ทำต่อไปค่ะ เดี๋ยวดีขึ้นเอง พอดีขึ้น การกำหนดมันจะน้อยลงเอง คือกำหนดแค่คิดหนอ

มันจะดับได้ทันที ยิ่งสติ สัมปชัญญะมากขึ้นเท่าไหร่ มันจะเหลือแค่รู้ สู้ๆค่ะ :b4:

อนุโมทานาในความเพียรค่ะ :b8:

ขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปค่ะ สาธุ :b8:


หมายเหตุ ลืมบอกไปค่ะ เรื่องการกำหนด เวลาอะไรมากระทบ กำหนดตามนั้นก่อน

ถ้ากำหนดแล้วไม่หาย ถึงจะเอาจิตปักแบบที่บอกนะคะ

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ส.ค. 2009, 00:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


[i]ค่ะ อนุโมทนา กำหนดแล้วไม่ดับก็เลยนึกถึง
คำแนะนำของ(อ.) น้ำ ได้ค่ะ ทดลองทำดู แรกๆก็หาลิ้นปี่ไม่เจอ สักสอง
สามครั้งก็ได้ แล้วก็หายจริงๆ แต่ก็มีสลับกลับมาทั้งคิดทั้งเห็นตามรายงาน

[color=#FFFF00]อาจารย์กามฯ ยังเรียกว่า อาจารย์ วะ เลย
รายการนี้อายุไม่เกี่ยวค่ะ อิ อิ อิ แล้วแวะมาให้คำแนะนำบ่อยๆนะค่ะ

สาธุสำหรับกำลังใจ อนุโมทนาอีกครั้ง เจริญในธรรมค่ะ



:b41: :b41: :b41: beby beby beby :b41: :b41: :b41:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ส.ค. 2009, 00:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.พ. 2008, 10:00
โพสต์: 724

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: ปฏิบัติวิปัสสนา
อายุ: 0
ที่อยู่: เกษตร-นวมินทร์ กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


taktay เขียน:
ระยะสามเดินไปสักพัก สับสนค่ะ กลับไประยะหนึ่ง ต้องตั้งสติใหม่ ว่าระยะสาม ก็เช่นกัน
คิดสองสามครั้งกำหนดแป๊ปเดียวหายเหมือนกัน มีปวดหลังนิดหน่อย กำหนดแล้วก็จางๆไป
ไม่หายคือปวดที่เดิมของทุกวัน
ระยะสี่ ต้นเวลาเดินดีมาก ไปได้สักสี่ห้านาที ก็แว่บคิด กำหนดตามทันที แล้วก็แว่บคำว่า
"กิเสส" แล้วก็ตามด้วย เราต้องดับเพราะทำให้เราคิดและฟุ้ง ก็กำหนดรู้หนอ และเดินต่อ
มีหลงสองครั้ง คือเท้าไปก่อนกำหนด ย่างไปแล้ว แต่กำหนดเพิ่งยก ก็ตั้งสติใหม่ จนหมด
เวลา


ข้อนี้อาจยังใหม่ในระยะที่ ๔ เดี๋๋ยวจากวันนี้ ผมจะแก้ไขให้ใหม่ วันนี้ของลองที่แนะไปก่อน
อย่าเพิ่งท้อนะครับ คุณทักทายติดไม่กี่วัน ผมเองติดเป็นเดือน นานกว่าเดือนอีกนะ
แต่ก็สู้ๆ ต้องทำใจ ผ่านตรงนี้ จะมีที่ติดอีก มีติดใหญ่ๆ ๓ ที่ครับ บอกไว้ก่อนเลย จะได้ทำใจทัน

นิมิต ปีติ ยังมีอยู่มาก ถ้าวันนี้ลดหรือไม่ลด คิดว่าครั้งหน้าจะเพิ่มบางอย่างไปดีกว่า

อนุโมทนาครับ ลองดู


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ส.ค. 2009, 08:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


รายงานค่ะอาจารย์ เมือคืนนี้เดินระยะแรกไม่มีอะไร
มีคิดนิดเดียว ระยะสามก็สับสนนิดหนึ่ง คิดมากขึ้นมาหน่อย แต่ว่ากำหนดแป๊ป
เดียวก็หาย พอระยะสี่ แรกๆก็ดีค่ะ กลางก็สับสนอีก ยกส้นหนอ หลงเป็นยกหนอ
บ้าง ยกหนอเป็นเหยียบหนอบ้าง สองครั้งค่ะ ต้องกำหนดยืนใหม่ตั้งสติใหม่ ก็ดีขึ้น
มีคิดบ้าง เสียงอะไรนิดก็ได้ยิน กำหนดไปตามนั้น มีปวดข้อศอก ปวดขา กำหนด
ครั้งเดียวก็หาย แต่ปวดหลังไม่ยอมหายค่ะ

นั่งเหมือนเมื่อวานเลย แป๊ปเดียววูบๆวาบมาแล้ว เดี๋ยวใกล้ เดี๋ยวไกล กำหนดอย่างไร
ก็ไม่หายมีแต่จางๆ ก็เลยกลับมาที่พองยุบ ถูกหนอไม่ได้เลย ก็เลยเปลี่ยนเป็นนั่งหนอ
ได้สักแป๊บ ก็เรียงคิวเข้ามาเหมือนเดิม ทั้งคิด ทั้งเห็นสลับกันไปๆมาๆ กว่าจะหายก็
ตามกันอยู่ตั้งนาน พอกลับมาหาพองยุบ เบามากๆ เหลือไม่ถึงสามขั้น ได้พองอย่างมาก
ก็แค่เกือบสุด ไม่ได้สุดค่ะ ยุบได้ทั้งสามขั้นแต่เบามากๆ คือเหมือนเราเป่าลูกโป่งแล้วใส่
ลมได้ไม่เต็มที พองได้นิดเดียว พอปล่อยให้ยุบก็เลยค่อยๆยุบแบบอ่อนๆแต่ก็ยุบจนหมด
ที่นี่ก็เบื่อหนอ ร้อนหนอ อยากออกหนอ หงุดหงิดหนอ ปวดหนอ อยากออกหนอ
ขี้เกียจหนอตามมาเป็นกระบวนเลยค่ะ ไม่หายนะค่ะอันสุดท้ายพอจางๆ ก็กลับไปหาพอง
ยุบ กำลังจะดีก็เป็นคนบ้าง โครงกระดูกบ้าง เด็กบ้าง ผู้ใหญ่ ผู้หญิง ผู้ชายมากัน
ครบแต่ไม่มากเหมือนวันก่อน มาที่ละคน เด็กมาแปลกตอนแรกแบบคลานก่อนแล้วก็เป็น
ขนาดหัดเดิน แล้วก็เปลี่ยนเป็นผู้ใหญ่ กำหนดไปจนทุกอย่างหายไปหมด แต่ละอย่าง
ไม่ต่ำกว่าสามครั้งถึงหาย อ้อ มือก็ยังมาอีก แล้วก็เปลี่ยนเป็นพระพุทธรูป สี่ดำปนทอง
ตอนแรกองค์ขนาดหน้าตักประมาณสามนิ้ว พอกำหนดเห็นหนอ ก็ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆยิ่ง
กำหนดก็ยิ่งใหญ่ จนขนาดหน้าตักประมาณแปดนิ้วก็หยุดเหลือครึ่งองค์ แล้วก็หายไป
เพิ่งกลับไปหาพองได้แค่ครั้งเดียวยังไม่ทันยุบเลย กลายเป็นพระสงฆ์กลุ่มหนึ่งนั่งบ้้าง
ยืนบ้าง เหมือนจับกลุ่มคุยกัน แล้วมีสองสามรูปที่หันมามอง เหมือนพระธิเบตเลย แต่
ห่มจีวร สี่จัดมากๆค่ะ กำหนดไปได้สักพักยังไม่ทันหาย ใจก็บอกว่าไม่เชื่อๆๆๆๆ ก็กำหนด
ว่าไม่เชื่อ พอทุกอย่างหายไปก็กลับไปพองได้แต่เบามากๆ จนมีความรู้สึกว่าไม่ค่อยพอง
เลย ยุบก็เบาแต่ก็ยังชัดกว่าพองมากค่ะ แล้วกำลังปวดขา ปวดหลัง ปวดหัวตามกัน
มาติดๆ ไล่กำหนด เหมือนไล่จับแมลงวันเลย แล้วอยู่ดีๆก็ลืมตาโพลงขึ้นมาแบไม่มีปีไม่มีขลุ่ย
หันไปดูนาฬิกาเหลืออีกนาทีเดียวก็เลยออกค่ะ

กลางวันวันนี้ว่างก็เลยเข้าไปนั่งดู ใจคิดว่าลองเปลี่ยนเป็นนั่งก่อนเดินซิ คล้ายกันอีกคือ
พอนั่งได้สักห้านาที วูบๆวาบก็มาอีก แต่คราวนี้เป็นเหมือนลูกคลื่นที่หันด้านยาวเข้าหา
เป็นระลอกๆ แต่สี่ดำล้วนๆ ก็กำหนดไปประมาณมากกว่าหกครั้ง ไม่หายแต่ไกลออกไป
ก็กลับมาพองหนอ ไม่พองสุดเหมือนเดิม แต่รู้ว่าพองมากกว่าตอนกลางคืน ยุบเท่ากัน
กับกลางคืน บางครั้งแผ่วจนเหมือนจะไม่หายใจ ก็กำหนดพองยุบไปเรื่อยๆ ครั้งนี้มี
คิด มีเห็นนิดหน่อย พอกำหนดสองสามครั้งก็หาย แล้วมีอึดอัด ร้อน หายใจไม่ออก
แต่นิดเดียวพอกำหนดปุ๊ป ก็หายปั๊ป กลับมาหาพองยุบกำลังชัดเลย พอดีเพื่อนมาเรียก
เลยได้แค่ยี่สิบสามนาทีไม่ถึงครึ่งชั่วโมงค่ะ แล้วงานก็เข้าตลอดเลยไม่ได้เดินค่ะ

อนุโมทนา เจริญในธรรม

:b41: :b41: :b41: :b42: :b41: :b41: :b41:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ส.ค. 2009, 10:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.พ. 2008, 10:00
โพสต์: 724

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: ปฏิบัติวิปัสสนา
อายุ: 0
ที่อยู่: เกษตร-นวมินทร์ กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


taktay เขียน:
ถูกหนอไม่ได้เลย ก็เลยเปลี่ยนเป็นนั่งหนอ


คุณทักทาย ตรงนี้ขอให้วางใจเป็นกลาง เพราะจริงแล้วสติสมาธิที่ดีไม่ใช่จะ
ต้องกำหนดนั่งหนอถูกหนอได้
โดยปกติคือ พองหนอ ยุบหนอ มากกว่า
เมื่อไม่สามารถเพิ่มกำหนดได้ ก็ไม่เป็นไร ขอให้พองหนอ ยุบหนอ ได้ก็พอ


taktay เขียน:
ก็กลับไปหาพองยุบ กำลังจะดีก็เป็นคนบ้าง โครงกระดูกบ้าง เด็กบ้าง ผู้ใหญ่ ผู้หญิง ผู้ชายมากันครบ ฯลฯ เพิ่งกลับไปหาพองได้แค่ครั้งเดียวยังไม่ทันยุบเลย
กลายเป็นพระสงฆ์กลุ่มหนึ่งนั่งบ้้างยืนบ้าง ฯลฯ กำหนดไปได้สักพักยังไม่ทันหาย
ใจก็บอกว่าไม่เชื่อๆๆๆๆ ก็กำหนดว่าไม่เชื่อ พอทุกอย่างหายไปก็กลับไปพองได้แต่เบามากๆ จนมีความรู้สึกว่าไม่ค่อยพองเลย ยุบก็เบาแต่ก็ยังชัดกว่าพองมากค่ะ
แล้วกำลังปวดขา ปวดหลัง ปวดหัวตามกัน
มาติดๆ ไล่กำหนด เหมือนไล่จับแมลงวันเลย แล้วอยู่ดีๆก็ลืมตาโพลงขึ้นมาแบไม่มีปีไม่มีขลุ่ย
หันไปดูนาฬิกาเหลืออีกนาทีเดียวก็เลยออกค่ะ


ให้สังเกตดีๆนะครับ เวลาจะมีอะไรแทรกเข้ามา สติที่กำหนดอยู่ที่อาการพองยุบจะค่อยๆหายไป
เบาไป จางไป บางทีเราก็รู้สึกได้ บางทีกว่าจะรู้ตัว พองยุบไม่มีแล้ว เมื่อพองยุบเบาหายไปจนได้ที่
พวกนิมิต หรือวิปัสสนูปกิเลสต่างๆจะตามมาเลย อาการแบบนี้เป็นอาการสติที่อ่อนกว่าสมาธิ
ทั้งนั้น พอเรากลับไปหาพองยุบ แสดงว่าสติที่จะไปกำหนดอาการ เริ่มจะดี เริ่มจะปรากฎ
แต่ก็ยังไม่ดีพอๆกับสมาธิ เราก็เลยเห็นยังเบาอ่อนอยู่ ข้อนี้ต้องแก้ที่เพิ่มสติ ผมจะลองแนะไว้ท้ายๆ

แล้วคุณทักทายไม่เชื่อเขาทำไม ทำไม่ไม่เห็นหนอๆ วางใจกลางๆล่ะ เขาจะมาให้เห็นทำไมก็เรื่อง
ของเขา ยังไปคิดว่าไม่เชื่ออีก เสร็จเขาไปแล้ว ไม่ทันเขาแล้ว สภาวะจะมาแบบนี้ อาการไม่เชื่อ
หรือไม่ชอบ เป็นอาการของโทมนัสนะ องค์ธรรมเดียวกับโทสะ ในสติปัฏฐานสูตรท่านบอกว่า
ละอภิชฌาและโทมนัส ก็หมายความว่า ให้ละความพอใจหรือความไม่พอใจ ความไม่เชื่อทำนอง
นี้แหละครับ ตอนที่เราไม่เชื่อๆนั้น เสร็จกิเลสไปแล้ว ที่ถูกคือ เห็นหนอๆ ไม่ต้องคิดต่อ รู้แต่ว่าเห็น
ไม่ต้องต่อไปว่าเห็นอะไร เห็นสักว่าเห็น เอาใหม่ ทีนี้มาปุ๊บ คุณทักทายทำแบบผมว่าเลย

พยายามเพิ่มสติ อย่าลืมตาไวๆแบบนี้ ให้สติสมาธิได้ปรับตัวก่อน ค่อยๆกำหนด อยากละบัลลังค์หนอๆ
แล้วก็ อยากลืมตาหนอๆ ค่อยๆลืม เมื่อเห็นอะไรครั้งแรกที่ลืมตา ก็ เห็นหนอๆ จากนั้นก็ค่อยๆผ่อนตาม
ปกติไป อย่าผลุนผลันออก


เป็นห่วงจริงๆ กลัวจะเบื่อจนทิ้ง แต่ก็ทำใจ วิบากของใครก็ของมัน จะบอกได้แค่ว่า เป็นเรื่องธรรมดา
ของการปฏิบัติกรรมฐาน โดยเฉพาะวิธีนี้ ในระยะนี้ก็จะวนๆติดๆแบบนี้ พ้นบ้างไม่พ้นบ้าง ผู้แนะนำเมื่อ
ได้รับรายงานมาอย่างไร ก็จะพยายามหาสาเหตุและวิธีมาแก้ให้ บางคนบุญพาวสานาส่ง อาการเหล่า
นี้แทบไม่ปรากฏเลย มาไวไปไวจนเขาไม่รู้ทัน ๒-๓ วันประสบข่าวดีเลย ตามที่ครูบาอาจารย์เคยเล่า
ให้ฟัง มีได้ฟังข่าวดีตั้งแต่ ๑ ชั่วโมงไปถึง ๒ วันก็มี อาจารย์ที่สอนวิปัสสนาผม ท่านสู้อยู่ที่วัด
ท่านปฏิบัติต่อเนื่องแทบจะกล่าวว่า ๒๔ ชั่วโมงเลย ท่านต้องสู้ถึง ๗ เดือนกว่า ยังไม่รวมเวลาที่
ไปแสวงหาตรงนี้นิดตรงนั้นหน่อยนะ เรื่องบุญวาสนาเนี่ย แข่งไม่ได้จริงๆ

อย่างไรก็ตาม ถ้าตกลงว่าฉันจะทำ เราก็ต้องอดทนพยายาม การที่เราต้องเนิ่นช้า ไม่ใช่เพราะเราไม่
ตั้งใจ แต่เพราะสภาวะที่เราเป็นอยู่ไม่อำนวยเท่าไรในการปฏิบัติ ที่เขาก้าวหน้าไวเพราะไปวัดปฏิบัติ
ผมเคยไปมา อาหาร เขาจัดให้เรา ที่นอนมี ที่พักเดี่ยวสะดวก ห้ามคุย พูดได้เฉพาะส่งอารมณ์กับ
วิปัสสนาจารย์ โทรศัพท์ห้าม ในวัดเองทีวีไม่มี วิทยุไม่มี หนังสือพิมพ์ก็ไม่มี เดินช้าๆให้กำหนดตลอด
ตั้งแต่ตื่นนอน ๐๓.๓๐ ก็กำหนดเลย ขนาดจะเข้าห้องน้ำอาบน้ำ จะเปิดไฟ ที่สวิชยังมีเขียนบอกอีก
ว่า กำหนด จะเดินจะนั่ง กำหนดตลอดเวลา เขาให้ทำช้าๆ นอน ๔ ทุ่ม ทาน ๒ มื้อ ศีล ๘
ก็ลองคิดดูว่า ไม่มีอะไรต้องกังวลเลย ไม่มีต้องฟุ้งเพราะไม่ได้คุย 2 วันแรกแทบตาย จะบ้าเลย
มันหงุดหงิด พอเข้าวันที่ ๓ เนียนเลย สภาวะจ่อที่ทางเข้าวิปัสสนาญาณกันเป็นแถว ทักทายลองคิด
ซิว่าเร็วแค่ไหน ๒ วันได้เรื่องเลย อยากอยู่ปฏิบัติ ไม่อยากกลับเลย ที่เดินเมื่อยก็ทน ไม่คิดแล้ว มีแต่
อยากลุยๆ อยากปฏิบัติ ต้องลดวิริยะลงกันบ้างเลย เพราะมันเพียรมากไป

ที่เล่าให้ฟังย่อๆก็เพราะว่า อยากให้ลองเปรียบดู ผลที่เราได้รับยังน้อยเพราะว่าความเป็นอยู่เรายังไม่
อำนวย มีวิธีเดียวคือ เราต้องไม่ละทิ้ง ต้องอดทน ทำแบบเก็บชั่วโมงบินไป ไม่นานก็เต็มที่เอง


แนะนำ.....
๑.ให้เน้นต้นจิตทุกขั้นตอน ปกติให้กำหนดเฉพาะตอนเห็นต้นจิตเท่านั้น จากนี้ไป กำหนดต้นจิตให้มาก
เช่น อยากเดินหนอ อยากนั่งหนอ ถ้าเดินอยู่หยุดกำหนด ก่อนเดินต้องกำหนดต้นจิตเสมอ เวลาจะนั่งก็
อยากนั่งหนอ ใส่ต้นจิตทุกขั้นตอน เราไม่เห็นก็ต้องใส่ ความจริงต้นจิตมาแล้วไปแล้ว เราไม่เห็นเอง
ตรงนี้แม้ไม่เห็นต้นจิต แต่จะเป็นการฝึกสติให้รู้ตัว เตรียมพร้อมในอิริยาบทต่อไป ลดการเดินผิดจังหวะ
เพราะดูแล้ว สติตามสมาธิไม่ทันจริงๆ ก็เลยแก้วิปัสสนูปกิเลสไม่ดีพอ ผมเข้าใจว่าทักทายทำอยู่แล้ว
แต่อยากให้ลองดูว่า ขั้นตอนไหนยังไม่ได้ใส่อยากลงไป ให้เพิ่มไป ไม่ต้องรอเห็นต้นจิต ใส่เลยครับ

๒.ให้กำหนด รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส และจิตที่ฟุ้งที่คิด ให้มากขึ้น ไวขึ้น ใส่ใจลงไปเลย ไม่ต้องกังวล
ว่าพองยุบจะมีหรือไม่มี ถ้าไม่มี ก็ไปที่ รูป เสียง กลิ่นรส สัมผัส จิต แทน
ถ้าพองยุบเบามาก สติเราน้อยแล้ว กำหนด นั่งหนอ ถูกหนอ สลับแบบที่เคยให้ทำ
นั่งหนอ รู้อาการกายที่ตั้งตรงอยู่ ไม่ต้องจิตนาการ ถูกหนอครั้งแรก เรารู้สัมผัสตรงไหนชัด จับตรงนั้น
แล้วมานั่งหนอต่อ จากนั้นไป ถูกหนอต่อ เปลี่ยนที่ถูกเรื่อยๆ เช่น ตาตุ่มทั้งสองข้าง กำหนดทีละข้าง
หรือมือที่ซ้อนกันอยุ่ กำหนดรู้ที่สัมผัสกัน หรือก้นข้างซ้ายข้างขวา สลับกันไปมาตามจุดต่างๆ โดยสลับ
ดังนี้ นั่งหนอ ถูกหนอ นั่งหนอ ถูกหนอ นั่งหนอ ถูกหนอ ฯลฯ ตรงถูกหนอ เราสลับจุด
การกำหนดนั่งหนอ ถูกหนอนั้น ให้กำหนดอย่างน้อย ๒ ครั้ง เช่น นั่งหนอ นั่งหนอ แต่ไม่ควรเกิน ๓ ครั้ง
นั่งหนอ นั่งหนอ ถูกหนอ ถูกหนอ นั่งหนอ นั่งหนอ ถูกหนอ ถูกหนอ
เพราะครั้งแรกที่กำหนด อาจจะรับรู้ไม่ชัดเจน เราต้องซ้ำจิตสติลงไปอีก เพื่อชัดเจน ไม่ต้องสนใจพอง
ยุบ เมื่อได้สักพักลองสังเกตที่ท้อง พองยุบมาชัดค่อยกลับไปกำหนดที่นั่นอีก ถ้าเบาไป หายไป
ก็กลับมากำหนดตามที่แนะนำ

๓.ถ้านั่งแล้วรู้สึกว่าไม่ไหว นิมิตหรือวิปัสสนูปกิเลสมากจนไม่ทันแล้ว เหมือนไม่ได้เรื่องเลย ให้กำหนด
อยากเดินหนอๆ แล้วลุกเดินจงกรมแทนเท่าเวลาที่เหลืออยู่ ข้อนี้ถ้าไม่จำเป็นอย่าทำ เพราะเหมือนหนี
สภาวะ หรือหนีทุกข์นั่นเอง ไม่ใช่วิธีที่ดีนัก


อนุโมทนาครับ คนจะล่วงทุกข์ได้เพราะความเพียร

.....................................................
เอกายโน อยํ ภิกฺขเว มคฺโค สตฺตานํ วิสุทฺธิยา โสกปริเทวานํ สมติกฺกมาย
ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย ญายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย ยทิทํ
จตฺตาโร สติปฏฺฺฐานา ฯ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ส.ค. 2009, 18:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


แวะมาทักทายค่ะ cool

มาแก้ไขข้อความค่ะ ... :b15:

ไม่บอกเหตุผลนะคะ .. แต่คิดว่าจานกามคงเข้าใจดี ...

ระยะนี้กำลังปรับให้ตัวเองยอมรับสภาพตามความเป็นจริง :b24:

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


แก้ไขล่าสุดโดย walaiporn เมื่อ 15 ส.ค. 2009, 23:11, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ส.ค. 2009, 06:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


อาจารย์ค่ะ ที่จริงก็แทบจะไม่มีอะไรรายงานเลย เพราะเหมือน
เมื่อวานเกือบทุกอย่าง แต่รายงานไปตามนั้นดีกว่า เผื่ออาจารย์จะเห็นอะไร

เดินระยะที่หนึ่ง ราบเรียบมาก คิดยังมีนิดเดียว กำหนดครั้งเดียวก็หาย แล้วก็ผ่านไปแบบ
รู้สึกว่าเวลาผ่านไปเร็วมากๆ ระยะที่สองก็คล้ายกัน แต่เพิ่มมีหลงคือยกหนอ ยกแค่ส้นเท้า
แล้วก็ย่างไปเลย ก็ต้องปรับใหม่ว่าระยะสาม เป็นแค่ครั้งเดียวค่ะ คิดก็สองครั้งนิดๆ แต่เสียง
นี่ไวมาก เท้าสัมผัสพรหมเย็นเจี๊ยบบ้าง ก็กำหนดไปตามนั้น ส่วนมากจะมาทางภายนอก คือ
ได้ยิน อยากกลืนน้ำลาย ค้นจมูก ไอ ภายในไม่ค่อยมีอะไรแล้ว
เดินระยะสี่ ก็หลงอยู่สองครั้ง แล้วก็คิดบ้างนิดเดียวพอรู้ปุ๊ป กำหนดครั้งเดียวหาย เป็นสองครั้ง
มีรู้สึกเริ่มปวดขา ปวดข้อศอก ปวดหัว มึนหัว อย่างละนิด กำหนดครั้งเดียวหาย แล้วก็อึดอัด
อยากนั่ง ก็กำหนดไป แล้วก็หมดเวลา แต่ปวดหลังไม่ยอมหาย

นั่งเหมือนเดิมแป๊ปเดียว เหมือนแฟลซถ่ายรูป กำหนดเห็นครั้งเดียวก็หาย แล้วก็เป็นวูบๆวาบ
ครั้งนี้สีคล้ำ แต่ไกลๆ กำหนดอย่างไรก็ไม่หายอยู่ด้านข้างซ้าย ก็เลยกำหนดหันหนอ แล้วค่อยๆ
หันไปทางนั้น ไม่ได้ลืมตานะค่ะ ที่ทำเพราะคิดว่าอาจจะเป็นมุมไฟ แต่ก็ไม่หาย ก็กลับมาที่เห็น
หนอต่อ ไม่หายค่ะ แต่ไกลออกไป ก็กลับมาหาพองยุบ เหมือนเดิม เบามากได้แค่สองครึ่ง
แล้วก็คิด ครั้งนี้ดีกว่าเมื่อวานเพราะกำหนดครั้งสองครั้งก็หาย แล้วก็เรื่องใหม่เข้ามา แต่มาแบบ
ช้าๆ กำหนดหาย สักสามสี่เรื่องกลับไปหาพองยุบได้ ครั้งนี่้เห็นไม่ค่อยติดแล้ว นานๆโผล่มาที
แล้วจะง่วงหรือเปล่าไม่ทราบ เพราะเมื่อวานเหนื่อยมาก ก่อนเข้าปฏิบัติก็ประเล้าประโลมตั้งนานกว่า
จะยอมปฏิบัติ คิดว่าอย่างเก่งก็หลับในสมาธิ ก็ช่วงท้ายๆ พองยุบหาย แล้วก็หายไปหมดทั้ง
คิดทั้งเห็น มารู้ตัวอีกทีก็พองหนอ แล้วก็เบื่อหนอ อยากออกหนอ ขึ้เกียจหนอ รำคาญหนอ
ทุกอย่างกำหนดไม่เกินสามครั้งหาย ทางกายนั้นก็มี เสียง มีคัน มีคอแห้ง หิวน้ำ กำหนดไปตาม
เหตุค่ะ ทุกอย่างครั้งเดียวหายค่ะ ปวดหลังมาก กำหนดอย่างไรก็ไม่หาย ออกแล้วก็ยังปวดอยู่ค่ะ

จะปฏิบัติตามที่อาจารย์แนะนำมานะค่ะ ถ้าหายไปไม่ส่งอารมณ์ ก็หมายความว่าเน็ทล่ม ไม่ได้
หมายความเลิกปฏิบัตินะค่ะ ขอยืนยัน

อนุโมทนา สาธุ เจริญในธรรมค่ะ

:b41: :b41: :b41: :b47: :b41: :b41: :b41:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ส.ค. 2009, 07:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.พ. 2008, 10:00
โพสต์: 724

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: ปฏิบัติวิปัสสนา
อายุ: 0
ที่อยู่: เกษตร-นวมินทร์ กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


taktay เขียน:
ระยะที่สองก็คล้ายกัน แต่เพิ่มมีหลงคือยกหนอ ยกแค่ส้นเท้า
แล้วก็ย่างไปเลย ก็ต้องปรับใหม่ว่าระยะสาม เป็นแค่ครั้งเดียวค่ะ

ไม่เป็นไร ตรงนี้ใส่ต้นจิตเข้าไปก่อนเดิน คือ ยืนหนอ (๓ครั้ง) อยากเดินหนอ (๓ครั้ง)
ตรงอยากเดินหนอ ให้มีสติว่าอยากเดินและรู้ว่าจะเดินระยะที่เท่าไร เดินอย่างไร จากนั้น
กำหนด ใคร่ครวญหนอ (๓ครั้ง) คือรู้ว่าคิดวิธี จากนั้นปิดระยะใคร่ครวญด้วย รู้หนอ (๓ครั้ง)
คือจิตรู้ว่าคิดและคิดเสร็จแล้วจบแล้ว แล้วจึงเริ่มเดินต่อไป


taktay เขียน:
เดินระยะสี่ ก็หลงอยู่สองครั้ง

นัยเดียวกับข้างบนเลย ใส่ต้นจิต ตั้งสติ (ไม่ต้องรอให้เห็นต้นจิต)

taktay เขียน:
แล้วก็คิดบ้างนิดเดียวพอรู้ปุ๊ป กำหนดครั้งเดียวหาย เป็นสองครั้ง
มีรู้สึกเริ่มปวดขา ปวดข้อศอก ปวดหัว มึนหัว อย่างละนิด กำหนดครั้งเดียวหาย แล้วก็อึดอัด
อยากนั่ง ก็กำหนดไป แล้วก็หมดเวลา แต่ปวดหลังไม่ยอมหาย

ดีแล้ว กำหนดตามที่รับรู้ ไม่ต้อวิ่งหาอารมณ์ อะไรเกิดขึ้น ให้ทันปัจจุบันขณะ
ที่เราคิดว่านิดเดียวนั้น ความจริง ถ้าเรากำหนดไม่ทันท่วงที จะยาวเลย ถ้าเรากำหนดไว
ก็จะโผล่มานิดเดียว


taktay เขียน:
ก็เลยกำหนดหันหนอ แล้วค่อยๆหันไปทางนั้น ไม่ได้ลืมตานะค่ะ ที่ทำเพราะคิดว่าอาจจะเป็นมุมไฟ
แต่ก็ไม่หาย ก็กลับมาที่เห็นหนอต่อ ไม่หายค่ะ แต่ไกลออกไป ก็กลับมาหาพองยุบ เหมือนเดิม
ไปหันตามทำไม จะมุมหรือไม่มุมเรามีหน้าที่รู้เขา ก่อนจะหันและหันไป กิเลสเข้าไปแล้ว
ตรึมเลย
กำหนดรู้อย่างเดียวนะ


taktay เขียน:
เบามากได้แค่สองครึ่ง แล้วก็คิด ครั้งนี้ดีกว่าเมื่อวานเพราะกำหนดครั้งสองครั้งก็หาย
มา แต่มาแบบช้าๆ กำหนดหาย สักสามสี่เรื่องกลับไปหาพองยุบได้ ครั้งนี่้เห็นไม่ค่อยติดแล้ว
นานๆโผล่มาที แล้วจะง่วงหรือเปล่าไม่ทราบ เพราะเมื่อวานเหนื่อยมาก

ข้อนี้ให้ดูว่าพองยุบชัดดีปกติหรือไม่ ถ้าไม่ชัดเจนดีปกติ แสดงว่าจิตหดหู่ เป็นอาการของถีนะมิทธะ
ไม่ถึงกับง่วง แต่หดหู่ ซึมๆ


taktay เขียน:
ปวดหลังมาก กำหนดอย่างไรก็ไม่หาย ออกแล้วก็ยังปวดอยู่ค่ะ

ข้อนี้ต้องขันติแล้ว ในขณะที่เราอดทน จิตเราก็รับรู้อาการไปด้วย รุ้ว่าปวด ไม่ต้องคิดว่ามันปวดอย่างไร
เมื่อสติสมาธิกล้าแล้ว ปวดจะยังมีอยู่ แต่เราจะอยู่กับเขาได้สบาย เพราะเราปฏิบัติไม่หนีทุกข์
แต่เราทำวิธีที่อยู่กับทุกข์ให้ได้ อาการปวดเป็นแค่อาการหยาบๆของทุกขสภาวะเท่านั้น


แนะนำ...ลองทำตามที่แนะเมื่อวานซัก ๒-๓ วันก่อน ที่สำคัญ อย่าตามอารมณ์หรือสภาวะ ให้รู้ว่า
เขามีอยู่เท่านั้นเอง ใส่ใจกำหนด มีสติ สัมปชัญญะ และให้ทันปัจจุบัน วางเฉย

สาธุ ที่ยังยืนยันความเพียรอยู่
จะสู้ทุกข์พ้นทุกข์ ต้องรู้จักทุกข์ให้ได้ก่อนครับ

.....................................................
เอกายโน อยํ ภิกฺขเว มคฺโค สตฺตานํ วิสุทฺธิยา โสกปริเทวานํ สมติกฺกมาย
ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย ญายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย ยทิทํ
จตฺตาโร สติปฏฺฺฐานา ฯ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ส.ค. 2009, 12:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


วันนี้คล้ายเมื่อวานมาก เพียงแต่คิดลดลง ระยะเดินก็
ไม่ค่อยหลงแล้วค่ะ ทั้งสามระยะมีคิดนิดเดียว ระยะที่หนึ่งและสามได้ประมาณเก้าสิบเปอร์เซ็นต์
ระยะสี่คิดมากขึ้น กำหนดครั้งเดียวหาย พอเดินไปสักระยะก็จะแว่บเข้ามา เห็นพื้นนูน
ครั้งหนึ่ง กำหนดประมาณสี่ห้าครั้งถึงหาย ปวดขา ปวดหลัง เจ็บเท้า พอเหยียบหนอ
เท้าซ้ายจะแปล๊บขึ้นมา กำหนดไปตามนั้น ก็มาเป็นระยะค่ะ เดินมีแค่นี้

นั่งเหมือนเดิมทำตามที่อาจารย์แนะนำทุกอย่าง นั่งได้สักประมาณห้านาทีพองยุบกำลัง
สม่ำเสมอ แต่วันนี้พองไม่พองข้าง กลับขึ้นข้างบนน ถ้าเป็นลูกโป่งก็เป็นลูกยาวๆแทนกลมๆ
คือพองไม่สุด ยุบเหมือนเดิมค่อยๆยุบ แล้วก็วูบวาบตามมาวันนี้เป็นแบบผีเสี้อคือพรึ่บพรั่บๆ
สี่ขาวเป็นส่วนมาก กำหนดเห็นหนอไปเรื่อยๆ มีความรู้สึกว่าเข้ามาใกล้ขนาดติดขนตาเลย
ขณะที่กำหนดเห็นหนอ พองยุบก็ชัด ก็เลยกำหนดเห็นขณะที่พอง หนอขณะที่ยุบ ได้สักพัก
ท่ามกลางพรึ่บพรั่บนั้น มีแสงสว่างมาจุดหนึ่งเหมือนดาวบนท้องฟ้าวาบแล้วก็หาย แสงชัดมาก
สว่าง แต่เล็กแค่จุดเดียว กำหนดเห็นหนอ อีกแป๊ปก็มีอีกสองดวง และก็อีกดวงหนึ่งถัดๆกัน
แต่แสงหม่นกว่าครั้งแรก ก็กำหนดเห็นหนอทั้งสองครั้ง กลับมาพองยุบ แสงพรึ่บพรั่บก็ยังมี
อยู่ แต่ไกลๆออกไป คิดยังมีอยู่แว่บมา แว่บไป แต่น้อยลงมาก เห็นมีสองสามครั้งเองค่ะ
ไม่มากแล้ว มีปวดเข่า ปวดขา ปวดหัวมาแทน กำหนดครั้งสองครั้งหาย แต่สลับกันมา
เรื่อยๆ ขาแขนกระตุกนิดเดียวก็รู้สึก วันนี้คิดว่าตามทันเกือบหมด มีบางครั้งไม่ทันเพราะ
ไม่รู้จะเห็นดี หรือจะรู้ดี และปวด หรือเมื่อยดี คือลังเลก็เลยไม่ทันอันอื่นเลยแทรกเข้ามา
อ้อ มีอาการพองหนอ ซ้อนเข้ามา เหมือนเสียงสะท้อน สองครั้ง ครั้งแรกชัด แต่ครั้งที่สอง
จาง ยุบไม่มีค่ะ เหมือนจะง่วง คือพอเรากำหนดยุบหนอ แล้วมันเหมือนหลับไป แต่ก็ทันพอง
พอกำหนดพองปุ๊ปก็มีความรู้สึกเหมือนถูกปลุกให้ตื่น จะสะดุ้งก็ไม่ใช่ ใจหายก็ไม่เชิง
อธิบายไม่ถูกค่ะ เป็นครั้งเดียว ก่อนหมดเวลารู้สึกกระสับกระส่ายอยากออกค่ะ กำหนดไปตาม
นั้นแล้วก็ค่อยๆลืมตา ทุกอย่างที่อาจารย์แนะนำมาปฏิบัติตามหมดทุกอย่างเพียงแต่บาง
ไม่ได้รายงานค่ะ เพราะเห็นว่ารายละเอียดจะเยอะไป วันนี้มีเท่านี้นะค่ะ ถ้านึกอะไรออก
ก็จะเข้ามาเพิ่มเติมค่ะ

อนุโมทนา เจริญในธรรมค่ะ

:b41: :b42: :b41: :b42: :b41:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ส.ค. 2009, 16:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.พ. 2008, 10:00
โพสต์: 724

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: ปฏิบัติวิปัสสนา
อายุ: 0
ที่อยู่: เกษตร-นวมินทร์ กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


taktay เขียน:
เห็นพื้นนูนครั้งหนึ่ง กำหนดประมาณสี่ห้าครั้งถึงหาย
ปวดขา ปวดหลัง เจ็บเท้า พอเหยียบหนอ เท้าซ้ายจะแปล๊บขึ้นมา กำหนดไปตามนั้น
ก็มาเป็นระยะค่ะ เดินมีแค่นี้


แปล๊บอย่างไร แปล๊บตอนไหน ระหว่าง เหยียบกับหนอ

taktay เขียน:
คือพอเรากำหนดยุบหนอ แล้วมันเหมือนหลับไป แต่ก็ทันพอง
พอกำหนดพองปุ๊ปก็มีความรู้สึกเหมือนถูกปลุกให้ตื่น จะสะดุ้งก็ไม่ใช่ ใจหายก็ไม่เชิง
อธิบายไม่ถูกค่ะ เป็นครั้งเดียว


อธิบายหน่อนะว่า มีอาการตอนยุบ หรือ หนอ อาการมันเป็นอย่างไร
ลองค่อยๆอธิบายหน่อย เช่น ตอนที่ว่าเหมือนหลับไปนั้นมันรู้สึกเหมือนหมดสติ
หรือเปล่า ทำนองนี้ หรือเหมือนตกที่สูงวูบลงไปหรือเปล่า แบบนี้อ่ะ ลองค่อยๆนึกดู

ทำไปแบบนี้ก่อนนะ กำลังดี พยายามกำหนดให้ทันปัจจุบัน เท่าที่อ่านๆมา เริ่มจะทันแล้ว
นิมิตที่เห็นก็กำหนดให้แน่วเลย สติ สมาธิ อยู่ที่นั่นเลย อย่าลังเล ไม่ต้องสงสัย กำหนดอย่างเดียว

อาการพองที่ผิดจากปกติไป เป็นอาการที่สติไม่ทันปัจจุบัน ให้หยุดกำหนดพองยุบก่อน รู้สภาวะที่เขา
ผิดแปลกไปก่อน คือหายใจปกติ แล้วสติรุ้ที่ท้องพองแปลกไป บริกรรมว่า รู้หนอๆ คือเรารู้ว่าแปลกไป
เมื่อปกติแล้วกลับมาใหม่นะครับ

ครั้งหน้าถ้ามีอาการเดินนั่งแบบที่อ้างมานี้ ให้แจ้งด้วยว่า พองยุบเห็นระยะไหน
สภาวะตอนนี้คาบเกี่ยวแล้ว ต้องละเอียดหน่อย

อนุโมทนาครับ

.....................................................
เอกายโน อยํ ภิกฺขเว มคฺโค สตฺตานํ วิสุทฺธิยา โสกปริเทวานํ สมติกฺกมาย
ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย ญายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย ยทิทํ
จตฺตาโร สติปฏฺฺฐานา ฯ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 169 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 6, 7, 8, 9, 10, 11, 12  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร