วันเวลาปัจจุบัน 15 ก.ค. 2025, 23:35  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 55 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ส.ค. 2009, 20:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
เมื่อคืนฝึกเดินจงกรมระยะที่ 1 15 นาทีรู้สึกว่า ขณะเดินไม่ค่อยฟุ้งซ่านนะคะ
แต่ก็นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นตอนกลางวันบ้าง มีมาแว้บเดียว ยังไม่ทันกำหนดก็หายไปเอง 1 ครั้ง
แต่บางทีก็ต้องกำหนดว่า "ฟุ้งซ่านหนอๆ" 4-5 ครั้ง จึงจะหาย 5 ครั้ง


นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นตอนกลางวันบ้าง มีมาแว้บเดียว ยังไม่ทันกำหนดก็หายไปเอง


เมื่อสติไว รู้ทันเร็ว ความคิดนั้นๆก็ก็ดับเร็ว รู้ทันดับๆๆๆ รู้เร็วดับเร็ว

อ้างคำพูด:
พอมานั่งแรก ๆ ก็กำหนด "ยุบหนอ" "พองหนอ" ประมาณเกือบ 10 นาที
ไม่เห็นอะไร ไม่มีอะไรเกิดขึ้น


ต่อๆไป จะเหลือแต่พอง-ยุบ กับความรู้ว่า พอง ว่ายุบ แล้วก็เกาะพองยุบไป :b16:


อ้างคำพูด:
หลังจากนั้นก็เห็นพระพุทธรูปครึ่งตัวบน (องค์เดียวกับที่เคยเห็น) ยิ้ม

บางที ก็เห็นพระพุทธรูปปางประทับยืนขนาดเล็ก ตอนแรกก็ยืนเฉยๆ ต่อมา ท่านตีลังกานานประมาณ

5-6 นาที

แล้วก็เห็นพระพุทธรูปปางอุ้มบาตรขนาดเล็กยิ้มน้อย ๆ แล้วยื่นบาตรออกมา เหมือนกับว่า จะให้เรา

เอาเงินใส่บาตร

พร้อมกับมีเสียงผู้ชายหัวเราะว่า "ฮิๆ"

ตอนแรกกำหนดว่า "เห็นหนอ" 3-4 ครั้ง พร้อมกับการอมยิ้ม

แต่พอขำมาก ๆ ก็หัวเราะเลย หัวเราะจนตัวโยน แต่ยังหลับตาและกำหนดว่า "ขำหนอๆ"


เห็นพระพุทธรูปปางประทับยืนขนาดเล็ก ตอนแรกก็ยืนเฉยๆ ต่อมา ท่านตีลังกานานประมาณ 5-6 นาที ฯลฯ


ทั้งหมดเกิดจากความคิดตนเองทั้งนั้นครับ

ไม่ว่าจะเป็นพระพุทธรูปปางใดๆ กำลังยิ้ม ,กำลังหกคะเมนตีลังกา,เสียงหัวเราะ, ฯลฯ
เกิดจากสังขารปรุงแต่งภาพนั้นเสียงนั้นๆขึ้น พูดง่ายๆ ก็เกิดจากความคิดตนเองนั่นเอง

(บริเวณนี้เอง ที่ทำให้นักปฏิบัติบ้านเรา ซึ่งไม่เข้าใจอารมณ์ประมาณนั้น คิดเตลิดไปไหนต่อไหน บ้างก็ไปสวรรค์นิพพาน บ้างก็เพี้ยนถึงกับเข้าโรงพยาบาล บ้างก็เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า บ้างก็ว่าพระพุทธเจ้ามาสอนธรรม บ้างว่ามีอาจารย์มาบอกธรรม บ้างก็ว่า ตนเป็นพระอรหันต์ เพราะเห็นจิตยิ้มๆ ฯลฯ )
:b9: :b32:

ประเด็นนี้ คุณปฏิบัติต่อสิ่งนั้นๆ ถูกต้องแล้ว คือ กำหนดรู้ตามที่มันเป็น
แล้วต่อไปสิ่งที่เห็น จะค่อยๆหมดไป จากการกำหนดรู้ตามที่เห็น ตามที่เป็นนี่แหละครับ



อ้างคำพูด:
นั่งสมาธิคราวนี้ นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อตอนกลางวันบ่อยมาก ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร
แค่ไปเจอคนนู้นคนนี้เท่านั้นเอง กลับนึกถึงมากกว่าทุกวันในช่วงประมาณ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา
ก็กำหนดว่า "คิดถึงหนอ" หรือ "ฟุ้งซ่านหนอ"



ก็ถูกแล้วครับ คิดก็ “คิดหนอ” ฟุ้งซ่านก็ “ฟุ้งซ่านหนอๆๆ” ไปตามเรื่องนั้นๆ รู้สึกอย่างไร
ก็อย่างนั้น


อ้างคำพูด:
เมื่อคืนไม่มีแรงต้านว่า ไม่ต้องกำหนดแล้ว และรู้สึกว่า ตัวกำลังจะพอง
แต่ไม่พองแป๊บหนึ่ง แล้วหายไปไม่กลับมาอีกเลย



เป็นธรรมดา ไม่มีอะไรจิรัง ไม่ว่าจะเป้นแรงต้าน หรือ ความรู้สึกว่าตัวพอง

ก็เหมือนทุกสิ่งอย่างที่ เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ฯลฯ ความคิด (ธรรมารมณ์)
เกิดขึ้น ตั้งอยู่ชั่วขณะ แล้วก็สลายไป ๆๆๆๆๆ


อ้างคำพูด:
และทำสมาธิได้นานประมาณ 30 นาที (ไม่ได้ตั้งนาฬิกาปลุกว่านั่ง 20 นาที) ถึงจะออกจากสมาธิเอง คือ มีอะไรต่าง ๆ เกิดขึ้นแบบที่เล่ามา แต่ไม่ลืมตาเลย
ถ้าจะลืมก็เหมือนฝืน เลยสงสัยว่า ในขณะนั้นว่า ทำไมยังออกจากสมาธิซะที เพราะรู้สึกว่า นานกว่าปกติ แต่มีเมื่อยบ้าง ก็ขยับแข้งขยับขาเอา

ปกติก็ไม่ได้ตั้งนาฬิกาปลุก เพราะเป็นคนตกใจง่ายมากค่ะ
ถ้าตั้งไว้ก็กลัวสมาธิและสติหลุดกะทันหัน จะทำให้กังวลว่าใกล้ถึงเวลารึยัง ถ้านาฬิกาปลุก
ห้ามตกใจนะ



เรื่องเวลา เกี่ยวกับสุขภาพคุณด้วยค่อยๆ ขยับไปทีน้อยๆ เอาสัก ๒๐ นาทีก่อน
ตามที่เคยทำได้ น่าจะดีต่อร่างกายรวมๆ คือ รักษากายไปด้วย ฝึกจิตไปด้วยควบคู่ไปด้วยกัน

นาฬิกา ไม่ต้องตั้งปลุกให้มีดังกริ๋งๆๆๆ ครับ ล๊อกเสียงกริ่งไว้ เอาแค่ดัง แป๊ก พอได้ยิน

หากเป็นกลางคืนบรรยากาศเงียบสงัด เสียงแป๊กก็ยังดัง ก็เอาหมอนหรือผ้าห่มทับอีกชั้นหนึ่ง
เอาแค่พอได้ยินเสียง

เมื่อฝึกพัฒนาจิตอย่างเป็นระบบอย่างนี้ ต่อๆ ไป ครบเวลาก็รู้เอง นาฬิกาก็ไม่จำเป็นอีกแล้ว


อ้างคำพูด:
แต่จะนั่งได้ประมาณ 20 นาที หรือ ขาดเกินนิดหน่อย ทำได้นานกว่าเดิมแต่เปลี่ยนอิริยาบถแบบนี้จะเป็นอะไรไหมคะ


แต่เปลี่ยนอิริยาบถแบบนี้จะเป็นอะไรไหมคะ

ไม่เป็นไรหรอกครับ แต่กำหนด ความคิดที่อยากเปลี่ยนเสียก่อน แล้วก็ค่อยขยับๆก็รู้ว่าขยับ
พูดง่ายๆว่า รู้สึกตัวตลอดว่าคิดอะไร ทำอะไร


อ้างคำพูด:
แล้วก็ไม่มีพระพุทธรูปครึ่งตัวและเสียงผู้ชายพูดว่า "พอแล้ว" ค่ะ


อย่างที่บอก ไม่มีอะไรจิรัง
กำหนดรู้ตามความเป็นจริงแต่ละขณะๆนี่แหละ อุบายวิธีขจัดตัณหาอุปาทาน ช่องทางพ้นทุกข์


อ้างคำพูด:
วันนี้อาการอยากแต่จะนั่งสมาธิ ไม่อยากทำอย่างอื่น หายไปนะคะ


สาธุ :b8: สิ่งทั้งหลาย ทั้งนามธรรมรูปธรรม มีความเกิดขึ้น ตั้งอยู่ สลายไป เป็นธรรมดา
ขณะใดรู้สึกอย่างนั้นอีก ก็กำหนดรู้ไปนะครับ :b16:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ส.ค. 2009, 15:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ค. 2009, 21:22
โพสต์: 264

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบพระคุณที่กรุณาแนะนำค่ะ :b8:

วันนี้นั่งสมาธิตอนสาย เมื่อคืนนอนดึกและง่วงมาก เลยไม่ได้นั่งค่ะ
ไม่ได้เดินจงกรม สวดมนต์เสร็จก็นั่งเลย
กำหนด "ยุบหนอ" "พองหนอ" ประมาณ 2 นาที ก็นึกถึงสิ่งที่เห็นในสมาธิคืนก่อนคือพระพุทธรูปแสดงอาการต่าง ๆ จึงกำหนดว่า "ฟุ้งซ่านหนอๆ" แต่ถ้าได้ยินเสียงข้างนอกห้องคือ เสียงรถมอเตอร์ไซค์ เสียงนก เสียงเปิดประตู เสียงลากของหนัก ๆ ก็กำหนดว่า "ได้ยินหนอ" ความฟุ้งซ่านกับการได้ยินเสียงข้างนอกห้องจะเกิดสลับกันอย่างนี้จนครบ 20 นาที

แต่มีช่วงสั้น ๆ ประมาณ 6 ครั้ง แต่ละครั้งไม่น่าจะถึง 1 นาที ที่ไม่นึกถึงเป็นครั้งแรกอะไรและไม่ได้ยินอะไร จะกำหนด "ยุบ" "พอง" เพราะกำหนด "ยุบหนอ" "พองหนอ" ไม่ทัน และไม่ค่อยรู้สึกว่าหายใจ

และมีบางครั้งที่มัวกำหนด "ยุบ" "พอง" แต่ฟุ้งซ่านหรือได้ยินเสียงข้างนอกห้อง เลยไม่ได้กำหนด "ได้ยินหนอ" หรือ "ฟุ้งซ่านหนอ" พอรู้ตัวก็รีบกำหนด แต่ได้แค่ 2-3 ครั้ง ก็จะหายไป

วันนี้ไม่เห็นอะไรใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ไม่มีความรู้สึกว่าตัวพองหรือจะพองแต่ไม่พองค่ะ

ไม่มีความรู้สึกว่าอยากแต่จะนั่งสมาธิ ไม่อยากทำอย่างอื่น แต่รู้สึกว่าไม่นั่งไม่ได้ ต้องนั่ง

เมื่อครบ 20 นาทีแล้วยังไม่ลืมตา แล้วอธิษฐานแผ่ส่วนกุศลให้คนที่เราเคยทำกรรมชั่วต่อเขา (ไม่อยากใช้คำว่า "เจ้ากรรมนายเวร" ค่ะ) ให้ผู้มีพระคุณ และเทวดาที่รักษาตัวเราและครอบครัว และแผ่เมตตา วันนี้เป็นครั้งแรกที่แผ่ส่วนกุศลและแผ่เมตตาก่อนลืมตาขึ้น รู้สึกว่ามีกระแสความสงบวิ่งเข้าสู่หัวใจ แล้วแผ่ไปทั่วร่างกายและขนลุก เป็นเพราะอะไรคะ
ปกติจะแผ่หลังจากลืมตาแล้ว และรู้สึกเฉย ๆ ค่ะ

ถ้าไม่ได้กรวดน้ำจะเป็นไรไหมคะ

.....................................................
"เราไม่สรรเสริญแม้แต่ความตั้งอยู่ได้ในกุศลธรรมทั้งหลาย ไม่ต้องพูดถึงความเสื่อมถอยจากกุศลธรรมทั้งหลาย
เรายกย่องสรรเสริญอย่างเดียว แต่ความก้าวหน้าต่อไปในกุศลธรรมทั้งหลาย"

(องฺ. ทสก. ๒๔/๕๓/๑๐๑)


แก้ไขล่าสุดโดย รินรส เมื่อ 02 ส.ค. 2009, 15:17, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ส.ค. 2009, 16:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
แต่ถ้าได้ยินเสียงข้างนอกห้อง คือ เสียงรถมอเตอร์ไซค์ เสียงนก เสียงเปิดประตู เสียงลากของหนัก ๆ ก็กำหนดว่า "ได้ยินหนอ" ความฟุ้งซ่านกับการได้ยินเสียงข้างนอกห้องจะเกิดสลับกันอย่างนี้จนครบ 20 นาที


เสียงข้างนอก เช่นเสียงรถ เสียงนก เสียงคนเปิด-ปิดประตู่ ฯลฯ เสียงหนอ ๆ กำหนดที่หูเรา
เสียงหนอๆ กำหนดรู้แล้วๆ กัน มาพองหนอ ยุบหนอ นั่งหนอ ต่อไป

เมื่อมีเสียงกระทบอีก จิตไปสนใจเสียงนั้นอีก เสียงหนอๆๆอีก จบ
มาพองยุบ ต่อไป
ไม่ตามเสียงนั้นๆ หรือกำหนดรู้จนเสียงนั้นๆหยุดไปนะครับ เขาจะหยุดหรือไม่หยุดเรื่องของเขา
เราได้ยินกำหนด ไม่ได้ยินก็ไม่ต้อง ตามดูรู้ทันอารมณ์กรรมฐาน คือ พองยุบไป
สังเกตการพองขึ้นยุบลงเงียบๆ

บางครั้งรู้สึกรำคาญเสียงนั้น “รำคาญหนอๆ” กำหนดรู้ตามนั้นจบ พองหนอ ยุบหนอ ต่อไป


อ้างคำพูด:
แต่มีช่วงสั้น ๆ ประมาณ 6 ครั้ง แต่ละครั้งไม่น่าจะถึง 1 นาที ที่ไม่นึกถึงเป็นครั้งแรกอะไรและไม่ได้ยินอะไร จะกำหนด "ยุบ" "พอง" เพราะกำหนด "ยุบหนอ" "พองหนอ" ไม่ทัน และไม่ค่อยรู้สึกว่าหายใจ
และมีบางครั้งที่มัวกำหนด "ยุบ" "พอง" แต่ฟุ้งซ่านหรือได้ยินเสียงข้างนอกห้อง เลยไม่ได้กำหนด "ได้ยินหนอ" หรือ "ฟุ้งซ่านหนอ" พอรู้ตัวก็รีบกำหนด แต่ได้แค่ 2-3 ครั้ง
ก็จะหายไป

ดังกล่าวข้างต้นครับ ข้างนอกไม่ได้ยินก็ไม่ต้องกำหนด หน้าที่เรา คือ ตามรู้ดูทันกรรมฐานคือพองยุบ
กับความรู้สึกข้างใน ข้างนอกไม่ใช่หลัก


อ้างคำพูด:
วันนี้ไม่เห็นอะไรใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ไม่มีความรู้สึกว่า ตัวพองหรือจะพองแต่ไม่พองค่ะ


พองกับยุบเป็นหลัก ความรู้สึกว่า ตัวพอง มีแล้วก็หมด ไม่จิรัง ไม่แน่นอน เป็นเพียงความรู้สึก
เมื่อสติสัมปชัญญะชัดเจนขึ้น จะไม่มีตัวพองให้เห็นอีก


อ้างคำพูด:
ไม่มีความรู้สึกว่าอยากแต่จะนั่งสมาธิ ไม่อยากทำอย่างอื่น แต่รู้สึกว่า ไม่นั่งไม่ได้ ต้องนั่ง

คิดอย่างไร รู้สึกอย่างไร กำหนดจิตลงไปอย่างนั้น ตรงที่รู้สึกก่อน แล้วพองหนอ ยุบหนอต่อไป



อ้างคำพูด:
เมื่อครบ 20 นาทีแล้วยังไม่ลืมตา แล้วอธิษฐานแผ่ส่วนกุศลให้คนที่เราเคยทำกรรมชั่วต่อเขา (ไม่อยากใช้คำว่า "เจ้ากรรมนายเวร" ค่ะ) ให้ผู้มีพระคุณ และเทวดาที่รักษาตัวเราและครอบครัว และแผ่เมตตา
วันนี้เป็นครั้งแรกที่แผ่ส่วนกุศลและแผ่เมตตาก่อนลืมตาขึ้น รู้สึกว่ามีกระแสความสงบวิ่งเข้าสู่หัวใจ แล้วแผ่ไปทั่วร่างกายและขนลุก เป็นเพราะอะไรคะ
ปกติจะแผ่หลังจากลืมตาแล้ว และรู้สึกเฉย ๆ ค่ะ


แผ่ไปทั่วร่างกายและขนลุก เป็นเพราะอะไรคะ


เพราะปีติครับ ไม่เสียหาย ให้กำหนดด้วย “ขนลุกหนอๆๆ”


อ้างคำพูด:
ถ้าไม่ได้กรวดน้ำจะเป็นไรไหมคะ


ไม่เป็นไรหรอกครับ แผ่เมตตาแล้วก็เหมือนกรวดน้ำนั่นเอง

สาธุๆๆ :b8:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ส.ค. 2009, 11:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ค. 2009, 21:22
โพสต์: 264

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบพระคณค่ะ tongue โดยเฉพาะตรงนี้

กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
แต่ถ้าได้ยินเสียงข้างนอกห้อง คือ เสียงรถมอเตอร์ไซค์ เสียงนก เสียงเปิดประตู เสียงลากของหนัก ๆ ก็กำหนดว่า "ได้ยินหนอ" ความฟุ้งซ่านกับการได้ยินเสียงข้างนอกห้องจะเกิดสลับกันอย่างนี้จนครบ 20 นาที


เสียงข้างนอก เช่นเสียงรถ เสียงนก เสียงคนเปิด-ปิดประตู่ ฯลฯ เสียงหนอ ๆ กำหนดที่หูเรา
เสียงหนอๆ กำหนดรู้แล้วๆ กัน มาพองหนอ ยุบหนอ นั่งหนอ ต่อไป

เมื่อมีเสียงกระทบอีก จิตไปสนใจเสียงนั้นอีก เสียงหนอๆๆอีก จบ
มาพองยุบ ต่อไป
ไม่ตามเสียงนั้นๆ หรือกำหนดรู้จนเสียงนั้นๆหยุดไปนะครับ เขาจะหยุดหรือไม่หยุดเรื่องของเขา เราได้ยินกำหนด ไม่ได้ยินก็ไม่ต้อง ตามดูรู้ทันอารมณ์กรรมฐาน คือ พองยุบไป
สังเกตการพองขึ้นยุบลงเงียบๆ

บางครั้งรู้สึกรำคาญเสียงนั้น “รำคาญหนอๆ” กำหนดรู้ตามนั้นจบ พองหนอ ยุบหนอ ต่อไป



:b9: สงสัยเรื่องการกำหนดจิตตามเสียงข้างนอกตั้งแต่ยังไม่เข้ามาเว็บนี้แล้วค่ะ ว่าถ้าเสียงไม่หยุดซะทีจะทำยังไง แต่ส่วนมากจะนั่งตอนกลางคืน เลยไม่กังวล

วันนี้นั่งสมาธิตอนเช้า คนเขาจะไปเรียน ไปทำงานกัน เสียงรถดังกว่าเมื่อวาน และมีเสียงอื่น ๆ เยอะกว่าเดิม แรก ๆ กังวลว่าวันนี้จะไหวไหมนี่? แต่ก็กำหนดว่า "เสียงหนอ ๆ" 2-3 ครั้ง แล้วกลับมา "ยุบหนอ" "พองหนอ" ต่อ เสียงรถดังต่อเนื่องกันประมาณ 10 นาที และมีเสียงอื่นแทรก ต้องพยายามมากเลย

หลังจากนั้นเริ่มมีสมาธิมากขึ้น บางช่วงจะไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย มี 2-3 ครั้ง ที่ได้ยินแต่ไม่รำคาญ และกลับมา "ยุบหนอ" "พองหนอ" เอง แต่มี 2-3 ครั้งที่รำคาญ จึงกำหนดว่า "รำคาญหนอๆ"

พอเหลือเวลาอีก 3-4 นาที เห็นเศียรพระพุทธรูปองค์หนึ่งค่อย ๆ เลื่อนเข้ามาใกล้ตัว กำหนดว่า "เห็นหนอ ๆ" 2-3 ครั้ง และไม่กลับมาอีกเลย และมีฟุ้งซ่าน 2-3 ครั้ง ก็กำหนดจิตตาม ต่อมารู้สึกว่าตัวลอยเหนือจากพื้นนิดหนึ่ง ลอยไปสู่ที่ ๆ มีเเสงสีขาวส่องเข้ามา เหมือนถูกดูดให้ลอยเข้าไป และมีความสุข ก็กำหนดว่า "ตัวลอยหนอ ๆ" แม้จะครบ 20 นาทีแล้ว ตอนแผ่ส่วนกุศลและแผ่เมตตายังรู้สึกว่าตัวลอยและมีความสุข ออกจากสมาธิพักหนึ่งจึงจะหาย

คุณกรัชกายคะ ขอประทานโทษนะคะ หนูอยากทราบว่าคุณปฏิบัติตามคำสอนของพระอาจารย์ท่านใด และคุณอยู่จังหวัดอะไรหรือประเทศอะไรคะ

.....................................................
"เราไม่สรรเสริญแม้แต่ความตั้งอยู่ได้ในกุศลธรรมทั้งหลาย ไม่ต้องพูดถึงความเสื่อมถอยจากกุศลธรรมทั้งหลาย
เรายกย่องสรรเสริญอย่างเดียว แต่ความก้าวหน้าต่อไปในกุศลธรรมทั้งหลาย"

(องฺ. ทสก. ๒๔/๕๓/๑๐๑)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ส.ค. 2009, 12:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
คุณกรัชกายคะ ขอประทานโทษนะคะ หนูอยากทราบว่าคุณปฏิบัติตามคำสอนของพระอาจารย์ท่านใด และคุณอยู่จังหวัดอะไรหรือประเทศอะไรคะ


ชื่อพระอาจารย์ :b8: เคยมีคนถามก่อนหน้าคุณรินรสคนหนึ่ง

กรัชกายบอกเค้าว่า บอกชื่อไปคุณก็ไม่รู้จัก เพราะพระอาจารย์ไม่มีชื่อเสียงโด่งดังอะไร
นอกจากในวงศิษย์จริงๆ และได้บอกเค้าว่า พระอาจารย์ท่านไปสวรรค์แล้วครับ

อยู่ประเทศไทยที่ประชาชนกำลังแบ่งข้างแบ่งขั่วเป็นเหลือง-แดง-น้ำเงิน อยู่ในปัจจุบันนี่เองครับ :b16:


ปล.ขอโทษคุณรินรสนะครับ ปรารภให้ฟังเฉยๆ ธรรมะเมื่อปฏิบัติถูกธรรมแล้ว จะไม่มีของอาจารย์นั่น
อาจารย์นี่ขอรับ เพราะธรรมะหรือธรรมชาติมีเพียงหนึ่งเท่านั้น :b8: :b20:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ส.ค. 2009, 13:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ค. 2009, 21:22
โพสต์: 264

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
คุณกรัชกายคะ ขอประทานโทษนะคะ หนูอยากทราบว่าคุณปฏิบัติตามคำสอนของพระอาจารย์ท่านใด และคุณอยู่จังหวัดอะไรหรือประเทศอะไรคะ


ชื่อพระอาจารย์ :b8: เคยมีคนถามก่อนหน้าคุณรินรสคนหนึ่ง

กรัชกายบอกเค้าว่า บอกชื่อไปคุณก็ไม่รู้จัก เพราะพระอาจารย์ไม่มีชื่อเสียงโด่งดังอะไร
นอกจากในวงศิษย์จริงๆ และได้บอกเค้าว่า พระอาจารย์ท่านไปสวรรค์แล้วครับ

อยู่ประเทศไทยที่ประชาชนกำลังแบ่งข้างแบ่งขั่วเป็นเหลือง-แดง-น้ำเงิน อยู่ในปัจจุบันนี่เองครับ :b16:


ปล.ขอโทษคุณรินรสนะครับ ปรารภให้ฟังเฉยๆ ธรรมะเมื่อปฏิบัติถูกธรรมแล้ว จะไม่มีของอาจารย์นั่น
อาจารย์นี่ขอรับ เพราะธรรมะหรือธรรมชาติมีเพียงหนึ่งเท่านั้น :b8: :b20:



หนูเองไม่ได้ติดใจสงสัยอะไรหรอกค่ะ ถ้าติดใจสงสัยคงถามตั้งแต่รู้สึกตัวพองแรก ๆ แล้ว แต่มีคนคิดว่าหนูคุยกับใครก็ไม่รู้
ถ้าเขาถามอีก คงต้องตอบตามที่คุณกรัชกายตอบมา

อาการที่เกิดขึ้นวันนี้หมายถึงดีขึ้นหรือแย่ลงคะ รบกวนคุณกรัชกายช่วยแนะนำหน่อยค่ะ :b8:

.....................................................
"เราไม่สรรเสริญแม้แต่ความตั้งอยู่ได้ในกุศลธรรมทั้งหลาย ไม่ต้องพูดถึงความเสื่อมถอยจากกุศลธรรมทั้งหลาย
เรายกย่องสรรเสริญอย่างเดียว แต่ความก้าวหน้าต่อไปในกุศลธรรมทั้งหลาย"

(องฺ. ทสก. ๒๔/๕๓/๑๐๑)


แก้ไขล่าสุดโดย รินรส เมื่อ 03 ส.ค. 2009, 18:25, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ส.ค. 2009, 13:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
วันนี้นั่งสมาธิตอนเช้า คนเขาจะไปเรียน ไปทำงานกัน เสียงรถดังกว่าเมื่อวาน และมีเสียงอื่น ๆ เยอะกว่าเดิม แรก ๆ กังวลว่า วันนี้จะไหวไหมนี่? แต่ก็กำหนดว่า "เสียงหนอ ๆ" 2-3 ครั้ง แล้วกลับมา "ยุบหนอ" "พองหนอ" ต่อ เสียงรถดังต่อเนื่องกันประมาณ 10 นาที และมีเสียงอื่นแทรก ต้องพยายามมากเลย
หลังจากนั้นเริ่มมีสมาธิมากขึ้น บางช่วงจะไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย มี 2-3 ครั้ง ที่ได้ยินแต่ไม่รำคาญ และกลับมา "ยุบหนอ" "พองหนอ" เอง แต่มี 2-3 ครั้งที่รำคาญ จึงกำหนดว่า "รำคาญหนอๆ"



ติดตามพองยุบ กับความรู้สึกไป

สิ่งที่เห็น ได้ยิน ก็กำหนดไปตามนั้น
เมื่อไม่เห็น ไม่ได้ยิน ก็ไม่ต้อง ดูกรรมฐานคือพอง ยุบ กับความคิดต่อไปเงียบๆ
ให้เหมือนอยู่คนเดียวในโลก

อ้างคำพูด:
พอเหลือเวลาอีก 3-4 นาที เห็นเศียรพระพุทธรูปองค์หนึ่งค่อย ๆ เลื่อนเข้ามาใกล้ตัว กำหนดว่า "เห็นหนอ ๆ" 2-3 ครั้ง และไม่กลับมาอีกเลย



สติสัมปชัญญะสมาธิ เป็นต้น ชัดขึ้นหนักแน่นขึ้นกว่าแต่ก่อนมากแล้ว
แม้ยังอ่อนๆ ช่วง ๓-๔ นาทีสุดท้าย
สาธุๆ :b8: เพียรกำหนดต่อไป

อ้างคำพูด:
และมีฟุ้งซ่าน 2-3 ครั้ง ก็กำหนดจิตตาม ต่อมารู้สึกว่า ตัวลอยเหนือจากพื้นนิดหนึ่ง ลอยไปสู่ที่ ๆ มีเเสงสีขาวส่องเข้ามา เหมือนถูกดูดให้ลอยเข้าไป และมีความสุข ก็กำหนดว่า "ตัวลอยหนอ ๆ" แม้จะครบ 20 นาทีแล้ว ตอนแผ่ส่วนกุศลและแผ่เมตตายังรู้สึกว่าตัวลอยและมีความสุข ออกจากสมาธิพักหนึ่งจึงจะหาย



ถูกต้องครับ รู้สึกว่า ตัวลอย “ตัวลอยหนอๆๆ”
รู้สึกเป็นสุข “สุขหนอๆๆๆ” :b12:

จะสุขจะทุกข์ก็เรื่องของธรรมชาติ เรื่องของเหตุปัจจัยที่พอเหมาะพอดีที่ให้เป็นเช่นนั้นมันก็เป็น
หมดเหตุปัจจัยดังวาก็ดับ ก็ไม่เป็นเช่นนั้น
สรรพสิ่งเกิดจากเหตุปัจจัย
หมั่นกำหนดอารมณ์ต่อไป :b8:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ส.ค. 2009, 13:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
อาการที่เกิดขึ้นวันนี้หมายถึงดีขึ้นหรือแย่ลงคะ รบกวนคุณกรัชกายช่วยแนะนำหน่อยค่ะ

ตอบแล้ว คห.บน ดีขึ้นครับ :b16:

ขอแนะนำคุณรินเพิ่มเติมว่า คุณย้อนกลับไปทบทวน สภาวะที่ปรากฏกับคุณจาก คห. ข้างต้นก็ได้ไล่ๆ

มาแล้วเทียบเคียง กับความรู้สึกนึกคิดตนตอนนั้นกับขณะนี้สิว่า แตกต่างกับก่อนปฏิบัติกรรมฐานไหม อย่างไร

เช่น เมื่อรับอารมณ์ทางตา ทางหู ฯลฯ ทางใจ สติเกิดไว สัมปชัญญะรู้เท่ารู้ทันความคิดกว่าแต่ก่อนไหม

แล้วความมั่นคงทางอารมณ์เป็นยังไง ตัดอารมณ์ได้เร็วขึ้นไหม

หรือ ยังหวั่นไหวเหมือนเดิมหรือว่าแย่กว่าก่อนหน้า

การดำรงชีวิตในปัจจุบันนี่แหละ ตัววัดใช้สอบอารมณ์สอบความก้าวหน้าการปฏิบัติธรรมของเราขอรับ :b1:



อ้างคำพูด:

แต่มีคนคิดว่า หนูคุยกับใครก็ไม่รู้

ถ้าเขาถามอีก คงต้องตอบตามที่คุณกรัชกายตอบมา


(เขาคิดแล้วถามหรอครับ)

หากเขาถามอีก ก็ให้เขาเองนั่นแหละอ่าน คห. ที่กรัชกายตอบคุณไป

โดยบอกเค้าอีกวา หนูก็ไม่รู้เหมือนกันว่า เขาเป็นใคร แต่เขาแก้ปัญหาการปฏิบัติกรรมฐานให้หนูได้
เท่านี้น่าจะพอแล้วมิใช่หรือคะ :b12:


ส่วนตัวกรัชกายเองก็ไม่ได้หวังอะไร เพียงคิดว่า ได้ตอบแทนพระคุณอาจารย์และพระพุทธศาสนาก็สุขใจ
แล้วล่ะขอรับ :b16:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 03 ส.ค. 2009, 17:37, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ส.ค. 2009, 17:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ค. 2009, 21:22
โพสต์: 264

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ขอแนะนำคุณรินเพิ่มเติมว่า คุณย้อนกลับไปอ่านทบทวน สิ่งที่ปรากฏกับคุณ คห. ข้างต้นแล้วเทียบเคียง ความรู้สึกตนเองตอนนั้นกับตอนนี้สิครับ ว่าแตกต่างกันอย่างไร เมื่อกระทบอารมณ์ทางตา ทางหู ฯลฯ ทางใจ (ธรรมารมณ์) รู้เท่ารู้ทันกว่าแต่ก่อนไหม หรือ ยังหวั่นไหวแย่กว่าเดิม นั่นแหละครับตัววัดการปฏิบัติธรรมของเรา


:b31: ตอนนี้กำลังทบทวนอยู่ค่ะ

:b10: ภาพ แสง และเสียงที่เห็นและได้ยินระหว่างการปฏิบัติ เป็นนิมิตใช่ไหมคะ นิมิตมากเท่าใดหมายถึงกิเลสของเรามากเท่านั้นหรือคะ



อ้างคำพูด:
แต่มีคนคิดว่า หนูคุยกับใครก็ไม่รู้


ตอนแรกเล่าให้เขาฟังค่ะว่าคุยในเว็บบอร์ด
เขาเลยพูดว่าคุยกับใครก็ไม่รู้ ถามสิว่าเป็นใคร เรื่องเป็นอย่างงี้ค่ะ :b1:

.....................................................
"เราไม่สรรเสริญแม้แต่ความตั้งอยู่ได้ในกุศลธรรมทั้งหลาย ไม่ต้องพูดถึงความเสื่อมถอยจากกุศลธรรมทั้งหลาย
เรายกย่องสรรเสริญอย่างเดียว แต่ความก้าวหน้าต่อไปในกุศลธรรมทั้งหลาย"

(องฺ. ทสก. ๒๔/๕๓/๑๐๑)


แก้ไขล่าสุดโดย รินรส เมื่อ 03 ส.ค. 2009, 17:50, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ส.ค. 2009, 18:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ภาพและเสียงที่เห็นและได้ยินระหว่างการปฏิบัติ เป็นนิมิตใช่ไหมคะ นิมิตมากเท่าใดหมายถึงกิเลสของเรามากเท่านั้นหรือคะ



เข้าใจถูกแล้วครับ เป็นกิเลส สังเกตดูครับ เมื่อสติเป็นต้นตามกำหนดนามรูปได้เร็ว (คือรู้สึกตัวเร็ว)
นิมิตก็ดับวูบไป ทั้งจะถูกขจัดหมดไปในที่สุด (ของเสีย)
ความคิดก็ดับเร็ว พอรู้ดับๆๆๆ (ความคิดล้วน ๆ ก็ทำหน้าที่ของมันอยู่)

การเคลื่อนไหวกาย และ ความคิดจะปลอดโปร่งโล่งเบา


คุณรินศึกษาหลักการสติปัฏฐานที่หัวข้อเหล่านี้ น่าจะเข้าใจการปฏิบัติกรรมฐานแนวนี้เพิ่มขึ้น

ลิงค์นี้

viewtopic.php?f=2&t=21861&st=0&sk=t&sd=a


ตามหัวข้อเหล่านี้ขอรับ =>

-บทบาทสติในกระบวนการกำจัดอาสวกิเลส

-ผลของการปฏิบัติ

-เหตุใดสติตามทันขณะปัจจุบันจึงเป็นหลักสำคัญของวิปัสสนา

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ส.ค. 2009, 18:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ตอนแรกเล่าให้เขาฟังค่ะว่าคุยในเว็บบอร์ด
เขาเลยพูดว่า คุยกับใครก็ไม่รู้ ถามสิว่าเป็นใคร เรื่องเป็นอย่างงี้ค่ะ



หากเขาถามอีกนะขอรับ คุณรินก็ให้เขาอ่าน คห.เอง :b12:

แต่ช่วงนี้ไม่มีอะไรแล้ว กรัชกายขอฟังเพลงขั้นจังหวะนะขอรับ

http://www.imeem.com/fairypla/music/b-H ... arsha-ost/

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ส.ค. 2009, 18:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ค. 2009, 21:22
โพสต์: 264

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณที่แนะนำค่ะ :b8:

ขอประทานโทษที่รบกวนทุกวันคุณกรัชกายมา 2 อาทิตย์กว่าแล้ว :b7:


กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
ตอนแรกเล่าให้เขาฟังค่ะว่าคุยในเว็บบอร์ด
เขาเลยพูดว่า คุยกับใครก็ไม่รู้ ถามสิว่าเป็นใคร เรื่องเป็นอย่างงี้ค่ะ



หากเขาถามอีกนะขอรับ คุณรินก็ให้เขาอ่าน คห.เอง :b12:


คิดว่าเข้าใจผิดเลยชี้แจงเท่านั้นเองค่ะ :b8:

กรัชกาย เขียน:
แต่ช่วงนี้ไม่มีอะไรแล้ว กรัชกายขอฟังเพลงขั้นจังหวะนะขอรับ

http://www.imeem.com/fairypla/music/b-H ... arsha-ost/


แค่ประโยคแรกของเพลงก็เข้าใจแล้วค่ะ :b8:

.....................................................
"เราไม่สรรเสริญแม้แต่ความตั้งอยู่ได้ในกุศลธรรมทั้งหลาย ไม่ต้องพูดถึงความเสื่อมถอยจากกุศลธรรมทั้งหลาย
เรายกย่องสรรเสริญอย่างเดียว แต่ความก้าวหน้าต่อไปในกุศลธรรมทั้งหลาย"

(องฺ. ทสก. ๒๔/๕๓/๑๐๑)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ส.ค. 2009, 19:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


รินรส เขียน:
ขอบพระคุณที่กรุณาแนะนำค่ะ :b8:

วันนี้นั่งสมาธิตอนสาย เมื่อคืนนอนดึกและง่วงมาก เลยไม่ได้นั่งค่ะ
ไม่ได้เดินจงกรม สวดมนต์เสร็จก็นั่งเลย
กำหนด "ยุบหนอ" "พองหนอ" ประมาณ 2 นาที ก็นึกถึงสิ่งที่เห็นในสมาธิคืนก่อนคือพระพุทธรูปแสดงอาการต่าง ๆ จึงกำหนดว่า "ฟุ้งซ่านหนอๆ" แต่ถ้าได้ยินเสียงข้างนอกห้องคือ เสียงรถมอเตอร์ไซค์ เสียงนก เสียงเปิดประตู เสียงลากของหนัก ๆ ก็กำหนดว่า "ได้ยินหนอ" ความฟุ้งซ่านกับการได้ยินเสียงข้างนอกห้องจะเกิดสลับกันอย่างนี้จนครบ 20 นาที

แต่มีช่วงสั้น ๆ ประมาณ 6 ครั้ง แต่ละครั้งไม่น่าจะถึง 1 นาที ที่ไม่นึกถึงเป็นครั้งแรกอะไรและไม่ได้ยินอะไร จะกำหนด "ยุบ" "พอง" เพราะกำหนด "ยุบหนอ" "พองหนอ" ไม่ทัน และไม่ค่อยรู้สึกว่าหายใจ

และมีบางครั้งที่มัวกำหนด "ยุบ" "พอง" แต่ฟุ้งซ่านหรือได้ยินเสียงข้างนอกห้อง เลยไม่ได้กำหนด "ได้ยินหนอ" หรือ "ฟุ้งซ่านหนอ" พอรู้ตัวก็รีบกำหนด แต่ได้แค่ 2-3 ครั้ง ก็จะหายไป

วันนี้ไม่เห็นอะไรใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ไม่มีความรู้สึกว่าตัวพองหรือจะพองแต่ไม่พองค่ะ

ไม่มีความรู้สึกว่าอยากแต่จะนั่งสมาธิ ไม่อยากทำอย่างอื่น แต่รู้สึกว่าไม่นั่งไม่ได้ ต้องนั่ง

เมื่อครบ 20 นาทีแล้วยังไม่ลืมตา แล้วอธิษฐานแผ่ส่วนกุศลให้คนที่เราเคยทำกรรมชั่วต่อเขา (ไม่อยากใช้คำว่า "เจ้ากรรมนายเวร" ค่ะ) ให้ผู้มีพระคุณ และเทวดาที่รักษาตัวเราและครอบครัว และแผ่เมตตา วันนี้เป็นครั้งแรกที่แผ่ส่วนกุศลและแผ่เมตตาก่อนลืมตาขึ้น รู้สึกว่ามีกระแสความสงบวิ่งเข้าสู่หัวใจ แล้วแผ่ไปทั่วร่างกายและขนลุก เป็นเพราะอะไรคะ
ปกติจะแผ่หลังจากลืมตาแล้ว และรู้สึกเฉย ๆ ค่ะ

ถ้าไม่ได้กรวดน้ำจะเป็นไรไหมคะ





ขอโทษด้วยค่ะ ที่มาแทรกนิดนึง ...

หายใจเข้าท้องพอง กำหนด พองหนอ หายใจออก ท้องแฟ่บ กำหนด ยุบหนอ

ต้องกำหนดพองหนอ ยุบหนอ พอง ยุบ ..

ถ้ากำหนดถูกแต่ตัวหนังสือเขียนมาผิด ฝึกนะคะ ฝึกใช้ตัวหนังสือให้ตรงกับสภาวะค่ะ

อนุโมทนาในความเพียรค่ะ :b8:

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ส.ค. 2009, 19:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ขอประทานโทษที่รบกวนทุกวันคุณกรัชกายมา 2 อาทิตย์กว่าแล้ว



คุณรินรสครับ กรัชกายไม่ถือเป็นการรบกวนนะขอรับ เพราะได้ตั้งเจตนาไว้แต่ต้นแล้วว่า จะให้คำแนะนำ

ผู้ปฏิบัติกรรมฐานเช่นนี้ๆ เท่าที่จะทำได้ คือ อยู่ตรงนี้ (ถ้าไม่อยู่ก็แล้วไป)

เพราะได้เห็นได้สัมผัส ผู้ปฏิบัติภาวนาตามเวปบอร์ดหลายๆแห่งแล้ว เกิดปัญหามากมาย แล้วสงสาร

บางรายได้รับผลกระทบจากการภาวนาแล้วสภาวธรรมหลากหลายรูปแบบปรากฏ แล้วแก้ไขไม่ได้ถึงกับต้องเข้า

โรงพยาบาล เพราะผู้ที่ตั้งตนเป็นวิปัสสนาจารย์ หรือ จะเรียกว่าอะไรสุดแล้วแต่ ไม่เข้าใจสภาวะเช่นนั้นๆ

หรือ ผู้ปฏิบัติเองก็ไม่เข้าใจ คิดเตลิดหลงอารมณ์ไปไหนต่อไหน บางคนหลงหลุดโลกไปก็มี

กรัชกายเฝ้าดูมาตั้งแต่ต้น

เอาเป็นว่า สำหรับคุณรินรส กรัรชกายขอปวารณาตัวให้คำปรึกษาเท่าที่มีเท่าที่เป็น

คุณปฏิบัติไปตามแนวทางที่ให้คำแนะนำไป คิดอย่างไรกำหนดไปอย่างนั้น มีอาการอยาง่ไรก็กำหนดอย่างนั้น

ตามอาการ และคิดว่า คุณพอเข้าใจบ้างแล้วต่อไปอีก แต่เมื่อมีปัญหาอะไรข้องขัด

ถามได้อีกได้นะขอรับ จะตั้งกระทู้ถามโดยตรงก็ได้ หรือถามที่นี่ก็ได้ :b16: :b12:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ส.ค. 2009, 19:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ขอโทษด้วยค่ะ ที่มาแทรกนิดนึง ...

หายใจเข้าท้องพอง กำหนด พองหนอ หายใจออก ท้องแฟ่บ กำหนด ยุบหนอ

ต้องกำหนดพองหนอ ยุบหนอ พอง ยุบ ..

ถ้ากำหนดถูกแต่ตัวหนังสือเขียนมาผิด ฝึกนะคะ ฝึกใช้ตัวหนังสือให้ตรงกับสภาวะค่ะ

อนุโมทนาในความเพียรค่ะ



เหงาหรอทูลหัว :b9: :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 03 ส.ค. 2009, 19:54, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 55 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร