ในอดีตกาล
พระโพธิสัตว์เป็นอำมาตย์ผู้สอนธรรมของพระเจ้าพาราณสี
พระเจ้าพาราณสีได้ยกกองทัพใหญ่เสด็จไปนครสาวัตถี จับพระเจ้าโกศลได้แล้วยึดนครสาวัตถีไว้
ทรงตั้งข้าหลวงคอยดูแล แล้วขนทรัพย์สมบัติกลับกรุงพาราณสี
บรรจุไว้ในตุ่มโลหะแล้วฝังไว้ในพระราชอุทยาน
ฉัตตกุมารซึ่งเป็นโอรสของพระเจ้าโกศล
เสด็จหนีไปเมืองตักกสิลา เรียนศิลปวิทยา แล้วเสด็จจาริกไปถึงชนบทแห่งหนึ่ง
พบดาบส ๕๐๐ รูป จึงบวชเป็นดาบส แล้วเรียนความรู้ของดาบสเหล่านั้นได้หมด
ต่อมา ก็ได้เป็นศาสดาในคณะ จึงชวนพวกดาบสออกจากชนบท
จาริกไปจนถึงเมืองพาราณสี พักที่พระราชอุทยาน รุ่งขึ้นได้เข้าไปภิกขาจารในเมือง
พระเจ้าพาราณสีทอดพระเนตรเห็นดาบสเหล่านั้น
ทรงเลื่อมใส จึงให้นิมนต์ มาที่ท้องพระโรง ถวายภัตตาหาร
แล้วตรัสถามปัญหาต่างๆ ฉัตตดาบสก็แก้ได้หมด หลังภัตกิจก็กระทำอนุโมทนาอันวิจิตรงดงาม
พระราชทรงเลื่อมใสยิ่งขึ้น และโปรดให้พวกดาบสอยู่ในพระราชอุทยานได้
ฉัตตดาบสสืบรู้ว่าทรัพย์ฝังอยู่ในพระราชอุทยาน
จึงบอกความจริงให้พวกดาบสทราบ และขอให้พวกดาบสสึกออกมาช่วยกู้ราชสมบัติของตน
พวกดาบสก็ยินดี จากนั้นก็ช่วยกันขุดตุ่มทรัพย์ขึ้นมา
เอาทรัพย์ใส่กระสอบหนัง เอาหญ้าใส่ในตุ่มแทน แล้วรีบหนีไปนครสาวัตถีพร้อมด้วยทรัพย์
จับพวกข้าหลวงแล้วยึดราชสมบัติคืน
เมื่อพระเจ้าพาราณสีทรงทราบข่าวก็เสด็จไปที่พระราชอุทยาน
รับสั่งให้เปิดตุ่มทรัพย์ ทรงเห็นแต่หญ้าเท่านั้น ท้าวเธอทรงเศร้าโศกอย่างใหญ่หลวงเพราะทรัพย์เป็นเหตุ
เสด็จกลับพระนครแล้ว ทรงบ่นเพ้ออยู่ว่า หญ้า หญ้า
วันหนึ่ง
เมื่อพระราชาทรงบ่นเพ้อ พระโพธิสัตว์จึงกล่าวว่า พระองค์ตรัสเพ้ออยู่ว่า
หญ้า หญ้า ใครหนอนำเอาหญ้ามาถวายพระองค์ พระองค์มีกิจด้วยหญ้าหรือ
จึงตรัสถึงแต่หญ้าเท่านั้น
พระราชาตรัสว่า
ฉัตตฤษีผู้มีร่างกายสูงใหญ่ เป็นพรหมจารี เป็นพหูสูต
มาอยู่ ณ ที่นี้ เขาลักทรัพย์ของเราจนหมด ใส่หญ้าไว้ในตุ่มแทนทรัพย์
แล้วหนีไป
พระโพธิสัตว์กล่าวว่า
การถือเอาทรัพย์ของตนไปจนหมด และการไม่ถือ เอาหญ้า เป็นกิจที่ผู้ปรารถนาเอาของน้อยมาแลกของมาก
พึงกระทำอย่างนั้น ฉัตตฤษีใส่หญ้าในตุ่มแล้วหนีไป การร่ำไรรำพันในเรื่องนั้นจะมีประโยชน์อะไร
พระราชาตรัสว่า
ผู้มีศีลทั้งหลายย่อมไม่ทำอย่างนั้น คนพาลย่อมทำอนาจารอย่างนี้เป็นปกติ
ความเป็นบัณฑิตจักทำคนผู้ทุศีล มีศีลไม่ยั่งยืน ให้เป็นคนอย่างไร
(ความรู้ไม่อาจช่วยคนทุศีลให้พ้นจากความวิบัติ)
เมื่อพระราชาติเตียนฉัตตฤษีอย่างนี้แล้ว
ก็คลายความโศกลงได้เพราะคำพูดของพระโพธิสัตว์
(พรหาฉัตตชาดก
๒๗/๖๔๒-๖๔๕)
ถ้าทุกอย่าง ต้องได้ ดังใจคิด |
ชั่วชีวิต จะเอาของ กองที่ไหน |
จะได้บ้าง เสียบ้าง ช่างปะไร |
นี่แหละไซร้ ชีวิตมนุษย์ ปุถุชน |
การครอบครองมากเกินไปทำให้เกิดปัญหา
ความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น มากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เกิดปัญหา
ยิ่งท่านครอบครองมากขึ้น ท่านยิ่งมีความต้องการ มากขึ้น
และมันทำให้ท่านต้องดูแลรักษามันมากยิ่งขึ้นเช่นกัน
มันทำให้ท่านสูญเสียมากยิ่งขึ้น ท่านกำลังครอบครองสิ่งเหล่านั้น
หรือถูกสิ่งเหล่านั้นครอบครองกันแน่?
(The Tao of
Leadership by John Heider มีผู้แปลไว้ในแมคคอร์มิคสาร)