วันเวลาปัจจุบัน 20 เม.ย. 2024, 05:16  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=2



กลับไปยังกระทู้  [ 12 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.พ. 2011, 21:47 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.พ. 2011, 21:20
โพสต์: 4


 ข้อมูลส่วนตัว


เวลาฟังเทปธรรมะเเล้วเขา(อาจารย์)บอกว่าให้เอาจิตตามดูจิต.......ตรงนี่..ไม่เข้าใจมาก

ขอถามก่อนว่า.... ถ้ามีป้าคนหนึ่งมีสั่งให้เราไปเก็บขยะ เเล้วเราไปเก็บ..ถามว่าใครคนสั่งระหว่าง ก.ป้าคนนั้น ข.เรา

ผมเข้าใจว่าจิตเราเป็นคนสั่งเพราะคำสั่งนั้นเราไม่ทำตามก็ได้ใช่ไหม ผมจึงคิดว่าจิตเป็นตัวการใหญ่ที่คนเราจะทำอะไรบางอย่างต้องให้จิตรับรู้ก่อน เพราะเหตุนี้ผมจึงสงสัยมาก ว่าให้ใช่จิตตามดูจิต มันจะดูตัวมันเองได้เหรอจิตเป็นนามธรรมที่ไม่มีตัวตน(ที่เรามองไม่เห็น)เเล้วจะให้สิ่งที่ไม่มีตัวตน(ที่เรามองไม่เห็น)ไปดูสิ่งที่ไม่มีตัวตนมันจะเห็นเหรอ! เช่น ตัวเรา(กาย)เป็นรูปธรรมเวลาจะดูยังต้องใช่กระจกดูเลย เเล้วเป็นจิตที่เรามองไม่เห็นไปดูสิ่งที่เรามองไม่เห็น มันจะเห็นเหรอ เเล้วถ้าเห็นจิตที่เห็จิตมันจะไม่ปรุงแต่งไปเองเหรอ (คิดเองเออเอง)

สรุปผมขอถามว่า
1.จิตดูจิตได้หรือไม่ ?
2.ถ้าดูได้ ดูอย่างไร ?
3.ถ้าดูไม่ได้ เพราะอะไร ? แล้วจะใช่อะไรดู ?
ใครรู้อะไรขอให้บอกด้วย......................................................เณร(ไม่)น้อย


ขอบคุณทุกคำแนะนำที่ทุกท่านได้เเนะนำมา

(คนเราจริตไม่เหมือนกันต้องขอความกรุณาด้วยครับ)


แก้ไขล่าสุดโดย prajin เมื่อ 11 ก.พ. 2011, 19:41, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.พ. 2011, 22:10 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


บอกแล้ว...จะฟังหรือเปล่า???
:b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.พ. 2011, 22:18 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


สมมุติว่า..ฟังนะ :b12:

มาที่เรื่องเห็นก่อน...

มองเห็น..ปกติ..ก็ใช้ตามอง...เน๊าะ

มาลอง...มองเห็น..แบบ..ไม่ใช้ตาดูซิ.. :b13:

สมมุติว่าคุณอยู่นอกบ้านนะ...ลองนึกถึงในบ้านดูซิ....คุณเห็นไหม???

เห็นใช่ไหม...แล้วอะไรเห็นละ..??.

ตัวอย่างง่าย ๆ ..เรื่องการเห็นที่ไม่ได้ใช้ตา :b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.พ. 2011, 23:05 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.พ. 2011, 21:20
โพสต์: 4


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณครับ ที่ได้เเนะนำ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.พ. 2011, 16:42 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2011, 16:28
โพสต์: 1


 ข้อมูลส่วนตัว


เอาง่ายๆ เลย ขับรถอยู่ ในขณะที่ขับรถ จิตก็หลงไปคิดนั่น คิดนี่บ้าง แต่พอถึงตอนที่จะต้องเลี้ยวซอยนั้น ซอยนี้ คุณจะรู้สึกเลยทันทีว่า เมื่อกี้จิตมันไม่ได้จดจ่ออยู่กับการขับรถ มันเผลอไปคิดเรื่องนั้นเรื่องนี้ การที่คุณรู้ว่าตัวเองเผลอไปคิดเรื่องอื่น แทนที่จะรู้แต่การขับรถ นั่นแหละเรียกว่าเห็นจิตที่เผลอไปคิด วินาทีที่ที่คุณกลับมาจดจ่ออยู่กับการขับรถนั่นแหละเรียกว่า ได้สติ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.พ. 2011, 19:42 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.พ. 2011, 21:20
โพสต์: 4


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณครับสำหรับคำแนะนำที่ดี


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ก.พ. 2011, 15:59 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.พ. 2011, 21:20
โพสต์: 4


 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่มีใครตอบเลย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ก.พ. 2011, 16:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 16:34
โพสต์: 1050

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


จริงหรือ...? จิต ตามดู จิต ทำอย่างไร
คำถามสั้นๆ แต่ ถ้าจะตอบกันจริงๆ ไม่ง่ายและไม่สั้น
เพราะคำถาม กินความหมายไปถึงขั้น ปรมัตถธรรม
ในที่นี้ ขอสนทนากันแบบชาวบ้านๆ แล้วกัน เพราะกระผมเองก็ยังศึกษาค้นคว้า
เรื่องของจิตอยู่
เพราะ เรื่องของจิตนี้ เกิดดับอยู่เรื่อยๆ ตลอดเวลา ๆ หนึ่งๆ ไม่รู้กี่ หมื่น พัน ครั้ง
ทีนี้เราจะต้องเอาสติกำหนดรู้ รู้อะไร ..ก็รู้จิตนี่แหละ จิตเรา เมื่อกี้คิดไปไหน
เรื่องอะไร เกิดมาแล้ว ดับไปแล้ว จิตที่คิด เป็นกุศลจิต หรือ อกุศลจิต
เมื่อกี้ไม่พอใจ เกิดโทสะ นี่ สติระลึกรู้ จิต รู้ จิต มันเหมือน กับ จิต เฝ้าดูจิต เป็นนาย
เป็นผู้รู้ ผู้ดูอยู่ เหมือนมีคนสองคนในคนเดียวกัน และจิต ผู้รู้ผู้ดู นี่ก็กลับมาดูกัน สลับสับ
เปลี่ยนกันไป เรียกว่า จิต อันใหม่เกิดขึ้น มาดูจิตอันเก่าที่ดับไปแล้ว เหมือนกับ ๑ และ ๒
มาดู ๑ ๓เกิดขึ้นมา ดู ๒ ๔ เกิด ขึ้นมาดู ๓ เอ..ยิ่งพูดยิ่ง งง.. :b12: :b14: :b5:
โปรดใช้ วิจารณญาน ผิดถูกยังไง ขออภัยมาณ ที่นี้ด้วยขอรับ :b8:
เจริญในธรรม :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ก.พ. 2011, 17:53 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5013


 ข้อมูลส่วนตัว


ศรีสมบัติ เขียน:
เอ..ยิ่งพูดยิ่ง งง.. :b12: :b14: :b5:


อิ อิ มาแจมด้วย เพราะมุขนี้นะเนี๊ยะ :b13: :b13: :b13:

prajin เขียน:
ไม่มีใครตอบเลย


อื้อ น่าฉงฉาน
คือ ตะเองถามในสิ่งที่ ไม่ค่อยมีใครกล้าฟันธงไง
เพราะ เป็นคำตอบที่อาจจะขัดกันในทางตำราได้ ถ้าถือตำราคนละเล่ม

prajin เขียน:
สรุปผมขอถามว่า
1.จิตดูจิตได้หรือไม่ ?
2.ถ้าดูได้ ดูอย่างไร ?
3.ถ้าดูไม่ได้ เพราะอะไร ? แล้วจะใช่อะไรดู ?


แต่เราพอจะหน้ามึนตอบได้
แต่จะเชื่อได้หรือไม่ ให้พิจารณาเอาเอง
ตอบจากความเห็นที่เราประสบ ประกอบกับการโดนตบหลายผั๊วะจากอาจารย์ นะ

1. ตอบ ตั้งใจ เจตนา ไม่ได้ ไม่ใช่ ไม่เห็น
2. ตอบ ไม่ตั้งใจจะดู แต่เห็นบางอย่างแสดงความเป็นบางอย่างที่ยังไม่เคยเห็นการอธิบายไว้ในตำรา
3. ตอบ เอ๋ คำถามข้อนี้ มันซ้ำซ้อนกับสองข้อข้างต้นรึเปล่า
ออกความเห็นแถมก็ได้ เพราะเราไม่สามารถดูจิตว่าง ด้วยจิตที่ไม่ว่างได้
จิตที่ไม่ว่าง รู้ได้เฉพาะจิตที่ไม่ว่าง แต่จิตที่ว่าง อะไร ๆ ก็รู้

ถามว่า แล้วมันรู้ได้ไง ก็มันเป็นของมันอย่างนั้น
ทำไมมันต้องเป็นเช่นนั้น ก็ถ้ามันไม่เป็น การเกิดจะอาศัยอะไรเกิด

ถ้าการเกิดยังเป็นสิ่งที่ต้องมีอยู่
สิ่งที่เอื้อต่อการเกิดก็ต้องมี

เราคือ การเกิด หรือ เราคือสิ่งที่เอื้อต่อการเกิด หรือไม่ใช่ทั้งสองอย่าง

ทำไม จิตจึงเป็นอนัตตา เพราะตำรา
หรือเพราะ มันเป็นเช่นนั้นของมันเอง

ร่วมเดาแค่นี้พอ เพ้อมากไม่ดี เขาว่าตูบร้า :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ก.พ. 2011, 07:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


prajin เขียน:
เวลาฟังเทปธรรมะเเล้วเขา(อาจารย์)บอกว่าให้เอาจิตตามดูจิต.......ตรงนี่..ไม่เข้าใจมาก

บางครั้งบางคราว คำบัญญัติมักจะเป็นสาเหตุทำให้เกิดความสับสน ตัวอย่างเช่น"จิตตามดูจิต"
คนฟังที่ยังไม่เข้าใจเรื่องของจิตย่อมต้องสงสัย ไม่ว่าคนที่มีทิฐิว่าจิตมีดวงเดียวหรือจิตเกิดดับ

คนที่มีทิฐิว่าจิตมีดวงเดียว มันย่อมเป็นไปไม่ได้เลยว่า "จิตตามดูจิต"
เมื่อจิตมีดวงเดียวไม่เกิดดับ จะไปตามดูจิตได้อย่างไร
ส่วนใหญ่จะโมเมไปเลยว่า"ดูอาการของจิต"

ส่วนคนที่มีทิฐิว่าจิตเกิดดับ ก็มักสงสัยว่า แล้วจะดูอย่างไร ในเมื่อมันดับไปแล้ว
จิตไม่ได้ตามดูจิตหรอกครับ อันที่จริงในแง่ของจิตเกิดดับ มันเป็นการทำงานของใจไม่ใช่จิต
ใจหรือธัมมารมณ์ไปคิดถึงจิตดวงเดิมที่พึ่งดับไป เรียกว่าสัญญา
ทำให้เกิดสภาวะใหม่หรือจิตดวงใหม่ที่เรียกว่า สภาวะระลึกรู้หรือสติครับ
ฉะนั้นความหมายของ " จิตตามดูจิต" ก็คือการมีสตินั้นเอง
prajin เขียน:
ขอถามก่อนว่า.... ถ้ามีป้าคนหนึ่งมีสั่งให้เราไปเก็บขยะ เเล้วเราไปเก็บ..ถามว่าใครคนสั่งระหว่าง ก.ป้าคนนั้น ข.เรา

ผมเข้าใจว่าจิตเราเป็นคนสั่งเพราะคำสั่งนั้นเราไม่ทำตามก็ได้ใช่ไหม ผมจึงคิดว่าจิตเป็นตัวการใหญ่ที่คนเราจะทำอะไรบางอย่างต้องให้จิตรับรู้ก่อน เพราะเหตุนี้ผมจึงสงสัยมาก ว่าให้ใช่จิตตามดูจิต มันจะดูตัวมันเองได้เหรอจิตเป็นนามธรรมที่ไม่มีตัวตน(ที่เรามองไม่เห็น)เเล้วจะให้สิ่งที่ไม่มีตัวตน(ที่เรามองไม่เห็น)ไปดูสิ่งที่ไม่มีตัวตนมันจะเห็นเหรอ! เช่น ตัวเรา(กาย)เป็นรูปธรรมเวลาจะดูยังต้องใช่กระจกดูเลย เเล้วเป็นจิตที่เรามองไม่เห็นไปดูสิ่งที่เรามองไม่เห็น มันจะเห็นเหรอ เเล้วถ้าเห็นจิตที่เห็จิตมันจะไม่ปรุงแต่งไปเองเหรอ (คิดเองเออเอง)

ไม่ว่าจะป้าหรือเรา ผู้ที่สั่งคือ สมองในส่วนของกาย ในส่วนของป้าสมองของป้าสั่งให้ปากบอกหรือสั่งเรา
เมื่อเรารับรู้ทางหู สิ่งที่ป้าสั่งหรือเนื้อหาจะไปที่สมองของเรา และสมองจะสั่งกายเราให้กระทำในสิ่งนั้น
นี่เป็นการอธิบายความ ในส่วนของกายเพียงอย่างเดียว และดูจากเหตุผลที่ให้มา
สรุปผู้ที่สั่งคือสมองที่เป็นส่วนของกาย จิตหรือสภาวะไปสั่งอะไรกายไม่ได้หรอกครับ
เพียงแต่เป็นเหตุปัจจัย ส่งผลไปยังสมอง ทำให้สมองสั่งการไปตามอารมณ์หรืสภาวะนั้นๆครับ

prajin เขียน:
สรุปผมขอถามว่า
1.จิตดูจิตได้หรือไม่ ?

ถ้าใช่คำว่า"ดู" มันดูไม่ได้อยู่แล้วครับ อันที่จริงต้องใช้คำว่า "ระลึกรู้หรือสติครับ"
prajin เขียน:
2.ถ้าดูได้ ดูอย่างไร ?

มันเป็นเรื่องของการบัญญัติศัพท์ผิดครับ ใช่คำวา"ดู"ไม่ได้ ต้องใช้"ระลึกรู้"
วิธีการตามที่อธิบายตอนต้น
prajin เขียน:
3.ถ้าดูไม่ได้ เพราะอะไร ? แล้วจะใช่อะไรดู ?
ใครรู้อะไรขอให้บอกด้วย......................................................เณร(ไม่)น้อย

ดูไม่ได้เพราะ คำว่า"ดู"เขาใช้กับอาการที่ตาไปมองสิ่งที่เป็นรูปธรรม จิตเป็นนามธรรม
เราต้องใช้สติเป็นเครื่องระลึกรู้ครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ก.พ. 2011, 13:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 16:34
โพสต์: 1050

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ทีนี้ลองมาฟังพระท่าน บรรยาย บ้าง อย่างย่อๆ นะ เกี่ยวกับจิตนี่ หรือ สติ ก็ว่ากันไป :b12:
" มีสติ ที่จะรู้สตินี่ ไม่ใช่สติอันเดียว หมายถึง หมายถึงสติ ตัวที่ ๑ ดับ ตัวที่ ๒ เกิดขึ้นมา ก็ไปรู้ตัวที่ ๑
เรียกว่ามันเป็นสติเหมือนกัน ไม่ใช่ตัวที่ ๑ รู้ตัวที่ ๑ ไม่ใช่อย่างนั้น สติตัวที่ ๑ เกิดขึ้นดับลง ตวที่ ๒ เกิดมาก็
ไปรู้ตัวที่ ๑ ตัวที่ ๓ เกิดมาก็ไปรู้ตัวที่ ๒ อะไรอย่างนี้ แต่ก็พูดย่อๆ...
ความจริงมันไม่สามารถเกิดติดกันขนาดนั้น มันจะมีจิต มีสภาวะขั้น แต่ขณะที่มันขั้น มากมายมันถี่มาก
ความรู้สึกว่ามันถี่มาก ฉะนั้นพูดสื่อให้เข้าใจ พูดย่อๆว่า มีตัวที่ ๑ ที่ ๒,๓,๔ ตัวที่ ๒ รู้ตัวที่ ๑
ตัวที่ ๓ รู้ตัวที่ ๒ ความเป็นจริงมันไม่ใช่เรียงถี่กันขนาดนั้น ก็มีสลับอย่างอื่น
ฉะนั้น มันจึงรู้ยาก ตรงที่มันดับไปแล้ว...ตัวที่ ๑ ดับไปแล้ว ตัวที่ ๒ จึงจะเกิดได้, ตัวที่ ๒ ดับไปแล้ว
ตัวที่ ๓ จึงจะเกิดได้ และจะให้รู้ตัวที่ ๑ นี่...ก็คือ มันดับไปแล้ว การรู้สิ่งที่ดับไปแล้วนี่
มันจึงรู้ยาก เพราะมันไม่ได้ปรากฏอยู่ มันไม่ใช่ตั้งอยู่เพื่อจะให้รู้ ของมันหมดแล้ว มันไม่เหมือนรูป
รูป อายุมันยาว มันเกิดขึ้นมาได้ มันตั้งอยู่ ระยะยาวมันก็เลยรู้ได้ง่าย แต่จิตนี้มันไวกว่า มันดับ
จิตดวงหลังเกิดขึ้นมาที่จะรู้ดวงแรก ก็รู้ได้เฉพาะสิ่งที่มันดับไปแล้ว ทีนี้ถามว่า รู้สิ่งที่ดับไปแล้ว
มันก็เท่ากับรู้อดีต...ไม่ใช่รู้ปัจจุบัน ไม่มีใครที่จะไปรู้ปัจจุบันขณะได้ ไปรู้จิตปัจจุบันขณะได้
มันรู้ไม่ได้ เพราะว่า...(ต่อ,,)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ก.พ. 2011, 13:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 16:34
โพสต์: 1050

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


"ถ้ารู้ปัจจุบันขณะ ก็แสดงว่าจิต เกิดคู่กันอยู่ จิตดวงที่ ๑ กำลังเกิด จิตดวงที่ ๒
ก็เกิดมาด้วย แล้วก็รู้กันอย่างนี้ มันปรากฏไม่ได้ มีไม่ได้ จิต มันเกิดขึ้นมาทีละดวง
พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า จิตนี้ไปไกล...เกิดขึ้นมาทีละดวง....ไม่ใช่เกิดซ้อนกัน
แต่ว่า แม้มันจะรู้จิตที่มันดับไปแล้ว แต่มันเป็นการรู้ปัจจุบัน สันตติ คำว่า ปัจจุบัน สันตติ ก็คือมัน
มันเป็นการรู้ที่สืบต่อกันรวดเร็ว จริงอยู่มันดับไปแล้วเข้าไปรู้ มันเป็นการสืบต่อกัน มันจับได้
ถึงมันจะลับไป...ดูแล้วมันลับไปเลย ดูแล้วมันคล้อยไปเลย ฉะนั้น บุคคลใดที่เกิด สติแล้วไปรู้จิต
ในลักษณะเป็นผู้รู้นี่ ก็จะพบว่า พอรู้ก็หมดเลย ความเป็นจริงมันหมดก่อนแล้วด้วย แต่ในความรู้สึกของผู้ปฏิบัติ
นี่ มันจับได้นิดนึง มันจับได้หยกๆ จับได้รวดเร็ว พอรับก็หมด รับก็หมด รับก็หมดทันที "

เอาพอสังเขป...ต้ดตอนมาจาก คำบรรยาย ของ ท่านพระครู เกษมธรรมทัต
เรือง"ฝึกดูรู้วางเฉย" หวังว่าคงจะได้ธรรมะ ความรู้บ้างไม่มากก็น้อย นะครับ
เจริญในธรรม :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 12 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 29 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร