วันเวลาปัจจุบัน 03 พ.ค. 2025, 05:47  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 12 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ธ.ค. 2008, 20:20 
 
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ย. 2008, 17:29
โพสต์: 191

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


มีนักเรียนที่เคยสอน เป็นคนชอบปฏิบัติธรรมมากจะไปปฏิบัติมาหลายวัด วันนี้เขาได้มาที่บ้านแล้วเขาบอกว่าเขาจะมีความรู้สึกว่าเขาสามารถสัมผัสกับสิ่งที่คิดว่าเป็นเทพเจ้าหรือวิญญาณได้ และสามารถช่วยผู้อื่นได้ให้พ้นจากทุกข์ได้ และบอกไปว่าเขาไปรับธรรมะมา

แล้วที่ puy อยากจะช่วยเขาเพราะว่าเขาบอกว่าระลึกชาติได้แล้วเขาก็ไปยึดติดกับเรื่องเก่าของเขาในชาติก่อน เช่น เขาเคยเป็นคนนั้นคนนี้แล้วเขาจะคิดไปว่าเค้าเป็นอย่างนั้น เช่นพอเห็นชุดไทยก็อยากใส่เพราะเป็นชุดที่เคยใสในอดีด และในขณะที่นั่งคุยกันก็มีโทรศัพท์เข้ามาว่าขณะนี้เพื่อนของเขาไปทำพิธีให้ผู้หญิงอีกคนอยู่และมีเทพเจ้ามาลงร่างเขาและพูดภาษาเบื้องบนแต่เขาแปลไม่ได้เลยโทรมาถามว่าจะให้ทำอย่างไร

puy เลยอยากจะช่วยเขาให้อยู่กับปัจจุบันและปฏิบัติในทางที่ถูกต้องไม่หลงทาง puy ก็ได้แต่พูดให้เขาเข้าใจแต่ไม่รู้ว่าเขาจะเข้าใจไหม วันนี้เขาก็บอกว่าจะหาบ้านทรงไทยอยู่และอยากอยู่เงียบๆ ไกลผู้คน puy ก็เลยอยากถามทุกท่านว่าในลักษณะอย่างนี้เราควรทำอย่างไรให้เขาได้เข้าใจในธรรมะที่ถูกต้อง และหันมาปฏิบัติวิปัสสนาที่ถูกต้องก่อนที่เขาจะไม่มีโอกาสได้ทำอีก เพราะทุกวันนี้เขาจะมีอาการว่าสัมผัสได้กับวิญญาญ เช่นวันก่อนเขามาที่บ้านเขาก็กลับไปแล้วมีอาการเหมือนเด็กอยากกินนมเหมือนเด็ก

ขอความอนุเคราะห์ท่านผู้รู้ทั้งหลายช่วยแนะนำด้วยคะว่าควรทำอย่างไรดีขอบคุณคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ธ.ค. 2008, 21:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ก.ค. 2008, 14:47
โพสต์: 1562

อายุ: 0
ที่อยู่: หิมพานต์

 ข้อมูลส่วนตัว www


อ่านแล้วทะแม่งๆ ครับ แนะนำ 2 ท่านที่น่าจะช่วยได้....

1. อาจารย์พลศักดิ์ :b4: :b4: :b4:

2. จิตแพทย์ :b7:

.....................................................
อิมาหัง ภะคะวา อัตตะภาวัง ตุมหากัง ปะริจจะชามิฯ
ข้าแต่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ข้าพระพุทธเจ้าขอมอบกายถวายชีวิต แด่พระพุทธเจ้า แด่พระธรรม แด่พระสงฆ์ นับแต่บัดนี้ตราบจนเข้าสู่พระนิพพาน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ธ.ค. 2008, 22:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.ย. 2008, 23:07
โพสต์: 151

ที่อยู่: BKK.

 ข้อมูลส่วนตัว


นี่ไม่ใช่ case แรกที่เพิ่งเคยได้ยินนะค่ะ สาเหตุที่เขายังยึดภาพตัวเองในอดีต (ที่อาจจะจริง) ส่วนหนึ่งอาจมาจากไม่มีความสุขในสิ่งที่เป็นในปัจจุบัน จึงหวนเข้าหาอดีต เพื่อลืมบางอย่างในใจ อันนนี้มองในแง่จิตวิทยานะค่ะ

ครั้งนึงตัวเองนอนฝันร้าย ตื่นขึ้นมาจึงเล่าความฝันให้หลวงปู่ฟัง หลวงปู่ตอบสั้นๆ แต่ชัดเจนว่า "ตื่นขึ้นมา แล้วเอามันมาได้ไหม" ลองใช้วิธีกระตุ้นอันนี้ดูนะค่ะ ถามเขาว่า สิ่งที่เขากำลังเป็น มันช่วยเขาแก้ปัญหาและความทุกข์ที่กำลังมีในปัจจุบันได้ไหม แล้วพาไปหาพระคุณเจ้า ช่วยแก้อารมณ์ อดีตไม่สำคัญเท่าปัจจุบัน

.....................................................
จงระมัดระวังกาย วาจา ใจ ไม่ให้ไปทำร้ายใคร


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ธ.ค. 2008, 22:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 เม.ย. 2007, 17:21
โพสต์: 4147

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว www


ขอร่วมแสดงความเห็น ดังนี้นะคะคุณ Puy :b8:

การระลึกชาติได้ (Reincarnation) มีทั้งคุณและโทษ

หากระลึกชาติได้ว่าตนเองเคยทำกรรมไม่ดีเรื่องอะไร กับใครไว้
แล้วใช้ปัญญาพิจารณาไตร่ตรองให้เห็นภัยของอกุศลกรรมที่เคยทำ
ก็จะรู้สึกสลดใจ สำนึกผิด ขออโหสิกรรมกับผู้ที่ตนเคยกระทำเขาไว้
และไม่คิดจะก่อกรรมเช่นนั้นกับใครอีกในชาตินี้...นั่นจะเป็นคุณ

หรือในทางกลับกัน หากตนเป็นผู้ถูกกระทำ
แล้วสามารถให้อภัย เลิกจองเวรต่อกันกับผู้ที่กระทำตนก็ดีไป
เพราะพิจารณาด้วยปัญญาเห็นว่า
สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นนั้นมันดับไปเป็นอดีตล่วงมาแล้ว...นี่ก็เป็นคุณ

แต่หากเป็นไปในทางตรงข้าม เกิดพยาบาทอาฆาตกันต่อ
ก็จะจองเวรจองกรรมไม่มีที่สิ้นสุด
หรือยังยึดติดในชาติภาพเดิมทั้งที่สิ่งเหล่านั้นมันจบสิ้นไปแล้ว
....นี่จะเป็นโทษแน่นอน

อีกประการหนึ่ง

ส่วนใหญ่ผู้ที่ระลึกชาติหน้า หรือคิดว่าตัวเองระลึกชาติได้
หากสติ และปัญญา ไม่แก่กล้าพอ ไม่รู้เท่าทันกับ “ปัจจุบันขณะ”
ก็อาจจะเกิดอารมณ์ปรุงแต่ง
ให้จิตเกิดอุปาทานมากๆขึ้นจากสัญญาเดิมๆที่มีอยู่
ให้หลงคิดไปว่า “อดีต” คือ "ปัจจุบัน”
“ปัจจุบัน” คือ “อดีต” จนลืมตัวไปชั่วขณะว่าฉันเคยเป็นอย่างนั้น เคยเป็นอย่างนี้
นำความเป็น "อดีต" มาปรุงแต่ง "ความเป็นไปในปัจจุบัน" จนหลงเตลิดไป


ถ้าคุณ Puy ได้มีโอกาสนำนักเรียนคนนี้
ไปพบครูบาอาจารย์ที่เป็นวิปัสสนาจารย์
ให้ท่านแนะนำ สั่งสอน ฝึก การเจริญสติปัฏฐาน อย่างถูกต้อง
เพื่อให้กายใจอยู่กับปัจจุบันอย่างจริงจังและต่อนื่อง
น่าจะเกิดผลดี และช่วยได้อย่างมากนะคะ

เพราะคนที่เจริญสติปัฏฐานอย่างจริงจังต่อเนื่องจนมีอินทรีย์แก่กล้า
แม้จะมีสัญญาเดิมๆ คอยกระตุ้นเตือนอยู่
หรืออาจเคยมีกำลังสมาธิจากการได้ฌาณ จนสามารถระลึกชาติได้
ก็ยากที่จะหลง และยอมให้ “ใคร” หรือ “อะไร” มาใช้ ร่างของตนได้นะคะ
:b8: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ธ.ค. 2008, 02:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3832

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


ผมก็เป็นครับ ประจำก็ว่าได้
รู้สึกว่า ได้รู้ ได้เห็น ได้เข้าใจอะไร แล้วมันรู้สึกฉลาดๆขึ้นมา

ประเด็นเรื่องที่รู้สึกว่าตัวเองเก่งนั้น ไม่ต้องทำอะไรกับเขามากหรอกครับ
เป็นปกติธรรมดาที่ตัวเรามันจะพองตอนแรกๆ
เพราะได้รู้ได้ทราบอะไรที่แปลกใหม่ในพระพุทธศาสนา
แต่พอยิ่งรู้มากยิ่งเห็นมาก มันจะตัวเล็กลงๆ ทุกวันๆ
ตัวกู ของกู มันจะเล็กลงเองทุกวันๆ
ความรู้สึกว่าเหนือคนอื่น รู้สึกว่าฉลาดกว่าคนอื่น มันจะเล็กลงๆไปเอง

มันเหมือนอึ่งที่ค้นพบทางเข้าถ้ำ
ตอนแรกเข้าทางรู มันเลยรู้สึกว่าเราตัวใหญ่คับรู
แต่ยิ่งก้าวต่อไป โพรงมันใหญ่ขึ้นๆ จนกลายเป้นถ้ำขึ้นมา
มองเห็นแสงสว่างปลายถ้ำแต่ไม่มีปัญญาจะคลานไปให้ถึง
ผมรู้สึกว่าตัวผมเป็นอย่างนั้นจริงๆ ครับ
ยิ่งรู้มาก ยิ่งตัวเล็กลง
ธรรมะมันกว้างขวางลึกซึ้งเหลือประมาณ เป็นอะไรที่ไม่ใช่จะคิดแล้วเข้าใจได้
ดังนั้นต่อให้คนที่ฉลาดที่สุดในโลกมาเรียนรู้ ก้ไม่ใช่ว่าจะเข้าใจพระธรรมได้

่วิธีแก้โดยตรงก็มีนะครับ คือการหัดเจริญสติ
โดยเอาความรู้สึกฉลาดๆ ผยองๆ ภาคภูมิๆ ที่มันแว๊บขึ้นมานั้นแหละ มาเจริญสติ
พอทำบ่อยๆ เจอมันบ่อยๆ เราจะรู้สึกเหนื่อยกับอารมณ์แบบนี้ รู้สึกเป็นภาระ
จะรู้สึกว่าเป็นโทษ เป็นส่วนเกิน เป็นของที่เราแส่ไปหามาเอง
เหมือนพันทนาการ อึดอัด

แล้วเราจะค่อยๆ เรียนรู้ที่จะวางทีละเล็กทีละน้อย
เริ่มอยากอวดฉลาดน้อยลงทั้งปริมาณ และความถี่
ความอยากจะอวดรู้มันจะน้อยลง

จนเหลือแต่อันที่มันอยากแรงๆ ความอยากที่มันยังมีความแรงจนวางไม่ลง
มันถึงจะบงการให้พูด ให้เขียนออกมา
ซึ่งก้ต้องแก้ไขพัฒนากันต่อไป

.....................................................
อาทิ สีลํ ปติฏฺฐา จ กลฺยาณานญฺจ มาตุกํ
ปมุขํ สพฺพธมฺมานํ ตสฺมา สีลํ วิโสธเย
ศีลเป็นที่พึ่งเบื้องต้น เป็นมารดาของกัลยาณธรรมทั้งหลาย
เป็นประมุขของธรรมทั้งปวง เพราะฉะนั้นควรชำระศีลให้บริสุทธิ์
....................................

"หากเป็นคนฉลาดก็มีแต่จะทำให้คนอื่นรักตนเท่านั้น-วาทะคุณกุหลาบสีชา"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ธ.ค. 2008, 09:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2007, 09:55
โพสต์: 1632


 ข้อมูลส่วนตัว


Puy เขียน:
มีนักเรียนที่เคยสอน เป็นคนชอบปฏิบัติธรรมมากจะไปปฏิบัติมาหลายวัด วันนี้เขาได้มาที่บ้านแล้วเขาบอกว่าเขาจะมีความรู้สึกว่าเขาสามารถสัมผัสกับสิ่งที่คิดว่าเป็นเทพเจ้าหรือวิญญาณได้ และสามารถช่วยผู้อื่นได้ให้พ้นจากทุกข์ได้ และบอกไปว่าเขาไปรับธรรมะมา

แล้วที่ puy อยากจะช่วยเขาเพราะว่าเขาบอกว่าระลึกชาติได้แล้วเขาก็ไปยึดติดกับเรื่องเก่าของเขาในชาติก่อน เช่น เขาเคยเป็นคนนั้นคนนี้แล้วเขาจะคิดไปว่าเค้าเป็นอย่างนั้น เช่นพอเห็นชุดไทยก็อยากใส่เพราะเป็นชุดที่เคยใสในอดีด และในขณะที่นั่งคุยกันก็มีโทรศัพท์เข้ามาว่าขณะนี้เพื่อนของเขาไปทำพิธีให้ผู้หญิงอีกคนอยู่และมีเทพเจ้ามาลงร่างเขาและพูดภาษาเบื้องบนแต่เขาแปลไม่ได้เลยโทรมาถามว่าจะให้ทำอย่างไร

puy เลยอยากจะช่วยเขาให้อยู่กับปัจจุบันและปฏิบัติในทางที่ถูกต้องไม่หลงทาง puy ก็ได้แต่พูดให้เขาเข้าใจแต่ไม่รู้ว่าเขาจะเข้าใจไหม วันนี้เขาก็บอกว่าจะหาบ้านทรงไทยอยู่และอยากอยู่เงียบๆ ไกลผู้คน puy ก็เลยอยากถามทุกท่านว่าในลักษณะอย่างนี้เราควรทำอย่างไรให้เขาได้เข้าใจในธรรมะที่ถูกต้อง และหันมาปฏิบัติวิปัสสนาที่ถูกต้องก่อนที่เขาจะไม่มีโอกาสได้ทำอีก เพราะทุกวันนี้เขาจะมีอาการว่าสัมผัสได้กับวิญญาญ เช่นวันก่อนเขามาที่บ้านเขาก็กลับไปแล้วมีอาการเหมือนเด็กอยากกินนมเหมือนเด็ก

ขอความอนุเคราะห์ท่านผู้รู้ทั้งหลายช่วยแนะนำด้วยคะว่าควรทำอย่างไรดีขอบคุณคะ


ตอบ..
การปฏิบัติธรรม ที่มีอยุ่ในประเทศไทย ทุกสำนัก ทุกวัด ทุกสถานที่ ไม่สามารถทำให้เกิด การระลึกชาติ หรือการมองเห็น เทพ,เทวดา หรือ โอปปาติกะ ใดใดได้เลย
ยกเว้น คิดเอาเอง
ที่เป็นเช่นนั้น ก็เพราะ การปฏิบัติธรรมโดยทั่วๆไป เท่าที่มีอยู่ในประเทศไทย เป็นเพียงการปฏิบัติ สมาธิ ไม่ใช่เป็นการปฏิบัติ วิปัสสนา
การวิปัสสนา ต้องมีปัจจัยประกอบมากมาย ไม่ใช่แค่นั่งสมาธิ แล้วจะมองเห็นสิ่งลี้ลับต่างๆ หรือระลึกชาติ หรือทำอะไรอะไรที่พิเศษเหนือมนุษย์ได้
ไม่ทราบว่าคุณและเพื่ออยู่ที่ไหน ถ้าใกล้กับถิ่นที่อยู่ของข้าพเจ้าจะนำไปหาข้าพเจ้าก็ได้ ที่ให้นำไปหา ข้าพเจ้าไม่ใช่หลอกลวงเพื่อหวังทรัพย์สิน เพราะข้าพเจ้าไม่ได้ตั้งสำนักหรืออาศรมใดใด เพียงอยากรู้ว่าเขามีอาการอย่างไร ถึงขั้นต้องพบจิตแพทย์ไหม
และบางที ข้าพเจ้าอาจจะทำให้เขาได้เห็นสิ่งที่เขาคิดเอาเองนั้นก็ได้ ถ้าสภาพแวดล้อมอำนวย เพื่อเขาจะได้ไม่หลงผิด คิดเอาเอง ขอรับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ธ.ค. 2008, 10:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


หลงอารมณ์หรือว่าหลงความคิด มีได้เป็นได้ทุกอย่าง
หากจะมีคำถามว่า เพราะอะไร ?
ตอบให้เข้าหลักธรรมก็ว่า เพราะอวิชชา ตัณหา อุปาทาน

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ธ.ค. 2008, 11:03 
 
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ย. 2008, 17:29
โพสต์: 191

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:


แก้ไขล่าสุดโดย ทางเดินที่พ้นทุกข์ เมื่อ 12 เม.ย. 2009, 23:40, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ธ.ค. 2008, 11:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2008, 09:20
โพสต์: 349


 ข้อมูลส่วนตัว


การไม่ยินดีและพอใจในอัตภาพในปัจจุบัน (เกิดเป็นมนุษย์) ของตนเอง
ที่มีร่างกาย มีแขน มีขา มีสมอง มีจิตใจ มีสติ มีปัญญา ที่สามารถนำออกมาใช้
เพื่อประโยชน์ตน ประโยชน์ท่าน และปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้นในที่สุด

จึงเป็นเหตุให้แสวงหาอำนาจพิเศษเหนือมนุษย์ เหนือธรรมชาติ
เช่น ความสามารถสัมผัสกับเทพหรือวิญญาณ ระลึกชาติ ฯลฯ
เพื่อให้ผู้อื่นยอมรับนับถือ ยกย่อง หรือเพื่ออยู่เหนือผู้อื่น

ทั้งๆ ที่สิ่งเหล่านี้ ไม่ใช่หนทางนำไปสู่การดับทุกข์

แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า
อำนาจพิเศษเหนือมนุษย์ เหนือธรรมชาติ เหล่านี้
จะไม่มีประโยชน์เสียเลย

เพียงแต่ต้องนำมาใช้ให้ถูกกับกาล ถูกกับบุคคล ถูกกับสถานที่ ฯลฯ
แล้วใช้โดยผู้ปฏิบัติดี ผู้ปฏิบัติชอบ จึงจะเกิดประโยชน์อย่างแท้จริง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ธ.ค. 2008, 11:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 เม.ย. 2008, 13:18
โพสต์: 1367

ที่อยู่: bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่มีใครเก่งจริงหรอกยังไงเสียก็แพ้ตัวเก่า....(ตั้งอยู่ไม่ได้ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์)

ปฏิบัติแล้วหลงคิดว่าตัวนั้นเก่งก็แสดงว่ายังไม่แจ้งในไตรลักษณ์ครับ :b6: :b6:

.....................................................
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ธ.ค. 2008, 11:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 พ.ค. 2008, 20:48
โพสต์: 27

ที่อยู่: surin

 ข้อมูลส่วนตัว


:b6:

"ไม่รู้"

..น้องปั๋ง :b48: :b41: :b48:

.....................................................
พุทโธ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ธ.ค. 2008, 23:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ค. 2006, 20:52
โพสต์: 1210

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


....สิ่งทั้งหลายไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป.....

นาคีมีพิษเพี้ยง สุริโย
เลื้อย บ่ ทันเดโช แช่มช้า
พิษน้อยหยิ่งโยโส แมลงป่อง
ชูแต่หางเองอ้า อวดอ้างฤทธี.

ยิ่งรู้..ยิ่งปฏิบัติ...ก็รู้สึกเหมือนตัวเราเล็กลงๆ จริงๆค่ะ
..กายนี้ไม่ใช่ของเรา .. เราไม่มีในกายนี้..
:b8: :b8: :b8:

.....................................................
สัพเพ สังขารา อนิจจา
สัพเพ ธรรมา อนัตตา...


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 12 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร