วันเวลาปัจจุบัน 03 พ.ค. 2025, 00:18  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 12 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ต.ค. 2008, 17:24 
 
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ย. 2008, 17:29
โพสต์: 191

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b48:


แก้ไขล่าสุดโดย ทางเดินที่พ้นทุกข์ เมื่อ 12 เม.ย. 2009, 23:35, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ต.ค. 2008, 21:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2007, 09:55
โพสต์: 1632


 ข้อมูลส่วนตัว


คำถามนี้ ไม่น่าถาม เพราะในทางที่เป็นจริงแล้ว
เราเกิดมาเพื่อ เป็นสายใยพยานรักของพ่อกับแม่ เราเกิดมาเพื่อให้พ่อแม่เลี้ยงเรา พอเติบใหญ่มีงานทำก็ทดแทนคุณพ่อแม่
ก็เท่านี้
คิดมาก ปวดหัวเปล่าๆ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ต.ค. 2008, 21:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ม.ค. 2008, 20:12
โพสต์: 83

ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร

 ข้อมูลส่วนตัว


เกิดมาเพื่อดับเหตุเกิด :b32:

.....................................................
พวกเธอจงยินดีในความไม่ประมาท
จงระมัดระวังจิตของตน
จงถอนตนออกจากหล่มกิเลส
เหมือนพญาช้างติดหล่ม
พยายามช่วยตัวเอง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ต.ค. 2008, 22:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.ค. 2006, 06:25
โพสต์: 2058


 ข้อมูลส่วนตัว


เกิดมาเพื่อ ปฏิบัติ ได้ขัดเกลา

เพื่อมาเอา ชนะทุกข์ สุขจริงเอย


ก.เขาสวนหลวง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ต.ค. 2008, 23:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3832

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณตรงประเด็นครับ

ถ้าว่างๆขอเชิญไปที่ http://www.dhammathai.org/webboard/dbindex.php
หน่อยนะคับ

คุณภาพการแสดงความเห็นลักษณะที่คุณตรงประเด็นทำอยู่นี้เป็นที่ต้องการมาก
ขอเชิญไปทำธรรมทานที่นู่นบ้างนะครับ

.....................................................
อาทิ สีลํ ปติฏฺฐา จ กลฺยาณานญฺจ มาตุกํ
ปมุขํ สพฺพธมฺมานํ ตสฺมา สีลํ วิโสธเย
ศีลเป็นที่พึ่งเบื้องต้น เป็นมารดาของกัลยาณธรรมทั้งหลาย
เป็นประมุขของธรรมทั้งปวง เพราะฉะนั้นควรชำระศีลให้บริสุทธิ์
....................................

"หากเป็นคนฉลาดก็มีแต่จะทำให้คนอื่นรักตนเท่านั้น-วาทะคุณกุหลาบสีชา"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ต.ค. 2008, 08:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ต.ค. 2008, 12:10
โพสต์: 16


 ข้อมูลส่วนตัว


เกิดมาเพื่อ......

ดับเหตุเกิด....

แต่ชาติคงทำไม่ได้ขนาดนั้นหรอกค่ะ


ทำได้มากที่สุด..ก็ทำดีทุกๆๆๆวันในทุกๆๆๆเรื่อง :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ต.ค. 2008, 12:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ส.ค. 2008, 11:55
โพสต์: 101

งานอดิเรก: เล่นเกมส์ Angry Bird
อายุ: 0
ที่อยู่: กำแพงเพชร

 ข้อมูลส่วนตัว www


เกิดมาเพื่อกำจัด "อวิชชา" ให้หมดไปเพื่อละสังขาร :b4:

.....................................................
เธอจงระวังความคิดของเธอ เพราะความคิดของเธอ จะกลายเป็นความประพฤติของเธอ
เธอจงระวังความประพฤติของเธอ เพราะความประพฤติของเธอ จะกลายเป็นความเคยชินของเธอ
เธอจงระวังความเคยชินของเธอ เพราะความเคยชินของเธอ จะกลายเป็นอุปนิสัยของเธอ
เธอจงระวังอุปนิสัยของเธอ เพราะอุปนิสัยของเธอ จะกำหนดชะตากรรมของเธอชั่วชีวิต
คำสอนหลวงปู่ชา สุภทฺโท


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ต.ค. 2008, 13:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ต.ค. 2008, 12:16
โพสต์: 6


 ข้อมูลส่วนตัว


มีหลายสิ่งหลายอย่างที่พระพุทธเจ้าได้ทรงตรัสไว้ ว่าไม่ควรไปใส่ใจกับมัน เพราะมันไม่ใช่สาระอะไรที่สำคัญ เราเกิดมานั้นเกิดจากการปรุงแต่งของธรรมชาติ ก็นี่แหละผมถึงว่าไง ว่ามันเป็นเรื่องที่เรานั้นถูกปรุงแต่งขึ้นมาโดยธรรมชาติ ดังนั้นมันก็ไม่ใช่สาระอะไร เราจะรู้ได้ไงว่าเราเกิดมาเพื่ออะไร มารู้ตัวอีกทีก็อยู่บนโลกใบนี้เสียแล้ว แต่ในเมื่อมันเกิดวัฏจักรต่างๆขึ้นมาแล้ว และมันก็ทำให้เราพบกับความทุกข์ที่แสนสาหัส เราก็ควรที่จะค้นหาหนทาง แล้วพาตัวเราไปสู่ความดับทุกข์ ซึ่งเป็นความสุขอันเกษม เป็นความสุขที่แท้จริง ไม่พบกับความทุกข์อีก ไม่มีเหตุผลใดที่เราจะต้องมาทนทุกข์ทรมาน


แก้ไขล่าสุดโดย ธัมมะ เมื่อ 18 ต.ค. 2008, 15:59, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ต.ค. 2008, 14:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.ค. 2006, 06:25
โพสต์: 2058


 ข้อมูลส่วนตัว


คามินธรรม เขียน:
คุณตรงประเด็นครับ

ถ้าว่างๆขอเชิญไปที่ http://www.dhammathai.org/webboard/dbindex.php
หน่อยนะคับ

คุณภาพการแสดงความเห็นลักษณะที่คุณตรงประเด็นทำอยู่นี้เป็นที่ต้องการมาก
ขอเชิญไปทำธรรมทานที่นู่นบ้างนะครับ




ขอบคุณครับ

เมื่อก่อนก็เคยไปเหมือนกัน ตอนหลังเวลาน้อยเลยไม่ได้ไป
ถ้าพอมีเวลาว่าง จะแวะไปบ้าง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 พ.ย. 2008, 03:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.ย. 2008, 23:07
โพสต์: 151

ที่อยู่: BKK.

 ข้อมูลส่วนตัว


สหรับตัวข้าพเจ้านั้น
[b[color=#404080]]"เกิดมาชดใช้กรรมเก่าและสร้างกุศลใหม่"[/[/color]b]

.....................................................
จงระมัดระวังกาย วาจา ใจ ไม่ให้ไปทำร้ายใคร


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 พ.ย. 2008, 12:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มิ.ย. 2008, 22:48
โพสต์: 1173


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณPuy และคุณ"แวะมา"ครับ



"เกิดมาชดใช้กรรมเก่าและสร้างกุศลใหม่"

นั่นเป็นแนวคิดของสมมุติสงฆ์เถรวาท เพราะเถรวาทเริ่มต้นจากอวิชชาและปฏิจจสมุปบาท ซึ่งยัง
ไม่เข้าถึงธรรม แต่อริยะสงฆ์โดยเฉพาะพระอรหันต์ พวกท่านรู้ว่า พวกเราล้วนเป็นจิตประภัสสร คือ
เราอยู่ในนิพพานอยู่แล้ว แล้วอวิชชากิเลสจะเข้ามาในจิตของเราได้อย่างไร นอกจากเราปล่อยให้มัน
เข้ามาเองโดยพวกเรามีจุดประสงค์บางอย่าง

ส่วนทางฝ่ายมหายาน พวกเขามีความอยากรู้อยากเห็นมากกว่าเถรวาท ถ้าไม่รู้ถึงจุดเริ่มต้นจริงๆ พวกเขา
จะไม่ยอมหาทางดับทุกข์ พระพุทธองค์จึงตรัสสอนให้ เริ่มต้นที่ พระพุทธเจ้าต้นธาตุ หรืออาทิพุทธเจ้า
หรือพระไวโรจนพุทธเจ้า
พวกเราทุกจิตล้วนออกมาจากพระพุทธเจ้าต้นธาตุทั้งนั้น พวกเราจึงมีพุทธะอยู่
ในตัวอยู่แล้ว เพียงแต่อวิชชามันมาปิดบังจิตเราเอาไว้ ทำให้พวกเราไม่รู้ตัวเองว่า พวกเราเป็นใคร

คราวนี้มาถึงคำตอบที่ว่า พวกเราเกิดมาทำไม เพื่ออะไร คำตอบนี้ผมตอบออกไป บางคนอาจจะเชื่อ
บางคนอาจจะไม่เชื่อก็ได้ เนื่องจากเรื่องนี้เป็นปัจจัตตัง ต้องทำเอง รู้เอง เห็นเอง และต้องตั้งจิต
อธิษฐานขอรู้ความจริงด้วย ซึ่งคงต้องรออีกหลายสิบ หลายร้อย หลายพันชาติ จนกว่าเราจะสั่งสมบุญ
บารมีถึงระดับ ฟ้าจึงจะเปิดทางให้เรารู้

ผมตอบเลยดีกว่า พวกเราเกิดมาเพื่อ....


1. เล่นเกมค้นหาตัวเอง ถ้าเราค้นหาตัวเองไม่พบ เราก็ต้องเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏ
ต่อไปไม่มีสิ้นสุด พวกเราก็คือ พุทธะ
หรือพระอรหันต์ ศาสนาคริสต์เรียกว่า พระบุตรของพระเจ้า ศาสนาอิสลามเรียกว่า อัลล่าร์ หรือ พระเจ้า เมื่อพวกเราค้นหาตัวเองพบแล้วเราทุกจิตก็จะเข้าถึง
ความบริสุทธิ์เหมือนเดิมก่อนออกมาเล่นเกม พูดง่ายๆ พวกเราจะกลับไปเป็นพุทธะ หรือ อรหันต์ หรือ
พระบุตรของพระเจ้า หรือ พระเจ้าเหมือนเดิมนั่นเอง

หลวงพ่อฤาษีลิงดำเรียก นิพพานว่า “กลับบ้านเก่า”
หลวงพ่อสดเทศน์ว่า “ช้าเร็วทุกคนก็ต้องเข้านิพพานกันหมด”

นั่นเป็นเพราะอะไรล่ะครับ ก็เพราะว่า จิตเดิมของเราทุกจิตเป็นจิตประภัสสร ก็อย่างที่ผมบอกไปแล้วว่า
พวกเราเคยอยู่ในนิพพานมาแล้วทั้งนั้น พวกเราเพียงแต่ออกมาเล่นเกมค้นหาตัวเองเท่านั้น ใครค้นหาตัว
เองเจอแล้ว ก็เข้านิพพานไปก่อน ถ้ายังหาตัวเองไม่เจอ ก็ต้องเล่นเกมกันต่อไป


2. พวกเราเกิดมาเพื่อรับรู้สุขทุกข์ในภพภูมิต่างๆทั้ง 31-32 ภูมิ เปรียบเทียบกับความไม่ทุกข์
ในนิพพาน
และเปรียบเทียบความสุขและความทุกข์จากการใช้รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
หรือขันธ์ 5 ของเรา รับรู้ความสุขทุกข์จากอายตนะภายใน 6 และภายนอก 6 เมื่อเปรียบเทียบกับ ความ
ไม่ทุกข์หรือความสุขบริสุทธิ์ในนิพพานของเรา


3. พวกเราเกิดมาเพื่อลองใช้สิ่งที่เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา หรือขันธ์ 5 และสังขาร
ที่เป็นสิงที่ไม่อมตะ ลองเกิด แก่ เจ็บ ตาย ในภพภูมิต่างๆดู เทียบกับการไม่เกิด ไม่แก่
ไม่เจ็บ และไม่ตาย หรือความเป็นอมตะภาวะของเราในนิพพาน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 พ.ย. 2008, 22:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.ย. 2008, 23:07
โพสต์: 151

ที่อยู่: BKK.

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณค่ะ คุณพลศักดิ์ สำหรับความรู้ใหม่
:b48: :b41:

.....................................................
จงระมัดระวังกาย วาจา ใจ ไม่ให้ไปทำร้ายใคร


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 12 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร