วันเวลาปัจจุบัน 31 ต.ค. 2025, 20:53  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: วันนี้, 05:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5411


 ข้อมูลส่วนตัว


"ทุกวันนี้มันหลง หลงกับวัตถุ หลงกับโลก หลงกับการวิ่งหาบุญ บุญไม่ได้ ไปวิ่งหาวัดนั้นวัดนี้
แค่พวกเรารักษาศีล ภาวนา ทำทาน ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ วางอุเบกขาให้เป็น พิจารณาให้มันเกิดปัญญา ดูแลผู้มีพระคุณ นั้นก็เป็นบุญแล้ว"

พระครูภาวนาสาธุกิจ
(หลวงปู่ชนะ อุตตมลาโภ)
วัดป่าโนนหมากอื๋อ จ.มหาสารคาม






"บรรดาสัตว์ทั้งหลายนั้น เมื่อไม่มีทุกข์มาถึงตัว
มักไม่เห็นคุณพระศาสนา มัวเมาประมาท
ปล่อยกายปล่อยใจให้ประพฤติทุจริตผิดศีลธรรม
อยู่เป็นประจำนิสัย เห็นผิดเป็นถูก เห็นกงจักรเป็นดอกบัว
ต่อเมื่อได้รับทุกข์เข้า ที่พึ่งอื่นไม่มีนั่นแหละ จึงได้คิดถึงพระ
คิดถึงศาสนา แต่ก็เป็นเวลาที่สายไปแล้ว"

หลวงปู่แหวน สุจิณโณ





"สมัยนี้ มีผู้ชอบกล่าวว่าเงินไม่มี เกียรติไม่มี
นั่นไม่ใช่ความถูกต้อง เป็นความรู้สึกของคนบางคน เท่านั้น

คนบางคนที่มีความเห็นผิดเป็นชอบเท่านั้น
ที่จะมีความรู้สึกว่าคนไม่มีเงินเป็นคนไม่มีเกียรติ
เงินกับเกียรติ มิใช่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
มิใช่เป็นสิ่งที่แยกจากกันมิได้ คนไม่มีเงิน
แต่มีเกียรติก็มีอยู่

ความสำคัญอยู่ที่ว่าเงินที่มี หรือที่ได้มานั้น
เป็นเงินที่จะทำให้เกียรติยศชื่อเสียงสิ้นไป
หมดหรือไม่

ควรจะพิจารณาให้รอบคอบในเรื่องนี้
โดยเฉพาะผู้ที่ยังคำนึงถึงชื่อเสียงเกียรติยศ
ของตน และของวงศ์ตระกูล"

สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ







“คิดดูให้ดี คิดดูให้ดี ร่างกายนี้
เปลี่ยนแปลงไปสู่ความแตกดับอยู่
ทุกเวลานาที ถ้าไม่ใช้ให้เป็นประโยชน์
แล้วจะมีค่า มีราคาอยู่ตรงไหน”...
...
ปัญญานันทภิกขุ
พระพรหมมังคลาจารย์ (ปั่น ปทุมุตฺตโร)







"..อันคำว่า ตายแล้วสูญก็ดี คำว่าบาปไม่มีก็ดี คำว่าบุญไม่มีก็ดี คำว่านรกไม่มีก็ดี คำว่าสวรรค์ไม่มีก็ดี คำว่านิพพานไม่มีก็ดี เหล่านี้เป็นหลักวิชาในคัมภีร์ของกิเลสตัวครองไตรภพ มันเรียนจบวิชาเหล่านี้แล้วจึงครองหัวใจสัตว์โลก แม้มันจะโขกจะสับสัตว์โลกลงหนักเบามากน้อยเพียงไร ก็ทำได้ไม่หวาดหวั่นพรั่นพรึงและสะทกสะท้าน ต่อผู้พูดว่าจะมาหาญสู้กับมัน เพราะวิชามันดี ทันสมัย สัตว์โลกยอมรับอย่างหมอบราบไม่กล้าฝ่าฝืน ร้อยทั้งร้อย วิชาทุกแขนงจากคัมภีร์กิเลสที่เสี้ยมสอนไว้ ต้องเป็นวิชาลบล้างความจริงของธรรมที่แสดงไว้ทั้งสิ้น เช่น ความจริงแห่งธรรมแสดงไว้ว่า ตายแล้วเกิด วิชาจากคัมภีร์ของกิเลส ต้องสอนกลับกันว่า ตายแล้วสูญ เช่นธรรมว่า บาปมี บุญมี นรกมี สวรรค์มี นิพพานมี วิชาของกิเลสจะปฏิเสธ หรือลบล้างทันทีว่า บาปไม่มี บุญไม่มี นรกไม่มี สวรรค์ไม่มี นิพพานไม่มี ดังนี้ ทุกคัมภีร์ไม่ก้าวก่ายกัน.."

อนาลโยวาท
หลวงปู่ขาว อนาลโย
วัดถ้ำกลองเพล อำเภอเมือง จังหวัด หนองบัวลำภู
(พ.ศ.๒๔๓๑–๒๕๒๖)







#แต่งแต่ตัวไม่แต่งจิต

แต่งเนื้อแต่งตัว...มันก็แก่ไป
เอาเพชรนิลจินดาประดับเข้าไป...มันก็แก่ไป
ทำผมสวยๆ...มันก็แก่ไป
แต่งเนื้อแต่งหนัง...มันก็ไม่สมหวัง
ทำไมไม่แต่งจิต!
แต่งจิตด้วยความสัตย์ความจริง
เป็นคนจริงด้วย ซื่อสัตย์ด้วย
นี่แหละคือธรรมของฆารวาส
ให้ถึงพร้อมด้วยความหมั่นเพียร ขยันทำงานทุกๆ อย่างที่เห็นว่าเป็นประโยชน์...

บุญไม่ต้องเสียเงิน ปรับปรุงจิตใจของเราให้ดี วันนึงให้เช็คดูว่า มีความจริงใจเท่าไหร่ มีความสะอาดเท่าไหร่ จิตดวงนี้ หรือมีแต่ความเจ็บปวด หรือมีแต่ความขี้โลภ หรือมีแต่ความทุกข์เพ้อเห่อเหิม สิ่งเหล่านี้เป็นโทษของจิตหมด

พระพุทธเจ้าทรงพระเมตตาสัตว์โลก พานำไปดัดแปลงแก้ไข จิตใจของเราจะมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง ถ้าจิตมีความเจริญรุ่งเรือง ทุกอย่างดีหมด...

ธรรมะคำสอน
หลวงปู่ทุย ฉนฺทกโร
วัดป่าดานวิเวก อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ
๓๑ ตค.๒๕๖๓






"...ธรรมะ เป็นเครื่องชำระจิตใจบุคคลให้
ผ่องแผ้ว มีความสุข คนเรามีอุปนิสัยใจ
คอต่างๆกัน คือ บางคนก็หยาบ ปานกลาง
และประณีต

ฉะนั้น พระพุทธเจ้าจึงทรงแสดงธรรมตาม
นิสัยโดยปริยาย คือ นำของสั้นๆ มาพูดให้
ยาวๆ เรียกว่าปกิณกะ เช่น บางครั้งก็แสดง
อานิสงส์ในการบริจาคทาน

บางครั้ง ก็กล่าวถึงอานิสงส์ในการรักษาศีล
บางทีก็แสดงอานิสงส์ของการปฏิบัติขัดเกลา
จิตใจที่เรียกว่า ภาวนา แต่จุดที่พุทธประสงค์
จริงๆ คือ ต้องการสอนให้คนทำใจให้บริสุทธิ์
นอกนั้นก็เป็นธรรมปริยาย..."

ท่านพ่อลี ธมฺมธโร







คนเฮาเกิดมาเป็นทุกข์ ทุกคนที่นั่งอยู่ตรงนี้ก็เป็นทุกข์ นั่งนานๆเมื่อยก็ต้องขยับตัว ถ้าจะร้องไห้ให้กับคนตายก็ต้องร้องไห้ให้กับคนที่เกิดด้วย

คนเฮาถ้าไปยึดกับอะไรก็เป็นทุกข์กับสิ่งนั้น เห็นบ่นั่งอยู่นั่น(เด็ก)ถ้าเฮาบ่เอานมให้กินก็จะร้อง ทุกข์เพราะเฮาไปรัก ไปยึดว่าเป็นลูกของเฮา ต้องหาเลี้ยงกว่าจะใหญ่

พอไปยึดกับเงินทองก็เป็นทุกข์ หามาหลายๆก็บ่ได้ใช้ เงินทองส่งเราได้แค่หน้าห้อง ICU แม้แต่เจ้าฟ้ามหากษัตริย์หรือคนร่ำคนรวยก็เอาไปด้วยไม่ได้

โอวาทธรรมคำสอน หลวงพ่อชูเกียรติ(เต๋อ) วรปุญโญ วัดป่าดงสุวรรณาราม อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี








"..ชีวิตใคร ใครก็รัก ชีวิตเรา เราก็รัก ชีวิตเขา เขาก็รัก ความตายเรากลัว ความตายเขาก็กลัว ของใคร ใครก็หวง ของเราเราหวง ของเขาเขาก็หวง จะลักจะโกงจะฆ่าจะทำร้ายใคร ขอให้นึกกลับกันเสีย ให้เห็นเขาเป็นเรา ให้เห็นเราเป็นเขา คือเราจะเป็นผู้จะถูกลักถูกโกงถูกฆ่าถูกทำร้าย ลองนึกเช่นนี้ให้เห็นชัดเจน แล้วดูความรู้สึกของเรา จะเห็นว่าที่เต็มไปด้วยโมหะนั้นเปลี่ยนเป็นเมตตากรุณาอย่างลึกซึ้ง.."

พระคติธรรม
สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (เจริญ สุวฑฺฒโน)
วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร
(พ.ศ.๒๔๕๖–๒๕๕๖)







"..อันคำว่า ตายแล้วสูญก็ดี คำว่าบาปไม่มีก็ดี คำว่าบุญไม่มีก็ดี คำว่านรกไม่มีก็ดี คำว่าสวรรค์ไม่มีก็ดี คำว่านิพพานไม่มีก็ดี เหล่านี้เป็นหลักวิชาในคัมภีร์ของกิเลสตัวครองไตรภพ มันเรียนจบวิชาเหล่านี้แล้วจึงครองหัวใจสัตว์โลก แม้มันจะโขกจะสับสัตว์โลกลงหนักเบามากน้อยเพียงไร ก็ทำได้ไม่หวาดหวั่นพรั่นพรึงและสะทกสะท้าน ต่อผู้พูดว่าจะมาหาญสู้กับมัน เพราะวิชามันดี ทันสมัย สัตว์โลกยอมรับอย่างหมอบราบไม่กล้าฝ่าฝืน ร้อยทั้งร้อย วิชาทุกแขนงจากคัมภีร์กิเลสที่เสี้ยมสอนไว้ ต้องเป็นวิชาลบล้างความจริงของธรรมที่แสดงไว้ทั้งสิ้น เช่น ความจริงแห่งธรรมแสดงไว้ว่า ตายแล้วเกิด วิชาจากคัมภีร์ของกิเลส ต้องสอนกลับกันว่า ตายแล้วสูญ เช่นธรรมว่า บาปมี บุญมี นรกมี สวรรค์มี นิพพานมี วิชาของกิเลสจะปฏิเสธ หรือลบล้างทันทีว่า บาปไม่มี บุญไม่มี นรกไม่มี สวรรค์ไม่มี นิพพานไม่มี ดังนี้ ทุกคัมภีร์ไม่ก้าวก่ายกัน.."

อนาลโยวาท
หลวงปู่ขาว อนาลโย
วัดถ้ำกลองเพล อำเภอเมือง จังหวัด หนองบัวลำภู
(พ.ศ.๒๔๓๑–๒๕๒๖)








"..ผู้เห็นโลกเป็นของวุ่นวาย นั่นแล คือ “ผู้มีบุญ”
เห็นโทษของโลกมากเพียงไร ยิ่งเป็นผู้มีบุญมากวาสนามากเพียงนั้น บุญวาสนาอยู่ตรงนี้ ไม่อยู่ที่อื่น.."

โอวาทธรรม หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน









#อริยประเพณี #อริยปฏิปทา

"...ผู้ใดตั้งใจและมีความปรารถนา
ความเพียรอย่างแรงกล้าเด็ดเดี่ยว
ให้เดินทางไปลำพังแต่เพียงผู้เดียว
เดินทางเที่ยววิเวก อย่าได้ใกล้ชิด
คลุกคลีกับผู้ใดหากแต่ให้มีความยินดี
กับความสงบอย่าได้มีความอยากมัก
มากหากแต่ให้มีความยินดีกับของๆ
เรามักน้อย ถือสันโดษ และยินดีใน
ความสันโดษ

ให้มีความยินดีพอใจในปัจจัยสี่
เฉพาะแต่ของที่ตนเองมีอยู่แล้ว
และได้ครอบครองมาโดยชอบธรรม
นี่คือสิ่งที่ยึดถือปฏิบัติสืบต่อกันมา
และเป็น อริยประเพณี อริยปฏิปทา
ที่มีมาแต่กาลก่อนและคงดำรงสืบต่อ
มาไม่ได้ขาดในหมู่วงศ์พระอริยะ
ตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และสืบต่อไป
ในอนาคตข้างหน้า..."

หลวงปู่ฝั้น อาจาโร
วัดป่าอุดมสมพร จ.สกลนคร







ชีวิตจิตใจที่ยอมตาย
กับพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า
ย่อมอยู่เย็นเป็นสุข
ทั้งในปัจจุบันและในอนาคต
ทั้งในชาตินี้และชาติต่อๆไป
หากปฏิบัติดีตามสวากขาตะธรรมแล้ว
แต่ยังไม่พ้นทุกข์ในชาตินี้
ก็จะพ้นทุกข์ในชาติต่อไป.

คติธรรมคำสอน
หลวงปู่ไม อินทสิริ







“…..เวลามีชีวิตอยู่ อย่าพากันเพลิดเพลิน
ไม่รู้เนื้อรู้ตัวไม่ได้นะ ต้องระวัง

เราเป็นผู้ประกันตัวของเราเอง
รักษาตัวของเราเอง พึ่งตนเอง

ให้ระมัดระวังการกระทำของเรา
อย่าทำสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ดี

มันเป็นการทำลายตัวเอง
ต้องได้คิดได้อ่านเสียก่อนจะทำอะไร

เพราะทำแล้วไม่หายไปไหนนะ
บาปกับบุญมันติดอยู่กับผู้ทำนั่นแหละ
ให้พากันระมัดระวังให้ดี….“
………………………………………………………………….

โอวาทธรรมคำสอน
หลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน
วัดป่าบ้านตาด จ. อุดรธานี








"..ชีวิตใคร ใครก็รัก ชีวิตเรา เราก็รัก ชีวิตเขา เขาก็รัก ความตายเรากลัว ความตายเขาก็กลัว ของใคร ใครก็หวง ของเราเราหวง ของเขาเขาก็หวง จะลักจะโกงจะฆ่าจะทำร้ายใคร ขอให้นึกกลับกันเสีย ให้เห็นเขาเป็นเรา ให้เห็นเราเป็นเขา คือเราจะเป็นผู้จะถูกลักถูกโกงถูกฆ่าถูกทำร้าย ลองนึกเช่นนี้ให้เห็นชัดเจน แล้วดูความรู้สึกของเรา จะเห็นว่าที่เต็มไปด้วยโมหะนั้นเปลี่ยนเป็นเมตตากรุณาอย่างลึกซึ้ง.."

พระคติธรรม
สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (เจริญ สุวฑฺฒโน)
วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร
(พ.ศ.๒๔๕๖–๒๕๕๖)







#องค์หลวงพ่อสมบูรณ์ได้เมตตาให้ข้อคิดพอเป็นแนวทาง

#แก่ผู้ปฏิบัติภาวนาที่อยู่ห่างไกลครูบาอาจารย์

ไม่ได้อยู่ใกล้ในสำนักครูบาอาจารย์ ว่า

"อยู่ไกลอยู่ใกล้ไม่มีปัญหา อยู่ใกล้ท่านก็ไม่ได้ทำให้เราหรอก เราทำเอาเองทั้งนั้นแหละ เวลาทำกับครูบาอาจารย์น่ะ เหมือนหลวงพ่ออยู่กับหลวงปู่ฝั้นนั่นแหละ เอาคำสอนครูบาอาจารย์มาทำทุกวัน เอาคำสอนครูบาอาจารย์นั่นแหละมาทำ อยู่กับท่าน ท่านก็ไม่ได้ทำให้เราหรอก เราทำเอา นึกถึงครูบาอาจารย์เอา จะไปยากอะไร

พระพุทธเจ้าท่านนิพพาน เราเห็นท่านมั้ย ไม่เห็นท่านหรอก เห็นคำสอน แต่เราพิจารณาคำสอนภายหลัง เป็นจริงหมดนี่ เราต้องเชื่อคำสอน เป็นจริงหมด ถ้าไม่เป็นจริงก็ไม่เชื่อ เป็นจริงทุกอย่างคำสอนพระพุทธเจ้า นอกจากผู้ไม่ปฏิบัติเขาไม่เชื่อก็ช่างเขา อย่าไปสนใจ

โอวาทธรรม
#หลวงพ่อสมบูรณ์_กันตสีโล
วัดป่าสมบูรณ์ธรรม อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก







#ดิฉันได้เป็นโสดาบันแล้วนะหลวงพ่อ

หลวงพ่อจึงตอบไปว่า..ดีกว่าหมานิดหน่อย
#การปฏิบัติของเรานี้อย่าให้มันยกหูชูหาง อย่าให้ยึดถือเป็นอะไร ๆ ขึ้นมา ให้เป็นไปด้วยความสงบระงับ ไม่ต้องทะเยอทะยานอยากได้ อยากเป็นอะไรทั้งนั้น

บางคนพอปฏิบัติไป เห็นอะไรบ้างแล้วก็ถือเป็นจริงเป็นจังว่าตัวได้ ตัวเป็นอะไรขึ้นมาจริง ๆ อย่างนั้นมันไม่ถูก
เคยมีอยู่ครั้งหนึ่ง ที่วัดของหลวงพ่อเภา วันหนึ่งมีแม่ชีรูปหนึ่งมาหาท่าน มาบอกท่านว่า #ดิฉันได้เป็นพระโสดาบันแล้วนะหลวงพ่อ #ท่านได้ยินแม่ชีว่าอย่างนั้น #ท่านจึงตอบไปว่า “#เออดีกว่าหมานิดหน่อยว่ะ”
พอท่านว่าอย่างนั้น พระโสดาบันก็หน้างอกลับไป

โอวาทธรรม
#หลวงพ่อชา_สุภัทโท

#ที่มา จากหนังสืออุปลมณี หน้า ๒๒๔







#กายอย่างไร_ใจต้องอย่างนั้น

"การปฏิบัติดี มันต้องเริ่มแต่ต้น คือเราเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนา ตั้งใจปฏิบัติกาย วาจา ใจ ของตน เพื่อความบริสุทธิ์พ้นจากทุกข์ จิตแน่วแน่ตั้งมั่น อย่างนี้เรียกว่าปฏิบัติตรง เรียกว่าปฏิบัติดี

ไม่ใช่ใจอย่างหนึ่ง แล้วกายปฏิบัติอย่างหนึ่ง ไม่ใช่อย่างนั้น

กายอย่างไรใจก็อย่างนั้น ปฏิบัติอย่างไรใจก็ตรงอย่างนั้น เป็นไปเพื่อพ้นจากทุกข์เรียกว่าปฏิบัติดี

ไม่ใช่ปฏิบัติหลอกลวงคนทางโลกให้เข้าใจผิดคิดว่า ตนดี ปฏิบัติว่าตนดี แต่ใจมันไม่ดี ใจไม่ตรง ปฏิบัติเพื่อละโมบ เพื่อความอยากได้ เพื่อความอิจฉาริษยาเห็นแก่ตัว อย่างที่เราได้เห็นทั่วไป ปฏิบัติอย่างนั้นมันไม่ตรงไปตรงมา ไปเดี๋ยวเดียวแล้วก็คนก็เห็นกิเลส มันเจ๊งเท่านั้นละซิ ปฏิบัติไม่ดีมันจะตรงอย่างไร"

โอวาทธรรม
#หลวงปู่เทสก์_เทสรังสี








"..การปฏิบัติต่อร่างกายด้วยวิธีต่าง ๆ ก็ต้องได้รับการอบรมสั่งสอน การปฏิบัติต่อจิตใจก็ต้องได้รับการอบรมสั่งสอน ถ้าไม่ได้รับการอบรมสั่งสอนมาเท่าที่ควร ก็ต้องทำผิดจริง ๆ ด้วย โดยไม่เลือกเพศวัยและชาติชั้นวรรณะใด ๆ เลย เพราะสามัญมนุษย์เราเป็นเหมือนเด็ก ซึ่งต้องได้รับการดูแลและอบรมสั่งสอนจากผู้ใหญ่อยู่ทุกขณะจึงจะปลอดภัยและเจริญเติบโตได้ คนเราใหญ่แต่กาย ใหญ่แต่ชาติ ใหญ่แต่ชื่อ ใหญ่แต่ยศ ใหญ่แต่ความสำคัญตน แต่ความรู้ความฉลาดที่จะทำตนให้ร่มเย็นเป็นสุขทั้งทางกายและทางใจโดยถูกทาง ตลอดผู้อื่นได้รับความร่มเย็นเป็นสุขด้วย นั่นไม่ค่อยเจริญเติบโตด้วยและไม่สนใจบำรุงให้ใหญ่โตอีกด้วย จึงเกิดความเดือดร้อนกันอยู่ทุกหนทุกแห่ง โดยไม่เลือกเพศวัยและชาติชั้นวรรณะอะไรเลย.."

ภูริทตฺโตธมฺโมวาท
พระครูวินัยธร (หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต) วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ.สกลนคร
(พ.ศ.๒๔๑๓-๒๔๙๒)


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร