ภิกษุในธรรมวินัยไม่รับและ
ไม่ยินดีรับเงินและทองทุกกรณี
ถ้าจะมีผู้ปวารณาจ่ายค่าน้ำไฟ
ก็ให้ชาวบ้านเป็นธุระจัดการไป
เพราะชาวบ้านรับเงินทองได้
และใช้จ่ายได้ไม่มีโทษอาบัติ
ตราบใดที่บุคคลยังไม่เข้าใจว่า
ผิดที่ถวายเงินแก่ผู้บวชตามธรรมวินัย
ตราบนั้นก็จะทำการถวายเงินต่อไปเรื่อยๆ
เพราะไม่รู้ไม่เห็นโทษของสิ่งที่ทำว่าทำสิ่งที่ไม่ควรทำ
https://youtu.be/VTxap0sa8ss

ถ้าไม่มีคนจ่ายให้ล่ะ จะให้ทำยังไง

วินัยนั้นท่านบัญญัติตามยุคสมัย ยกตัวอย่างให้ดูสักสิกขาบทหนึ่ง เช่น ภิกษุพรากของเขียวนี่เป็นอาบัติแล้ว แต่ปัจจุบันปล่อยให้ที่วัดรกรุงรังหญ้าขึ้นเต็มไปหมดชาวบ้านก็ด่า แต่ว่าสมัยโน้นถ้าพระทำชาวบ้านด่า พระพุทธเจ้าจึงบัญญัติไว้เช่นนั้น เพราะอะไร ? เพราะยุคนั้นมีหลายศาสนาที่แข่งขันกันแต่ละศาสดาก็เผยแพร่หลักธรรมของตนๆ พระพุทธเจ้าก็หนึ่งในนั้น เมื่อมีคนพูดว่า ศาสนานั้นเขาไม่ตัดของเขียว ทำไมศาสนาของพระสมณโคดมจึงทำอย่างนี้ ไม่ไหวเลย ไม่ได้เรื่อง พระพุทธเจ้าก็บัญญัติไม่ให้พระทำ นี่ตัวอย่างสำหรับคิดถึงสิกขาบทอื่นๆ ดังนั้น วินัยท่านบัญญัติเพื่อให้เหมาะกับความเป็นอยู่ตามยุคสมัย


เรื่องวินัยนี้ ก่อนจะปรินิพานพระพุทธเจ้าได้อนุญาตไว้ ว่าในกาลข้างหน้าภิกษุจะเพิกถอนสิกขาบทเล็กๆน้อยๆก็ได้ สิกขาบท (วินัย เรียกว่า สิกขาบท) พระองค์มองกาลไกลว่า ในภายหน้าเมื่อสังคมเปลี่ยนแล้วสิกขาบทบางข้อจะขัดขวางการดำรงชีวิตของภิกษุในยุคสมัยที่เปลี่ยนไปนั่น เมื่อครั้งสังคายนาก็มีถกเถียงกันว่า สิกขาบทเล็กน้อยนั้นแค่ไหนเพียงใด เถียงกันตกลงกันไม่ได้สิกขาบทใด ก็จึงเลยคงไว้ตามเดิม
ถ้าจะเปรียบสิกขาบทก็เหมือนกฎหมาย สมัยหนึ่งเหมาะกับสังคมความเป็นอยู่ของคนในยุคหนึ่งสมัยหนึ่ง แต่กาลต่อมาอีกร้อยปี สังคมความเป็นอยู่ของผู้คนเปลี่ยนไป ไม่เหมาะแล้ว ก็พร้อมกันเพิกถอนยกเลิกเสียได้ โดยนำเข้าสภาตกลงกันยกเลิก แล้วก็บัญญัติขึ้นใหม่เพื่อให้เหมาะกับยุคสมัย

แยกให้ชัดนะ วินัย (สิกขาบท) ก็วินัย ธรรมก็ธรรม ต่างกันนะ วินัยเพิกถอนได้เพราะเป็นข้อตกลงในแต่ละยุคสมัย แต่ธรรมะนี่เปลี่ยนไม่ได้

คนร้ายแอบวางยามรณะในน้ำดื่ม หวังสังหารทั้งวัด



https://www.komchadluek.net/news/local/ ... S.facebook

ปทท.ยังไม่เคยมี จะเห็นบ้างนานๆทีก็วัดที่ถูกปิดล้อมด้วย ม.44



https://www.facebook.com/photo.php?fbid ... =3&theater

คณะสงฆ์ 4 จังหวัดชายแดนใต้ ร้องตั้ง สมาคมปกป้องชาวพุทธ หลังเกิดเหตุยิง 15 ศพ

หลังเกิดเหตุคนร้ายคนร้ายไม่ทราบกลุ่ม ไม่ต่ำกว่า 10 คน ใช้อาวุธสงครามบุกยิงป้อมจุดตรวจชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน หมู่ที่ 4 ต.ลำพะยา อ.เมือง จ.ยะลา เป็นเหตุให้ เจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านเสียชีวิต 15 ราย เหตุเกิดเมื่อคืน วันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งสร้างความหวาดกลัวให้กับชาวไทยพุทธเป็นอย่างมาก

ประกอบกับในห่วงที่ผ่านมา ยังคงมีเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตและการปฏิบัติศาสนกิจของพระภิกษุ สามเณร และวิธีการดำเนินชีวิตของพุทธศาสนิกชนในพื้นที่ ดังนั้น จึงมีเวทีสัมมนาเพื่อแลกเปลี่ยนเพื่อหาทางร่วมกันในการแก้ไขปัญหาความมาสงบในพื้นที่




https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_3037983

พระเปิดลานวัดให้ชาวนาตากข้าว แทนตากบนถนน หวังช่วยลดอุบัติเหตุ

พระโคราชให้ชาวนาตากข้าวในวัด ปลอดภัยกว่าบนถนน หลังเกิดอุบัติเหตุรถชนกันจนทำให้มีผู้เสียชีวิต

ที่บ้านท่าหลวง ต.ท่าหลวง อ.พิมาย จ.นครราชสีมา มีชาวนานำข้าวเปลือกมาตากผึ่งแดดไว้ภายในลานวัดบ้านท่าหลวงเป็นจำนวนมาก หลังจากหน่วยงานภาครัฐได้ขอความร่วมมือชาวนาไม่ให้ตากข้าวเปลือกบนถนน หวั่นเกิดอุบัติเหตุและกีดขวางการจราจร เพราะก่อนหน้านี้ได้เกิดอุบัติเหตุรถชนกันจากการหักหลบกองข้าวเปลือกของชาวนาที่ตากข้าวเปลือกไว้บนถนน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย ที่ อ.โนนสูง

เจ้าอาวาสวัดบ้านท่าหลวง บอกว่า ทางวัดรู้สึกสงสารและเห็นใจชาวนาที่ไม่มีสถานที่ตากข้าวเปลือกหลังจากเก็บเกี่ยวมาแล้ว จึงเปิดพื้นที่ลานวัดให้ชาวนานำข้าวเปลือกมาตาก เพราะไม่อยากให้ชาวนาไปตากข้าวบนถนน ซึ่งอาจเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้

จากนั้นก็เป็นคิวของชาวนาคนต่อไป ทั้งนี้เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาความขัดแย้งแย่งที่ตากข้าวกันอีก ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยป้องกันการเกิดอุบัติเหตุบนถนน และช่วยไม่ให้เกิดปัญหาการนำวัสดุมาวางกีดขวางการจราจรบนพื้นผิวถนนได้ด้วย



https://www.amarintv.com/news-update/ne ... w90WUobzuY

พระเมธีธรรมาจารย์ หรือเจ้าคุณประสาร รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ในฐานะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาด้านพระพุทธศาสนาและศาสนาอื่นๆ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า
นางพรเพ็ญ บุญศิริวัฒนกุล ประธานคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาด้านพระพุทธศาสนาและศาสนาอื่นๆ ได้เรียกประชุมคณะอนุกรรมาธิการนัดแรก

ในวาระพิจารณานั้นส่วนของอาตมาได้ขอให้คณะอนุกรรมาธิการขออำนาจจากกรรมาธิการชุดใหญ่เพื่อศึกษาและเสนอต่อกรรมาธิการใน 3 เรื่องคือ

1. ร่างพระราชบัญญัติอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา
2.ร่างพระราชบัญญัติธนาคารพระพุทธศาสนา และ
3.ร่างพระราชบัญญัติแม่ชีไทย

ที่ประชุมมีมติรับไปดำเนินการทั้ง 3 เรื่องแต่ขอพิจารณาคราวละเรื่องเพื่อจะได้สำเสร็จตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด
......................

อาตมาได้ปรารภกับที่ประชุมว่า ก่อนมาประชุมมีสื่อมวลชนบางสำนัก ได้เสนอข่าวว่า

มีอดีตเลขาธิการพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง ได้กล่าวในทำนองว่า ทำไมคณะอนุกรรมาธิการชุดนี้จึงแต่งตั้งบุคคลที่เป็นเครือข่ายวัดใหญ่วัดหนึ่ง เข้าไปเป็นอนุกรรมาธิการด้วย
โดยสื่อท่านนั้น ก็พูดแสดงความเห็นทำนองว่ารวมเอาอาตมาเข้าไปในเครือข่ายนั้นด้วย
รวมทั้งพูดว่า อาตมานั้นเคยลุกขึ้นถือดาบ รำดาบปกป้องอดีตเจ้าอาวาสวัดนั้นด้วย
อาตมาจึงยืนยันต่อคณะอนุกรรมาธิการว่า (เคยยืนยันกับสื่อมาแล้วหลายครั้ง)

1.ในชีวิตนี้ไม่เคยเข้าไปที่วัดดังกล่าว ไม่เคยเป็นมือปืนรับจ้าง ไม่เคยรับงานใครมาทำ ยืนยันชัดเจน ตลอดเวลาที่ผ่านมานั้นได้ทำงานเพื่อคณะสงฆ์และพระพุทธศาสนาโดยรวมตลอดมา

2. บุคคลที่ อดีตเลขาธิการพรรคการเมืองและสื่อ
คนนั้นเจาะจงพูดถึง ซึ่งเป็นอนุกรรมาธิการอยู่ด้วย นั้นอาตมาได้ยืนยันต่อคณะอนุกรรมาธิการว่า ไม่คยรู้จักกัน
ไม่เคยติดต่อกัน เคยพบครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2
นอกจากนั้นในการประชุมนัดแรกนี้ยังตั้งป้ายให้อาตมานั่งติดกันอีก คงจะเป็นประเด็นได้อีกแน่นอน
นี่คือคำปรารภของอาตมาในที่ประชุมคณะอนุกรรมาธิการนัดแรก
....................

ภายหลังระหว่างเดินทางกลับได้รับการติดต่อจากหลายคน หลายฝ่ายว่า มี อดีตเลขาธิการพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง ท้วง (หรือจะเรียกอะไรก็ตาม)
ว่าการแต่งตั้งให้อาตมาเป็นอนุกรรมาธิการฯนั้น
ผิดรัฐธรรมนูญ ไม่สามารถทำได้
พระสงฆ์เป็นอนุกรรมาธิการไม่ได้
ตอนนี้ฝ่ายที่รับผิดชอบก็เลยกำลังศึกษากันอยู่ว่าจะทำอย่างไร จะออกมาในรูปแบบใหน อย่างไร
พระเมธีธรรมาจารย์ กล่าวต่อว่า สำหรับอาตมานั้น ก่อนรับปากว่าจะไปนั่งทำหนัาที่ตรงนั้น ได้ศึกษารายละเอียดมาพอสมควร ทำการบ้านมาบ้างแล้ว และไปฟังจากนักกฎหมายหลายท่านในการประชุมวันแรก อาตมาขอสรุปประเด็นที่กำลังถูกบางท่าน บางคนตั้งข้อสังเกต ดังนี้

1.ผิดรัฐธรรมนูญหรือไม่
2. ผิดกฎหมายอื่นใดไหม
3. ผิดกฎหมายสงฆ์และกฎเกณฑ์ ระเบียบ คำสั่ง ประกาศ ข้อบังคับและอื่นๆของมหาเถรสมาคมหรือไม่
4.เป็นการนำพาพระหรือพระกระโจนลงไปเล่นการเมืองใหม
5.เหมาะสม สมควรหรือไม่
6. ผิดพระธรรมวินัยไหม
..............

ขอชี้แจงรายละเอียด ดังนี้
1. ไม่ปรากฎในรัฐธรรมนูญว่าพระสงฆ์เป็นบุคคลตัองห้ามในการดำรงตำแหน่งดังกล่าว

2. ไม่ปรากฎว่ามีกฎหมายฉบับใดๆของไทยในการห้ามพระสงฆ์เข้าไปดำรงตำแหน่งในอนุกรรมาธิการโดยเฉพาะในอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาด้านพระพุทธศาสนาและศาสนาอื่นๆ

3.ไม่ปรากฎในกฎหมายสงฆ์และอื่นๆในการต้องห้ามในกรณีนี้

4. กรณีนี้ต้องพิจารณาให้รอบคอบ นี่เองที่อาตมาปรารภว่าได้ทำการบ้านมาบ้างแล้ว เราจะต้องแยกแยะเรื่องบ้านเมืองกับเรื่องการเมืองให้ออก

บ้านเมืองคือส่วนรวมของประเทศชาติ ทุกคนต้องมีส่วนร่วมรวมทั้งพระสงฆ์ก็ไม่เว้น
ส่วนการเมืองเรื่องอำนาจ การหาเสียง และผลประโยชน์อื่นใดนั้น จะรวมทั้งการชี้นำทางการเมืองด้วยแล้ว แน่นอนพระสงฆ์ไม่ควรยุ่งเกี่ยว ไม่ควรเกี่ยวข้อง
ในคำสั่งแต่งตั้งนั้น ชัดเจนให้คณะอนุกรรมาธิการชุดนี้ มีหน้าที่และอำนาจ ดังนี้

1. พิจารณาศึกษาประเด็นปัญหาตามที่คณะกรรมาธิการมอบหมาย ในเรื่องเกี่ยวกับการอุปถัมภ์ทำนุบำรุงและคุ้มครองพระพุทธศาสนาและศาสนาอื่นๆที่ทางราชการให้การรับรอง รวมทั้งสร้างศาสนสัมพันธ์เพื่อความสามัคคีและศาสนิกชนสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างสันติสุข

2. ให้คณะอนุกรรมาธิการรายงานผลการพิจารณาศึกษาต่อคณะกรรมาธิการทราบเป็นระยะ และจัดทำรายงานผลการพิจารณาศึกษาเสนอต่อคณะกรรมาธิการภายในระยะเวลาที่กำหนด

เหตุผลที่อาตมาได้อธิบายมาและยิ่งมาดูหน้าที่ และอำนาจตามกรอบที่ได้รับมอบหมายแล้วก็จะมีแค่อย่างละข้อเท่านั้นเองสำหรับหน้าที่และอำนาจ และโดยเฉพาะข้อที่หนึ่งนั้นชัดเจนมาก ชัดเจนในภารกิจที่จะต้องทำ คือจะต้องปฎิบัติในสิ่งที่เป็นคุณต่อพระพุทธศาสนาและศาสนาอื่นๆ นี่เป็นประเด็นสำคัญที่จะต้องทำความเข้าใจให้ตรงกัน ให้เข้าใจเหมือนกันทุกฝ่าย
รวมทั้งฝ่ายที่กำลังร้องอยู่ในขณะนี้ด้วย จึงอยากถามว่า นี่หรือการเมือง นี่ใช่ใหมพระเล่นการเมือง นี่ใช่ใหมพระทำผิดรัฐธรรมนูญและกฎหมายบ้านเมือง นี่ใช่ไหมพระทำตัวไม่เหมาะสม และถ้าหน้าที่และอำนาจที่ระบุไว้ในอนุกรรมาธิการชัดเจนขนาดนี้แล้ว
ถ้าพระสงฆ์ ซึ่งเป็นศากยบุตรยังไม่เหมาะในการไปทำหน้าที่ดังกล่าว ไม่ควรเป็นผู้แทนไปแสดงบทบาทนี้ ไม่เหมาะ ไม่สม ไม่ควร แล้วใครละที่มีคุณสมบัติเหมาะสมจะไปทำหน้าที่ ช่วยตอบที
การกล่าวอ้างการเมืองโดยไม่ศึกษารายละเอียดให้ชัดเจนถ่องแท้มันง่ายดี และโดยเฉพาะเรื่องมันเกี่ยวเนื่องกับสภาและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแล้วก็โยนเป็นการเมืองไปหมด แบบนี้ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรมากการกล่าวโจมตีโดยไม่คำนึงถึงความถูกต้องและคุณธรรมแล้วก็สนุกปากดี

5. เหมาะสมหรือไม่ ตอบรวมแล้วในข้อที่ 4

6. พระพุทธองค์มีปณิธานส่วนพระองค์ว่า จะยังไม่ปรินิพพาน ถ้าสาวกของพระองค์ยังไม่ศึกษาพระพุทธศาสนาทั้งปริยัติและปฎิบัติแล้วนำไปสู่ปฎิเวธ เผยแผ่พระพุทธศาสนา และพิทักษ์ปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนา

"กรณีนี้เข้าข่ายพุทธปณิธานทั้งการเผยแผ่พระพุทธศาสนาและการอุปถัมภ์ พิทักษ์ ปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนา


https://www.facebook.com/photo.php?fbid ... =3&theater

เหตุที่เครือข่ายเผด็จการพลักไสวัดธรรมกายออกนอกพุทธ เพราะวัดนี้มีศักยภาพหนึ่ง สองสมบัติวัดมีที่ดิน เป็นต้น ถ้าเขาล้มได้เสร็จกู ซึ่งทำมาแล้วแต่ไม่สำเร็จ แหมเสียดายจัง

https://www.google.com/search?sxsrf=ACY ... 60&bih=625

https://www.youtube.com/watch?v=D0Ck3XcrrtM


คนฮ่องกงรู้ทันว่า อเมริกันเย่นต์ พยายามจะทำให้ฮ่องกงเป็นแบบตะวันออกกลาง อิรัค ซีเรีย

ประเพณี ขนบธรรมเนียม, แบบแผน, เชื้อสาย

ประเพณี (อังกฤษ: tradition) เป็นกิจกรรมที่มีการปฏิบัติสืบเนื่องกันมา เป็นเอกลักษณ์ และมีความสำคัญต่อสังคม เช่น การแต่งกายภาษา วัฒนธรรม ศาสนา ศิลปกรรม กฎหมาย คุณธรรม ความเชื่อ ฯลฯ อันเป็นบ่อเกิดของวัฒนธรรมของสังคมเชื้อชาติต่างๆ กลายเป็นประเพณีประจำชาติและถ่ายทอดกันมาโดยลำดับ หากประเพณีนั้นดีอยู่แล้วก็รักษาไว้เป็นวัฒนธรรมประจำชาติ หากไม่ดีก็แก้ไขเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเทศะ

สังคมเราแต่อดีต บ้าน (ชุมชน) กับ วัด พึ่งพาอาศัยกันและกัน ชาวบ้านสร้างวัด พระในวัดก็คนในชุมชนซึ่งเป็นลูกหลานของชาวบ้านนั้นบวช แล้วแต่บวชกันมากบ้างน้อยบ้าง บ้างก็บวชไม่สึกจนเป็นสมภารเจ้าวัดก็อยู่ดูแลวัดไป เป็นที่พึ่งทางใจของชาวบ้านไป ที่สึกก็สึกกันไปเขาก็เรียกกันว่าไอ่ทิด (คนสุก) เวลาชุมชนมีงานมงคล ก็ได้อาศัยไอ่ทิดซึ่งเคยบวชเรียนมารู้วิธีอาราธนาศีล อาราธนาธรรม ทำหน้าที่เป็นผู้นำชุมชน
พูดโดยสรุปก็ว่า ตั้งแต่เกิดจนตายไม่พ้นวัด มีลูกหลานเกิดมาก็อาศัยพระที่วัดตั้งชื่อให้ เรียนหนังสือก็เรียนที่วัด แต่งงานก็นิมนต์พระที่วัด ตายพระที่วัดก็ไปสวดให้ กุสลา ธัมมา อกุสลา ธัมมา อพยากตา ธัมมา ฯลฯ สวดพอแล้วก็หามไปเผาที่วัด เรียกว่าไม่พ้นวัด
แต่ปัจจุบันสังคมดั่งเดิมเปลี่ยนไป เพราะผู้คนมากขึ้นย้ายถิ่นย้ายฐาน ถิ่นไหนทำมาหากินสะดวกก็ไป แต่ตายก็ยังไม่พ้นเผาที่วัด ตั้งชื่อให้ลูกหลานให้คนที่ดวงชงดวงซวยก็ยังอาศัยพระที่วัดตั้งให้ ตัวอย่าง



พระที่เรียนบาลีมาก็คิดชื่อ (บัญญัติ) ได้เสนาะเพราะพริ้ง เป็นมงคลนาม

มีข่าวว่า ผู้ว่าเกาะฮ่องกงคนนี้แหละจะมาไทย จริงเท็จยังไงติดตามตอนต่อไป

ต่อ

http://www.alittlebuddha.com/

พุทธทำลายกันเอง สร้างวาทกรรมพุทธแท้ พุทธเทียมโจมตีกันเอง นี่หนึ่ง

สอง ปฏิวัติแล้วใช้ ม.44 ก่อปัญหาความขัดแย้งไว้ในสังคมหลายเรื่อง เช่น ใช้ปิดล้อมวัด เป็นต้น

https://scontent.fbkk5-3.fna.fbcdn.net/ ... e=5E792BC7

https://www.facebook.com/photo?fbid=283 ... 2686562382

นี่ก็วัตถุ แต่ชาวไทยพุทธส่วนหนึ่งว่าจะสร้างทำไมวัตถุ สร้างทำไมวัดวาอารามใหญ่โต ปั้นทำไมรูปเคารพ ปั้นทำไมพุทธปฏิมา ก็ขอบอกว่า มันเป็นที่พึ่งทางใจ เป็นอนุสสติ ประมาณว่า เราถ่ายรูปบรรพบุรุษ เช่น พ่อแม่ปู่ย่าตาทวดของเราติดไว้ข้างฝาเพื่อระลึกถึงบุญคุณท่านที่เลี้ยงดูตนมา ถึงปีก็ทำบุญอุทิศให้สักครั้งหนึ่งฉะนั้น นี่เป็นการแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวทิตาคุณ