ปฎิบัติแนวคุณรสแล้ว
ผลออกมามีนิสัยชอบเซ้าซี้อย่างนี้เหร๋อคะ



เซ้าซี้ไปเพื่ออะไรคะ

คือจุดเด่นของแนวทางคุณรสคือ
ฟังมาก็วกวนมาก
เซ้าซี้มาก
ถามเองเออเองตั้งประเด็นสนทนาถามตอบเอง
เหมือนคุยรู้เรื่องอยู่กับตัวเองคนเดียวน่ะ

จะเปรียบเทียบขยายความให้เข้าใจชัดๆ
เอกอนเห็นตาตัวเองได้ไหมคะตอบให้ตรง
อยากเห็นตาตัวเองคิดว่ามีตาก็ไปส่องกระจกหรือคะ
เวลาเห็นน่ะเปรียบเหมือนเอกอนเป็นเครื่องฉายภาพยนตร์ค่ะ
โน่นคนพากหนังคือจิตเอกอนออกเสียงพากไปตามภาพที่ฉายบนจอ
ภาพน่ะไม่รู้ว่าคนพากจะพากว่าอะไรและเครื่องฉายก็ฉายภาพพร้อมแสงไปเรื่อยๆ
เอกอนที่เป็นคนพากรู้ทุกอย่างพากย์เสียงไปเครื่องหยุดฉายก็หยุดพากทั้งจอหนังเครื่องฉายคนพากคนละอัน

เท่าที่เห็น
แนวทางคุณรสมีที่ขอบอย่างนี้น่ะ

ไม่ต้องก็ได้นะคะ
เพราะเอกอนไม่ได้อ่านหรอกค่ะ

อ่านแค่ 2 บรรทัดเอกอนก็ปิดทิ้งแล้ว

อายตนะ6คือที่ประชุมสภาพธรรมครบ6ทางอายตนะอยู่ที่กายใจตัวเอง
จิตส่งออกเป็นแบบเครื่องฉายภาพไปบนจอ
คิดไปตามที่ส่งออกก็คือตัวเอกอนที่พากย์เสียงไปตามภาพบนจอหนังไง
ลืมว่าเครื่องฉายก็มีหน้าที่ฉายไปเรื่อยๆเครื่องฉายก็คือกายเอกอนไม่รู้อะไรเลย
แต่เอกอนพากย์เสียงให้ภาพออกอารมณ์ไปตามการแสดงบนภาพที่เห็นบนจอไงคะ
ตกลงหยุดพากย์เสียงตอนเครื่องดับเทียบได้กับกายมันตายแล้วไงคะเกิดใหม่เข้าร่างใหม่เปลี่ยนเครื่องฉาย

อ้อลืมบอกทุกอย่างดับสะสมแต่ละ1เหมือนฟิลมม้วนหนังไง
เวลาเครื่องเก่าพังก็ย้ายฟิล์มมาใส่เครื่องฉายอันใหม่แค่เปลี่ยนร่าง

เก่งจัง แสดงความเห็นขัดแย้งตัวเองได้ด้วย

"กัมมุนา วัตตติ โลโก"

สัตว์โลกทั้งหลายย่อมเป็นไปตามกรรม

เคยทำให้ใครวกวนอย่างไร..ถึงคราวก็วกวนไปอย่างนั้น

"กัมมะพันธุ "

เป็นผู้มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์

เคยทำบุญทำกรรมร่วมกันกับใคร...บุญกรรมก็พาให้มาพบ..มาชอบพอ..คบหาสมาคม..นับถือเชื่อใจ..กันไปอย่างนั้น...ทำกรรมกับเทวทัต..ก็เชื่อเทวทัต..ทำกรรมกับพระสารีบุตร..ก็เชื่อพระสารีบุตร

เห็นคุณโรส..ชอบที่จะฟังใคร..พูดจา.(.อิอิ.)..ไม่ต้องมีหูทิพย์..ตาทิพย์..ก็ทายได้ว่าชาตินี้..ตามหลายๆคนในนี้..ไม่ทัน



"กัมมะปะฏิสะระโณ "

เป็นผู้มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย

แต่...บริวารพระเทวทัต...ก็ยังสามารถเปลี่ยนใจได้..เมื่อฟังพระสารีบุตรเทศน์..
อันนี้..คือทำกรรมดี..

จึงเป็นที่มาของ...การฟังด้วยดี...ก็มีปัญญาได้

ฟังธรรมะอย่าเสริมมานะกิเลสตัวเอง

ตามปกติเป็นปกติตรงขณะของจิตคิดนึกคิดตรงคำได้ตรงทีละ1คำในความมืดไม่มีแสงค่ะ
เอกอนคิดพร้อมกับเห็นตัวอักษรเป็นคิดเห็นผิดไงคะไม่เข้าใจหรือคะคิดมืด...เห็นแจ้งนะคะ
ทบทวนตาตัวเองที่กำลังเห็นดูสิคะในจิตเห็นมีจักขุปสาทะดับส่งต่อมโนทวารวิถีดับในมืดค่ะ
จิตแต่ละ1ขณะดับไม่เหลือซากเลยค่ะแถมยังส่งต่อมโนทวารมีภวังคจิตคั่น2ต่อขาดฟังตายเปล่าน๊า
สว่างแค่ตอนเห็นสลับกะมโนทวารคั่น1ขณะก่อนรวมมีสว่างแค่1อีก11ขณะนั้นมืดค่ะทุกคนคิดว่าจะรู้อะไรกันคะ

คุณรสถามถึงความปกติ
แต่ดูคุณรสมีอาการที่ไม่ค่อยปกติเลยนะ

เห็นแล้วคิดดับมีภวังคจิตคั่นก่อนส่งต่อมโนทวารดับที่จิตมืดแล้วอันนี้แค่เล่าโดยละเอียดค่ะมันมืดมากกว่าแจ้ง
และมันก็มีภวังคจิตคั่นจิตทางอื่นอีก5ทางสลับกับภวังคจิตคั่นรวม11ครั้งคิดว่ามืดแค่ตอนกะพริบตางั้นหรือคะ
ได้ยินแล้วคิด
ได้กลิ่นแล้วคิด
รู้รสแล้วคิด
สัมผัสแล้วคิด
คิดซ้อนคิด
ปกติไหมคะ
กำลังไม่มีคำตถาคตเป็นที่พึ่งเพื่อให้คิดถูกตามอยู่
มืดสนิทมีอวิชชาแล้วที่ไม่พึ่งคิดตามคำสอนอ่ะค่ะ

เอาละเอียดเพิ่มอีกหน่อยนะคะจิตแต่ละ1ขณะมีถึง7ชวนะครบ6ทางอายตนะ
คิดว่ารู้ทันอะไรได้บ้างไหมคะครบ6ทางอายตนะ=6ทางx7ชวนะ=42ชวนะ
ฟังเพื่อสะสมปัญญาเพื่อตามรู้ความจริงตรง1สัจจะที่ตัวเองกำลังคิดถูกตามได้ค่ะ
https://youtu.be/Pr-Djg44m68

สมมุคิว่าได้นั่งอยู่ท่ามกลางพุทธบริษัท
แล้วเข้าใจความจริงตามคำสอนว่า
เห็นดับแล้วมืดสนิทเกิดดับจริงๆ
จิตแต่ละ1ขณะที่ไม่ใช่เรานั้น
ทรงแสดงว่าเป็นธัมมะอะไร
เวลาที่พระองค์ตรัสถามว่า
เห็นเที่ยงหรือไม่เที่ยง
สาวกย่อมตอบว่า
ไม่เที่ยงพระเจ้าค่ะ

เห็นแล้วดับมืดสนิท เหมือนตอนนี้ เกือบสามทุ่มแล้ว แต่ยังเปิดไฟอยู่ จึงมองเห็นนั่นเห็นนี่ได้