วันเวลาปัจจุบัน 28 ก.ค. 2025, 22:11  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 92 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 3, 4, 5, 6, 7  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ธ.ค. 2018, 18:51 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ม.ค. 2015, 21:55
โพสต์: 1240

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พระบิณฑบาตเกือบ 2 ชม ที่หน้าเซเว่น จุดจอดผ่านไปเหนือ ไปใต้ มีผู้เชื่อถือเลื่อมใสในความดีมาใส่ขนมและนม 1 กล่อง แค่นี้แหละเรียกว่าสถาบันความดียังไม่ถูกโค่นล้มทำลาย

ถ้าความดีสูญหาย โลกนี้ก็จะร้าย ภัยพิบัติก็จะเกิด คนก็จะอายุสั้น เจอหน้ากันก็หยิบอะไรก็เป็นอาวุธ ฆ่ากัน อายุไขก็จะเหลือแค่ 10 ปี ก็อยู่กันเยี่ยงสัตว์ อาหารอย่างดีก็มีแค่หญ้ากับแก้ อยู่เหมือนแพะ เหมือนควาย เรียกว่าไปสู่ยุคอสัญญี เพราะความดีไม่หลงเหลือในจิตวิญญาณ จึงต้องช่วยกันรู้ทันจะคิดดับๆ ความดีจะได้ไม่สูญหาย รู้ันจะคิดดับๆ ก็พูด ทำ คิด ให้ดีทุกเรื่อง

จากสายสืบนิสัยศาสตร์ (จะคิดดับๆ) :b42: :b42: :b42:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ธ.ค. 2018, 21:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
ถ้าเอาตามความเข้าใจที่ได้ศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้า
เข้าใจว่าพระพุทธเจ้าให้เดินบิณฑบาตด้วยความสำรวม
เดินผ่านตามบ้านไม่ทำอาการขอและรับแค่เต็มบาตร
พอยังอัตภาพฉันไม่เกินเที่ยงเก็บสะสมอะไรไม่ได้
รับได้แต่กัปปิยะวัตถุไม่เอาไปซื้อขายแลกเปลี่ยน
และไม่มีหน้าที่เลี้ยงดูใครเพราะประกาศตนแล้ว
ว่าสละหมดซึ่งญาติมิตรสมบัติอาคารบ้านเรือน
เพื่อมาอยู่จำวัดขัดเกลากิเลสมากกว่าชาวบ้าน
ไม่กลับไปยินดีในเงินทองทรัพย์สินสมบัติอีก
:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ธ.ค. 2018, 04:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Kiss
ถ้าเอาตามความเข้าใจที่ได้ศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้า
เข้าใจว่าพระพุทธเจ้าให้เดินบิณฑบาตด้วยความสำรวม
เดินผ่านตามบ้านไม่ทำอาการขอและรับแค่เต็มบาตร
พอยังอัตภาพฉันไม่เกินเที่ยงเก็บสะสมอะไรไม่ได้
รับได้แต่กัปปิยะวัตถุไม่เอาไปซื้อขายแลกเปลี่ยน
และไม่มีหน้าที่เลี้ยงดูใครเพราะประกาศตนแล้ว
ว่าสละหมดซึ่งญาติมิตรสมบัติอาคารบ้านเรือน
เพื่อมาอยู่จำวัดขัดเกลากิเลสมากกว่าชาวบ้าน
ไม่กลับไปยินดีในเงินทองทรัพย์สินสมบัติอีก


เขาบวช 15 วัน ให้เขาสละหมด พ้น 15 วันสึกออกมาจะให้เขาไปเร่ร่อนที่ไหน เขาจะเอาอะไรกินเข้าไป คิกๆๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ธ.ค. 2018, 11:59 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ม.ค. 2015, 21:55
โพสต์: 1240

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ถึงได้มาเป็นคันรถก็ไม่บริสุทธิ์เพราะติดหนี้ที่มีการเป่าประกาศร้องขอไปล่วงหน้า ถ้าจะให้บริสุทธิ์ พระพุทธเจ้าสอนไว้ว่า อาหารบิณฑบาตจะบริสุทธิ์ได้ก็เพียงไปยืนเพียงแค่ให้เขาเห็นรับแต่เฉพาะในของที่เขาให้ โดยที่ไม่ทำนิมิตหมายอะไรในการเรียกร้อง

ดูแต่พระสารีบุตรซิป่วยเป็นโรคปวดท้อง พระโมกคัลลานะจึงถามว่า ท่านฉันอะไรจึงจะหายป่วย พระสารีบุตรบอกว่าฉันน้ำผึ้ง เทวดาที่สถิตย์อยู่แถวนั้นจึงไปดลใจให้ชาวบ้านใส่บาตรน้ำผึ้ง พระโมกคัลลานะจึงได้น้ำผึ้งมาไปถวายพระสารีบุตร

พระสารีบุตรพิจารณาแล้วว่าน้ำผึ้งที่เราได้มาเพราะเราเอ่ยปาก เป็นการร้องขอ จึงบอกพระโมกคัลลานะนำไปฝังดิน ยอมตายดีกว่าที่จะกินของที่ไม่บริสุทธิ์เข้าไป ด้วยสัจจวาจา จึงทำให้โรคปวดท้องนั้นอันตธานหายไป ด้วยใจบริสุทธิ์ที่รู้ทันจะคิดดับๆ

ถึงแม้ยืนหน้าเซเว่นนิ่งๆ ไม่แสดงอาการขอใคร เกือบ 2 ชม มีคนมาใส่ขนม นม 1 กล่อง แค่นั้นก็รักษาความดีไม่ให้ล้มไปสุดเหนือสุดใต้ เพราะอาหารที่เขาประกาศพระอื่นก็ไม่มีสิทธิ์รับ เพราะเขาไม่ใส่ให้หรอก เพราะจะเก็บไว้ให้ติดหนี้ ใช้หนี้กันข้ามชาติ รู้ทันจะคิดดับๆ ก็สุข สวย รวย ดี ฉลาดได้ทุกเรื่อง

จากสายสืบนิสัยศาสตร์ :b42: :b42: :b42:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ธ.ค. 2018, 13:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
ถ้าเอาตามความเข้าใจที่ได้ศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้า
เข้าใจว่าพระพุทธเจ้าให้เดินบิณฑบาตด้วยความสำรวม
เดินผ่านตามบ้านไม่ทำอาการขอและรับแค่เต็มบาตร
พอยังอัตภาพฉันไม่เกินเที่ยงเก็บสะสมอะไรไม่ได้
รับได้แต่กัปปิยะวัตถุไม่เอาไปซื้อขายแลกเปลี่ยน
และไม่มีหน้าที่เลี้ยงดูใครเพราะประกาศตนแล้ว
ว่าสละหมดซึ่งญาติมิตรสมบัติอาคารบ้านเรือน
เพื่อมาอยู่จำวัดขัดเกลากิเลสมากกว่าชาวบ้าน
ไม่กลับไปยินดีในเงินทองทรัพย์สินสมบัติอีก


เขาบวช 15 วัน ให้เขาสละหมด พ้น 15 วันสึกออกมาจะให้เขาไปเร่ร่อนที่ไหน เขาจะเอาอะไรกินเข้าไป คิกๆๆ

อยากบวชกับบวชตามประเพณีมันผิดวิสัยไม่รู้เลย
คิดว่าแค่ห่มผ้าจีวรแล้วกิเลสจะถลอกหลงตน
มีความดีอะไรให้คนอื่นกราบไหว้คริคริคริ
ผ้ากาสาวพัตรนั้นเหมาะกับผู้มีปัญญา
ระดับไหนรู้ไหมดับกิเลสหมดน๊า
บรรลุถึงอนาคามีน่ะไม่บวชก็ได้
555บวชเข้าไปทำอะไรบ้างล่ะ
รับเงินใช้เงินซื้ออาหารเอง
ออกมาซื้อที่เซเว่นเลือกซื้อ
ต้มมาม่าตอนดึกๆหรือ555
ทำด้วยความไม่รู้เด็กมันหิว
เกณฑ์กันเข้าไปบวชผิดไหม
น่าสงสารเด็กๆคิดเองว่าเป็นบุญ
อบรมลูกเสือเนตรนารียังมีประโยชน์กว่า
:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ธ.ค. 2018, 13:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
มีหนี้ก็ไปบวช หนีคดีก็ไปบวช แก้บนก็ไปบวช ไม่สบายใจทะเลาะกับเมียก็ไปบวช 555แค่เปลี่ยนที่กินที่นอน
เผาศพในวัดถวายเงินพระภิกษุ ส่งพระภิกษุไปนรก โทษใครได้ไหม ก็ทำไปแบบไม่รู้ไม่รู้ พอมีคนบอกก็โกรธ
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ธ.ค. 2018, 13:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


muisun เขียน:
ถึงได้มาเป็นคันรถก็ไม่บริสุทธิ์เพราะติดหนี้ที่มีการเป่าประกาศร้องขอไปล่วงหน้า ถ้าจะให้บริสุทธิ์ พระพุทธเจ้าสอนไว้ว่า อาหารบิณฑบาตจะบริสุทธิ์ได้ก็เพียงไปยืนเพียงแค่ให้เขาเห็นรับแต่เฉพาะในของที่เขาให้ โดยที่ไม่ทำนิมิตหมายอะไรในการเรียกร้อง

ดูแต่พระสารีบุตรซิป่วยเป็นโรคปวดท้อง พระโมกคัลลานะจึงถามว่า ท่านฉันอะไรจึงจะหายป่วย พระสารีบุตรบอกว่าฉันน้ำผึ้ง เทวดาที่สถิตย์อยู่แถวนั้นจึงไปดลใจให้ชาวบ้านใส่บาตรน้ำผึ้ง พระโมกคัลลานะจึงได้น้ำผึ้งมาไปถวายพระสารีบุตร

พระสารีบุตรพิจารณาแล้วว่าน้ำผึ้งที่เราได้มาเพราะเราเอ่ยปาก เป็นการร้องขอ จึงบอกพระโมกคัลลานะนำไปฝังดิน ยอมตายดีกว่าที่จะกินของที่ไม่บริสุทธิ์เข้าไป ด้วยสัจจวาจา จึงทำให้โรคปวดท้องนั้นอันตธานหายไป ด้วยใจบริสุทธิ์ที่รู้ทันจะคิดดับๆ

ถึงแม้ยืนหน้าเซเว่นนิ่งๆ ไม่แสดงอาการขอใคร เกือบ 2 ชม มีคนมาใส่ขนม นม 1 กล่อง แค่นั้นก็รักษาความดีไม่ให้ล้มไปสุดเหนือสุดใต้ เพราะอาหารที่เขาประกาศพระอื่นก็ไม่มีสิทธิ์รับ เพราะเขาไม่ใส่ให้หรอก เพราะจะเก็บไว้ให้ติดหนี้ ใช้หนี้กันข้ามชาติ รู้ทันจะคิดดับๆ ก็สุข สวย รวย ดี ฉลาดได้ทุกเรื่อง

จากสายสืบนิสัยศาสตร์ :b42: :b42: :b42:

เดินบิณฑบาต
ไม่ใช่ยืนรอขอ
แถมเปิดบาตร
ก็แต่งกายอะไร
เขาไม่ได้นิมนต์กิเลสน๊า
เมื่อยเดินหยุดยืนเฉยๆ2ชม.หรือ555
:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ธ.ค. 2018, 18:35 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ม.ค. 2015, 21:55
โพสต์: 1240

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ถึงยืน 2 ชม ก็ยืนรู้ทันจะคิดดับๆ ไม่ได้พูด คิด ทำร้ายใคร แค่นี้ก็ได้กำไรคุ้มค่าแล้ว เพราะการว่าร้ายผู้อื่นเป็นต้นเหตุยังโลกนี้ให้เสียหาย ทำลายตนและผู้อื่นให้เดือดร้อน ความรู้สึกก็ดำดึ่งเข้าสู่อเวจีมหานรกอยู่ทุกลมหายใจเข้าออก การไม่ว่าใครเป็นหัวใจแห่งความสุขและบริสุทธิ์ สุดยอดแห่งบัณฑิตในโลก

จากสายสืบนิสัยศาสตร์ (จะคิดดับๆ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ธ.ค. 2018, 18:38 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ม.ค. 2015, 21:55
โพสต์: 1240

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ถ้ารู้ทันตอนนั้นก็เป็นพระ ถ้ารู้ไม่ทันตอนนั้นก็ไม่เป็นพระ ถ้ารู้ทันก็ได้ชื่อว่าเคร่งครัดอยู่ในการสำรวม
พระโมกคัลลานะเหาะขึ้นไปบิณฑบาตชั้นบนหน้าต่างของปราสาทของเศรษฐี เศรษฐีบอกว่าเหาะขึ้นมาได้ ถึงจะบังหวนควันได้ เราก็ไม่ให้บิณฑบาตหรอก พระโมกคัลลานะก็บังหวนควันด้วยฤทธิ์ เศรษฐีก็ตกใจจะพูดว่า ถึงพ่นไฟได้เราก็ไม่ใส่บาตรก็ไม่กล้าพูด เพราะกลัวจะไฟไหม้ จึงเลยยอมสละความขี้เหนียวให้ แบ่งขนมที่ทอดออกมานิดหนึ่ง ก็ยังฟูเต็มกระทะอยู่ดี ด้วยฤทธิ์ของพระอรหันต์ ก็เลยเกิดศรัทธาเลื่อมใสหายตระหนี่ ถี่เหนียว ก็เลยเป็นผู้ที่ให้เป็นและทำดีได้ ไม่ได้เกี่ยวกับยุคสมัย

พระพุทธเจ้าไปยืนบิณฑบาตกับชาวนา ทั้งนาน ทั้งเทศน์ใช้เวลามากกว่าสามลมหายใจ ชาวนาก็ไม่ให้ บอกให้ไปทำมาหากินเอาเอง พระพุทธเจ้าก็ตอบว่าทุกวันนี้ก็ทำมาหากินเอาเอง ด้วยความรู้ทันจะคิดดับๆ แค่นี้ก็มีรายได้ทุกที่ พูด คิด ทำดี จะใช้ให้ใครที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้ สุดยอดแห่งฤทธิ์ที่พิสูจน์ได้ในปัจจุบันนี้ ไม่ได้เกี่ยวว่าสมัยก่อนหรือสมัยนี้

ขนาดคนมาใส่บาตรให้ที่ทางเหนือเชียงราย คนใส่บาตรเสร็จตกใจ พูดว่า อาจารย์นี่ของแรงมาก ให้พรเสร็จขนลุกไปหมด ก็ด้วยอำนาจแห่งความรู้ทันนั่นเอง

แค่รู้ทันจะคิดดับๆ ก็ไม่ต้องสงสัยถามอะไรใคร เดี๋ยวเค้าก็มารายงานตัวเองให้รู้

ขนาดพระโพธิสัตว์ พระโพธิญาณยังมารายงานตัว แล้วสดุดีว่า รู้ทันอันดับหนึ่งแห่งโลก น่ากลัว ถ้าใครทำได้ก็แริยะแล้ว

ถ้ายึดถือรู้ไม่ทันในธรรมะข้อใด ก็พูดได้ คิดได้ แต่ทำไม่ได้

ถ้ารู้ทันจะคิดดับๆ ก็พูดได้ คิดได้ ในธรรมะทุกข้อ

จากสายสืบนิสัยศาสตร์


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ธ.ค. 2018, 19:43 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ม.ค. 2015, 21:55
โพสต์: 1240

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คนที่ให้ไม่เป็น ทำดีไม่ได้ จะมีน้ำใจที่ไหนมานิมนต์ ยืน 2 ชั่วโมงก็ไม่ได้มาขอใคร ยืนรู้ทันจะคิดดับๆ คนใจดีเขามาให้เอง แล้วก็อยู่ด้วยเหตุปัจจัยของความรู้ทันจะคิดดับๆ ไม่ได้เบียดเบียนร้องขอใคร ผู้รู้ทันก็มีความสุข ผ่องใส ผู้ให้ก็ใจสบายได้บุญเป็นสุข ฝ่ายคนว่าก็อิจฉาเดือดร้อนไป ช่วยไม่ได้ อยากรู้ไม่ทัน

ฮิฮิฮิ โสนะน่า ต้องเดือดร้อน ลูกช่างว่านั่นแหละ เป็นหัวหน้ากิเลสตัวยิ่งใหญ่เลยที่วุ่นวาย เดือดร้อนทุกลมหายใจเข้าดับๆ ออกดับๆ ทำตนและคนอื่นให้เดือดร้อนได้ทั่ว

จากสายสืบนิสัยศาสตร์ (จะคิดดับๆ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ธ.ค. 2018, 19:54 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ม.ค. 2015, 21:55
โพสต์: 1240

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ยืนรับแต่ของที่เขาให้
ไม่ได้ไปร้องขอใคร
ลองหามาซิ
ว่าใครบ้างที่ถูกขอ

เพราะคุณสมบัติแห่งผู้ดี
ใช้ของเก่า
รับของที่เขาให้
อยู่โคนไม้
ดื่มน้ำปัสสาวะเป็นยา

เป็นพื้นฐานแห่งความสะดวกสะบาย สุข สวย รวยดีไม่ติดหนี้ใครๆ

ไม่ต้องไปมุ่งร้าย ก่อเวรภัยอะไรกับใครอีกแล้ว

จากสายสืบนิสัยศาสตร์ (จะคิดดับๆ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ธ.ค. 2018, 22:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
ขณะที่กำลังระลึกตามคำสอนได้ตรงที่กายใจกระทบที่ตัวตนเป็นขณะเข้าใจสัจจะคือกุศล
ขณะที่ส่งออกไปรับรู้ตามสิ่งที่กำลังเห็นคือความเห็นผิดคือจิตส่งออกนอกกายเป็นอกุศล
แม้อยู่ผู้เดียวก็ยังเห็นผิดมีเกิน1คนชักชวนพูดคุยและไม่ได้กำลังระลึกตามคำสอนเลย
มีแต่ความเห็นผิดว่ามีคนมีของรอรับของเข้าใจคำว่ามีกิเลสไม่รู้ว่าไม่มีคนสัตว์วัตถุ?
เอาทรัพย์สินสมบัติเงินทองแลกซื้อปัญญาได้ไหมเพราะปัญญาคือรู้ตรงสัจจะที่กายมี
onion onion onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ธ.ค. 2018, 22:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Kiss
ขณะที่กำลังระลึกตามคำสอนได้ตรงที่กายใจกระทบที่ตัวตนเป็นขณะเข้าใจสัจจะคือกุศล
ขณะที่ส่งออกไปรับรู้ตามสิ่งที่กำลังเห็นคือความเห็นผิดคือจิตส่งออกนอกกายเป็นอกุศล
แม้อยู่ผู้เดียวก็ยังเห็นผิดมีเกิน1คนชักชวนพูดคุยและไม่ได้กำลังระลึกตามคำสอนเลย
มีแต่ความเห็นผิดว่ามีคนมีของรอรับของเข้าใจคำว่ามีกิเลสไม่รู้ว่าไม่มีคนสัตว์วัตถุ?
เอาทรัพย์สินสมบัติเงินทองแลกซื้อปัญญาได้ไหมเพราะปัญญาคือรู้ตรงสัจจะที่กายมี
onion onion onion

จิตเกิดดับเร็วเป็นอณูวินาทีทุกอย่างกำลังเกิดดับตามเหตุตามปัจจัย
ไม่มีใครเลือกทำเหตุปัจจัยของจิตแต่ละ1ขณะที่กำลังเกิดดับนั้นเลย
เพราะมันเกิดเองดับเองโดยความเป็นอนัตตาการเพียรฟังเพราะศรัทธา
ฟังเพื่อระลึกตามตรงกับสิ่งที่ตนกำลังมีเพื่อรู้ตรงสัจจะขณะที่ระลึกตามอยู่
ขณะฟังนั้นเองที่ทิ้งทุกอย่างที่มีเพื่อตามรู้ความจริงที่กายใจตนกำลังมีตามคำสอนได้
:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ธ.ค. 2018, 22:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
ขณะที่กำลังระลึกตามคำสอนได้ตรงที่กายใจกระทบที่ตัวตนเป็นขณะเข้าใจสัจจะคือกุศล
ขณะที่ส่งออกไปรับรู้ตามสิ่งที่กำลังเห็นคือความเห็นผิดคือจิตส่งออกนอกกายเป็นอกุศล
แม้อยู่ผู้เดียวก็ยังเห็นผิดมีเกิน1คนชักชวนพูดคุยและไม่ได้กำลังระลึกตามคำสอนเลย
มีแต่ความเห็นผิดว่ามีคนมีของรอรับของเข้าใจคำว่ามีกิเลสไม่รู้ว่าไม่มีคนสัตว์วัตถุ?
เอาทรัพย์สินสมบัติเงินทองแลกซื้อปัญญาได้ไหมเพราะปัญญาคือรู้ตรงสัจจะที่กายมี
onion onion onion

จิตเกิดดับเร็วเป็นอณูวินาทีทุกอย่างกำลังเกิดดับตามเหตุตามปัจจัย
ไม่มีใครเลือกทำเหตุปัจจัยของจิตแต่ละ1ขณะที่กำลังเกิดดับนั้นเลย
เพราะมันเกิดเองดับเองโดยความเป็นอนัตตาการเพียรฟังเพราะศรัทธา
ฟังเพื่อระลึกตามตรงกับสิ่งที่ตนกำลังมีเพื่อรู้ตรงสัจจะขณะที่ระลึกตามอยู่
ขณะฟังนั้นเองที่ทิ้งทุกอย่างที่มีเพื่อตามรู้ความจริงที่กายใจตนกำลังมีตามคำสอนได้
:b8: :b8: :b8:

ผู้ที่ดำรงคำสอนไว้ในใจได้คือผู้รู้ตามคำสอนตรงสัจจะที่กำลังมี
จิตแต่ละ1ขณะเดี๋ยวนี้ไม่ใช่เราเป็นธัมมะ
ไม่มีใครบังคับให้ธัมมะเกิดและ
ไม่มีใครบังคับให้ธัมมะดับแต่
ทุกอย่างกำลังเกิดดับมีแล้ว
กิเลสนอนมาในจิตรอเกิดเมื่อเห็น
ปัญญาเกิดเมื่อเริ่มฟังคิดว่าฟังมากกว่าเห็นไหมคะ
https://youtu.be/E3Mndb1H-pQ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ธ.ค. 2018, 19:24 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ม.ค. 2015, 21:55
โพสต์: 1240

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พระพุทธเจ้าบอกว่าฟังแล้วไม่ควรเชื่อ แต่ก็ไม่ควรคัดค้าน แต่ควรรู้ให้ทันจะพูด จะทำ จะคิดดับๆ นั่นแหละของจริงอันเป็นปัจจุบัน

จากสายสืบนิสัยศาสตร (จะคิดดับๆ)


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 92 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 3, 4, 5, 6, 7  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร