56685.เมื่อสิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี

กรัชกาย

อ้าวไหนๆก็ไหนๆแล้ว เอาหลักมาวางให้เห็นคร่าวๆสะเลย :b13:

ปุถุชน คนที่หนาแน่นไปด้วยกิเลส, คนที่ยังมีกิเลสมาก หมายถึงคนธรรมดาทั่วๆไป ซึ่งยังไม่เป็นอริยบุคคลหรือพระอริยะ ; บุถุชน ก็เขียน

กิเลส สิ่งที่ทำใจให้เศร้าหมอง, ความชั่วที่แฝงอยู่ในความรู้สึกนึกคิด ทำให้จิตใจขุ่นมัวไม่บริสุทธิ์ และเป็นเครื่องปรุงแต่งความคิดให้ทำกรรม ซึ่งนำไปสู่ปัญหาความยุ่งยากเดือดร้อนและความทุกข์

กิเลส ๑๐ (ในบาลีเดิม เรียกว่า กิเลสวัตถุ คือ สิ่งก่อความเศร้าหมอง ๑๐) ได้แก่ โลภะ โทสะ โมหะ มานะ ทิฏฐิ วิจิกิจฉา ถีนะ อุทธัจจะ อหิริกะ อโนตตัปปะ

ใน อรรถกถา ท่านนิยมจำแนก กิเลสเป็น ๓ ระดับ ตามลำดับขั้นของการละด้วยสิกขา ๓ (เช่น วินย. อ.1/22 ฯลฯ) คือ

๑. วีติกกมกิเลส กิเลสอย่างหยาบ ที่เป็นเหตุให้ล่วงละเมิดออกมาทางกาย และวาจา เช่น เป็นกายทุกจริต และวจีทุจริต ละด้วย ศีล (อธิศีลสิกขา)

๒. ปริยุฏฐานกิเลส กิเลสอย่างกลางที่พลุ่งขึ้นมาเร้ารุมอยู่ในจิตใจ ดังเช่นนิวรณ์ ๕ ในกรณีที่จะข่มระงับไว้ ละด้วย สมาธิ (อธิจิตตสิกขา)

๓. อนุสยกิเลส กิเลสอย่างละเอียดที่นอนเนื่องอยู่ในสันดานอันยังไม่ถูกกระตุ้นให้พลุ่งขึ้นมา ได้แก่ อนุสัย ๗ ละด้วย ปัญญา (อธิปัญญาสิกขา)

กรัชกาย

กรัชกาย เขียน:

อ้าวไหนๆก็ไหนๆแล้ว เอาหลักมาวางให้เห็นคร่าวๆสะเลย :b13:

ปุถุชน คนที่หนาแน่นไปด้วยกิเลส, คนที่ยังมีกิเลสมาก หมายถึงคนธรรมดาทั่วๆไป ซึ่งยังไม่เป็นอริยบุคคลหรือพระอริยะ ; บุถุชน ก็เขียน

กิเลส สิ่งที่ทำใจให้เศร้าหมอง, ความชั่วที่แฝงอยู่ในความรู้สึกนึกคิด ทำให้จิตใจขุ่นมัวไม่บริสุทธิ์ และเป็นเครื่องปรุงแต่งความคิดให้ทำกรรม ซึ่งนำไปสู่ปัญหาความยุ่งยากเดือดร้อนและความทุกข์

กิเลส ๑๐ (ในบาลีเดิม เรียกว่า กิเลสวัตถุ คือ สิ่งก่อความเศร้าหมอง ๑๐) ได้แก่ โลภะ โทสะ โมหะ มานะ ทิฏฐิ วิจิกิจฉา ถีนะ อุทธัจจะ อหิริกะ อโนตตัปปะ

ใน อรรถกถา ท่านนิยมจำแนก กิเลสเป็น ๓ ระดับ ตามลำดับขั้นของการละด้วยสิกขา ๓ (เช่น วินย. อ.1/22 ฯลฯ) คือ

๑. วีติกกมกิเลส กิเลสอย่างหยาบ ที่เป็นเหตุให้ล่วงละเมิดออกมาทางกาย และวาจา เช่น เป็นกายทุกจริต และวจีทุจริต ละด้วย ศีล (อธิศีลสิกขา)

๒. ปริยุฏฐานกิเลส กิเลสอย่างกลางที่พลุ่งขึ้นมาเร้ารุมอยู่ในจิตใจ ดังเช่นนิวรณ์ ๕ ในกรณีที่จะข่มระงับไว้ ละด้วย สมาธิ (อธิจิตตสิกขา)

๓. อนุสยกิเลส กิเลสอย่างละเอียดที่นอนเนื่องอยู่ในสันดานอันยังไม่ถูกกระตุ้นให้พลุ่งขึ้นมา ได้แก่ อนุสัย ๗ ละด้วย ปัญญา (อธิปัญญาสิกขา)

เมื่อนำหลักมาวางแล้วก็จะเห็น ศีล สมาธิ และปัญญา ที่เรียกเต็มว่า อธิสีลสิกขา อธิจิตตสิกขา และอธิปัญญาสิกขา ว่าอะไรละกิเลสอะไร

ทีนี้ก็มาถึงข้อว่า สำนักแม่สุจิน ไม่เอาสมาธิ ไม่เอาปัญญา ไม่เอาภาวนา มันก็เกมแล้ว คิกๆๆ

จบข่าว

Rosarin

Rosarin เขียน:

กรัชกาย เขียน:

Rosarin เขียน:

กรัชกาย เขียน:

ไม่เห็นคุณโรส บอกหลายเทื่อแล้วว่าอากาศเปลี่ยนๆ ให้กินแกงส้มดอกแคกันไข้หัวลม ไม่เชื่อ :b32:

นี่...
รู้จักสีละ...ตามคำสอนไหม
ศีลในภาษาบาลีอ่านว่าสีละแปลว่ามีปกติเป็นปกติ
...เดียวนี้มีจิตครบ6ทางกำลังเกิดดับทีละ1ทางตามปกติเป็นปกติมีความไม่รู้ความจริงไงคะ
:b32:

จิตเห็นแสงสีกระทบตา1ขณะดับแล้วอีก5ขณะมืดคิดนึกมืดจะเห็นตัวอักษรได้ไหมคริคริคริ
:b32:

ฟังบ้างนะอย่าหาว่าไม่เตือน555
สุตมยปัญญาแปลว่าเพียรฟังเพื่อเข้าใจถูกตัวตนตามคำสอนได้ไง
เห็นสว่างมีแค่สีกระทบตาดับแล้วมืดอีก5ทางตอนนี้มีครบแล้ว6ทาง
มืดตอนกะพริบตานิดนุงกิเลสน่ะนับไม่ถ้วนแระเอากลับมาแก้ได้ไหม
เกิดเห็นใหม่สลับกับมืดอีก5ทางครบตลอดมืดมากกว่าสว่างตามคำสอน
กำลังเห็นน่ะสว่างคิดนึกได้ยินได้กลิ่นรู้สึกเย็นร้อนสุขทุกข์มืดตาไม่ได้บอด
ดูความจริงที่เห็นเทียบตามคำสอนจิตเกิดดับสลับกันครบ6ทางมืดบอดสนิทเลยก็ไม่รู้ไม่มีคนสัตว์วัตถุจริงๆ
:b32:

http://www.dhammahome.com

พระพุทธเจ้าไม่โกหก
ตาเนื้อตัวเองก็ไม่โกหก
มีแต่กิเลสตัวเองหลอกให้ท่องจำคำสอนไง
คิดนึกมืดคิดอีกทีเห็นตัวอักษรได้หรือสุตมยปัญญาน๊า

คลิปนี้มีทีเด็ดให้รู้จักกิเลสของพระธรรมทูตค่ะ
https://youtu.be/iC86h_0Sup4

อุตส่าห์พูดเขียนมาตั้งหลาย คคห. อะไรนักก็ไม่รู้ ที่พูดนี่นึกว่าถูกดิ

อ้างคำพูด:

คลิปนี้มีทีเด็ดให้รู้จักกิเลสของพระธรรมทูตค่ะ

นั่นคุณโรสศิษย์แม่สุจินคิดผิด ดำริผิด เห็นผิด ที่เห็นว่า กิเลสของพระธรรมทูต คิกๆๆ ไม่ใช่ๆๆ ตราบใดที่ยังไม่พ้นจากความเป็นปุถุชนแล้วละก็ก็ยังมีกิเลสอยู่ตราบนั้น ไม่ว่าจะพระธรรมทูต เทวทูต ขี่้ทูต เทวดา มหากษัตริย์ อินทร์ พรหม ยม ยักษ์ อย่าไประบุตายตัวอย่างนั้น

บวชเพราะสละได้หมดนะเงินทองพ่อแม่ลูกเมียญาติมิตรเพื่อขัดเกลากิเลสไง
แสวงหาแต่กฐินผ้าป่าแบบหิวเงินคือโลภมากขึ้นสร้างทุกข์ให้ชาวบ้านไงคะ
พอสร้างวัตถุเยอะก็มีค่าทำความสะอาดดูแลค่าน้ำค่าไฟฟ้า555ไม่เข้าใจรึ
ตถาคตให้คนที่มีความพร้อมบวชที่รู้จักลดละเลิกทำแบบชาวบ้านไงคะ
พระพุทธเจ้าไม่ได้ให้บวชเพื่อมาก่อสร้างวัตถุน๊าไม่เข้าใจอะไรเลย
:b32:

กิเลสตามคำสอนอยู่ที่ตัวหนังสือที่เห็นหรือในใจตัวเองล่ะ
:b32:

กรัชกาย

Rosarin เขียน:

กรัชกาย เขียน:

Rosarin เขียน:

กรัชกาย เขียน:

ไม่เห็นคุณโรส บอกหลายเทื่อแล้วว่าอากาศเปลี่ยนๆ ให้กินแกงส้มดอกแคกันไข้หัวลม ไม่เชื่อ :b32:

นี่...
รู้จักสีละ...ตามคำสอนไหม
ศีลในภาษาบาลีอ่านว่าสีละแปลว่ามีปกติเป็นปกติ
...เดียวนี้มีจิตครบ6ทางกำลังเกิดดับทีละ1ทางตามปกติเป็นปกติมีความไม่รู้ความจริงไงคะ
:b32:

จิตเห็นแสงสีกระทบตา1ขณะดับแล้วอีก5ขณะมืดคิดนึกมืดจะเห็นตัวอักษรได้ไหมคริคริคริ
:b32:

ฟังบ้างนะอย่าหาว่าไม่เตือน555
สุตมยปัญญาแปลว่าเพียรฟังเพื่อเข้าใจถูกตัวตนตามคำสอนได้ไง
เห็นสว่างมีแค่สีกระทบตาดับแล้วมืดอีก5ทางตอนนี้มีครบแล้ว6ทาง
มืดตอนกะพริบตานิดนุงกิเลสน่ะนับไม่ถ้วนแระเอากลับมาแก้ได้ไหม
เกิดเห็นใหม่สลับกับมืดอีก5ทางครบตลอดมืดมากกว่าสว่างตามคำสอน
กำลังเห็นน่ะสว่างคิดนึกได้ยินได้กลิ่นรู้สึกเย็นร้อนสุขทุกข์มืดตาไม่ได้บอด
ดูความจริงที่เห็นเทียบตามคำสอนจิตเกิดดับสลับกันครบ6ทางมืดบอดสนิทเลยก็ไม่รู้ไม่มีคนสัตว์วัตถุจริงๆ
:b32:

http://www.dhammahome.com

พระพุทธเจ้าไม่โกหก
ตาเนื้อตัวเองก็ไม่โกหก
มีแต่กิเลสตัวเองหลอกให้ท่องจำคำสอนไง
คิดนึกมืดคิดอีกทีเห็นตัวอักษรได้หรือสุตมยปัญญาน๊า

คลิปนี้มีทีเด็ดให้รู้จักกิเลสของพระธรรมทูตค่ะ
https://youtu.be/iC86h_0Sup4

อุตส่าห์พูดเขียนมาตั้งหลาย คคห. อะไรนักก็ไม่รู้ ที่พูดนี่นึกว่าถูกดิ

อ้างคำพูด:

คลิปนี้มีทีเด็ดให้รู้จักกิเลสของพระธรรมทูตค่ะ

นั่นคุณโรสศิษย์แม่สุจินคิดผิด ดำริผิด เห็นผิด ที่เห็นว่า กิเลสของพระธรรมทูต คิกๆๆ ไม่ใช่ๆๆ ตราบใดที่ยังไม่พ้นจากความเป็นปุถุชนแล้วละก็ก็ยังมีกิเลสอยู่ตราบนั้น ไม่ว่าจะพระธรรมทูต เทวทูต ขี่้ทูต เทวดา มหากษัตริย์ อินทร์ พรหม ยม ยักษ์ อย่าไประบุตายตัวอย่างนั้น

บวชเพราะสละได้หมดนะเงินทองพ่อแม่ลูกเมียญาติมิตรเพื่อขัดเกลากิเลสไง

แสวงหาแต่กฐินผ้าป่าแบบหิวเงินคือโลภมากขึ้นสร้างทุกข์ให้ชาวบ้านไงคะ
พอสร้างวัตถุเยอะก็มีค่าทำความสะอาดดูแลค่าน้ำค่าไฟฟ้า555ไม่เข้าใจรึ
ตถาคตให้คนที่มีความพร้อมบวชที่รู้จักลดละเลิกทำแบบชาวบ้านไงคะ
พระพุทธเจ้าไม่ได้ให้บวชเพื่อมาก่อสร้างวัตถุน๊าไม่เข้าใจอะไรเลย
:b32:

อ้างคำพูด:

บวชเพราะสละได้หมดนะเงินทองพ่อแม่ลูกเมียญาติมิตรเพื่อขัดเกลากิเลสไง

นี่ก็เข้าใจผิด พ่อแม่ลูกเมียญาติมิตรไม่ใช่กิเลส อิอิ

ทีนี้ก็มาถึงที่เคยพูดบ่อยๆว่า เขาบวช 15 วัน จะให้เขาเลิกละทิ้งลูกเมีย พ่อแม่ ญาติ บ้านช่อง ทรัพย์สินที่เขามี หลังจาก 15 วันเขาสึกไป จะให้เขาไปอยู่ที่ไหน ไปอยู่รูหรอ คิกๆๆ คิดบ้าๆ

กรัชกาย

Rosarin เขียน:

กรัชกาย เขียน:

Rosarin เขียน:

กรัชกาย เขียน:

ไม่เห็นคุณโรส บอกหลายเทื่อแล้วว่าอากาศเปลี่ยนๆ ให้กินแกงส้มดอกแคกันไข้หัวลม ไม่เชื่อ :b32:

นี่...
รู้จักสีละ...ตามคำสอนไหม
ศีลในภาษาบาลีอ่านว่าสีละแปลว่ามีปกติเป็นปกติ
...เดียวนี้มีจิตครบ6ทางกำลังเกิดดับทีละ1ทางตามปกติเป็นปกติมีความไม่รู้ความจริงไงคะ
:b32:

จิตเห็นแสงสีกระทบตา1ขณะดับแล้วอีก5ขณะมืดคิดนึกมืดจะเห็นตัวอักษรได้ไหมคริคริคริ
:b32:

ฟังบ้างนะอย่าหาว่าไม่เตือน555
สุตมยปัญญาแปลว่าเพียรฟังเพื่อเข้าใจถูกตัวตนตามคำสอนได้ไง
เห็นสว่างมีแค่สีกระทบตาดับแล้วมืดอีก5ทางตอนนี้มีครบแล้ว6ทาง
มืดตอนกะพริบตานิดนุงกิเลสน่ะนับไม่ถ้วนแระเอากลับมาแก้ได้ไหม
เกิดเห็นใหม่สลับกับมืดอีก5ทางครบตลอดมืดมากกว่าสว่างตามคำสอน
กำลังเห็นน่ะสว่างคิดนึกได้ยินได้กลิ่นรู้สึกเย็นร้อนสุขทุกข์มืดตาไม่ได้บอด
ดูความจริงที่เห็นเทียบตามคำสอนจิตเกิดดับสลับกันครบ6ทางมืดบอดสนิทเลยก็ไม่รู้ไม่มีคนสัตว์วัตถุจริงๆ
:b32:

http://www.dhammahome.com

พระพุทธเจ้าไม่โกหก
ตาเนื้อตัวเองก็ไม่โกหก
มีแต่กิเลสตัวเองหลอกให้ท่องจำคำสอนไง
คิดนึกมืดคิดอีกทีเห็นตัวอักษรได้หรือสุตมยปัญญาน๊า

คลิปนี้มีทีเด็ดให้รู้จักกิเลสของพระธรรมทูตค่ะ
https://youtu.be/iC86h_0Sup4

อุตส่าห์พูดเขียนมาตั้งหลาย คคห. อะไรนักก็ไม่รู้ ที่พูดนี่นึกว่าถูกดิ

อ้างคำพูด:

คลิปนี้มีทีเด็ดให้รู้จักกิเลสของพระธรรมทูตค่ะ

นั่นคุณโรสศิษย์แม่สุจินคิดผิด ดำริผิด เห็นผิด ที่เห็นว่า กิเลสของพระธรรมทูต คิกๆๆ ไม่ใช่ๆๆ ตราบใดที่ยังไม่พ้นจากความเป็นปุถุชนแล้วละก็ก็ยังมีกิเลสอยู่ตราบนั้น ไม่ว่าจะพระธรรมทูต เทวทูต ขี่้ทูต เทวดา มหากษัตริย์ อินทร์ พรหม ยม ยักษ์ อย่าไประบุตายตัวอย่างนั้น

บวชเพราะสละได้หมดนะเงินทองพ่อแม่ลูกเมียญาติมิตรเพื่อขัดเกลากิเลสไง
แสวงหาแต่กฐินผ้าป่าแบบหิวเงินคือโลภมากขึ้นสร้างทุกข์ให้ชาวบ้านไงคะ
พอสร้างวัตถุเยอะก็มีค่าทำความสะอาดดูแลค่าน้ำค่าไฟฟ้า555ไม่เข้าใจรึ
ตถาคตให้คนที่มีความพร้อมบวชที่รู้จักลดละเลิกทำแบบชาวบ้านไงคะ
พระพุทธเจ้าไม่ได้ให้บวชเพื่อมาก่อสร้างวัตถุน๊าไม่เข้าใจอะไรเลย
:b32:

กิเลสตามคำสอนอยู่ที่ตัวหนังสือที่เห็นหรือในใจตัวเองล่ะ
:b32:

นี่ก็คิดบ้าๆ ที่คุณโรสพิมพ์มานั่นน่า เป็นกิเลสหรอ

Rosarin

จิตเกิดดับสลับกันทีละ1ทางตามลำดับตามที่ตถาคตตรัสรู้จริงๆ
ตนนั้นรู้เองไม่ได้ก็เห็นเท่านั้นที่สว่าง1ขณะและมืดต่ออีก5ทาง
ความคิดเกิดไม่พร้อมเห็นไม่พร้อมกันเลยแม้แต่ขณะเดียว
แต่ละ1ขณะต้องหมดไปก่อนจึงมีขณะอื่นๆเกิดต่อนะ
เห็นมีแสงและสีกระทบตาหมดจึงเกิดคิดนึกต่อได้
คิดในความมืดดังนั้นจึงเห็นตัวอักษรไม่ได้ไงคะ
จำผิดคลาดเคลื่อนไม่ตรงตามคำสอนคือมีกิเลสค่ะ
:b32:

กรัชกาย

Rosarin เขียน:

กรัชกาย เขียน:

Rosarin เขียน:

กรัชกาย เขียน:

ไม่เห็นคุณโรส บอกหลายเทื่อแล้วว่าอากาศเปลี่ยนๆ ให้กินแกงส้มดอกแคกันไข้หัวลม ไม่เชื่อ :b32:

นี่...
รู้จักสีละ...ตามคำสอนไหม
ศีลในภาษาบาลีอ่านว่าสีละแปลว่ามีปกติเป็นปกติ
...เดียวนี้มีจิตครบ6ทางกำลังเกิดดับทีละ1ทางตามปกติเป็นปกติมีความไม่รู้ความจริงไงคะ
:b32:

จิตเห็นแสงสีกระทบตา1ขณะดับแล้วอีก5ขณะมืดคิดนึกมืดจะเห็นตัวอักษรได้ไหมคริคริคริ
:b32:

ฟังบ้างนะอย่าหาว่าไม่เตือน555
สุตมยปัญญาแปลว่าเพียรฟังเพื่อเข้าใจถูกตัวตนตามคำสอนได้ไง
เห็นสว่างมีแค่สีกระทบตาดับแล้วมืดอีก5ทางตอนนี้มีครบแล้ว6ทาง
มืดตอนกะพริบตานิดนุงกิเลสน่ะนับไม่ถ้วนแระเอากลับมาแก้ได้ไหม
เกิดเห็นใหม่สลับกับมืดอีก5ทางครบตลอดมืดมากกว่าสว่างตามคำสอน
กำลังเห็นน่ะสว่างคิดนึกได้ยินได้กลิ่นรู้สึกเย็นร้อนสุขทุกข์มืดตาไม่ได้บอด
ดูความจริงที่เห็นเทียบตามคำสอนจิตเกิดดับสลับกันครบ6ทางมืดบอดสนิทเลยก็ไม่รู้ไม่มีคนสัตว์วัตถุจริงๆ
:b32:

http://www.dhammahome.com

พระพุทธเจ้าไม่โกหก
ตาเนื้อตัวเองก็ไม่โกหก
มีแต่กิเลสตัวเองหลอกให้ท่องจำคำสอนไง
คิดนึกมืดคิดอีกทีเห็นตัวอักษรได้หรือสุตมยปัญญาน๊า

คลิปนี้มีทีเด็ดให้รู้จักกิเลสของพระธรรมทูตค่ะ
https://youtu.be/iC86h_0Sup4

อุตส่าห์พูดเขียนมาตั้งหลาย คคห. อะไรนักก็ไม่รู้ ที่พูดนี่นึกว่าถูกดิ

อ้างคำพูด:

คลิปนี้มีทีเด็ดให้รู้จักกิเลสของพระธรรมทูตค่ะ

นั่นคุณโรสศิษย์แม่สุจินคิดผิด ดำริผิด เห็นผิด ที่เห็นว่า กิเลสของพระธรรมทูต คิกๆๆ ไม่ใช่ๆๆ ตราบใดที่ยังไม่พ้นจากความเป็นปุถุชนแล้วละก็ก็ยังมีกิเลสอยู่ตราบนั้น ไม่ว่าจะพระธรรมทูต เทวทูต ขี่้ทูต เทวดา มหากษัตริย์ อินทร์ พรหม ยม ยักษ์ อย่าไประบุตายตัวอย่างนั้น

บวชเพราะสละได้หมดนะเงินทองพ่อแม่ลูกเมียญาติมิตรเพื่อขัดเกลากิเลสไง
แสวงหาแต่กฐินผ้าป่าแบบหิวเงินคือโลภมากขึ้นสร้างทุกข์ให้ชาวบ้านไงคะ
พอสร้างวัตถุเยอะก็มีค่าทำความสะอาดดูแลค่าน้ำค่าไฟฟ้า555ไม่เข้าใจรึ
ตถาคตให้คนที่มีความพร้อมบวชที่รู้จักลดละเลิกทำแบบชาวบ้านไงคะ
พระพุทธเจ้าไม่ได้ให้บวชเพื่อมาก่อสร้างวัตถุน๊าไม่เข้าใจอะไรเลย
:b32:

อ้างคำพูด:

บวชเพราะสละได้หมดนะ เงินทอง พ่อ แม่ ลูก เมีย ญาติ มิตรเพื่อขัดเกลากิเลสไง

คิกๆๆ นี่ถ้าเขาทำตามที่คุณโรสว่า หลังสึกออกมา ชีวิตเขาจะเป็นยังไง มิกลายเป็นคนเร่ร่อนไปรึ ดังนี้เป็นตัวอย่าง

https://www.khaosod.co.th/wp-content/up ... 96x392.jpg

https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_1822514

กรัชกาย

Rosarin เขียน:

:b12:
จิตเกิดดับสลับกันทีละ1ทางตามลำดับตามที่ตถาคตตรัสรู้จริงๆ
ตนนั้นรู้เองไม่ได้ก็เห็นเท่านั้นที่สว่าง1ขณะและมืดต่ออีก5ทาง
ความคิดเกิดไม่พร้อมเห็นไม่พร้อมกันเลยแม้แต่ขณะเดียว
แต่ละ1ขณะต้องหมดไปก่อนจึงมีขณะอื่นๆเกิดต่อนะ
เห็นมีแสงและสีกระทบตาหมดจึงเกิดคิดนึกต่อได้
คิดในความมืดดังนั้นจึงเห็นตัวอักษรไม่ได้ไงคะ
จำผิดคลาดเคลื่อนไม่ตรงตามคำสอนคือมีกิเลสค่ะ
:b32:

ไปจิตเกิดดับอีกแว้ว (แล้ว) :b32:

ว่าจะตั้งกระทู้ถาม กลัวไม่มีคนตอบ ถามตรงนี้แล้วกัน

คุณโรส คุณนับถือพระพุทธศาสนา เพื่อจุดประสงค์ใด ตอบให้ตรงคำถามนะ :b32:

Rosarin

กรัชกาย เขียน:

Rosarin เขียน:

:b12:
จิตเกิดดับสลับกันทีละ1ทางตามลำดับตามที่ตถาคตตรัสรู้จริงๆ
ตนนั้นรู้เองไม่ได้ก็เห็นเท่านั้นที่สว่าง1ขณะและมืดต่ออีก5ทาง
ความคิดเกิดไม่พร้อมเห็นไม่พร้อมกันเลยแม้แต่ขณะเดียว
แต่ละ1ขณะต้องหมดไปก่อนจึงมีขณะอื่นๆเกิดต่อนะ
เห็นมีแสงและสีกระทบตาหมดจึงเกิดคิดนึกต่อได้
คิดในความมืดดังนั้นจึงเห็นตัวอักษรไม่ได้ไงคะ
จำผิดคลาดเคลื่อนไม่ตรงตามคำสอนคือมีกิเลสค่ะ
:b32:

ไปจิตเกิดดับอีกแว้ว (แล้ว) :b32:

ว่าจะตั้งกระทู้ถาม กลัวไม่มีคนตอบ ถามตรงนี้แล้วกัน

คุณโรส คุณนับถือพระพุทธศาสนา เพื่อจุดประสงค์ใด ตอบให้ตรงคำถามนะ :b32:

บอกยากบอกเย็นบอกไม่รู้จักฟังไงคะคิดให้ตรงสิ
เดี๋ยวนี้มีแล้วกายใจตัวเองมีครบ6ทางแล้วกำลังมี
แต่ไม่รู้ว่ามันกำลังเกิดดับเรียงทีละ1ขณะสลับกัน
จะไปทำอะไรก็กำลังเกิดดับตามเหตุปัจจัยอยู่แล้ว
1ขณะที่เห็นสว่างดับแล้วมืดต่ออีก5ขณะเห็นไหม
ว่าตาเนื้อตัวเองสว่างตลอดเลยมีครบ6ทางแล้วนี่
มืดตอนมีจิตคิดนึกจิตได้ยินจิตได้กลิ่นจิตรู้สึกอื่นๆ
สว่างแค่ตอนเห็นดังนั้นคิดมันมืดจะเห็นตัวอักษรได้ไหมกำลังคิดและมืดอยู่นี่คะ
:b32:

Rosarin

Rosarin เขียน:

กรัชกาย เขียน:

Rosarin เขียน:

:b12:
จิตเกิดดับสลับกันทีละ1ทางตามลำดับตามที่ตถาคตตรัสรู้จริงๆ
ตนนั้นรู้เองไม่ได้ก็เห็นเท่านั้นที่สว่าง1ขณะและมืดต่ออีก5ทาง
ความคิดเกิดไม่พร้อมเห็นไม่พร้อมกันเลยแม้แต่ขณะเดียว
แต่ละ1ขณะต้องหมดไปก่อนจึงมีขณะอื่นๆเกิดต่อนะ
เห็นมีแสงและสีกระทบตาหมดจึงเกิดคิดนึกต่อได้
คิดในความมืดดังนั้นจึงเห็นตัวอักษรไม่ได้ไงคะ
จำผิดคลาดเคลื่อนไม่ตรงตามคำสอนคือมีกิเลสค่ะ
:b32:

ไปจิตเกิดดับอีกแว้ว (แล้ว) :b32:

ว่าจะตั้งกระทู้ถาม กลัวไม่มีคนตอบ ถามตรงนี้แล้วกัน

คุณโรส คุณนับถือพระพุทธศาสนา เพื่อจุดประสงค์ใด ตอบให้ตรงคำถามนะ :b32:

บอกยากบอกเย็นบอกไม่รู้จักฟังไงคะคิดให้ตรงสิ
เดี๋ยวนี้มีแล้วกายใจตัวเองมีครบ6ทางแล้วกำลังมี
แต่ไม่รู้ว่ามันกำลังเกิดดับเรียงทีละ1ขณะสลับกัน
จะไปทำอะไรก็กำลังเกิดดับตามเหตุปัจจัยอยู่แล้ว
1ขณะที่เห็นสว่างดับแล้วมืดต่ออีก5ขณะเห็นไหม
ว่าตาเนื้อตัวเองสว่างตลอดเลยมีครบ6ทางแล้วนี่
มืดตอนมีจิตคิดนึกจิตได้ยินจิตได้กลิ่นจิตรู้สึกอื่นๆ
สว่างแค่ตอนเห็นดังนั้นคิดมันมืดจะเห็นตัวอักษรได้ไหมกำลังคิดและมืดอยู่นี่คะ
:b32:

สุตมยปัญญาคือจิตได้ยินเสียงแล้วคิดถูกตามมีแสงไหม
ท่องจำแต่ตัวอักษรอยู่นั่นน่ะผิดทางเกิดปัญญาไหม
สุตมยปัญญา...สุตะคือฟังเสียงไม่มีแสงสว่างนี่
ประมาทการฟังมีแต่จำตัวอักษรอยู่นั่น
ชาตินี้จะมีปัญญารู้ชัดไหมว่า
ปัญญาไม่เห็นอะไรเลย
แต่ปัญญาเกิดจาก
พึ่งคิดตามเสียง
เข้าใจตัวเอง
ว่าไม่รู้อะไรบ้าง
:b32:

Rosarin

Rosarin เขียน:

กรัชกาย เขียน:

Rosarin เขียน:

:b12:
จิตเกิดดับสลับกันทีละ1ทางตามลำดับตามที่ตถาคตตรัสรู้จริงๆ
ตนนั้นรู้เองไม่ได้ก็เห็นเท่านั้นที่สว่าง1ขณะและมืดต่ออีก5ทาง
ความคิดเกิดไม่พร้อมเห็นไม่พร้อมกันเลยแม้แต่ขณะเดียว
แต่ละ1ขณะต้องหมดไปก่อนจึงมีขณะอื่นๆเกิดต่อนะ
เห็นมีแสงและสีกระทบตาหมดจึงเกิดคิดนึกต่อได้
คิดในความมืดดังนั้นจึงเห็นตัวอักษรไม่ได้ไงคะ
จำผิดคลาดเคลื่อนไม่ตรงตามคำสอนคือมีกิเลสค่ะ
:b32:

ไปจิตเกิดดับอีกแว้ว (แล้ว) :b32:

ว่าจะตั้งกระทู้ถาม กลัวไม่มีคนตอบ ถามตรงนี้แล้วกัน

คุณโรส คุณนับถือพระพุทธศาสนา เพื่อจุดประสงค์ใด ตอบให้ตรงคำถามนะ :b32:

บอกยากบอกเย็นบอกไม่รู้จักฟังไงคะคิดให้ตรงสิ
เดี๋ยวนี้มีแล้วกายใจตัวเองมีครบ6ทางแล้วกำลังมี
แต่ไม่รู้ว่ามันกำลังเกิดดับเรียงทีละ1ขณะสลับกัน
จะไปทำอะไรก็กำลังเกิดดับตามเหตุปัจจัยอยู่แล้ว
1ขณะที่เห็นสว่างดับแล้วมืดต่ออีก5ขณะเห็นไหม
ว่าตาเนื้อตัวเองสว่างตลอดเลยมีครบ6ทางแล้วนี่
มืดตอนมีจิตคิดนึกจิตได้ยินจิตได้กลิ่นจิตรู้สึกอื่นๆ
สว่างแค่ตอนเห็นดังนั้นคิดมันมืดจะเห็นตัวอักษรได้ไหมกำลังคิดและมืดอยู่นี่คะ
:b32:

สุตมยปัญญาคือจิตได้ยินเสียงแล้วคิดถูกตามมีแสงไหม
ท่องจำแต่ตัวอักษรอยู่นั่นน่ะผิดทางเกิดปัญญาไหม
สุตมยปัญญา...สุตะคือฟังเสียงไม่มีแสงสว่างนี่
ประมาทการฟังมีแต่จำตัวอักษรอยู่นั่น
ชาตินี้จะมีปัญญารู้ชัดไหมว่า
ปัญญาไม่เห็นอะไรเลย
แต่ปัญญาเกิดจาก
พึ่งคิดตามเสียง
เข้าใจตัวเอง
ว่าไม่รู้อะไรบ้าง
:b32:

ฟังบ้างสิคะ
https://youtu.be/LTUqT36hCr8
:b4:

Rosarin

กรัชกาย เขียน:

อ้าวไหนๆก็ไหนๆแล้ว เอาหลักมาวางให้เห็นคร่าวๆสะเลย :b13:

ปุถุชน คนที่หนาแน่นไปด้วยกิเลส, คนที่ยังมีกิเลสมาก หมายถึงคนธรรมดาทั่วๆไป ซึ่งยังไม่เป็นอริยบุคคลหรือพระอริยะ ; บุถุชน ก็เขียน

กิเลส สิ่งที่ทำใจให้เศร้าหมอง, ความชั่วที่แฝงอยู่ในความรู้สึกนึกคิด ทำให้จิตใจขุ่นมัวไม่บริสุทธิ์ และเป็นเครื่องปรุงแต่งความคิดให้ทำกรรม ซึ่งนำไปสู่ปัญหาความยุ่งยากเดือดร้อนและความทุกข์

กิเลส ๑๐ (ในบาลีเดิม เรียกว่า กิเลสวัตถุ คือ สิ่งก่อความเศร้าหมอง ๑๐) ได้แก่ โลภะ โทสะ โมหะ มานะ ทิฏฐิ วิจิกิจฉา ถีนะ อุทธัจจะ อหิริกะ อโนตตัปปะ

ใน อรรถกถา ท่านนิยมจำแนก กิเลสเป็น ๓ ระดับ ตามลำดับขั้นของการละด้วยสิกขา ๓ (เช่น วินย. อ.1/22 ฯลฯ) คือ

๑. วีติกกมกิเลส กิเลสอย่างหยาบ ที่เป็นเหตุให้ล่วงละเมิดออกมาทางกาย และวาจา เช่น เป็นกายทุกจริต และวจีทุจริต ละด้วย ศีล (อธิศีลสิกขา)

๒. ปริยุฏฐานกิเลส กิเลสอย่างกลางที่พลุ่งขึ้นมาเร้ารุมอยู่ในจิตใจ ดังเช่นนิวรณ์ ๕ ในกรณีที่จะข่มระงับไว้ ละด้วย สมาธิ (อธิจิตตสิกขา)

๓. อนุสยกิเลส กิเลสอย่างละเอียดที่นอนเนื่องอยู่ในสันดานอันยังไม่ถูกกระตุ้นให้พลุ่งขึ้นมา ได้แก่ อนุสัย ๗ ละด้วย ปัญญา (อธิปัญญาสิกขา)

ทีนี้ก็มาฟังบ้างว่าอนุสัยนอนในจิตตนเองยังไงบ้าง
https://youtu.be/BxuOquiG55c
:b32:

กรัชกาย

Rosarin เขียน:

กรัชกาย เขียน:

Rosarin เขียน:

:b12:
จิตเกิดดับสลับกันทีละ1ทางตามลำดับตามที่ตถาคตตรัสรู้จริงๆ
ตนนั้นรู้เองไม่ได้ก็เห็นเท่านั้นที่สว่าง1ขณะและมืดต่ออีก5ทาง
ความคิดเกิดไม่พร้อมเห็นไม่พร้อมกันเลยแม้แต่ขณะเดียว
แต่ละ1ขณะต้องหมดไปก่อนจึงมีขณะอื่นๆเกิดต่อนะ
เห็นมีแสงและสีกระทบตาหมดจึงเกิดคิดนึกต่อได้
คิดในความมืดดังนั้นจึงเห็นตัวอักษรไม่ได้ไงคะ
จำผิดคลาดเคลื่อนไม่ตรงตามคำสอนคือมีกิเลสค่ะ
:b32:

ไปจิตเกิดดับอีกแว้ว (แล้ว) :b32:

ว่าจะตั้งกระทู้ถาม กลัวไม่มีคนตอบ ถามตรงนี้แล้วกัน

คุณโรส คุณนับถือพระพุทธศาสนา เพื่อจุดประสงค์ใด ตอบให้ตรงคำถามนะ :b32:

บอกยากบอกเย็นบอกไม่รู้จักฟังไงคะคิดให้ตรงสิ

เดี๋ยวนี้มีแล้วกายใจตัวเองมีครบ6ทางแล้วกำลังมี

แต่ไม่รู้ว่ามันกำลังเกิดดับเรียงทีละ1ขณะสลับกัน

จะไปทำอะไรก็กำลังเกิดดับตามเหตุปัจจัยอยู่แล้ว

1ขณะที่เห็นสว่างดับแล้วมืดต่ออีก5ขณะเห็นไหม
ว่าตาเนื้อตัวเองสว่างตลอดเลยมีครบ6ทางแล้วนี่
มืดตอนมีจิตคิดนึกจิตได้ยินจิตได้กลิ่นจิตรู้สึกอื่นๆ
สว่างแค่ตอนเห็นดังนั้นคิดมันมืดจะเห็นตัวอักษรได้ไหมกำลังคิดและมืดอยู่นี่คะ

นั่นพูดตามที่แม่สุจินว่าไว้ทั้งเพทั้งระยอง

ถามใหม่ คุณโรสเห็นตามที่พูดไหม เห็นไหม ตอบ

1. เห็นแล้ว

2. ไม่เห็นหรอกฟังคลิปแม่สุจินมา แล้วแม่สุจินก็ไม่เห็น เพียงเรียนมาจากสำนักวัดโพธิ์ คิกๆๆ

ตอบข้อไหน 1 หรือ 2 :b16:

Rosarin

กรัชกาย เขียน:

Rosarin เขียน:

กรัชกาย เขียน:

Rosarin เขียน:

:b12:
จิตเกิดดับสลับกันทีละ1ทางตามลำดับตามที่ตถาคตตรัสรู้จริงๆ
ตนนั้นรู้เองไม่ได้ก็เห็นเท่านั้นที่สว่าง1ขณะและมืดต่ออีก5ทาง
ความคิดเกิดไม่พร้อมเห็นไม่พร้อมกันเลยแม้แต่ขณะเดียว
แต่ละ1ขณะต้องหมดไปก่อนจึงมีขณะอื่นๆเกิดต่อนะ
เห็นมีแสงและสีกระทบตาหมดจึงเกิดคิดนึกต่อได้
คิดในความมืดดังนั้นจึงเห็นตัวอักษรไม่ได้ไงคะ
จำผิดคลาดเคลื่อนไม่ตรงตามคำสอนคือมีกิเลสค่ะ
:b32:

ไปจิตเกิดดับอีกแว้ว (แล้ว) :b32:

ว่าจะตั้งกระทู้ถาม กลัวไม่มีคนตอบ ถามตรงนี้แล้วกัน

คุณโรส คุณนับถือพระพุทธศาสนา เพื่อจุดประสงค์ใด ตอบให้ตรงคำถามนะ :b32:

บอกยากบอกเย็นบอกไม่รู้จักฟังไงคะคิดให้ตรงสิ

เดี๋ยวนี้มีแล้วกายใจตัวเองมีครบ6ทางแล้วกำลังมี

แต่ไม่รู้ว่ามันกำลังเกิดดับเรียงทีละ1ขณะสลับกัน

จะไปทำอะไรก็กำลังเกิดดับตามเหตุปัจจัยอยู่แล้ว

1ขณะที่เห็นสว่างดับแล้วมืดต่ออีก5ขณะเห็นไหม
ว่าตาเนื้อตัวเองสว่างตลอดเลยมีครบ6ทางแล้วนี่
มืดตอนมีจิตคิดนึกจิตได้ยินจิตได้กลิ่นจิตรู้สึกอื่นๆ
สว่างแค่ตอนเห็นดังนั้นคิดมันมืดจะเห็นตัวอักษรได้ไหมกำลังคิดและมืดอยู่นี่คะ

นั่นพูดตามที่แม่สุจินว่าไว้ทั้งเพทั้งระยอง

ถามใหม่ คุณโรสเห็นตามที่พูดไหม เห็นไหม ตอบ

1. เห็นแล้ว

2. ไม่เห็นหรอกฟังคลิปแม่สุจินมา แล้วแม่สุจินก็ไม่เห็น เพียงเรียนมาจากสำนักวัดโพธิ์ คิกๆๆ

ตอบข้อไหน 1 หรือ 2 :b16:

อย่าแกล้งไม่รู้
จิตมีครบแล้ว
เดี๋ยวนี้6ทาง
คิดทางไหน
ก็มีแล้วนี่คะ
คิดถูกตาม
ได้ทีละทาง
เพราะมันเกิดตรงทางไม่ปนกันไม่พร้อมกัน
กำลังเห็นน่ะไม่มีได้ยินไม่มีคิดไม่มีกลิ่นไม่มีรสไม่รู้สึกอะไรเลย
แค่แสงสีกระทบจักขุปสาทะดับทันทีแล้วมืดอีก5ขณะเดี๋ยวนี้มีตัวอักษรไหม
:b1:

Rosarin

Rosarin เขียน:

กรัชกาย เขียน:

Rosarin เขียน:

กรัชกาย เขียน:

Rosarin เขียน:

:b12:
จิตเกิดดับสลับกันทีละ1ทางตามลำดับตามที่ตถาคตตรัสรู้จริงๆ
ตนนั้นรู้เองไม่ได้ก็เห็นเท่านั้นที่สว่าง1ขณะและมืดต่ออีก5ทาง
ความคิดเกิดไม่พร้อมเห็นไม่พร้อมกันเลยแม้แต่ขณะเดียว
แต่ละ1ขณะต้องหมดไปก่อนจึงมีขณะอื่นๆเกิดต่อนะ
เห็นมีแสงและสีกระทบตาหมดจึงเกิดคิดนึกต่อได้
คิดในความมืดดังนั้นจึงเห็นตัวอักษรไม่ได้ไงคะ
จำผิดคลาดเคลื่อนไม่ตรงตามคำสอนคือมีกิเลสค่ะ
:b32:

ไปจิตเกิดดับอีกแว้ว (แล้ว) :b32:

ว่าจะตั้งกระทู้ถาม กลัวไม่มีคนตอบ ถามตรงนี้แล้วกัน

คุณโรส คุณนับถือพระพุทธศาสนา เพื่อจุดประสงค์ใด ตอบให้ตรงคำถามนะ :b32:

บอกยากบอกเย็นบอกไม่รู้จักฟังไงคะคิดให้ตรงสิ

เดี๋ยวนี้มีแล้วกายใจตัวเองมีครบ6ทางแล้วกำลังมี

แต่ไม่รู้ว่ามันกำลังเกิดดับเรียงทีละ1ขณะสลับกัน

จะไปทำอะไรก็กำลังเกิดดับตามเหตุปัจจัยอยู่แล้ว

1ขณะที่เห็นสว่างดับแล้วมืดต่ออีก5ขณะเห็นไหม
ว่าตาเนื้อตัวเองสว่างตลอดเลยมีครบ6ทางแล้วนี่
มืดตอนมีจิตคิดนึกจิตได้ยินจิตได้กลิ่นจิตรู้สึกอื่นๆ
สว่างแค่ตอนเห็นดังนั้นคิดมันมืดจะเห็นตัวอักษรได้ไหมกำลังคิดและมืดอยู่นี่คะ

นั่นพูดตามที่แม่สุจินว่าไว้ทั้งเพทั้งระยอง

ถามใหม่ คุณโรสเห็นตามที่พูดไหม เห็นไหม ตอบ

1. เห็นแล้ว

2. ไม่เห็นหรอกฟังคลิปแม่สุจินมา แล้วแม่สุจินก็ไม่เห็น เพียงเรียนมาจากสำนักวัดโพธิ์ คิกๆๆ

ตอบข้อไหน 1 หรือ 2 :b16:

อย่าแกล้งไม่รู้
จิตมีครบแล้ว
เดี๋ยวนี้6ทาง
คิดทางไหน
ก็มีแล้วนี่คะ
คิดถูกตาม
ได้ทีละทาง
เพราะมันเกิดตรงทางไม่ปนกันไม่พร้อมกัน
กำลังเห็นน่ะไม่มีได้ยินไม่มีคิดไม่มีกลิ่นไม่มีรสไม่รู้สึกอะไรเลย
แค่แสงสีกระทบจักขุปสาทะดับทันทีแล้วมืดอีก5ขณะเดี๋ยวนี้มีตัวอักษรไหม
:b1:

รู้อะไรทันบ้างล่ะ1ขณะมี7ชวนะ6ทางคูณ7ชวนะ
แค่สีกระทบตาดับน่ะทั้ง6ทางดับด้วยไม่เหลือเลย
เห็นอะไรได้บ้างกิเลสที่นับได้ไม่รู้เลยทั้ง42ชวนะ
ที่สำคัญมันดับนับไม่ถ้วนไปแล้วขาดสติไปแล้ว
แค่กะพริบตามีอวิชชาแล้วฟังก็ไม่ฟังอ่านอยู่นั่นน่ะ
:b16:

56685.เมื่อสิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี

ผู้ใช้งานขณะนี้