วันเวลาปัจจุบัน 03 ส.ค. 2025, 17:10  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 35 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์ เมื่อ: 26 ก.ย. 2018, 21:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กิเลสแปลว่าไม่รู้ว่ามีแค่สี1สีเท่านั้นเดี๋ยวนี้เห็นสี1สีคือ1ขณะดับทันทีไม่มีอะไรปนเห็นๆๆๆๆๆๆๆสีไหมมมมม


สีทนได้ อ้าว โอ๊ย เลอะเทอะ

cool
เห็นดับเพียง3ขณะยังไม่ครบ6ทางกิเลสเกิดแล้วเดี๋ยวนี้
ตถาคตแสดงความจริงของจิตแต่ละขณะมีถึง7ชวนะ
และทรงเรียงลำดับว่าอะไรเกิดก่อนหลังไว้หมดค่ะ
กะพริบตามีจิตใหม่เกิดครบ6ทางปัญญาอยู่ไหน
มีแต่ถูกกิเลสตนหลอกจิตตนไปเรื่อยๆลืมฟัง


ที่คุณโรสพูดมาทั้งเพทั้งระยองนั้น เป็นการมโนทั้งสิ้น

และจึงได้ตั้งกระทู้สำหรับคุณโรสไว้แล้วนี่

viewtopic.php?f=1&t=56409


กังขาวิตรณวิสุทธิ ความบริสุทธิ์ด้วยหมดสงสัยในนามรูป คือ กำหนดรู้ปัจจัยแห่งนามรูปได้ว่า เพราะอะไรเกิด นามรูปจึงเกิด เพราะอะไรดับ นามรูปจึงดับ

คนที่ไปอ่านเรื่องฌานก็คิดแต่จะไปทำฌานคิดว่าฌานเป็นปัญญา
555ตถาคตบอกแบบนี้นะ1ปัญญาเกิดจากการฟังไม่มีการข้ามขั้น
ไปภาวนาโดยไม่เจริญจากการฟังไม่มีทางให้ปัญญาเกิดเข้าใจเบ๊าะ
:b32: :b32: :b32:


โพสต์ เมื่อ: 27 ก.ย. 2018, 11:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กิเลสแปลว่าไม่รู้ว่ามีแค่สี1สีเท่านั้นเดี๋ยวนี้เห็นสี1สีคือ1ขณะดับทันทีไม่มีอะไรปนเห็นๆๆๆๆๆๆๆสีไหมมมมม


สีทนได้ อ้าว โอ๊ย เลอะเทอะ

cool
เห็นดับเพียง3ขณะยังไม่ครบ6ทางกิเลสเกิดแล้วเดี๋ยวนี้
ตถาคตแสดงความจริงของจิตแต่ละขณะมีถึง7ชวนะ
และทรงเรียงลำดับว่าอะไรเกิดก่อนหลังไว้หมดค่ะ
กะพริบตามีจิตใหม่เกิดครบ6ทางปัญญาอยู่ไหน
มีแต่ถูกกิเลสตนหลอกจิตตนไปเรื่อยๆลืมฟัง


ที่คุณโรสพูดมาทั้งเพทั้งระยองนั้น เป็นการมโนทั้งสิ้น

และจึงได้ตั้งกระทู้สำหรับคุณโรสไว้แล้วนี่

viewtopic.php?f=1&t=56409


กังขาวิตรณวิสุทธิ ความบริสุทธิ์ด้วยหมดสงสัยในนามรูป คือ กำหนดรู้ปัจจัยแห่งนามรูปได้ว่า เพราะอะไรเกิด นามรูปจึงเกิด เพราะอะไรดับ นามรูปจึงดับ

คนที่ไปอ่านเรื่องฌานก็คิดแต่จะไปทำฌานคิดว่าฌานเป็นปัญญา
555ตถาคตบอกแบบนี้นะ1ปัญญาเกิดจากการฟังไม่มีการข้ามขั้น
ไปภาวนาโดยไม่เจริญจากการฟังไม่มีทางให้ปัญญาเกิดเข้าใจเบ๊าะ


ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ (จักขุ โสตะ ฆานะ ชิวหา กายะ มโน)

ทำไมคุณโรสใช้แค่หูล่ะ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 27 ก.ย. 2018, 18:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กิเลสแปลว่าไม่รู้ว่ามีแค่สี1สีเท่านั้นเดี๋ยวนี้เห็นสี1สีคือ1ขณะดับทันทีไม่มีอะไรปนเห็นๆๆๆๆๆๆๆสีไหมมมมม


สีทนได้ อ้าว โอ๊ย เลอะเทอะ

cool
เห็นดับเพียง3ขณะยังไม่ครบ6ทางกิเลสเกิดแล้วเดี๋ยวนี้
ตถาคตแสดงความจริงของจิตแต่ละขณะมีถึง7ชวนะ
และทรงเรียงลำดับว่าอะไรเกิดก่อนหลังไว้หมดค่ะ
กะพริบตามีจิตใหม่เกิดครบ6ทางปัญญาอยู่ไหน
มีแต่ถูกกิเลสตนหลอกจิตตนไปเรื่อยๆลืมฟัง


ที่คุณโรสพูดมาทั้งเพทั้งระยองนั้น เป็นการมโนทั้งสิ้น

และจึงได้ตั้งกระทู้สำหรับคุณโรสไว้แล้วนี่

viewtopic.php?f=1&t=56409


กังขาวิตรณวิสุทธิ ความบริสุทธิ์ด้วยหมดสงสัยในนามรูป คือ กำหนดรู้ปัจจัยแห่งนามรูปได้ว่า เพราะอะไรเกิด นามรูปจึงเกิด เพราะอะไรดับ นามรูปจึงดับ

คนที่ไปอ่านเรื่องฌานก็คิดแต่จะไปทำฌานคิดว่าฌานเป็นปัญญา
555ตถาคตบอกแบบนี้นะ1ปัญญาเกิดจากการฟังไม่มีการข้ามขั้น
ไปภาวนาโดยไม่เจริญจากการฟังไม่มีทางให้ปัญญาเกิดเข้าใจเบ๊าะ


ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ (จักขุ โสตะ ฆานะ ชิวหา กายะ มโน)

ทำไมคุณโรสใช้แค่หูล่ะ

ไม่มีใครต้องไปทำสภาพธรรมที่กำลังมีทางตาหูจมูกลิ้นกายใจเดี๋ยวนี้เลย
ทุกทางต้องตามรู้สิ่งที่เกิดแล้วตามคำสอนตรงปัจจุบันขณะเหตุปัจจัย
คือการคิดตามเสียงสัจจะที่กำลังมีตรงทางแต่ละทางเพื่อเข้าใจถูก
ไม่ใช่จะไปทำให้เห็นอย่างพระพุทธเจ้าเห็นเพราะไม่มีใครรู้เห็น
ที่กำลังเห็นว่าเห็นถูกเป็นอย่างไรจึงต้องเพียรฟังเพื่อไตร่ตรอง
ตรงตามเสียงที่กำลังได้ยินตรงคำตรงความหมายเดี๋ยวนี้ว่า
ตนเข้าใจถูกตามในสภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามจริง
ทางไหนก็รู้ได้ทีละ1ทางทีละ1อย่างจำทุกอย่างผิดไง
:b32: :b32: :b32:


โพสต์ เมื่อ: 27 ก.ย. 2018, 18:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กิเลสแปลว่าไม่รู้ว่ามีแค่สี1สีเท่านั้นเดี๋ยวนี้เห็นสี1สีคือ1ขณะดับทันทีไม่มีอะไรปนเห็นๆๆๆๆๆๆๆสีไหมมมมม


สีทนได้ อ้าว โอ๊ย เลอะเทอะ

cool
เห็นดับเพียง3ขณะยังไม่ครบ6ทางกิเลสเกิดแล้วเดี๋ยวนี้
ตถาคตแสดงความจริงของจิตแต่ละขณะมีถึง7ชวนะ
และทรงเรียงลำดับว่าอะไรเกิดก่อนหลังไว้หมดค่ะ
กะพริบตามีจิตใหม่เกิดครบ6ทางปัญญาอยู่ไหน
มีแต่ถูกกิเลสตนหลอกจิตตนไปเรื่อยๆลืมฟัง


ที่คุณโรสพูดมาทั้งเพทั้งระยองนั้น เป็นการมโนทั้งสิ้น

และจึงได้ตั้งกระทู้สำหรับคุณโรสไว้แล้วนี่

viewtopic.php?f=1&t=56409


กังขาวิตรณวิสุทธิ ความบริสุทธิ์ด้วยหมดสงสัยในนามรูป คือ กำหนดรู้ปัจจัยแห่งนามรูปได้ว่า เพราะอะไรเกิด นามรูปจึงเกิด เพราะอะไรดับ นามรูปจึงดับ

คนที่ไปอ่านเรื่องฌานก็คิดแต่จะไปทำฌานคิดว่าฌานเป็นปัญญา
555ตถาคตบอกแบบนี้นะ1ปัญญาเกิดจากการฟังไม่มีการข้ามขั้น
ไปภาวนาโดยไม่เจริญจากการฟังไม่มีทางให้ปัญญาเกิดเข้าใจเบ๊าะ


ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ (จักขุ โสตะ ฆานะ ชิวหา กายะ มโน)

ทำไมคุณโรสใช้แค่หูล่ะ

ไม่มีใครต้องไปทำสภาพธรรมที่กำลังมีทางตาหูจมูกลิ้นกายใจเดี๋ยวนี้เลย
ทุกทางต้องตามรู้สิ่งที่เกิดแล้วตามคำสอนตรงปัจจุบันขณะเหตุปัจจัย
คือการคิดตามเสียงสัจจะที่กำลังมีตรงทางแต่ละทางเพื่อเข้าใจถูก
ไม่ใช่จะไปทำให้เห็นอย่างพระพุทธเจ้าเห็นเพราะไม่มีใครรู้เห็น
ที่กำลังเห็นว่าเห็นถูกเป็นอย่างไรจึงต้องเพียรฟังเพื่อไตร่ตรอง
ตรงตามเสียงที่กำลังได้ยินตรงคำตรงความหมายเดี๋ยวนี้ว่า
ตนเข้าใจถูกตามในสภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามจริง
ทางไหนก็รู้ได้ทีละ1ทางทีละ1อย่างจำทุกอย่างผิดไง
:b32: :b32: :b32:

ทุกอย่างกำลังเกิดดับตามเหตุตามปัจจัยไม่มีใครรู้แล้ว
มีแต่ต้องเพียรฟังว่าความจริงเป็นแบบนี้ตามที่ตรัสรู้
แต่ตัวเองน่ะคิดเห็นตามที่กำลังปรากฏเป็นตัวตน
ไม่รู้ตัวและไม่ยอมรับว่าตนไม่รู้ความจริงสักอย่าง
หลงจำบัญญัติคำเอามาบอกให้คนอื่นทำมันผิดไงค๊ะ
ตถาคตบอกให้ฟังเพื่อไตร่ตรองถูกตามได้ไม่ใช่ให้เชื่อใช่ไหมคะ
ไม่ต้องไปเชื่อใครไม่ต้องไปทำตามใครใช้ตาดูความจริงตอนกำลังฟังเพื่อเข้าใจถูกตามเท่านั้น
ปัญญาที่เพิ่มจากการไตร่ตรองตรงตามความจริงที่กำลังมีที่กายใจจะปรุงแต่งถูกได้ตามเป็นจริงตรงปัจจุบัน
:b32: :b32: :b32:


โพสต์ เมื่อ: 27 ก.ย. 2018, 18:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:


ทุกอย่างกำลังเกิดดับตามเหตุตามปัจจัยไม่มีใครรู้แล้ว
มีแต่ต้องเพียรฟังว่าความจริงเป็นแบบนี้ตามที่ตรัสรู้
แต่ตัวเองน่ะคิดเห็นตามที่กำลังปรากฏเป็นตัวตน
ไม่รู้ตัวและไม่ยอมรับว่าตนไม่รู้ความจริงสักอย่าง
หลงจำบัญญัติคำเอามาบอกให้คนอื่นทำมันผิดไงค๊ะ
ตถาคตบอกให้ฟังเพื่อไตร่ตรองถูกตามได้ไม่ใช่ให้เชื่อใช่ไหมคะ
ไม่ต้องไปเชื่อใครไม่ต้องไปทำตามใครใช้ตาดูความจริงตอนกำลังฟังเพื่อเข้าใจถูกตามเท่านั้น
ปัญญาที่เพิ่มจากการไตร่ตรองตรงตามความจริงที่กำลังมีที่กายใจจะปรุงแต่งถูกได้ตามเป็นจริงตรงปัจจุบัน



นั่งฟังไปหลับไปสุตมยปัญญาเกิดป่ะ

1. เกิด
2.ไม่เกิด

ตอบข้อไหน 1 หรือ 2

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 35 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร