วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ค. 2025, 13:42  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 41 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ก.ย. 2018, 02:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2166

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
โลกสวย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อีกสักตัวอย่างคล้ายๆกัน

อ้างคำพูด:
นั่งสมาธิ รู้สึกเหมือนโดนไฟช็อตจนนั่งต่อไม่ได้

พอมีวิธีแก้มั้ยคะ เราทำอานาปานสติ แต่ไม่ได้จับที่ลมหายใจ แค่ดูการเคลื่อนที่ของลำตัว ตอนกลางวันนั่งไป 1 ชม. จนรู้ทั่วตัว แต่พอมาตอนเย็น นั่งแบบเดิม รู้สึกเหมือนโดนไฟช็อตอยู่เรื่อยๆ รู้สึกทีนึงก็หยุด พอนั่งอีกก็โดนช็อตอีก ความรู้สึกเหมือนจั้กกะจี้ค่ะ จนเราต้องนอนแทน แต่นอนก็หลับ พอมีวิธีแก้มั้ยคะ แบบว่านั่งไม่ได้เลย


วิธีแก้คือกำหนดตามที่มันเป็น ตามที่รู้สึก นี่คือวิธีแก้



ไม่มีวิธีแก้หรอกค่ะ

อดีตมันผ่านไปแล้ว จะไปแก้ไขอะไรในอดีตนั้นไม่ได้หรอกค่ะ

สมาธิ ไม่ใช่นั่งนานๆ จะเรียกว่า เป็นสมาธิ ได้สมาธิ เก่งสมาธิ

แต่ องค์ธรรมสำคัญของสมาธิ คือเอกคัตตาจิต ค่ะ

ไม่ใช่ความรู้สึก ไม่ใช่ทุกข์เวทนา ไม่ใช่เสียง ไม่ใช่วิตก ไม่ใช่วิจาร ไม่ใช่ ลมหายใจ และไม่ใช่สุขเวทนา ค่ะ
รู้จักเสี้ยนหนามต่างๆ เหล่านี้

ก็จะทำสมาธิได้ถูกต้องถูกทางค่ะ








คำว่า แก้ ในที่นี้ ได้แก่ แก้ปัญหาสภาวธรรมที่เรากำลังประสบอยู่ในขณะนั้นๆ ไม่ใช่แก้ให้เป็นอย่างที่เราต้องการ ไม่ใช่ ไม่ใช่ มันเป็นยังไงมันก็เป็นยังงั้นของมัน ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น ฝนตก ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า เปรี้ยง แดดออก ... เราแก้ให้ฝนไม่ตกแดดไม่ออกได้ไหม อิอิ บ่ได้ดอก เรื่องของธรรมชาติมันฉันใด สภาวธรรมก็ฉันนั้น แก้ด้วยการกำหนดรู้ความจริงของมัน นี่คือภาษาพูดภาคปฏิบัติว่า "แก้" "แก้อารมณ์"

ดูตัวอย่างเห็นๆสักเรื่องหนึ่ง มีแม่ค้าซึ่งค้าขายริมฟุตบาท ช่วงหน้าฝนๆตกบ่อยๆ วันหนึ่ง ฝนตั้งเค้ามืดมาเขาแหงนมองดูฟ้า แล้วแม่ก็ทำหน้านิ่ว วิ่งหนีตัวปลิวกลัวขนคิ้วจะไม่มี ไม่ใช่ๆ ขออภัย :b32: แล้วพูดออกมาว่า ฝนอย่าเพิ่งตกเลย ขอขายของก่อน (ฝนตกคนหายหมด ขายของไม่ได้) อย่างนี้ เขาจะให้ธรรมชาติเป็นไปตามความอยากของตัวเอง ซึ่งไม่มีทางเป็นไปได้ การปฏิบัติธรรมก็ทำนองเดียวกัน เราจะให้สภาวธรรมซึ่งมันเป็นธรรมชาติเป็นอย่างที่ตัวเองต้องการไม่ได้ บ่มีทางดอก แต่เราต้องรู้ตามที่มันเป็น ทั้งทางกาย ทางใจ เป็นยังไง รู้สึกยังไง ก็ว่าในใจยังงั้น ทุกข์ก็ทุกข์ สุขก็สุข


มีตัวอย่างเบาๆ ให้ดูเรื่องหนึ่ง

อ้างคำพูด:
เวลานั่งสมาธิกำหนดคำภาวนา พร้อมไปกับลมหายใจ นั่งทำสมาธิไปสักพักจะต้องเริ่มมีอาการคันคอ ทุกครั้ง พยามยามฝืนไม่สนใจ แต่จะคันคอจนต้องไอออกมาทุกครั้ง บางครั้งน้ำลายกระเด็นออกมาเลอะปาก พร้อมน้ำตาไหล พอไอออกมา สักครั้ง สองครั้ง แล้วจะหายไป แล้วไม่คันคออีกเลย อยากรบกวนสอบถามถึงอาการที่เกิด และทำอย่างไรถึงจะไม่ให้เกิดอาการคันคอได้ เพราะตอนนั่งพอจะเริ่มสงบนิ่งจะเป็นทุกครั้ง ทำให้เกิดความรำคาญ


เห็นไหมอ่ะ คันคอ น้ำตาไหล น้ำลายกระเด็น ไอค้อกๆแค้กๆ มันเป็นธรรมดา แต่โยคีเอง จะเอาตามความยึดตามความต้องการของตน ดูสิฮะจะหาวิธีแก้ไม่ให้คันคอ ก็มันคันก็กำหนดไปสิ คันหนอๆๆ อิอิ แค่นี้เอง

แต่มันก็แปลกนะอ่ะ การปฏิบัติธรรม ปฏิบัติกรรมฐาน การปฏิบัติทางจิตเนี่ย เหมือนมีมารคอยผจญ พอจิตเริ่มสะฮบๆ (สงบๆ) :b32: จะมีนั่นเกิดนี่มาขัดมาขวาง ดังนั้น โยคีพึงทำใจไว้เลยว่า มารบ่มีบารมีบ่เกิด ยิ่งมีมารเยอะแล้วทำมาร (กิเลสมาร) ให้พ่ายได้ บารมีกล้าแกร่งเลย เชื่อไอ้เรืองดิ :b13:



มั่วใหญ่แล้วค่ะ ลุงกรัชกาย
องค์ธรรมสมาธิแต่ละฌาน ไม่มีหรอก คันคอหนอๆๆ
ไปเอาอารมณ์กัมฐาน มาปนกะอารมณ์สติปัฎฐาน 44 ปัพพะ
มาบนมั่วหมดแร๊ว นี่แหละมารศาสนา ชัดๆค่ะ









แก้ไขล่าสุดโดย โลกสวย เมื่อ 25 ก.ย. 2018, 02:27, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ก.ย. 2018, 02:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2166

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


เม แนะนำนะคะ คุณลุงกรัชกาย

ไปเรียนพื้นฐานให้ดีๆ เสียก่อน

ที่ลุงกล่าวมา ไม่สอดคล้องกะปริยัติ และพระธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดง

ไปเรียนพื้นฐานให้ดีก่อนนะคะ ว่า สมาธิมีองค์ธรรมอะไร มีเสี้ยนหนามยังไง

กัมฐาน40 กองนั่นน่ะ มีอะไรเป็นอารมณ์

วิปัสสนาน่ะ ไม่ได้มี ฌานเป็นอารมณ์

และก็ไปเรียนว่า สติปัฎฐานน่ะ 44 ปัพพะเนี่ย ใช้อะไรเป็นอารมณ์

จะได้ไม่มั่ว มั่ว ๆๆๆๆๆๆๆๆ ปนกันหมด

ไปเรียนซะนะคะ

อย่าปล่อยให้มั่วๆ ไปจนตายเรย

เม บอกให้นะคะ ว่าลุงมั่ว ลุงผิดมากไม่ตรงตามคำสอนพระพุทธองค์เรย

ลุงแก่แล้ว เม บอกด้วยเมตตานะ

อย่าดื้อมากนะคะ

ไปเรียนพื้นฐานเสียให้ดีๆก่อน ฐานไม่ดี สร้างตึกไปก็พังแหละ
เสียเวลาทั้งชีวิต ไปกะความคิด ความจำผิดๆของตัวเอง

อย่าดื้อนะคะ



โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ก.ย. 2018, 23:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
cool
ทุกคำที่เขียนมาคือความจริงตรงปัจจุบัน
ที่พระพุทธเจ้ารอบรู้ครบถ้วนทุกคำ
ตัวเองไม่รู้แม้1คำตรงขณะไงคะ
แปลว่ามีกิเลสอาสาวะไหลครบ
:b32: :b32: :b32:

cool
ฟังเพื่อละไม่รู้ที่กำลังติดข้องต้องการอยากจะถึงนิพพานเร็ว
มันอิมพอสซิเบิ้ลแปลว่าทุกอย่างมีแล้วตามเหตุตามปัจจัย
ตถาคตทำได้แค่บอก/สาวกมีหน้าที่ฟังเพื่อปัญญาปรากฏ
ตนเองต้องคิดสิคะว่าเป็นสาวกแล้วทำไมไม่ทำฟังให้ตรง
:b12:
:b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.ย. 2018, 17:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
cool
ทุกคำที่เขียนมาคือความจริงตรงปัจจุบัน
ที่พระพุทธเจ้ารอบรู้ครบถ้วนทุกคำ
ตัวเองไม่รู้แม้1คำตรงขณะไงคะ
แปลว่ามีกิเลสอาสาวะไหลครบ
:b32: :b32: :b32:

cool
ฟังเพื่อละไม่รู้ที่กำลังติดข้องต้องการอยากจะถึงนิพพานเร็ว
มันอิมพอสซิเบิ้ลแปลว่าทุกอย่างมีแล้วตามเหตุตามปัจจัย
ตถาคตทำได้แค่บอก/สาวกมีหน้าที่ฟังเพื่อปัญญาปรากฏ
ตนเองต้องคิดสิคะว่าเป็นสาวกแล้วทำไมไม่ทำฟังให้ตรง
:b12:
:b4: :b4:



ถ้าให้ฟัง แล้วจะมี ปฏิบัติก่อน ถึงจะถึงปฏิเวธ ไว้ทำไม ไหนตอบให้ไอ้เรืองตายตาหลับทีซิ ทุกวันนี้ ยังตายตาไม่หลับเลย คิกๆๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.ย. 2018, 17:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โลกสวย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โลกสวย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อีกสักตัวอย่างคล้ายๆกัน

อ้างคำพูด:
นั่งสมาธิ รู้สึกเหมือนโดนไฟช็อตจนนั่งต่อไม่ได้

พอมีวิธีแก้มั้ยคะ เราทำอานาปานสติ แต่ไม่ได้จับที่ลมหายใจ แค่ดูการเคลื่อนที่ของลำตัว ตอนกลางวันนั่งไป 1 ชม. จนรู้ทั่วตัว แต่พอมาตอนเย็น นั่งแบบเดิม รู้สึกเหมือนโดนไฟช็อตอยู่เรื่อยๆ รู้สึกทีนึงก็หยุด พอนั่งอีกก็โดนช็อตอีก ความรู้สึกเหมือนจั้กกะจี้ค่ะ จนเราต้องนอนแทน แต่นอนก็หลับ พอมีวิธีแก้มั้ยคะ แบบว่านั่งไม่ได้เลย


วิธีแก้คือกำหนดตามที่มันเป็น ตามที่รู้สึก นี่คือวิธีแก้



ไม่มีวิธีแก้หรอกค่ะ

อดีตมันผ่านไปแล้ว จะไปแก้ไขอะไรในอดีตนั้นไม่ได้หรอกค่ะ

สมาธิ ไม่ใช่นั่งนานๆ จะเรียกว่า เป็นสมาธิ ได้สมาธิ เก่งสมาธิ

แต่ องค์ธรรมสำคัญของสมาธิ คือเอกคัตตาจิต ค่ะ

ไม่ใช่ความรู้สึก ไม่ใช่ทุกข์เวทนา ไม่ใช่เสียง ไม่ใช่วิตก ไม่ใช่วิจาร ไม่ใช่ ลมหายใจ และไม่ใช่สุขเวทนา ค่ะ
รู้จักเสี้ยนหนามต่างๆ เหล่านี้

ก็จะทำสมาธิได้ถูกต้องถูกทางค่ะ








คำว่า แก้ ในที่นี้ ได้แก่ แก้ปัญหาสภาวธรรมที่เรากำลังประสบอยู่ในขณะนั้นๆ ไม่ใช่แก้ให้เป็นอย่างที่เราต้องการ ไม่ใช่ ไม่ใช่ มันเป็นยังไงมันก็เป็นยังงั้นของมัน ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น ฝนตก ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า เปรี้ยง แดดออก ... เราแก้ให้ฝนไม่ตกแดดไม่ออกได้ไหม อิอิ บ่ได้ดอก เรื่องของธรรมชาติมันฉันใด สภาวธรรมก็ฉันนั้น แก้ด้วยการกำหนดรู้ความจริงของมัน นี่คือภาษาพูดภาคปฏิบัติว่า "แก้" "แก้อารมณ์"

ดูตัวอย่างเห็นๆสักเรื่องหนึ่ง มีแม่ค้าซึ่งค้าขายริมฟุตบาท ช่วงหน้าฝนๆตกบ่อยๆ วันหนึ่ง ฝนตั้งเค้ามืดมาเขาแหงนมองดูฟ้า แล้วแม่ก็ทำหน้านิ่ว วิ่งหนีตัวปลิวกลัวขนคิ้วจะไม่มี ไม่ใช่ๆ ขออภัย :b32: แล้วพูดออกมาว่า ฝนอย่าเพิ่งตกเลย ขอขายของก่อน (ฝนตกคนหายหมด ขายของไม่ได้) อย่างนี้ เขาจะให้ธรรมชาติเป็นไปตามความอยากของตัวเอง ซึ่งไม่มีทางเป็นไปได้ การปฏิบัติธรรมก็ทำนองเดียวกัน เราจะให้สภาวธรรมซึ่งมันเป็นธรรมชาติเป็นอย่างที่ตัวเองต้องการไม่ได้ บ่มีทางดอก แต่เราต้องรู้ตามที่มันเป็น ทั้งทางกาย ทางใจ เป็นยังไง รู้สึกยังไง ก็ว่าในใจยังงั้น ทุกข์ก็ทุกข์ สุขก็สุข


มีตัวอย่างเบาๆ ให้ดูเรื่องหนึ่ง

อ้างคำพูด:
เวลานั่งสมาธิกำหนดคำภาวนา พร้อมไปกับลมหายใจ นั่งทำสมาธิไปสักพักจะต้องเริ่มมีอาการคันคอ ทุกครั้ง พยามยามฝืนไม่สนใจ แต่จะคันคอจนต้องไอออกมาทุกครั้ง บางครั้งน้ำลายกระเด็นออกมาเลอะปาก พร้อมน้ำตาไหล พอไอออกมา สักครั้ง สองครั้ง แล้วจะหายไป แล้วไม่คันคออีกเลย อยากรบกวนสอบถามถึงอาการที่เกิด และทำอย่างไรถึงจะไม่ให้เกิดอาการคันคอได้ เพราะตอนนั่งพอจะเริ่มสงบนิ่งจะเป็นทุกครั้ง ทำให้เกิดความรำคาญ


เห็นไหมอ่ะ คันคอ น้ำตาไหล น้ำลายกระเด็น ไอค้อกๆแค้กๆ มันเป็นธรรมดา แต่โยคีเอง จะเอาตามความยึดตามความต้องการของตน ดูสิฮะจะหาวิธีแก้ไม่ให้คันคอ ก็มันคันก็กำหนดไปสิ คันหนอๆๆ อิอิ แค่นี้เอง

แต่มันก็แปลกนะอ่ะ การปฏิบัติธรรม ปฏิบัติกรรมฐาน การปฏิบัติทางจิตเนี่ย เหมือนมีมารคอยผจญ พอจิตเริ่มสะฮบๆ (สงบๆ) :b32: จะมีนั่นเกิดนี่มาขัดมาขวาง ดังนั้น โยคีพึงทำใจไว้เลยว่า มารบ่มีบารมีบ่เกิด ยิ่งมีมารเยอะแล้วทำมาร (กิเลสมาร) ให้พ่ายได้ บารมีกล้าแกร่งเลย เชื่อไอ้เรืองดิ :b13:



มั่วใหญ่แล้วค่ะ ลุงกรัชกาย
องค์ธรรมสมาธิแต่ละฌาน ไม่มีหรอก คันคอหนอๆๆ
ไปเอาอารมณ์กัมฐาน มาปนกะอารมณ์สติปัฎฐาน 44 ปัพพะ
มาบนมั่วหมดแร๊ว นี่แหละมารศาสนา ชัดๆค่ะ




ก็ขณะนั้น มันคันคอ จะให้ว่าคันตูดหรือไง :b32: เออ คิดสิคิด

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.ย. 2018, 17:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โลกสวย เขียน:
เม แนะนำนะคะ คุณลุงกรัชกาย

ไปเรียนพื้นฐานให้ดีๆ เสียก่อน

ที่ลุงกล่าวมา ไม่สอดคล้องกะปริยัติ และพระธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดง

ไปเรียนพื้นฐานให้ดีก่อนนะคะ ว่า สมาธิมีองค์ธรรมอะไร มีเสี้ยนหนามยังไง

กัมฐาน40 กองนั่นน่ะ มีอะไรเป็นอารมณ์

วิปัสสนาน่ะ ไม่ได้มี ฌานเป็นอารมณ์

และก็ไปเรียนว่า สติปัฎฐานน่ะ 44 ปัพพะเนี่ย ใช้อะไรเป็นอารมณ์

จะได้ไม่มั่ว มั่ว ๆๆๆๆๆๆๆๆ ปนกันหมด

ไปเรียนซะนะคะ

อย่าปล่อยให้มั่วๆ ไปจนตายเรย

เม บอกให้นะคะ ว่าลุงมั่ว ลุงผิดมากไม่ตรงตามคำสอนพระพุทธองค์เรย

ลุงแก่แล้ว เม บอกด้วยเมตตานะ

อย่าดื้อมากนะคะ

ไปเรียนพื้นฐานเสียให้ดีๆก่อน ฐานไม่ดี สร้างตึกไปก็พังแหละ
เสียเวลาทั้งชีวิต ไปกะความคิด ความจำผิดๆของตัวเอง

อย่าดื้อนะคะ




พูดสะเห็นภาพฝอยขัดหม้อเลย :b2: ยุ่งนุงนังพันกันจนหาเงื่อนไม่เจอ

http://www.njdigital.net/upload/01-get- ... ool-sl.jpg

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.ย. 2018, 21:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
cool
ทุกคำที่เขียนมาคือความจริงตรงปัจจุบัน
ที่พระพุทธเจ้ารอบรู้ครบถ้วนทุกคำ
ตัวเองไม่รู้แม้1คำตรงขณะไงคะ
แปลว่ามีกิเลสอาสาวะไหลครบ
:b32: :b32: :b32:

cool
ฟังเพื่อละไม่รู้ที่กำลังติดข้องต้องการอยากจะถึงนิพพานเร็ว
มันอิมพอสซิเบิ้ลแปลว่าทุกอย่างมีแล้วตามเหตุตามปัจจัย
ตถาคตทำได้แค่บอก/สาวกมีหน้าที่ฟังเพื่อปัญญาปรากฏ
ตนเองต้องคิดสิคะว่าเป็นสาวกแล้วทำไมไม่ทำฟังให้ตรง
:b12:
:b4: :b4:



ถ้าให้ฟัง แล้วจะมี ปฏิบัติก่อน ถึงจะถึงปฏิเวธ ไว้ทำไม ไหนตอบให้ไอ้เรืองตายตาหลับทีซิ ทุกวันนี้ ยังตายตาไม่หลับเลย คิกๆๆ

cool
กำลังฟังเข้าใจสะสมปัญญาทันทีจะฟังไหมล่ะไม่พิสูจน์ไม่รู้น๊าเอ๊าาาาาของจริงต้องฟังจริงๆอย่ามโนว่าฟังคิคิคิ
:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.ย. 2018, 23:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2166

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
โลกสวย เขียน:
เม แนะนำนะคะ คุณลุงกรัชกาย

ไปเรียนพื้นฐานให้ดีๆ เสียก่อน

ที่ลุงกล่าวมา ไม่สอดคล้องกะปริยัติ และพระธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดง

ไปเรียนพื้นฐานให้ดีก่อนนะคะ ว่า สมาธิมีองค์ธรรมอะไร มีเสี้ยนหนามยังไง

กัมฐาน40 กองนั่นน่ะ มีอะไรเป็นอารมณ์

วิปัสสนาน่ะ ไม่ได้มี ฌานเป็นอารมณ์

และก็ไปเรียนว่า สติปัฎฐานน่ะ 44 ปัพพะเนี่ย ใช้อะไรเป็นอารมณ์

จะได้ไม่มั่ว มั่ว ๆๆๆๆๆๆๆๆ ปนกันหมด

ไปเรียนซะนะคะ

อย่าปล่อยให้มั่วๆ ไปจนตายเรย

เม บอกให้นะคะ ว่าลุงมั่ว ลุงผิดมากไม่ตรงตามคำสอนพระพุทธองค์เรย

ลุงแก่แล้ว เม บอกด้วยเมตตานะ

อย่าดื้อมากนะคะ

ไปเรียนพื้นฐานเสียให้ดีๆก่อน ฐานไม่ดี สร้างตึกไปก็พังแหละ
เสียเวลาทั้งชีวิต ไปกะความคิด ความจำผิดๆของตัวเอง

อย่าดื้อนะคะ




พูดสะเห็นภาพฝอยขัดหม้อเลย :b2: ยุ่งนุงนังพันกันจนหาเงื่อนไม่เจอ

http://www.njdigital.net/upload/01-get- ... ool-sl.jpg


นั่นน่ะสิคะ เรื่องง่ายๆ
ลุงยังไม่เข้าใจ ยังจับต้นชนปลายไม่ได้ เรยพันกันมั่วไปหมด
เอาสมาธิ ไปปนมหาสติปัฎฐาน ไปปนกะวิปัสสนา มั่วยุ่งเหยิงไปหมด

สมาธิ แปลง่ายๆว่า ทรงไว้ซึ่งความสงบ

องค์ธรรมสำคัญ ของสมาธิ

คือ เอกคัคตาจิต ประกอบด้วยโสภณเจตสิก 59 ดวง

ไม่มี คันคอหนอ ๆๆๆๆๆ หรอกค่ะ

สมาธิไป คันคอหนอ ๆๆ ที่นี่วุ่นหนอ ๆๆๆๆ ที่นี่ขัดข้องหนอๆๆๆๆๆๆ

นั่นแหละสมาธิมั่วแหลกของลุง
แค่นี้ สมาธิลุงก็มั่วแหลก ไม่ตรงตามที่พระพุทธองค์ทรงแสดงแล้วแหละค่ะ





โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ก.ย. 2018, 00:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
cool
ทุกคำที่เขียนมาคือความจริงตรงปัจจุบัน
ที่พระพุทธเจ้ารอบรู้ครบถ้วนทุกคำ
ตัวเองไม่รู้แม้1คำตรงขณะไงคะ
แปลว่ามีกิเลสอาสาวะไหลครบ
:b32: :b32: :b32:

cool
ฟังเพื่อละไม่รู้ที่กำลังติดข้องต้องการอยากจะถึงนิพพานเร็ว
มันอิมพอสซิเบิ้ลแปลว่าทุกอย่างมีแล้วตามเหตุตามปัจจัย
ตถาคตทำได้แค่บอก/สาวกมีหน้าที่ฟังเพื่อปัญญาปรากฏ
ตนเองต้องคิดสิคะว่าเป็นสาวกแล้วทำไมไม่ทำฟังให้ตรง
:b12:
:b4: :b4:



ถ้าให้ฟัง แล้วจะมี ปฏิบัติก่อน ถึงจะถึงปฏิเวธ ไว้ทำไม ไหนตอบให้ไอ้เรืองตายตาหลับทีซิ ทุกวันนี้ ยังตายตาไม่หลับเลย คิกๆๆ

cool
กำลังฟังเข้าใจสะสมปัญญาทันทีจะฟังไหมล่ะไม่พิสูจน์ไม่รู้น๊าเอ๊าาาาาของจริงต้องฟังจริงๆอย่ามโนว่าฟังคิคิคิ
:b32: :b32: :b32:


:b32: :b32: :b32:
ปัญญาเป็นเจตสิกเกิดดับพร้อมจิตทีละ1ขณะเริ่มต้นที่การฟัง
ไม่ใช่ปัญญาเกิดยาวนานหลายชั่วโมงนะคะนะมัวทำอะไรอยู่
ถ้าปัญญาแรกยังไม่ล้นมันก็ไม่ถึงปัญญาที่2และไม่ล้นไป3
ทุกอย่างเป็นไปตามลำดับตามเหตุตามปัจจัยบังคับไม่ได้
พอจะนึกออกไหมทุกอย่างบังคับเป็นไปตามการกระทำ
ทำเหตุไม่ตรงทางเกิดปัญญานั้นน่ะปัญญาก็เกิดไม่ได้
ฟังพระพุทธพจน์เพื่อรู้ตรงลักษณะเป็นปัจจุบันธรรม
:b32: :b32: :b2:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ก.ย. 2018, 00:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2166

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
cool
ทุกคำที่เขียนมาคือความจริงตรงปัจจุบัน
ที่พระพุทธเจ้ารอบรู้ครบถ้วนทุกคำ
ตัวเองไม่รู้แม้1คำตรงขณะไงคะ
แปลว่ามีกิเลสอาสาวะไหลครบ
:b32: :b32: :b32:

cool
ฟังเพื่อละไม่รู้ที่กำลังติดข้องต้องการอยากจะถึงนิพพานเร็ว
มันอิมพอสซิเบิ้ลแปลว่าทุกอย่างมีแล้วตามเหตุตามปัจจัย
ตถาคตทำได้แค่บอก/สาวกมีหน้าที่ฟังเพื่อปัญญาปรากฏ
ตนเองต้องคิดสิคะว่าเป็นสาวกแล้วทำไมไม่ทำฟังให้ตรง
:b12:
:b4: :b4:



ถ้าให้ฟัง แล้วจะมี ปฏิบัติก่อน ถึงจะถึงปฏิเวธ ไว้ทำไม ไหนตอบให้ไอ้เรืองตายตาหลับทีซิ ทุกวันนี้ ยังตายตาไม่หลับเลย คิกๆๆ

:b32: :b32: :b32:
ปัญญาเป็นเจตสิกเกิดดับพร้อมจิตทีละ1ขณะเริ่มต้นที่การฟัง
ไม่ใช่ปัญญาเกิดยาวนานหลายชั่วโมงนะคะนะมัวทำอะไรอยู่
ถ้าปัญญาแรกยังไม่ล้นมันก็ไม่ถึงปัญญาที่2และไม่ล้นไป3
ทุกอย่างเป็นไปตามลำดับตามเหตุตามปัจจัยบังคับไม่ได้
พอจะนึกออกไหมทุกอย่างบังคับเป็นไปตามการกระทำ
ทำเหตุไม่ตรงทางเกิดปัญญานั้นน่ะปัญญาก็เกิดไม่ได้
ฟังพระพุทธพจน์เพื่อรู้ตรงลักษณะเป็นปัจจุบันธรรม
:b32: :b32: :b2:


คุณยายโรสขา

จิตมีการเกิดดับพร้อมเจตสิก สืบต่อกันไปเป็น วิถีจิต สลับกะ วิถีมุตตจิต ด้วยค่ะ

อย่าลืมนะคะ



โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ก.ย. 2018, 05:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
cool
ทุกคำที่เขียนมาคือความจริงตรงปัจจุบัน
ที่พระพุทธเจ้ารอบรู้ครบถ้วนทุกคำ
ตัวเองไม่รู้แม้1คำตรงขณะไงคะ
แปลว่ามีกิเลสอาสาวะไหลครบ



ฟังเพื่อละไม่รู้ที่กำลังติดข้องต้องการอยากจะถึงนิพพานเร็ว
มันอิมพอสซิเบิ้ลแปลว่าทุกอย่างมีแล้วตามเหตุตามปัจจัย
ตถาคตทำได้แค่บอก/สาวกมีหน้าที่ฟังเพื่อปัญญาปรากฏ
ตนเองต้องคิดสิคะว่าเป็นสาวกแล้วทำไมไม่ทำฟังให้ตรง



ถ้าให้ฟัง แล้วจะมี ปฏิบัติก่อน ถึงจะถึงปฏิเวธ ไว้ทำไม ไหนตอบให้ไอ้เรืองตายตาหลับทีซิ ทุกวันนี้ ยังตายตาไม่หลับเลย คิกๆๆ

cool
กำลังฟังเข้าใจสะสมปัญญาทันทีจะฟังไหมล่ะไม่พิสูจน์ไม่รู้น๊าเอ๊าาาาาของจริงต้องฟังจริงๆอย่ามโนว่าฟังคิคิคิ



ฟังใคร ?

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ก.ย. 2018, 05:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โลกสวย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โลกสวย เขียน:
เม แนะนำนะคะ คุณลุงกรัชกาย

ไปเรียนพื้นฐานให้ดีๆ เสียก่อน

กล่าวมา ไม่สอดคล้องกะปริยัติ และพระธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดง

ไปเรียนพื้นฐานให้ดีก่อนนะคะ ว่า สมาธิมีองค์ธรรมอะไร มีเสี้ยนหนามยังไง

กัมฐาน40 กองนั่นน่ะ มีอะไรเป็นอารมณ์

วิปัสสนาน่ะ ไม่ได้มี ฌานเป็นอารมณ์

และก็ไปเรียนว่า สติปัฎฐานน่ะ 44 ปัพพะเนี่ย ใช้อะไรเป็นอารมณ์

จะได้ไม่มั่ว มั่ว ๆๆๆๆๆๆๆๆ ปนกันหมด

ไปเรียนซะนะคะ

อย่าปล่อยให้มั่วๆ ไปจนตายเรย

เม บอกให้นะคะ ว่าลุงมั่ว ลุงผิดมากไม่ตรงตามคำสอนพระพุทธองค์เรย

ลุงแก่แล้ว เม บอกด้วยเมตตานะ

อย่าดื้อมากนะคะ

ไปเรียนพื้นฐานเสียให้ดีๆก่อน ฐานไม่ดี สร้างตึกไปก็พังแหละ
เสียเวลาทั้งชีวิต ไปกะความคิด ความจำผิดๆของตัวเอง

อย่าดื้อนะคะ




พูดสะเห็นภาพฝอยขัดหม้อเลย :b2: ยุ่งนุงนังพันกันจนหาเงื่อนไม่เจอ

http://www.njdigital.net/upload/01-get- ... ool-sl.jpg


นั่นน่ะสิคะ เรื่องง่ายๆ
ลุงยังไม่เข้าใจ ยังจับต้นชนปลายไม่ได้ เรยพันกันมั่วไปหมด
เอาสมาธิ ไปปนมหาสติปัฎฐาน ไปปนกะวิปัสสนา มั่วยุ่งเหยิงไปหมด

สมาธิ แปลง่ายๆว่า ทรงไว้ซึ่งความสงบ

องค์ธรรมสำคัญ ของสมาธิ

คือ เอกคัคตาจิต ประกอบด้วยโสภณเจตสิก 59 ดวง

ไม่มี คันคอหนอ ๆๆๆๆๆ หรอกค่ะ

สมาธิไป คันคอหนอ ๆๆ ที่นี่วุ่นหนอ ๆๆๆๆ ที่นี่ขัดข้องหนอๆๆๆๆๆๆ

นั่นแหละสมาธิมั่วแหลกของลุง
แค่นี้ สมาธิลุงก็มั่วแหลก ไม่ตรงตามที่พระพุทธองค์ทรงแสดงแล้วแหละค่ะ






ผู้เรียนตำราโดยเฉพาะอภิธรรมนี่เขาแยกไว้ละเอียด จิตมีเป็นร้อยๆ เจตสิกกว่าครึ่งร้อย รูปแจกออกไปเกือบ 30 อิอิ ถ้าผู้เรียน เรียนเตลิดไปก็กลับบ้านเก่าไม่ถูก คือ ว่า เรียนแล้วคิดฟุ้งซ่านไปตามที่เขาจำแนกนั่น ว่า นั่นเท่านี้ นี่เท่านั้น ผสมกับนั่น ไม่ผสมกับนี่ นี่เกิดพร้อมกัน ดับพร้อมกัน มีอารมณ์เป็นอย่างเดียวกัน ไม่ใช่เรา เป็นสภาพธรรม ไปใหญ่เลย คิกๆๆ อย่างนี้เขาเรียกว่าเรียนแล้วนำมาใช้ประโยชน์กับชีวิตไม่เป็น
ที่เขาเรียนกันนั่น มันก็คนหัวโด่ๆ หรือชีวิตคนนั่นเอง
เรียนแล้วกลับมาที่เดิมได้ก็เป็นประโยชน์ต่อชีวิตตน ระดับต้น คือ ปริยัติ ยังยังไม่พอ ไปอีกต้องก้าวไปอีกก้าวหนึ่ง คือ ลงมือปฏิบัติ ลงมือทำให้รู้เห็นตามที่เรียนนั้น แต่ก็ไม่ต้องถึงกับนับจำนวนจิต จำนวนเจตสิก จำนวนรูปตามหนังสือนั้นหรอก ถ้าเล่นนับตามเขา ไม่วันคืนนับได้หรอก อิอิ เอาเพียงแค่รู้เท่าทันความรู้สึกนึกคิด กับ รู้เท่าทันการเคลื่อนไหวของร่างกาย ดูการทำงานของสองสิ่งนี้ให้ทันนะฮะ :b13:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ก.ย. 2018, 12:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2166

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
โลกสวย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โลกสวย เขียน:
เม แนะนำนะคะ คุณลุงกรัชกาย

ไปเรียนพื้นฐานให้ดีๆ เสียก่อน

กล่าวมา ไม่สอดคล้องกะปริยัติ และพระธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดง

ไปเรียนพื้นฐานให้ดีก่อนนะคะ ว่า สมาธิมีองค์ธรรมอะไร มีเสี้ยนหนามยังไง

กัมฐาน40 กองนั่นน่ะ มีอะไรเป็นอารมณ์

วิปัสสนาน่ะ ไม่ได้มี ฌานเป็นอารมณ์

และก็ไปเรียนว่า สติปัฎฐานน่ะ 44 ปัพพะเนี่ย ใช้อะไรเป็นอารมณ์

จะได้ไม่มั่ว มั่ว ๆๆๆๆๆๆๆๆ ปนกันหมด

ไปเรียนซะนะคะ

อย่าปล่อยให้มั่วๆ ไปจนตายเรย

เม บอกให้นะคะ ว่าลุงมั่ว ลุงผิดมากไม่ตรงตามคำสอนพระพุทธองค์เรย

ลุงแก่แล้ว เม บอกด้วยเมตตานะ

อย่าดื้อมากนะคะ

ไปเรียนพื้นฐานเสียให้ดีๆก่อน ฐานไม่ดี สร้างตึกไปก็พังแหละ
เสียเวลาทั้งชีวิต ไปกะความคิด ความจำผิดๆของตัวเอง

อย่าดื้อนะคะ




พูดสะเห็นภาพฝอยขัดหม้อเลย :b2: ยุ่งนุงนังพันกันจนหาเงื่อนไม่เจอ

http://www.njdigital.net/upload/01-get- ... ool-sl.jpg


นั่นน่ะสิคะ เรื่องง่ายๆ
ลุงยังไม่เข้าใจ ยังจับต้นชนปลายไม่ได้ เรยพันกันมั่วไปหมด
เอาสมาธิ ไปปนมหาสติปัฎฐาน ไปปนกะวิปัสสนา มั่วยุ่งเหยิงไปหมด

สมาธิ แปลง่ายๆว่า ทรงไว้ซึ่งความสงบ

องค์ธรรมสำคัญ ของสมาธิ

คือ เอกคัคตาจิต ประกอบด้วยโสภณเจตสิก 59 ดวง

ไม่มี คันคอหนอ ๆๆๆๆๆ หรอกค่ะ

สมาธิไป คันคอหนอ ๆๆ ที่นี่วุ่นหนอ ๆๆๆๆ ที่นี่ขัดข้องหนอๆๆๆๆๆๆ

นั่นแหละสมาธิมั่วแหลกของลุง
แค่นี้ สมาธิลุงก็มั่วแหลก ไม่ตรงตามที่พระพุทธองค์ทรงแสดงแล้วแหละค่ะ






ผู้เรียนตำราโดยเฉพาะอภิธรรมนี่เขาแยกไว้ละเอียด จิตมีเป็นร้อยๆ เจตสิกกว่าครึ่งร้อย รูปแจกออกไปเกือบ 30 อิอิ ถ้าผู้เรียน เรียนเตลิดไปก็กลับบ้านเก่าไม่ถูก คือ ว่า เรียนแล้วคิดฟุ้งซ่านไปตามที่เขาจำแนกนั่น ว่า นั่นเท่านี้ นี่เท่านั้น ผสมกับนั่น ไม่ผสมกับนี่ นี่เกิดพร้อมกัน ดับพร้อมกัน มีอารมณ์เป็นอย่างเดียวกัน ไม่ใช่เรา เป็นสภาพธรรม ไปใหญ่เลย คิกๆๆ อย่างนี้เขาเรียกว่าเรียนแล้วนำมาใช้ประโยชน์กับชีวิตไม่เป็น
ที่เขาเรียนกันนั่น มันก็คนหัวโด่ๆ หรือชีวิตคนนั่นเอง
เรียนแล้วกลับมาที่เดิมได้ก็เป็นประโยชน์ต่อชีวิตตน ระดับต้น คือ ปริยัติ ยังยังไม่พอ ไปอีกต้องก้าวไปอีกก้าวหนึ่ง คือ ลงมือปฏิบัติ ลงมือทำให้รู้เห็นตามที่เรียนนั้น แต่ก็ไม่ต้องถึงกับนับจำนวนจิต จำนวนเจตสิก จำนวนรูปตามหนังสือนั้นหรอก ถ้าเล่นนับตามเขา ไม่วันคืนนับได้หรอก อิอิ เอาเพียงแค่รู้เท่าทันความรู้สึกนึกคิด กับ รู้เท่าทันการเคลื่อนไหวของร่างกาย ดูการทำงานของสองสิ่งนี้ให้ทันนะฮะ :b13:


คุณลุงกรัชกายนี่แหละค่ะ

เป็นตัวอย่าง ของคนที่ไม่ได้เรียนพระอภิธรรม ไม่ได้ศึกษาพระไตรปิฎก
และปฎิบัติไม่เอาไหน

ไม่มีความรู้เรื่ององค์ธรรมของการการทำสมาธิ เอาเสียเรย

ดันไปเที่ยวสอนว่า ทำสมาธิไป คันคอหนอๆๆ ขัดข้องหนอๆๆ วุ่นวายหนอๆๆๆ
สมาธิหนอๆ วุ่นวายหนอ ขัดข้องหนอๆๆ มั่วแหลกหล่ะค่ะ

ปริยัติก็ไม่เป็น ปฎิบัติก็ผิดเพี้ยน ไม่ตรงตามคำที่พระศาสดาแสดงค่ะ

แถมยังมาแนะนำ จะให้กลับไปเป็นคน กลับบ้านเก่า

ไม่รู้ว่า พระพุทธองค์ ทรงรื้อเรือนเก่า ที่ช่างทำเรือนทำไว้ ทิ้งหมดนะจ๊ะ



โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ก.ย. 2018, 18:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โลกสวย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โลกสวย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โลกสวย เขียน:
เม แนะนำนะคะ คุณลุงกรัชกาย

ไปเรียนพื้นฐานให้ดีๆ เสียก่อน

กล่าวมา ไม่สอดคล้องกะปริยัติ และพระธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดง

ไปเรียนพื้นฐานให้ดีก่อนนะคะ ว่า สมาธิมีองค์ธรรมอะไร มีเสี้ยนหนามยังไง

กัมฐาน40 กองนั่นน่ะ มีอะไรเป็นอารมณ์

วิปัสสนาน่ะ ไม่ได้มี ฌานเป็นอารมณ์

และก็ไปเรียนว่า สติปัฎฐานน่ะ 44 ปัพพะเนี่ย ใช้อะไรเป็นอารมณ์

จะได้ไม่มั่ว มั่ว ๆๆๆๆๆๆๆๆ ปนกันหมด

ไปเรียนซะนะคะ

อย่าปล่อยให้มั่วๆ ไปจนตายเรย

เม บอกให้นะคะ ว่าลุงมั่ว ลุงผิดมากไม่ตรงตามคำสอนพระพุทธองค์เรย

ลุงแก่แล้ว เม บอกด้วยเมตตานะ

อย่าดื้อมากนะคะ

ไปเรียนพื้นฐานเสียให้ดีๆก่อน ฐานไม่ดี สร้างตึกไปก็พังแหละ
เสียเวลาทั้งชีวิต ไปกะความคิด ความจำผิดๆของตัวเอง

อย่าดื้อนะคะ




พูดสะเห็นภาพฝอยขัดหม้อเลย :b2: ยุ่งนุงนังพันกันจนหาเงื่อนไม่เจอ

http://www.njdigital.net/upload/01-get- ... ool-sl.jpg


นั่นน่ะสิคะ เรื่องง่ายๆ
ลุงยังไม่เข้าใจ ยังจับต้นชนปลายไม่ได้ เรยพันกันมั่วไปหมด
เอาสมาธิ ไปปนมหาสติปัฎฐาน ไปปนกะวิปัสสนา มั่วยุ่งเหยิงไปหมด

สมาธิ แปลง่ายๆว่า ทรงไว้ซึ่งความสงบ

องค์ธรรมสำคัญ ของสมาธิ

คือ เอกคัคตาจิต ประกอบด้วยโสภณเจตสิก 59 ดวง

ไม่มี คันคอหนอ ๆๆๆๆๆ หรอกค่ะ

สมาธิไป คันคอหนอ ๆๆ ที่นี่วุ่นหนอ ๆๆๆๆ ที่นี่ขัดข้องหนอๆๆๆๆๆๆ

นั่นแหละสมาธิมั่วแหลกของลุง
แค่นี้ สมาธิลุงก็มั่วแหลก ไม่ตรงตามที่พระพุทธองค์ทรงแสดงแล้วแหละค่ะ






ผู้เรียนตำราโดยเฉพาะอภิธรรมนี่เขาแยกไว้ละเอียด จิตมีเป็นร้อยๆ เจตสิกกว่าครึ่งร้อย รูปแจกออกไปเกือบ 30 อิอิ ถ้าผู้เรียน เรียนเตลิดไปก็กลับบ้านเก่าไม่ถูก คือ ว่า เรียนแล้วคิดฟุ้งซ่านไปตามที่เขาจำแนกนั่น ว่า นั่นเท่านี้ นี่เท่านั้น ผสมกับนั่น ไม่ผสมกับนี่ นี่เกิดพร้อมกัน ดับพร้อมกัน มีอารมณ์เป็นอย่างเดียวกัน ไม่ใช่เรา เป็นสภาพธรรม ไปใหญ่เลย คิกๆๆ อย่างนี้เขาเรียกว่าเรียนแล้วนำมาใช้ประโยชน์กับชีวิตไม่เป็น
ที่เขาเรียนกันนั่น มันก็คนหัวโด่ๆ หรือชีวิตคนนั่นเอง
เรียนแล้วกลับมาที่เดิมได้ก็เป็นประโยชน์ต่อชีวิตตน ระดับต้น คือ ปริยัติ ยังยังไม่พอ ไปอีกต้องก้าวไปอีกก้าวหนึ่ง คือ ลงมือปฏิบัติ ลงมือทำให้รู้เห็นตามที่เรียนนั้น แต่ก็ไม่ต้องถึงกับนับจำนวนจิต จำนวนเจตสิก จำนวนรูปตามหนังสือนั้นหรอก ถ้าเล่นนับตามเขา ไม่วันคืนนับได้หรอก อิอิ เอาเพียงแค่รู้เท่าทันความรู้สึกนึกคิด กับ รู้เท่าทันการเคลื่อนไหวของร่างกาย ดูการทำงานของสองสิ่งนี้ให้ทันนะฮะ :b13:


คุณลุงกรัชกายนี่แหละค่ะ

เป็นตัวอย่าง ของคนที่ไม่ได้เรียนพระอภิธรรม ไม่ได้ศึกษาพระไตรปิฎก
และปฎิบัติไม่เอาไหน

ไม่มีความรู้เรื่ององค์ธรรมของการการทำสมาธิ เอาเสียเรย

[color=#FF0000]ดันไปเที่ยวสอนว่า ทำสมาธิไป คันคอหนอๆๆ ขัดข้องหนอๆๆ วุ่นวายหนอๆๆๆ
สมาธิหนอๆ วุ่นวายหนอ ขัดข้องหนอๆๆ มั่วแหลกหล่ะค่ะ


ปริยัติก็ไม่เป็น ปฎิบัติก็ผิดเพี้ยน ไม่ตรงตามคำที่พระศาสดาแสดงค่ะ

แถมยังมาแนะนำ จะให้กลับไปเป็นคน กลับบ้านเก่า

ไม่รู้ว่า พระพุทธองค์ ทรงรื้อเรือนเก่า ที่ช่างทำเรือนทำไว้ ทิ้งหมดนะจ๊ะ

[/color]


นู๋เมของลุง ลุงไม่ได้พูดว่า สอนสมาธิให้มันคันคอ ทั้งที่นำตัวอย่างให้ดูทุกๆครั้งนะ มันคันของมันเอง คิกๆๆ

เอาใหม่นี่

อ้างคำพูด:
คือ ฝึกสมาธิเองมาตลอด มีหลายครั้งมากที่เกิดอาการแปลกๆกับตัวเอง เคยนั่งบริกรรมพุธ-โธไปเรื่อยๆ แล้วอยู่ดีๆก็รู้สึกว่าตัวเองตัวใหญ่มาก...และอีกอย่างที่สำคัญ เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ หลังจากบริกรรม ไปเรื่อยๆ จนรู้สึกนิ่งมาก เห็นตัวเองไม่ใช่ตัวเองคะ เห็นตัวเองเป็นผู้ชายคนหนึ่ง ตัดผมสั้น ใส่ชุดขาวทั้งชุด ภาพมันจะสลับกันไป คะ ระหว่างดิฉันกับผู้ชายคนนั้น และเห็นหลายวันมาก ทุกวันเป็นคนคนเดิมและคนเดียวกัน พอจะทราบไหมคะว่าเกิดอะไรขึ้น ดิฉันพยายามไม่สนใจคะ แต่ก็เห็นอยู่ดี


มันเป็นของมันเองตามเหตุปัจจัยของมัน (ไม่ใช่ของเรา) ของมัน เออ :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ก.ย. 2018, 18:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2166

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
โลกสวย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โลกสวย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โลกสวย เขียน:
เม แนะนำนะคะ คุณลุงกรัชกาย

ไปเรียนพื้นฐานให้ดีๆ เสียก่อน

กล่าวมา ไม่สอดคล้องกะปริยัติ และพระธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดง

ไปเรียนพื้นฐานให้ดีก่อนนะคะ ว่า สมาธิมีองค์ธรรมอะไร มีเสี้ยนหนามยังไง

กัมฐาน40 กองนั่นน่ะ มีอะไรเป็นอารมณ์

วิปัสสนาน่ะ ไม่ได้มี ฌานเป็นอารมณ์

และก็ไปเรียนว่า สติปัฎฐานน่ะ 44 ปัพพะเนี่ย ใช้อะไรเป็นอารมณ์

จะได้ไม่มั่ว มั่ว ๆๆๆๆๆๆๆๆ ปนกันหมด

ไปเรียนซะนะคะ

อย่าปล่อยให้มั่วๆ ไปจนตายเรย

เม บอกให้นะคะ ว่าลุงมั่ว ลุงผิดมากไม่ตรงตามคำสอนพระพุทธองค์เรย

ลุงแก่แล้ว เม บอกด้วยเมตตานะ

อย่าดื้อมากนะคะ

ไปเรียนพื้นฐานเสียให้ดีๆก่อน ฐานไม่ดี สร้างตึกไปก็พังแหละ
เสียเวลาทั้งชีวิต ไปกะความคิด ความจำผิดๆของตัวเอง

อย่าดื้อนะคะ




พูดสะเห็นภาพฝอยขัดหม้อเลย :b2: ยุ่งนุงนังพันกันจนหาเงื่อนไม่เจอ

http://www.njdigital.net/upload/01-get- ... ool-sl.jpg


นั่นน่ะสิคะ เรื่องง่ายๆ
ลุงยังไม่เข้าใจ ยังจับต้นชนปลายไม่ได้ เรยพันกันมั่วไปหมด
เอาสมาธิ ไปปนมหาสติปัฎฐาน ไปปนกะวิปัสสนา มั่วยุ่งเหยิงไปหมด

สมาธิ แปลง่ายๆว่า ทรงไว้ซึ่งความสงบ

องค์ธรรมสำคัญ ของสมาธิ

คือ เอกคัคตาจิต ประกอบด้วยโสภณเจตสิก 59 ดวง

ไม่มี คันคอหนอ ๆๆๆๆๆ หรอกค่ะ

สมาธิไป คันคอหนอ ๆๆ ที่นี่วุ่นหนอ ๆๆๆๆ ที่นี่ขัดข้องหนอๆๆๆๆๆๆ

นั่นแหละสมาธิมั่วแหลกของลุง
แค่นี้ สมาธิลุงก็มั่วแหลก ไม่ตรงตามที่พระพุทธองค์ทรงแสดงแล้วแหละค่ะ






ผู้เรียนตำราโดยเฉพาะอภิธรรมนี่เขาแยกไว้ละเอียด จิตมีเป็นร้อยๆ เจตสิกกว่าครึ่งร้อย รูปแจกออกไปเกือบ 30 อิอิ ถ้าผู้เรียน เรียนเตลิดไปก็กลับบ้านเก่าไม่ถูก คือ ว่า เรียนแล้วคิดฟุ้งซ่านไปตามที่เขาจำแนกนั่น ว่า นั่นเท่านี้ นี่เท่านั้น ผสมกับนั่น ไม่ผสมกับนี่ นี่เกิดพร้อมกัน ดับพร้อมกัน มีอารมณ์เป็นอย่างเดียวกัน ไม่ใช่เรา เป็นสภาพธรรม ไปใหญ่เลย คิกๆๆ อย่างนี้เขาเรียกว่าเรียนแล้วนำมาใช้ประโยชน์กับชีวิตไม่เป็น
ที่เขาเรียนกันนั่น มันก็คนหัวโด่ๆ หรือชีวิตคนนั่นเอง
เรียนแล้วกลับมาที่เดิมได้ก็เป็นประโยชน์ต่อชีวิตตน ระดับต้น คือ ปริยัติ ยังยังไม่พอ ไปอีกต้องก้าวไปอีกก้าวหนึ่ง คือ ลงมือปฏิบัติ ลงมือทำให้รู้เห็นตามที่เรียนนั้น แต่ก็ไม่ต้องถึงกับนับจำนวนจิต จำนวนเจตสิก จำนวนรูปตามหนังสือนั้นหรอก ถ้าเล่นนับตามเขา ไม่วันคืนนับได้หรอก อิอิ เอาเพียงแค่รู้เท่าทันความรู้สึกนึกคิด กับ รู้เท่าทันการเคลื่อนไหวของร่างกาย ดูการทำงานของสองสิ่งนี้ให้ทันนะฮะ :b13:


คุณลุงกรัชกายนี่แหละค่ะ

เป็นตัวอย่าง ของคนที่ไม่ได้เรียนพระอภิธรรม ไม่ได้ศึกษาพระไตรปิฎก
และปฎิบัติไม่เอาไหน

ไม่มีความรู้เรื่ององค์ธรรมของการการทำสมาธิ เอาเสียเรย

[color=#FF0000]ดันไปเที่ยวสอนว่า ทำสมาธิไป คันคอหนอๆๆ ขัดข้องหนอๆๆ วุ่นวายหนอๆๆๆ
สมาธิหนอๆ วุ่นวายหนอ ขัดข้องหนอๆๆ มั่วแหลกหล่ะค่ะ


ปริยัติก็ไม่เป็น ปฎิบัติก็ผิดเพี้ยน ไม่ตรงตามคำที่พระศาสดาแสดงค่ะ

แถมยังมาแนะนำ จะให้กลับไปเป็นคน กลับบ้านเก่า

ไม่รู้ว่า พระพุทธองค์ ทรงรื้อเรือนเก่า ที่ช่างทำเรือนทำไว้ ทิ้งหมดนะจ๊ะ

[/color]


นู๋เมของลุง ลุงไม่ได้พูดว่า สอนสมาธิให้มันคันคอ ทั้งที่นำตัวอย่างให้ดูทุกๆครั้งนะ มันคันของมันเอง คิกๆๆ

เอาใหม่นี่

อ้างคำพูด:
คือ ฝึกสมาธิเองมาตลอด มีหลายครั้งมากที่เกิดอาการแปลกๆกับตัวเอง เคยนั่งบริกรรมพุธ-โธไปเรื่อยๆ แล้วอยู่ดีๆก็รู้สึกว่าตัวเองตัวใหญ่มาก...และอีกอย่างที่สำคัญ เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ หลังจากบริกรรม ไปเรื่อยๆ จนรู้สึกนิ่งมาก เห็นตัวเองไม่ใช่ตัวเองคะ เห็นตัวเองเป็นผู้ชายคนหนึ่ง ตัดผมสั้น ใส่ชุดขาวทั้งชุด ภาพมันจะสลับกันไป คะ ระหว่างดิฉันกับผู้ชายคนนั้น และเห็นหลายวันมาก ทุกวันเป็นคนคนเดิมและคนเดียวกัน พอจะทราบไหมคะว่าเกิดอะไรขึ้น ดิฉันพยายามไม่สนใจคะ แต่ก็เห็นอยู่ดี


มันเป็นของมันเองตามเหตุปัจจัยของมัน (ไม่ใช่ของเรา) ของมัน เออ :b32:



ไปมั่วเอาบริกรรมภาวนามาอีก

นั่นเป็นอนุสติ กัมฐาน ค่ะ
ไม่ใช่สมาธิ

เฮ้อ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 41 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร